อาฮ่าวก้มหัวคำนับขอโทษ ทำให้จุดประกายความตื่นเต้นของผู้คนอีกครั้ง ส่งเสียงโห่ร้องไชโยอย่างช่วยไม่ได้ และแน่นอนว่าหานเซวี่ยอิ๋งก็มีตื่นเต้นมากเช่นกัน มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่ไม่ค่อยมีความสุข นั่นคือหานลี่ฉิน เขาเห็นท่าทีดี๊ด๊าของหานเซวี่ยอิ๋งแล้ว ก็ถอนหายใจออกมาในใจ “จบแล้ว ลูกสาวฉันสิ้นฤทธิ์เสียแล้ว” หากว่าสามารถหาลูกเขยอย่างหลินหยางได้ อย่างนั้นก็ถือเป็นเรื่องดีอย่างแน่นอน แต่หานลี่ฉินเองก็ชัดเจนมากแล้วว่า ผู้ชายอย่างหลินหยางนี้ ไม่เหมาะกับลูกสาวของเขาเลย ทั้งยังเป็นลูกเขยเขาไม่ได้อีก ลูกสาวของเขาตกหลุมรักหลินหยาง อย่างนั้นก็จะต้องผิดหวังอย่างแน่นอน ในฐานะบุพการีแล้ว โดยจะไม่ยอมให้ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนต้องผิดหวังอยู่แล้วหลูอ้าวตงและชายชราในชุดไท่เก๊กออกมาจากอาคารผู้ป่วยใน เดินไปทางฝั่งที่จอดรถ จึงเห็นเข้ากับด้านนอกที่ผู้คนมากมายห้อมล้อมอยู่ ตัวตนใด ๆ ของหลูอ้าวตง ก็ไม่ได้สนใจดูความครึกครื้น จึงทำเพียงแค่เดินจากไป แต่เวลานี้เอง ท่ามกลางกลุ่มคนก็ส่งเสียงของอาฮ่าวออกมา หลูอ้าวตงจึงหยุดเท้าที่กำลังก้าวเดิน “ลุงเหยา นี่เสียงของอาฮ่าวหรือเปล่า?” เหยาจงผู้ที่สวมชุดไท่เ
ผู้คนรอบข้างตกใจกันยกใหญ่ จนอดไม่ได้ที่ต้องถอยออกไปสองสามก้าว “คุณหลู คุณเองก็โหดเกิดไปแล้ว ยังไงซะเขาก็เป็นหมาที่ซื่อสัตย์ของคุณ นี่คุณฆ่าได้ลงคอเลยหรือ?” หลินหยางเอ่ย หลูอ้าวตงก้าวเดินออกมาจากด้านหลังของเหยาจง ก่อนจะกล่าวด้วยสีหน้าเยือกเย็น “สร้างเรื่องไม่เว้น แถมยังทำให้ฉันขายหน้าอีก ตายไปยังไม่น่าเสียดายเลยด้วยซ้ำ “ “นี่ก็คงเป็นพวกคุณฆ่ากันเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ชายชราผู้นี้แข็งแกร่งเหลือเกิน ยากที่จะทัดเทียม รู้หลบเป็นปลีกรู้หลีกเป็นทาง “คุณตีหมาผมจนเจ็บ ก็ควรจะให้อะไรตอนแทนผมหน่อย “ หลูอ้าวตงกล่าวอย่างเยือกเย็น “คุณอยากให้ผมตอบแทนอย่างไรครับ?” หลินหยางเอ่ยถาม “ชีวิตและชีวิต” “ก็คนของคุณเลือกมาหาความเดือดร้อนเอง คุณพูดไม่เข้าใจหรือ? ผู้คนมากมายขนาดนี้เองก็เห็น ต่างก็ให้การได้ทั้งนั้น ชีวิตของหมากับชีวิตของคนมันเทียบกันได้หรือ? ทว่า คนคนนี้คือคนที่คุณกระทำจนตาย แล้วทำไมฉันต้องตำหนิไอดอลของฉันด้วย” หานเซวี่ยอิ๋งทนไม่ไหวที่จะลุกขึ้นมาต่อล้อต่อเถียงเทนหลินหยาง ขอโทษแทนไอดอล “ในสายตาผม พวกเขาคือเหล่าคนในเมืองนคร มีค่าน้อยกว่าชีวอตของสนัขต
การลงมืออย่างง่ายดายของชายชราจากเมื่อครู่นี้ หลินหยางติดสินบนไว้ว่าเขาจะต้องเป็นถึงปรมาจารย์ระดับเก้าให้ได้ อย่างนี้สู้ไม่ไหวแน่ เขาเองก็ไม่ได้มีแผนที่จะต้องมาเสี่ยงชีวิตกับชายชรา ปราณแท้ในกายไหลเวียน พร้อมที่จะหนีได้ทุกเมื่อ สู้ไม่ไหวก็วิ่ง!แต่ในช่วงเวลานี้เอง เสียงหวูดไซเรนก็ดังขึ้น รถของเหยียนหรูอวี้มาเยือน ด้านหลังรถของเหยียนหรูอวี้ คือรถของเจ้าหน้าที่หน่วยรักษาความปลอดภัยเมืองอีกสองสามคัน หลังจากที่เหยียนหรูอวี้ลงจากรถมานั้น ก็เอ่ยกับเฉินอวี้ถิงว่า “เข้าควบคุมสถานการณ์โดยเร็ว ผู้ที่เกี่ยวข้องหลีกไป” เมื่อกล่าวเช่นนั้นแล้ว เหยียนหรูอวี้ก็สาวเท่ายาวก้าวเข้ามา อย่างหาญกล้า และเจ้าหน้าที่หน่วยรักษาความปลอดภัยเมืองก็เข้าดำเนินการอย่างรวดเร็ว ลากเส้นลิมิตไลน์ตรงจุดเกิดเหตุ ทำให้ฝูงชนกระจายออกไป หลินหยางที่เคยพูดว่าไม่อยากเปิดเผยตัวคน ดังนั้นจึงตกอยู่ภายใต้การจับจ้องของสาธารณะชน เหยียนหรูอวี้เองก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมามาก เพียงแค่เข้ามาส่งสายตาให้หลินหยางเท่านั้น เพื่อส่งสารว่าปล่อยให้เธอจัดการเอง บนทางเดินเหยียนหรูอวี้กำลังดูการถ่ายทอดสดในที่เกิดเหตุ สำหรับสถานการณ์ ณ จ
“เดิมทีก็เป็นแค่เขยคนหนึ่ง นี่ก็ถือว่าคนผู้น้อยได้ประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วสินะ” “มีอะไรก็พูดออกมาตามตรงเลย ถ้าแต่งเข้าตระกูลหลูแล้ว หากว่าเป็นฉัน ก็คงจะยอมสละสกุลบรรพบุรุษไป” ฝูนชนเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ ดูหมิ่นหลูอ้าวตง และแน่นอนว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่อิจฉาริษยา ตั้งคำถามกับหลูอ้าวตง เข้าใจหลูอ้าวตง ต่างคนก็ต่างอยากเป็นหลูอ้าวตงทั้งนั้น “กล้าขู่ฆ่านายกรัฐมนตรี ถ้าผมเป็นคุณที่ได้สืบสายเลือดหลักของตระกูลหลู คงคิดไม่ถึงเลยว่าจะขายทาสในเรือนอย่างนี้!” หลี่หรุ่นจูเผยจุดอ่อนของเขาต่อหน้า เขาสามารถโต้เถียงได้ แต่คนอื่นก็ต่างแซวถึงความอ่อนแอของเขา นั่นคือสิ่งที่ย้อนกลับไปกระตุ้นเขาสีหน้าของหลูอ้าวตงมืดมนลงมา ในแววตาเต็มไปด้วยแรงอาฆาต จนเส้นเลือดปูดโป่งอยู่บนหน้าผาก “ลุงเหยา ฆ่าพวกมันซะ ฆ่าให้ผม!” ในที่สุดหลูอ้าวตงก็หยุดเสแสร้งท่วงท่าใด ๆ สามคำสุดท้ายถูกตะโกนออกมาด้วยสีหน้าเลวทรามน่ากลัวเหยาจงพยักหน้า แล้วมุ่งตรงไปลงมือ “ท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ระวังตัว เดี๋ยวฉันจะไปจัดการเขาเอง คุณหนีไปก่อนเถอะ” เหยียนหรูอวี้รู้ว่าหลินหยางไม่อยากให้เธอยื่นมาเข้ามา เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นผู้มาจากตระ
หลินหยางเพิ่งสังเกตเห็น ว่ามือข้างซ้ายของเหยียนหรูอวี้ห้อยลง ทั้งยังมีเลือดหยดลงมาอีก “เธอบาดเจ็บนี่ ให้ผมดูหน่อย” “ถูกปราณแท้ของเขาเล่นงานเข้าแล้วสิ มันไม่สำคัญสำหรับฉันหรอก ท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ อีกสักพักฉันจะรั้งเขาไว้ คุณหนีไปก่อน” ปรมาจารย์เสวียนระดับเขตลับแห่งอิสรภาพสามารถปล่อยพลังปราณแท้สู่ภายนอกได้ ควบแน่นเป็นปราณกระบี่ปราณมีด ทำร้ายผู้คนได้จากระยะไกล กำลังการต่อสู้ยังคงห่างไกลเมื่อเทียบเคียงกับปรมาจารย์ขั้นสัจจะระดับเบิกฟ้าปราณแท้ของปรมาจารย์เสวียน ร่างกายยังสามารถสร้างกางชี่เพื่อปกป้องผิวกาย แม้จะไม่สามารถอยู่ได้อย่างคงกระพัน แต่กงชี่ก็เพียงพอสำหรับการต่อต้านความเจ็บปวด เมื่อเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ อาจกล่าวได้ว่าสามารถอยู่ได้อย่างไม่ล้มเหลว เมื่อเผชิญหน้ากับปรมาจารย์เสวียน เหยียนหรูอวี้รู้ดีว่าเธอไม่มีโอกาสชนะ ยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้ที่เธอได้รับบาดเจ็บที่มือซ้ายแล้วนั้น การต่อสู้ครั้งใหญ่ถือเป็นการเสียเปรียบ จึงทำได้เพียงแค่เลือกรักษาความปลอดภัยของหลินหยางไว้ก่อน “เธอตายได้เลยนะ” หลินหยางกล่าวด้วยเสียงทุ้มลึก เหยียนหรูอวี้ดูเหมือนปกติ ไม่ได้มีความกลัวเลยสักนิด เอ่ยขึ
แม้จะบอกว่าหลูอ้าวตงกล้าสังหารเหยียนหรูอวี้ แต่ก็ไม่สามารถยอมรับผลที่ตามมาหากว่าฆ่าเยียนหรูอวี้ไปแล้วได้ ท้ายที่สุดยังไงก็ยุ่งยากอยู่ดี นอกจากนี้ยังมีราคาที่ต้องจ่ายไม่น้อย เพื่อฆ่าหลินหยางคนหนึ่งแล้ว จ่ายในราคานี้ หลูอ้าวตงรู้สึกว่าไม่คุ้มค่า สถานการณ์ที่ดีที่สุดในตอนนี้คือให้เหยียนหรูอวี้นิ่งดูดายหลูอ้าวตงมุ่งมั่น ในเวลานี้ถือว่าได้ช่วยเหยียนหรูอวี้อย่างมาก เหยียนหรูอวี้จะต้องสละตำแหน่ง ไม่สามารถต่อสู้กับเขาได้อีก ผู้ที่ฉลาด จะต้องตัดสินใจทำสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองเหยียนหรูอวี้ได้รับตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่ง ต้องไม่เป็นคนโง่เขลา “ตกลง!” เหยียนหรูอวี้ผลักหลินหยางออกไป ก่อนจะเอ่ยปากรับคำหลูอ้าวตง “ในเมื่อคุณหลูได้นำคำพูดทั้งหมดเอ่ยออกมาแล้ว ฉันก็ต้องรักษาหน้าของคุณหลูเอาไว้ หรือจะเรียกได้ว่า นี่คือศัตรูส่วนตัวของพวกคุณ กับนายกรัฐมนตรี” เหยียนหรูอวี้ออกห่างหลินหยางอย่างธรรมชาติ ปิดระยะห่างระหว่างเธอกับหลูอ้าวตงโดยไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ ภายในใจเธอเชื่อใจหลินหยางอย่างมาก เมื่อครู่นี้หลินหยางได้เอ่ยเหตุผลที่สำคัญครั้งสุดท้ายออกมา ก็คือเจ้านี่ หลินหยางแน่ใจว่าหลูอ้
ฉากนี้ ที่กลุ่มคนชาวนักเผือกต่างก็ถูกหลอกไปด้วยกัน “ในฐานะนายกรัฐมนตรี คุณไม่สามารถปกป้องคนของตัวเองได้ แล้วคุณจะเป็นนายกได้อย่างไร!”"น่าเสียดายจริงๆ ปรมาจารย์หลิน เขากล้าที่จะยืนหยัดเพื่อเมืองลั่วของเรา แต่เขากลับต้องมาตาย เขาเป็นวีรบุรุษของเมืองลั่ว ควรจะมีชื่อเสียงไปตลอดทุกยุคทุกสมัย!""ระหว่างผู้คนชนชั้นบนและล่าง มีช่องว่างทางชนชั้นอยู่ แม้ว่าจะเป็นถึงปรมาจารย์ด้านการต่อสู้ ก็ไม่สามารถเอาชนะมันได้ ... "เมื่อเผชิญกับช่องว่างขนาดใหญ่นี้ ทุกคนจึงรู้สึกสิ้นหวังพวกเขารู้สึกโศกเศร้าเสียใจอย่างยิ่งต่อหลินหยาง“หลินหยาง คุณต้องมีชีวิตรอดนะ คุณยังคงเป็นหนี้ผลประโยชน์แฟนๆ ของฉันที่ยังไม่ได้เติมเต็ม! เดี๋ยวฉันจะคลอดลิงให้คุณ!”คู่ดวงตาของหานเซวี่ยอวี่เคล้าคลอไปด้วยน้ำตาในขณะนี้หลินหยางซึ่งเป็นตัวแทนของเมืองลั่ว กำลังต่อสู้กับปรมาจารย์เสวียนเพียงลำพัง ในใจของธอ ไม่ได้เป็นเพียงไอดอลอีกต่อไปแต่เป็นฮีโร่ตัวจริง!เธอไม่สนใจต่อความเขินอาย ราวกับว่ากำลังแสดงความรักต่อฮีโร่อยู่ “แม่สาวน้อยเธอพูดอะไรออกมาน่ะ!”หานลี่ฉินหวาดกลัวมากจนใบหน้าของเขาซีดเผือดการเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลไม
เขาพ่นลมหายใจออกมา เสียงคำรามราวกับฟ้าร้อง!เสียงเปรี้ยงดังขึ้นครั้งหนึ่ง!ฝุ่นควันฟุ้งกระจาย!ร่างของเหยาจงดุจดั่งนางแอ่น ไม่สัมผัสฝุ่นธุลี ร่อนลงบนพื้นอย่างแผ่วเบาส่วนหลินหยางสีหน้าซีดขาว มีเลือดออกที่มุมปาก มือทั้งสองข้างสั่นสะท้าน และในเวลานี้ได้ถูกมืออันซูบผอมของเหยาจงบีบคอไว้อย่างแน่น!“ถึงกับยังไม่ตาย? เจ้าเด็กคนนี้ เธอเรียนวิชาอะไรมากัน?”เหยาจงเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา ในความคิดของเขา ฝ่ามือนี้ควรจะซัดหลินหยางจนตายถึงจะถูก ใครจะคาดว่าหลินหยางจะฝืนรับไว้ได้เขารู้สึกประหลาดใจ จึงจับตัวหลินหยางไว้ เพื่อวิเคราะห์ดูอย่างละเอียด“หลินหยาง!”หานเสวี่ยอิ๋งตะโกนเสียงดังราวหัวใจจะแตกสลาย หยาดน้ำตาใสไหลออกมาจากสองตา ขณะกำลังจะพุ่งเข้าไป ก็ถูกหานลี่ฉินดึงไว้แน่น“เสวี่ยอิ๋ง ก็ถือว่าทำเพื่อพ่อ คิดเผื่อครอบครัวของพวกเราสักหน่อย! อย่าไปรนหาที่ตาย นั่นคือตระกูลหลู แค่นิ้วเดียวก็สามารถบดขยี้พวกเราทุกคนจนตายได้ แม้แต่เจ้าเมืองเหยียนก็เลือกที่จะถอยแล้ว ลูกยังแยกแยะสถานการณ์ไม่ออกอีกหรือ? ”ดวงตาทั้งคู่ของหานลี่ฉินเผยความโศกเศร้าออกมาแม้เขาจะผ่านเรื่องราวต่างๆ มาอย่างโชกโชน จนถูกโลกแ
“เหลวไหล!” หลินไร้ศัตรูกลับค้อนเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “หลานชายของฉันเป็นสายเลือดโดยตรงรุ่นที่สามที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตระกูลหลิน! ถ้าหากเขาไม่อยู่แล้ว กิจการมากมายของตระกูลหลินจะส่งต่อให้ใครดูแล?!”“คือ...”ว่านเหลยกล่าวด้วยท่าทางลำบากใจ“พยายามตามหาเข้า ถึงอย่างไร...” หลินไร้ศัตรูถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง กลับมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “ตอนนั้นเป็นเพราะตระกูลหลินของฉันติดค้างเขาแล้วก็ยังมีพี่ชายคนโตของฉันด้วย หนี้ก้อนนี้ จำเป็นต้องคืน”อีกทางด้านหนึ่งหลินหยางกลับจามอย่างรุนแรง “ใครกำลังด่าฉัน? แม่งเอ๊ย จะต้องเป็น...”เมื่อลองคิด ๆ ดูแล้วเหมือนว่าศัตรูที่อยากจะด่าตนมีเยอะแยะมากมาย หลินหยางก็คร้านจะนับเช่นกันมองดูเวลาแวบหนึ่งก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เขาจึงออกจากบ้านด้านนอกคฤหาสน์ หลี่หรูเยว่ได้ยืนอยู่ที่ด้านหน้ารถแล้ว เปิดประตูรถให้หลินหยาง กล่าวด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย “ตระกูลเฉิงจัดงานเลี้ยงไว้รอแล้ว แต่ว่าจ้าวเจี้ยนชิงอยู่ที่งานเลี้ยงนั่นด้วย ที่นั่นจะต้องมีกองทัพทหารคอยเฝ้าอยู่!”ถ้าหากจ้าวเจี้ยนชิงเป็นสุนัขจนตรอก เรื่องจะต้องมีความยุ่งยากขึ้นแน่“งานใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะพลาดได้ยังไ
ชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านของปลายสายโทรศัพท์ราวกับตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เหมือนว่าจู่ ๆ ก็ได้เห็นความหวัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “คุณรักษาได้จริง ๆ เหรอ?”“คือว่าค่าตอบแทนนี่...”“ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัญหา! ขอเพียงแค่คุณสามารถรักษาพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกได้ คุณอยากได้อะไรก็ว่ามาได้เลย!”“ยอดเยี่ยม! โสมคนอายุสามร้อยปีสักสามสิบต้น สมุนไพรอายุห้าร้อยปีสิบต้น...”หลินหยางก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกัน จากนั้นก็สั่งสมุนไพร ราวกับสั่งอาหาร สมุนไพรพวกนี้มากพอที่จะทำให้หลูอ้าวตงต้องเจ็บปวดใจแต่ทว่าปลายสายกลับกล่าวด้วยความไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “ได้! คืนนี้ผมจะให้รถไปรับคุณ!”น้ำเสียงที่ดีใจดีนี้ ทำให้หลินหยางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเสนอราคาต่ำไปแต่ว่าไม่เสียใจภายหลัง เขาก็ไม่ได้สนใจอีก “โรคพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกจะรีบร้อนไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเตรียมตัวสักหน่อย ถึงเวลานั้นผมจะแจ้งให้คุณทราบ”ชายวัยกลางคนนั้นรับปากทันทีหลินหยางวางสายโทรศัพท์ พูดเบา ๆ “ดูท่าจะเป็นมหาเศรษฐี”อีกฝ่ายไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตน ยังสามารถเอาสมุนไพรมากมายขนาดนี้มาให้ได้อีก ตัวตนจะต้องสูงส่งมาจนไม่สะดวกที่จะเ
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา
จ้าวเจี้ยนชิงตกตะลึงไปแล้ว “ราง รางวัลพลเมืองดีเด่น?”เฉิงคั่วร้อนใจ “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าคนตายคาที่ ทุกคนเห็นกันหมด! คุณทำ...”เสียงเพี้ยะดังขึ้นทีหนึ่ง!เหยียนฮ่าวสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่บนใบหน้าของเขา เขากล่าวเสียงขรึม “เมื่อครู่นี้แกเห็นอะไร?”“ผม...”เฉิงคั่วสีหน้าซีดขาว ภายใต้สีหน้าที่เย็นยะเยือกของเหยียนฮ่าว กลับไม่กล้าพูดอะไรอีกเขาเป็นปรมาจารย์บ้านนอกคนหนึ่ง จะล่วงเกินเหยียนฮ่าวไม่ได้อย่างเด็ดขาด!“พวกแกเห็นอะไร?”เหยียนฮ่าวกวาดสายตามองคนอื่นด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกล่าวขึ้นอีกครั้งทั้งหมดนิ่งเงียบ“คดีของวันนี้ง่ายมาก!” เหยียนฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “หวังเทียนเหิงรัฐมนตรีกรมอัยการสูงสุด กลั่นแกล้งประชาชน บังคับใช้กฎหมายที่รุนแรง!”“คุณหลินป้องกันตัวตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการอพยพฉุกเฉิน!”“ผมพูดจบแล้ว มีใครเห็นด้วย มีใครคัดค้านไหม?”การอพยพฉุกเฉินสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีเหตุผล!ทุกคนตะลึงงันแต่ว่าภายใต้สายตาของเหยียนฮ่าว สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพียงเพราะบิดาของเหยียนฮ่าวยังเป็นอธิบดีกรมอัยการสูงสุด คำพูดของเขาก็คือกฎหม
เหยียนฮ่าวรู้สึกหมดความอดทนอยู่บ้าง “อยากจะเจรจาก็รีบพูดมา ไม่พูดฉันจะไปแล้ว!”หลินหยางกลับจิบไวน์อึกหนึ่ง ถึงได้หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเหยียน เหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปนะ”“คุณ มีสิทธิ์อะไรมาเจรจากับผม?”“ว่าอะไรนะ?”เหยียนฮ่าวงุนงงไปทันที หลินหยางเพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่ง!ทันใดนั้น เหยียนฮ่าวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์! ร่างกายคดงอราวกับกุ้งต้มสุก!ยังดีที่ครั้งก่อนต่อสู้ครั้งใหญ่กับหวังเหลียนเฉิง หลังจากทำลายคฤหาสน์จนพัง หลินหยางก็ได้ให้คนมาซ่อมแซมแล้ว ยังใช้วัสดุเก็บเสียงชั้นดีอีกด้วย ถึงไม่ทำให้เสียงร้องที่ราวกับจะขาดใจตายของเขาไม่ดังเล็ดลอดออกไปข้างนอกหลินหยางนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์อย่างไม่รีบไม่ร้อน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเสียงร้องอันน่าเวทนานั่นหลังจากผ่านไปห้านาที ถึงได้ค่อย ๆ วางแก้วไวน์ลงเสียงร้องอันน่าเวทนาของเหยียนฮ่าวก็ค่อย ๆ หยุดลงเขาในเวลานี้นอนอยู่บนพื้น เหงื่อท่วมตัว สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ แม้แต่พรมยังถูกเขาฉีกจนเละเทะ!“รู้สึกดีแล้วใช่ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แก แกทำอะไรกับฉัน?
“แกคิดว่าแกมีลั่วหงอวี๋คอยปกป้อง ก็จะทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างนั้นหรือ? เพ้อเจ้อ! บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าจะเป็นลั่วหงอวี๋ก็ไม่สามารถต่อต้านได้!”จ้าวเจี้ยนชิงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีลั่วหงอวี๋ หลินหยางจะสามารถหนีมานานขนาดนี้ได้ยังไง!เขาทำได้แค่มองดูหลินหยางทำตัวอวดดีมานานขนาดนั้น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกบีบจนแทบจะเสียสติ!แต่ต่อหน้ากำลังของทางการ!ลั่วหงอวี๋ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!ในระหว่างที่พูด เขาหันไปพูดกับเหยียนฮ่าว “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าข้าราชการของกรมอัยการสูงสุดต่อหน้าทุกคน ยังทำร้ายชาวตงอิ๋งจนบาดเจ็บ ทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม!”แม้แต่ฮิเดนากะ ยามาโมโตะก็รีบกล่าวเช่นกัน “คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม แก่ชาวตงอิ๋งด้วย!”เหยียนฮ่าวเข้าใจในทันที หันหน้าไปมองหลินหยางแสยะยิ้มกล่าว “ไม่คิดเลยว่าแกจะก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ยังกล้าทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอีกด้วย!”“ใครก็ได้!”ปรมาจารย์หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขาก้าวออกมาพร้อมกัน บนตัวแฝงไปด้วยสีหน้าอันดุร้าย ทุกคนเป็นปรมาจารย์ระดับแปด!
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ
เจียงรั่วหานหัวใจตึงเครียดขึ้นมาทันที เป็นห่วงชายชู้ของตนเอง ครั้งนี้หลินหยางตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ!อย่างไรเสียใช้ยศตำแหน่งข่มเหงคนอื่น!ซ่งหว่านอวี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็ถอนหายใจในใจเช่นกัน ต่อให้ตำแหน่งของหลินหยางที่เมืองลั่วสูงกว่านี้แล้วจะยังไงต่อหน้าผู้มีอิทธิพลอย่างหวังเทียนเหิง ก็ทำได้แค่เพียงอดกลั้นเท่านั้น!“จะตรวจสอบงั้นก็ได้ แต่ก็ต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย”หลี่หรูเยว่สีหน้าไม่สุขุม แต่กลับไม่กล้าให้หลินหยางมีข้อหาขัดขวางทางการติดตัว“กฎหมาย?” หวังเทียนเหิงยิ้มเยาะ กล่าวด้วยท่าทีหยิ่งยโส “คำพูดของฉัน ก็คือกฎหมาย! มีปัญหา? เข้าไปในห้องกับฉันค่อย ๆ คุยกัน ถ้าทำให้ฉันพอใจได้ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะปล่อยแกไปสักครั้ง!”เขาทำตัวอวดดีกำเริบเสิบสาน! ถึงอย่างไรเหยียนฮ่าวก็ได้แทรกแซงคดีนี้ด้วยตนเองแล้ว ถ้าอยากจะจับหลินหยางให้อยู่หมัด! ต้องมีหลักฐานแน่ชัด ทำให้หลินหยางดิ้นไม่หลุดตลอดไป!ส่วนการหลับนอนกับปรมาจารย์ระดับแปดคนหนึ่ง นั่นก็เป็นเพียงเรื่องของผลพลอยได้เท่านั้น!เขาจ้องมองสำรวจรูปร่างที่สวยงามประณีตของหลี่หรูเยว่ด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว มีความร้อนกลุ่มหนึ่งพลุ่งพล่านขึ้นในท้องน้อยข
แต่กลัวว่าเขาจะฉวยโอกาสช่วงจังหวะชุลมุน ลงมือกับจ้าวเจิ้งฮ่าว!“นายพลจ้าววางใจ”สีหน้าเฉิงคั่วหนักใจ ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งในฐานะที่เขาเป็นปรมาจารย์ระดับห้า ประกอบกับมีนักรบทหารองครักษ์ชาวตงอิ๋งที่มีระดับมานะสร้างกลุ่มหนึ่งคอยช่วยเหลือ ก็มากพอที่จะจับตัวปรมาจารย์หนึ่งในนั้นได้“แม่งเอ๊ย ในเมื่อพวกแกทั้งหมดยอมเป็นสุนัขรับใช้ของหลินหยาง ถ้าอย่างนั้นก็ไปตายให้หมด! คิดว่าปรมาจารย์ระดับเก้าของฉันมีไว้ประดับเหรอไงวะ!?”จ้าวเจี้ยนชิงดวงตาแดงก่ำด้วยความริษยา ตนเป็นผู้บังคับบัญชาของเมืองลั่วมานานหลายปี ยังไม่มีลูกน้องที่แข็งแกร่งขนาดนี้ หลินหยางเพิ่งมาได้ไม่นาน ก็มีปรมาจารย์ระดับหกถึงสี่คนเป็นสุนัขรับใช้?!หลินหยางยิ่งใช้ชีวิตดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากจะสับหลินหยางให้แหลกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!แต่ทว่ายังไม่ทันได้ลงมือเขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัว แรงอาฆาตที่เย็นยะเยือกขั้นสุดกลุ่มหนึ่งลอยมา!“จ้าวเจี้ยนชิง แกอยากตายใช่ไหม?”ในเวลานี้ หลี่หรูเยว่ยืนอยู่ที่ประตูคฤหาสน์ ในมือของเธอใช้โซ่เหล็ก จูงม๋อจื่อที่เหมือนกับเป็นสัตว์ร้าย จ้องมองเขาด้วยความเย็นชาจ้าวเจี้ยนชิงรูม่านตาหดทันที กล่าวอย