เว่ยจ้งโกรธจนตาแทบถลน รู้สึกอับอายสุดขีด เขาสั่นไปหมดทั้งตัว วินาทีนี้พลังปราณแท้ทั่วร่างปะทุออกมา อำนาจของปรมาจารย์ระดับเจ็ดถูกปลดปล่อยออกมา!“ทำไม โกรธเหรอ? ฉันยืนอยู่ตรงนี้ มาจัดการฉันสิ ไอ้สวะเอ๊ย!”หลินหยางยิ้มเย้ย ซ้ำยังไม่หลบไม่หลีกเว่ยจ้งโกรธจนเส้นเลือดตรงหน้าผากปูด อยากจะเข้าไปฉีกทึ้งใบหน้ายิ้มแย้มของหลินหยาง เขาเป็นปรมาจารย์ระดับเจ็ด สามารถกำจัดหลินหยางได้อย่างง่ายดายเขาอยากจะลงมือจนเกือบทนไม่ไหว แต่ด้านหลังมีเสียงเข้มของหลูอ้าวตงดังขึ้น“เห็นแก่ส่วนรวม ห้ามลงมือเด็ดขาด”เว่ยจ้งได้ยินแบบนั้น โกรธจนเส้นเลือดแทบระเบิด ทั้งที่เขาฆ่าหลินหยางได้ แต่กลับลงมือไม่ได้ ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เขาแทบคลั่งแต่ตอนนี้เขาไม่กล้าบีบให้ปรมาจารย์ระดับเสวียนที่หนุนหลังหลินหยางปรากฏตัว และยิ่งไม่กล้าขัดคำสั่งหลูอ้าวตง”“อาจารย์ ท่านไม่เป็นไรนะ ท่านวางใจเถอะ สุดท้ายมันหนีไม่พ้นเงื้อมมือนายท่านตงแน่”ว่านไห่ไม่สนใจตัวเองที่มือเต็มไปด้วยเลือด แต่กลับเป็นห่วงและรีบเข้าไปปลอบเว่ยจ้งหลินหยางเห็นภาพที่อบอุ่นจึงเตือนเขา “แกเป็นห่วงตัวเองก่อนเถอะ”“เฉาเยี่ยนหลิงเคยขึ้นเตียงกับฉันแล้ว เฉาเค่อหม
สถานการณ์ที่วุ่นวาย ตกอยู่ในความเงียบทันทีอากาศเหมือนหยุดนิ่งเฉาเค่อหมิงกับจางซูอวิ๋นมึนงง เมื่อหันมองใบหน้าของหลูอ้าวตง ไม่ต่างจากใบหน้าเว่ยจ้ง มีรอยฝ่ามือปรากฏชัดเจนเว่ยจ้งยกมือกุมหน้าตัวเองอย่างลืมตัว ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองไม่ได้รู้สึกเจ็บขนาดนั้นส่วนว่านไห่ก็ลืมโกรธไปชั่วขณะ เขาเหม่อมองหลูอ้าวตง แล้วหันมองหลินหยางที่ยิ้มแย้มทันใดนั้นรู้สึกว่า คู่หมั้นของตัวเองเคยขึ้นเตียงกับหลินหยางไม่ใช่เรื่องแย่แม้แต่หลูอ้าวตงหลินหยางยังกล้าตบ แค่นอนกับคู่หมั้นเขาไม่เห็นจะมีอะไรหลูอ้าวตงเองก็ถูกตบไปหนึ่งฉาดจนมึนงง เขาหันมองหลินหยาง พูดอย่างโมโหและเหลือเชื่อ “แกกล้าตบฉันเหรอ?”หลินหยางกลับยิ้ม “โชคดีที่ได้แกเตือนสติ เมื่อกี้ฉันมัวแต่คิดเรื่องทำร้ายตาแก่นี่ จนเกือบลืมอัดแกไปแล้ว”“แกรู้ไหมว่าสถานะของฉันในตระกูลหลูเป็นยังไง? แกกล้าตบฉัน ให้ตายสิวะ...”หลูอ้าวตงโกรธจนแทบบ้า ตั้งแต่เขาผงาดขึ้นมา แม้แต่ทายาทสายตรงของตระกูลหลูยังไม่กล้าตบตีเขา แต่ตอนนี้กลับถูกปรมาจารย์ระดับล่างคนหนึ่งตบหน้า?เขาโกรธจนเลือดลมพลุ่งพล่าน อยากจะฉีกหลินหยางเป็นชิ้นๆ แล้วโยนให้หมากิน“แล้วจะท
ในเวลานี้ เฉาเค่อหมิงและคนอื่นกำลังรวมตัวกันอยู่ข้างกายของหลูอ้าวตง กำลังเดินกลับไปที่ห้องผู้ป่วยเป็นเพื่อนเขาอย่างระมัดระวัง“นายท่านตง ไม่ใช่ผมปากมาก ท่านแน่ใจได้ยังไง ว่าไอ้เด็กนั่นจะปรากฏตัวที่ทะเลสาบเฉาอิน? ไม่หนี?”เว่ยจ้งถามอย่างสงสัย ตอนนี้เขาเข้าใจแนวทางความคิดของหลูอ้าวตงการท้าดวลไม่สามารถให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องแทรกแซงได้ ภายใต้สถานการณ์ที่กำลังคนของทางด้านตระกูลหลู ยังเดินทางมาไม่ถึงตามวิธีการท้าดวล การกำจัดหลินหยางอย่างถอนรากถอนโคนถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดแต่ถ้าหากหลินหยางหน้าด้าน เลือกที่จะหลบเลี่ยงการต่อสู้ ดูเหมือนว่าจะสามารถทำให้เขามีชีวิตรอดไปได้อีกสองสามวันที่สำคัญคือหลินหยางหน้าด้านมากจริง ๆ อีกทั้งยังใจกล้ามากวันนี้เขากล้าทำร้ายหลูอ้าวตง ให้เขามีชีวิตอยู่ไปอีกสักสองสามวัน เว่ยจ้งไม่กล้าให้เขาก่อเรื่องอะไรอีก“แกมองออกด้วยเหรอ? หลินหยางเป็นคนทะเยอทะยาน เขาดูทุกคน ในสายตาของเขา ก็สามารถฆ่าเจียงไห่เซิงได้เหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ถ้าเป็นแก แกจะเลือกที่หลบเลี่ยงการท้าดวลที่แกจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอนไหมล่ะ?”หลูอ้าวตงกล่าวเสียงเรียบ“หมายความว่า...”เมื่อเว่ยจ
แต่ฉินเจิ้งคุนกลับจ้องมองชุดรูปถ่ายด้วยสีหน้าอึมครึม “ใครเป็นคนทำร้ายเหยาจง สืบเจอแล้วเหรอยัง?”ในรูปถ่าย ก็คือรูปถ่ายของเหยาจงที่สวมกางเกงในเพียงตัวเดียว หูหายข้างหนึ่งกำลังเดินอยู่บนถนนใหญ่นี่คือรูปถ่ายที่คนของตระกูลฉินถ่ายเอาไว้ได้“ยังไม่แน่ใจ แต่ว่าน่าจะต้องเกี่ยวข้องกับหลินหยางแน่ ไม่น่าแปลกใจที่หลินหยางมีความมั่นใจมากขนาดนี้ ที่แท้ก็มีคนอยู่เบื้องหลัง”ฉินอี๋หลิงขมวดคิ้วเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะกันไปมองฉินเจิ้งคุนกล่าว “ตอนนี้หลินหยางยังไม่มาขอร้องพวกเรา เขาจะไม่มาแล้วใช่ไหม...”“รีบทำไม”แต่ฉินเจิ้งคุนกลับนำรูปถ่ายนั่น โยนลงไปบนโต๊ะ กล่าวอย่างเหยียดหยาม “เบื้องหลังมีแค่ปรมาจารย์เสวียนคนเดียวเท่านั้น ไม่ได้มีปัญญาอะไร ที่ตระกูลหลูมีก็คือวิธีการจัดการเขา”“แต่ว่า ตอนนี้ลูกน้องที่หลูอ้าวตงพามาไม่เพียงพอ เขาเองก็ไม่กล้าลงมือกับหลินหยางง่าย ๆ อีก ผมคาดว่า เขาจะเอาความหวังไปฝากไว้ที่การท้าดวลที่ทะเลสาบเฉาอินนั่น!”“งั้นเหรอ?”ฉินอี๋หลิงอึ้งไปทันที เมื่อครุ่นคิดอย่างละเอียด ก็รู้สึกว่าเป็นไปได้ “ฉันเองก็ได้ข่าวมาเหมือนกัน เจียงไห่เซิงเคยไปเยี่ยมเยียนหลูอ้าวตง จากนั้นก็ปิดประตูไ
“วันนี้เธอโดนคนลักพาตัวไปเหรอ? หรือว่าไม่เล่นอินเทอร์เน็ต?”หลินหยางถามอย่างแปลกใจ ไลฟ์สดนั่นจะต้องทำให้เกิดเสียงวิจารณ์แพร่สะพัด ไม่คิดเลยว่าฉินโม่หนงจะไม่เห็นตนเองกลายเป็นฮีโร่ของเมืองลั่ว ต่อสู้กับชนชั้นที่อิทธิพลด้วยท่าทางองอาจ?“ฉันไม่สนใจพวกการเล่นอินเทอร์เน็ต” ฉินโม่หนงกล่าวหลินหยางพยักหน้า นี่ก็เหมาะกับลักษณะนิสัยของฉินโม่หนง ข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต เธอไม่เคยติดตาม ใจจดใจจ่ออยู่กับการบริหารธุรกิจ“ทะเลสาบเฉาอิน สรุปว่านายจะไปหรือไม่ไป?” ฉินโม่หนงถาม“ไปแน่นอน”หลินหยางกล่าว ตนเป็นตัวละครหลักถ้าไม่ไป ทะเลสาบเฉาอินก็คงไม่มีการท้าดวลเกิดขึ้น ยังมีความสนุกเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ดูอีกด้วยฉินโม่หนงในสายกลับชะงักไปเล็กน้อย ถึงพูดออกเสียง “เยียนหรานกับเพื่อนร่วมชั้นจะไปเที่ยวที่ทะเลสาบเฉาอินพอดี อาจจะได้เจอกับนาย...”“ทำไม กลัวฉันจัดการเธอเหรอ?”หลินหยางกล่าวพร้อมแค่นยิ้ม“ความผิดในอดีตของเยียนหราน คนเป็นแม่อย่างฉันจะชดใช้ความผิดแทนเธอ ถ้านายโกรธแค้น ก็มาลงที่ฉัน อย่าลงมือกับเยียนหราน!”ฉินโม่หนงกล่าว“ตอนนี้เธอก็ถือเป็นลูกเลี้ยงของฉัน ต่อไปเธอควรเรียกฉันว่าพ่อ เธอวางใจเถอะ ฉันรู
“เตรียมเอาไว้เรียบร้อยตั้งนานแล้ว การอาบน้ำด้วยกันเป็นเพียงหนึ่งในลิสรายการเท่านั้น ต่อจากนี้ยังมีอีกเยอะ...”หลินหยางกลับยิ้มพร้อมทั้งอุ้มเธอขึ้นมา เดินเข้าไปในห้องน้ำ ในอ่างอาบน้ำได้เปิดน้ำและตีฟองสบู่เอาไว้จนเต็มเรียบร้อยแล้วอ่างอาบน้ำใหญ่มาก มากพอที่จะให้เล่นได้หลากหลายอย่าง...อีกสองวันต่อจากนี้ หลินหยางกับฉินโม่หนง ไม่เขินอายกันเลยจริง ๆ สับสนวันและคืนจากห้องอาบน้ำจนถึงห้องครัว จากห้องครัวจนถึงห้องรับแขก...ระดับความแข็งแกร่งนั้นเรียกได้ว่าคือมาราธอนแต่เพราะเป็นหลินหยาง หากเป็นคนทั่วไป ก็คงจะหมดแรงตายไปนานแล้วและฉินโม่หนงก็ถูกบุกเบิกจนถึงที่สุด ทั้งลูกเล่น ท่าทาง ช่องทางต่าง ๆ ถูกบุกเบิกจนหมดแล้วตอนแรกฉินโม่หนงยังคงแสดงท่าทางหญิงแกร่งตามเดิม รักษาศักดิ์ศรีเอาไว้บ้าง ทำตัวดื้อรั้น แต่การบุกจู่โจมที่รวดเร็วและดุดันของหลินหยางทำให้ต้านทานไม่ไหว จึงให้ความร่วมมือกับหลินหยางฟ้าสางในสองวันถัดมา หลินหยางเปิดหน้าต่าง แสงแดดสาดส่องเข้ามาในห้องบนเตียงใหญ่อันยุ่งเหยิง ฉินโม่หนงเผยให้ผิวพรรณขาวละเอียด แต่กำลังนอนหลับอย่างสบาย สีหน้าแดงระเรื่อ ผมเผ้ายุ่งเหยิงในอากาศเต็มไปด้
เมื่อคิดไปคิดมา เธอรู้สึกว่าร่างกายปวดร้าวขึ้นมาอีกครั้ง“ในที่สุดก็จบสิ้นสักที...”เธอถอนหายใจออกมายาว ๆ เมื่อนึกย้อนถึงสิ่งที่ผ่านมาในช่วงสองวันมานี้ หัวใจของเธอมีความหวาดผวาเล็กน้อย หลินหยางเรียกได้ว่าไม่ใช่คน ตนเกือบถูกเขาทรมานจนเหนื่อยล้าเดิมทีฉินโม่หนงตั้งใจที่จะไปทะเลสาบเฉาอิน แต่ก็หมดเรี่ยวหมดแรงจริง ๆเธอเหนื่อยขั้นสุด กอดผ้าห่มที่มีกลิ่นของหลินหยางติดเอาไว้ แล้วก็ผล็อยหลับไปอย่างสนิท ภายในห้องที่ผ่านศึกหนักตลอดสองวันมานี้หลินหยางออกมาจากบ้านแล้วบิดขี้เกียจ ทั่วทั้งตัวมีเสียงกระดูกลั่นดังกรอบแกรบเขาสูดอากาศบริสุทธิ์สดชื่นยามเช้าเข้าไปเต็มปอด จิตใจเบิกบานผ่อนคลายขึ้นมาทันที รู้สึกว่าปลอดโปร่งทั้งภายในและภายนอกร่างกาย อารมณ์บรรลุถึงจุดสูงสุดแล้ว!“สองวันมานี้แกใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเหลือเกินนะ เวลานี้แล้ว ยังจะขลุกตัวอยู่กับผู้หญิงอีก?”ในเวลานี้ เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น แต่กลับมีเสียงที่เรียบเฉยของหลูอ้าวตงดังลอยมา“ทำไม แกจับตาดูฉันเหรอ?”หลินหยางไม่ประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย ที่ตนถูกหลูอ้าวตงจับตาดู ตระกูลหลูหูตามากมาย เวลาสองวัน มากพอที่จะให้พวกเขาสืบหาเรื่องทุกอย่า
“แกกล้าต่อปากต่อคำกับฉัน? อย่าลืมเสียละว่าสองปีมานี้ ฉันจัดการกับแกยังไง”ฉินเยียนหรานทนไม่ได้มากที่สุดก็คือหลินหยางที่ถูกเธอกลั่นแกล้งมาตลอดสองปีทำตัวอวดดีต่อหน้าเธอแต่หลินหยางกลับกล่าวพร้อมแสยะยิ้ม “ทำไม จะแสดงการฉีกขาให้ฉันดูอีกเหรอไง?”ฉินเยียนหรานหน้าแดงก่ำด้วยความโมโห เมื่อเธอนึกถึงการเตะหลินหยางเมื่อครั้งก่อน ผลปรากฏว่ากลับถูกหลินหยางทำให้ตนต้องฉีกขาแต่เธอกลับยอมแพ้ กล่าวพร้อมแสยะยิ้ม “แกก็มาดูการท้าดวลของปรมาจารย์หลินเหมือนกันเหรอ? ฉันขอเตือนแกว่าให้รีบไสหัวไป มีเพียงคนที่ได้รับอนุญาตจากนายท่านตง คนที่มีสถานะ ถึงจะมีสิทธิ์ไปยังเกาะใจกลางทะเลสาบเท่านั้น”“คนอย่างแก ยังไม่คู่ควรที่จะได้ขึ้นเกาะ! รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นถ้าถูกใครไล่ขึ้นมา จะทำให้ตัวเองขายขี้หน้าซะเปล่า ๆ!”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ “ถ้าหากฉันไม่มีสิทธิ์ขึ้นเกาะ เกรงว่าคนทั้งโลกนี้ก็คงไม่มีใครมีสิทธิ์แล้วละ”“แกก็คือไอ้หลินหยางที่ไร้น้ำยาคนนั้น? ไร้เหตุผลจนรู้สึกน่าสะอิดสะเอียนจริง ๆ ด้วย ฉันขอเตือนให้แกไสหัวออกไกล ๆ เดี๋ยวนี้ เกาะใจกลางทะเลสาบไม่ใช่ที่ที่คนอย่างแกจะมีสิทธิ์ขึ้นได้!”ในเวลานี้