เฮียเฟยถอนหายใจออกมาหนักๆ แล้วพูด “มันทำอะไร เฮียจะไปจัดการมันเอง!!”“ย…อย่านะเฮีย” ฉันรีบจับแขนเฮียเฟยเอาไว้ก่อนที่เฮียจะเปิดประตูลงจากรถ “มันทำให้แพรร้องไห้ขนาดนี้ยังจะห่วงอีกหรือไง” “แพรมันน่าเบื่อเองค่ะ เขายังเด็กคงอยากจะหาอะไรใหม่ๆ” ฉันพูดไปด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวด แต่ยังไงก็ต้องยอมรับว่าความเจ็บปวดที่กลัวและไม่อยากเจอมันได้เกิดขึ้นอีกครั้งแล้ว….ทั้งที่ก่อนหน้านี้มันดีมากๆ “พาแพรไปคลับเฮียได้ไหมคะ รีบพาแพรไปจากตรงนี้” ฉันบอกเฮียเฟยในเชิงอ้อนวอน จากนั้นรถก็ขับเคลื่อนออกไปจากคลับทั้งที่เขาควรจะกลับเข้าไปในคลับแล้ว….แต่ในตอนนี้อลันยังคงยืนอยู่ด้านหน้าคลับแล้วมองรถที่ฉันนั่งไปกับเฮียเฟยจนสุดสายตาฉันส่งข้อความไปบอกเพื่อนว่าให้ตามมาที่คลับเฮียเฟย ก่อนจะกดปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วก้มหน้าร้องไห้ออกมาเบาๆ ตลอดทาง อลันเคยพูดว่าเขาคบกับใครไม่ได้นานเพราะนิสัยที่เบื่อง่าย แต่ฉันก็ไม่คิดว่าการที่เราเข้ากันได้ดีขนาดนี้มันจะทำให้เขาเบื่อ เราจบกันแบบที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัว สำหรับอลันคงจะโล่งใจที่ไม่ต้องมาปิดบังอะไร เขาอยากจะไปอะไรกับผู้หญิงที่ไหนก็ได้ แต่สำหรับฉันต้องจมอยู่กับความเจ็บปวดนี้ไปอ
เธอคนนั้นเดินมาหาอลัน ก่อนจะโน้มลงมาหอมแก้มเขาแล้วพูด “กลับก่อนนะ อย่าลืมโทรมาหาด้วยล่ะ ไม่โทรจะงอนจริงๆ ด้วย” เธอทำเหมือนไม่เห็นว่าฉันยืนอยู่ พูดจบก็เดินสวนฉันออกไปจากห้อง ตอนนี้ฉันกำลังอึ้งกับสิ่งที่เห็น มันจุกในอกจนอยากจะร้องไห้ออกมา ไม่น่าเลย ฉันไม่น่ามาเจอเขาในวันนี้เลย ทั้งที่รู้ว่ามันจบไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว “พ…พาเธอมานอนที่ห้องหรอ” “เห็นอยู่แล้วจะถามทำไม” ฉันเม้มปากพร้อมกับกำหมัดแน่น คำตอบที่ไร้เยื่อใยแบบนั้นเขาพูดมันออกมาได้ยังไง ที่ผ่านมาไม่รู้สึกอะไรกับฉันเลยหรือไง ฉันค่อยๆ ทรุดตัวนั่งลงแล้วร้องไห้ออกมา มันกลั้นไม่อยู่ ใครเห็นเต็มสองตาแบบนี้ก็คงจะไม่สามารถห้ามน้ำตาได้ ฉันรัก ฉันหวงเขา ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย อลันทำกับฉันได้ยังไงกัน เขาด้านชาแบบนี้ได้ยังไง “อึก~” ฉันยกมือมาทาบที่อกข้างซ้ายของตัวเอง มันเจ็บปวดตรงนี้ที่สุด “นายทำแบบนี้ได้ยังไงอลัน ที่ผ่านมาระหว่างเรามันคืออะไร อึก~”“…….” “พ่อฉันพูดอะไรกับนายบอกมาสิ อึก~ อะไรที่ทำให้นายเปลี่ยนไปขนาดนี้”“เมื่อคืนก็ตอบไปแล้ว” อลันยกเบียร์ขึ้นมากระดกก่อนจะพูดต่อ “มาก็ดี เก็บเสื้อผ้ากลับไปด้วย”“ฉันต้องการเหตุผล อึก~
ตรวจคำผิดย้อนหลังนะคะ————อลันไม่ฟังที่ร้องบอก เขาซุกใบหน้าลงมาบนซอกคอของฉันแล้วขบเม้มเพื่อให้เกิดรอยแดง ฉันรู้สึกได้จากการที่เจ็บจี๊ดๆ บริเวณซอกคอหลายต่อหลายครั้ง ไม่ใช่ว่าฉันนอนนิ่งๆ ให้เขาทำ มันทั้งดิ้นสู้แต่ก็ไม่เป็นผล ถูกคนที่ตัวโตกว่ากดทับร่างแบบนี้มันยากที่จะดิ้นหลุด“อลันหยุดนะ จะเลิกกันแล้วก็อย่ามาทำแบบนี้กับฉัน!!”“แค่ส่งท้าย ของมันเคยๆ จะกลัวทำไม” อลันตอบกลับมาในขณะที่ใบหน้ายังซุกไซร้อยู่บนซอกคอ “อื้อ ฉันเจ็บ” ฉันร้องท้วงเมื่อถูกเขี้ยวฟันงับมาที่ซอกคอ แค่ทำให้เจ็บใจก็พอแล้วทำไมต้องทำให้เจ็บตัวอีก ชายเสื้อของฉันถูกเลิกขึ้นมากองไว้บนเนินหน้าอก ก่อนที่ใบหน้าคมคายของอลันจะเลื่อนต่ำลงมาใช้ริมฝีปากขบเม้มบริเวณเนินหน้าอกแทนซอกคอ “ปล่อย ฉันบอกใหปล่อย!!” ฉันตะเบ็งเสียงออกไปดังลั่นห้อง ริมฝีปากหนาลากไล้ไปมาดูดเลียหน้าอกทั้งสองเต้าสลับกัน ก่อนจะดึงเสื้อชั้นในของฉันขึ้นเผยให้เห็นยอดปทุมถันที่กำลังชูชันอยู่ตรงหน้าอลันใช้สายตามองครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “สีสวยดี” “นี่หรอคือสิ่งที่นายต้องการจากฉัน” ฉันถามเสียงสั่นในขณะที่อลันกำลังใช้อุ้งปากตะโบมดูดดุนยอดปทุมถันคู่นั้น แล้วเขาก็ไม่ได
#ร้านอาหารหรู “ดีขึ้นบ้างไหม ?” “ถ้าบอกว่าดีขึ้นเฮียก็คงต้องว่าแพรโกหกใช่ไหมคะ” “ดูจากสีหน้าก็คงงั้น” ตอนนี้ฉันกับเฮียเฟยกำลังนั่งกินข้าวด้วยกันที่ร้านอาหารสุดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา วิวช่วงเย็นๆ กำลังดี บรรยากาศรอบๆ สวยงาม แต่จิตใจของฉันกลับห่อเหี่ยว“มันไม่แปลกหรอกถ้าจะเศร้า แผลยังสดอยู่เลย”“พูดเหมือนเฮียเคยอกหัก นี่แอบไปมีแฟนไม่บอกน้องหรอคะ” “ทุกครั้งที่แพรมองข้ามเฮีย ทุกครั้งที่แพรคบกับใครเฮียก็จะเป็นแบบที่แพรเป็นตอนนี้” “…….” เอาละสิ ฉันไม่น่าถามจริงๆ “ทำไมเฮียถึงยังชอบแพรอยู่ทั้งที่แพรก็ชัดเจนมาตลอดว่าคิดแค่พี่ชาย”“เฮียคงให้ความหวังตัวเองมากไปมั้ง”“….ถ้าแพรอยากเปิดใจ เฮียจะไม่ใจร้ายกับแพรใช่ไหมคะ” ฉันลองถามดู มันไม่ใช่การให้ความหวังฉันก็แค่อยากมั่นใจ ถ้าสักวันต้องเริ่มใหม่ฉันก็อยากจะเริ่มกับคนที่รักฉันจริงๆ “ที่ผ่านมาเคยเห็นเฮียร้ายหรือเปล่า ?” “ขอบคุณนะคะ ^_^” อย่างน้อยการอยู่กับเฮียเฟยก็ทำให้ฉันยิ้มได้“จะเปิดโอกาสให้เฮีย ?” เฮียเฟยเลิกคิ้วถาม แววตาคู่นั้นดูมีความหวัง “แพรขอเวลาก่อนนะคะ”“พูดแบบนี้กำลังให้ความหวังกันอยู่นะ รู้ไหม” “กินข้าวได้แล้วค่ะ อาหารเย็นชืดหมด
อลันมองหน้าฉันนิ่งๆ ไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่เพราะคลับเพิ่งเปิดใหม่ แต่ตามประสาคนชอบเที่ยวมันคงจะเลี่ยงไม่ได้ “เสือกอะไรวะ!!” ผู้ชายที่ขอชนแก้วฉันตวาดถามอลัน “อยากเสือกมึงมีปัญหาอะไรกับกู” “กูมีแน่” ปัก! ผู้ชายคนนั้นทำท่าจะง้างมือต่อยอลันแต่เจออลันซัดหมัดใส่หน้าก่อนจึงเสียการทรงตัวเซเล็กน้อย“มึงรู้ไหมว่ากูลูกใคร พรุ่งนี้กูจะสั่งให้พ่อกูจัดการมึงซะ!!” “แล้วมึงรู้ไหมว่าที่นี่คลับใคร ?” อลันถามกลับ นั่นจึงทำให้ฉันฉุดคิดขึ้นมาได้ อลิชบอกว่าคุณคานส์ให้อลันมาช่วยดูแลคลับ หรือว่าจะเป็นคลับนี้ที่อลันดูแลอยู่เพราะเป็นคลับเปิดใหม่เหมือนกัน “ถอยออกไป” อลันบอกฉันเสียงดุเพราะในตอนนี้ฉันยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้น เพล๊ง!! ฉันเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าผู้ชายคนนั้นหยิบขวดเหล้าบนโต๊ะขึ้นมาฟาดศีรษะอลันจนขวดแตกกระจาย “….อลัน” ฉันเรียกอลันที่ยกมือขึ้นมากุมศีรษะของตัวเองไว้ ตอนนี้เพลงในคลับได้ปิดสนิทก่อนที่ไฟจะเปิดสว่างทุกดวง กาดของคลับพากันวิ่งกรูมาดึงคนที่ก่อเหตุออกไป “ยัยแพรเกิดอะไรขึ้น” มินนี่และขวัญเพิ่งกลับมาจากไปเข้าห้องน้ำ พวกเธอทั้งสองแตกตื่นยิ่งกว่าคนเห็นเหตุการณ์ซะอีก “น…นั่นมันน้องอล
“ถ้านายคิดแบบนั้นก็ได้” ฉันไม่เถียงอะไรทั้งสิ้นปล่อยให้คิดไปแบบนั้นก็ดี “รีบทำแผลสิจะได้รีบกลับไปหาผัวที่ห้อง”“มือไม่มีหรอ ทำเองสิ”“บอกจะทำให้ก็รีบทำ” พูดจบอลันก็เดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาวางลงบนโต๊ะทำงานของเขา ฉันไม่พูดอะไรทำก็ได้เพราะยังไงเขาก็ช่วยฉันจนตัวเองเจ็บตัว ฉันหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาวางไว้ที่โต๊ะตรงโซฟาแล้วหันมาบอกอลัน “มานั่งนี่สิ” อลันเดินมาอย่างเชื่องช้าราวกับกำลังยั่วโมโหฉันอยู่ จากที่รู้สึกทำตัวไม่ถูกตอนนี้มันเริ่มรู้สึกหมั่นไส้เขาแล้วละสิ พออลันนั่งลงบนโซฟาฉันก็เริ่มหยิบอุปกรณ์ทำแผลออกจากกล่องแล้วเริ่มซับเลือดที่ศีรษะให้เขา “นายดูแลคลับนี้แทนคุณคานส์ใช่ไหม” “ถามทำไม” “ฉันจะได้ไม่มาเที่ยวที่นี่อีก” ไม่ใช่การประชดประชันแต่อย่างใด หากฉันรู้ตั้งแต่แรกก็คงไม่มาและเมื่อรู้แล้วก็จะไม่มาอีก “อืม” หลังจากที่อลันตอบแล้วบรรยากาศภายในห้องก็เงียบสงัดไร้บทสนทนาใดๆ ฉันตั้งใจทำแผลส่วนอลันก็นั่งนิ่งๆ “เอาเสื้อผ้าทิ้งไปหรือยัง” เงียบไปครู่ใหญ่อลันก็เป็นฝ่ายถามขึ้นมาก่อน “นายบอกให้ฉันทิ้งแล้วฉันจะเก็บไว้ทำไม” จริงๆ ยังไม่ได้เอาทิ้งหรอก แค่พูดไปเพราะไม่อยากให้เขาคิดว่าฉันยังลื
ตอนจากกันฉันใจแข็งไม่ยอมเขาแต่พอกลับมาเจอกันวันนี้ฉันกลับโหยหาสัมผัสนั้น….ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ ฉันดันอลันออกก่อนจะตั้งคำถาม “ที่บอกว่าคิดถึงหมายถึงฉันหรือร่างกาย” “……” อลันเอาแต่มองหน้าฉันเงียบๆ “คิดถึงฉันแค่เวลาไม่มีใครงั้นหรอ ไม่สิ! แค่เวลาที่ไม่มีผู้หญิงมานอนค้างด้วย” ฉันอ่อนแอจริงๆ ตอนนี้ แต่อ่อนแอขนาดนี้แล้วก็ยังยืนอยู่ตรงหน้าเขา “เลิกถาม” อลันบอกเสียงเรียบก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาอีกครั้ง “มันจะจบได้ยังไงถ้าเรายังวนกลับมาทำแบบเดิม อื้อ~” เป็นอีกครั้งที่ริมฝีปากหนากดทับลงมาบนริมฝีปากของฉันเพื่อให้หยุดพูด ลิ้นสากของอลันสอดเข้ามาในโพลงปากของฉันแล้วควานสำรวจไปทั่วพร้อมทั้งพยายามจะตวัดเกี่ยวพันกับลิ้นของฉัน ฉันค่อยๆ ปล่อยให้หยดน้ำตามันไหลลงอาบแก้มเพราะความรู้สึกที่มันสับสนกับการกระทำของอลันในวันนี้ เขาอ่อนโยนต่างจากวันนั้นที่เราจบกัน อลันถอนจูบออกแล้วมองใบหน้าของฉันนิ่งๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาออกจากแก้มให้อย่างแผ่วเบา แต่นั้นมันกลับทำให้น้ำตามันไหลลงมามากกว่าเดิม จากที่คิดว่าจะลืมให้ได้….แต่ในเวลานี้ฉันต้องการเขามากที่สุด “…นายทำร้ายฉันทำไม ตบหัวแล้วลูบหลังงั้นหรอ” “ยอมหรื
ยังไม่ทันที่พ่อจะได้พูดอะไรปลายสายก็มีเสียงพูดแว่วๆ มาว่าถึงเวลาเข้าประชุมพ่อจึงกดตัดสายไปฉันเอาแต่คิดมากกับคำพูดของพ่อ มันเป็นไปได้สองอย่างคือหนึ่งพ่อสั่งให้ลูกน้องคอยตามดูฉันกับอลันแบบที่เคยทำ กับข้อที่สองคือวันนั้นสิ่งที่พ่อคุยกับอลันมันไม่ใช่อย่างที่เขาบอกฉัน หรือความจริงแล้วพ่อจะบังคับให้อลันเลิกกับฉัน แต่สิ่งที่อลันทำ เขาบอกว่าเบื่อ เขามีคนอื่น….เขาทำมันจริงๆ ถ้าหากเป็นเพราะพ่อบังคับเขาต้องทำให้ฉันเจ็บปวดขนาดนี้เลยหรือไง เฮ้อ…. ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วสะบัดความคิดมากมายออกจากหัว ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องนอนล้มตัวลงนอนบนเตียง สัมผัสจากอลันวันนี้ทำให้ฉันเคลิ้มจนเผลอยกมือขึ่นมาแตะบนริมฝีปากของตัวเอง มันทั้งรักและเกลียดในเวลาเดียวกัน เมื่อความรู้อึดอัดเหล่านี้จะหายไปสักที ฉันไม่น่าเผลอตัวเลยจริงๆ…. เช้าวันต่อมาฉันตื่นขึ้นมาด้วยความคิดที่ฟุ้งซ่านในหัวเหมือนเดิม คำพูดของพ่อยังวนเวียนในหัวจนไม่สามารถลบมันออกไปได้ ฉันจึงตัดสินใจโทรไปหาพ่อ ( โทรมาทำไมดึกดื่นพ่อกำลังจะนอน )พอรับสายพ่อก็บ่นเล็กน้อย“ที่ไทยเช้าแล้วค่ะ”( มีธุระอะไรค่อยคุย ตอนนี้พ่อขอนอนก่อน )“หนูคุยไม่นานหรอกค่
5 เดือนผ่านไป ชีวิตหลังแต่งงาน “ทำให้มันดีๆ หน่อยสิอลัน” “ก็ทำดีๆ อยู่นี่ไง” “แล้วนายเอาหมูไปผัดแบบนั้นได้ยังไง ทำไมไม่ผัดหมูก่อน”“แล้วทำไมไม่บอกก่อนก็รู้ว่าทำอาหารไม่เป็น”“ทำไม่เป็นก็ถอยไปฉันจะทำเอง”“ไม่ต้องยุ่งออกไปนั่งรอเลยไป” ฉันมองสามีของตัวเองทำอาหารด้วยความเหนื่อยใจ ทำไม่เป็นยังจะเสนอตัวอวดเก่งอยากจะโชว์ฝีมือ ชีวิตคู่ของเราไม่ได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่ได้รักกันจนหวานชื่น เรามีปากเสียงกันในบางครั้งไม่เข้าใจกันบ้าง แต่ความรักที่มีให้กันมันก็ยังคงอยู่และเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ฉันว่ามันคงเป็นธรรมดาของชีวิตคู่ จะให้รักกันปานจะกลืนกินคงไม่ใช่ คนที่อยู่ด้วยกันการทะเลาะและปรับความเข้าใจเป็นเรื่องปกติ “เสร็จแล้วครับคุณเมีย ^_^” อลันถือจานอาหารที่ตัวเองทำมาวางไว้ที่โต๊ะด้วยสีหน้าที่ปลื้มอกปลื้มใจกับฝีมือตัวเอง “ผัดผักยังไงให้ผักไม่สุก แบบนี้จะกินยังไง” “ผักต้องสุก ?” เขาถามอย่างกับไม่เคยกินผัดผักมาก่อนในชีวิตถึงไม่รู้ว่ามันต้องสุกประมาณไหน “ถ้าลูกคลอดออกมาฉันคงไม่ไว้ใจให้นายทำอาหารให้ลูกกินแน่ๆ” “ของแบบนี้มันพัฒนากันได้ ตอนนี้ทำไม่เป็นอีกสิบปีข้างหน้าอาจจะได้เป็นเชฟกระทะเหล็กก็ไ
#บ้านของฉันฉันกับอลันมาที่บ้านด้วยกันเพื่อจะมาบอกพ่อว่าเรากำลังจะมีลูก ก่อนมาเขาได้โทรบอกพ่อกำนันแล้วเห็นว่าดีใจยกใหญ่เลย พรุ่งนี้คงจะขึ้นมากรุงเทพมาคุยเรื่องงานแต่ง “จะมาทำไมไม่บอกก่อนจะได้ให้คนจัดเตรียมอาหารเพิ่ม” พอพ่อเห็นอลันเดินมาพร้อมกับฉันก็รีบท้วงทันที ถึงก่อนหน้านี้จะใจร้ายไปบ้างแต่ตอนนี้พ่อตากับลูกเขยเริ่มเข้ากันได้แล้วนะ “หนูมีเรื่องสำคัญจะบอกพ่อค่ะ ^_^” ฉันยิ้มให้พ่อแล้วก็หันมายิ้มให้อลัน จากนั้นเราสามคนก็พากันเดินมาที่ห้องขับแขก“มีอะไรทำไมถึงต้องคุยเป็นทางการขนาดนี้ ?” พ่อถาม “พ่ออยากมีหลานคือเปล่าคะ” “อยากสิ พ่อแก่แล้วอยากจะรีบอุ้มหลานเร็วๆ” “งั้นคุณลุงก็สมหวังแล้วครับ” อลันพูดแทรก “หมายความว่ายังไง ?” พ่อขมวดคิ้วมองเราทั้งคู่สลับกัน ฉันคลี่ยิ้มก่อนจะตอบ “หนูท้องค่ะ ^_^” พอบอกว่าท้องพ่อก็เงียบไปเหมือนตกใจ ทำเอาฉันใจหาย ไหนบอกว่าอยากอุ้มหลานเร็วๆ ไง ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น“คุณลุงไม่ดีใจหรอครับ” อลันรีบถามเพราะเห็นพ่อเงียบไป “ลง ลุงอะไรกัน เรียกพ่อได้แล้วไอ้ลูกเขย” พ่อพูดออกมาพร้อใกับรอยยิ้มบนใบหน้า ทำเอาฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกนึกว่าพ่อจะเสียใจซะอีก อีกหนึ่งเรื่องร
โรงพยาบาลตอนนี้ฉันกับอลันอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนอลิชเธอกลับไปที่บ้านแล้วเพราะต้องไปดูลูก ทั้งฉันและอลันได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดทั้งคู่ แต่ที่ต่างออกไปคือหมอให้ฉันตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ ตอนนี้เรากำลังนั่งรอผลตรวจอยู่อาการของอลันดีขึ้น ตอนนี้เขานั่งจนแทบจะสิงร่างฉันอยู่แล้ว “ขยับไปหน่อยได้ไหม ดูสิคนมองเยอะเลยนะ” ฉันกระซิบบอกอลัน “ขยับออกก็อ้วก จะเอาแบบนั้นไหมล่ะ” “แล้วอยู่ใกล้ฉันไม่อยากอ้วกหรือไง” เขาส่ายหน้าแทนคำตอบ ถึงอาการของเขาจะดีขึ้นแต่ร่างกายยังอิดโรย ไม่นานเท่าไหร่คุณหมอก็เรียกให้เราสองคนไปฟังผลตรวจ “ผลตรวจของคุณผู้ชายเป็นปกติดีนะคะ” “แต่เขาทั้งเวียนหัวทั้งอ้วกเลยนะคะคุณหมอ” ฉันรีบพูดแย้งขึ้นทันที “คงจะเป็นอาการแพ้ท้องแทนภรรยาค่ะ ยินดีด้วยนะคะตอนนี้คุณกำลังตั้งครรภ์ ^_^” หมอพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่คำพูดนั้นยังวนอยู่ในหัวของฉัน ยินดีด้วยนะคะคุณกำลังตั้งครรภ์ มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเราไม่เคยพลาด อลันปล่อยนอกหรือไม่ก็ใส่ถุงยางอนามัยตลอด ตอนนั้นที่ปล่อยในฉันก็กินนาคุมฉุกเฉินแล้ว คิดไม่ออกเลยว่าจะท้องได้ยังไง “จริงหรอครับคุณหมอ ผมกำลังจะมีลูกหรอคร
อลันเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งที่ยังเอามือปิดจมูกอยู่ เขาทำท่าเหมือนขยะแขยงอาหารที่ฉันเตรียมให้มากๆ มันรู้สึกเฟลนิดๆ นะ อุตส่าห์ตั้งใจเตรียมให้แท้ๆ “ไปหาหมอไหม”“ไม่เป็นไรแค่เวียนหัวนิดหน่อย” ฉันเดินมาหาอลันแล้วยกมือขึ้นทาบบนหน้าผากของเขาเพื่อเช็คว่าตัวร้อนหรือเปล่า “ตัวก็ไม่ร้อนนี่ ทำไมจู่ๆ ถึงเป็นแบบนี้ล่ะ ฉันว่าไปหาหมอดีกว่านะอลัน”อลันสวมกอดฉันเอาไว้แน่นแล้วบอกด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “แค่กอดเมียแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หาย” แปะ! ฉันฟาดมือลงบนแขนของอลันเบาๆ แล้วพูดค้อน “ฉันเป็นห่วงนะยังจะมาพูดเล่นอีก”“ไม่ได้พูดเล่นมันดีขึ้นจริงๆ นะ” พูดจับอลันก็เอาใบหน้ามาซุกลงบนซอกคอของฉัน “หอมจัง” “…นายคงกินไม่ได้แล้วใช่ไหมฉันจะได้เก็บ” ฉันถามเสียงเศร้า “มันเหม็น” อลันพูดกระซิบบอกที่หูเสียงเบา “อยากกินเมียแทนข้าว” ฝ่ามือสากเริ่มเลื้อยไปมาเป็นปลาหมึก ริมฝีปากหนาพรมจูบไปจนทั่วซอกคอของฉันก่อนจะขยับขึ้นมาที่พวงแก้มและประกบจูบที่ริมฝีปาก “อืม~” เสียงครางในลำคออย่างพึงพอใจของอลันทำให้ฉันรู้สึกวาบหวิว แควก! เสียงนี้คือเสียงชุดซีทรูตัวบางของฉันถูกฉีกอย่างไร้ความปรานี “อลัน!!” ฉันดันตัวออกแล้วจ้องอลันเขม็ง เข
วันต่อมา หลังจากที่อลันเลิกเรียนเราก็มาเจอเฮียเฟย นัดเจอกันที่ร้านอาหารในห้าง ฉันโทรนัดเฮียเอาไว้แล้ว #ภายในร้านอาหาร “เฮียสั่งจะกินอะไรไหมคะเดี๋ยวแพรสั่งให้” ฉันรีบถามเมื่อเฮียเฟยมาถึง มันรู้สึกเกร็งเอามากๆ สาเหตุก็เพราะอลันที่เอาแต่จ้องมองตลอดเวลา “ไม่เป็นไรเดี๋ยวเฮียต้องเข้าบริษัทไปกินที่บริษัทก็ได้”“งานยุ่งหรอคะช่วงนี้”“ก็….”“มีอะไรจะพูดก็รีบๆ พูด เอาแต่เนื้อ น้ำไม่ต้อง” อลันพูดแทรกขึ้นมาอย่างเสียมารยาท ฉันจึงหันมามองค้อนเขาด้วยสายตาที่ตำหนิ แต่เขาก็ทำท่าเหมือนทองไม่รู้ร้อน“ทีหลังถ้าจะนัดคุยมาคนเดียวดีกว่านะ แฟนแพรคงไม่สะดวก” เฮียเฟยบอก “ถ้าคุยสองต่อสองคงไม่ปล่อยให้มา” อบันตอบกลับทันควัน “นายช่วยอยู่เงียบๆ ได้ไหมอลัน” ฉันบอกเขาเสียงดุ ใจคอจะหาเรื่องให้ได้เลยหรือไง “แพรขอโทษแทนอลันด้วยนะคะ”“ไม่เป็นไรเฮียเข้าใจ แฟนแพรยังเด็ก….”“เด็กแล้วยังไง ?” เป็นอีกครั้งที่อลันถามอย่างไม่สบอารมณ์ “อลัน!!” ฉันจ้องเขาเขม็งจึงยอมปิดปากเงียบ มันน่าดีดหน้าผากแรงๆ สักทีให้เข็ดหลาบ “ที่นัดมาวันนี้แพรอยากจะมาขอโทษที่เคยพูดให้ความหวังเฮีย อยากขอโทษที่เคยดึงเฮียเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งที่แพรไม่ไ
ทางผู้ใหญ่พูดคุยกันครั้งนี้พ่อฉันยินยอมไม่ได้ขัดอย่างที่เคยลั่นวาจาเอาไว้ คุณคานส์สามีของอลิชเสนอตัวจะออกค่าใช้จ่าย ส่วนค่าสินสอดวันแต่งพ่อของอลันจะเป็นคนออกเอง โดยงานหมั้นจะจัดหลังจากที่มหาวิทยาลัยของอลันปิดเทอม ซึ่งก็คืออีกไม่นานนี้แล้ว หลังจากคุยธุระเสร็จเรียบร้อยเราก็นั่งกินข้าวด้วยกัน ฉันเองก็ยังเกร็งไม่หาย แต่ก็ดีใจที่พ่อของอลันเอ็นดูฉันมากขนาดนี้ ตอนนี้ฉันกำลังเดินเล่นกับอลิชอยู่ที่สนามหน้าบ้าน ส่วนพ่อฉันกับพ่อของอลันคุยกันเรื่องธุรกิจ พ่อของอลันสนใจอยากจะเปิดธุรกิจเล็กๆ ที่บ้านต่างจังหวัดเลยขอคำปรึกษากับพ่อ ดีใจที่ทั้งสองคุยกันถูกคอ “แกไม่กลับบ้านพร้อมสามีหรออลิช” ที่ถามแบบนี้ก็เพราะว่าฉันเห็นคุณคานส์กลับไปก่อนแล้ว “ฉันกลับพร้อมพ่อน่ะ คุณคานส์รีบไปดูลูก” “สามีดีเด่นนะเนี่ย” “แกก็เถอะ ดีใจด้วยนะ รู้ไหมฉันแทบจะกรี๊ดลั่นบ้านตอนที่รู้ว่าอลันจะจอแกหมั้น” อลิชดีใจจนออกนอกหน้า “แกไม่ห้ามน้องหน่อยหรอ หมั้นทั้งๆ ที่ยังเรียนไม่จบ” “แพร อลันเป็นผู้ชายไม่มีอะไรเสียหายหรอกนะ ดีซะอีกน้องฉันตั้งใจทำงานมากๆ แถมยังไปเรียนทุกวัน ฉันละนับถือแกจริงๆ เลยที่เอาอลันอยู่หมัดขนาดนี้” “พี่อลิช
วันต่อมา เป็นอีกวันที่ฉันอยากจะไปดูร้านของตัวเองแต่พ่อห้ามเอาไว้ บอกเหตุผลว่าตั้งแต่แม่เสียพ่อทำแต่งานไม่มีเวลาให้ฉันเลย วันนี้จึงอยากให้เราอยู่ด้วยกัน ตอนนี้ฉันกับพ่อกำลังนั่งอยู่ที่สวนหลังบ้าน สวนนี้แม่เป็นคนอยากได้พ่อก็ตามใจแม่ทุกอย่าง “พ่อสัญญากับแม่เอาไว้ว่าจะดูแลลูกสาวคนเดียวของเราให้ดีที่สุด” พ่อพูดพร้อมกับสายตาที่มองไปยังสวนดอกไม้ต้นไม้ “ลูกโกรธหรือเปล่าที่ก่อนหน้านี้พ่อเคยห้ามไม่ให้รักกับผู้ชายที่ลูกเลือก” “โกรธสิคะ หนูโกรธพ่อมากที่ไม่ยอมฟังอะไรเอาแต่ยึดติดเรื่องฐานะ” “ถึงตอนนี้พ่อเริ่มเข้าใจแล้วว่าฐานะมันไม่สำคัญขนาดนั้น” ฉันยิ้มหวานให้พ่อ “ขอบคุณนะคะที่เปิดโอกาสให้อลัน” “ถ้าลูกรักมันมากขนาดนี้มันคงจะมีอะไรดีบ้างนั่นแหละ ไม่อยากนั้นลูกสาวของพ่อคงไม่หลงหัวปักหัวปำ” “หนูไม่ได้หลงขนาดนั้นสักหน่อย” “ไอ้เรื่องแข่งรถก็บอกเตือนให้เบาลงบ้าง จะดูแลลูกสาวของพ่อได้ยังไงถ้ายังเอาชีวิตไปเสี่ยงอันตรายอยู่แบบนั้น”“ตอนนี้เขาไม่ค่อยได้แข่งแล้วค่ะเพราะต้องดูแลคลับ”“ส่วนเรื่องตาบาสพ่อมองคนผิดไปจริงๆ ตอนนี้พ่อก็ยังรู้สึกผิดที่เคยบังคับลูก” “มันผ่านไปแล้วพ่ออย่าคิดมากเลยนะคะ ตอนนี้บา
#ภายในห้องทำงาน อลันเหวี่ยงร่างของฉันให้กระแทกกับโซฟาตัวใหญ่แรงๆ ไร้คำว่าปราณี ขนาดเป็นแฟนกันนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่ไม่ใช่สถานะแฟนฉันไม่เจอบีบคอตายเลยหรอ แต่ถึงจะเจอเหวี่ยงกระแทกโซฟาแบบนี้ฉันก็ยังยิ้มหวานให้อลัน “วันนี้แฟนฉันหล่อเป็นพิเศษเลยนะ ^_^” ฉันลุกขึ้นจากโซฟาเดินมายกมือขึ้นคล้องคออลันแล้วพูดเสียงหวาน สายตาของอลันในตอนนี้กำลังจ้องชุดที่ฉันใส่เขม็งบ่งบอกถึงอารมณ์ไม่พอใจสุดๆ ก่อนที่เขาจะแกะมือฉันออกจากต้นคอ “อะไรกันจับนิดจับหน่อยก็ไม่ได้” “ทำไมถึงใส่ชุดแบบนี้มา” เขาถามเสียงเข้ม “รู้ใช่ไหมว่าไม่ชอบ รู้ใช่ไหมว่าถ้าเห็นใส่แล้วจะเป็นยังไง” “รู้สิ ^_^” “แล้วใส่มาทำไมวะห๊ะ!! ชอบให้โมโหว่างั้น ?”“ก็นายน่ะโกรธอะไรก็ไม่รู้ไร้สาระ ก็แค่ไปคุยกับพ่อเรื่องหมั้นเอง พอฉันตอบตกลงก็กล่าวหาว่าประชด”เขาไม่โต้ตอบอะไรแต่กลับพ่นลมหายใจร้อนผ่าวออกมาแรงๆ “สรุปจะไปคุยกับพ่อนายเรื่องหมั้นหรือเปล่า ?”“ไม่ไป!! ไม่อยากหมั้นก็ไม่ต้องไป ก็ดีแยกกันอยู่อิสระดี ชอบไม่ใช่ ? ได้แต่งตัวโป๊ๆ โชว์ผู้ชายไปทั่ว” “พูดอะไรออกมารู้ตัวไหมอลัน!! นายกำลังดูถูกฉันอยู่นะ” จากที่อารมณ์ดีพอได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของอลันมัน
“พ่อไม่ห้ามหนูกับอลันแล้วงั้นหรอคะ” ถึงจะรู้สึกผิดแต่ฉันก็ต้องถามย้ำเพื่อความแน่ใจ พ่อพยักหน้าแทนคำตอบ “พ่อจะไม่ใจร้ายกับคนที่หนูรักใช่ไหม” ฉันจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นของพ่อ รับรู้ได้ถึงความเศร้าจากสิ่งที่ฉันเลือกเมื่อครู่ “พ่อจะไม่ขัดขวางความรักของลูกอีก ขอให้ลูกมั่นใจพ่อพูดคำไหนคำนั้น”ฉันยิ้มออกมาก่อนจะโผล่เข้ากอดพ่อแน่น เป็นอีกครั้งที่ความรู้สึกอึดอัดในใจได้ปลดล็อก ในที่สุดพ่อก็ลดคติลงได้ “ขอบคุณที่ให้โอกาสผมได้รักกับลูกสาวของคุณลุงนะครับ” อลันพูดขึ้นพ่อจึงค่อยๆ ผละกอดออกแล้วเพ่งสายตามองอลันแทน “ถึงฉันจะไม่เต็มใจแต่ลูกสาวของฉันเลือกแล้ว อย่าทำให้ผิดหวังก็แล้วกัน”“ครับ ผมจะไม่ทำให้คุณลุงผิดหวัง” “หนูไม่อยากให้พ่อคาดหวังอะไรมากมายกับอลันนะคะ” ฉันพูดแทรกขึ้นพ่อจึงตวัดสายตาหันมา “ทำไมลูกถึงพูดแบบนั้น พ่อจะคาดหวังกับผู้ชายที่ลูกเลือกไม่ได้เลยหรือไง” “ไม่มีใครเป็นอย่างที่หวังได้อย่างสมบูรณ์แบบหรอกนะคะ ไม่เว้นแม้แต่หนูที่เป็นลูกสาวของพ่อ” “…….” พ่อถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบศีรษะของฉัน “หนูอยากให้พ่อเปิดใจให้อลันจริงๆ อย่างที่หนูเปิดใจให้เขานะคะ ถ้าแม่ยังอยู่หนูเชื่