“ไอดอล คุณทำแบบนี้ได้ยังไง? คุณรับปากกับฉันเอาไว้ชัดเจนแล้ว”หานเซวี่ยอิ๋งสีหน้าน้อยใจ“เซวี่ยอิ๋ง เลิกพูดเล่นได้แล้ว ที่คุณหลินสั่งสอนเมื่อวานนี้ ลูกลืมไปแล้วเหรอ?”หานลี่ฉินเป็นห่วงว่าลูกสาวจะพอดี แล้วทำให้หลินหยางไม่พอใจ รีบกล่าวห้ามปราม”“คุณหลิน ได้โปรดให้อภัยด้วย”หลินหยางโบกมือกล่าว “ผมได้ข่าวว่ารองนายพลของจ้าวเจี้ยนชิงตายแล้ว?”หานลี่ฉินกล่าว “ตอนตีห้าวันนี้”หลินหยางขมวดคิ้วเล็กน้อยกล่าว “ทำไมถึงเป็นแบบนี้? ผมทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส ทำลายเส้นลมปราณของเขา แต่ไม่ถึงแก่ชีวิต น่าจะรักษาชีวิตเอาไว้ได้ ฝีมือของหมอของโรงพยาบาลพวกคุณจะแย่เกินไปหน่อยไหม?”“หมอของโรงพยาบาลแห่งแรกของเมือง ว่ากันตามฝีมือทางการแพทย์แล้วไม่สู้นิ้วเดียวของคุณ แต่เรื่องนี้มีความน่าสงสัยอยู่หน่อยจริง ๆ ได้รับการช่วยชีวิตแล้ว เดิมทีรองนายพลหลี่รอดจากอันตรายถึงชีวิตแล้ว ส่งไปที่ห้องผู้ป่วย แต่ตอนตีห้า อาการบาดเจ็บกลับสาหัสขึ้น ไม่ทันช่วยชีวิตก็ตายเสียแล้ว”หานลี่ฉินพูดจบ มองไปรอบ ๆแวบหนึ่ง ลากหลินหยางไปอีกด้าน กล่าวเสียงเบา “ผมให้หมอตรวจศพของรองนายพลหลี่ สาเหตุของการเสียชีวิตคือภาวะหัวใจหยุดเต้นเนื่องจากกา
“ไอ้ชั่วแกรนหาที่ตาย!”อาหาวโกรธจัด ระงับอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ตั้งนานแล้ว เดินเข้ามาหาหลินหยางด้วยแรงอาฆาตที่พลุ่งพล่านในฐานะที่หานเซวี่ยอิ๋งเป็นติ่งเบอร์หนึ่งของหลินหยาง เมื่อเห็นไอดอลกำลังเจอกับความลำบาก จะอดกลั้นเอาไว้ได้อย่างไร ก็พุ่งตัวออกมา ขวางอาหาวเอาไว้ทันที“นายคิดจะทำอะไร?”“ไสหัวออกไป!”อาหาวยกมือขึ้นกวาดฝ่ามือออกไปจนหานเซวี่ยอิ๋งลอยกระเด็นออกไป หลินหยางแทรกตัวไปด้านหน้าทันที พยุงหานเซวี่ยอิ๋งเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเธอก็คงล้มลงไปบนพื้นแล้วหานเซวี่ยอิ๋งมีเลือดออกที่มุมปาก ใบหน้าบวมแดงขึ้นมาทันที มีรอยนิ้วมือปรากฏขึ้นให้เห็น“เซวี่ยอิ๋ง”หานลี่ฉินเองตกใจเช่นกัน รีบวิ่งเข้ามา“ไอดอล เขาตบฉัน เจ็บมากเลย!”หานเซวี่ยอิ๋งเจ็บจริง เจ็บจนน้ำตาไหล“ผมจะแก้แค้นให้คุณเอง”หลินหยางส่งตัวหานเซวี่ยอิ๋งให้หานลี่ฉิน จากนั้นสายตาก็เย็นชาขึ้นมาทันที “ไอ้หมาขี้ข้าไม่มีตาแบบแก กล้ากัดแม้กระทั่งติ่งของฉัน แกไม่รุ้หรือว่าฉันถนัดเรื่องกระทืบหมาที่สุด? มือข้างนั้นของแก ต้องทิ้งเอาไว้ที่นี่”อาหาวหัวเราะออกมาอย่างเหยียดหยาม ยกมือข้างที่ตบหานเซวี่ยอิ๋งขึ้นมา กล่าว “ไอ้คางคกขึ้นวอ ฝีปากกล้าดี
“ต่อให้แกเป็นปรมาจารย์ จุดจบในวันนี้ ก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลง แกวิเคราะห์กำลังของฉันผิดพลาดไป เมื่อครู่นี้ฉันไม่ได้ออกแรงเต็มที่”อาหาวกระทืบเท้า ไม่ออกมืออีกต่อไป ปราณแท้ที่จุดตันเถียนซัดสาด พุ่งเข้ามาโจมตีหลินหยางยังคงเลือกที่จะรับมือโดยยืนอยู่กับที่ พร้อมทั้งยกมือขึ้นข้างหนึ่งอาหาวโกรธจัด นี่มันแม่งจะดูถูกกันเกินไปแล้วถึงแม้ว่าจะโกรธ แต่ความอาฆาตในสายตาของเขายังคงเพิ่มความรุนแรงยิ่งขึ้นพลังโคสามตัวกำลังระเบิดออกมาผ่านหมัด อาหาวเชื่อว่าหมัดนี้มากพอที่จะทำให้หลินหยางลอยกระเด็นแต่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เมื่อหมัดของทั้งสองคนปะทะกัน หลินหยางยังคงยิ่งเฉย แต่ในทางกลับกันเขา ถูกพลังหมัดของหลินหยางสะท้อนกลับ ร่างกายไถลไปทางด้านหลังหลายเมตร กระแทกลงบนพื้นอาหาวรีบพลิกตัวแล้วดีดขึ้นมาทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกคนวงนอกคือไทยมุง คนวงในดูช่องทาง วิเคราะห์จากพลังหมัดเมื่อครู่นี้ หมัดนั้นของหลินหยางอย่างน้อยต้องมีพลังโคสี่ตัว นี่ก็หมายความว่าคู่ต่อสู้ตรงหน้าคือปรมาจารย์ระดับสี่ปรมาจารย์ระดับสี่อายุน้อยคนนี้ หากอยู่ที่ซิ่นหลิงก็คงเป็นบุคคลอัจฉริยะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสถานที่อย่างเ
ชื่อของหลินหยาง ตอนนี้โด่งดังมากมหาปรมาจารย์ทั้งสี่ของเมืองลั่วกลายเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้เมืองลั่วมีปรมาจารย์ห้าท่าน“สองวันมานี้ฉันเองก็ได้ยินชื่อนี้เหมือนกัน ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอที่นี่ หล่อมากเลยนะ!”“ปรมาจารย์ พวกเราสนับสนุนคุณ จะต้องเอาชนะคนนี้ให้ได้นะ ต่อสู้เพื่อพวกเราชาวเมืองลั่วด้วยนะ!”เดิมทีทุกคนก็ไม่พอใจต่อคำพูดประโยคนั้นของอาหาวเป็นอย่างมากอยู่แล้ว จึงทำให้ทุกคนเกิดความโกรธแค้น และประจวบเหมาะที่หลินหยางเป็นปรมาจารย์รุ่นเยาว์ที่เพิ่งได้รับการเลื่อนขั้นของเมืองลั่ว กำลังได้รับความสนใจ ตอนนี้จึงกลายเป็นความหวังของทุกคน“ที่แท้เขาก็คือปรมาจารย์คนที่ห้าที่เพิ่งได้รับการเลื่อนขั้นของเมืองลั่วเหรอนี่? ไม่ได้คิดเลยว่าจะหนุ่มแน่นและหล่อเหลาขนาดนี้”ปลาคาร์ปน้อยยกไม้เซลฟี่ขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ กล่าวกับช่องไลฟ์สด “ทุกคน เห็นแล้วเหรอไม่? ท่านนี้ก็คือปรมาจารย์รุ่นเยาว์ที่ได้รับการเลื่อนขั้นใหม่ของเมืองลั่วของพวกเรา อยากจะถามทุกคนว่า หล่อไหม?”คอมเมนต์ 1 หล่อมากจริง ๆ แต่ก็น้อยกว่าผมนิดหนึ่งคอมเมนต์ 2 น้องปลาคาร์ป คุณคงจะไม่มีทางชอบเจ้าหมอนี่หรอกใช่ไหม?คอมเมนต
ห้องทำงานของนายกเทศมนตรีเหยียนหรูอวี้กำลังจัดการงานราชการ เลขาเฉินอวี้ถิงถือแท็บเล็ตเดินเข้ามา“นายกเทศมนตรี คุณรีบดูเร็วเข้า”บนแท็บเล็ตก็คือช่องไลฟ์สดของปลาคาร์ปแห่งแม่น้ำลั่ว ในเวลานี้คนออนไลน์มากนับหมื่นคน คึกคักเป็นอย่างยิ่งที่เกิดเหตุวุ่นวาย แต่เหยียนหรูอวี้ยังมองเห็นหลินหยางแวบหนึ่ง“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”เรื่องเกี่ยวข้องกับนายท่าน จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก“ไม่รู้ว่าทำไมคุณหลินถึงเกิดเรื่องขัดแย้งกับคนนี้ เหมือนว่าคนนี้จะมาจากซิ่นหลิง ดูท่าแล้วกำลังจะลงมือกันแล้ว” เฉินอวี้ถิงกล่าวอธิบายหว่างคิ้วของเหยียนหรูอวี้ชนเข้าหากันทันที ถ้าหากเป็นคนของหนานตู เหยียนหรูอวี้ไม่มีทางรู้สึกตึงเครียด แต่มีเรื่องขัดแย้งกับคนของซิ่นหลิง นั่นก็ไม่เหมือนกันแล้ว“เตรียมรถ รีบไปที่เกิดเหตุเดี๋ยวนี้”เหยียนหรูอวี้นั่งไม่ติดแล้ว วางปากกาในมือลง รีบลุกขึ้นแล้วเดินออกจากประตูไปในเวลาเดียวกันคนที่เห็นอยู่ไลฟ์สดนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่เหยียนหรูอวี้ในเวลาเดียวกัน ด้านเฉาเค่อหมิงก็กำลังดูไลฟ์สดอยู่เช่นกัน เขายังโทรศัพท์หาจางซูอวิ๋น บอกให้จางซูอวิ๋นรีบดู“ดูท่าทางนั่นของมัน อาศัยความสามารถอันน้
“ทำผมตกใจหมด ผมนึกว่าคุณเป็นโยไคแปลงร่างซะอีก” หลินหยางเอ่ยขึ้นพร้อมหัวเราะอย่างเย็นชา“เจ้าทึ่มเอ๊ย นี่คุณเข้าใจอะไรบ้างไหม? มันเรียกว่าอสูรพยัคฆ์แปลงกาย เป็นสิ่งที่นายท่านตงให้รางวัลสำหรับยอดวิชาการต่อสู้จีนของผม เพื่อถ่ายทอดวิชา ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถเพิ่มศักยภาพได้อีกด้วย ราวกับเสือปกป้องกันกาย ให้ผมได้ใช้ความสามารถจู่โจมฆ่าอย่างเหนือขั้นได้อย่างเพียงพอ วิชาการต่อสู้ที่เหนือชั้นแบบนี้ ที่เมืองลั่วแห่งนี้ คงยังไม่มีให้ได้พบเห็นล่ะสิ? วันนี้ผมจะเปิดหูเปิดตาให้คุณเอง ว่าระดับสามอย่างผมจะเอาชนะปรมาจารย์ระดับสี่อย่างคุณได้อย่างไร!”อาฮ่าวมั่นอกมั่นใจตัวเองอย่างมาก โดยไม่ได้เห็นหลินหยางอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ “อย่าพูดว่าคุณเป็นเพียงแค่ปรมาจารย์ระดับสี่ วันนี้ก็นับว่าคุณคือปรมจารย์ระดับห้าแล้ว ต่างก็มีจุดจบเช่นเดียวกัน กินหมัดอสูรพยัคฆ์หน่อยเป็นไง!” ความเคียดแค้นก่อเกิดขึ้นในทันใด อาฮ่าวลงมืออย่างไม่หยุดยั้ง ช่วงเวลานี้เป็นทีของอาฮ่าว เต็มไปด้วยพละกำลัง กำลังแห่งหมัด แท้จริงแล้วมันมากเกินกว่ากำลังของวัวสี่ตัวด้วยซ้ำ แทบจะเทียบถึงห้าตัวได้ ผู้คนโดยรอบในที่แห่งนี้ต่างก็พากันกลั้นหา
อาฮ่าวจนตรอกไปถึงสิบนาที ผ่านไปสักพักจึงสามารถลุกขึ้นมาได้อย่างทุลักทุเลอ้าก!อาฮ่าวรู้สึกหวานขึ้นมาในลำคอ ทั้งปากเต็มไปด้วยเลือดกระฉอกออกมา ในหน้าขาวซีด หลินหยางก้าวเท้าออกไปหนึ่งก้าว จากนั้นความแข็งแกร่งภายในก็ระเบิดออกมา ยิ่งไปกว่านั้นความแข็งแกร่งภายในชีพจรยังเต้นผิดปกติอีกด้วย อวัยวะภายในทั้งห้ารวมถึงอารมณ์ทั้งหกล้วนแล้วถูกทำร้ายจนบอบช้ำไม่น้อย อาการบาดเจ็บที่แท้จริงของเขา สาหัสกว่าที่แสดงออกมาให้เห็นอย่างมาก ใบหน้าของอาฮ่าวเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ เขาเชื่อมั่นใจตัวเองอย่างมาก โดยอาศัยการแปลงกายเป็นอสูรพยัคฆ์ ทำให้เขาที่อยู่ในระดับสามสามารถโจมตีระดับสี่ได้ ทั้งยังมีกำลังเผชิญหน้ากับระดับห้าอีก อย่างไรก็ตามภายใต้สถานการณ์ที่ลงมืออย่างเต็มกำลังนั้น ก็ยังถูกโจมตีกลับคืนมา หนำซ้ำภายในยังได้รับบาดเจ็บอย่างหนักอีก นี่เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าความแข็งแกร่งของหลินหยางสามารถบดขยี้เขาได้ พ่ายอย่างย่อยยับ“จุ๊จุ๊ คนที่มาจากซิ่นหลิง เรี่ยวแรงทำไมน้อยนักล่ะ? สู้แพ้แล้วเลยเอาเรี่ยวแรงมาอ้วกออกเป็นเลือด ถ้าจะแพ้ไม่ได้ก็อย่าไม่สู้กับคนอื่นเลย น่าขายหน้า...” หลินหยางกล่าวแดกดันอ
มือข้างหนึ่งของหลินหยางจับเข้าไปบนไหล่ของอาฮ่าว อาฮ่าวในเวลานี้ราวกับมีภูเขาไท่ซานกดอยู่บนศีรษะ [1] เข่าทั้งสองทรุดลงบนพื้นจัง ๆ ทำให้หน้าดินที่ทรุดลงไปนั้นเกิดรอยร้าว กระดูกสะบ้าก็แตกหัก จนทำให้เลือดไหลซึมเข้าไปในรอยแตก อาฮ่าวกรีดร้องออกมา เจ็บปวดจนเหงื่อท่วมตัว อีกทั้งหลินหยางยังวางมือไว้บนบ่าเขาทำให้รู้สึกราวกับว่าแบกน้ำหนักเพิ่มอีกพันกิโล จนให้เขาไม่สามารถขยับเขยื้อนตัวได้ “คุณหานเป็นแฟนคลับของผม คุณตบตีเธอ ก็เท่ากับว่าคุณตบหน้าผม ตอนนี้ คุณก็คุกเข่าขอโทษเธอซะ” หลินหยางกล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น เขาเป็นไอดอลที่รักแฟนคลับที่สุด เนื่องจากหานเซวี่ยอิ๋งเป็นแฟนตัวยงของเขา แน่นอนว่าเขาจะพยายามเอาใจแฟนๆ อย่างเต็มที่หากว่าไม่รักแฟนคลับ ก็คงเป็นเพียงแค่นักลงทุนอย่างเดียวไม่ได้เป็นไอดอลคุณภาพ คงเสียภาพพจน์ในไม่ช้าเร็วหานเซวี่ยอิ๋งที่ได้ยินอย่างนั้น ก็ตื่นเต้นขึ้นมาอย่างไม่เป็นท่า สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ “ไอดอลของฉัน เขารักแฟนคลับมากเลยล่ะ” “ไม่หรอก คนนอกเมือง สมควรแล้วหรือที่จะให้ผมขอโทษ? สกุลหลินน่ะ แม้ว่าผมจะไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้ของคุณ แต่คุณก็อย่าแม้แต่จะคิดทำให้ผมอับอาย! ผมจะบอกคุณนะ
“เหลวไหล!” หลินไร้ศัตรูกลับค้อนเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “หลานชายของฉันเป็นสายเลือดโดยตรงรุ่นที่สามที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตระกูลหลิน! ถ้าหากเขาไม่อยู่แล้ว กิจการมากมายของตระกูลหลินจะส่งต่อให้ใครดูแล?!”“คือ...”ว่านเหลยกล่าวด้วยท่าทางลำบากใจ“พยายามตามหาเข้า ถึงอย่างไร...” หลินไร้ศัตรูถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง กลับมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “ตอนนั้นเป็นเพราะตระกูลหลินของฉันติดค้างเขาแล้วก็ยังมีพี่ชายคนโตของฉันด้วย หนี้ก้อนนี้ จำเป็นต้องคืน”อีกทางด้านหนึ่งหลินหยางกลับจามอย่างรุนแรง “ใครกำลังด่าฉัน? แม่งเอ๊ย จะต้องเป็น...”เมื่อลองคิด ๆ ดูแล้วเหมือนว่าศัตรูที่อยากจะด่าตนมีเยอะแยะมากมาย หลินหยางก็คร้านจะนับเช่นกันมองดูเวลาแวบหนึ่งก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เขาจึงออกจากบ้านด้านนอกคฤหาสน์ หลี่หรูเยว่ได้ยืนอยู่ที่ด้านหน้ารถแล้ว เปิดประตูรถให้หลินหยาง กล่าวด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย “ตระกูลเฉิงจัดงานเลี้ยงไว้รอแล้ว แต่ว่าจ้าวเจี้ยนชิงอยู่ที่งานเลี้ยงนั่นด้วย ที่นั่นจะต้องมีกองทัพทหารคอยเฝ้าอยู่!”ถ้าหากจ้าวเจี้ยนชิงเป็นสุนัขจนตรอก เรื่องจะต้องมีความยุ่งยากขึ้นแน่“งานใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะพลาดได้ยังไ
ชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านของปลายสายโทรศัพท์ราวกับตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เหมือนว่าจู่ ๆ ก็ได้เห็นความหวัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “คุณรักษาได้จริง ๆ เหรอ?”“คือว่าค่าตอบแทนนี่...”“ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัญหา! ขอเพียงแค่คุณสามารถรักษาพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกได้ คุณอยากได้อะไรก็ว่ามาได้เลย!”“ยอดเยี่ยม! โสมคนอายุสามร้อยปีสักสามสิบต้น สมุนไพรอายุห้าร้อยปีสิบต้น...”หลินหยางก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกัน จากนั้นก็สั่งสมุนไพร ราวกับสั่งอาหาร สมุนไพรพวกนี้มากพอที่จะทำให้หลูอ้าวตงต้องเจ็บปวดใจแต่ทว่าปลายสายกลับกล่าวด้วยความไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “ได้! คืนนี้ผมจะให้รถไปรับคุณ!”น้ำเสียงที่ดีใจดีนี้ ทำให้หลินหยางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเสนอราคาต่ำไปแต่ว่าไม่เสียใจภายหลัง เขาก็ไม่ได้สนใจอีก “โรคพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกจะรีบร้อนไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเตรียมตัวสักหน่อย ถึงเวลานั้นผมจะแจ้งให้คุณทราบ”ชายวัยกลางคนนั้นรับปากทันทีหลินหยางวางสายโทรศัพท์ พูดเบา ๆ “ดูท่าจะเป็นมหาเศรษฐี”อีกฝ่ายไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตน ยังสามารถเอาสมุนไพรมากมายขนาดนี้มาให้ได้อีก ตัวตนจะต้องสูงส่งมาจนไม่สะดวกที่จะเ
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา
จ้าวเจี้ยนชิงตกตะลึงไปแล้ว “ราง รางวัลพลเมืองดีเด่น?”เฉิงคั่วร้อนใจ “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าคนตายคาที่ ทุกคนเห็นกันหมด! คุณทำ...”เสียงเพี้ยะดังขึ้นทีหนึ่ง!เหยียนฮ่าวสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่บนใบหน้าของเขา เขากล่าวเสียงขรึม “เมื่อครู่นี้แกเห็นอะไร?”“ผม...”เฉิงคั่วสีหน้าซีดขาว ภายใต้สีหน้าที่เย็นยะเยือกของเหยียนฮ่าว กลับไม่กล้าพูดอะไรอีกเขาเป็นปรมาจารย์บ้านนอกคนหนึ่ง จะล่วงเกินเหยียนฮ่าวไม่ได้อย่างเด็ดขาด!“พวกแกเห็นอะไร?”เหยียนฮ่าวกวาดสายตามองคนอื่นด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกล่าวขึ้นอีกครั้งทั้งหมดนิ่งเงียบ“คดีของวันนี้ง่ายมาก!” เหยียนฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “หวังเทียนเหิงรัฐมนตรีกรมอัยการสูงสุด กลั่นแกล้งประชาชน บังคับใช้กฎหมายที่รุนแรง!”“คุณหลินป้องกันตัวตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการอพยพฉุกเฉิน!”“ผมพูดจบแล้ว มีใครเห็นด้วย มีใครคัดค้านไหม?”การอพยพฉุกเฉินสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีเหตุผล!ทุกคนตะลึงงันแต่ว่าภายใต้สายตาของเหยียนฮ่าว สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพียงเพราะบิดาของเหยียนฮ่าวยังเป็นอธิบดีกรมอัยการสูงสุด คำพูดของเขาก็คือกฎหม
เหยียนฮ่าวรู้สึกหมดความอดทนอยู่บ้าง “อยากจะเจรจาก็รีบพูดมา ไม่พูดฉันจะไปแล้ว!”หลินหยางกลับจิบไวน์อึกหนึ่ง ถึงได้หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเหยียน เหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปนะ”“คุณ มีสิทธิ์อะไรมาเจรจากับผม?”“ว่าอะไรนะ?”เหยียนฮ่าวงุนงงไปทันที หลินหยางเพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่ง!ทันใดนั้น เหยียนฮ่าวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์! ร่างกายคดงอราวกับกุ้งต้มสุก!ยังดีที่ครั้งก่อนต่อสู้ครั้งใหญ่กับหวังเหลียนเฉิง หลังจากทำลายคฤหาสน์จนพัง หลินหยางก็ได้ให้คนมาซ่อมแซมแล้ว ยังใช้วัสดุเก็บเสียงชั้นดีอีกด้วย ถึงไม่ทำให้เสียงร้องที่ราวกับจะขาดใจตายของเขาไม่ดังเล็ดลอดออกไปข้างนอกหลินหยางนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์อย่างไม่รีบไม่ร้อน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเสียงร้องอันน่าเวทนานั่นหลังจากผ่านไปห้านาที ถึงได้ค่อย ๆ วางแก้วไวน์ลงเสียงร้องอันน่าเวทนาของเหยียนฮ่าวก็ค่อย ๆ หยุดลงเขาในเวลานี้นอนอยู่บนพื้น เหงื่อท่วมตัว สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ แม้แต่พรมยังถูกเขาฉีกจนเละเทะ!“รู้สึกดีแล้วใช่ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แก แกทำอะไรกับฉัน?
“แกคิดว่าแกมีลั่วหงอวี๋คอยปกป้อง ก็จะทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างนั้นหรือ? เพ้อเจ้อ! บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าจะเป็นลั่วหงอวี๋ก็ไม่สามารถต่อต้านได้!”จ้าวเจี้ยนชิงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีลั่วหงอวี๋ หลินหยางจะสามารถหนีมานานขนาดนี้ได้ยังไง!เขาทำได้แค่มองดูหลินหยางทำตัวอวดดีมานานขนาดนั้น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกบีบจนแทบจะเสียสติ!แต่ต่อหน้ากำลังของทางการ!ลั่วหงอวี๋ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!ในระหว่างที่พูด เขาหันไปพูดกับเหยียนฮ่าว “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าข้าราชการของกรมอัยการสูงสุดต่อหน้าทุกคน ยังทำร้ายชาวตงอิ๋งจนบาดเจ็บ ทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม!”แม้แต่ฮิเดนากะ ยามาโมโตะก็รีบกล่าวเช่นกัน “คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม แก่ชาวตงอิ๋งด้วย!”เหยียนฮ่าวเข้าใจในทันที หันหน้าไปมองหลินหยางแสยะยิ้มกล่าว “ไม่คิดเลยว่าแกจะก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ยังกล้าทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอีกด้วย!”“ใครก็ได้!”ปรมาจารย์หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขาก้าวออกมาพร้อมกัน บนตัวแฝงไปด้วยสีหน้าอันดุร้าย ทุกคนเป็นปรมาจารย์ระดับแปด!
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ
เจียงรั่วหานหัวใจตึงเครียดขึ้นมาทันที เป็นห่วงชายชู้ของตนเอง ครั้งนี้หลินหยางตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ!อย่างไรเสียใช้ยศตำแหน่งข่มเหงคนอื่น!ซ่งหว่านอวี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็ถอนหายใจในใจเช่นกัน ต่อให้ตำแหน่งของหลินหยางที่เมืองลั่วสูงกว่านี้แล้วจะยังไงต่อหน้าผู้มีอิทธิพลอย่างหวังเทียนเหิง ก็ทำได้แค่เพียงอดกลั้นเท่านั้น!“จะตรวจสอบงั้นก็ได้ แต่ก็ต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย”หลี่หรูเยว่สีหน้าไม่สุขุม แต่กลับไม่กล้าให้หลินหยางมีข้อหาขัดขวางทางการติดตัว“กฎหมาย?” หวังเทียนเหิงยิ้มเยาะ กล่าวด้วยท่าทีหยิ่งยโส “คำพูดของฉัน ก็คือกฎหมาย! มีปัญหา? เข้าไปในห้องกับฉันค่อย ๆ คุยกัน ถ้าทำให้ฉันพอใจได้ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะปล่อยแกไปสักครั้ง!”เขาทำตัวอวดดีกำเริบเสิบสาน! ถึงอย่างไรเหยียนฮ่าวก็ได้แทรกแซงคดีนี้ด้วยตนเองแล้ว ถ้าอยากจะจับหลินหยางให้อยู่หมัด! ต้องมีหลักฐานแน่ชัด ทำให้หลินหยางดิ้นไม่หลุดตลอดไป!ส่วนการหลับนอนกับปรมาจารย์ระดับแปดคนหนึ่ง นั่นก็เป็นเพียงเรื่องของผลพลอยได้เท่านั้น!เขาจ้องมองสำรวจรูปร่างที่สวยงามประณีตของหลี่หรูเยว่ด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว มีความร้อนกลุ่มหนึ่งพลุ่งพล่านขึ้นในท้องน้อยข
แต่กลัวว่าเขาจะฉวยโอกาสช่วงจังหวะชุลมุน ลงมือกับจ้าวเจิ้งฮ่าว!“นายพลจ้าววางใจ”สีหน้าเฉิงคั่วหนักใจ ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งในฐานะที่เขาเป็นปรมาจารย์ระดับห้า ประกอบกับมีนักรบทหารองครักษ์ชาวตงอิ๋งที่มีระดับมานะสร้างกลุ่มหนึ่งคอยช่วยเหลือ ก็มากพอที่จะจับตัวปรมาจารย์หนึ่งในนั้นได้“แม่งเอ๊ย ในเมื่อพวกแกทั้งหมดยอมเป็นสุนัขรับใช้ของหลินหยาง ถ้าอย่างนั้นก็ไปตายให้หมด! คิดว่าปรมาจารย์ระดับเก้าของฉันมีไว้ประดับเหรอไงวะ!?”จ้าวเจี้ยนชิงดวงตาแดงก่ำด้วยความริษยา ตนเป็นผู้บังคับบัญชาของเมืองลั่วมานานหลายปี ยังไม่มีลูกน้องที่แข็งแกร่งขนาดนี้ หลินหยางเพิ่งมาได้ไม่นาน ก็มีปรมาจารย์ระดับหกถึงสี่คนเป็นสุนัขรับใช้?!หลินหยางยิ่งใช้ชีวิตดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากจะสับหลินหยางให้แหลกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!แต่ทว่ายังไม่ทันได้ลงมือเขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัว แรงอาฆาตที่เย็นยะเยือกขั้นสุดกลุ่มหนึ่งลอยมา!“จ้าวเจี้ยนชิง แกอยากตายใช่ไหม?”ในเวลานี้ หลี่หรูเยว่ยืนอยู่ที่ประตูคฤหาสน์ ในมือของเธอใช้โซ่เหล็ก จูงม๋อจื่อที่เหมือนกับเป็นสัตว์ร้าย จ้องมองเขาด้วยความเย็นชาจ้าวเจี้ยนชิงรูม่านตาหดทันที กล่าวอย