แชร์

บทที่ 27 ลืมกำพืด

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-25 22:17:51

ทาสสาวที่เซี่ยซูเหยาซื้อมามีนามว่า หลิวซิ่น นางเป็นบุตรสาวคนโตของพ่อค้าตลาดคล้าย ๆ ร้านขายอาหารของบ้านเซี่ย ทว่านางโชคร้ายกว่าเซี่ยซูเหยามาก เนื่องจากมารดาของหลิวซิ่นต้องการลูกสะใภ้ที่มาจากสกุลหนึ่งในหมู่บ้าน เงินเก็บในบ้านก็ส่วนหนึ่ง ทว่าเงินแต่งลูกสะใภ้นั้นถูกแยกเตรียมไว้ตั้งแต่แรกแล้ว

สินสอดที่มารดาของหลิวซิ่นต้องให้ฝ่ายหญิงคือสองตำลึงทองและของมีค่าอื่น ๆ ทว่าเงินเก็บสำหรับแต่งสะใภ้มีเพียงหนึ่งตำลึงทองกว่า ๆ เท่านั้น! ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่พอที่จะแต่งสะใภ้

หลิวซิ่นเป็นหญิงสาวที่เรียกได้ว่าหน้าตาดีผู้หนึ่ง นางเก่งงานบ้านงานเรือนมาก หลายปีก่อนนางได้หมั้นหมายกับคนรักในหมู่บ้าน ทว่าเขาเข้าร่วมกองทัพไปหลายปีแล้ว

จนกระทั่งยามนี้ยังไม่กลับมา มีหลายคนบอกว่าเขาอาจตายไปแล้ว ทว่าหลิวซิ่นไม่ยอมฟังนางจึงครองตัวเป็นหญิงที่ไม่แต่งงาน เรื่องนี้ทำเอามารดาของนางโมโหมาก ชีวิตของนางจึงเลวร้ายลงเรื่อย ๆ

ยิ่งพอมาถึงวันที่ต้องแต่งน้องสะใภ้เข้าบ้าน หลิวซิ่นที่ยังรอคนรักกลับมาแต่งงานก็ถูกมารดาขายให้พ่อค้าทาส เนื่องจากมารดาของหลิวซิ่นไปถามครอบครัวของฝ่ายชายแล้วว่าจะเอาอย่างไร ทางนั้นก็ทำเป็นไม่รู้และรอให้คนรัก
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 28 ซื้อที่ดินเพิ่ม

    พอมีคนช่วยเพิ่ม กำลังการทำอาหารของบ้านเซี่ยก็เพิ่มขึ้นมาก และเซี่ยซูเหยาก็ให้บิดาสร้างเตาดินเผาใกล้ ๆ หลังบ้านของพวกนางหลายจุด เห็นได้ชัดว่าเตาดินเผาพวกนี้เซี่ยซูเหยาต้องการใช้ทำอาหารเซี่ยซูเหยาสั่งช่างตีเหล็กตีหม้อนึ่งใบใหญ่ให้สองใบ ราคาอยู่ที่ใบละห้าตำลึงเงิน มันสามารถนึ่งข้าวไข่ตุ๋นได้เป็นยี่สิบถ้วย สำหรับเซี่ยซูเหยาแล้วมันคุ้มค่ามาก อีกทั้งยังสั่งตีใบเล็กที่นึ่งได้เพียงสี่ถึงห้าถ้วยอีกสิบหม้อ ราคาอยู่ที่หม้อละหนึ่งตำลึงเงิน รวมทั้งหมดที่จ่ายไปก็เป็นเงินจำนวนยี่สิบตำลึงเงิน ถือว่าเป็นเงินก้อนของบ้านเซี่ยเลยทว่าการค้าขายคือการลงทุน หากนางไม่ยอมเสี่ยงผลที่ได้ก็คือย่ำอยู่ที่เดิม ไม่ก็ไม่สามารถพัฒนาไปอีกได้ และที่สำคัญเซี่ยซูเหยายังมีแผนการเก็บเอาไว้อีกมาก ด้วยฐานะที่ยากจน นางจึงต้องการเพิ่มฐานะให้มั่นคง!“ท่านพ่อเจ้าคะ อาเหยาว่าเราควรซื้อที่ดินเพิ่ม เอาไว้ปลูกผักที่นำมาทำข้าวไข่ตุ๋น เลี้ยงไก่ เลี้ยงสัตว์ชนิดอื่น ๆ ด้วยเจ้าค่ะ” เซี่ยซูเหยาเอ่ยบอกบิดาหลังนับเงินเสร็จยามนี้พวกนางนั่งอยู่ด้วยกันเพียงสามคน ส่วนพี่หลิวซิ่นซักผ้าของพวกนางอยู่ อันที่จริงพวกนางไม่ต้องการให้พี่หลิวซิ่นทำเลย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-25
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 29 ขายอาหารเพียงลำพัง

    ทุกคนตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อทำอาหารไปขาย อีกทั้งวันนี้เซี่ยห้าวไห่ก็ป่วย เนื่องจากเมื่อวานตากฝนกลับมาจากป่า ทำให้ยามนี้เหลือเพียงสองสาวและหนึ่งเด็กหญิงที่ต้องช่วยกันทำโชคดีที่เซี่ยห้าวไห่สอนหลิวซิ่นบังคับเกวียนวัวเพราะนางขอ ทำให้พวกนางสามารถนำของเข้าไปขายในอำเภอได้ ที่สำคัญยามนี้ตลาดเหวินเซ่อกลับมาแทบจะเป็นปกติแล้ว ทว่าที่บ้านเซี่ยไม่นำอาหารไปขายที่นี่ก็เพราะขายได้น้อย ทั้งยังมีคนลอกเลียนแบบอาหารของพวกนางอยู่ไม่ใช่ว่าเซี่ยซูเหยาไม่อยากนำอาหารไปขายในตลาดเหวินเซ่อ ทว่านางต้องคว้าโอกาสที่ใหญ่และรอให้นางมีกำลังเพิ่มขึ้นก่อนถึงจะกลับไปขายในตลาดอีกครั้ง และไม่กลัวว่าจะโดยแย่งแผงตลาดเนื่องจากพวกนางจ่ายค่าเช่าตลอด“วันนี้มีปลาอบสมุนไพรด้วยนะเจ้าคะ!”เซี่ยซูเหยาตะโกนเรียกลูกค้าด้วยรอยยิ้ม วันนี้เป็นวันแรกที่นางนำปลาย่างมาขาย หากนำมาย่างที่ตลาดเลยคงจะดีไม่น้อย เพราะกลิ่นมันจะหอมมากกว่า และเป็นเพียงการทดลองขาย เพราะหากนางขายแบบจริงจังจะนำมาย่างที่หน้าร้าน“ปลาอบสมุนไพรหรือ! คล้าย ๆ ไก่ย่างสมุนไพรหรือไม่”“ใช่เจ้าค่ะท่านตา เพียงแต่อาเหยาเปลี่ยนจากไก่มาเป็นปลาแทน” เซี่ยซูเหยาเอ่ยตอบลูกค้าประจำอย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-25
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 30 อยากเป็นหมอ

    ถอนหญ้าทั้งห้าหมู่ใช้เวลาเพียงสามวันเท่านั้น เนื่องจากบิดาของพวกนางเข้ามาช่วย และเขาก็ทำงานพวกนี้ถนัดอยู่แล้วจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่งานจะเดินหน้าทุก ๆ วันยังนำอาหารเข้าไปขายเหมือนเดิม ทว่าจากที่เคยขายอาหารสองอย่างก็เพิ่มเป็นสามอย่าง นั่นก็คือข้าวไข่ตุ๋น ปลาอบสมุนไพรวันละสิบตัว และรายการอาหารเพิ่มเติมที่แล้วแต่จะทำในวันนั้น“ล่าเจียว เถียนเจียว ซื่อจื่อเจียว อยู่ตรงนี้นะเจ้าคะ อย่าเอาไปผสมกับชนิดอื่น” เซี่ยซูเหยาชี้ไปยังเม็ดล่าเจียว ทั้งหมดมีอยู่สามสายพันธุ์วันนี้พวกนางเพิ่งทำแปลงผักและต้องปล่อยทิ้งไว้หลายวันค่อยมาลงผัก เซี่ยซูเหยาซื้อเมล็ดพันธุ์มาหลายชนิด อันไหนที่สามารถแบ่งปลูกได้นางก็จะเริ่มปลูกใส่แปลงผักเก่าก่อนอย่างเฉียจื่อ โต่วเจี่ยว เสี่ยวหวงกวา ซือกวา หรือพวกที่ไม่สามารถย้ายแปลงผักได้เซี่ยซูเหยาก็แยกที่ปลูกเอาไว้ นางมีเมล็ดผักมากกว่ายี่สิบชนิดที่จะนำมาปลูก ไหนจะพวกสมุนไพรหรือวัตถุดิบหลัก ๆ ที่พวกนางใช้ทำอาหารอีกต้องบอกว่าการที่จะปลูกผักแปลงใหญ่นางต้องการจะล้อมรั้วที่ดินทั้งห้าหมู่ที่ซื้อมาและสองหมู่ที่มีอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าเล้าไก่นางก็ต้องการจะสร้าง จึงยอมกัดฟันจ้างช่างไม้ในอำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-25
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 31 ได้รับบาดเจ็บ

    " target="_blank">วันนี้บ้านเซี่ยหยุดขายอาหารหนึ่งวันเพราะเซี่ยซูเหยาเห็นว่าทุกคนเหนื่อยกันมาหลายวันแล้ว พวกนางไม่มีวันหยุดที่ชัดเจนจึงสามารถกำหนดวันหยุดเองได้ โชคดีที่ยามนี้การค้าขายของพวกนางเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว หากเกินยามเหม่าไม่เจอพวกนางที่แผงตลาดก็ให้คิดว่าพวกนางไม่มาแล้ว นี่คือสิ่งที่นางบอกลูกค้าไปหยุดค้าขายหนึ่งวันทว่าทุกคนก็ยังมีหน้าที่ของตัวเองอยู่ นั่นก็คือการทำงานบ้าน ส่วนเซี่ยห้าวไห่จะเข้าป่าไปจับปลาและกุ้งเหมือนเดิม เซี่ยซูเหยาจึงขอติดตามไปด้วยต่อให้อ่อนล้าจากการขายอาหาร ทว่าเซี่ยซูเหยาก็อยากเข้าไปดูในป่าว่าพอจะมีอะไรให้เอามาขายหรือไม่ ยิ่งเป็นผลไม้อย่างพวกเซียงเจียว เฉ่าเหมย หรือผูเถานางยิ่งต้องการจำนวนมาก นางจะนำมาทำแยม“อาเหยาอยากพักไม่ใช่หรือ? พี่สาวว่าอย่าไปเลยนะ” เซี่ยซูเจี๋ยเอ่ยรั้งน้องสาวที่จะติดตามบิดาเข้าป่า นางต้องอยู่ช่วยพี่หลิวซิ่นทำงานบ้าน จึงไม่ต้องการตามบิดาเข้าป่า ทว่าน้องสาวของนางกลับไม่ใช่“เผื่ออาเหยาได้ของกินกลับมาด้วยเจ้าค่ะ” เซี่ยซูเหยาส่ายหน้าเบา ๆ ตอบพี่สาว พลางตรวจสอบตะกร้าว่าเอาของที่ควรเอาไปครบหรือยัง“นั่นก็จริง แต่อาเหยาจะไม่ได้พักเลยนะ”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-02
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 32 ช่วยเหลือ

    เซี่ยซูเหยาถูกทิ้งไว้กับคนแปลกหน้าเพราะเซี่ยห้าวไห่ต้องไปรับเซี่ยซูเจี๋ยมาที่นี่อย่างรวดเร็ว เวลาไม่อาจรอช้าและถึงเขาจะเป็นห่วงลูกสาวทว่าเป็นเซี่ยซูเหยาที่บอกให้บิดารีบไปรับพี่สาวมา เพราะหากมีนางไปด้วยคงใช้เวลานานกว่านี้เจ้าเสี่ยวเฮยก็ถูกทิ้งไว้ที่นี่เช่นเดียวกัน อีกอย่างคนทั้งสองก็ได้รับบาดเจ็บหนักทำให้เซี่ยห้าวไห่วางใจ พอบิดาออกไปรับพี่สาว เซี่ยซูเหยาถึงมีเวลาสำรวจห้องใต้ดินของที่นี่“นายน้อยท่านอดทนไว้ก่อนนะขอรับ! ข้าจะรีบไปตามท่านแม่ทัพเสวี่ยให้มาช่วยเหลือท่าน” ชายแปลกหน้ากล่าวกับคุณชายของเขาอย่างร้อนรน ต่อให้เก่งกาจเพียงไหนทว่าก็ยังเป็นเพียงเด็กชายเซี่ยซูเหยารีบหันกลับไปมองเมื่อได้ยินว่าแม่ทัพเสวี่ย แม่ทัพเสวี่ยที่ว่าจะใช้ครอบครัวของเสวี่ยอ้ายหรือเปล่านะ ทว่าคนแปลกหน้าผู้นี้คงเป็นองครักษ์และเขาก็ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน“ท่านพักก่อนหรือไม่เจ้าคะ? หากออกไปยามนี้คงไม่พ้นชายป่า” เซี่ยซูเหยาเอ่ยอย่างใจเย็น นางไม่รู้ว่าพวกเขาจะทนได้นานแค่ไหน ขอเพียงบิดาของนางพาพี่สาวมาถึง อย่างน้อยก็คงรักษาอาการเบื้องหน้าได้ก่อนคนแปลกหน้าหันมามองนางอย่างระแวง เซี่ยซูเหยาเลิกคิ้วอย่างสงสัย พอเป็นบิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-02
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 33 ของมารดา

    เซี่ยซูเจี๋ยไม่กล้าที่จะพาน้องสาวและสาวใช้กลับไปที่บ้านยามนี้ คาดว่าคงยามซวีแล้วพวกนางไม่มีทางเลือกจึงได้เอาข้าวไข่ตุ๋นผักป้อนคนป่วยไปก่อน เพราะทั้งสองต้องดื่มยาอีกทั้งหลิวซิ่นก็ถูกสั่งให้ขึ้นไปรอด้านบนหากคนอื่นที่ไม่ใช่บิดากลับมาพวกนางจะได้ตั้งตัวทัน เหมือนกับว่าที่นี่จะเคยเป็นหลุมหลบภัยที่เซี่ยซูเหยาลองเดิน ๆ และกดไปตรงที่นางสงสัย เพราะมันมีบริเวณหนึ่งหากผลักเข้าไปมันจะมีห้องว่างสามารถนั่งได้เกือบห้าคน“ท่านพ่อคงใกล้กลับมาแล้ว” เซี่ยซูเหยาเอ่ยกับพี่สาวที่เลือกสมุนไพรอยู่“อืม แม้พี่จะห้ามเลือดแล้วแต่คนก็น่าเป็นห่วงอยู่ดี” พวกนางไม่ได้รู้จักวิธีรักษากันขนาดนั้น เพียงแค่เลือดหยุดไหลก็ดีมากแล้ว“พี่หลิวซิ่นคนผู้นั้นคือคนรักพี่หรือ” คราวนี้เซี่ยซูเจี๋ยหันไปถามพี่หลิวซิ่นที่เดินลงมา“เจ้าค่ะ”ด้านนอกมันมืดมากหลิวซิ่นจึงเดินลงมาอยู่กับเหล่าคุณหนู นางได้พูดคุยกับพี่อวี้ชิงแล้ว ทว่าเขายังไม่สามารถกลับไปที่บ้านได้ยามนี้ เพราะต้องดูแลความปลอดภัยของคุณชายน้อยผู้นั้นก่อน“หากพี่หลิวซิ่นอยากตามเขาไปก็ให้เขามาไถ่ตัวเถิดเจ้าค่ะ”แม้จะพูดคุยกันไปแล้วว่าต้องทำงานอย่างน้อยหนึ่งปี ทว่าดูเหมือนคนที่ชื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-03
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 34 สถานะที่แท้จริง

    เสียงหัวเราะของเหล่าสตรีท่ามกลางสระบัวที่งดงาม มวลบุปผาเปร่งประกาย เสียงหยอกล้อของท่านหญิงเมี่ยวผิง พระธิดาองค์เล็กขององค์รัชทายาทแห่งแคว้นหนานและพระชายาเอก กับเหล่านางกำนัลประจำวังบูรพาใบหน้าแม้วัยเพียงสิบห้าหนาวทว่าส่อแววงดงามล่มบ้านล่มเมือง แม่สื่อของจวนเหล่าขุนนางต่างตบเท้าเข้ามาภายในวังบรูพาไม่เว้นวัน ทว่าองค์รัชทายาทรักและหวงธิดาองค์เล็กที่สุด ทำให้นางยังไม่มีคู่หมั้นหมาย‘พี่ลี่หลินข้าอยากไปดูสวนผักแล้ว!’ ท่านหญิงเมี่ยวผิงเอ่ยเรียกพี่เลี้ยงของนางด้วยใบหน้าบูดบึ้ง‘แต่ท่านหญิงเพคะ พระชายาทรงรับสั่งให้ท่านหญิงวาดภาพรออยู่ที่นี่’ ลี่หลิน นางกำนัลพี่เลี้ยงเอ่ยด้วยสีหน้าไม่สู้ดีองค์รัชทายาทและพระชายาต่างเข้าร่วมงานเลี้ยงในวังทว่าท่านหญิงเกิดอาการภูมิแพ้ ทำให้นางไม่สามารถตามเสด็จพ่อเสด็จแม่เข้าร่วมงานเลี้ยงได้ ด้วยพระชายาทรงรู้ฤทธิ์พระธิดาองค์เล็ก จึงสั่งให้นางกำนัลดูแลลูกสาวและให้วาดภาพรอที่นี่‘ท่านหญิงอยู่ที่ใด!’ท่านหญิงเมี่ยวผิงยังไม่ทันได้ตอบนางกำนัลพี่เลี้ยงชะงัก นางหันไปมองทิศทางของเสียง ด้านนอกวังบูรพามีเสียงการต่อสู้เกิดขึ้น องครักษ์ประจำวังบรูพากรูเข้ามาปกป้องท่านหญิง บา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-03
  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 35 ฝากตัวเป็นศิษย์

    เซี่ยซูเจี๋ย เซี่ยซูเหยาเดินนำท่านหมอเทวาดาหญิงไปยังที่บ้านเซี่ย ต่อให้เซี่ยซูเจี๋ยอยากฝากตัวเป็นศิษย์มากเพียงใด ทว่าการตัดสินใจขึ้นอยู่กับบิดา และเป็นท่านหมอเทวดาหญิงเองที่ต้องการพบเซี่ยห้าวไห่ ด้านหลังยังมีชาวบ้านอีกกลุ่มใหญ่ที่ตามมาดู“ท่าน!”ทันทีที่เซี่ยห้าวไห่เห็นผู้มาใหม่เขาก็ร้องขึ้นอย่างตกใจ หลายปีที่ผ่านมาคนผู้นี้ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลย“เจ้าจำข้าได้สินะ” หมอเทวดาหญิงกล่าวยิ้มๆ ใต้ผ้าคลุมผืนบาง พลางเดินไปใกล้กับเซี่ยห้าวไห่ที่นั่งอยู่บนแคร่ไม้ไผ่“ขอรับ”เซี่ยห้าวไห่มองท่านหมอเทวดาหญิงอย่างอึ้งๆ พลางหันไปมองลูกสาวคนโตเป็นระยะ ความทรงจำครั้งนั้นที่เคยลืมเลือนไปแล้วย้อนกลับมาอีกครั้ง‘จำเอาไว้ว่าบุตรของพวกเจ้าจะเติบโตได้ก็ต่อเมื่อต้องแยกย้ายกันเท่านั้น หนึ่งหมอผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง หนึ่งท่านแม่ทัพผู้องอาจ และหนึ่งสตรีผู้มาเพื่อช่วยเหลือครอบครัว’ ท่านหมอเทวดาหญิงในอดีตเคยกล่าวเอาไว้เมื่อช่วยเหลือเขาและภรรยาจากเหล่านักฆ่า“หนึ่งหมอ หนึ่งแม่ทัพ และหนึ่งความช่วยเหลือของครอบครัว ที่ข้ามาในวันนี้เพื่อมารับลูกศิษย์ ในอดีตมีคนผู้หนึ่งที่ปฏิเสธข้า ทว่าวันนี้ทายาทของนางยังอยู่”ท่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-04

บทล่าสุด

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 80 ตราบชั่วนิรันดร์

    เช้าวันนี้ในเมืองหลวงแคว้นหนานมีการถกเถียงเรื่องเมื่อหลายปีก่อนของคนสกุลเจิ้ง ว่ากันว่าวันนั้นภรรยาทั้งสามคนของอดีตเสนาบดีเจิ้งที่ล่วงลับไปแล้วคลอดบุตรพร้อมกันหนึ่งฮูหยินใหญ่ภรรยาเอกของเสนาบดีเจิ้งคลอดบุตรชายออกมาเป็นคนที่สอง บุตรชายของนางจึงกลายเป็นคุณชายรองไปโดยปริยาย หากไม่เกิดเรื่องถูกไล่ออกจากสกุลครานั้นคงได้ขึ้นเป็นเสนาบดีเจิ้งคนปัจจุบัน แทนพี่ชายที่เป็นบุตรอนุสองฮูหยินรองที่คลอดบุตรสาวคนเล็กพร้อมเสียชีวิตลงระหว่างคลอดบุตรสาวออกมา จากการสอบถามหมอที่ทำคลอด หมอผู้นั้นกล่าวว่าฮูหยินรองเสียเลือดมาก อีกทั้งเด็กขาดอากาศหายใจจึงไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้สามคืออนุสามที่คลอดบุตรชายคนโตของสกุลเจิ้งก่อนฮูหยินทั้งสอง กล่าวได้ง่ายๆ ก็คือคุณชายใหญ่เจิ้ง หรือประมุขสกุลเจิ้งคนปัจจุบันนั่นเองทว่าเรื่องที่ถกเถียงในวันนี้ก็คือบุตรชายของฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้งนั้นเป็นบุตรชายแท้ๆ ของฮูหยินรอง! ส่วนบุตรแท้ๆ ของนางนั้นเป็นบุตรสาวที่คลอดออกมาแล้วเสียชีวิต หมอทำคลอดกล่าวว่าฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้งในยามนั้นเสียเลือดมากและไม่มีโอกาสที่จะมีบุตรได้อีก จึงทำการสลับเปลี่ยนตัวเด็กทั้งยังสังหารฮูหยินรองทิ้ง ซึ่งเรื่องนี

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 79 ง้อ

    ซื่อจื่อหมิงซูเหยียนที่กำลังช่วยสหายสะสางฎีกาต้องรีบกลับตำหนักบูรพาทันทีเมื่อได้ยินว่าน้องสาวมีใบหน้าเศร้าหมองมาจากจวนสกุลเจิ้ง พอๆ กับผู้เป็นสามีอย่างรองแม่ทัพเจิ้งที่ตามพี่ภรรยาไปด้วยตำหนักบูรพาเดิมทีเป็นตำหนักขององค์รัชทายาทที่จะได้รับตำแหน่งฮ่องเต้องค์ถัดไป ทว่าฮ่องเต้หมิงหลงอันกลับไม่ยอมให้องค์รัชทายาทเข้าไปอยู่และสร้างตำหนักใหม่ให้แทน ในระหว่างนี้องค์รัชทายาทก็ต้องอยู่ในตำหนักเดิมของพระองค์ไปก่อนส่วนตำหนักบูรพาถูกยกให้เป็นจวนสกุลเซี่ยที่มีรองแม่ทัพเซี่ยเป็นประมุขสกุล ซึ่งองค์รัชทายาทไม่มีปัญหาในเรื่องนี้เพราะหากเขายอมรับตำหนักใหม่ยังสามารถเลือกได้ว่าต้องการตำหนักแบบใด และเรื่องนี้เหล่าขุนนางก็ไม่มีผู้ใดคัดค้าน อาจเป็นเพราะแต่ละคนล้วนเป็นขุนนางที่ขึ้นตรงต่อฮ่องเต้หมิงหลงอันเพียงผู้เดียวก็ได้ยิ่งยามนี้จวนสกุลเซี่ยเพิ่งถูกองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่สั่งทุบไป และจะสร้างเป็นสวนดอกไม้เพื่อรำลึกถึงคนที่เสียชีวิตแทน ทำให้สามพี่น้องไม่ได้ย้ายไปพักที่นี่ อีกอย่างความทรงจำต่างๆ คงไม่ดีสำหรับผู้รอดชีวิตในวันนั้นรองแม่ทัพเจิ้งกระโดดลงจากรถม้าด้วยความเร่งรีบ เมื่อสอบถามนางกำนั

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 78 ย่าสามีหรือ ข้าไม่ต้องการ

    เสียงการเคลื่อนไหวที่ข้างนอกห้องนอนทำให้เซี่ยซูเหยารู้สึกตัวตื่นขึ้นบนที่นอน ตั้งแต่แต่งงานมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ วันนี้นางตื่นสายมากๆ ได้ยินว่าวันนี้ฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้งกลับมาจากเยี่ยมบุตรชายที่นอกเมืองหลวง นางผู้เป็นหลานสะใภ้จึงต้องไปยกน้ำชาเพื่อแสดงความเคารพสักหน่อย“องค์หญิง”“ยามใดแล้ว” เสียงแหบพร่าเอ่ยถามคนสนิทที่เข้ามาช่วยพยุงตัวให้ลุกขึ้น ทั้งยังยกอ่างล้างหน้ามาให้ผู้เป็นฮูหยินน้อยสกุลเจิ้งหมาดๆ นางพยักหน้า“ยามซื่อแล้วเพคะ ท่านเขยกล่าวว่าไม่ต้องปลุกท่าน บ่าวจึงรอให้ท่านตื่นเอง”“ยามซื่อ!”สามวันมานี้เหลาอาหารอิ้งเยว่เกิดเรื่องขึ้น นางจึงต้องจัดการปัญหาต่างๆ จะให้สามีจัดการให้ก็ไม่ได้ เขาไม่รู้เรื่องในเหลาอาหารทั้งยังมีเพียงนางที่แก้ปัญหาได้ จึงต้องนอนดึกและตื่นเช้ามาตลอดสามวัน เพียงทว่าเมื่อคืนนางคงจะเหนื่อยจริงๆ จึงหลับลึกมากชนิดที่ว่าคนข้างกายลุกไปก็ยังไม่รู้สึกตัว“เพคะ”“เขาล่ะ” นางหมายถึงสามีของนางที่ไม่เห็นหน้าเมื่อตื่นนอน“ท่านเขยออกไปพบองค์รัชทายาทเพคะ ได้ยินว่าพระองค์ป่วยหนักหลังจากถูกฝ่าบาททิ้งงานไว้ให้หลายวัน” หลิวซิ่นกล่าวยิ้มๆ อย่างขบขัน เมื่อองค์รัชทายาทถูกบิดาและบรรด

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 77 งานมงคล

    วันที่สิบเจ็ด เดือนสอง รัชศกหมิงปีที่ยี่สิบเอ็ด แคว้นหนานมีงานมงคลครั้งใหญ่โดยมีฮ่องเต้หมิงหลงอันเป็นญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง หรือก็คือองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่ ที่สมรสกับรองแม่ทัพเจิ้งรั่วซาน คุณชายรองเจิ้งแห่งสกุลเจิ้งแม้จะมีเสียงกล่าวว่าไม่เหมาะสมบ้าง แต่ใครจะสนกันล่ะ องค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ผู้เป็นพี่สาวไม่ปราถนาที่จะแต่งงานเร็วๆ นี้ ทั้งได้ยินว่านางจะออกบวชชีที่อารามนอกเมือง หากรอพี่สาวแต่งงาน องค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่ผู้เป็นน้องสาวก็คงไม่ได้แต่งงานแล้วชีวิตนี้ฮ่องเต้หมิงหลงอันมีราชโองการให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่แต่งให้รองแม่ทัพเจิ้งรั่วซาน โดยที่ไม่ต้องลดบรรดาศักดิ์เชื้อพระวงศ์หญิงอันดับหนึ่ง ยังเป็นองค์หญิงเจิ้นกั๋วเช่นเดิม ไม่ต้องกล่าวก็รู้ว่าเป็นคนโปรดเพียงใด ขนาดองค์หญิงรอง องค์หญิงสี่ที่แต่งไปกับเชื้อพระวงศ์แคว้นอื่นยังต้องลดบรรดาศักดิ์ลงเลยเสียงสนทนาเบาๆ ดังขึ้นที่หน้าห้องแต่งตัวของผู้เป็นเจ้าสาว ทำให้เซี่ยซูเหยาที่แต่งตัวอยู่อดที่จะมองดูไม่ได้ เมื่อได้ยินว่าคนสนิทของนางเดินทางมาถึงแล้ว“องค์หญิง”“ฟางไฉ่!”ฟางไฉ

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 76 สมรสพระราชทาน

    เสียงหัวเราะท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบสร้างความสุขให้แก่นางกำนัลและองครักษ์ในตำหนักบูรพาเป็นอย่างยิ่ง ทั้งอากาศยังเย็นสบาย“ได้ยินมาว่าพี่หญิงถูกชินอ๋องแคว้นหลิงตามเกี้ยวหรือขอรับ” ซื่อจื่อหมิงซูเหยียนที่นั่งตรงข้ามกล่าวถามองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ชะงักมือที่ยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบ ริมฝีปากบางยกยิ้มเล็กน้อย หวนนึกถึงคนผู้หนึ่งที่ตามเกี้ยวมาตลอดห้าปีอย่างขบขัน“อืม”“พี่หญิงยังไม่ใจอ่อนให้เขาอีกหรือเจ้าคะ” เซี่ยซูเหยาผู้นั่งข้างๆ พี่สาวเอ่ยถามบ้าง“ใจอ่อนอันใด นางมาปรึกษาข้าว่าอยากบวชชีอยู่เลย”แค่กๆหลายคนถึงกับน้ำพุ่งออกจากปากเมื่อได้ยินคุณหนูเจ็ดเย่กล่าว ทั้งยังหันมององค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ที่นั่งจิบน้ำชาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวเป็นตาเดียว“ฮ่าๆ เหตุใดสีหน้าพวกเจ้าจึงเป็นเช่นนั้น” นางเพียงอยากบวชชีก็เท่านั้นเองเซี่ยซูเหยามองพี่สาวอย่างอึ้งๆ หลายปีที่ผ่านมาชินอ๋องผู้นั้นยังพิชิตใจพี่หญิงของนางไม่ได้อีกหรือ นางคิดว่าเขาจะตามเกี้ยวพี่สาวจนยอมตกลงแล้วเสียอีก“แล้วชินอ๋องแคว้นหลิงเล่า”“ชินอ๋องผู้นนั้นหรือ พี่ไล่เขากลับแคว้นหลิงแล้ว เชื้อพระวงศ์สองแคว้นควรเกี่ยวดอง

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 75 พี่น้องพบหน้า

    ต้นไม้สั่นไหวไปตามสายลมที่พัดมาเอื่อย ๆ บนเนินเขาเต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้อยู่ไม่ห่างจากเมืองหลวงมาก ทั้งยังเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน ทั่วทั้งเนินเขาไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ เพราะเป็นพื้นที่ขององค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่ที่ได้รับพระราชทานมาในยามที่ได้รับตำแหน่งองค์หญิงเจิ้นกั๋วม้าสองตัวถูกบังคับตามกันขึ้นไปยังเนินเขาที่มีเหล่าองครักษ์รออยู่ตีนเขา เสียงหัวเราะของสองพี่น้องช่างทำให้ฟางไฉ่และผู้ที่ติดตามมาตั้งแต่เมืองเฟิงยิ้มกว้าง หลายปีที่ผ่านมาองค์หญิงของพวกเขาร่าเริงเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนก็จริงทว่าโดดเดี่ยวนักเมื่ออยู่เพียงลำพังเด็กหนุ่มเด็กสาวที่เคยเรียกว่าคุณชาย คุณหนู ยามนี้กลายเป็นองค์หญิงและซื่อจื่อกันหมดแล้ว ยิ่งแต่ละคนเติบโตการมีบรรดาศักดิ์ยิ่งแตกต่างกันมากขึ้นองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ผู้เป็นพี่สาวคนโต ยามนี้มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือนั่นก็คือการเป็นศิษย์ของหมอเทวดาหญิง ทั้งยังมีชื่อเรียกว่าองค์หญิงเทพธิดาจากการช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากจน กลับมาหาน้องสาวเพียงปีละครั้งเท่านั้นซื่อจื่อหมิงซูเหยียนพี่ชายคนรองที่อีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะได้รับบรรดาศักดิ์อ๋องและยามนี้เ

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 74 งานเลี้ยงฉลองชัยชนะ

    ท้องฟ้าเริ่มมืด รถม้าของจวนขุนนางต่างทยอยจอดที่หน้าประตูวังเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง ยิ่งงานเลี้ยงครั้งนี้อนุญาตให้นำบุตรอนุเข้าร่วมได้ ผู้คนจึงเยอะมากเป็นพิเศษ หากเป็นที่ถูกใจของเชื้อพระวงศ์อย่างน้อยก็อาจได้เป็นสนมเซี่ยซูเหยาก้าวลงรถม้าเมื่อถึงเวลาที่ควรเข้าไปด้านใน อาภรณ์ที่สวมใส่ล้วนเป็นสีแดงที่หมายถึงมงคล กลับปักหลายหงส์ที่ไม่ควรจะสวมใส่ เสด็จลุงเป็นผู้ส่งอาภรณ์นี้ให้นางเพื่องานนี้โดยเฉพาะ แม้ตัวนางจะไม่เห็นด้วยเนื่องจากหงส์เป็นสัญลักษณ์ของฮองเฮาที่เคียงคู่มังกร ทว่าก็ถูกลี่กงกงเอ่ยขอร้อง มิเช่นนั้นจะถูกเสด็จลุงโทษนางจึงยอมเมินเหล่าคุณหนูสกุลใหญ่ที่มองมาอย่างอยากรู้อยากเห็น ก้าวเท้าตามลี่กงกงที่นั่งเฝ้านางแต่งตัวเพื่อไปหาเสด็จลุง อันที่จริงนางควรจะเข้าไปในงานเลยด้วยซ้ำ เพียงแต่เสด็จลุงของนางกล่าวว่าให้ไปหาก่อนเสียงซุบซิบที่พอเห็นว่านางเหลือบมองก็เงียบลง เซี่ยซูเหยาถอนหายใจ หมายมั่นว่าหลังจากจบงานเลี้ยงนี้นางจะไม่ยอมใส่ชุดหงส์ที่เสด็จลุงส่งมาให้แน่“หลานรักมาแล้วหรือ”เซี่ยซูเหยามองฮ่องเต้หมิงหลงอันที่ให้นางกำนัลสวมชุดให้อย่างเบื่อหน่าย หลายปีมานี้นางสนิทกับเสด็จลุงและเสด็

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 73 ห้าวสันต์ที่พ้นผ่าน

    วันที่สิบสาม เดือนสอง รัชศกหมิงปีที่สิบห้า สกุลเย่เป็นหนึ่งในกบฎเมื่อหลายปีก่อน ฮ่องเต้หมิงหลงอันมีราชโองการประหารเจ็ดชั่วโคตรโทษฐานกบฏ ละเว้นคุณหนูหกเย่ คุณหนูเจ็ดเย่ ที่สร้างชื่อเสียงให้แคว้นในการแข่งขันที่ผ่านมา ทว่าถูกกักตัวภายในคุก ส่วนคุณชายสี่เย่ไม่ได้รับการละเว้น บุรุษสกุลเย่ไม่สามารถสอบขุนนางได้อีกตลอดชีวิต รวมถึงสตรีที่ไม่สามารถเข้าวังเป็นพระสนมได้เย่ฮองเฮาคบชู้สู่ชายสวมหมวกเขียวให้ฝ่าบาทจนมีองค์ชายเจ็ด ปลดออกจากตำแหน่งฮองเฮา พระราชทานผ้าแพรขาว รวมถึงพระราชทานยาพิษให้แก่องค์ชายน้อยให้เป็นเยี่ยงอย่างของพระสนม ว่าหากคบชู้จะถูกลงโทษอย่างไร องค์หญิงใหญ่ถูกกักบริเวณภายในตำหนักจนกว่าจะมีการสืบสวนว่าเกี่ยวข้องหรือไม่บ้านรองสกุลเซี่ยถูกราชโองการประหารโทษฐานสร้างความเสื่อมเสียให้แก่แคว้นหนานในขณะที่มีแคว้นพันธมิตรอยู่ในแคว้น ทั้งยังลอบทำร้ายองครักษ์ของฮ่องเต้หมิงหลงอันที่เป็นบิดาขององค์หญิงเจิ้นกั๋วทั้งสองจนถึงแก่ความตายวันที่สิบห้า เดือนสอง รัชศกหมิงปีที่สิบห้ามีราชโองการประกาศรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับสกุลเย่ ขุนนางที่เกี่ยวข้องล้วนต้องโทษประหาร บุรุษในสกุลถูกส่งไปเป็นทาสนอกเมืองหล

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 72 โทษประหาร

    เสียงกระทบกันของโลหะบ่งบอกว่ามีคนเปิดประตูคุก ฝีเท้าหลายคู่เดินตามทางที่ทอดยาวไปยังห้องขังใต้ดิน คบเพลิงถูกจุดตามกรงขังเป็นระยะๆ เพื่อให้แสงสว่างแก่ทางเดิน ห้องขังที่เต็มไปด้วยน้ำขังถูกสนิมกัดเซาะชวนให้อาเจียนกลิ่นอับชื้นตีขึ้นคละคลุ้งไปทั่วจมูก เซี่ยซูเหยารีบใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดจมูกเอาไว้ รีบก้าวเท้าตามองครักษ์ที่ถูกส่งมาเปิดห้องขังในยามวิกาล ด้านหลังมีคนติดตามมาอีกหลายคน วันนี้นางมายังคุกคุมขังนักโทษที่บังอาจก่อเรื่องในวันงาน‘ปล่อยข้านะ!’‘หยุนหรง! เพราะเจ้า เป็นเพราะเจ้าคนเดียว!’‘ท่านพ่อ!’‘ข้ากลัว ฮืออ’‘แม่เจ้าก็เข้าคุกไปแล้ว! ยังต้องพาข้าเข้าคุกอีก’‘หุบปาก! ท่านเป็นคนฆ่ามันเองไม่ใช่เหรอ’‘ฮือๆ'เสียงทะเลาะกันที่คุ้นหูทำให้เซี่ยซูเหยาเหยียดยิ้ม หลายวันมานี้คงจะอยู่กันอย่างทรมานสินะ ถึงได้ด่ากันมากขนาดนี้ หลังจัดงานศพบิดาเสร็จนางก็เพิ่งมีเวลามาที่นี่“องค์หญิง ถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”องครักษ์ที่ฮ่องเต้หมิงหลงอันสั่งให้นำหลานสาวมายังคุกหลวงกล่าวกับเด็กสาวด้วยความเคารพ หากไม่ใช่บุคคลสำคัญหรือมีอำนาจมากพอ มีหรือที่จะสามารถเดินเข้าออกคุกหลวงได้อย่างสบายแบบนี้นัยน์ตาเล็กหรี่มองเซี่ยหยุนหรง

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status