เหยียนหรูอวี้เห็นว่าหลินหยางมีความตั้งใจในการเตรียมการ จึงไม่อยากจะพูดมาก ในฐานะลูกน้องก็ต้องมีจิตสำนึกของผู้ใต้บังคับบัญชา เมื่อเตือนไปแล้วในสิ่งที่ควรเตือน หากว่าเตือนขึ้นมาอีกจะถือเป็นการไม่ดี ขบวนรถขับเคลื่อนมาถึงหมู่บ้านตี้เหาอย่างรวดเร็ว เหยียนหรูอวี้ขับรถทั้งรวดเร็วและมั่นคง เฉาเยี่ยนหลิงจึงหลับตลอดทาง หลังจากที่ลงรถไปแล้วเฉาเยี่ยนหลิงถูกลมพัดผ่าน จึงตื่นขึ้นมา “กอดผมไว้ จะเดินไม่ไหวอยู่แล้ว....” เหยียนหรูอวี้เดินอยู่ด้านหลัง เฉาเยี่ยนหลิงเองจึงพูดกับหลินหยางด้วยความเขินอายนิดหน่อย วันนี้เล่นกันดุเดือดไปหน่อย โดยเฉพาะหลังจากที่พัฒนาความสัมพันธ์แล้ว ก่อนหน้านี้ตอนที่มีอารมณ์ตื่นเต้นก็ยังรู้สึกสบายดีอยู่ แต่ในตอนนี้เพียงแค่เธอขยับนิดเดียวก็รู้สึกเจ็บปวดไปหมดแล้ว “ไม่ได้มีแค่วัวที่เหนื่อย จะไม่มีทุ่งนาที่เสียหายจากการไถเลยเหรอ?” หลินหยางประคองเธอไว้ในอ้อมแขนแล้วพูดทั้งหัวเราะออกมา “งั้นคุณเป็นวัวเหรอ? คุณน่ะควรเป็นรถไถซะมากกว่า!” เฉาเยี่ยนหลิงชกหน้าอกของหลินหยางด้วยความโกรธ แต่กลับมีสีหน้าแดงระเรื่อ จะไปต่อต้านหลินหยางที่ขุดดินสามฟุตหว่านเมล็ดพืชได้อย่างไร ยิ่งไปก
ตั้งแต่ปรมาจารย์หลินหยางเข้าวงการมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเขินอายขนาดนี้ ดีที่ตอนนี้ จู่ ๆ ก็เปล่งเสียงเบา ๆ ออกมา “คุณหว่านเอ๋อร์ เรื่องของเราเป็นเพียงแค่การทำธุรกิจเท่านั้นนะครับ” ข้างกายของมู่หรงหว่านเอ๋อร์ มีชายชราผมหงอกท่านหนึ่งยืนอยู่ ลมหายใจของเขาดูสุขุมนุ่มลึก ดวงตาราวกับดวงดาวที่เยือกเย็น มีพลังที่ไม่ธรรมดา ที่ทำให้ไม่สามารถละสายตาได้เลย“ใช่ใช่ คุยเรื่องธุรกิจกันก่อน” มู่หรงหว่านเอ๋อร์รีบแนะนำให้หลินหยาง “ท่านนี้คือยอดฝีมือที่พี่สาวฉันเชิญมาช่วยคุณจากหนานตู ปรมาจารย์หวัง หวังเหลียนเฉิง” “ปรมาจารย์หวังเป็นปรมาจารย์ระดับแปด จะช่วยให้คุณรับมือกับแรงกดดันได้อย่างแน่นอน” “ปรมาจารย์ระดับแปด? ยินดี.....” หลินหยางประสานมือไว้ตรงหน้าอกอย่างสุภาพ มู่หรงยิ่นเคยเสนอเรื่องนี้ คือจะหายอดฝีมือจากหนานตูมาให้ตัวเอง ช่วยให้ตัวเองรับมือกับนักฆ่าผู้มาเยือนที่หลูอ้าวตงจะส่งมาได้แต่ก็คิดไม่ถึงว่า เพียงแค่มู่หรงยิ่นลงมือ ก็สามารถหาปรมาจารย์ระดับแปดได้แล้ว ที่จริงแล้วปรมาจารย์ระดับแปดที่หนานตูก็ถือว่าเป็นยอดฝีมือ มู่หรงยิ่นสามารถเชิญยอดฝีมือด้านหมัดมวยมาได้ จึงทำให้เขาค่อนข้างประหล
หลินหยางพูดด้วยรอยยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้มออกมา “คุณรู้ได้อย่างไรว่าผมไม่มีความคืบหน้า? บางทีวันนี้ผมอาจจะบรรลุผ่านไปเลยก็ได้?” นี่ไม่ใช่คำโว ช่วงเวลาพักฟื้นสั้น ๆ นี้ บวกกับหลังจากที่ได้ระบายปราณหยางออกไปในวันนี้แล้ว หลินหยางก็รู้สึกว่าอาณาเขตของตัวเองคลายตัว และความก้าวหน้าก็อยู่ใกล้แค่ตรงหน้า “นี่มันตอนไหนแล้วยังเอาแต่ฝันกลางวันอยู่อีก.....” หวังเหลียนเฉิงเหมือนกำลังดูเด็กที่โง่เขลาคุยโว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดราวกับว่าผู้พิพากษากำลังออกโทษประหาร “หลังจากที่คุณเอาชนะจากการรบอันน่าสลดนั่นได้ เส้นทางการฝึกตนจะต้องถูกทำลาย ในตอนนี้ที่ยังมีชีวิตอยู่ถือว่าเป็นความโชคดี” “ยังอยากจะคิดบรรลุไปอีกอาณาเขต เพ้อฝันเสียจริง” “งั้นเราต้องคอยเฝ้าดูสถานการณ์” หลินหยางขี้เกียจพูดมาก ตัวเองล้วนแต่ต่อล้อต่อเถียงกับสาวสวย การที่ต้องมามีปากเสียงกับคนแก่แบบนี้ สกปรกปากตัวเองเปล่า ๆ ฮึ่ย! หลินหยางพาเฉาเยี่ยนหลิงเข้าไปในคฤหาสน์ ด้านหลังของเขา หวังเหลียนเฉิงพูดออกมาอย่างหงุดหงิด “เจ้าเด็กอวดดีนี่ คุณหนูใหญ่เสียสละตัวเพื่อคนแบบนี้ รู้จักคนไม่ดีพอเสียจริง ๆ” มู่หรงหว่านเอ๋อร์ไม่มีความสุขน
“คุณไปบอกกับพี่สาวคนโตว่า ภายในสามวันนี้ ผมจะป้องกันเขาอย่างสงบสุข” เขาเอ่ยออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา “เข้าใจแล้วค่ะ....” มู่หรงหว่านเอ๋อร์มองเข้าไปยังคฤหาสน์ด้วยสายตาลึกซึ้ง ด้วยสายตาที่ค่อนข้างกังวลหากคิดคำนวณเวลาแล้ว การแก้แค้นของหลูอ้าวตงควรมาถึงแล้ว สามวันต่อจากนี้ คำพูดที่ให้ไว้ต่อหลินหยาง จะต้องเป็นสามวันที่อันตรายที่สุดอย่างแน่นอน แต่พี่สาวใช้ตัวเองเพื่อเป็นโล่กำบัง ช่วยป้องกันหลิงหยางจากภัยนี้ พี่สาวช่วยหลินหยางขนาดนี้แล้ว บางทีเธอก็อาจจะมีความรู้สึกต่อหลินหยางเช่นกัน.....หลินหยาง พี่สาวจะเสี่ยงทุกอย่างเพื่อปกป้องคุณ คุณเองก็อย่าทำให้พี่สาวผิดหวัง จะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้นะเธอแอบพูดอยู่ในใจ ในเวลาเดียวกันนี้เอง หลินหยางที่กลับถึงคฤหาสน์ จึงจัดเตรียมห้องไว้ให้เฉาเยี่ยนหลิงได้กลับมาพักฟื้นหลังจากที่เหน็ดเหนื่อยอย่างหนัก ส่วนตัวเองที่เข้ามาถึงในห้องน้ำ ก็ทำการจัดแจงอ่างยาอย่างดี จากนั้นก็เปลือยกาย ค่อย ๆ ลงไปในอ่างยานั้น “ระดับเจ็ด วันนี้คงจะใกล้เคียงแล้วหล่ะ....” หลินหยางรู้สึกถึงโอกาสบางอย่าง ปราณแท้ในร่างกายของเขาคำรามราวกับพายุ ซึ่งส่งผลอย่างต่อเนื่อง
“อีกอย่าง ยังมีพวกเราคอยจับตาดูอยู่...”ในระหว่างที่พูด สายตาของเขาก็มองไปทางเฉิงคั่วเฉิงคั่วรีบกล่าว “ผมได้มอบหมายให้พวกลูกศิษย์ไปเฝ้าตามทางแยกต่าง ๆ เอาไว้แล้ว จัดวางกับดักเอาไว้แล้ว ไม่ว่าหลินหยางจะหนีไปที่ไหน อย่างน้อยก็สามารถถ่วงเวลามันเอาไว้ได้บ้าง”“ทำได้ไม่เลว หลังเรื่องสำเร็จ นายก็จะได้เป็นปรมาจารย์อันดับหนึ่งของเมืองลั่ว นายท่านตงเองก็จะเพิ่มรางวัลให้นายมากกว่าเดิม”จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวเสียงเรียบ มีเหยียนหรูอวี้เป็นก้าง เขาไม่ค่อยสะดวกที่จะมอบหมายให้กองกำลังเข้าเมือง นี่ถึงได้ให้โอกาสเฉิงคั่วที่มีความแค้นกับหลินหยางเหมือนกันสักครั้ง เขาได้เข้ามาร่วมก็เพื่อป้องกันไม่ให้หลินหยางวิ่งหนีอย่างสุนัขจนตรอก“นายท่านตงยอมใช้งานผม ก็ถือเป็นบุญที่ใหญ่ที่สุดของเฉิงคั่วแล้ว ผมจะต้องทำให้ดีที่สุด!”เฉิงคั่วดีใจมาก รีบกล่าว“ฉันขอร้องนายท่านตงให้เห็นแก่ที่พ่อผมต้องตายในการต่อสู้ มอบหัวใจของหลินหยางให้ฉัน เพื่อเป็นของเซ่นไหว้ให้คุณพ่อฉันได้ไหม?” เว่ยเสี่ยวเตี๋ย“ฉันจะบอกกับนายท่านตง ฉันคิดว่านายท่านตงต้องอนุญาต” จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวเสียงเรียบ“น่าเสียดายที่ไม่สามารถให้หลินหยางถูกสับเ
หลินหยางค่อย ๆ ลืมตาขึ้น จ้องมองเขาอย่างเย็นชา “ไม่มีใครเคยสอนนายเหรอว่า การรบกวนการฝึกฝนของคนอื่นจะมีผลตามมายังไงไหม?”หวังเหลียนเฉิงยิ่งหมดความอดทน “รบกวนแกแล้วจะทำไม? ก็แค่คนไร้น้ำยาที่ไม่สามารถก้าวหน้าได้ชั่วชีวิตคนหนึ่งเท่านั้น ยังจะมาแสร้งทำท่าทางฝึกฝนอะไรอยู่อีก?”“ฉันจะพูดอีกครั้ง ไสหัวกลับไปที่ท่อระบายน้ำซะ! ที่นั่นถึงจะเป็นที่ที่แกควรอาศัยอยู่!”ท่อระบายที่แสนคับแคบ หลินหยางซ่อนตัวอยู่ที่นั่นอย่างจนตรอก หมดหนทางไป แล้วก็ยิ่งไม่สะดวกที่จะหลบหนี สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ไม่มีคนรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่ท่อระบายน้ำ“ฉันไม่จำเป็นต้องให้แกอารักขา แกมาจากที่ไหนก็ไสหัวกลับไปที่นั่น ไม่ว่ามู่หรงยิ่นจะพูดเงื่อนไขอะไรกับแก ถือเป็นโมฆะทั้งหมด!”และหลินหยางกำลังดูดซึมฤทธิ์ของสมุนไพรอย่างบ้าคลั่ง กล่าวเสียงเรียบ ไม่ไว้หน้าอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อยแกจะเสแสร้งทำบ้าอะไร?“แกเก่งมาจากไหน? แกพูดว่าเป็นโมฆะก็ถือเป็นโมฆะได้เลย! ฉันว่าหลังจากที่แกได้เป็นปรมาจารย์อันดับหนึ่งแห่งเมืองลั่ว ถูกยกย่องเสียใจไม่รู้ว่าตัวเองชื่ออะไรแล้ว ยังกล้ามาชี้นิ้วสั่งฉันอีก?”หวังเหลียนเฉิงกล่าวอย่างน่าตลก ถ้าหาก
“หรูหมิง พวกเรามาเป็นแขกเพื่อส่งสมุนไพร ห้ามเสียมารยาท!” ถังฮ่าวหรานกล่าวพร้อมรอยยิ้มหลี่หรูเยว่กล่าวอย่างหมดความอดทน “รีบฆ่ามัน วันนี้ม๋อเออร์ยังดื่มเลือดไม่อิ่ม!”เมื่อหวังเหลียนเฉิงได้ยินดังนั้นก็สีหน้าซีดขาวเล็กน้อย ว่ากันว่าวิชาที่ม๋อจื่อฝึกฝนคือวิชาลับ ชอบกินเนื้อและเลือดของผู้ฝึกฝน เขาเป็นปรมาจารย์ระดับแปดได้ตั้งแต่อายุยังน้อย มีความเกี่ยวข้องกับวิชาลับนี้เป็นอย่างมากและถังฮ่าวหรานกล่าวอย่างขอโทษหวังเหลียนเฉิง “ขออภัยจริง ๆ วันนี้ลูกหมายังไม่ได้กินข้าว คุณลองดูว่าจะบอกกับปรมาจารย์หลินหน่อยได้หรือไม่”“ให้เขาช่วยแสดงน้ำใจในฐานะเจ้าบ้าน เลี้ยงข้าวลูกชายผมให้อิ่มท้องสักมื้อ?”การพูดจาแบบนี้ดูเกรงใจมาก แล้วก็วิปริตมาก หวังเหลียนเฉิงได้ยินก็รู้สึกขนหัวลุก เขาอยากจะปล่อยครอบครัวนี้เข้าไปจริง ๆแต่อย่างน้อยตนก็ควรจะต้องเสแสร้ง ถึงจะสามารถอุดปากนั่นของมู่หรงยิ่นได้...“พวกนายรอก่อนสักสามวัน หลังจากสามวัน พวกนายจะจัดการหลินหยางยังไงก็แล้วแต่เลย...”“แกอยากให้ลูกชายของฉันหิวตายใช่ไหม?”หลี่หรูเยว่สายตาเย็นชา โซ่ในมือส่งเสียงดังแกร๊ง ม๋อจื่อส่งเสียงคำรามออกจากปาก จ้องหวังเหลียนเ
ในเวลาเดียวกัน ที่ระเบียงของคฤหาสน์ข้าง ๆจ้าวเจิ้งฮ่าวสีหน้ามีความสุข “ไม่คาดคิดเลยว่าจะเป็นสามความดุร้ายแห่งซิ่นหลิน หลินหยางครั้งนี้แกต้องตายอย่างน่าอนาถมากแน่ ๆ ฉันอยากจะเห็นม๋อจื่อนั่น ค่อย ๆ กินหลินหยางทั้งเป็น!”จ้าวเจี้ยนชิงจ้องมองทั้งสามคนนั้น สีหน้าประหลาดใจ “สามคนนั้นฝีมือโหดเหี้ยมอำมหิต กำลังรบแข็งแกร่ง ฉันได้ยินมาว่า ทั้งสามคนนี้เคยจัดการปรมาจารย์เสวียนระดับหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บคนหนึ่งมาก่อน!”ทุกคนฮือฮาขึ้นมาแม้ว่าจะเป็นปรมาจารย์เสวียนระดับหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บ แต่นั่นก็คือปรมาจารย์เสวียนเชียวนะ!กำลังรบของทั้งสามคนแข็งแกร่งมากขนาดนี้!“ม๋อจื่อคนนี้ชื่นชอบการกินเนื้อมนุษย์” เว่ยเสี่ยวเตี๋ยกล่าวอย่างมีความสุข “ฉันอยากจะว่าถ้าหลินหยางตกอยู่ในมือของคนอำมหิตทั้งสามคนนี้ จะมีจุดจบยังไง!”“ตั้งใจดูละครเถอะ...”จ้าวเจี้ยนชิงยิ้มบาง ๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความเฝ้ารอคอยและอีกด้านหนึ่ง หวังเหลียนเฉิงสีหน้าหวาดกลัว เขารู้สึกว่าเลือดภายในร่างกายไหลหายไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งอ่อนแอขึ้นเรื่อย ๆ“หลินหยางกำลังฝึกฝนอยู่ด้านใน ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ พวกนายไปฆ่าเขาก่อน!”เขาคำรามอย่างส
“ปรมาจารย์หลินปิดบังเก่งนี่นา! แม้แต่กรมอัยการสูงสุดแห่งหนานตูยังเชื่อฟังคำสั่งของปรมาจารย์หลิน?!”“น่าตลก จ้าวเจี้ยนชิงนั่นยังใช้อำนาจและอิทธิพลข่มเหงผู้คน! อำนาจและอิทธิพลของปรมาจารย์หลินมากกว่าเขาไม่รู้ตั้งกี่เท่า!”“ไอดอล...เก่งมาก!”หานเซวี่ยอิ๋งอ้าริมฝีปากแดงเล็กน้อย จ้องมองหลินหยางที่สีหน้าเรียบเฉยด้วยความตื่นตะลึง ในใจไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีจ้าวเจี้ยนชิงที่อวดดีจนถึงขนาดไม่มีใครเทียบได้ ไม่นึกเลยว่าจะถูกจับกุมแบบนี้?“นายพลจ้าว ช่วยพวกเราด้วย! ฉันไม่อยากตาย!”และในเวลานี้ เฉิงหว่านฉิงกลับถูกเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายจับกุม ใส่กุญแจมือ เธอหันหน้าไปมองจ้าวเจี้ยนชิงอย่างขอร้องด้วยสีหน้าตื่นตระหนกและหวาดกลัวถึงแม้ว่าเธอจะเป็นแม่ม่ายดำ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ใหญ่เกินไป เกือบจะทำให้เธอฉี่ราด ตอนนี้ทำได้เพียงฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่จ้าวเจี้ยนชิง?จ้าวเจี้ยนชิงในเวลานี้กลับหันไปมองเหยียนฮ่าวด้วยสีหน้าไม่ดีพร้อมกล่าวเสียงเย็นยะเยือก “คุณชายเหยียน! คุณไม่ได้รับสายโทรศัพท์ของคุณพ่อคุณเหรอ นายท่านตงกับคุณพ่อของคุณสัญญากันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าจะเก็บหลินหยาง!”หลังจากเกิดเรื่องต
“แกพูดจาเหลวไหล! พวกเราทุกคนเห็นกันหมดแล้ว เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าแกสมคบคิดกับชาวตงอิ๋ง รังแกคนประเทศหลงของพวกเรา!”“ชาวตงอิ๋งนั่นบอกว่าพวกเราเป็นไอ้ขี้ยาแห่งเอเชียตะวันออก ทำไมแกถึงยังปกป้องเขาอยู่อีก! เห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่าแกควรจะปกป้องเมืองลั่ว!”“ทำแต่เรื่องชั่วช้าสามานย์!”ทันใดนั้น บรรดาฝูงชนที่มุงดูเกิดอารมณ์ขุ่นเคืองขึ้นมา พยายามปกป้องหลินหยาง การกระทำที่กลับดำเป็นขาวของจ้าวเจี้ยนชิงทำให้พวกเขาโมโหจนสำลัก พากันหยิบมือถือขึ้นมาอัดวิดีโอเอาไว้เป็นหลักฐานแต่ทว่าเสียงปังดังขึ้นทันที!บรรดาคนสนิทของจ้าวเจี้ยนชิงลงมือทันที ราวกับเสือกระโจนเข้าฝูงแกะ ทำให้ฝูงชนที่มามุงดูพวกนั้นถูกเตะล้มลงไปบนพื้น โทรศัพท์มือถือของบรรดาแฟนคลับถูกเหยียบแตกละเอียด!ทั้งหมดเต็มไปด้วยความวุ่นวาย!“หลินหยาง ฉันยอมรับว่าฉันเอาชนะแกไม่ได้ แต่นั่นแล้วยังไง ฉันจะจัดการกับคนเจ้าเล่ห์อย่างแก ก็ยังคงง่ายเหมือนกับปอกกล้วยเข้าปาก!”ถึงแม้ว่าจ้าวเจี้ยนชิงจะถูกหลินหยางบีบคอเอาไว้ แต่สีหน้ากลับไม่แสดงความกลัวเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันยังเต็มไปด้วยความเย้ยหยันและเหยียดหยาม!“ข่มขู่ฉัน?” หลินหยางกลับยิ้มออกมา“ฉันจะข่
ร่างกายของฮิเดนากะ ยามาโมโตะเหมือนกับระเบิด แฝงไปด้วยพลังมหาศาล!“บ้าเอ๊ย!”จ้าวเจี้ยนชิงรีบจับเอาไว้อย่างรวดเร็ว พยายามรักษาระยะห่างกับหลินหยางแต่ทว่าหลินหยางกลับขยับตัวเข้าไปใกล้! ตามเขาไปอย่างใกล้ชิด!ทันใดนั้น แม้ว่าเป็นพวกคนสนิทของจ้าวเจี้ยนชิงก็ไม่กล้าเหนี่ยวไก กลัวว่าจะพลาดทำจ้าวเจี้ยนชิงบาดเจ็บ!“ไสหัวออกไป!”จ้าวเจี้ยนชิงคำรามออกมาพร้อมทั้งสวนหมัดออกไป อยากจะบีบให้หลินหยางถอยออกไปแต่หลินหยางกลับคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ กล่าวพร้อมแสยะยิ้ม “คิดจะหนี? แกหนีพ้นเหรอไง?”จ้าวเจี้ยนชิงสีหน้าตกใจ ออกแรงอย่างบ้าคลั่งพยายามจะทำให้หลุดพ้นแต่ทว่ามือของหลินหยางเหมือนกับคีม ขยับเขยื้อนไม่ได้เลยสักนิด! ในทางกลับกันมีเสียงดังสนั่นกลุ่มหนึ่งลอยมา ทำให้จ้าวเจี้ยนชิงรู้ว่าตนเองราวกับถูกพันธนาการเอาไว้แน่น!“แม่งเอ๊ย แกปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าผู้หญิงขี้ยาพวกนั้น!” จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวข่มขู่ด้วยความโมโหเพี้ยะ!ทันใดนั้นก็ถูกตบหน้าฉาดหนึ่ง!นี่เป็นการโจมตีที่รุนแรงและหนักหน่วง เสียงเปรี้ยงดังขึ้นทำให้หัวของจ้าวเจี้ยนชิงสั่นสะเทือน!“การตบนี้ ตบเพราะแกลืมรากเหง้า!” หลิ
เปรี้ยง!หลินหยางสวนหมัดสังหารออกไปทันที หมัดนี้เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า!เขาต้องการจะเอาชีวิตสุนัขของเขา!แต่ทว่าในเวลานี้ ทันใดนั้นที่ประตูใหญ่ของตระกูลเฉิงก็แหลกละเอียด จ้าวเจี้ยนชิงพังประตูออกมา ขวางเอาไว้ที่ด้านหน้าของฮิเดนากะ ยามาโมโตะ สวนหมัดเพื่อโจมตีออกไปเช่นกัน!หมัดทั้งสองปะทะเข้าใส่กัน เกิดเสียงดังเปรี้ยงขึ้นทีหนึ่งแล้วทั้งสองก็ถูกแรงสั่นสะเทือนลอยออกไปพร้อมกันร่างกายของจ้าวเจี้ยนชิงร่นถอยไปหลายก้าวติดต่อกัน เสียงดังเปรี้ยง หินแผ่นหนึ่งถูกบดขยี้อยู่ใต้เท้า“ปรมาจารย์หลิน เรื่องเล็กน้อยนี้ควรค่าที่จะให้คุณต้องโมโหขนาดนี้เลยเหรอ? ไม่คู่ควรหรอกน่า”จ้าวเจี้ยนชิงยืนเอามือไพล่หลัง สายตาที่จ้องมองหลินหยางราวกับกำลังชื่นชม หลินหยางยิ่งโกรธ เขาก็ยิ่งรื่นรมย์ เขาถูกหลินหยางทำให้โมโหจนขาดสติหลายครั้ง ยินดีมากที่จะได้เห็นหลินหยางโมโห“ไม่ผิด!” ฮิเดนากะ ยามาโมโตะกลับกล่าวพร้อมรอยยิ้มเยาะหยัน “พวกเธอเป็นผู้หญิงเสพยาทั้งนั้น ฉันปรารถนาดีหางานให้พวกเธอ ยังจัดการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนั้นให้คุณอีก”“ปรมาจารย์หลินยังจะตำหนิผมอีก ผมนี่มันทำดีแต่ไม่ได้ดีเลยจริง ๆ!”แต่ทว่าทันทีที่พูดจบ
“เหลวไหล!” หลินไร้ศัตรูกลับค้อนเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “หลานชายของฉันเป็นสายเลือดโดยตรงรุ่นที่สามที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตระกูลหลิน! ถ้าหากเขาไม่อยู่แล้ว กิจการมากมายของตระกูลหลินจะส่งต่อให้ใครดูแล?!”“คือ...”ว่านเหลยกล่าวด้วยท่าทางลำบากใจ“พยายามตามหาเข้า ถึงอย่างไร...” หลินไร้ศัตรูถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง กลับมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “ตอนนั้นเป็นเพราะตระกูลหลินของฉันติดค้างเขาแล้วก็ยังมีพี่ชายคนโตของฉันด้วย หนี้ก้อนนี้ จำเป็นต้องคืน”อีกทางด้านหนึ่งหลินหยางกลับจามอย่างรุนแรง “ใครกำลังด่าฉัน? แม่งเอ๊ย จะต้องเป็น...”เมื่อลองคิด ๆ ดูแล้วเหมือนว่าศัตรูที่อยากจะด่าตนมีเยอะแยะมากมาย หลินหยางก็คร้านจะนับเช่นกันมองดูเวลาแวบหนึ่งก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เขาจึงออกจากบ้านด้านนอกคฤหาสน์ หลี่หรูเยว่ได้ยืนอยู่ที่ด้านหน้ารถแล้ว เปิดประตูรถให้หลินหยาง กล่าวด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย “ตระกูลเฉิงจัดงานเลี้ยงไว้รอแล้ว แต่ว่าจ้าวเจี้ยนชิงอยู่ที่งานเลี้ยงนั่นด้วย ที่นั่นจะต้องมีกองทัพทหารคอยเฝ้าอยู่!”ถ้าหากจ้าวเจี้ยนชิงเป็นสุนัขจนตรอก เรื่องจะต้องมีความยุ่งยากขึ้นแน่“งานใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะพลาดได้ยังไ
ชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านของปลายสายโทรศัพท์ราวกับตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เหมือนว่าจู่ ๆ ก็ได้เห็นความหวัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “คุณรักษาได้จริง ๆ เหรอ?”“คือว่าค่าตอบแทนนี่...”“ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัญหา! ขอเพียงแค่คุณสามารถรักษาพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกได้ คุณอยากได้อะไรก็ว่ามาได้เลย!”“ยอดเยี่ยม! โสมคนอายุสามร้อยปีสักสามสิบต้น สมุนไพรอายุห้าร้อยปีสิบต้น...”หลินหยางก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกัน จากนั้นก็สั่งสมุนไพร ราวกับสั่งอาหาร สมุนไพรพวกนี้มากพอที่จะทำให้หลูอ้าวตงต้องเจ็บปวดใจแต่ทว่าปลายสายกลับกล่าวด้วยความไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “ได้! คืนนี้ผมจะให้รถไปรับคุณ!”น้ำเสียงที่ดีใจดีนี้ ทำให้หลินหยางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเสนอราคาต่ำไปแต่ว่าไม่เสียใจภายหลัง เขาก็ไม่ได้สนใจอีก “โรคพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกจะรีบร้อนไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเตรียมตัวสักหน่อย ถึงเวลานั้นผมจะแจ้งให้คุณทราบ”ชายวัยกลางคนนั้นรับปากทันทีหลินหยางวางสายโทรศัพท์ พูดเบา ๆ “ดูท่าจะเป็นมหาเศรษฐี”อีกฝ่ายไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตน ยังสามารถเอาสมุนไพรมากมายขนาดนี้มาให้ได้อีก ตัวตนจะต้องสูงส่งมาจนไม่สะดวกที่จะเ
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา
จ้าวเจี้ยนชิงตกตะลึงไปแล้ว “ราง รางวัลพลเมืองดีเด่น?”เฉิงคั่วร้อนใจ “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าคนตายคาที่ ทุกคนเห็นกันหมด! คุณทำ...”เสียงเพี้ยะดังขึ้นทีหนึ่ง!เหยียนฮ่าวสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่บนใบหน้าของเขา เขากล่าวเสียงขรึม “เมื่อครู่นี้แกเห็นอะไร?”“ผม...”เฉิงคั่วสีหน้าซีดขาว ภายใต้สีหน้าที่เย็นยะเยือกของเหยียนฮ่าว กลับไม่กล้าพูดอะไรอีกเขาเป็นปรมาจารย์บ้านนอกคนหนึ่ง จะล่วงเกินเหยียนฮ่าวไม่ได้อย่างเด็ดขาด!“พวกแกเห็นอะไร?”เหยียนฮ่าวกวาดสายตามองคนอื่นด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกล่าวขึ้นอีกครั้งทั้งหมดนิ่งเงียบ“คดีของวันนี้ง่ายมาก!” เหยียนฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “หวังเทียนเหิงรัฐมนตรีกรมอัยการสูงสุด กลั่นแกล้งประชาชน บังคับใช้กฎหมายที่รุนแรง!”“คุณหลินป้องกันตัวตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการอพยพฉุกเฉิน!”“ผมพูดจบแล้ว มีใครเห็นด้วย มีใครคัดค้านไหม?”การอพยพฉุกเฉินสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีเหตุผล!ทุกคนตะลึงงันแต่ว่าภายใต้สายตาของเหยียนฮ่าว สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพียงเพราะบิดาของเหยียนฮ่าวยังเป็นอธิบดีกรมอัยการสูงสุด คำพูดของเขาก็คือกฎหม
เหยียนฮ่าวรู้สึกหมดความอดทนอยู่บ้าง “อยากจะเจรจาก็รีบพูดมา ไม่พูดฉันจะไปแล้ว!”หลินหยางกลับจิบไวน์อึกหนึ่ง ถึงได้หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเหยียน เหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปนะ”“คุณ มีสิทธิ์อะไรมาเจรจากับผม?”“ว่าอะไรนะ?”เหยียนฮ่าวงุนงงไปทันที หลินหยางเพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่ง!ทันใดนั้น เหยียนฮ่าวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์! ร่างกายคดงอราวกับกุ้งต้มสุก!ยังดีที่ครั้งก่อนต่อสู้ครั้งใหญ่กับหวังเหลียนเฉิง หลังจากทำลายคฤหาสน์จนพัง หลินหยางก็ได้ให้คนมาซ่อมแซมแล้ว ยังใช้วัสดุเก็บเสียงชั้นดีอีกด้วย ถึงไม่ทำให้เสียงร้องที่ราวกับจะขาดใจตายของเขาไม่ดังเล็ดลอดออกไปข้างนอกหลินหยางนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์อย่างไม่รีบไม่ร้อน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเสียงร้องอันน่าเวทนานั่นหลังจากผ่านไปห้านาที ถึงได้ค่อย ๆ วางแก้วไวน์ลงเสียงร้องอันน่าเวทนาของเหยียนฮ่าวก็ค่อย ๆ หยุดลงเขาในเวลานี้นอนอยู่บนพื้น เหงื่อท่วมตัว สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ แม้แต่พรมยังถูกเขาฉีกจนเละเทะ!“รู้สึกดีแล้วใช่ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แก แกทำอะไรกับฉัน?