เขาตวาดถามเหมือนฉันไม่มีสิทธิ์หนีไปไหน แบบนี้เรียกว่าเห็นแก่ตัวหรือเปล่า “ขอเวลาให้ฉันได้อยู่กับตัวเองได้ไหมอลัน ทำเหมือนก่อนหน้านี้ที่ไม่สนใจกันสิ” “ทำไม่ได้” อลันตอบกลับทันควัน“แล้วทำไมตอนนั้นถึงทำได้ล่ะ”“ตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว” ฉันถอนหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะเดินผ่านหน้าอลันออกมาจากห้องนอน พอเดินออกมาจากห้องก็เห็นช่อดอกไม้วางอยู่ตรงหน้าโซฟาตัวใหญ่ ฉันจึงรีบเดินกลับเข้ามาในห้อง ตอนนี้อลันกำลังเอาเสื้อผ้าของฉันแควนไว้ในตู้เหมือนเดิม“ทำบ้าอะไรของนาย!!” ฉันเดินมาแย่งเสื้อออกจากมืออลันแต่เขาไม่ยอมปล่อย“จะโกรธก็โกรธไปแต่ไม่ใช่หนีหน้า”“กลับไปซะอลัน เอาช่อดอกไม้นั่นกลับไปด้วย รกห้อง!!”“เก็บเสื้อผ้าเอาไว้ในตู้เสร็จแล้วจะกลับ”“คิดหรอว่าถ้านายเอาเก็บไว้ในตู้แล้วฉันจะเอามาใส่กระเป๋าแบบเดิมไม่ได้”“งั้นก็จะเฝ้าอยู่แบบนี้ทั้งคืน” “กลัวพ่อพาฉันหนีไม่ใช่หรอถึงได้ยอมถอย ตอนนี้ไม่กลัวแล้วหรอ ?”“…….” อลันเงียบไม่ตอบอะไร“แปลกนะตอนตั้งใจทำร้ายนายไม่สนใจความรู้สึกฉันเลยด้วยซ้ำ แล้วตอนนี้ก็ไม่สนใจคำพูดของพ่อฉันแล้วว่างั้น” “ยังพิสูจน์ตัวเองเหมือนเดิม” อลันจับมือฉันก่อนจะพูดต่อ “จับมือไปด้วยกันได้
ฉันออกมานั่งให้ตัวเองสงบลงเหตุผลก็เพราะเผลอเป็นห่วงอลันเมื่อครู่ กริ้ง~ เสียงโทรศัพท์เข้า เป็นเบอร์ของเฮียเฟยโทรมาฉันจึงรีบรับสาย“มาถึงแล้วหรอเฮีย”( เปล่า เฮียจะโทรมาบอกว่าไม่ได้ไปแล้ว ลลิลอยากให้พาไปธุระ )“อ้าวหรอคะ ลลิลกลับมาไทยแล้วหรอ”( อืม ) ได้ยินเสียงกุกกักๆ ผ่านปลายสาย ก่อนจะมีเสียงผู้หญิงพูดขึ้น ( ฮายแพร ไม่เจอกันนานเลยวันนี้มาปาร์ตี้ที่บ้านฉันไหม )“วันนี้เลยหรอ” ( จะเทหรอ ไหนบอกว่ามาไทยแล้วจะฉลองกันไง )เฮียคงบอกลลิลเรื่องที่ฉันพูดในวันนั้นฉันกับเธอไม่ได้สนิทกันมากแต่ก็สนิทระดับหนึ่ง เธอเป็นผู้หญิงเฟรนลี่เข้ากับคนง่าย แถมยังนิสัยน่ารักมากๆ ( จะไปกวนแพรทำไม….) ฉันได้ยินเสียงเฮียเฟยบ่นน้องสาวผ่านปลายสาย เฮียเฟยคงผิดหวังกับฉันมากจริงๆ ( แพรฉันไม่มีเพื่อนที่ไทยเลย ไม่สิ! เพื่อนที่รู้จักกันก็อยู่ต่างประเทศหมดยังไม่มีใครกลับไทย ตอนนี้มีแค่แกนะที่ฉันรู้จัก )“อื้อ แกพูดมาขนาดนี้ฉันก็ต้องไปแล้วใช่ไหมล่ะ”( ชวนแฟนแกมาด้วยสิ เพื่อนแฟนแกด้วย อื้อเพื่อนๆ แกด้วยก็ได้วันนี้เฮียไม่อยู่บ้านหรอก ) “ฟ…แฟนอะไรของแกลลิล ฉันไม่มีแฟนสักหน่อย อีกอย่างถ้าให้ชวนเพื่อนเขาไปด้วยเฮียเฟยจะโอเค
อลันอุ้มฉันเข้ามาในบ้านโดยมีลลิลเป็นคนนำทาง เธอจัดเตรียมกล่องปฐมพยาบาลเอาไว้ให้แล้วก็รีบเดินออกไปราวกับไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอ “แค่นี้ฉันทำเองได้” แผลที่โดนเศษแก้วมันไม่ได้ทิ่มที่เท้าลึกมาก จริงๆ ไม่ต้องทำแผลก็ได้ “นั่งเฉยๆ” อลันออกคำสั่ง“นายมีสิทธิ์อะไรมาออกคำสั่งฉัน” ฉันจ้องเขม็งแต่อลันกลับทำหน้าทะเล้นแทนที่จะสลดแบบทุกๆ ครั้งที่ฉันใช้คำพูดแบบนี้ “มีสิทธิ์” เขาพูดพร้อมกับเปิดกล่องปฐมพยาบาล “ไม่มีสิทธิ์” “ปากแข็ง”บทสนทนาจบลงเพราะฉันไม่เถียงอะไรต่อ อลันเริ่มทำแผลโดยการใช้แอลกอฮอล์ล้างซึ่งมันแสบจนฉันต้องร้องอุทานออกมา“อ๊า ซี๊ด” พอได้ยินเสียงอลันก็เงยหน้าขึ้นมามองแล้วถาม “อ่อย ?”“จะบ้าหรอ!”“เงียบๆ ถ้าไม่อยากเสียตัวตรงนี้”“หยุดคิดเรื่องแบบนั้นกับฉันสักที สถานะของนายไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้น”“พนันกันไหม ?”“พนันอะไรของนาย”“ถ้าทำแบบนั้นได้จะยอม…..” อลันขยับใบหน้ามาใกล้ๆ เมื่อเผลอจ้องตาเขามันก็ทำให้ตัวฉันแข็งทื่อราวกับหิน “ขอโทษ ยกโทษให้ได้หรือเปล่า” ในขณะที่พูดใบหน้าคมคายของอลันก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก “แล้วน้ำตาที่ฉันเสียไปกับคำโกหกของนายล่ะ ความรู้สึกของฉัน….อื้อ~”ในขณะที่พูด
อลันปัดมือฉันออกแล้วเบือนหน้าหนีเหมือนเดิม แถมยังไม่ยอมพูดอะไร พอเห็นแบบนี้แล้วมันทำให้ฉันรู้สึกผิดไปด้วยเลย ทั้งที่ตอนเขาทำไม่เห็นใจฉันแท้ๆ ยังปล่อยให้ฉันร้องไห้ไปหลายวัน แต่พอเห็นดวงตาที่แดงกล่ำของเขาแค่นี้ฉันกลับหวั่นไหว ความรู้สึกมันไม่ยุติธรรมเลย “ถ้าอดทนไม่ได้แล้วจะรับปากทำไม” “อดทนได้” อลันพูดก่อนจะล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเองแล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมา “ห้ามสูบบุหรี่” ฉันบอกเขาเสียงแข็ง “ทำไมไม่ไปหามัน”“แล้วนายเดินออกมาร้องไห้ทำไมละ”“สนใจทำไม บอกว่าทนได้”“ทนได้แต่ร้องไห้เนี่ยนะ” อลันหยิบไฟแช็กขึ้นมาจุดไฟ เห็นแบบนั้นฉันจึงรีบดึงมันออก “บอกว่าห้ามสูบบุหรี่”อลันมองฉันครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะทิ้งมวลบุหรี่ลงพื้นแล้วใช้เท้าขยี้มัน “พอใจแล้วใช่ไหม ?”พอถามเสร็จเขาก็เดินผ่านไปแบบไม่ได้รอฟังคำตอบจากฉัน ปากบอกทนได้ให้ฉันไปหาผู้ชายคนนั้น แต่ตัวเองงอนซะขนาดนี้เนี่ยนะ เหอะ!! ฉันเดินตามแผ่นหลังของอลัน เขามานั่งข้างๆ ตุล โดยมีลลิลกำลังชวนตุลคุยอยู่ สงสัยจะชอบจริงๆ แต่เด็กกลุ่มนี้ร้ายกาจ ถ้าเกิดเผลอใจไปฉันกลัวว่าลลิลจะเจ็บหนักจัง “น้องตุลกินอะไรไหมเดี๋ยวพี่เอามาให้” “ไม่กิน” ตุลหัน
อลันยิ้มชอบใจ เขาคงจะรู้แล้วสินะว่าตอนนี้ฉันให้อภัยแล้ว เหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก มันโล่งขึ้นเยอะเลย “เล็กแต่ร้องว่าเจ็บ มันย้อนแย้งนะ”“ก็แค่แสร้งทำเป็นเจ็บไปงั้น” “ถุงยางไซส์ห้าหกแบบนี้เรียกว่าเล็ก ?”“เล็กมาก” อลันทำหน้ามุ้ยเพราะฉันไม่ยอมรับว่าเจ้าสิ่งนั้นของเขามันทั้งใหญ่และยาวจนจุก “นั่งสิเดี๋ยวฉันชงเหล้าให้” “ดื่มในห้องนอนดีไหม ?” อลันมองฉันด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเอามือมาลูบไปมาที่ต้นขาของฉันแปะ! ฉันตีมือเขาแรงๆ แล้วทำหน้าดุใส่“ยังไม่ถึงเวลาของนาย” “ได้ไง ให้อภัยแล้วมันถึงเวลาแล้ว” “ให้อภัย แต่ไม่ให้ทำเรื่องนั้น คนอย่างนายต้องโดนดัดนิสัยให้เข็ด”พอฉันบอกไปแบบนั้นอลันก็ทำหน้าบึ้งใส่ “บาป ทำให้ผัวเก็บกดมันบาป!!”“งอนฉันต่อสิ” “ตอนนี้หายงอนแล้ว เมียให้อภัยแล้วไง ^_^” ฉันเดินมานั่งลงตรงข้ามกับอลันแล้วทำสีหน้าจริงจัง ก่อนจะเริ่มพูด “เรื่องที่นายบอกว่าถ้ามหาวิทยาลัยปิดเทอมจะไปเจอพ่อฉัน จะไปพูดกับพ่อฉันอีกครั้ง นายพูดจริงหรือพูดเล่น”“พูดจริง” “คิดดีแล้วใช่ไหม ถ้าพ่อฉันไม่ยอมอีกล่ะ”“ครั้งนี้จะไม่ยอมปล่อยมืออีกแล้ว บอกแล้วไงจะไม่ทำอะไรโง่ๆ อีก”“…ฉันเชื่อนายได้ใช่ไหมอลัน”“
#อู่ซ่อมรถ ฉันมารับอลันที่อู่ แต่พอมาถึงก็เห็นอลันกำลังช่วยเพื่อนซ่อมรถอยู่ แล้วก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงคนนั้น คนที่ฉันเจออยู่คลับ ผู้หญิงที่เคยทำให้ฉันเจ็บปวด ถึงแม้จะเป็นเรื่องโกหกก็เถอะ เธอเป็นน้องสาวกันชื่อแก้ว จริงๆ ตั้งใจจะเดินเลี่ยงแต่เธอดันเดินมาดักหน้าฉันเอาไว้ จากนั้นก็เริ่มพูด“หนูขอโทษนะคะเรื่องในวันนั้น หนูไม่ได้ตั้งใจแต่พี่อลันน่ะสิ” “ไม่เป็นไร พี่เคลียร์กับอลันแล้ว” ฉันบอกไปอย่างไม่ติดใจอะไร ถึงข้างในจะรู้สึกอยู่บ้าง “หนูดีใจนะคะที่พี่สองคนกลับมาคบกัน ไม่อย่างนั้นหนูคงต้องอยู่กับความรู้สึกผิดไปตลอดแน่ๆ เลย” ฉันเพียงแค่ยิ้มจางๆ ให้กับเธอก่อนจะเดินแยกตัวมานั่งรออลัน ไม่นานเขาก็เดินมาหาฉันด้วยสภาพที่มอมแมมมือและเสื้อผ้าเปื้อนน้ำมันเครื่อง “อีกประมาณชั่วโมงกว่าคงจะเสร็จ ไปรอในห้องก่อนไหมตรงนี้ร้อน” ดูสิ พอให้อภัยแล้วเขาก็น่ารักกับฉันมากๆ “ไม่เป็นไรฉันไม่ร้อน” “รอนานนะ” “รอได้ ^_^” “เมียใคร น่ารักจังเลย” อลันยกมือขึ้นมาเพื่อจะจับแก้มฉันแต่รู้ทันหรอกว่าเขาคิดจะแกล้งเพราะมือเปื้อนร้ำมันเครื่องอยู่ “ห้ามจับหน้าฉันนะ” ฉันรีบเอนตัวหนี “รังเกียจผัว ?”“มือนายเปื้อนไม่ต้อง
ฉันผละตัวออก ตกใจที่ได้ยินอลันพูดว่าเขาใส่ยาปลุกเซ็กส์ลงไปในแก้วน้ำส้มคั้นที่เอามาให้ฉันดื่ม ต้องทำถึงขั้นนี้เลยหรือไง “น…นายมันบ้า” “ดูท่ายาจะแรงไปหน่อย ใส่แค่นิดเดียวถึงกับนั่งไม่ติด” “ออกไป” ฉันใช้มือลูบไล้ผิวเนื้อของตัวเองพร้อมกับพูดไล่อลันให้ออกไปจากห้อง พยายามระงับอารมณ์ของตัวเองไม่ให้เป็นในแบบที่คนเจ้าเล่ห์ตรงหน้าต้องการ “แต่งตัวก่อน” อลันเว้นคำพูดก่อนจะโน้มใบหน้าลงมากระซิบบอกข้างหู “เดี๋ยวจะออกไปนอนโซฟาเหมือนเดิม” เป็นคำพูดที่แสนจะธรรมดาแต่ฉันกลับรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัวเมื่อได้ฟัง ฉันถอยหลังหนีเขาแล้วกัดริมฝีปากตัวเองแน่นจนห้อเลือด อลันเดินผ่านหน้าฉันไปยังตู้เสื้อผ้า เขาดึงผ้าขนหนูออกเผยให้เห็นร่างกายกำยำที่เปลือยเปล่า เหงื่อเม็ดเล็กๆ มันเริ่มผุดขึ้นมาบนใบหน้าอีกครั้ง พอได้เห็นภาพตรงหน้าก็ทำเอาฉันไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เป็นอีกครั้งที่ฉันเดินมาสวมกอดอลันจากทางด้านหลังก่อนจะใช้มือลูบไล้บนแผงอกแกร่งช้าๆ แล้วเลื่อนลงมาสัมผัสที่แก่นกายใหญ่ แต่สัมผัสได้ไม่นานก็ถูกอลันดึงมือออก จากนั้นเขาก็หมุนตัวหันมาประจันหน้า พออลันหันหน้ามาฉันก็เขย่งเท้าขึ้นเพื่อจะจู่โจมด้วยการจูบ แต่เ
สัมผัสจากริมฝีปากของอลันทำให้ฉันรู้สึกร้อนวูบวาบมากกว่าทุกครั้งเพราะฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กส์ ฉันประคองใบหน้าคมคายให้เงยขึ้นมาก่อนจะกดริมฝีปากจูบอย่างกระหาย แก่นกายใหญ่ที่เสียดสีอยู่ตรงกลางหว่างขามันทำให้ฉันแทบเป็นบ้า “ฉันต้องการนาย ซี๊ด” เมื่อผละริมฝีปากออกฉันก็ร้องบอกเสียงกระเส่า มันอดทนไม่ไหวอีกแล้วอยากให้อลันรีบใส่ความใหญ่โตของเขาเข้ามาสักที“ทรมานมากใช่ไหม” อลันจับปอยผมที่ร่วงหล่นลงมาเกะกะใบหน้าไปทัดไว้ที่หลังใบหูให้“ทรมาน ใจจะขาด ฉันต้องการนาย อื้อ~” “ขอโทษ จะไม่ใช้วิธีนี้อีกแล้ว” “ไม่ต้องขอโทษ รีบๆ ทำให้ฉันหายอยากสักที ใจจะขาดอยู่แล้ว” ยิ่งถูกสัมผัสร่างกายมันก็ยิ่งร้อนวูบวาบ ฉันไม่สามารถควบคุมความต้องการของตัวเองให้สงบนิ่งได้จริงๆ อลันดันตัวฉันที่เปลือยเปล่าให้ลุกขึ้น จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อผ้าของตัวเอง มันคงเป็นเพราะยาปลุกเซ็กส์ที่ทำให้ฉันมองเห็นเรือนร่างของอลันแล้วมีอารมณ์ขนาดนี้ เมื่อเสื้อผ้าถูกถอดออกไปจากเรือนร่างจนหมดทุกชิ้นฉันก็ไม่รอช้ารีบนั่งลงมาบนตักแกร่งโดยมีอลันจับแก่นกายใหญ่ตั้งรอไว้อยู่แล้ว ฉันค่อยๆ นั่งลงช้าๆ ให้แก่นกายของอลันสอดเข้ามาในช่องทางคับแคบ “อ๊า~” อลั