ในเวลานี้ เจียงรั่วหานเห็นซ่งหว่านอวี๋เป็นเหมือนพี่น้องแท้ๆ แล้ว เมื่อพูดจาจึงไม่ระมัดระวังอะไร สองพี่น้องพูดเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ซึ่งเป็นพื้นฐานในชีวิตประจำวันของมนุษย์กันอย่างสนิทสนมเจียงรั่วหานยกมือปิดปากอย่างประหลาดใจ แล้วพูดว่า “พี่ไม่ได้บอกว่าเกือบทำพี่ตายแล้วหรือคะ? อย่างนั้นสรุปว่ามันรู้สึกดีหรือรู้สึกแย่กันคะ?”ซ่งหว่านอวี๋กระซิบที่ข้างหูเจียงรั่วหานเบาๆ ว่า “ทำให้พี่รู้สึกดีแทบตายเลยล่ะ รสชาติแบบนั้น มีแต่ได้ลองด้วยตัวเองถึงจะรู้ เอาล่ะ พี่จะไปก่อนแล้ว เธอไปเฝ้าจ้าวเจิ้งฮ่าวเถอะ” เมื่อเจียงรั่วหานได้ยินเช่นนั้น ทั้งใบหน้าก็พลันแดงก่ำขึ้นมาทันที ในใจเกิดระลอกคลื่นที่ไม่สามารถควบคุมได้ขึ้นมา“รู้สึกดีขนาดนั้นเลยจริงเหรอ?”เจียงรั่วหานพึมพำเสียงเบา เดินเข้าไปใกล้ทางหนีไฟอีกครั้งราวมีสิ่งใดดลใจ อากาศบริเวณปล่องบันไดไม่หมุนเวียน ยังคงมีกลิ่นเฉพาะสายหนึ่งวนเวียนอยู่“พวกเขาสองคนก็กล้าเกินไปจริงๆ ทำกันในทางหนีไฟโรงพยาบาลเป็นชั่วโมงกว่า ก็ไม่กลัวว่าจู่ๆ จะถูกคนบังเอิญมาเห็นเข้า"ในสมองของเจียงรั่วหานปรากฏภาพที่แอบดูเมื่อครู่ขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุม ทำให้เธอเขินอายอย่างมาก ระ
หลินหยางเพียงแค่พยักหน้าตอบ คิดในใจ ‘แม่งเอ๊ย แกดูถูกฉัน ฉันซิต้องดูถูกแกน่ะ ก็แค่ลูกเขยที่แต่งเข้าคนหนึ่งเท่านั้น มีอะไรน่าภาคภูมิใจกัน’จากประโยคนั้นของหลี่หรุ่นจู หลินหยางจับประเด็นสำคัญได้แล้ว หลูอ้าวตงเดิมทีแซ่ผัง แต่เขาบอกว่าตนเองคือหลูอ้าวตงแห่งซิ่นหลิง ถ้าอย่างนั้นก็มีเพียงความเป็นไปได้เดียวก็คือ เขาแต่งเข้าตระกูลหลูสี่ตระกูลใหญ่ล้วนเป็นตระกูลที่สืบทอดกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี มีกฎระเบียบที่เข้มงวด คนนอกแต่งเข้าตระกูลหลู ไม่เพียงลูกสาวลูกและลูกชายต้องแซ่หลูเท่านั้น แม้กระทั่งตัวเจ้าของเองก็ต้องเปลี่ยนเป็นแซ่หลูเช่นกันประเพณีที่สืบทอดกันมาของประเทศหลง ให้ความสำคัญกับสายเลือดและนามสกุลมาก คนที่แต่งเขามักจะถูกคนอื่นดูถูกเสมอมา คนที่ละทิ้งได้แม้กระทั่งนามสกุลของบรรพบุรุษ เป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ“นายท่านตงของพวกเราคุยกับแก แกหูหนวกหรือว่าเป็นใบ้? ต่อให้เป็นหมา แกก็ต้องเห่าตอบ!”ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างหลูอ้าวตงเมื่อเห็นหลินหยางเพียงแค่พยักหน้าตอบ ก็ตำหนิด้วยสีหน้าไม่พอใจทันทีคนนี้คือคนขับรถของหลูอ้าวตงหลินหยางหรี่ตาทันที กล่าว “เจ้านายของแกยังไม่ว่าอะไร ขี้ข้าแบบแกจะพูดมา
“ผมไม่มีอะไรที่ต้องน่าเป็นห่วง มีบุคคลใหญ่โตของตระกูลหลูที่มาจากซิ่นหลิงคอยยันเอาไว้ให้อยู่ไม่ใช่เหรอครับ? แค่นายพลแห่งกองทหารรักษาการณ์ตัวเล็ก ๆคนหนึ่ง คุณคงไม่เห็นอยู่ในสายตาหรอกใช่ไหมล่ะ?”หลินหยางกล่าวพร้อมยิ้มหวานหลูอ้าวตงกล่าวเสียงเย็นชา “คุณทำร้ายลูกชายเขาจนบาดเจ็บ แล้วเกี่ยวอะไรกับผมด้วย?”“คุณหลู คุณพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกต้องนะครับ คุณจะทำตัวไม่ให้ความสำคัญกับคุณธรรมแบบนี้ไม่ได้นะครับ? ผมต้องล่วงเกินนายพลแห่งกองทหารรักษาการณ์ก็เพื่อช่วยชีวิตลูกสาวของคุณ ย่อมต้องให้คุณช่วยตามเช็ดตามล้างให้ผมแล้ว”หลินหยางกล่าวอย่างมีเหตุมีผลเดิมทีหลูอ้าวตงคิดว่าจะสามารถใช้เรื่องนี้มาบีบบังคับหลินหยางได้ ให้เขายอมจำนน คิดไม่ถึงว่าเจ้าหมอนี่จะหน้าด้านไร้ยางอายขนาดนี้“ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะว่าคุณกลัวนายพลแห่งกองทหารรักษาการณ์หรอกใช่ไหมครับ? ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นอะไร ถ้าหากคุณบอกว่าคุณกลัว ไม่กล้ามีเรื่องกับจ้าวเจี้ยนชิงนายพลแห่งกองทหารรักษาการณ์ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องมาตามเช็ดตามล้างให้ผมแล้วก็ได้ ผมจัดการเอง”หลินหยางพูดจบ เยาะเย้ยในใจ ‘ไอ้อ่อนเอ๊ย จะมาปะทะฝีปากกับฉัน แกยังอ่อนไปหน่อย’หลูอ้าวตง
“พละกำลังแข็งแกร่งเกินไป มีอันตราย หาเรื่องไม่ได้”หลินหยางจำต้องเลือกที่จะยอมอ่อนข้อให้ ไม่ได้ปะทะฝีปากกับหลูอ้าวตงต่ออีกต่อหน้าของพละกำลังที่แข็งแกร่ง การปะทะริมฝีปากก็คือรนหาที่ตาย หลินหยางยังมีจิตสำนึกข้อนี้เมื่อครู่ที่เขาเพิ่งดูถูกหลูอ้าวตง ก็เป็นเพราะเขามั่นใจว่าพละกำลังของอาหาวเป็นรองตน ดังนั้นถึงได้ไม่กลัวเลยแม้แต่น้อยตอนนี้ชายชราที่กำลังนับลูกประคำแสดงพลังอำนาจ หลินหยางจึงหุบปากอย่างว่าง่ายทันที เช่นเดียวกันกับเพื่อนตัวน้อยของเขา รู้จักยับยั้งชั่งใจ รู้จักหักงอได้!หลินหยางสีหน้ายิ้มแย้ม หันหลังแล้วเดินจากไป หลี่เสี่ยวเชวี่ยที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยที่เอาแต่เงียบมาโดยตลอดในเวลาตะโกนขึ้น “คุณอาหลิน คุณแม่บอกว่าคุณอาช่วยชีวิตหนูเอาไว้ ขอบคุณค่ะ”“ไม่ต้องขอบคุณ พักผ่อนให้เต็มที่ เชื่อฟังคุณแม่นะ”หลินหยางกล่าวกับหลี่เสี่ยวเชวี่ย“ฉันเดินไปส่งคุณ”หลี่หรุ่นจูมองหลูอ้าวตงอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง แล้วเดินตามหลินหยางออกจากห้องผู้ป่วยไปสีหน้าของหลูอ้าวตงอึมครึมมากขึ้นมาทันที มือที่ไพล่หลังกำหมัดขึ้นมาทันที“นายท่านตง ปล่อยไอ้หมอนี่ไปแบบนี้เหรอครับ?” อาหาวที่อยู่ข้างหลูอ้าวตงก
เมื่อหลี่หรุ่นจูเห็นหลินหยางพูดแบบนี้ ในใจก็เข้าใจทันที“ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ยังไงก็ต้องขอบคุณคุณที่ช่วยชีวิตพวกเราแม่ลูก รอให้เสี่ยวเชวี่ยเอ๋อร์ออกจากโรงพยาบาล ฉันค่อยหาเวลาไปขอบคุณคุณเป็นอย่างดี”หลินหยางไม่ได้พูดอะไร โบกมือ แล้วเดินเข้าไปในลิฟต์หลี่หรุ่นจูกลับมาถึงห้องผู้ป่วย หลี่เสี่ยวเชวี่ยรีบตะโกนอย่างน่าสงสารทันที “แม่คะ!”หลี่หรุ่นจูเดินมาที่ข้างเตียง กอดหลี่เสี่ยวเชวี่ยเอาไว้ในอ้อมแขน กล่าวกับหลูอ้าวตง “เรื่องที่ควรเล่าฉันก็เล่าไปหมดแล้ว จัดการนายพลแห่งกองทหารรักษาการณ์เรียบร้อยแล้ว คุณก็ไปได้แล้ว”“หรุ่นจู หลายปีมานี้ผมตามหาคุณมาตลอด ผมไม่รู้ว่าคุณมีลูกของผม ตอนนั้น ทำไมคุณถึงไม่บอกผม?”หลูอ้าวตงพูดอย่างจริงใจ จับมือของหลี่หรุ่นจู แต่กลับถูกเธอสะบัดทิ้งทันทีหลี่หรุ่นจูแค่นเสียงกล่าว “ฮี่...บอกคุณแล้วมีประโยชน์อะไร? คุณจะล้มเลิกที่จะแต่งเข้าตระกูลหลู แล้วมาอยู่กับพวกเราแม่ลูกไหมล่ะ?”“ไม่มีทาง”หลูอ้าวตงตอบอย่างหนักแน่นมาก ไม่มีความเยิ่นเย้อเลยแม้แต่นิดเดียวการแต่งเข้าตระกูลหลู เป็นตัวเลือกที่ดีถูกต้องที่สุด แล้วก็เป็นจุดเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา ในใจของห
หลูอ้าวตงลืมตา ใบหน้าเคร่งขรึม“ก่อนหน้าที่จะโทรศัพท์หาคุณ ฉันก็ตั้งใจเอาไว้แบบนี้แล้วเหมือนกัน วางใจ คุณเป็นพ่อแท้ ๆของเธอ คุณมีสิทธิ์ที่จะมาเยี่ยมเธอ อะไรที่ฉันควรจะยอมถอย ฉันไม่มีทางกีดกัน”หลูอ้าวตงได้รับคำตอบที่พึงพอใจ ถึงลุกขึ้น หลังจากเดินไปสองก้าว จู่ ๆก็หันกลับมากล่าว “หลี่หรุ่นจู คุณเป็นผู้หญิงของผม แม้ว่าพวกเราจะแยกทางกันแล้ว ผมก็ไม่ยอมให้ผู้ชายหน้าไหนมาแตะต้องคุณ นี่คือขีดจำกัดของผม หวังว่าคุณจะจำเอาไว้ให้ดี คุณอย่าคิดจะหาผู้ชาย มีคนหนึ่ง ผมก็จะทำลายคนหนึ่งหลูอ้าวตงพูดจบ ไม่รอให้หลี่หรุ่นจูโต้แย้งหรือว่าตอบตกลง ก็เปิดประตูเดินออกไปทันทีชายชราที่สวมชุดไท่เก๊กก็ค่อย ๆลุกขึ้นแล้วเดินออกไป นับตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในห้องผู้ป่วยจนออกไป ก็ไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำพูดฟังดูดีหน่อย ก็คือเป็นลักษณะเฉพาะตัวของยอดฝีมือที่ทำได้ดีเยี่ยม หรือพูดไม่น่าฟังก็คือชอบเสแสร้งอวดดี ชอบวางมาดสำหรับการข่มขู่ครั้งสุดท้ายของหลูอ้าวตง หลี่หรุ่นจูกลับไม่ได้สนใจ เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะหาผู้ชายอีก“แม่คะ เขาเป็นพ่อของหนูจริง ๆเหรอคะ?” หลี่เสี่ยวเชวี่ยถามเสียงเบาหลี่หรุ่นจูลูบศรีษะของหลี่เสี่ยวเชวี่ย กล
“ไอดอล คุณทำแบบนี้ได้ยังไง? คุณรับปากกับฉันเอาไว้ชัดเจนแล้ว”หานเซวี่ยอิ๋งสีหน้าน้อยใจ“เซวี่ยอิ๋ง เลิกพูดเล่นได้แล้ว ที่คุณหลินสั่งสอนเมื่อวานนี้ ลูกลืมไปแล้วเหรอ?”หานลี่ฉินเป็นห่วงว่าลูกสาวจะพอดี แล้วทำให้หลินหยางไม่พอใจ รีบกล่าวห้ามปราม”“คุณหลิน ได้โปรดให้อภัยด้วย”หลินหยางโบกมือกล่าว “ผมได้ข่าวว่ารองนายพลของจ้าวเจี้ยนชิงตายแล้ว?”หานลี่ฉินกล่าว “ตอนตีห้าวันนี้”หลินหยางขมวดคิ้วเล็กน้อยกล่าว “ทำไมถึงเป็นแบบนี้? ผมทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส ทำลายเส้นลมปราณของเขา แต่ไม่ถึงแก่ชีวิต น่าจะรักษาชีวิตเอาไว้ได้ ฝีมือของหมอของโรงพยาบาลพวกคุณจะแย่เกินไปหน่อยไหม?”“หมอของโรงพยาบาลแห่งแรกของเมือง ว่ากันตามฝีมือทางการแพทย์แล้วไม่สู้นิ้วเดียวของคุณ แต่เรื่องนี้มีความน่าสงสัยอยู่หน่อยจริง ๆ ได้รับการช่วยชีวิตแล้ว เดิมทีรองนายพลหลี่รอดจากอันตรายถึงชีวิตแล้ว ส่งไปที่ห้องผู้ป่วย แต่ตอนตีห้า อาการบาดเจ็บกลับสาหัสขึ้น ไม่ทันช่วยชีวิตก็ตายเสียแล้ว”หานลี่ฉินพูดจบ มองไปรอบ ๆแวบหนึ่ง ลากหลินหยางไปอีกด้าน กล่าวเสียงเบา “ผมให้หมอตรวจศพของรองนายพลหลี่ สาเหตุของการเสียชีวิตคือภาวะหัวใจหยุดเต้นเนื่องจากกา
“ไอ้ชั่วแกรนหาที่ตาย!”อาหาวโกรธจัด ระงับอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ตั้งนานแล้ว เดินเข้ามาหาหลินหยางด้วยแรงอาฆาตที่พลุ่งพล่านในฐานะที่หานเซวี่ยอิ๋งเป็นติ่งเบอร์หนึ่งของหลินหยาง เมื่อเห็นไอดอลกำลังเจอกับความลำบาก จะอดกลั้นเอาไว้ได้อย่างไร ก็พุ่งตัวออกมา ขวางอาหาวเอาไว้ทันที“นายคิดจะทำอะไร?”“ไสหัวออกไป!”อาหาวยกมือขึ้นกวาดฝ่ามือออกไปจนหานเซวี่ยอิ๋งลอยกระเด็นออกไป หลินหยางแทรกตัวไปด้านหน้าทันที พยุงหานเซวี่ยอิ๋งเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเธอก็คงล้มลงไปบนพื้นแล้วหานเซวี่ยอิ๋งมีเลือดออกที่มุมปาก ใบหน้าบวมแดงขึ้นมาทันที มีรอยนิ้วมือปรากฏขึ้นให้เห็น“เซวี่ยอิ๋ง”หานลี่ฉินเองตกใจเช่นกัน รีบวิ่งเข้ามา“ไอดอล เขาตบฉัน เจ็บมากเลย!”หานเซวี่ยอิ๋งเจ็บจริง เจ็บจนน้ำตาไหล“ผมจะแก้แค้นให้คุณเอง”หลินหยางส่งตัวหานเซวี่ยอิ๋งให้หานลี่ฉิน จากนั้นสายตาก็เย็นชาขึ้นมาทันที “ไอ้หมาขี้ข้าไม่มีตาแบบแก กล้ากัดแม้กระทั่งติ่งของฉัน แกไม่รุ้หรือว่าฉันถนัดเรื่องกระทืบหมาที่สุด? มือข้างนั้นของแก ต้องทิ้งเอาไว้ที่นี่”อาหาวหัวเราะออกมาอย่างเหยียดหยาม ยกมือข้างที่ตบหานเซวี่ยอิ๋งขึ้นมา กล่าว “ไอ้คางคกขึ้นวอ ฝีปากกล้าดี
“เหลวไหล!” หลินไร้ศัตรูกลับค้อนเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “หลานชายของฉันเป็นสายเลือดโดยตรงรุ่นที่สามที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตระกูลหลิน! ถ้าหากเขาไม่อยู่แล้ว กิจการมากมายของตระกูลหลินจะส่งต่อให้ใครดูแล?!”“คือ...”ว่านเหลยกล่าวด้วยท่าทางลำบากใจ“พยายามตามหาเข้า ถึงอย่างไร...” หลินไร้ศัตรูถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง กลับมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “ตอนนั้นเป็นเพราะตระกูลหลินของฉันติดค้างเขาแล้วก็ยังมีพี่ชายคนโตของฉันด้วย หนี้ก้อนนี้ จำเป็นต้องคืน”อีกทางด้านหนึ่งหลินหยางกลับจามอย่างรุนแรง “ใครกำลังด่าฉัน? แม่งเอ๊ย จะต้องเป็น...”เมื่อลองคิด ๆ ดูแล้วเหมือนว่าศัตรูที่อยากจะด่าตนมีเยอะแยะมากมาย หลินหยางก็คร้านจะนับเช่นกันมองดูเวลาแวบหนึ่งก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เขาจึงออกจากบ้านด้านนอกคฤหาสน์ หลี่หรูเยว่ได้ยืนอยู่ที่ด้านหน้ารถแล้ว เปิดประตูรถให้หลินหยาง กล่าวด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย “ตระกูลเฉิงจัดงานเลี้ยงไว้รอแล้ว แต่ว่าจ้าวเจี้ยนชิงอยู่ที่งานเลี้ยงนั่นด้วย ที่นั่นจะต้องมีกองทัพทหารคอยเฝ้าอยู่!”ถ้าหากจ้าวเจี้ยนชิงเป็นสุนัขจนตรอก เรื่องจะต้องมีความยุ่งยากขึ้นแน่“งานใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะพลาดได้ยังไ
ชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านของปลายสายโทรศัพท์ราวกับตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เหมือนว่าจู่ ๆ ก็ได้เห็นความหวัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “คุณรักษาได้จริง ๆ เหรอ?”“คือว่าค่าตอบแทนนี่...”“ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัญหา! ขอเพียงแค่คุณสามารถรักษาพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกได้ คุณอยากได้อะไรก็ว่ามาได้เลย!”“ยอดเยี่ยม! โสมคนอายุสามร้อยปีสักสามสิบต้น สมุนไพรอายุห้าร้อยปีสิบต้น...”หลินหยางก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกัน จากนั้นก็สั่งสมุนไพร ราวกับสั่งอาหาร สมุนไพรพวกนี้มากพอที่จะทำให้หลูอ้าวตงต้องเจ็บปวดใจแต่ทว่าปลายสายกลับกล่าวด้วยความไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “ได้! คืนนี้ผมจะให้รถไปรับคุณ!”น้ำเสียงที่ดีใจดีนี้ ทำให้หลินหยางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเสนอราคาต่ำไปแต่ว่าไม่เสียใจภายหลัง เขาก็ไม่ได้สนใจอีก “โรคพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกจะรีบร้อนไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเตรียมตัวสักหน่อย ถึงเวลานั้นผมจะแจ้งให้คุณทราบ”ชายวัยกลางคนนั้นรับปากทันทีหลินหยางวางสายโทรศัพท์ พูดเบา ๆ “ดูท่าจะเป็นมหาเศรษฐี”อีกฝ่ายไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตน ยังสามารถเอาสมุนไพรมากมายขนาดนี้มาให้ได้อีก ตัวตนจะต้องสูงส่งมาจนไม่สะดวกที่จะเ
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา
จ้าวเจี้ยนชิงตกตะลึงไปแล้ว “ราง รางวัลพลเมืองดีเด่น?”เฉิงคั่วร้อนใจ “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าคนตายคาที่ ทุกคนเห็นกันหมด! คุณทำ...”เสียงเพี้ยะดังขึ้นทีหนึ่ง!เหยียนฮ่าวสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่บนใบหน้าของเขา เขากล่าวเสียงขรึม “เมื่อครู่นี้แกเห็นอะไร?”“ผม...”เฉิงคั่วสีหน้าซีดขาว ภายใต้สีหน้าที่เย็นยะเยือกของเหยียนฮ่าว กลับไม่กล้าพูดอะไรอีกเขาเป็นปรมาจารย์บ้านนอกคนหนึ่ง จะล่วงเกินเหยียนฮ่าวไม่ได้อย่างเด็ดขาด!“พวกแกเห็นอะไร?”เหยียนฮ่าวกวาดสายตามองคนอื่นด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกล่าวขึ้นอีกครั้งทั้งหมดนิ่งเงียบ“คดีของวันนี้ง่ายมาก!” เหยียนฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “หวังเทียนเหิงรัฐมนตรีกรมอัยการสูงสุด กลั่นแกล้งประชาชน บังคับใช้กฎหมายที่รุนแรง!”“คุณหลินป้องกันตัวตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการอพยพฉุกเฉิน!”“ผมพูดจบแล้ว มีใครเห็นด้วย มีใครคัดค้านไหม?”การอพยพฉุกเฉินสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีเหตุผล!ทุกคนตะลึงงันแต่ว่าภายใต้สายตาของเหยียนฮ่าว สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพียงเพราะบิดาของเหยียนฮ่าวยังเป็นอธิบดีกรมอัยการสูงสุด คำพูดของเขาก็คือกฎหม
เหยียนฮ่าวรู้สึกหมดความอดทนอยู่บ้าง “อยากจะเจรจาก็รีบพูดมา ไม่พูดฉันจะไปแล้ว!”หลินหยางกลับจิบไวน์อึกหนึ่ง ถึงได้หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเหยียน เหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปนะ”“คุณ มีสิทธิ์อะไรมาเจรจากับผม?”“ว่าอะไรนะ?”เหยียนฮ่าวงุนงงไปทันที หลินหยางเพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่ง!ทันใดนั้น เหยียนฮ่าวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์! ร่างกายคดงอราวกับกุ้งต้มสุก!ยังดีที่ครั้งก่อนต่อสู้ครั้งใหญ่กับหวังเหลียนเฉิง หลังจากทำลายคฤหาสน์จนพัง หลินหยางก็ได้ให้คนมาซ่อมแซมแล้ว ยังใช้วัสดุเก็บเสียงชั้นดีอีกด้วย ถึงไม่ทำให้เสียงร้องที่ราวกับจะขาดใจตายของเขาไม่ดังเล็ดลอดออกไปข้างนอกหลินหยางนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์อย่างไม่รีบไม่ร้อน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเสียงร้องอันน่าเวทนานั่นหลังจากผ่านไปห้านาที ถึงได้ค่อย ๆ วางแก้วไวน์ลงเสียงร้องอันน่าเวทนาของเหยียนฮ่าวก็ค่อย ๆ หยุดลงเขาในเวลานี้นอนอยู่บนพื้น เหงื่อท่วมตัว สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ แม้แต่พรมยังถูกเขาฉีกจนเละเทะ!“รู้สึกดีแล้วใช่ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แก แกทำอะไรกับฉัน?
“แกคิดว่าแกมีลั่วหงอวี๋คอยปกป้อง ก็จะทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างนั้นหรือ? เพ้อเจ้อ! บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าจะเป็นลั่วหงอวี๋ก็ไม่สามารถต่อต้านได้!”จ้าวเจี้ยนชิงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีลั่วหงอวี๋ หลินหยางจะสามารถหนีมานานขนาดนี้ได้ยังไง!เขาทำได้แค่มองดูหลินหยางทำตัวอวดดีมานานขนาดนั้น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกบีบจนแทบจะเสียสติ!แต่ต่อหน้ากำลังของทางการ!ลั่วหงอวี๋ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!ในระหว่างที่พูด เขาหันไปพูดกับเหยียนฮ่าว “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าข้าราชการของกรมอัยการสูงสุดต่อหน้าทุกคน ยังทำร้ายชาวตงอิ๋งจนบาดเจ็บ ทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม!”แม้แต่ฮิเดนากะ ยามาโมโตะก็รีบกล่าวเช่นกัน “คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม แก่ชาวตงอิ๋งด้วย!”เหยียนฮ่าวเข้าใจในทันที หันหน้าไปมองหลินหยางแสยะยิ้มกล่าว “ไม่คิดเลยว่าแกจะก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ยังกล้าทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอีกด้วย!”“ใครก็ได้!”ปรมาจารย์หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขาก้าวออกมาพร้อมกัน บนตัวแฝงไปด้วยสีหน้าอันดุร้าย ทุกคนเป็นปรมาจารย์ระดับแปด!
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ
เจียงรั่วหานหัวใจตึงเครียดขึ้นมาทันที เป็นห่วงชายชู้ของตนเอง ครั้งนี้หลินหยางตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ!อย่างไรเสียใช้ยศตำแหน่งข่มเหงคนอื่น!ซ่งหว่านอวี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็ถอนหายใจในใจเช่นกัน ต่อให้ตำแหน่งของหลินหยางที่เมืองลั่วสูงกว่านี้แล้วจะยังไงต่อหน้าผู้มีอิทธิพลอย่างหวังเทียนเหิง ก็ทำได้แค่เพียงอดกลั้นเท่านั้น!“จะตรวจสอบงั้นก็ได้ แต่ก็ต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย”หลี่หรูเยว่สีหน้าไม่สุขุม แต่กลับไม่กล้าให้หลินหยางมีข้อหาขัดขวางทางการติดตัว“กฎหมาย?” หวังเทียนเหิงยิ้มเยาะ กล่าวด้วยท่าทีหยิ่งยโส “คำพูดของฉัน ก็คือกฎหมาย! มีปัญหา? เข้าไปในห้องกับฉันค่อย ๆ คุยกัน ถ้าทำให้ฉันพอใจได้ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะปล่อยแกไปสักครั้ง!”เขาทำตัวอวดดีกำเริบเสิบสาน! ถึงอย่างไรเหยียนฮ่าวก็ได้แทรกแซงคดีนี้ด้วยตนเองแล้ว ถ้าอยากจะจับหลินหยางให้อยู่หมัด! ต้องมีหลักฐานแน่ชัด ทำให้หลินหยางดิ้นไม่หลุดตลอดไป!ส่วนการหลับนอนกับปรมาจารย์ระดับแปดคนหนึ่ง นั่นก็เป็นเพียงเรื่องของผลพลอยได้เท่านั้น!เขาจ้องมองสำรวจรูปร่างที่สวยงามประณีตของหลี่หรูเยว่ด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว มีความร้อนกลุ่มหนึ่งพลุ่งพล่านขึ้นในท้องน้อยข
แต่กลัวว่าเขาจะฉวยโอกาสช่วงจังหวะชุลมุน ลงมือกับจ้าวเจิ้งฮ่าว!“นายพลจ้าววางใจ”สีหน้าเฉิงคั่วหนักใจ ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งในฐานะที่เขาเป็นปรมาจารย์ระดับห้า ประกอบกับมีนักรบทหารองครักษ์ชาวตงอิ๋งที่มีระดับมานะสร้างกลุ่มหนึ่งคอยช่วยเหลือ ก็มากพอที่จะจับตัวปรมาจารย์หนึ่งในนั้นได้“แม่งเอ๊ย ในเมื่อพวกแกทั้งหมดยอมเป็นสุนัขรับใช้ของหลินหยาง ถ้าอย่างนั้นก็ไปตายให้หมด! คิดว่าปรมาจารย์ระดับเก้าของฉันมีไว้ประดับเหรอไงวะ!?”จ้าวเจี้ยนชิงดวงตาแดงก่ำด้วยความริษยา ตนเป็นผู้บังคับบัญชาของเมืองลั่วมานานหลายปี ยังไม่มีลูกน้องที่แข็งแกร่งขนาดนี้ หลินหยางเพิ่งมาได้ไม่นาน ก็มีปรมาจารย์ระดับหกถึงสี่คนเป็นสุนัขรับใช้?!หลินหยางยิ่งใช้ชีวิตดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากจะสับหลินหยางให้แหลกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!แต่ทว่ายังไม่ทันได้ลงมือเขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัว แรงอาฆาตที่เย็นยะเยือกขั้นสุดกลุ่มหนึ่งลอยมา!“จ้าวเจี้ยนชิง แกอยากตายใช่ไหม?”ในเวลานี้ หลี่หรูเยว่ยืนอยู่ที่ประตูคฤหาสน์ ในมือของเธอใช้โซ่เหล็ก จูงม๋อจื่อที่เหมือนกับเป็นสัตว์ร้าย จ้องมองเขาด้วยความเย็นชาจ้าวเจี้ยนชิงรูม่านตาหดทันที กล่าวอย