“อีกฝ่ายยังมียอดฝีมืออยู่ ปรมาจารย์โค่ว ต้องขอดูฝีมือคุณแล้วครับ” หลินหยางเห็นแล้วว่า มีสองคนลงมาจากรถออฟโรด [1] ที่ชนรถของเจียงจั่วเฟิง เป็นหนึ่งชายหนึ่งหญิงผู้ชายหน้าตาอัปลักษณ์อย่างมาก เขาย้อมผมสีขาวโพลนทั้งหัว คิ้วสั้นดวงตาเล็กลึกบุ๋ม มุมตาตกทำให้ดูเจ้าเล่ห์ชั่วร้าย จมูกทั้งใหญ่และแบน ปีกจมูกแบะออก ยังมีฟันซี่ใหญ่เหยินออกมาด้วยเมื่อนำอวัยวะพวกนี้มารวมกัน ก็อัปลักษณ์อย่างยิ่ง จนถึงขนาดที่ทำให้เด็กหวาดกลัวจนร้องไห้ได้ทีเดียวส่วนฝ่ายหญิงกลับมีหน้าตาที่สวยงามอย่างมาก ผมของเธอเป็นสีม่วง โดยรวมแม้จะสวยไม่เท่าฉินโม่หนงกับมู่หรงยิ่นที่เป็นสาวงามชั้นยอด แต่คนผู้นี้มีเสน่ห์โดยกำเนิด จะต้องเป็นสาวงามที่เหลือบมองเพียงครั้งเดียว ก็สามารถสยบผู้ชายลงได้อย่างแน่นอนทั้งสองตนเดินมาทางนี้อย่างช้าๆ ในเวลานั้น ก็มีคนขับรถที่ถูกชนท้ายคันหนึ่งเปิดประตูออกมาด่าว่า “มารดามันเถอะ พวกแกขับรถเป็นหรือเปล่าฮะ?”ชายอัปลักษณ์กระโดดเพียงครั้งเดียวก็เข้าไปบีบคอคนขับรถ จากนั้นก็หักคอของเขาทีเดียวดังเป๊าะจนตายทันที ฆ่าคนกลางถนนเช่นนื้ เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้มีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตอย่างยิ่งบนรถยังมีผู้หญิง
โค่วหยวนซันแค่นเสียงตำหนิ จากนั้นพูดต่อไปว่า “เบิกตาของนายดูให้ดี ว่าอะไรคือพลังที่แท้จริงของปรมาจารย์” โค่วหยวนซันทะยานร่างขึ้นกลางอากาศ เขากระโดดออกไปทันที“นังหญิงเสียสติ ไสหัวมารับความตายเดี๋ยวนี้!” โค่วหยวนซันตะโกนเสียงดังหญิงสาวผมม่วงมองโค่วหยวนซันครั้งหนึ่ง บนใบหน้าเผยรอยยิ้มเย้ายวนออกมา ตบกระต่ายขาวน้อยบนหน้าอกที่ใหญ่กว่าฉินโม่หนงเล็กน้อยของตน“ตาเฒ่า นายจะตะโกนทำไมกัน ทำเอาคนเขาตกใจหมด!”หญิงผมม่วงโยนหัวใจของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำเมืองทิ้ง มือขวายังคงมีเลือดหยดอยู่ ถามว่า “นายก็คือหลินหยาง? ทำไมเป็นตาเฒ่าคนหนึ่งล่ะ? ไม่ใช่บอกว่าเป็นหนุ่มหล่อที่อายุยังน้อยหรือ? ฉันยังคิดจะเล่นให้สนุกอยู่เลย”“พุ่งเป้ามาที่ฉันจริงๆ” หลินหยางกล่าวเมื่อได้ยินเช่นนั้น“คุณหลินคะ ยังคงให้ปรมาจารย์โค่วเป็นคนรับมือเถอะค่ะ ผู้หญิงคนนี้โหดเหี้ยมเกินไป อันตรายมาก” มู่หรงยิ่นอาเจียนไปครู่หนึ่ง สีหน้าซีดขาว ยังคงรู้สึกว่าในท้องปั่นป่วนอยู่“นังหญิงเสียสติ แกจงฟังให้ดี ฉันคือปรมาจารย์โค่วหยวนซัน วันนี้ จะช่วยมวลชนกำจัดภัย สังหารสุนัขบ้าอย่างพวกแกสองคนทิ้งซะ” โค่วหยวนซันพูดจบ ร่างกายก
“เช่นนั้นจะทำอย่างไรครับ? หากไม่หนี พวกเราทั้งหมดก็ต้องตายอยู่ที่นี่ ต่อให้ผมต้องแลกด้วยชีวิตนี้ ก็จะต้องปกป้องคุณหนูรองไว้ให้ได้”เจียงจั่วเฟิงก็รู้ว่าความสามารถของตนใช้ไม่ได้เช่นกัน ทว่าเขายังคงรักษาจิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญไว้“นายพาเธอไป ฉันจะไปรับมือคนร้ายสองคนนั้นเอง” หลินหยางกล่าว“ไม่ได้ค่ะ แม้แต่ปรมาจารย์โค่วก็ไม่ใช่คู่มือของพวกเขา คุณจะตายได้นะคะ” มู่หรงยิ่นพูด“โค่วหยวนซันใช้ไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าผมใช้ไม่ได้ ลองดูเถอะครับ” หลินหยางเห็นชายผมขาวพุ่งเข้าไปหาโค่วหยวนซันแล้ว ก็รีบลงมือ ปะทะหมัดกับชายผมขาวไปหมัดหนึ่งชายผมขาวถอยหลัง ตึง ตึง ตึง ไปหลายก้าว ส่วนหลินหยางกลับถอยไปเพียงครึ่งก้าวเท่านั้นหลินหยางหิ้วโค่วหยวนซันขึ้นมาด้วยมือข้างเดียว กล่าวว่า “พามู่หรงยิ่นไปก่อน” โค่วหยวนซันเห็นหลินหยางไม่เพียงรับหนึ่งหมัดของชายผมขาวได้ ยังกระแทกจนอีกฝ่ายถอยหลังไปด้วย จึงตระหนักถึงความสามารถของหลินหยางขึ้นมาทันที ว่าอย่างน้อยเขาจะต้องเป็นปรมาจารย์ขั้นสาม“นาย…คุณก็เป็นปรมาจารย์ขั้นสามเหมือนกัน?!”“ไม่ใช่ครับ” หลินหยางพูดเบาๆเขาไม่ใช่ระดับสามจริงๆ ระดับสี่ต่างหากล่ะ
“เธอคิดว่าฉันสู้เธอไม่ได้จริงๆ หรือ?”หลินหยางไม่ได้ปิดบังความสามารถของตนแม้แต่น้อยเช่นกัน“น่าสนใจจริงๆ! หน้าตาหล่อเหลาขนาดนี้ พลังยุทธ์ยังแข็งแกร่งกว่าฉันอีก พี่ชายตัวน้อย ฉันยิ่งชอบนายมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว”โฉวเยี่ยจื่อส่งสายตาหว่านเสน่ห์ไปให้หลินหยางโฉวเตียวไป๋เหินกายมายืนอยู่ข้างกายโฉวเยี่ยจื่อสองพี่น้องล้วนเป็นปรมาจารย์ขั้นสาม ระหว่างพี่น้องประสานมือกันได้อย่างรู้ใจ มีวิชาโจมตีต่อเนื่องที่ร้ายกาจมากชุดหนึ่ง ทั้งสองยังเคยร่วมมือกันสังหารปรมาจารย์ระดับสี่ครั้งหนึ่งด้วย“ปรมาจารย์ระดับสี่แล้วยังไง? ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยฆ่าปรมาจารย์ระดับสี่สักหน่อย! มาเจอเข้ากับพวกเราสองพี่น้อง วันนี้นายต้องตายแน่”บนใบหน้าของโฉวเตียวไป๋ปรากฏรอยยิ้มน่ารังเกียจออกมา“พี่ชาย อย่าทำเขาตายเสียล่ะ เขาตายได้แต่บนเตียงของฉันเท่านั้น” โฉวเยี่ยจื่อหัวเราะอย่างยั่วยวนพูดจบ สองพี่น้องก็ลงมือพร้อมกัน โจมตีด้านข้างของหลินหยางจากทางซ้ายและขวาการร่วมมือของพี่น้องคู่นี้เข้าขากันอย่างมาก แม้หลินหยางจะมีพลังของปรมาจารย์ระดับสี่ แต่ประสบการณ์การต่อสู้ยังห่างไกลจากสองพี่น้องคู่นี้อีกมาก เพียงครู่เดียวก็ตกเป็นร
เหล่าคนข้างทางเมื่อเห็นเช่นนี้ ก็พากันกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว วิ่งหนีเอาชีวิตรอดไปคนละทิศทาง สภาพเหตุการณ์วุ่นวายเป็นอย่างมาก“ได้! ฉันจะปล่อยเธอไป หยุดฆ่าคนบริสุทธิ์ไปทั่วได้แล้ว!”หลินหยางดูจนขมวดคิ้วแน่น ไอสังหารลุกโชนอยู่ในใจ แต่ไม่อาจไม่ยอมประนีประนอม“พี่ชายตัวน้อย นายกลับใจอ่อนเหลือเกิน! ใจอ่อนก็ไม่เป็นไร แต่ตรงนั้นอ่อนไม่ได้นะ ครั้งหน้าที่เจอกัน ฉันจะทำให้นายตายอย่างอนาถให้ได้"อย่าเห็นว่าตอนนี้โฉวเยี่ยจื่อเผยรอยยิ้มยั่วยวนของนางปีศาจจิ้งจอกออกมาอีกแล้ว ที่จริงแล้ว เธอเป็นคนวิปริตอย่างสมบูรณ์โฉวเยี่ยจื่อโยนเด็กชายลงในแม่น้ำลั่ว จากนั้นก็หมุนตัวหนีไปทันที หลินหยางไร้วิธีอื่น เขาได้แต่ช่วยคนก่อนเห็นเด็กชายถูกโยนลงในแม่น้ำลั่ว หลินหยางก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขากระโดดลงไปในแม่น้ำทันที ช่วยเด็กชายขึ้นมา จากนั้นอุ้มเขาไปไว้ที่ด้านข้างของผู้เป็นแม่“รีบพาเด็กไป” แม่ของเด็กตกใจจนงงไปหมด หลินหยางตบตัวเธอเบาๆ ครั้งหนึ่ง เมื่อได้สติกลับมา เธอก็รีบอุ้มลูกน้อยวิ่งหนีเอาชีวิตรอดไป ในชั่วขณะไม่มีเวลาไปสนใจผู้เป็นยายที่เสียชีวิตแล้วเพื่อช่วยเด็กน้อย หลินหยางเสียเวลาไปครู่หนึ่ง โฉ
“ดูท่า นายก็สนใจในเรือนร่างของคนเขาเหมือนกัน ไล่ตามไม่หยุด หลบมาถึงที่นี่ก็ยังถูกนายหาจนเจอได้” โฉวเยี่ยจื่อเดินออกมาจากรูปปั้นเทพธิดาที่ผุพัง แสงจันทร์สาดส่องลงมาจากหลังคา ส่องลงมาที่ตัวของเธอพอดี ทำให้ผิวของเธอยิ่งดูขาวราวหิมะขึ้นไปอีกหลินหยางรีบเบี่ยงสายตาออกไปเล็กน้อย กลัวว่าจะถูกวิชาเสน่ห์ของโฉวเยี่ยจื่อมอมเมาเข้าอีก“ฉันไม่สนใจร่างกายสกปรกของเธอ” หลินหยางกล่าวโฉวเยี่ยจื่อปิดปากหัวเราะเบาๆ ว่า “คนเขาสกปรกตรงไหนกัน? คนเขาต้องอาบน้ำทุกวันนะ ไม่เชื่อนายลองดมดูสิ หอมมากเลย”โฉวเยี่ยจื่อราวกับไม่กลัวตาย เธอยั่วยุอย่างบ้าคลั่งหลินหยางเห็นโฉวเยี่ยจื่อเดินตรงเข้ามา ดูจากท่าทางคล้ายรู้ว่าสู้ไม่ได้ ถึงเวลาใช้เสน่ห์ยั่วยวนแล้ว“เธอไม่ใช่จะล้างแค้นให้พี่ชายของเธอหรอกหรือ? ไม่มาแลกชีวิตกับฉันโดยตรง? แต่กลับมาใช้วิธีนี้กับฉัน?”หัวใจของหลินหยางเต้นแรง ทว่าเขาได้แต่แสร้งทำเป็นสงบเพื่อปิดบังมัน“คนเขาอยากแก้แค้น แต่คนเขาสู้นายไม่ได้นี่ ได้แต่ใช่ไพ่ตายของฉันออกมา ก็ถือว่าเป็นการแก้แค้นแล้ว”ในระหว่างที่โฉวเยี่ยจื่อพูด ก็ได้เดินมาถึงเบื้องหน้าของหลินหยางแล้วทุกการกระทำของโฉวเยี่ยนจื
มู่หรงยิ่นถูกเจียงจั่วเฟิงกับโค่วหยวนซันคุ้มครองกลับมาถึงบ้าน“ยิ่นเอ๋อร์ ลูกไม่ใช่ไปเจรจากันเฉินเทียนหาวหรือ? เกิดอะไรขึ้น?”มู่หรงจางถาม“เฉินเทียนหาวเจ้าคนต่ำช้านั่น ฉากหน้าทำเป็นรับปากจะเจรจา แต่กลับวางกับดักลอบสังหารไว้กลางทางค่ะ” มู่หรงยิ่งพูดอย่างโมโหยิ่ง“แล้วคุณหลินล่ะคะ?”มู่หรงหว่านเอ๋อร์ไม่เห็นหลินหยาง จึงรีบถาม“เฉินเทียนหาวส่งปรมาจารย์สองคนมาซุ่มโจมตีระหว่างทาง ปรมาจารย์โค่วสู้ไม่ได้จนได้รับบาดเจ็บ คุณหลินลงมือขัดขวางเพื่อถ่วงเวลา พวกเราเลยสามารถถอยออกมาได้อย่างปลอดภัย ตอนนี้ฉันก็กังวลเรื่องความปลอดภัยของคุณหลินมากเหมือนกัน”มู่หรงยิ่นกล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลมู่หรงหว่านเอ๋อร์เมื่อได้ยินเช่นนั้น ก็รีบพูดว่า “อย่างนั้นคุณหลินจะเป็นอันตรายไหมคะ?”ในเวลานี้ โค่วหยวนซันก็พูดขึ้นมาว่า “ก่อนหน้านี้เป็นผมประเมินความสามารถของเขาต่ำไป เขาน่าจะเป็นปรมาจารย์ระดับสามเช่นกัน อายุยังน้อยกลับมีระดับขนาดนี้ หาได้ยากนัก” “แต่ว่า ผมนึกฐานะของสองพี่น้องคู่นั้นออกแล้ว เป็นมฤตยูม่วงขาว ทั้งสองคนต่างก็เป็นปรมาจารย์ขั้นสาม ในอดีตเคยร่วมมือกันสังหารปรมาจารย์ขั้นสี่ด้วย หล
“ท่านผู้ว่า แบบนี้เกรงว่าคุณหลินคงจะประสบภัยร้ายมากกว่าดีแล้ว ไม่อย่างนั้น พวกเรายังคงไปดูหน่อยดีไหมครับ?”หลินหยางเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเขา เฉินเค่อหมิงจึงกังวลเป็นอย่างมาก“ฉันได้ยินว่าคนที่ชื่อหลินหยางนั่น เคยช่วยชีวิตคุณครั้งหนึ่ง?” เหยียนหรูอวี้ถามเฉาเค่อหมิงก็ไม่กล้าปิดบัง เหยียนหรูอวี้จึงกล่าวว่า “ทุกคนล้วนมีชะตาของตน เมื่อเขากล้าทำร้ายลูกชายของเฉินเทียนหาวจนบาดเจ็บ ก็ควรคิดได้แล้วว่าจะมีผลลัพธ์แบบนี้ กับเรื่องนี้ฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพียงแต่ สองมฤตยูม่วงขาวฆ่าคนกลางถนน ลงมืออย่างอำมหิต สร้างผลกระทบที่เลวร้ายอย่างมาก เรื่องนี้ไม่อาจไม่สนใจ” เรื่องมาถึงขั้นนี้ เหยียนหรูอวี้แสดงออกอย่างชัดเจนว่า ไม่อยากเข้าไปข้องเกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างตระกูลเฉินและตระกูลมู่หรงเหยียนหรูอวี้กล่าวกับเลขาทันทีว่า “แจ้งหน่วยรักษาความปลอดภัยประจำเมืองให้ตรวจค้นทั่วเมือง คนร้ายฝีมือโหดเหี้ยมอำมหิต อนุญาตให้หน่วยรักษาความปลอดภัยประจำเมืองสามารถวิสามัญได้ทันที” “คนร้ายระดับปรมาจารย์ เกรงว่าหน่วยรักษาความปลอดภัยประจำเมืองคงรับมือไม่ไหวกระมังค่ะ? กลับจะเพิ่มการบาดเจ็บล้มตายด้วย จะขอความช่วยหร
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ
เจียงรั่วหานหัวใจตึงเครียดขึ้นมาทันที เป็นห่วงชายชู้ของตนเอง ครั้งนี้หลินหยางตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ!อย่างไรเสียใช้ยศตำแหน่งข่มเหงคนอื่น!ซ่งหว่านอวี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็ถอนหายใจในใจเช่นกัน ต่อให้ตำแหน่งของหลินหยางที่เมืองลั่วสูงกว่านี้แล้วจะยังไงต่อหน้าผู้มีอิทธิพลอย่างหวังเทียนเหิง ก็ทำได้แค่เพียงอดกลั้นเท่านั้น!“จะตรวจสอบงั้นก็ได้ แต่ก็ต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย”หลี่หรูเยว่สีหน้าไม่สุขุม แต่กลับไม่กล้าให้หลินหยางมีข้อหาขัดขวางทางการติดตัว“กฎหมาย?” หวังเทียนเหิงยิ้มเยาะ กล่าวด้วยท่าทีหยิ่งยโส “คำพูดของฉัน ก็คือกฎหมาย! มีปัญหา? เข้าไปในห้องกับฉันค่อย ๆ คุยกัน ถ้าทำให้ฉันพอใจได้ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะปล่อยแกไปสักครั้ง!”เขาทำตัวอวดดีกำเริบเสิบสาน! ถึงอย่างไรเหยียนฮ่าวก็ได้แทรกแซงคดีนี้ด้วยตนเองแล้ว ถ้าอยากจะจับหลินหยางให้อยู่หมัด! ต้องมีหลักฐานแน่ชัด ทำให้หลินหยางดิ้นไม่หลุดตลอดไป!ส่วนการหลับนอนกับปรมาจารย์ระดับแปดคนหนึ่ง นั่นก็เป็นเพียงเรื่องของผลพลอยได้เท่านั้น!เขาจ้องมองสำรวจรูปร่างที่สวยงามประณีตของหลี่หรูเยว่ด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว มีความร้อนกลุ่มหนึ่งพลุ่งพล่านขึ้นในท้องน้อยข
แต่กลัวว่าเขาจะฉวยโอกาสช่วงจังหวะชุลมุน ลงมือกับจ้าวเจิ้งฮ่าว!“นายพลจ้าววางใจ”สีหน้าเฉิงคั่วหนักใจ ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งในฐานะที่เขาเป็นปรมาจารย์ระดับห้า ประกอบกับมีนักรบทหารองครักษ์ชาวตงอิ๋งที่มีระดับมานะสร้างกลุ่มหนึ่งคอยช่วยเหลือ ก็มากพอที่จะจับตัวปรมาจารย์หนึ่งในนั้นได้“แม่งเอ๊ย ในเมื่อพวกแกทั้งหมดยอมเป็นสุนัขรับใช้ของหลินหยาง ถ้าอย่างนั้นก็ไปตายให้หมด! คิดว่าปรมาจารย์ระดับเก้าของฉันมีไว้ประดับเหรอไงวะ!?”จ้าวเจี้ยนชิงดวงตาแดงก่ำด้วยความริษยา ตนเป็นผู้บังคับบัญชาของเมืองลั่วมานานหลายปี ยังไม่มีลูกน้องที่แข็งแกร่งขนาดนี้ หลินหยางเพิ่งมาได้ไม่นาน ก็มีปรมาจารย์ระดับหกถึงสี่คนเป็นสุนัขรับใช้?!หลินหยางยิ่งใช้ชีวิตดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากจะสับหลินหยางให้แหลกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!แต่ทว่ายังไม่ทันได้ลงมือเขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัว แรงอาฆาตที่เย็นยะเยือกขั้นสุดกลุ่มหนึ่งลอยมา!“จ้าวเจี้ยนชิง แกอยากตายใช่ไหม?”ในเวลานี้ หลี่หรูเยว่ยืนอยู่ที่ประตูคฤหาสน์ ในมือของเธอใช้โซ่เหล็ก จูงม๋อจื่อที่เหมือนกับเป็นสัตว์ร้าย จ้องมองเขาด้วยความเย็นชาจ้าวเจี้ยนชิงรูม่านตาหดทันที กล่าวอย
ก็แค่ปรมาจารย์ระดับหกคนหนึ่งเท่านั้น เขาไม่สนใจอยู่แล้วแต่ปรมาจารย์ระดับหกคนหนึ่งไม่คิดเลยว่าจะมาเป็นยามให้หลินหยาง เขาไม่สามารถเข้าใจได้!แม้ว่าเขาจะเป็นปรมาจารย์ระดับเก้าก็ยังไม่เคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้!จ้าวเจิ้งฮ่าวและคนอื่น ๆ ต่างก็อ้าปากค้างอย่างตกตะลึงสถานการณ์ตรงราวกับเป็นภาพลวงตาเลยทีเดียว!ไอ้หมอนี่หัวสมองมีปัญหาเหรอไง? ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้เป็นปรมาจารย์ระดับหก แต่กลับมาเป็นยามให้คนที่มีระดับเจ็ดอย่างหลินหยาง?!“นับว่าแกพอมีความสามารถอยู่บ้าง แต่การรับใช้คนที่กำลังจะตาย เป็นการทำให้ตัวเองเสื่อมถอยแท้ ๆ เลย!”จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “หลินหยางทำลายการค้าระหว่างกองทัพกับชาวตงอิ๋ง ฉันมาเพื่อค้นหาหลักฐาน”“ตอนนี้ฉันให้โอกาสแกกลับตัวกลับใจหนึ่งครั้ง สวามิภักดิ์ต่อฉัน! ไม่อย่างนั้น จะถือว่าแกขัดขวางการสอบสวน! ฝ่าฝืนกฎหมายระดับประเทศ! ฉันจะประหารชีวิตแกทันที”เขามีความคิดที่จะชักจูงคนคนนี้ถึงอย่างไรปรมาจารย์ระดับหกในเมืองลั่วก็นับว่าเป็นยอดฝีมือ ฆ่าไปก็น่าเสียดายแต่ทว่าอาต้ากลับกล่าวเสียงเย็นชา “รับเลี้ยงฉัน? แกคู่ควรเหรอ! ไสหัวไป!”“แกคิดให้ดี ๆ กล้าขัดขวาง
เจียงรั่วหานกล่าวโต้เถียงด้วยสีหน้าแดงก่ำแต่นี่ก็คือเรื่องจริงถึงอย่างไรตนก็ไม่ได้ขึ้นเตียงกับหลินหยาง แต่ทว่าทำในรถ...“ไม่ต้องรีบ นั่งลงคุยกัน...” ซ่งหว่านอวี๋ท่าทางสบาย ๆ พูดจาปลอบโยนอย่างมีเลศนัย “เป็นเพราะพี่กลัวเธอถูกหลินหยางหลอกเอา หลินหยางนั่นบังคับให้พี่ทำเรื่องแบบนั้น เขาไม่ใช่คนดีอะไร!”“พี่หว่านอวี๋พี่ไม่เข้าใจเขา!”เจียงรั่วหานกลับวางแก้วกาแฟลง รีบพูดขึ้นว่า “อันที่จริงหลินหยางเป็นคนดีคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่เขาทำแบบนั้นกับพี่ อัน อันที่จริงเป็นเพราะจ้าวเจิ้งฮ่าวเป็นต้นเหตุ!”“ฉันบอกเขาแล้ว ว่าต่อไปห้ามแตะต้องพี่อีก!”ไม่แตะต้องฉัน?ฉันต้องการให้เธอช่วยเหลือเรื่องนี้เหรอ?เธอกินอิ่มแล้วไม่กะจะไม่เหลือไว้ให้ฉันกินสักคำเลยเหรอไง!ซ่งหว่านอวี๋สีหน้าดูแย่เล็กน้อย เธอกินอาหารทะเลมื้อหรูจนเคยชินแล้ว จะกินอาหารจืดชืดลงได้ยังไงอีก?“พี่หว่านอวี๋ ต่อไปฉันคงต้องอาศัยพี่คอยเป็นที่กำบังให้ฉันแล้ว ครอบครัวนี้ ฉันทนอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแม้แต่วันเดียวแล้ว!”เจียงรั่วหานยังหันหน้าไปมองซ่งหว่านอวี๋ด้วยท่าทางขอร้อง“เรื่องเล็กน้อย...”ซ่งหว่านอวี๋กล่าวพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ไม่ว่าจะพู
ฉินเจิ้งคุนกลับส่งสัญญาณมือให้เงียบเอาไว้“เรื่องพวกนี้ห้ามเอาไปพูดข้างนอกส่งเดช! การต่อสู้ของบุคคลใหญ่โตไม่ใช่สิ่งที่พวกเราวิจารณ์ได้!”เขากล่าวเตือนด้วยท่าทีขึงขังถึงแม้ว่าตระกูลฉินจะมีชื่อเสียงโด่งดังในหนานโจว แต่ในสายตาของตระกูลใหญ่ที่ล้ำลึกจนไม่อาจคาดเดาของซานโจวบนพวกนั้น วงศ์ตระกูลบ้านนอกอย่างตระกูลฉิน ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึงการต่อสู้ระดับนั้น เพียงแค่ควันหลง ก็มากพอที่จะทำให้ทั้งตระกูลฉินตายไร้ที่ฝังศพแล้ว!ฉินอี๋หลิงรีบหุบปากทันทีเช่นกันไม่กล้าส่งเสียงดัง เพราะหวาดกลัวว่าคนบนฟ้า!“หลินไร้ศัตรูแอบรายงานแต่ละวงศ์ตระกูลใหญ่แห่งหนานโจวอย่างลับ ๆ ให้ช่วยเขาตามหาหลานชายของเขา ถ้าหากใครหาเจอ เขาก็จะยอมรับคำขอร้องของคนนั้นหนึ่งข้อ” ฉินเจิ้งคุนค่อย ๆ พูด“จริงเหรอคะ?”ฉินอี๋หลิงสีหน้าตื่นเต้นดีใจ หัวใจไฟลุกโชนถึงแม้ว่าวงศ์ตระกูลของหลินไร้ศัตรูจะล่มสลายไปแล้ว แต่ก็ยังไม่สิ้นอำนาจโดยสมบูรณ์!คำมั่นสัญญาของเขาหนึ่งข้อ สามารถตัดสินว่าใครจะได้ครอบครองตำแหน่งหัวหน้าตระกูลฉิน!“มีเบาะแสของหลานชายคนนั้นของเขาแล้วเหรอยัง!”เธอรีบกล่าวถาม“ง่ายแบบนั้นซะที่ไหน...”ฉินเจิ้งคุนส่ายหน้
ตนในตอนนี้ ต่อสู้ข้ามสามระดับชั้นก็ไม่เป็นปัญหา มีลูกน้องไม่กี่คน ตนก็ไม่ต้องโดนรุมโจมตีอีกบ่อย ๆมีสิทธิ์แสร้งทำเป็นเก่ง ถ้าอย่างนั้นก็ต้องทำแต่ทว่าหลี่หรูเยว่กับปรมาจารย์ทั้งสี่คนมีความปรับตัวให้เข้ากับสไตล์แบบนี้ไม่ค่อยได้เท่าไหร่หลูอ้าวตงว่าอวดดีมากพอแล้ว แต่เมื่อเทียบกับหลินหยาง นั่นก็เป็นแค่เรื่องจิ๊บจ๊อยเท่านั้น...“ไปกันเถอะ กลับไปที่บ้านให้ฉันรักษาอาการบาดเจ็บให้พวกแกก่อน อีกเดี๋ยวไปกับฉันฆ่าคนของจ้าวเจี้ยนชิงให้เรียบ”หลินหยางเดินลงจากภูเขาแต่หลี่หรูเยว่และคนอื่น ๆ อีกห้าคนกลับสบตากันแวบหนึ่ง เห็นสีหน้าตกใจจากนัยน์ตาของอีกฝ่ายหลินหยางพูดจาสบาย ๆ มาก ราวกับว่าในสายตาของเขา การฆ่าหัวหน้ากองทหารรักษาการณ์ ง่ายเหมือนกับซื้อผักพวกเขากลับไม่ทันได้คิดมาก รีบตามหลินหยางลงจากเขา คอยตามปรนนิบัติ...อีกด้านหนึ่งภายในห้องหนังสือสไตล์โบราณแห่งหนึ่งฉินเจิ้งคุนกระแทกโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ พูดด้วยความโมโห “ไอ้สารเลวนี่อวดดีมาก! แม้แต่สายโทรศัพท์ของฉันกล้าตัดทิ้ง!”ฉินอี๋หลิงที่อยู่ด้านข้างสีหน้าดูแย่เช่นกัน บทสนทนาเมื่อครู่นี้เธอได้ยินหมดแล้วหลินหยางไม่ให้เกียรติเลยแม้แต
หรือไม่ก็โทรศัพท์ไปหยอกหลูอ้าวตงอีกสักที?ไม่มีอะไรทำก็ไปยั่วโมโหหลูอ้าวตงสักหน่อย ได้กลายเป็นความเคยชินของหลินหยางไปแล้วแต่ทว่าทันทีที่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กลับมีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามาเบอร์โทรศัพท์นั่นคือ...ฉินเจิ้งคุน?หลินหยางมีความประหลาดใจเล็กน้อย จะว่าไป ฉินเจิ้งคุนควรจะส่งคนมาไล่ฆ่าตนถึงจะถูกอย่างไรเสียสิ่งของที่ไม่ได้มาครอบครองก็ต้องทำลายทิ้ง ถึงจะเหมาะสมกับสไตล์ของตระกูลใหญ่อย่างพวกเขาผลปรากฏว่าการตามล่าของตระกูลฉินที่รอคอยมาไม่ถึงสักที...เขารับสายแล้วพูดว่า “ผมคิดว่าคุณตายไปแล้วเสียอีกนะ...”“ไอ้บ้า!”ทันทีที่ฉินเจิ้งคุนต่อสายติดก็ได้ยินประโยคนี้ โมโหจนสะอึกทันที “คนที่ใกล้ตายอย่างแกยังจะกล้าพูดจาเหลวไหล! ตอนนี้แกได้ถูกหลูอ้าวตงตามฆ่าเหมือนกับหนูท่อที่น่ารังเกียจแล้วละมั้ง!”“ถ้าอย่างนั้นคงต้องทำให้คุณต้องผิดหวังแล้ว...”หลินหยางเหลือบตามองลูกน้องที่เพิ่งรับเอาไว้เมื่อสักครู่นี้แวบหนึ่ง หลูอ้าวตงทั้งส่งสมุนไพรทั้งส่งผู้หญิงมาให้ โดนตนจัดการจนรู้สึกไม่ค่อยสบายขึ้นมาอยู่หน่อย ๆ เสียแล้วแต่ทว่าฉินเจิ้งคุนกลับไม่เชื่อ กล่าวเสียงเย้ยหยัน “เลิกพูดจาไร้สาระ ต
เขาหยิบยาพิษสี่เม็ดออกมาจากในกระเป๋าเฉียนคุน โยนให้พวกเขา“ยาพิษนี้มีแค่ฉันเท่านั้นที่ถอนได้ ถ้าหากพวกแกกล้าทรยศ จะต้องตายอย่างน่าเวทนามากแน่อย่างแน่นอน”ปรมาจารย์ทั้งสี่เข้าใจว่าหลินหยางไม่เชื่อใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ยาพิษนี้ไม่กินก็ต้องกิน จากนั้นก็กลืนยาพิษลงไปโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยเมื่อทั้งสี่คนกลืนยาพิษลงไปแล้ว หลินหยางถึงได้ไปช่วยรักษาม๋อจื่อภายใต้การจับตามองอย่างประหม่าของหลี่หรูเยว่หลินหยางใช้เข็มวาสนาฝืนลิขิต ม๋อจื่อค่อนข้างไม่ธรรมดา รากฐานกระดูกแข็งแรงมากมาตั้งแต่กำเนิด มุมมองของหลินหยาง เหมาะที่จะเดินเส้นทางเทพวรยุทธ์มากแต่น่าเสียดายที่ถังฮ่าวหรานความคิดตื้นเขิน ใช้วิชาแปลงอสูรสวรรค์ฝึกฝนเขาจนกลายเป็นคนไร้ประโยชน์หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ม๋อจื่อก็ฟื้นขึ้นมา ทันทีที่ลืมตาดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ท่าทางดุร้าย“ม๋อเอ๋อร์ฟื้นแล้ว!”หลี่หรูเยว่ดีใจเป็นอย่างยิ่งขึ้นมาทันที หันหน้าไปมองหลินหยางพูดด้วยความซาบซึ้งใจ “ขอบพระคุณนายท่าน!”ก่อนหน้านี้ม๋อจื่อดูเหมือนคนกำลังใกล้ตาย เวลาแค่เพียงครู่เดียวหลินหยางก็รักษาเขาจนหายดีแล้วนับว่าเธอนับถือฝีมือการรักษาของหลินหยางอย่างถ