เห็นพวกเราเป็นคนโง่เหรอวะ?เมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้น ว่านไห่โกรธจนกระอักเลือด“เสียดายนิ้วมือขนาดนี้เลยเหรอ คืนให้แกก็ได้!”หลินหยางเพียงยกมือ นิ้วมือทั้งสองของว่านไห่ บินออกไปเหมือนลูกดอก พุ่งไปหาดวงตาของว่านไห่ด้วยพลังที่แข็งแกร่งนิ้วมือทั้งสองวิ่งฝ่ากลางอากาศด้วยความเร็วสูง สีหน้าว่านไห่เปลี่ยนฉับพลัน เขาอยากหลบหลีก แต่ไม่ทันการณ์แล้วเขามองดูนิ้วมือทั้งสองจู่โจมมาด้วยความเร็วสูง แล้วขยายใหญ่อย่างรวดเร็วในดวงตา“ตายแน่”ขณะที่สีหน้าของเขาซีดเผือด ร่างของคนผู้หนึ่งขวางหน้าเขาไว้กะทันหัน แล้วรีบนิ้วมือทั้งสองไว้ทันที!“อาจารย์!”เมื่อเห็นรูปร่างตรงหน้าที่ผอมแห้งเหมือนกัน ว่านไห่ดีใจมาก!“ปรมาจารย์เว่ยจ้ง!”เฉาเค่อหมิงเองก็ดีใจมาก จึงรีบกล่าวขึ้น “เจ้าเด็กเวรนี่ลงมือกับว่านไห่ ซ้ำยังทำลายนิ้วมือของเขาไปสองนิ้ว”“ฉันเห็นหมดแล้ว”เว่ยจ้งตัวไม่สูงนัก แต่การพูดที่เรียบเฉย กลับดูทรงพลังอย่างผู้ที่เป็นปรมาจารย์ควรมีดวงตารูปสามเหลี่ยมของเขาเต็มไปด้วยความเหี้ยมเกรียม แล้วหันมองหลินหยาง “แกลงมือโหดใช้ได้ ถึงกับคิดจะทำลายกัน เคยคิดถึงผลลัพธ์บ้างหรือเปล่า?”หลินหยางพูดเสียงเรียบ “ล
“นาย นายว่าอะไรนะ?”“แค่นี้ก็ไม่เข้าใจเหรอ? ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะพูดอีกรอบ”หลินหยางมองหน้าเขา พร้อมทำสีหน้าเยาะเย้ย “จ้าวเจี้ยนชิงเป็นนายพลกองรักษาการณ์ เป็นนายทหารชั้นสูง ส่วนอีกคนเป็นบุคคลสำคัญในตระกูลหลู”“ส่วนคุณเป็นปรมาจารย์ระดับเจ็ดคนหนึ่ง”“แต่มาถามหาเกียรติจากผมเนี่ยนะ?”“คุณไม่สำเหนียกเลยสักนิดใช่ไหมว่าเป็นได้แค่ตัวอะไร?”เว่ยจ้งโกรธจัด เขาจ้องมองหลินหยางที่เยาะเย้ยตัวเองอย่างกำเริบเสิบสาน โมโหจนมือสั่นเทาไปหมด“แก เจ้าเด็กเมื่อวานซืน แกถึงกับกล้า...”“หลินหยาง พอแล้ว” เฉาเค่อหมิงพูดอย่างโมโห “ปรมาจารย์เว่ยจ้งมีคุณธรรมสูงส่ง เป็นปรมาจารย์ที่มีอายุที่สุดในเมืองลั่ว” “แกในฐานะคนเมืองลั่ว แม้แต่ความเคารพยำเกรงที่ควรมีต่อปรมาจารย์เว่ยจ้งก็ทำไม่ได้เหรอ? แกยังมีกฏระเบียบอยู่หรือเปล่า”“ไม่ต้องอ้าปากก็มาพูดเรื่องเด็กเรื่องผู้ใหญ่ อายุมากกว่าแล้วแน่กว่าหรือไง งั้นทำไมแกไม่ไปคุกเข่าคารวะเต่าล่ะ?สิ่งที่หลินหยางไม่ชอบที่สุด คือพวกที่ชอบเอาความแก่บังหน้า ใช่ว่าคนแก่ทุกคนสมควรจะถูกเคารพ อย่างเว่ยจ้ง คือคนเลวที่เปลี่ยนเป็นคนแก่เท่านั้น“เจ้าเด็กเวร แกนี่มันน่าโมโหจริงๆ แกนึกว่
ขณะนี้หลินหยางกลับพูดอย่างราบเรียบ “ปรมาจารย์ระดับเจ็ดกระจอกวะ แม้แต่ปรมาจารย์ระดับเสวียนฉันก็ซัดไม่ไว้หน้า! แกลองถามนายท่านตงของแกดูสิ หูของเหยาจงหายไปได้ยังไง” “จัดการปรมาจารย์ระดับเสวียน? อย่างแกเนี่ยนะ?”เว่ยจ้งทำหน้าไม่แยแส แล้วหันมองหลูอ้าวตง รอให้อีกฝ่ายเปิดโปงเจ้าเด็กเวร แต่สุดท้าย คำพูดของหลูอ้าวตง กลับทำให้เขาตะลึงงัน“แค้นของเหยาจง ตระกูลหลูจะจำไว้ แกกับปรมาจารย์เสวียนที่อยู่เบื้องหลังแกเตรียมตัวไว้ได้เลย ไม่ช้าหรือเร็ว ตระกูลหลูจะไปเด็ดหัวพวกแกแน่นอน”“งั้นเหรอ?”หลินหยางยิ้มอย่างมีเลศนัย“นายท่านตง ไอ้เด็กเวรนี่มีปรมาจารย์ระดับเสวียนหนุนหลังจริงเหรอครับ?”เว่ยจ้งตะลึงมากที่ได้ยิน ฟังจากความหมายแล้ว เหมือนเหยาจงจะเคยต่อสู้กับปรมาจารย์ระดับเสวียนที่หนุนหลังหลินหยางส่วนบทสรุป เหยาจงต้องเสียหูไปหนึ่งข้างสำหรับความพ่ายแพ้สองสามีภรรยาเฉาเค่อหมิงมองหลูอ้าวตงอย่างไม่อยากจะเชื่อ และกำลังรอคำยืนยันจากเขาปรมาจารย์เสวียนระดับสูงที่ปราบเหยาจงได้ พลังน่ากลัวเหลือเกินหากมีบุคคลอย่างนี้คอยหนุนหลังหลินหยาง พวกเขาคงไม่กล้าล่วงเกินหลินหยางท่ามกลางสายตาทุกคน หลูอ้าวตงโกรธจน
เว่ยจ้งโกรธจนตาแทบถลน รู้สึกอับอายสุดขีด เขาสั่นไปหมดทั้งตัว วินาทีนี้พลังปราณแท้ทั่วร่างปะทุออกมา อำนาจของปรมาจารย์ระดับเจ็ดถูกปลดปล่อยออกมา!“ทำไม โกรธเหรอ? ฉันยืนอยู่ตรงนี้ มาจัดการฉันสิ ไอ้สวะเอ๊ย!”หลินหยางยิ้มเย้ย ซ้ำยังไม่หลบไม่หลีกเว่ยจ้งโกรธจนเส้นเลือดตรงหน้าผากปูด อยากจะเข้าไปฉีกทึ้งใบหน้ายิ้มแย้มของหลินหยาง เขาเป็นปรมาจารย์ระดับเจ็ด สามารถกำจัดหลินหยางได้อย่างง่ายดายเขาอยากจะลงมือจนเกือบทนไม่ไหว แต่ด้านหลังมีเสียงเข้มของหลูอ้าวตงดังขึ้น“เห็นแก่ส่วนรวม ห้ามลงมือเด็ดขาด”เว่ยจ้งได้ยินแบบนั้น โกรธจนเส้นเลือดแทบระเบิด ทั้งที่เขาฆ่าหลินหยางได้ แต่กลับลงมือไม่ได้ ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เขาแทบคลั่งแต่ตอนนี้เขาไม่กล้าบีบให้ปรมาจารย์ระดับเสวียนที่หนุนหลังหลินหยางปรากฏตัว และยิ่งไม่กล้าขัดคำสั่งหลูอ้าวตง”“อาจารย์ ท่านไม่เป็นไรนะ ท่านวางใจเถอะ สุดท้ายมันหนีไม่พ้นเงื้อมมือนายท่านตงแน่”ว่านไห่ไม่สนใจตัวเองที่มือเต็มไปด้วยเลือด แต่กลับเป็นห่วงและรีบเข้าไปปลอบเว่ยจ้งหลินหยางเห็นภาพที่อบอุ่นจึงเตือนเขา “แกเป็นห่วงตัวเองก่อนเถอะ”“เฉาเยี่ยนหลิงเคยขึ้นเตียงกับฉันแล้ว เฉาเค่อหม
สถานการณ์ที่วุ่นวาย ตกอยู่ในความเงียบทันทีอากาศเหมือนหยุดนิ่งเฉาเค่อหมิงกับจางซูอวิ๋นมึนงง เมื่อหันมองใบหน้าของหลูอ้าวตง ไม่ต่างจากใบหน้าเว่ยจ้ง มีรอยฝ่ามือปรากฏชัดเจนเว่ยจ้งยกมือกุมหน้าตัวเองอย่างลืมตัว ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองไม่ได้รู้สึกเจ็บขนาดนั้นส่วนว่านไห่ก็ลืมโกรธไปชั่วขณะ เขาเหม่อมองหลูอ้าวตง แล้วหันมองหลินหยางที่ยิ้มแย้มทันใดนั้นรู้สึกว่า คู่หมั้นของตัวเองเคยขึ้นเตียงกับหลินหยางไม่ใช่เรื่องแย่แม้แต่หลูอ้าวตงหลินหยางยังกล้าตบ แค่นอนกับคู่หมั้นเขาไม่เห็นจะมีอะไรหลูอ้าวตงเองก็ถูกตบไปหนึ่งฉาดจนมึนงง เขาหันมองหลินหยาง พูดอย่างโมโหและเหลือเชื่อ “แกกล้าตบฉันเหรอ?”หลินหยางกลับยิ้ม “โชคดีที่ได้แกเตือนสติ เมื่อกี้ฉันมัวแต่คิดเรื่องทำร้ายตาแก่นี่ จนเกือบลืมอัดแกไปแล้ว”“แกรู้ไหมว่าสถานะของฉันในตระกูลหลูเป็นยังไง? แกกล้าตบฉัน ให้ตายสิวะ...”หลูอ้าวตงโกรธจนแทบบ้า ตั้งแต่เขาผงาดขึ้นมา แม้แต่ทายาทสายตรงของตระกูลหลูยังไม่กล้าตบตีเขา แต่ตอนนี้กลับถูกปรมาจารย์ระดับล่างคนหนึ่งตบหน้า?เขาโกรธจนเลือดลมพลุ่งพล่าน อยากจะฉีกหลินหยางเป็นชิ้นๆ แล้วโยนให้หมากิน“แล้วจะท
ในเวลานี้ เฉาเค่อหมิงและคนอื่นกำลังรวมตัวกันอยู่ข้างกายของหลูอ้าวตง กำลังเดินกลับไปที่ห้องผู้ป่วยเป็นเพื่อนเขาอย่างระมัดระวัง“นายท่านตง ไม่ใช่ผมปากมาก ท่านแน่ใจได้ยังไง ว่าไอ้เด็กนั่นจะปรากฏตัวที่ทะเลสาบเฉาอิน? ไม่หนี?”เว่ยจ้งถามอย่างสงสัย ตอนนี้เขาเข้าใจแนวทางความคิดของหลูอ้าวตงการท้าดวลไม่สามารถให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องแทรกแซงได้ ภายใต้สถานการณ์ที่กำลังคนของทางด้านตระกูลหลู ยังเดินทางมาไม่ถึงตามวิธีการท้าดวล การกำจัดหลินหยางอย่างถอนรากถอนโคนถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดแต่ถ้าหากหลินหยางหน้าด้าน เลือกที่จะหลบเลี่ยงการต่อสู้ ดูเหมือนว่าจะสามารถทำให้เขามีชีวิตรอดไปได้อีกสองสามวันที่สำคัญคือหลินหยางหน้าด้านมากจริง ๆ อีกทั้งยังใจกล้ามากวันนี้เขากล้าทำร้ายหลูอ้าวตง ให้เขามีชีวิตอยู่ไปอีกสักสองสามวัน เว่ยจ้งไม่กล้าให้เขาก่อเรื่องอะไรอีก“แกมองออกด้วยเหรอ? หลินหยางเป็นคนทะเยอทะยาน เขาดูทุกคน ในสายตาของเขา ก็สามารถฆ่าเจียงไห่เซิงได้เหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ถ้าเป็นแก แกจะเลือกที่หลบเลี่ยงการท้าดวลที่แกจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอนไหมล่ะ?”หลูอ้าวตงกล่าวเสียงเรียบ“หมายความว่า...”เมื่อเว่ยจ
แต่ฉินเจิ้งคุนกลับจ้องมองชุดรูปถ่ายด้วยสีหน้าอึมครึม “ใครเป็นคนทำร้ายเหยาจง สืบเจอแล้วเหรอยัง?”ในรูปถ่าย ก็คือรูปถ่ายของเหยาจงที่สวมกางเกงในเพียงตัวเดียว หูหายข้างหนึ่งกำลังเดินอยู่บนถนนใหญ่นี่คือรูปถ่ายที่คนของตระกูลฉินถ่ายเอาไว้ได้“ยังไม่แน่ใจ แต่ว่าน่าจะต้องเกี่ยวข้องกับหลินหยางแน่ ไม่น่าแปลกใจที่หลินหยางมีความมั่นใจมากขนาดนี้ ที่แท้ก็มีคนอยู่เบื้องหลัง”ฉินอี๋หลิงขมวดคิ้วเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะกันไปมองฉินเจิ้งคุนกล่าว “ตอนนี้หลินหยางยังไม่มาขอร้องพวกเรา เขาจะไม่มาแล้วใช่ไหม...”“รีบทำไม”แต่ฉินเจิ้งคุนกลับนำรูปถ่ายนั่น โยนลงไปบนโต๊ะ กล่าวอย่างเหยียดหยาม “เบื้องหลังมีแค่ปรมาจารย์เสวียนคนเดียวเท่านั้น ไม่ได้มีปัญญาอะไร ที่ตระกูลหลูมีก็คือวิธีการจัดการเขา”“แต่ว่า ตอนนี้ลูกน้องที่หลูอ้าวตงพามาไม่เพียงพอ เขาเองก็ไม่กล้าลงมือกับหลินหยางง่าย ๆ อีก ผมคาดว่า เขาจะเอาความหวังไปฝากไว้ที่การท้าดวลที่ทะเลสาบเฉาอินนั่น!”“งั้นเหรอ?”ฉินอี๋หลิงอึ้งไปทันที เมื่อครุ่นคิดอย่างละเอียด ก็รู้สึกว่าเป็นไปได้ “ฉันเองก็ได้ข่าวมาเหมือนกัน เจียงไห่เซิงเคยไปเยี่ยมเยียนหลูอ้าวตง จากนั้นก็ปิดประตูไ
“วันนี้เธอโดนคนลักพาตัวไปเหรอ? หรือว่าไม่เล่นอินเทอร์เน็ต?”หลินหยางถามอย่างแปลกใจ ไลฟ์สดนั่นจะต้องทำให้เกิดเสียงวิจารณ์แพร่สะพัด ไม่คิดเลยว่าฉินโม่หนงจะไม่เห็นตนเองกลายเป็นฮีโร่ของเมืองลั่ว ต่อสู้กับชนชั้นที่อิทธิพลด้วยท่าทางองอาจ?“ฉันไม่สนใจพวกการเล่นอินเทอร์เน็ต” ฉินโม่หนงกล่าวหลินหยางพยักหน้า นี่ก็เหมาะกับลักษณะนิสัยของฉินโม่หนง ข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต เธอไม่เคยติดตาม ใจจดใจจ่ออยู่กับการบริหารธุรกิจ“ทะเลสาบเฉาอิน สรุปว่านายจะไปหรือไม่ไป?” ฉินโม่หนงถาม“ไปแน่นอน”หลินหยางกล่าว ตนเป็นตัวละครหลักถ้าไม่ไป ทะเลสาบเฉาอินก็คงไม่มีการท้าดวลเกิดขึ้น ยังมีความสนุกเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ดูอีกด้วยฉินโม่หนงในสายกลับชะงักไปเล็กน้อย ถึงพูดออกเสียง “เยียนหรานกับเพื่อนร่วมชั้นจะไปเที่ยวที่ทะเลสาบเฉาอินพอดี อาจจะได้เจอกับนาย...”“ทำไม กลัวฉันจัดการเธอเหรอ?”หลินหยางกล่าวพร้อมแค่นยิ้ม“ความผิดในอดีตของเยียนหราน คนเป็นแม่อย่างฉันจะชดใช้ความผิดแทนเธอ ถ้านายโกรธแค้น ก็มาลงที่ฉัน อย่าลงมือกับเยียนหราน!”ฉินโม่หนงกล่าว“ตอนนี้เธอก็ถือเป็นลูกเลี้ยงของฉัน ต่อไปเธอควรเรียกฉันว่าพ่อ เธอวางใจเถอะ ฉันรู