Share

บทที่ 36 ซื้อทาสเพิ่ม

last update Last Updated: 2025-03-04 22:39:56

เซี่ยซูเจี๋ยติดตามอาจารย์เพื่อศึกษาการเป็นหมอได้หนึ่งเดือนแล้ว ที่บ้านจึงเหลือเพียงเซี่ยห้าวไห่ เซี่ยซูเหยาและหลิวซิ่นที่ช่วยกันทำอาหารไปขาย เรื่องนี้กว่าเซี่ยซูเหยียนจะรู้ก็ผ่านไปหลายวันแล้วเพราะทุกคนยุ่งๆ อีกทั้งช่วงที่เข้าไปจะบอกเซี่ยซูเหยียนก็ติดเรียน

ทุกๆ เช้าทั้งสามคนกล่าวได้ว่าหัวหมุนกันมาก บางวันยังไม่ได้นอนก็ต้องทำอาหารไปขายแล้ว และด้วยความที่ทำอาหารขายติดต่อกันหลายวันเซี่ยซูเหยาจึงคิดที่จะซื้อทาสเพิ่ม

ไหนๆ พวกนางก็มีเงินที่ได้มาจากการช่วยคนบาดเจ็บแล้ว เซี่ยซูเหยาจึงต้องการที่จะสร้างบ้านหลังใหม่ อีกทั้งยังต้องการขยายบ้านให้มีห้องให้คนที่นางซื้อมาอยู่ เพราะยามนี้ในบ้านมีเพียงสี่ห้องนอน หากนางต้องการคนช่วยเพิ่มก็ต้องทำห้องเพิ่ม

เซี่ยซูเหยาวางไข่ไก่จำนวนห้าสิบสี่ฟองที่ไปเก็บมาลงบนแคร่ไม้ไผ่หลังบ้าน ตอนนี้ไก่ในเล้ามีมากกว่าเจ็ดสิบตัวแล้ว ทว่าออกไข่ได้เพียงสี่สิบตัวเท่านั้น ต้องรอให้มันโตกว่านี้ก่อน

“คุณหนูเจ้าคะ นายท่านกล่าวว่าให้คุณหนูเตรียมของให้หน่อย อีกสามวันนายท่านจะเข้าไปพบคุณชายใหญ่ที่สำนักศึกษาเจ้าค่ะ" หลิวซิ่นที่นั่งหั่นสมุนไพรหันมาบอกเซี่ยซูเหยา

นับวันคำพูดของพี่หลิวซิ่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 37 ข้าวไข่ตุ๋นผักที่เลื่องลือ

    "ร้านนี้หรือ" เจิ้งรั่วซาน เอ่ยถามองครักษ์คนสนิทที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวอย่างสงสัย เขาติดตามท่านตามายังชนบทที่ห่างไกลจากเมืองหลวง ไม่คิดว่าคนผู้นั้นจะโหดเหี้ยมถึงขนาดกล้าส่งนักฆ่ามาตามล่าเขา ทั้งๆ ที่เขาอยู่ในความดูแลของท่านแม่ทัพใหญ่เสวี่ยผู้เป็นท่านตา"ขอรับ บ่าวสอบถามองครักษ์ของคุณหนูเสวี่ยแล้ว อีกทั้งหลิวซิ่นคนรักของบ่าวก็อยู่ที่นี่" อวี้ชิงพยักหน้าพลางผินหน้าไปยังร้านขายอาหารของบ้านเซี่ยที่กำลังช่วยกันยกของลงจากเกวียนวัวหลังจากพวกเขาทั้งสองได้รับการช่วยเหลือและรักษาอาการบาดเจ็บจนหายดี อยู่ๆ นายน้อยก็นึกถึงครอบครัวได้ที่ช่วยชีวิตพวกเขา จนกระทั่งสอบถามองครักษ์เสวี่ยจึงรู้ว่าผู้ที่พวกเขาขอความช่วยเหลือคือผู้ใดครอบครัวสกุลเซี่ย แห่งหมู่บ้านหลี่ฮวนเป็นคนที่ช่วยเหลือพวกเขาเอาไว้ หลังจากส่งบุตรสาวมารักษาอาการพวกเขา เซี่ยห้าวไห่ผู้เป็นบิดาก็รีบเข้าเมืองไปติดต่อสกุลเสวี่ย และพวกเขาก็เพิ่งได้รับคำตอบว่าบุตรสาวคนเล็กของบ้านเซี่ย เป็นสหายสนิทของคุณหนูเสวี่ยจริงๆเจิ้งรั่วซานถอนหายใจออกมาอย่างไม่เข้าใจ ปีนี้เขาอายุสิบสี่แล้ว และรู้สึกเบื่อเมืองหลวงจึงขอติดตามท่านตามา

    Last Updated : 2025-03-05
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 38 ข้าวไข่เจียวกุ้ง

    เซี่ยซูเหยาได้บ่าวชายมาสองคน สาวใช้อีกสามคนตามที่นางวางแผนไว้ตั้งแต่แรก โดยคนที่นางซื้อตัวมามีพี่น้องอยู่สองคู่คู่แรกเป็นแฝดบุรุษนามว่าหม่าลี่ปิงและสตรีนามหม่าลี่หลิน ทั้งคู่ขายตัวเป็นทาสเพื่อเอาเงินไปทำศพให้บิดาและมารดาตั้งแต่อายุสิบเอ็ดหนาว ปัจจุบันทั้งคู่อายุยี่สิบเอ็ดแล้ว ก่อนจะกลายมาเป็นทาสอีกรอบ จวนที่ทั้งสองเคยทำงานอยู่เป็นจวนขุนนางก่อนจะถูกฮูหยินใหญ่ของจวนขายออกมาเพราะตัวของหม่าลี่หลินถึงจะไม่ได้งดงามแต่นางก็มีใบหน้าที่อ่อนหวาน ทำให้คุณชายของนางต้องการหม่าลี่หลินไปเป็นสาวใช้อุ่นเตียง ทว่าน่าเสียดายที่ฮูหยินใหญ่ชิงลงมือก่อนบุตรชาย ขายฝาแฝดชายหญิงสกุลหม่าออกจากจวนเนื่องจากสัญญาการซื้อขายทั้งคู่เป็นสัญญาฉบับเดียวกัน จึงทำให้ขายออกจากการเป็นทาสยาก และพอรู้ประวัติของทาสคู่นี้ก็มีหลายคนที่ไม่ต้องการ เซี่ยซูเหยาซื้อทั้งคู่มาในราคายี่สิบห้าตำลึงเงินคนที่สามเป็นบุรุษที่หน่วยก้านดีมาก ฟางไฉ่อายุยี่สิบห้า ทว่าเขาเคยเป็นหัวหน้าองครักษ์จวนขุนนางสกุลใหญ่มาก่อน และไม่มีประวัติว่าทำไมถึงโดนไล่ออก ทำให้หลายคนมองข้ามเขาไป ยกเว้นเซี่ยซูเหยาที่เห็นว่าเขาไม่ได้เลวร้ายจึงซื้อตัวมาในราคายี่สิบห้

    Last Updated : 2025-03-05
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 39 ไว้เจอกันใหม่นะ

    ได้ยินว่าชาวบ้านที่มาขอทำงานกับบ้านเซี่ยไปอาละวาดที่บ้านรองเซี่ย นางซือหลิงเกือบถูกหย่า! เพราะว่าช่วงนี้บ้านรองเซี่ยมีเรื่องที่น่าปวดหัวตลอด ทว่านางซือหลิงกลับหาเรื่องให้ไม่หยุดไม่หย่อน ดีที่เซี่ยหยุนหรงกลับบ้านมาพอดีไม่เช่นนั้นนางซือหลิงคงถูกหย่าไปแล้วตายยากจริงๆเซี่ยซูเหยารีบล้างหน้าแล้วเข้าไปช่วยทุกคนเตรียมของ ต้องบอกว่าตั้งแต่มีบ่าวชายและสาวใช้ นางตื่นสายมากจริงๆ จากที่เคยตื่นกลางยามโฉ่วก็ตื่นปลายยามอิ๋น หรือกล่าวได้ว่าของทั้งหมดถูกเตรียมพร้อมสำหรับออกไปขายอาหารแล้วเมื่อวานนางเพิ่งให้บิดาของนางกับฝาแฝดหม่าไปทำความสะอาดแผงตลาดที่เช่า พรุ่งนี้คาดว่าน่าจะสามารถนำอาหารกลับไปขายที่ตลาดเหวินเซ่อได้แล้วนางจะให้บิดาของนาง พี่หลิวซิ่นและฝาแฝดหม่าไปขายอาหารที่ตลาดเหวินเซ่อส่วนนาง ฟางไฉ่ สองพี่น้องมี่จะเข้าไปขายอาหารในอำเภอเพียงสี่คนเท่านั้น ซึ่งไม่มีอันใดให้น่าเป็นห่วงเลย เนื่องจากฟางไฉ่เป็นถึงอดีตหัวหน้าองครักษ์ เขาจึงมีฝีมือเก่งกาจพอสมควรในการใช้แรงงาน ส่วนมี่ถิงก็ขายอาหารได้คล่องแล้ว มี่ถงอาการเพิ่งจะดีขึ้นและตามมาขายอาหารได้เพียงสองวัน“อาเหยา!”เสียงตะโกนของเสวี่ยอ้ายทำให้เซี่ยซูเ

    Last Updated : 2025-03-06
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 40 ปิดตลาด

    เป็นไปตามที่เซี่ยซูเหยาคำนวณไว้จริงๆ พายุเข้าหลังทุกคนเข้านอนในวันถัดไป ช่วงยามที่ต้องเตรียมของไปขายก็เป็นช่วงที่หิมะตกหนัก เหล่าสาวใช้และบ่าวชายจึงย้ายจากบ้านพักเข้าไปที่บ้านใหญ่เซี่ยทันทีบ้านใหญ่เซี่ยหรือก็คือบ้านหลังใหม่ที่เป็นบ้านอิฐที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นและแข็งแรงมาก บุรุษหนุ่มอย่างฟางไฉ่ หม่าลี่ปิง และเจ้าบ้านอย่างเซี่ยห้าวไห่จึงคอยช่วยกันดูแลด้านนอกบ้าน ไม่ให้หิมะและน้ำเข้าไปในบ้านได้ และไม่ใช่เพียงบ้านใหญ่ บ้านพักของสาวใช้และบ่าวชายก็ช่วยกันไปกวาดหิมะลงจากหลังคาส่วนเหล่าสตรีอย่างหลิวซิ่น หม่าลี่หลิน และมี่ถิงช่วยกันหาผ้ามาอุดหน้าต่างไม่ให้ลมเข้ามาได้ ถึงจะเป็นบ้านใหม่ทว่าลมก็ยังสามารถลอดผ่านมาด้านในบ้านได้ เหล่าสาวใช้ทั้งสามจึงช่วยกันหาผ้ามาปิดหน้าต่างห้องของเซี่ยซูเหยากว่าเซี่ยซูเหยาจะรู้สึกตัวก็ยามที่พายุหิมะเข้ามาได้แล้วเกือบชั่วยาม นางรีบลุกขึ้นอย่างตกใจเพราะได้ยินเสียงดังด้านนอก ทว่าพอมองไปที่หน้าต่างภายในห้อง นางกลับเห็นผ้าหลายผืนที่แขวนบังไว้ ส่วนข้างๆ บนหัวเตียงของนางยังมีตะเกียงที่ส่องแสงสว่างให้เอ๊ะ!บริเวณใกล้หน้าประตูมีร่างของเด็กสาวที่คุ้นตานอนอยู่ เซี่ยซูเหยาชะ

    Last Updated : 2025-03-06
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 41 โง่งม

    กุ้งผัดซึงไฉ่ กุ้งคั่วเกี่ยมฉ่ายและกุ้งนึ่งถูกปรุงขึ้นด้วยฝีมือของเซี่ยซูเหยา หรืออันที่จริงอาหารที่เตรียมเอาไว้ก็เป็นฝีมือของนางทั้งหมด ซึ่งเซี่ยซูเหยียนไม่ได้ลิ้มรสฝีมือการทำอาหารของนางมาตั้งนาน และนางก็ไม่ได้ไปเจอพี่ชายเลย นางควรเป็นคนลงมือทำอาหารทั้งหมดเองถึงจะถูกวันนี้บ้านเซี่ยจะมีเพียงเซี่ยห้าวไห่ เซี่ยซูเหยา หลิวซิ่น และฟางไฉ่ที่บังคับเกวียนวัว เห็นทีนางคงต้องหาซื้อรถม้าเสียแล้วเพราะเกวียนวัวเดินทางลำบาก อีกทั้งยังน่าสงสารมากในแต่ละวันพวกนางบรรทุกอาหารเพื่อนำไปขายเป็นจำนวนมาก หากพวกนางยังทำแบบนี้ต่อไปเรี่อยๆ เห็นทีว่าวัวอาจจะตายเอาได้“ท่านพ่อ เสร็จแล้วเจ้าค่ะ” เซี่ยซูเหยาที่อาบน้ำเปลี่ยนชุดเสร็จก็ออกมาหาบิดาที่หน้าบ้านเซี่ยห้าวไห่กำชับสาวใช้และหม่าลี่ปิงที่ต้องอยู่ด้วยกันเพียงลำพังว่าห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้ามาในเขตบ้าน และสามารถจัดการผู้บุกรุกได้ทันทีหากไม่ใช่คนที่มากับพวกเขาเข้าไปในตัวเมืองเฟิงคราวนี้เซี่ยซูเหยาต้องการที่จะเข้าไปดูภายในตัวเมือง แน่นอนว่าเขาต้องไปลงทะเบียนพาลูกชายออกจากสำนักศึกษาด้วย“เสร็จแล้วหรือ พ่อกับคนที่เหลือยกอาหารแห้งขึ้นไปเก็บแล้ว เหลืออาหารที่หลิวซิ่น

    Last Updated : 2025-03-07
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 42 ในรอบหลายเดือน

    พอใกล้ถึงเวลาที่สำนักศึกษาจะปิดแล้ว เซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยาก็เดินเท้าไปยังสำนักศึกษา เพราะบริเวณนั้นไม่สามารถนำเกวียนวัวหรือพาหนะไปด้วยได้ ทางสำนักศึกษากล่าวว่าหากมีเสียงสัตว์รบกวน จะทำให้เหล่าศิษย์ไม่สามารถมีสมาธิอ่านหนังสือได้เซี่ยซูเหยาปล่อยให้หลิวซิ่นจัดการเสื้อผ้าและให้ฟางไฉ่ดูแลห้องพักทั้งสี่เอาไว้ นางจึงเดินมายังสำนักศึกษาที่ไม่ห่างไกลมากกับบิดาเพียงลำพังหน้าสำนักศึกษามีศิษย์หลายคนที่มายืนรอญาติและคนดูแลมารับออกไปด้านนอก บางคนก็รอรับของที่ถูกส่งมาให้ หากไม่ใช่คนในครอบครัวหรือคนที่มีตำแหน่งมาลงชื่อรับรอง ก็ยากที่จะพาคนออกมาได้เว้นก็แต่คุณหนู คุณชายของจวนใหญ่ต่างๆ ในเมืองเฟิง ก็จะได้รับคำอนุญาตพิเศษที่สามารถเข้าออกสำนักศึกษาได้ตลอดส่วนมากคนที่พักอยู่ในสำนักศึกษาล้วนเป็นลูกหลานของชาวบ้าน เหล่าคุณชายมีน้อยมากที่จะเข้ามาพักในสำนักศึกษาหากไม่มีเหตุการณ์เร่งด่วนยื่นเรื่องขอเข้าพบเซี่ยซูเหยียนและรอให้ทหารเฝ้ายามเข้าไปเรียกลูกชายมา เซี่ยห้าวไห่ก็ลงทะเบียนรับลูกชายออกจากสำนักศึกษาไม่ถึงหนึ่งเค่อเซี่ยซูเหยาก็เห็นเซี่ยซูเหยียนเดินออกมาพร้อมห่อผ้าหนึ่งห่อ นางยิ้มกว้างพลางตะโกนเรียก

    Last Updated : 2025-03-07
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 43 เหลาอาหาร

    ยามเฉินทุกคนก็ลงมานั่งรอที่ชั้นหนึ่งของโรงเตี๊ยม เพื่อรออาหารเช้าที่สั่งเอาไว้ และที่ด้านล่างของโรงเตี๊ยมก็คล้ายๆ กับเหลาอาหาร ที่สามารถสั่งอาหารรับประทานได้เซี่ยซูเหยาตื่นหลังคนอื่นนางจึงเดินลงมาทีหลังพร้อมกับหลิวซิ่นที่อยู่รอ เมื่อวานนี้นางไม่ได้พักเลยจึงตื่นสายมากกว่าปกติ“ท่านพ่อ”หลิวซิ่นเดินแยกไปนั่งอีกโต๊ะที่มีฟางไฉ่นั่งรออยู่ เซี่ยซูเหยาจึงนั่งลงเก้าอี้ที่ว่างข้างพี่ชาย อาหารเช้าของวันนี้เป็นอาหารที่สั่งจากโรงเตี๊ยมไม่กี่จาน ที่เหลือก็จะเป็นอาหารที่เตรียมมาจากบ้านและขออุ่นที่นี่“อาเหยาอยากไปเดินดูตลาดต่อหรือไม่” ตลาดยามเช้าและกลางคืนไม่เหมือนกัน เซี่ยห้าวไห่จึงต้องการให้ลูกสาวไปเดินดูอีกครั้ง“อยากเจ้าค่ะ!”“อืม”ทั้งสามลงมือรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนจะพากันออกมาเดินตลาด ครั้งนี้เกวียนวัวของบ้านก็ถูกบังคับตามหลังสามพ่อลูกบ้านเซี่ยที่ตั้งใจเดิน เพราะเซี่ยซูเหยาคิดว่าอาจต้องซื้อของเยอะ เลยให้เอาเกวียนวัวไปด้วยเซี่ยซูเหยามองสิ่งต่างๆ รอบตัวอย่างตื่นเต้น วันนี้นางมองเห็นอย่างเต็มตา ไม่ว่าจะเป็นโรงเตี๊ยมขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก เหลาอาหาร ร้านอาภรณ์ ร้านเครื่องประดับ

    Last Updated : 2025-03-08
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 44 ซื้อจวน

    “หนึ่งร้อยตำลึงทอง!”สิ้นเสียงเถ้าแก่เจ้าของเหลาอาหารขนาดเล็ก ทั้งห้าคนไม่เว้นแม้แต่เซี่ยซูเหยาก็แสดงสีหน้าตกใจออกมา หนึ่งร้อยตำลึงทองไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆ เลย ทว่าหากเทียบกับทำเลแล้ว ก็คุ้มค่าไม่น้อยหากได้มาครองเซี่ยซูเหยานับเงินที่นำมาในใจ ยามนี้พวกนางเหลือเงินเพียงเก้าสิบห้าตำลึงทองเท่านั้น หากต้องการซื้อเหลาอาหารนี้ก็ต้องกลับไปเอาเงินที่บ้านอีก แน่นอนว่านางอยากได้เหลาอาหารในราคาที่นางสามารถจ่ายได้“ท่านปู่ อาเหยาขอจ่ายเพียงเก้าสิบตำลึงทองได้หรือไม่เจ้าคะ” เซี่ยซูเหยาทำหน้าอ้อนมิน่าละ ป้ายที่ติดเอาไว้ว่าขายจึงดูเก่า คงเป็นเพราะเหลาอาหารมีขนาดเล็กและเก่า เถ้าแก่เจ้าของเหลาอาหารจึงไม่สามารถขายออกได้ในราคาที่สูงถึงจะเป็นที่ทำเลเหมาะสำหรับขายอาหาร ทว่ามันคงขายได้ไม่ถึงแปดสิบตำลึงทองแน่ๆ ทางเหลาอาหารขนาดใหญ่หรือใครก็ตามที่อยากได้เหลาอาหารนี้จึงไม่ยอมซื้อ และรอให้ที่นี่ลดราคาลงคงจะมาซื้อ“ที่นี่ข้าตั้งราคาไว้หนึ่งร้อยยี่สิบตำลึงทอง หลายปีมานี้ขายไม่ออกเลย ข้าจึงลดลงเหลือเพียงหนึ่งร้อยตำลึงทองเท่านั้น” เขาปฏิเสธแต่ก่อนเหลาอาหารนี้เคยมีชื่อเสียงมาก่อน ทว่าเขาไปมีปัญหากับเจ้าเมืองคนล่าสุ

    Last Updated : 2025-03-08

Latest chapter

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 55 เข้าวัง

    แม้ว่าจะมีทหารจากเมืองเวินหลายพันนายที่ตามคุ้มกันขบวนทว่าก็ยังมีนักฆ่าถูกส่งมาเรื่อยๆ บางวันก็มีโจรมาดักปล้นทั้งที่ไม่เคยมีมาก่อน จากที่หนึ่งเดือนควรจะเดินทางไปถึงเมืองหลวง ขบวนเดินทางก็ใช้เวลาเกือบห้าสิบวันเลยทีเดียว“พรุ่งนี้จะถึงเมืองหลวงแล้ว วันนี้ควรพักผ่อนให้เต็มที่ หรือหากอยากได้อะไรก็ให้องครักษ์ไปซื้อให้ ไม่อย่างนั้นก็ต้องนำองครักษ์ไปด้วยหลายนาย” แม่ทัพเสวี่ยที่ยืนอยู่ด้านหน้าเอ่ยบอกสองพี่น้องเมื่อท้องฟ้าใกล้มืดแม่ทัพเสวี่ยจึงตัดสินใจพักอยู่เมืองข้างๆ ก่อนเข้าเมืองหลวง อีกอย่างพวกเขาก็เร่งเดินทางมาตลอดสองวันยังไม่ได้พักผ่อน จึงตัดสินใจที่จะหยุดพักที่นี่และได้ส่งทหารเข้าไปแจ้งล่วงหน้าว่าใกล้ถึงแล้ว“อาเหยารับทราบแล้วเจ้าค่ะ”ระหว่างเดินทางมีหลายเมืองที่ต้องเดินผ่านและพักอยู่บริเวณทางเข้าเมือง เซี่ยซูเหยาชอบออกไปเดินเลือกซื้อของจนกระทั่งได้ซื้อรถม้าเพิ่ม แม้จะเป็นภาระในการเดินทางทว่ากลับไม่มีใครกล้าบ่น อีกอย่างก็เป็นเหล่าองครักษ์เสวี่ยที่ตามนางเข้าเมืองเป็นคนบอกให้เลือกซื้อ ทำให้ตลอดหนึ่งเดือนมานี้พวกนางสนิทกลับเหล่าองครักษ์มาก“พี่ใหญ่”เซี่ยซูเหยาเอ่ยเรียกพี่ชายที่นั่งเล่นหมา

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 54 สะกดรอยตาม

    กลางดึกเงียบสงัดทหารยามนับร้อยคนต่างผลัดเปลี่ยนเวรยามกับสหายเฝ้ายามแทนตน คบเพลิงถูกจุดล้อมรอบกระโจมที่พักของเหล่าคนในขบวนที่เดินร่วมทางกันมาเซี่ยซูเหยานอนบนรถม้าส่วนตัวของนางพร้อมสาวใช้อย่างหลิวซิ่นที่นอนอยู่ด้านนอกรถม้า และฟางไฉ่ที่นอนอยู่ด้านล่าง เพราะรถม้ามีขนาดเล็กทำให้ไม่สามารถที่จะนอนรวมกันได้หลายคน และเกรงว่าเด็กสาวจะนอนไม่สบายตัว หลิวซิ่นจึงอาสาที่จะนอนบนที่นั่งคนบังคับม้าไม่นอนพักในกระโจมเหมือนกับเหล่าทหารทว่าก็ไม่น่าเป็นห่วงมากนักพวกนางนำผ้าที่เย็บไว้ใช้งานขึงกั้นลม อีกทั้งยังหมดช่วงฤดูหนาวแล้วด้วย พอฟางไฉ่เห็นว่าคุณหนูและสาวใช้ที่เขาติดตามไม่ได้เข้าไปนอนพักในกระโจม ก็เลือกที่จะมานอนพักใต้รถม้าแทนข้างๆ กันก็ยังมีรถม้าของเซี่ยซูเหยียนที่กำลังนอนพักอยู่ รวมทั้งหม่าลี่ปิงและหม่าลี่หลิน ซึ่งแน่นอนว่ารถม้าทั้งสองอยู่ท่ามกลางกระโจมนับร้อยของทหารเซี่ยซูเหยาลืมตาขึ้นท่ามกลางความมืด ลางสังหรณ์บางอย่างที่บอกไม่ถูกเข้าเกาะกุมจิตใจ เสียงลมด้านนอกแทบจะไม่ได้ยิน จึงเอื้อมมือเลิกผ้าม่านบริเวณที่สาวใช้นอนพักอยู่เพื่อสะกิดนาง“คุณหนู”หลิวซิ่นงัวเงียลุกขึ้นนั่งเมื่อถูกปลุก เดินทางมาทั้งว

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 53 เดินทางไกล

    รถม้าโคลงเคลงไปตามทางขรุขระ เซี่ยซูเหยาไม่รู้ว่าพวกนางออกเดินทางมานานแค่ไหนแล้ว รู้เพียงว่าอีกไม่นานก็จะถึงเมืองข้างหน้า แม่ทัพเสวี่ยจึงส่งคนไปแจ้งท่านเจ้าเมือง เพื่อไม่ให้ชาวบ้านที่ได้พบตื่นตระหนกที่พบเจอกองทัพทหารนับพันนายเซี่ยซูเหยาเลิกผ้าม่านที่ถูกนำมาติดไว้ก่อนออกเดินทาง ด้านหน้าอีกไม่กี่ลี้ก็ถึงหน้าประตูเมือง ยามนี้แสงแดดก็เริ่มหมดแล้ว แม่ทัพเสวี่ยจึงต้องหาที่พักให้ทุกคนทหารและองครักษ์ที่ตามขบวนมีจำนวนหนึ่งพันนาย ทำให้ไม่สามารถเข้าพักในโรงเตี๊ยมได้ แม่ทัพเสวี่ยถึงจะเร่งการเดินทางแต่ว่าทหารก็ต้องหยุดพัก พรุ่งนี้เช้าค่อยออกเดินทางต่อ“หยุด!”“หยุดดดดด”เสียงตะโกนจากหน้าขบวนทำให้ม้าที่ขี่ตามกันมาหยุดวิ่งและตะโกนบอกกันเป็นทอดๆ บริเวณด้านหน้าเป็นพื้นหญ้าที่เหมาะสำหรับพักผ่อนยามกลางคืนของเหล่าทหารในขบวนเซี่ยซูเหยาเดินลงจากรถม้าหลังเห็นว่ามีหลายคนลงจากม้า เซี่ยซูเหยียนก็เดินตามน้องสาว ไม่นานสาวใช้อย่างหลิวซิ่นและหม่าลี่หลินก็เดินมาตามประกบ ทั้งหกคนจึงเดินไปที่หน้าขบวน เนื่องจากเพื่อป้องกันจากอันตราย รถม้าของเซี่ยซูเหยาจึงอยู่กลางขบวนที่ล้อมไปด้วยทหาร“ท่านแม่ทัพ”“อีกไม่นานแสงจะหมดแ

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 52 จัดการร้าน

    มีเวลาเพียงห้าวันในการจัดการร้าน เซี่ยซูเหยาจึงทำการปิดเหลาอาหารชั้นหนึ่งระหว่างที่นางสอนสาวใช้ทำอาหาร ส่วนชั้นสองของเหลาอาหารยังเปิดทำการปกติ เพราะลูกค้าจ่ายเงินไว้แล้ว เซี่ยซูเหยาจึงขายเพียงบนชั้นสองโชคดีที่อาหารบนชั้นสองขายเพียงสิบรายการเท่านั้น เซี่ยซูเหยาจึงใช้เวลาหลังเตรียมอาหารให้ลูกค้า สอนสาวใช้ในครัวทั้งห้าคน จริงๆ สาวใช้หรือก็คือแม่ครัวทำอาหารที่เหลาอาหารมีเพียงสามนาง ทว่าเซี่ยซูเหยาจะไม่อยู่ จึงให้อาซินและอาโหย่วสาวใช้ในจวนเข้ามาช่วยที่นี่แทนเซี่ยซูเหยาหยิบเนื้อหมูยื่นให้หลิวซิ่นจัดการหั่นเต๋าให้สาวใช้ที่เหลือดู เป็นการหั่นเต๋าที่มีขนาดพอดีคำ นางจะนำไปทำหมูตุ๋นน้ำตาล อาหารขึ้นชื่อของเหลาอาหาร อันที่จริงสาวใช้ก็รับรู้ขั้นตอนการทำบ้าง ทว่าวันนี้เซี่ยซูเหยาจะสอนอย่างละเอียด“หั่นชิ้นพอดีคำ และหนึ่งจานจะมียี่สิบชิ้นพอดี ห้ามขาดและห้ามเกิน” เซี่ยซูเหยาเน้นย้ำ เหลาอาหารของนางลูกค้าที่สั่งจะได้รับอาหารในปริมาณเท่าๆ กันและรายละเอียดจำนวนชิ้นต่อจานนางก็สั่งให้พี่ชายของนางเขียนให้ด้วย ถ้าขาดก็เป็นความผิดของเหลาอาหาร ทว่าหากเกินก็ไม่มีอะไรมาก“คุณหนูเจ้าคะ ทำไมเราต้องนับจำนวนชิ้นด้

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 51 ทายาทของท่านหญิง

    หลังจากให้คนส่งนางซือหลิงไปให้ทางการพร้อมทั้งแจ้งข้อหาของนางเสร็จ เซี่ยซูเหยาก็ยืนมองคนในบ้านรองเซี่ยที่ช่วยกันพัดให้ย่าเซี่ย นางทำเพียงมองนิ่งๆ เท่านั้น“เจ้าหมายความว่ายังไงที่ย่าสามีของข้าเคยเป็นทาสมาก่อน”เซี่ยซูเหยามองสตรีที่ถามนางอย่างใช้ความคิด นางไม่คุ้นสตรีตรงหน้าทว่าก็คงเป็นสะใภ้คนเล็กของย่าเซี่ย และวันที่นางแต่งเข้าบ้านรองบ้านหลักเซี่ยก็ไม่ได้เข้าร่วม“ไม่ลองถามบิดาของสามีท่านดู” สตรีนางนี้ยังไม่เคยทำอะไรให้นาง เซี่ยซูเหยาจึงยอมพูดคุยด้วยพลางมองไปยังปู่เซี่ยที่เริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้าและแผ่นหลัง เรื่องนี้มีเพียงไม่กี่คนและแต่ละคนก็ล้วนเสียชีวิตแทบจะหมดแล้ว!เซี่ยซูเหยารู้ได้อย่างไร หรือปู่ของนางเป็นคนบอก ทว่าปู่เซี่ยไม่กล้าสอบถามและไม่กล้าพูด ถ้าเขาตอบก็หมายความว่าเขายกทาสเป็นภรรยาจริงๆ! ถึงจะได้สัญญาทาสคืนแล้วก็ตาม สีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของปู่เซี่ย ช่างทำให้เซี่ยซูเหยาอารมณ์ดีเสียจริง“หึๆ เดี๋ยวข้าจะส่งคนไปบอกเซี่ยหยุนหรงให้นะเจ้าคะ ว่ามารดาของเขาถูกจับส่งทางการไปแล้ว” นางทิ้งท้ายให้คนบ้านรองเซี่ยร้อนรน เพราะทุกคนคาดหวังในตัวเขามาก ซึ่งเซี่ยซูเหยาก็ไม่ได้จะส่งคนไ

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 50 สกุลเซี่ยถึงคราวแตกหัก

    เซี่ยซูเหยามองใบหน้าที่ซีดเซียวของบิดา ผ่านไปไม่ถึงชั่วยามเซี่ยห้าวไห่ที่หลับไปด้วยฤทธิ์ยาก็รู้สึกตัว นางที่หลับไปไม่นานก็ถูกปลุกด้วยฝีมือของพี่มี่ถิง“ท่านพ่อ”ตามร่างกายของบิดามีผ้าพันแผลพันรอบกาย ไม่ต้องพูดก็สามารถรับรู้ได้ว่าบิดาของนางถูกทำร้ายอย่างหนัก นางรีบนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง“แค่กๆ อาเหยา” เซี่ยห้าวไห่ต้องการลุกขึ้นนั่ง จึงถูกมี่ถิงที่ยืนรออยู่ช่วยประคองดวงตากลมโตคลอไปด้วยหยาดน้ำตาเมื่อเห็นบิดาได้รับบาดเจ็บมากกว่าที่คิด ภายในอกราวกับถูกบดขยี้ด้วยอะไรสักอย่าง เป็นนางที่ชะล่าใจเกินไปที่คิดว่าบิดาของนางเก่ง จึงไม่ได้ส่งคนมาเฝ้าที่จวน“ท่านพ่อเจ็บมากหรือไม่เจ้าคะ”กลิ่นสมุนไพรคละคลุ้งไปทั่วห้องนอนของบิดา เป็นกลิ่นที่พวกนางคุ้นเคยกันดี เซี่ยซูเหยาหยิบถ้วยกระเบื้องเคลือบราคาแพงที่นางซื้อกลับมาด้วยให้บิดาจิบน้ำอุ่นที่นางสั่งให้ต้มเอาไว้“ขอบคุณอาเหยา”ภายในห้องมีเพียงเซี่ยซูเหยา เซี่ยห้าวไห่ และมี่ถิงเท่านั้น หม่าลี่หลินขอกลับไปดูอาการของพี่ชาย ส่วนแม่ทัพเสวี่ยกล่าวว่าเซี่ยห้าวไห่คงอยากคุยกับบุตรสาวมากกว่า“ท่านพ่อรู้หรือไม่เจ้าคะว่าเป็นผู้ใดที่ทำร้ายท่าน” มองดูบาดแผลแล้วคนร้า

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 49 เป็นห่วง

    “เมื่อครู่เจ้าว่าอันใดนะ!”มือที่กำลังหยิบผลไม้เข้าปากชะงักค้าง ใบหน้าเล็กรีบหันไปมองฟางไฉ่ที่เอ่ยรายงาน เมื่อวานบิดาของนางไม่ได้นำของมาส่ง เซี่ยซูเหยาจึงต้องให้เขาไปดู“นายท่านถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บขอรับ! โชคดีที่ท่านแม่ทัพเสวี่ยไปหาที่บ้านพอดี จึงได้รับการช่วยเหลือจากหมอหลวง” ฟางไฉ่พยักหน้าเมื่อทวนคำพูดจบเซี่ยซูเหยามองพี่ชายที่หน้าซีดเผือด นางเองก็มีอาการไม่ต่างกันเพียงแต่นางมีสติมากกว่า อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้และบิดาของนางก็เตือนเอาไว้แล้วทว่าคนเป็นลูกอย่างพวกนางเมื่อได้รับข่าวก็ต้องกลับไป! นางพยักหน้าให้ฟางไฉ่ออกจากห้องโถง ส่วนนางหันกลับมาหาพี่ชายที่หยุดรับประทารอาหารมื้อเย็นแล้ว“ท่านพ่อ ท่านพ่อจะเป็นอะไรมากหรือไม่” เซี่ยซูเหยียนพึมพำเซี่ยอยู่เหยานั่งนิ่งอย่างใช้ความคิด พรุ่งนี้ที่ร้านนางต้องทำอาหารให้ห้องบนชั้นสองไม่มากและมีทำอาหารเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย เห็นทีคงต้องกลับไปหาบิดา นางไม่เชื่อว่าจะเป็นการทำร้ายร่างกายธรรมดา“พรุ่งนี้หลังทำอาหารให้ลูกค้าบนชั้นสองเสร็จ อาเหยาจะกลับบ้านเจ้าค่ะ”“พี่ไปด้วย!”“ไม่ได้เจ้าค่ะ พี่ชายมีทดสอบสำคัญไม่ใช่หรือเจ้าคะ” เซี่ยซูเหยารีบปฏิเสธ ก่อนหน

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 48 ท่านหญิงหมิงเมี่ยวผิง

    กว่าท่านแม่ทัพใหญ่เสวี่ยจะรู้สึกตัวก็ผ่านไปเป็นเดือนแล้ว และกว่าจะตอบสนองได้ก็ราวๆ สองเดือน เรื่องนี้มีเพียงขุนนางคนสำคัญที่รับรู้ ไม่เช่นนั้นวังหลวงคงปั่นป่วนแล้วท่านแม่ทัพใหญ่เสวี่ยเดินวนด้านหน้าตำหนักทรงอักษรขององค์ฮ่องเต้ ถึงจะยังไม่หายดีทว่าเรื่องราวที่รับรู้มาก็สำคัญยิ่ง! คนที่ช่วยชีวิตหลานชายคนเล็กของเขามาจากสกุลเซี่ย เซี่ยห้าวไห่! หลายปีก่อนเขาเป็นคนพาท่านหญิงหมิงเมี่ยวผิงหลบหนีไปโชคช่างไม่เข้าข้างท่านแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นหนานมากนักเมื่อองค์ฮ่องเต้ที่มาขอเข้าเฝ้ายังไม่ทรงงาน เวลานี้เห็นว่ายังไม่ออกจากตำหนักของฮองเฮาที่เสด็จไปหาตั้งแต่เมื่อคืน“ท่านพ่อ นั่งก่อนหรือไม่ขอรับ”แม่ทัพเสวี่ยที่ตามมาเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง บิดาของเขาเพิ่งลุกขึ้นมาได้ก็ฝืนร่างกายมาที่วังหลวงแล้ว แม้ว่าตัวเขาอาสาจะมาให้แทนก็ไม่ยอมท่านแม่ทัพใหญ่เสวี่ยส่ายหน้า จริงๆ ขันทีหน้าตำหนักก็เชิญให้เข้าไปนั่งรอด้านในแล้ว ทว่าฝ่าบาทไม่อยู่ ถึงเขาจะมีศักดิ์เป็นลุงของอีกฝ่ายก็ไม่ควรทำตัวไม่เหมาะสม“ฮ่องเต้เสด็จจจจจ”เวลาผ่านไปเพียงหนึ่งก้านธูป เสียงขานแหลมสูงของขันทีหน้าขบวนเสด็จของฮ่องเต้หมิงหลงอันก็ดังขึ้นมา บรรดานา

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 47 เกลือเป็นหนอน

    เพราะชื่อเสียงข้าวไข่ตุ๋นของบ้านเซี่ย ทำให้เหลาอาหารขนาดเล็กที่ปรับปรุงขึ้นใหม่และใช้ชื่อว่าเหลาอาหารเซี่ย ได้มีโอกาสได้ต้อนรับลูกค้าอย่างล้นหลาม เหลาอาหารเปิดตัวได้เพียงหนึ่งเดือนทว่าห้องอาหารส่วนตัวที่มีเพียงสองห้อง ก็ถูกจองยาวเกือบสามร้อยชื่อแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าการจองที่ว่าก็ไม่ได้จองปากเปล่าชั้นสองของเหลาอาหารเซี่ยมีสองห้อง เซี่ยซูเหยาจึงรับลูกค้าเพียงสองชื่อต่อวันเท่านั้น และการจองของนางก็ต่างจากคนอื่น เพราะผู้ที่จองต้องเป็นหนึ่งในคนที่เข้าใช้งาน ลงชื่อจองว่ามากี่คน รับอาหารรายการไหนบ้าง และต้องมัดจำไว้ครึ่งหนึ่งของราคาอาหารหากมีจำนวนคนเพิ่มและอาหารเพิ่ม เมื่อถึงวันนั้นก็ต้องจ่ายเพิ่มเป็นสองเท่า เพราะข้อตกลงนี้ลูกค้าได้อ่านแล้ว ซึ่งใครที่คิดว่าเหลาอาหารเอาเปรียบก็ไม่สามารถจองได้ปัญหาต่างๆ แทบไม่มีเลย หรืออันที่จริงมีหลายคนรู้มาว่านางเป็นสหายของหลานสาวท่านแม่ทัพใหญ่เสวี่ยจึงไม่กล้าหาเรื่องแน่นอนว่าพอเป็นเหลาอาหารแล้วเซี่ยซูเหยาก็เพิ่มราคาอาหารขึ้นเป็นเท่าตัว อย่างข้าวไข่ตุ๋นที่ราคาไม่ถึงร้อยอีแปะ เซี่ยซูเหยาก็เพิ่มเป็นถ้วยละหนึ่งตำลึงเงิน! ซึ่งนางต้องขนผัก ขนกุ้งมาจากบ้าน ราคาจะ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status