Talk อลันผมยืนมองผู้หญิงที่กล้าพูดได้เต็มปากว่าเป็นผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุดและไม่เคยเลิกรักเธอได้เลย…แม้จะพยายามไม่สนใจขนาดไหนก็ตามผมรู้ว่าเธอไม่เต็มใจฟัง ผมรู้ว่ามันน่าผิดหวังกับความจริงที่รับรู้ ก็ดีที่เธอได้รู้แต่มันไม่ทั้งหมด ตอนนี้ผมจะเล่าเรื่องทุกอย่าง ความจริงทุกอย่างสิ่งที่ผมตัดสินใจทำเรื่องบ้านั่น วันนั้นที่พ่อของเธอมาหาและขอคุยกับผม ใช่ผมโกหก! ท่านไม่ได้พูดเรื่องธุรกิจแต่พูดถึงความเหมาะสม “ฉันมีลูกสาวคนเดียวรู้ใช่ไหม” “เพิ่งรู้เมื่อกี้ครับ”“ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นแก”“ผมก็ไม่ได้บอกว่าคุณลุงเป็นเพื่อนนะครับ”ท่านพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ เมื่อได้ฟังคำตอบ ผมก็ตอบไปตามความจริงไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้หงุดหงิด “ขอเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน”“ครับ”“ฉันอยากให้ลูกสาวเจอคนที่ดีกว่า” ผมคิดเอาไว้แล้วว่าต้องได้ยินประโยคนี้ “จะให้ผมถอยหรอครับ ?”“ใช่ฉันต้องการแบบนั้น”“ผมคงทำตามที่คุณลุงต้องการไม่ได้” “ฉันคิดเอาไว้แล้วว่าแกจะตอบแบบนี้” พูดจบสายตาของท่านก็เหลือบมามองที่ข้อมือของผม “นาฬิกาสวยดีหนิ ลูกกำนันอย่างแกคงไม่มีเงินมากมายมาซื้อนาฬิกาแพงๆ แบบนั้นได้ คงไม่พ้นลูกสาวฉันซื้อให้สินะ”“……..” ผม
Talk อลันผมรู้ว่าเธอโกรธที่ปิดบังถึงได้เงียบไปแบบนี้ แต่ผมเองก็อยากให้เข้าใจว่าที่ทำไปทั้งหมดผมไม่ได้ตั้งใจ “ที่ไล่ที่บอกให้ไปเริ่มใหม่ ความจริงแล้วไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ใครจะอยากให้เมียตัวเองไปมีคนใหม่ แต่ที่พูดเพราะ….”“ความจริงของนายเป็นแบบนั้นแล้วยังไง ฉันรู้ด้วยหรอในเมื่อนายไม่ได้บอกอะไรสักคำ” “คิดเอาไว้ว่าถ้าพิสูจน์ตัวเองสำเร็จก็จะบอก” “หยุดอยู่ตรงนั้น” เธอออกคำสั่งเสียงกร้าวทำให้ผมที่กำลังจะเดินไปหาต้องหยุดชะงัก “……” “รู้ไหมว่าฉันเสียใจฉันเจ็บปวดขนาดไหน นายพิสูจน์ตัวเองให้พ่อได้เห็นโดยการทำลายความรักของเรา แบบนี้น่ะหรอ” “…….” ผมไม่พูดโต้ตอบอะไรเพราะที่พูดมานั้นผมทำมันลงไปจริงๆ “แล้วถ้าวันนั้นฉันยอมมีอะไรกับเฮียเฟยหรือผู้ชายคนอื่นล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น นายจะยังเดินหน้าพิสูจน์ตัวเองต่อไปหรือเปล่าจะกลับมาง้อฉันที่ยอมให้ผู้ชายคนอื่นทำอะไรต่ออะไรงั้นหรอ”“เพราะรู้ไงว่าไม่ทำแบบนั้นอยู่แล้ว” ผมมั่นใจว่าแพรไม่มีวันพลีกายให้ผู้ชายคนอื่น “ฉันเข้าใจนายนะถ้านายอยากจะพิสูจน์ตัวเองกับพ่อ เข้าใจทั้งหมดที่นายเล่ามา”“เข้าใจจริงๆ ใช่ไหม ?” ดูสีหน้าแววตาของเธอแล้วมันไม่ได้ทำให้ผมสบายใจขึ้นม
เขาตวาดถามเหมือนฉันไม่มีสิทธิ์หนีไปไหน แบบนี้เรียกว่าเห็นแก่ตัวหรือเปล่า “ขอเวลาให้ฉันได้อยู่กับตัวเองได้ไหมอลัน ทำเหมือนก่อนหน้านี้ที่ไม่สนใจกันสิ” “ทำไม่ได้” อลันตอบกลับทันควัน“แล้วทำไมตอนนั้นถึงทำได้ล่ะ”“ตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว” ฉันถอนหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะเดินผ่านหน้าอลันออกมาจากห้องนอน พอเดินออกมาจากห้องก็เห็นช่อดอกไม้วางอยู่ตรงหน้าโซฟาตัวใหญ่ ฉันจึงรีบเดินกลับเข้ามาในห้อง ตอนนี้อลันกำลังเอาเสื้อผ้าของฉันแควนไว้ในตู้เหมือนเดิม“ทำบ้าอะไรของนาย!!” ฉันเดินมาแย่งเสื้อออกจากมืออลันแต่เขาไม่ยอมปล่อย“จะโกรธก็โกรธไปแต่ไม่ใช่หนีหน้า”“กลับไปซะอลัน เอาช่อดอกไม้นั่นกลับไปด้วย รกห้อง!!”“เก็บเสื้อผ้าเอาไว้ในตู้เสร็จแล้วจะกลับ”“คิดหรอว่าถ้านายเอาเก็บไว้ในตู้แล้วฉันจะเอามาใส่กระเป๋าแบบเดิมไม่ได้”“งั้นก็จะเฝ้าอยู่แบบนี้ทั้งคืน” “กลัวพ่อพาฉันหนีไม่ใช่หรอถึงได้ยอมถอย ตอนนี้ไม่กลัวแล้วหรอ ?”“…….” อลันเงียบไม่ตอบอะไร“แปลกนะตอนตั้งใจทำร้ายนายไม่สนใจความรู้สึกฉันเลยด้วยซ้ำ แล้วตอนนี้ก็ไม่สนใจคำพูดของพ่อฉันแล้วว่างั้น” “ยังพิสูจน์ตัวเองเหมือนเดิม” อลันจับมือฉันก่อนจะพูดต่อ “จับมือไปด้วยกันได้
ฉันออกมานั่งให้ตัวเองสงบลงเหตุผลก็เพราะเผลอเป็นห่วงอลันเมื่อครู่ กริ้ง~ เสียงโทรศัพท์เข้า เป็นเบอร์ของเฮียเฟยโทรมาฉันจึงรีบรับสาย“มาถึงแล้วหรอเฮีย”( เปล่า เฮียจะโทรมาบอกว่าไม่ได้ไปแล้ว ลลิลอยากให้พาไปธุระ )“อ้าวหรอคะ ลลิลกลับมาไทยแล้วหรอ”( อืม ) ได้ยินเสียงกุกกักๆ ผ่านปลายสาย ก่อนจะมีเสียงผู้หญิงพูดขึ้น ( ฮายแพร ไม่เจอกันนานเลยวันนี้มาปาร์ตี้ที่บ้านฉันไหม )“วันนี้เลยหรอ” ( จะเทหรอ ไหนบอกว่ามาไทยแล้วจะฉลองกันไง )เฮียคงบอกลลิลเรื่องที่ฉันพูดในวันนั้นฉันกับเธอไม่ได้สนิทกันมากแต่ก็สนิทระดับหนึ่ง เธอเป็นผู้หญิงเฟรนลี่เข้ากับคนง่าย แถมยังนิสัยน่ารักมากๆ ( จะไปกวนแพรทำไม….) ฉันได้ยินเสียงเฮียเฟยบ่นน้องสาวผ่านปลายสาย เฮียเฟยคงผิดหวังกับฉันมากจริงๆ ( แพรฉันไม่มีเพื่อนที่ไทยเลย ไม่สิ! เพื่อนที่รู้จักกันก็อยู่ต่างประเทศหมดยังไม่มีใครกลับไทย ตอนนี้มีแค่แกนะที่ฉันรู้จัก )“อื้อ แกพูดมาขนาดนี้ฉันก็ต้องไปแล้วใช่ไหมล่ะ”( ชวนแฟนแกมาด้วยสิ เพื่อนแฟนแกด้วย อื้อเพื่อนๆ แกด้วยก็ได้วันนี้เฮียไม่อยู่บ้านหรอก ) “ฟ…แฟนอะไรของแกลลิล ฉันไม่มีแฟนสักหน่อย อีกอย่างถ้าให้ชวนเพื่อนเขาไปด้วยเฮียเฟยจะโอเค
อลันอุ้มฉันเข้ามาในบ้านโดยมีลลิลเป็นคนนำทาง เธอจัดเตรียมกล่องปฐมพยาบาลเอาไว้ให้แล้วก็รีบเดินออกไปราวกับไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอ “แค่นี้ฉันทำเองได้” แผลที่โดนเศษแก้วมันไม่ได้ทิ่มที่เท้าลึกมาก จริงๆ ไม่ต้องทำแผลก็ได้ “นั่งเฉยๆ” อลันออกคำสั่ง“นายมีสิทธิ์อะไรมาออกคำสั่งฉัน” ฉันจ้องเขม็งแต่อลันกลับทำหน้าทะเล้นแทนที่จะสลดแบบทุกๆ ครั้งที่ฉันใช้คำพูดแบบนี้ “มีสิทธิ์” เขาพูดพร้อมกับเปิดกล่องปฐมพยาบาล “ไม่มีสิทธิ์” “ปากแข็ง”บทสนทนาจบลงเพราะฉันไม่เถียงอะไรต่อ อลันเริ่มทำแผลโดยการใช้แอลกอฮอล์ล้างซึ่งมันแสบจนฉันต้องร้องอุทานออกมา“อ๊า ซี๊ด” พอได้ยินเสียงอลันก็เงยหน้าขึ้นมามองแล้วถาม “อ่อย ?”“จะบ้าหรอ!”“เงียบๆ ถ้าไม่อยากเสียตัวตรงนี้”“หยุดคิดเรื่องแบบนั้นกับฉันสักที สถานะของนายไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้น”“พนันกันไหม ?”“พนันอะไรของนาย”“ถ้าทำแบบนั้นได้จะยอม…..” อลันขยับใบหน้ามาใกล้ๆ เมื่อเผลอจ้องตาเขามันก็ทำให้ตัวฉันแข็งทื่อราวกับหิน “ขอโทษ ยกโทษให้ได้หรือเปล่า” ในขณะที่พูดใบหน้าคมคายของอลันก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก “แล้วน้ำตาที่ฉันเสียไปกับคำโกหกของนายล่ะ ความรู้สึกของฉัน….อื้อ~”ในขณะที่พูด
อลันปัดมือฉันออกแล้วเบือนหน้าหนีเหมือนเดิม แถมยังไม่ยอมพูดอะไร พอเห็นแบบนี้แล้วมันทำให้ฉันรู้สึกผิดไปด้วยเลย ทั้งที่ตอนเขาทำไม่เห็นใจฉันแท้ๆ ยังปล่อยให้ฉันร้องไห้ไปหลายวัน แต่พอเห็นดวงตาที่แดงกล่ำของเขาแค่นี้ฉันกลับหวั่นไหว ความรู้สึกมันไม่ยุติธรรมเลย “ถ้าอดทนไม่ได้แล้วจะรับปากทำไม” “อดทนได้” อลันพูดก่อนจะล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเองแล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมา “ห้ามสูบบุหรี่” ฉันบอกเขาเสียงแข็ง “ทำไมไม่ไปหามัน”“แล้วนายเดินออกมาร้องไห้ทำไมละ”“สนใจทำไม บอกว่าทนได้”“ทนได้แต่ร้องไห้เนี่ยนะ” อลันหยิบไฟแช็กขึ้นมาจุดไฟ เห็นแบบนั้นฉันจึงรีบดึงมันออก “บอกว่าห้ามสูบบุหรี่”อลันมองฉันครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะทิ้งมวลบุหรี่ลงพื้นแล้วใช้เท้าขยี้มัน “พอใจแล้วใช่ไหม ?”พอถามเสร็จเขาก็เดินผ่านไปแบบไม่ได้รอฟังคำตอบจากฉัน ปากบอกทนได้ให้ฉันไปหาผู้ชายคนนั้น แต่ตัวเองงอนซะขนาดนี้เนี่ยนะ เหอะ!! ฉันเดินตามแผ่นหลังของอลัน เขามานั่งข้างๆ ตุล โดยมีลลิลกำลังชวนตุลคุยอยู่ สงสัยจะชอบจริงๆ แต่เด็กกลุ่มนี้ร้ายกาจ ถ้าเกิดเผลอใจไปฉันกลัวว่าลลิลจะเจ็บหนักจัง “น้องตุลกินอะไรไหมเดี๋ยวพี่เอามาให้” “ไม่กิน” ตุลหัน
อลันยิ้มชอบใจ เขาคงจะรู้แล้วสินะว่าตอนนี้ฉันให้อภัยแล้ว เหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก มันโล่งขึ้นเยอะเลย “เล็กแต่ร้องว่าเจ็บ มันย้อนแย้งนะ”“ก็แค่แสร้งทำเป็นเจ็บไปงั้น” “ถุงยางไซส์ห้าหกแบบนี้เรียกว่าเล็ก ?”“เล็กมาก” อลันทำหน้ามุ้ยเพราะฉันไม่ยอมรับว่าเจ้าสิ่งนั้นของเขามันทั้งใหญ่และยาวจนจุก “นั่งสิเดี๋ยวฉันชงเหล้าให้” “ดื่มในห้องนอนดีไหม ?” อลันมองฉันด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเอามือมาลูบไปมาที่ต้นขาของฉันแปะ! ฉันตีมือเขาแรงๆ แล้วทำหน้าดุใส่“ยังไม่ถึงเวลาของนาย” “ได้ไง ให้อภัยแล้วมันถึงเวลาแล้ว” “ให้อภัย แต่ไม่ให้ทำเรื่องนั้น คนอย่างนายต้องโดนดัดนิสัยให้เข็ด”พอฉันบอกไปแบบนั้นอลันก็ทำหน้าบึ้งใส่ “บาป ทำให้ผัวเก็บกดมันบาป!!”“งอนฉันต่อสิ” “ตอนนี้หายงอนแล้ว เมียให้อภัยแล้วไง ^_^” ฉันเดินมานั่งลงตรงข้ามกับอลันแล้วทำสีหน้าจริงจัง ก่อนจะเริ่มพูด “เรื่องที่นายบอกว่าถ้ามหาวิทยาลัยปิดเทอมจะไปเจอพ่อฉัน จะไปพูดกับพ่อฉันอีกครั้ง นายพูดจริงหรือพูดเล่น”“พูดจริง” “คิดดีแล้วใช่ไหม ถ้าพ่อฉันไม่ยอมอีกล่ะ”“ครั้งนี้จะไม่ยอมปล่อยมืออีกแล้ว บอกแล้วไงจะไม่ทำอะไรโง่ๆ อีก”“…ฉันเชื่อนายได้ใช่ไหมอลัน”“
#อู่ซ่อมรถ ฉันมารับอลันที่อู่ แต่พอมาถึงก็เห็นอลันกำลังช่วยเพื่อนซ่อมรถอยู่ แล้วก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงคนนั้น คนที่ฉันเจออยู่คลับ ผู้หญิงที่เคยทำให้ฉันเจ็บปวด ถึงแม้จะเป็นเรื่องโกหกก็เถอะ เธอเป็นน้องสาวกันชื่อแก้ว จริงๆ ตั้งใจจะเดินเลี่ยงแต่เธอดันเดินมาดักหน้าฉันเอาไว้ จากนั้นก็เริ่มพูด“หนูขอโทษนะคะเรื่องในวันนั้น หนูไม่ได้ตั้งใจแต่พี่อลันน่ะสิ” “ไม่เป็นไร พี่เคลียร์กับอลันแล้ว” ฉันบอกไปอย่างไม่ติดใจอะไร ถึงข้างในจะรู้สึกอยู่บ้าง “หนูดีใจนะคะที่พี่สองคนกลับมาคบกัน ไม่อย่างนั้นหนูคงต้องอยู่กับความรู้สึกผิดไปตลอดแน่ๆ เลย” ฉันเพียงแค่ยิ้มจางๆ ให้กับเธอก่อนจะเดินแยกตัวมานั่งรออลัน ไม่นานเขาก็เดินมาหาฉันด้วยสภาพที่มอมแมมมือและเสื้อผ้าเปื้อนน้ำมันเครื่อง “อีกประมาณชั่วโมงกว่าคงจะเสร็จ ไปรอในห้องก่อนไหมตรงนี้ร้อน” ดูสิ พอให้อภัยแล้วเขาก็น่ารักกับฉันมากๆ “ไม่เป็นไรฉันไม่ร้อน” “รอนานนะ” “รอได้ ^_^” “เมียใคร น่ารักจังเลย” อลันยกมือขึ้นมาเพื่อจะจับแก้มฉันแต่รู้ทันหรอกว่าเขาคิดจะแกล้งเพราะมือเปื้อนร้ำมันเครื่องอยู่ “ห้ามจับหน้าฉันนะ” ฉันรีบเอนตัวหนี “รังเกียจผัว ?”“มือนายเปื้อนไม่ต้อง