Talk มิลินถ้าพี่ลีวายจะเรียกพริตตี้มาดูแลจริง ๆ ฉันก็คงห้ามอะไรไม่ได้และจะทำเป็นมองไม่เห็นก็แล้วกัน เขาอยากทำอะไรมันก็เรื่องของเขา#กลับมาที่คอนโดอย่างที่บอกเอาไว้ว่าวันนี้ไม่ได้อยู่เฝ้าเพราะพี่ลีวายบอกเอาไว้ว่าถ้าไม่เต็มใจก็ให้กลับ แต่เหมือนคนที่บอกจะไม่อยากให้กลับสักเท่าไร คงอยากใช้ให้ฉันทำนู่นทำนี่พอไม่ได้ดั่งใจก็ต่อว่าหาเรื่องจริง ๆ ก็แอบรู้สึกผิดที่ผิดคำสัญญากับคุณท่านแต่ทำไงได้…@วันต่อมาวันนี้ฉันไม่มีเรียนจึงไม่ได้ออกไปไหนได้แต่นั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ที่ห้องและโทรถามป้านาถึงอาการป่วยของพี่ลีวาย ไม่ใช่เพราะห่วงหรืออะไรเพราะกลัวว่าเขาจะตามตัวให้ไปเฝ้าอีก ซึ่งฉันไม่อยากไป พอป้านาบอกว่าพี่ลีวายดีขึ้นแล้วก็โล่งใจ#ตกเย็นตอนนี้ฉันกำลังคิดว่าควรจะไปคลับดีไหมเพราะอยู่ห้องมาทั้งวันมันเบื่อจนไม่รู้จะทำอะไรแล้ว“อยากชวนน้ำอิงไปเที่ยวด้วยกันจัง แต่เธอคงไม่ว่างไปด้วย หรือฉันจะโทรไปขออนุญาตกับพี่เฟยดีนะ”“ไม่เอาดีกว่า ไปคนเดียวก็ได้”ฉันพูดกับตัวเองราวกับคนบ้าก่อนจะหยิบผ้าขนหนูเดินเข้ามาในห้องน้ำ ใช้เวลานานนับชั่วโมงในการอาบน้ำแต่งตัว@คลับฉันเลือกมาคลับของพี่ลีวายที่หุ้นกับเพื่อน ๆ ของเ
ผมมองไอ้คัลเลนอย่างไม่ชอบใจก่อนจะกลับมานั่งดื่มที่โต๊ะ“ไม่ดูต่อ ระวังมีหนุ่มมาจีบนะ” มันพูดแซว แต่ผมก็ยังนิ่ง และทำเหมือนไม่ใส่ใจ “มึงช่วยหุบปากหรือไปไกล ๆ ได้ไหมไอ้คัลเลน!!”“สารภาพกับน้องไปเถอะว่ามึงรู้สึกยังไง”“ไอ้คัลเลน!!!”“เออ ๆ กูจะเงียบ มึงคิดเอาเองก็แล้วกัน”ผมพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ ก่อนจะหันมองไปที่ชั้นล่าง แปลกที่ผู้คนมากมายจนล้นคลับแต่สายตาของผมกลับโฟกัสแค่เธอคนเดียวหรือว่าจะเป็นอย่างที่ไอ้คัลเลนบอก ผมชอบเธออย่างนั้นเหรอวะ!! เป็นไปได้ยังไง“จู่ ๆ เหยื่อก็มาหากูถึงที่”“อะไรของมึง?” ผมมองหน้าไอ้คัลเลนที่กำลังเพ่งสายตามองใครสักคนที่ชั้นล่าง“น้องสาวไอ้เรย์”“เธอมา?”“อืม ไม่คิดว่ามันจะปล่อยให้น้องสาวมาที่นี่”ผมเองก็ไม่คิดว่าคนอย่างไอ้เรย์ที่หวงน้องสาวอย่างกับไข่ในหินจะปล่อยให้น้องมันมาโผล่ที่คลับของพวกผมได้ แบบนี้คงเข้าทางไอ้คัลเลน“แล้วมึงจะทำยังไง?”“น้องสาวมันสวยใช่เล่น กูว่าจะไปทักทายสักหน่อย”“แค่ทักทาย?”ไอ้คัลเลนไหวไหล่อย่างรู้กันกับผม คนอย่างมันคงไม่ใช่แค่ทักทายเพราะในหัวมันคิดเรื่องชั่วมากกว่านั้น“เธอโชคร้ายจริง ๆ ที่เกิดมาเป็นน้องสาวของคนที่ฉันเกลียด” พูด
พี่ลีวายจ้องหน้าฉันครู่หนึ่งก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาแล้วตอบ “ทำไมฉันจะไม่มีหัวใจ”“อ๋อลืมไป พี่ลีวายเคยบอกว่าตัวเองมีหัวใจ แต่ไม่มีพื้นที่ให้กับมิลิน จำได้แล้วค่ะ” ฉันไม่คิดว่าการเอ่ยคำที่พี่ลีวายเลยพูดนั้นเป็นการตอกย้ำตัวเอง จะได้เตือนต่างหากว่าเขาเคยเป็นยังไง“ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว อย่าทำเป็นดูไม่ออก”“นี่เรียกว่าเปลี่ยนแล้วเหรอคะ มิลินไม่เห็นจะรู้สึกเลย”“… เธอก็แค่ปฏิเสธทั้งที่รู้สึก”“จะบังคับให้มิลินรู้สึกให้ได้เลยใช่ไหมคะ” พี่ลีวายขบกรามแน่นก่อนจะก้าวขามาข้างหน้าฉันจึงรีบถอยหนีทันทีเพื่อเว้นระยะห่าง ก่อนจะบอก “อ๋อมิลินรู้แล้ว ที่ต้องแกล้งทำเป็นรู้สึกเพราะไม่อยากไปฮ่องกงใช่ไหมคะ”“เกี่ยวอะไรกับเรื่องนั้น?” พี่ลีวายขมวดคิ้วถาม“ก็เพราะพี่ลีวายคงอยากให้มิลินไปคุยกับคุณท่านให้”“… ถ้าฉันไม่อยากไป เธอคิดว่าใครจะบังคับได้?”“ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปสิ”“ตอนนี้ฉันไม่อยากไปแล้ว… เพราะเธอ” จู่ ๆ บทสนทนาก็เปลี่ยนไป คำตอบของพี่ลีวายทำให้ฉันหยุดชะงักและถอยหนีเขาจนติดกำแพง“เกี่ยวอะไรกับมิลิน ไม่ได้ห้ามสักหน่อย!!”“เพราะฉันคิดว่าตอนนี้ตัวเองกำลังรู้สึกบางอย่างกับเธอ”“…” พี่ลีวายเดินม
หมับ!!! อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงรถอยู่แล้วแต่พี่ลีวายกลับคว้ามือมารั้งแขนฉันไว้ได้ทันซะก่อน ทำให้ต้องถอนหายใจพรืดใหญ่อย่างหงุดหงิด“ปล่อย” ฉันพูดเน้นคำให้ฟังชัด ๆ ด้วยสีหน้าที่จริงจัง ไม่รู้ว่าผีอะไรเข้าสิงคนตรงหน้าถึงได้เหมือนเปลี่ยนไปราวกับคนละคนที่เคยรู้จัก“คุยกันดี ๆ สักครั้งได้ไหม”“คุยกันในฐานะอะไรเหรอคะ”“ผัวเมีย”พี่ลีวายเอ่ยคำนั้นออกมาหน้าตาเฉยทำให้ฉันถึงกับต้องถอนหายใจออกมาอีกครั้ง นี่ฉันแสดงออกไม่ชัดเจนหรอว่าในตอนนี้ไม่ได้รู้สึกดีอะไรกับคำพูดเหล่านั้นอีกแล้วพี่ลีวายถึงดูไม่ออก“พ่อบอกฉันเรื่องแม่ของเธอแล้ว”“เรื่องแม่เหรอคะ?”“อืม เป็นฉันที่เข้าใจผิดมาตลอด แต่จริง ๆ ก็ไม่ใช่ความผิดของฉันทั้งหมดเพราะพ่อไม่เคยอธิบายอะไรเลยต่างหาก”ให้ตายสิ มันเกือบจะดีอยู่แล้วเชียวแต่ก็อย่างว่าพี่ลีวายไม่เคยโทษตัวเองสักครั้ง จริง ๆ ฉันเองก็สงสัยว่าเรื่องของแม่คือยังไงแต่ไม่อยากถามเพราะไม่อยากพูดยืดเยื้อ“กลับไปกับฉันแล้วคุยกันดี ๆ ได้ไหม?” ไม่รู้ว่าสายตาของฉันมองผิดไปหรือเปล่าที่ตอนนี้สายตาคู่นั้นของพี่ลีวายกำลังอ้อนวอนคำตอบจากฉันอยู่“คุยดี ๆ บนเตียงน่ะเหรอคะ คิดเหรอว่ามิลินรู้ไม่ทัน”“ไ
พี่ลีวายคงเห็นว่าฉันกำลังอึ้งกับสิ่งที่เขาพูดก็เลยเอ่ยต่อ แต่นั่นก็ยังทำให้แปลกใจอยู่ดี“ทุกอย่างที่บอกไปฉันพูดมาจากความรู้สึกจริง ๆ”“ขอถามหน่อยได้ไหมคะว่ามิลินจะเชื่อพี่ลีวายได้ยังไง” พอพูดจบพี่ลีวายก็รีบเอ่ยแทรก “เชื่อได้”“มิลินไม่รู้เลยว่าพี่ลีวายมีแผนอะไรในใจหรือเปล่า”“นี่เธอเห็นฉันเป็นคนยังไง”“คนชั่ว นิสัยไม่ดี มิลินเห็นพี่ลีวายเป็นคนแบบนั้นค่ะ” ฉันบอกไปตามสิ่งที่ตัวเองเห็นและรับรู้ได้มาตลอด แต่เหมือนพี่ลีวายจะไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองนั้นร้ายขนาดไหน“ยอมรับว่าตอนนั้นฉันทำไปทั้งหมดเพราะเกลียดเธอและแม่ของเธอ”“…” ฉัยเงียบเพื่อให้พี่ลีวายได้พูด“ฉันคิดมาตลอดว่าแม่ของเธออยากจะแย่งพ่อไปจากแม่ อยากจะมาแทนที่แม่ของฉัน และเธอก็คงอยากจะเอาทุก ๆ อย่างจากพ่อฉัน”“แล้วทำไมถึงเปลี่ยนความคิดคะ บางทีมิลินอาจจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ก็ได้”“เพราะเธอทำให้ฉันเปลี่ยน”“ไม่ค่ะ มิลินไม่เคยทำสำเร็จ และตอนนี้ต่อให้พี่ลีวายเปลี่ยนไปแล้ว ก็จงรู้ไว้ว่ามิลินก็เปลี่ยนไปเหมือนกัน”“แล้วถ้าฉันสามารถทำให้เธอกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้?”“ไม่อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิมหรอกค่ะ มิลินเหนื่อย”“เมื่อก่อนเธอยังรักฉันได้
พี่ลีวายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะปล่อยตัวฉันให้เป็นอิสระ แล้วเดินออกมาจากห้องนอน ทำให้ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะคิดว่าเขาคงยอมกลับไปแล้วแต่!! ทว่าร่างสูงกลับเดินไปนั่งที่โซฟาไม่มีท่าทีว่าจะกลับไปอย่างที่คิดเอาไว้“ไม่กลับเหรอคะ?” ฉันถาม“ดึกแล้วขับรถตอนนี้มันอันตราย” พี่ลีวายใช้ข้ออ้าง ทำให้ฉันถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ “นั่งแกรปกลับไปสิคะ”“ไม่ชอบนั่งรถกับคนแปลกหน้า”“ถ้าอย่างนั้นก็เรียกลูกน้องมารับ”“พวกมันคงนอนกันหมดแล้ว จะไปรบกวนทำไม”ไม่อยากจะคิดว่าคนอย่างพี่ลีวายจะสนใจเวลานอนของลูกน้องด้วย คิดว่าฉันคงดูไม่ออกทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาต้องการจะนอนที่นี่ถึงได้อ้างสารพัด“จำไว้เลยนะคะว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่มิลินจะยอมให้พี่ลีวายเข้ามาในห้อง” ฉันบอกอย่างไม่พอใจ ก่อนจะพูดต่อด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด “ถ้าอย่างนั้นก็เชิญนอนบนโซฟาไปเลยนะคะ”“จะนอนแล้วเหรอ” พี่ลีวายถาม“ทำไมอีกคะ!!”“เปล่า… แค่จะบอกฝันดี… แค่นี้ทำไมต้องหงุดหงิด”ฉันเลือกที่จะหันหลังเดินเข้าห้องนอนโดยไม่ตอบอะไรเพราะรู้สึกเบื่อหน่ายกับการพูดคุย เพราะมันยืดเยื้อเกินไปแล้วจริง ๆ ฉันไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ ไม่อยากให้พี่ลีวายมานอ
เมื่อเห็นว่าเป็นพี่ลีวายที่มาขวางรถเอาไว้แทนก็หันมามองฉัน ก่อนจะพูด “มีปัญหาอะไรกันก็ไปเคลียร์ก่อนดีไหมครับ”“พี่เคลียร์ไปแล้วแต่เขาไม่จบเอง”“เขาโกรธที่พี่มิลินให้ผมมารับหรือเปล่า”ปัก!!! ฝ่ามือหนาของพี่ลีวายทุบมาบนหน้ากระโปรงรถของแทนขนาดอยู่ด้านในยังเสียงดังสนั่นทำให้ฉันสะดุ้งโหยง“ขอโทษนะแทนที่พี่ทำให้เดือดร้อนอีกแล้ว ไม่คิดว่าเขาจะตามมาแบบนี้” ฉันบอกแทนด้วยใบหน้าที่ซีดเผือดเพราะดึงเขามาเกี่ยวในเรื่องที่ไม่ควร น่าจะคิดให้รอบคอบกว่านี้หน่อย“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิผมไม่โกรธเลยนะครับ”ถึงจะได้ยินแบบนั้นแต่ก็ยังแอบรู้สึกผิดอยู่ดี แต่ทว่าก็ต้องตกใจสะดุ้งโหยงอีกครั้งเมื่อฝ่ามือหนาของพี่ลีวายฟาดลงมาบนกระโปรงรถอีกครั้งที่สอง“ลงไปเคลียร์กับเขาเถอะครับ ผมไม่อยากยุ่ง”“แทน…” ฉันเรียกชื่อแทนพร้อมถอนหายใจออกมาเบา ๆ กลัวเขาจะโกรธเพราะฉันเห็นแทนเป็นน้องชายคนสนิทคนนึงเลย ไม่ได้ตั้งใจจะให้มาเจอเหตุการณ์แบบนี้ด้วย“ผมมีเรียนเช้าถ้าเขามาขวางหน้ารถเอาไว้แบบนี้คงไปไม่ทันแน่ ๆ”“โกรธพี่หรือเปล่า”“ไม่หรอกครับ ผมเข้าใจ”ฉันถอนหายใจอีกครั้งแล้วหันมองพี่ลีวายที่อยู่ตรงหน้ารถ ท่าทางที่กำลังหัวเสียพร้อมปะทะ
Talk ลีวาย#คาสิโน“สรุปมึงจะบอกพวกกูได้หรือยังว่าเรียกพวกกูมาทำไม”“เออ!! มึงเงียบอยู่แบบนี้เกือบจะครึ่งชั่วโมงแล้วนะไอ้ลีวาย”ไอ้คัลเลนและไอ้คาแลนถามผมพร้อมจ้องหน้า ความจริงที่เรียกพวกมันมาเพราะมีเรื่องอยากจะปรึกษาแต่ไม่รู้จะเริ่มพูดยังไง กลัวจะถูกล้อหรือผมควรให้พวกมันกลับไปแล้วคิดหาวิธีเองการง้อผู้หญิงทำไมมันถึงยากเย็นขนาดนี้วะ!!“ไอ้ลีวายสรุปมึงจะไม่พูด?”“ถ้าอย่างนั้นพวกกูกลับ!!” มันสองคนทำท่ากำลังจะลุกขึ้นยืน ผมจึงรีบเอ่ยสิ่งที่อึดอัดภายในใจ“กูอยากให้พวกมึงชวยคิดหาวิธีง้อเมีย”เมื่อพูดคำนั้นออกไปมันสองพี่น้องก็นั่งลงพร้อมจ้องหน้าผมด้วยแววตาที่อยากรู้“เมีย?”“ใครวะ?”“นี่มึงอย่าบอกนะว่าเป็นมิลิน”“อืม”“ฮ่า ๆ เสือตัวนี้สิ้นลายแล้วสินะ” ไอ้คาแลนหัวเราะชอบใจ นี่ไงเหตุผลที่ผมถึงไม่อยากปรึกษาอะไรกับพวกแม่ง“อย่าไปล้อมัน ทำกับเขาไว้เยอะไม่แปลกที่มิลินจะให้มึงเป็นหมาหัวเน่า”“จริง! มึงให้กูตัดคลิปน้องตอนนั้น ถ้ากูเป็นมิลินคงไม่กลับมาเจอคนเหี้ย ๆ อย่างมึงอีก”“กูจะขอคำปรึกษาไม่ใช่ให้พวกมึงมาซ้ำเติม”“พวกกูไม่ได้ซ้ำเติม แต่พวกกูพูกความจริง มึงต้องทำใจ เพราะมึงมันเหี้ยไม่แปลกที่มิลิน
วันเวลาผ่านไปเนิ่นนานจนฉันคลอดลูกคนที่สองให้กับคาแลน รอบนี้ได้ลูกสาวเขาดีใจมากเลยนะ เพราะเจ้าตัวได้คนโตเป็นลูกชายสมใจแล้วเจ้าหญิงตัวน้อยวัยหกเดือนของเรามีชื่อว่าเมลร่า ฉันกับคาแลนชอบชื่อลูกมาก ๆ เพราะมันเหมาะกับหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มอย่างลูกสาวฉันที่สุดเผลอแป๊บเดียวมาคัสในก็ได้เป็นพี่ชายคน แถมยังเห่อน้องมากอีกด้วย ถ้ามีโอกาสหรือมีจังหวะมาคัสก็จะคอยช่วยฉันเลี้ยงน้องตลอด“มามี๊น้องตื่นหรือยังครับ” หมอบอกว่ามาคัสฉลาดรอบรู้ และมีพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ที่ดีเยี่ยมฉันปลื้มใจมากที่เห็นลูกเติบโตมาอย่างดี“ยังเลยลูก ไว้รอน้องตื่นแล้วค่อยไปเล่นกับน้องนะ”“ครับ วันนี้มาคัสมีนิทานจะมาเล่าให้น้องฟังด้วย” ได้ยินแบบนั้นคนเป็นแม่อย่างฉันก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้“จริงเหรอครับ มาคัสของมามี๊เก่งที่สุดเลย ขอบคุณนะลูก” ฉันก้มลงกอดลูกชายหัวแก้วหัวแหวนพร้อมกับหอมหัวเบา ๆ หนึ่งที ฉันกับคาแลนมักจะพูดขอบคุณลูกบ่อย ๆ ในเวลาที่เขาทำสิ่งดี ๆ“มาคัสรักน้อง อยากดูแลน้องครับ”“ลงมาได้ยินประโยคนี้ทำเอาปาปี๊ชื่นใจที่สุดเลยลูก” ระหว่างนั้นคาแลนก็เดินลงมาจากชั้นสองพอดี เขากำลังเตรียมตัวไปทำงาน“ปาปี๊~” พอเห็นพ่อเดินลงมามาคั
สามเดือนผ่านไป ฉันกับคาแลนเพิ่งกลับจากโรงพยาบาล วันนี้คุณหมอนัดไปตรวจและอัลตราซาวนด์ดูเพศลูกสภาวะแท้งคุกคามตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ด้วยอายุครรภ์ที่มากขึ้นด้วยไม่ต้องเฝ้าระวังอย่างตอนแรก“ทำหน้าขมวดคิ้วตั้งแต่ออกมาจากโรงพยาบาลแล้วนะคะ เป็นอะไรบอกมิลาหน่อย” ฉันถามสามีที่กำลังทำหน้าเครียดตั้งแต่รู้เพศลูก “เฮียไม่อยากให้ลูกเราเป็นผู้หญิงเหรอคะ”ฉันเม้มปากเบา ๆ ไม่ได้อยากคิดแต่ท่าทางของคาแลนทำให้ต้องถามไปอย่างนั้น เขาแปลกไปเมื่อรู้เพศทั้งที่ก่อนหน้าเราตั้งชื่อลูกไว้แล้วทั้งชายและหญิง“ลูกเฮียนะหนู ถามแบบนั้นได้ยังไง”“ก็เฮียทำหน้าเครียด”“เฮียแค่คิดว่าตัวเองต้องหวงลูกมากแน่ ๆ”ระบายยิ้มออกมาบนใบหน้าพร้อมโล่งใจทันทีที่ได้ยินคำตอบนั้น นึกว่าไม่ชอบใจซะอีกที่แท้ก็หวงลูกสาวนี่เอง“คงต้องให้การ์ดเฝ้าตั้งแต่เด็ก ให้เข้าโรงเรียนหญิงล้วนนะหนู”“แบบนี้ถ้ายัยหนูจะมีแฟน…” ยังพูดไม่จบประโยคคนตัวสูงก็รีบขัด “อย่าเพิ่งคิดไปถึงขั้นนั้นสิหนู เฮียใจหาย”“กับมาคัสเฮียไม่เห็นห่วงเลย”“มาคัสเป็นผู้ชาย”“คุณพ่อขี้หวงคิดมากตั้งแต่ลูกยังไม่คลอดออกมาเลยนะคะ” ฉันแซวพร้อมยกนิ้วขึ้นเกลี่ยแก้มอย่างหยอกล้อ คาแลนเอามือมาจับมื
อาทิตย์ผ่านไป ฉันกับคาแลนจดทะเบียนสมรสเรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้เราคือสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายตอนนี้คาแลนกำลังนอนหนุนอยู่บนตักของฉันแล้วใช้มือลูบท้องไปมาอย่างนั้นนานหลายนาทีแล้ว“อยากรู้แล้วว่าลูกจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย” ใบหน้าคมคายเงยขึ้นมองฉันแล้วพูดต่อ “ถ้าได้ผู้หญิงเฮียคงหวงมากแน่”ฉันยิ้มกว้างให้กับคำพูดนั้นของคนที่หนุนตักอยู่ ก่อนจะเอามือลูบผมเขาเบา ๆ“หวงได้แต่อย่าไปกำหนดชีวิตของลูกมากเกินไปนะคะ”“เฮียไม่ทำอย่างนั้นแน่นอนหนูสบายใจได้”คาแลนจับมือของฉันไปจูบเบา ๆ ช่วงนี้ชีวิตคู่ของเรามันลงตัวมาก ๆ ไร้อุปสรรคเหมือนอย่างก่อนหน้า ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เลือกรักผู้ชายคนนี้ตั้งแต่แรก“อาทิตย์หน้าเฮียว่าง ไปเที่ยวกันนะครับ”“เที่ยวที่ไหนเหรอคะ” ฉันมองคนบนตักที่กำลังยิ้มหวาน“หนูมีที่ไหนที่อยากไปไหม”“ทุกที่ที่มีเฮีย มิลามีความสุข”“เฮ้อ เฮียรักหนูจะตายแล้วมิลา”ร่างหนาหยัดตัวขึ้นนั่ง แล้วยกมือมาประคองใบหน้าของฉันพร้อมจ้องด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ก่อนจะโน้มลงมาเรื่อย ๆ ระยะห่างระหว่างใบหน้าค่อย ๆ แคบลงจนกระทั่งริมฝีปากกดซับลงมา“อื้อ~”รสจูบที่อบอวลไปด้วยความอ่อนโยนและนุ่มนวล
วันต่อมา ตื่นมาไม่เห็นคาแลนอยู่ในห้องแล้ว มาคัสก็หายไปจากห้องของเขาเหมือนกัน ฉันค่อย ๆ เดินลงจากบันไดอย่างเชื่องช้าลงมาที่ชั้นล่าง ก่อนจะนั่งบนรถเข็นเพราะถ้าคนตัวสูงเห็นฉันเดินคงถูกดุแน่ ๆรถเข็นจะเป็นแบบขับเคลื่อนอัตโนมัติโดยใช้มือบังคับปุ่มบนที่พักแขน ได้ยินเสียงแว่วมาจากทางครัวจึงไปดูภาพที่เห็นคือคาแลนกับลูกชายอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อน ทั้งคู่กำลังช่วยกันทำอาหาร มาคัสดูท่าจะชอบช่วยพ่อเขาทำใหญ่เลย ฉันกำลังทอดสายตามองสองพ่อลูกด้วยรอยยิ้ม“มามี๊” อุตส่าห์แอบตรงมุมแล้วแท้ ๆ แต่ลูกชายตัวน้อยหันมาเจอจนได้ คาแลนหันมองตามเสียงเรียกของลูก ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ “หนูลงมายังไงคะ?”น้ำเสียงที่เอ่ยถามอย่างนุ่มนวลนั้นต่างจากแววตาที่กำลังจ้องแบบดุ ทำเอาฉันไม่กล้าตอบร่างหนาที่ใส่ชุดกันเปื้อนเดินมาหยุดตรงหน้าแล้วนั่งลงเอามือมาลูบวนบนท้องของฉันพร้อมกับฟ้องลูก“ดูมี๊สิ ดื้อเดินลงมาเองแบบนี้ปาปี๊ขอดุได้ไหม”“ลูกบอกว่าไม่ได้ค่ะ”“ลูกหรือแม่ครับ?”“เฮียอย่าดุมิลาสิ” ฉันเบ้ปากส่งสายตาออดอ้อนทำให้ คาแลนส่ายหน้าไปมาช้า ๆ ด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม เห็นแบบนั้นก็รู้ว่ารอดแล้ว“คราวหลังไม่เอาแบบนี้นะมิลา เฮียเป็นห
1 เดือนผ่านไปฉันได้ออกจากโรงพยาบาลมาพักรักษาตัวที่บ้าน เราย้ายมาอยู่บ้านหลังที่ซื้อไว้ในตอนนั้นแล้ว เพิ่งตกแต่งเสร็จเมื่ออาทิตย์ก่อนส่วนใหญ่ฉันจะนอนอยู่บนเตียงเวลาจะไปเข้าห้องน้ำหรือเดินไปไหนคาแลนจะช่วยประคอง ถ้าออกไปข้างนอกต้องนั่งรถเข็น เพราะคุณหมอสั่งห้ามเรื่องไม่ควรขยับร่างกายเยอะมาคัสได้แยกไปนอนอีกห้องสมใจคุณพ่อของเขาแล้ว เพราะคาแลนกลัวว่าลูกจะนอนดิ้นมาโดนท้อง แต่ตัวลูกชายไม่งอแงแล้วก็อยากแยกห้องเหมือนกัน แหงสิพ่อเขาจัดห้องเตรียมไว้ถูกใจขนาดนั้น“พรุ่งนี้มีประชุม เฮียคงกลับมาตอนบ่ายนะมิลา”“ไหวเหรอคะ ช่วงนี้เฮียอาการไม่ค่อยดีเลย” มองคนตัวสูงอย่างเป็นห่วง เขาแพ้ท้องแทนฉันหนักมาก เรียกได้ว่าเหม็นอาหารทุกอย่าง กินอะไรเข้าไปก็อ้วกออกหมด กินได้แค่ของเปรี้ยวเห็นแล้วนึกเห็นใจมาก ๆ เพราะเคยผ่านมาก่อนรู้ว่าทรมานขนาดไหน ใบหน้าหล่อตอนนี้ซูบผอมลงไปค่อนข้างเยอะ“ประชุมผู้ถือหุ้นประจำเดือนยังไงก็ต้องไปครับ” คาแลนก้มลงมาจูบหน้าผากของฉันแผ่วเบา ตอนนี้กำลังนั่งดูทีวีอยู่ชั้นล่างของบ้าน“คันเลนจะมาส่งมาคัสกี่โมงคะ”“คงสองทุ่ม กินมื้อเย็นที่บ้านใหญ่ก่อน” วันนี้ลูกชายงอแงอยากไปเล่นกับน้องคีย์และ
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาข่าวของคาแลนกับคุณหนูลี่กำลังเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง เพราะทั้งคู่ต่างมีหน้าตาทางสังคม คาแลนให้พี่ชายช่วยเรื่องปิดข่าวทั้งหมดให้เร็วที่สุดส่วนฉันก็พยายามไม่ดูข่าวห่างจากมือถือเพราะมันทำให้เครียดไม่เป็นผลดีเท่าไร ยิ่งตอนนี้มีอาการแท้งคุกคาม“ตอนเย็นคัลเลนจะพามาคัสมาที่โรงพยาบาลนะหนู” คนที่กำลังนั่งปลอกผลไม้เอ่ยบอก เราไม่ได้พูดคุยเรื่องนั้นเพราะต่างรู้ดีว่ามันไม่มีอะไร และฉันก็ไม่ได้ถามว่าเขาจะจัดการกับผู้หญิงอย่างลี่เว่ยหลินยังไง“ลูกงอแงไหมคะ” ฉันเป็นห่วงลูกชายตัวน้อยกลัวจะงอแงแต่ถ้าจะให้มาอยู่ที่โรงพยาบาลคงไม่ได้“ที่บ้านใหญ่มีเพื่อนเล่นลูกไม่งอแงเลย”“มาคัสรู้ไหมคะว่ากำลังจะมีน้อง”“ยังครับ ถ้ารู้คงดีใจที่จะมีเพื่อนเล่น”“เฮียไม่เข้าบริษัทเลย ไม่ต้องเฝ้ามิลาตลอดก็ได้” สามวันแล้วที่ฉันนอนติดเตียงที่โรงพยาบาลส่วนคาแลนไม่ได้เข้าบริษัทเลย“เฮียเอางานที่บริษัทมาทำที่นี่ดีกว่าทิ้งให้หนูอยู่คนเดียว” เขาปลอกผลไม้เสร็จพอดีจากนั้นก็ยกจานมานั่งเก้าอี้ข้าง ๆ เตียงแล้วป้อนฉัน“พรุ่งนี้เฮียจะออกไปจัดการปัญหากับเว่ยหลิน”“ค่ะ”“ทางนั้นเรียกร้องให้รับผิดชอบที่ทำลูกสาวเขาเสียห
Talk - คาแลนตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน สองมือกำแน่นก้มหน้าก้มตา ภาพเลือดที่ไหลออกมาจากตรงนั้นยังติดตา เกือบสติหลุดที่เห็นมิลาหมดสติไป“มิลาเป็นอะไร” คัลเลนเพิ่งมาถึงโรงพยาบาลมันรีบเดินมาถาม ผมได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้มตอนนี้ผมกำลังกลัว กลัวทุกอย่าง“จู่ ๆ ทำไมถึงเกิดเรื่องขึ้น”“ลี่เอาเหล้ามาให้กู ใครจะไปคิดว่าเธอใส่ยาลงไปในแก้วนั้น” ผมบอกพร้อมมือที่กำแน่นกว่าเดิมหลังจากโดนยาลี่พยายามยัดเยียดตัวเองให้กับผม โชคดีที่ตอนนั้นยังพอมีสติเอาตัวเองออกมาจากห้องน้ำได้ แต่ตอนทำกับมิลาในรถผมไม่รู้ตัวเลยว่ารุนแรงไปขนาดไหนเลือดถึงได้ไหลออกมาเยอะขนาดนั้น“ผู้หญิงคนนี้แม่งน่ากลัวฉิบหาย!!”“จัดการถอนหุ้นและยุติงานในเครือเว่ยหลินให้หมด ครั้งนี้ต่อให้คุณเฉียงมาอ้อนวอนกูจะไม่ให้อภัย”“อืม เดี๋ยวกูจัดการให้มึงไม่ต้องห่วง ตระกูลนี้ถูกจดลงบัญชีดำแน่ ๆ”“อาการมิลาเป็นยังไงบ้างคะ” เกลลินเอ่ยถามผมด้วยท่าทางเป็นห่วง“เลือด… มีเลือดไหลออกมา” ผมตอบเสียงสั่นสองมือกำแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดขึ้นขณะที่นั่งรอผ่านไปครู่ใหญ่ประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกผลักพร้อมหมอที่แทรกตัวออกมายืนด้านหน้า ผมรีบลุก
ริมฝีปากบางถูกบดขยี้อีกครั้ง มิลาพยายามดันตัวเองออกเพราะเจ็บกับสัมผัสดูดดึงของคนตัวสูงที่ขาดสติ เมื่อถูกขัดใจเธอก็ถูกคนตัวโตใช้สายตาคมจ้องเขม็งยาปลุกเซ็กส์ทำให้คาแลนไม่ใช่ผู้ชายอ่อนโยนอีกต่อไป อารมณ์ของเขาเต็มไปด้วยความรุนแรงอยากจะฉีกเสื้อผ้าของว่าที่ภรรยาคนสวยออกเป็นชิ้น ๆมือหนาเปิดประตูรถยนต์ก่อนจะจับร่างบางยัดเข้าไปข้างในตรงเบาะหลัง“เฮียมีสติหน่อยได้ไหมคะ”เสียงหวานพยายามเตือนสติแต่ไม่ได้ผล เมื่อประตูรถปิดลงร่างหนาก็นั่งลงข้าง ๆ เร่งปลดหัวเข็มขัดและตะขอกางเกง เห็นแบบนั้นทำให้มิลากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่คว้ามือกำเส้นผมนุ่นแล้วกดลงมาตรงเป้ากางเกง ใช้แท่งเนื้อร้อนถูเบา ๆ บนกลีบปากกระจับ“ช่วยทำให้มันสงบลงหน่อย” เสียงทุ้มกระเส่ามองใบหน้าสวยที่กำลังหวาดกลัวจากกระกระทำที่รุนแรงมิลาค่อย ๆ ลดตัวนั่งลงด้านล่างแทรกตรงกลางท่อนขาแกร่ง และใช้ปากของตัวเองตามคำสั่งของคนที่โดนยา เธอรู้ว่าเขากำลังทรมานและเต็มใจช่วย“หนู ซี๊ด~”ริมฝีปากบางดูดดุนแท่งเนื้อขนาดใหญ่คับปากจนเปื้อนน้ำลายสีใส ยิ่งเอาเข้าไปลึกจนสุดลำคอก็ยิ่งถูกใจอีกคน“เธอทำอะไรเฮียบ้าง” ใบหน้าหวานเงยขึ้นมาถามพร้อมใช้มือชักรูดแก่นกายใหญ่ไ
งานเลี้ยงตระกูลเว่ยหลิน ฉันอยู่ในชุดราตรีลายลูกไม้สีครีมเดินเข้ามาในงานคู่กับคาแลนที่อยู่ในชุดสูทสีขาวน้ำเงินงานจัดขึ้นยิ่งใหญ่สมเกียรติมีแขกมากหน้าหลายตาเดินหลั่งไหลเข้ามาภายในงานรวมทั้งนักข่าวที่รัวแสงแฟลชถ่ายภาพราวกับคนที่มาร่วมงานนี้เป็นดาราชื่อดังยิ่งตอนคาแลนเดินคู่กับฉันมีเสียงฮือฮาของคนที่ได้พบเห็นดังขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากเหตุการณ์ที่เขาหายไปเหมือนคนที่ตายแล้ว ไม่มีใครคิดว่าจะกลับมา คนที่ได้เจอตัวเป็น ๆ ถึงกับยกมือขึ้นป้องปากทำตาโตอย่างเหลือเชื่อ“เป็นเกียรติมากเลยค่ะที่พี่คาแลนกับว่าที่ภรรยามาร่วมงานในวันนี้” คุณหนูลี่เดินมาต้อนรับเราสองคน ก่อนจะพาเดินมายังโต๊ะที่จัดเตรียมเอาไว้ให้เป็นโต๊ะที่อยู่ติดหน้าเวที คุณคัลแลนและภรรยาก็มางานนี้เหมือนกัน รวมถึงคุณพ่อของเขาด้วยแต่ท่านนั่งแยกอีกโต๊ะร่วมกับตระกูลเว่ยหลินที่อยู่ใกล้ ๆ กันนั่งรอที่โต๊ะไม่นานคัลเลนและภรรยาก็มาถึง เราไม่ได้พาลูกมาด้วยเพราะเป็นงานใหญ่ไม่เหมาะที่จะพาเด็ก ๆ มา“คุณเกลลินสวยมากเลยค่ะ” ฉันเอ่ยชมคุณเกลที่อยู่ในชุดราตรีสีขาว เธอสวยมาก ๆ ตอนเดินตีคู่มากับคัลเลนยิ่งเห็นว่าทั้งสองเหมาะสมกันมากจริง ๆ“คุณมิลาก็สวยมาก ๆ เ