ชื่อของหลินหยาง ตอนนี้โด่งดังมากมหาปรมาจารย์ทั้งสี่ของเมืองลั่วกลายเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้เมืองลั่วมีปรมาจารย์ห้าท่าน“สองวันมานี้ฉันเองก็ได้ยินชื่อนี้เหมือนกัน ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอที่นี่ หล่อมากเลยนะ!”“ปรมาจารย์ พวกเราสนับสนุนคุณ จะต้องเอาชนะคนนี้ให้ได้นะ ต่อสู้เพื่อพวกเราชาวเมืองลั่วด้วยนะ!”เดิมทีทุกคนก็ไม่พอใจต่อคำพูดประโยคนั้นของอาหาวเป็นอย่างมากอยู่แล้ว จึงทำให้ทุกคนเกิดความโกรธแค้น และประจวบเหมาะที่หลินหยางเป็นปรมาจารย์รุ่นเยาว์ที่เพิ่งได้รับการเลื่อนขั้นของเมืองลั่ว กำลังได้รับความสนใจ ตอนนี้จึงกลายเป็นความหวังของทุกคน“ที่แท้เขาก็คือปรมาจารย์คนที่ห้าที่เพิ่งได้รับการเลื่อนขั้นของเมืองลั่วเหรอนี่? ไม่ได้คิดเลยว่าจะหนุ่มแน่นและหล่อเหลาขนาดนี้”ปลาคาร์ปน้อยยกไม้เซลฟี่ขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ กล่าวกับช่องไลฟ์สด “ทุกคน เห็นแล้วเหรอไม่? ท่านนี้ก็คือปรมาจารย์รุ่นเยาว์ที่ได้รับการเลื่อนขั้นใหม่ของเมืองลั่วของพวกเรา อยากจะถามทุกคนว่า หล่อไหม?”คอมเมนต์ 1 หล่อมากจริง ๆ แต่ก็น้อยกว่าผมนิดหนึ่งคอมเมนต์ 2 น้องปลาคาร์ป คุณคงจะไม่มีทางชอบเจ้าหมอนี่หรอกใช่ไหม?คอมเมนต
ห้องทำงานของนายกเทศมนตรีเหยียนหรูอวี้กำลังจัดการงานราชการ เลขาเฉินอวี้ถิงถือแท็บเล็ตเดินเข้ามา“นายกเทศมนตรี คุณรีบดูเร็วเข้า”บนแท็บเล็ตก็คือช่องไลฟ์สดของปลาคาร์ปแห่งแม่น้ำลั่ว ในเวลานี้คนออนไลน์มากนับหมื่นคน คึกคักเป็นอย่างยิ่งที่เกิดเหตุวุ่นวาย แต่เหยียนหรูอวี้ยังมองเห็นหลินหยางแวบหนึ่ง“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”เรื่องเกี่ยวข้องกับนายท่าน จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก“ไม่รู้ว่าทำไมคุณหลินถึงเกิดเรื่องขัดแย้งกับคนนี้ เหมือนว่าคนนี้จะมาจากซิ่นหลิง ดูท่าแล้วกำลังจะลงมือกันแล้ว” เฉินอวี้ถิงกล่าวอธิบายหว่างคิ้วของเหยียนหรูอวี้ชนเข้าหากันทันที ถ้าหากเป็นคนของหนานตู เหยียนหรูอวี้ไม่มีทางรู้สึกตึงเครียด แต่มีเรื่องขัดแย้งกับคนของซิ่นหลิง นั่นก็ไม่เหมือนกันแล้ว“เตรียมรถ รีบไปที่เกิดเหตุเดี๋ยวนี้”เหยียนหรูอวี้นั่งไม่ติดแล้ว วางปากกาในมือลง รีบลุกขึ้นแล้วเดินออกจากประตูไปในเวลาเดียวกันคนที่เห็นอยู่ไลฟ์สดนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่เหยียนหรูอวี้ในเวลาเดียวกัน ด้านเฉาเค่อหมิงก็กำลังดูไลฟ์สดอยู่เช่นกัน เขายังโทรศัพท์หาจางซูอวิ๋น บอกให้จางซูอวิ๋นรีบดู“ดูท่าทางนั่นของมัน อาศัยความสามารถอันน้
“ทำผมตกใจหมด ผมนึกว่าคุณเป็นโยไคแปลงร่างซะอีก” หลินหยางเอ่ยขึ้นพร้อมหัวเราะอย่างเย็นชา“เจ้าทึ่มเอ๊ย นี่คุณเข้าใจอะไรบ้างไหม? มันเรียกว่าอสูรพยัคฆ์แปลงกาย เป็นสิ่งที่นายท่านตงให้รางวัลสำหรับยอดวิชาการต่อสู้จีนของผม เพื่อถ่ายทอดวิชา ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถเพิ่มศักยภาพได้อีกด้วย ราวกับเสือปกป้องกันกาย ให้ผมได้ใช้ความสามารถจู่โจมฆ่าอย่างเหนือขั้นได้อย่างเพียงพอ วิชาการต่อสู้ที่เหนือชั้นแบบนี้ ที่เมืองลั่วแห่งนี้ คงยังไม่มีให้ได้พบเห็นล่ะสิ? วันนี้ผมจะเปิดหูเปิดตาให้คุณเอง ว่าระดับสามอย่างผมจะเอาชนะปรมาจารย์ระดับสี่อย่างคุณได้อย่างไร!”อาฮ่าวมั่นอกมั่นใจตัวเองอย่างมาก โดยไม่ได้เห็นหลินหยางอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ “อย่าพูดว่าคุณเป็นเพียงแค่ปรมาจารย์ระดับสี่ วันนี้ก็นับว่าคุณคือปรมจารย์ระดับห้าแล้ว ต่างก็มีจุดจบเช่นเดียวกัน กินหมัดอสูรพยัคฆ์หน่อยเป็นไง!” ความเคียดแค้นก่อเกิดขึ้นในทันใด อาฮ่าวลงมืออย่างไม่หยุดยั้ง ช่วงเวลานี้เป็นทีของอาฮ่าว เต็มไปด้วยพละกำลัง กำลังแห่งหมัด แท้จริงแล้วมันมากเกินกว่ากำลังของวัวสี่ตัวด้วยซ้ำ แทบจะเทียบถึงห้าตัวได้ ผู้คนโดยรอบในที่แห่งนี้ต่างก็พากันกลั้นหา
อาฮ่าวจนตรอกไปถึงสิบนาที ผ่านไปสักพักจึงสามารถลุกขึ้นมาได้อย่างทุลักทุเลอ้าก!อาฮ่าวรู้สึกหวานขึ้นมาในลำคอ ทั้งปากเต็มไปด้วยเลือดกระฉอกออกมา ในหน้าขาวซีด หลินหยางก้าวเท้าออกไปหนึ่งก้าว จากนั้นความแข็งแกร่งภายในก็ระเบิดออกมา ยิ่งไปกว่านั้นความแข็งแกร่งภายในชีพจรยังเต้นผิดปกติอีกด้วย อวัยวะภายในทั้งห้ารวมถึงอารมณ์ทั้งหกล้วนแล้วถูกทำร้ายจนบอบช้ำไม่น้อย อาการบาดเจ็บที่แท้จริงของเขา สาหัสกว่าที่แสดงออกมาให้เห็นอย่างมาก ใบหน้าของอาฮ่าวเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ เขาเชื่อมั่นใจตัวเองอย่างมาก โดยอาศัยการแปลงกายเป็นอสูรพยัคฆ์ ทำให้เขาที่อยู่ในระดับสามสามารถโจมตีระดับสี่ได้ ทั้งยังมีกำลังเผชิญหน้ากับระดับห้าอีก อย่างไรก็ตามภายใต้สถานการณ์ที่ลงมืออย่างเต็มกำลังนั้น ก็ยังถูกโจมตีกลับคืนมา หนำซ้ำภายในยังได้รับบาดเจ็บอย่างหนักอีก นี่เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าความแข็งแกร่งของหลินหยางสามารถบดขยี้เขาได้ พ่ายอย่างย่อยยับ“จุ๊จุ๊ คนที่มาจากซิ่นหลิง เรี่ยวแรงทำไมน้อยนักล่ะ? สู้แพ้แล้วเลยเอาเรี่ยวแรงมาอ้วกออกเป็นเลือด ถ้าจะแพ้ไม่ได้ก็อย่าไม่สู้กับคนอื่นเลย น่าขายหน้า...” หลินหยางกล่าวแดกดันอ
มือข้างหนึ่งของหลินหยางจับเข้าไปบนไหล่ของอาฮ่าว อาฮ่าวในเวลานี้ราวกับมีภูเขาไท่ซานกดอยู่บนศีรษะ [1] เข่าทั้งสองทรุดลงบนพื้นจัง ๆ ทำให้หน้าดินที่ทรุดลงไปนั้นเกิดรอยร้าว กระดูกสะบ้าก็แตกหัก จนทำให้เลือดไหลซึมเข้าไปในรอยแตก อาฮ่าวกรีดร้องออกมา เจ็บปวดจนเหงื่อท่วมตัว อีกทั้งหลินหยางยังวางมือไว้บนบ่าเขาทำให้รู้สึกราวกับว่าแบกน้ำหนักเพิ่มอีกพันกิโล จนให้เขาไม่สามารถขยับเขยื้อนตัวได้ “คุณหานเป็นแฟนคลับของผม คุณตบตีเธอ ก็เท่ากับว่าคุณตบหน้าผม ตอนนี้ คุณก็คุกเข่าขอโทษเธอซะ” หลินหยางกล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น เขาเป็นไอดอลที่รักแฟนคลับที่สุด เนื่องจากหานเซวี่ยอิ๋งเป็นแฟนตัวยงของเขา แน่นอนว่าเขาจะพยายามเอาใจแฟนๆ อย่างเต็มที่หากว่าไม่รักแฟนคลับ ก็คงเป็นเพียงแค่นักลงทุนอย่างเดียวไม่ได้เป็นไอดอลคุณภาพ คงเสียภาพพจน์ในไม่ช้าเร็วหานเซวี่ยอิ๋งที่ได้ยินอย่างนั้น ก็ตื่นเต้นขึ้นมาอย่างไม่เป็นท่า สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ “ไอดอลของฉัน เขารักแฟนคลับมากเลยล่ะ” “ไม่หรอก คนนอกเมือง สมควรแล้วหรือที่จะให้ผมขอโทษ? สกุลหลินน่ะ แม้ว่าผมจะไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้ของคุณ แต่คุณก็อย่าแม้แต่จะคิดทำให้ผมอับอาย! ผมจะบอกคุณนะ
อาฮ่าวก้มหัวคำนับขอโทษ ทำให้จุดประกายความตื่นเต้นของผู้คนอีกครั้ง ส่งเสียงโห่ร้องไชโยอย่างช่วยไม่ได้ และแน่นอนว่าหานเซวี่ยอิ๋งก็มีตื่นเต้นมากเช่นกัน มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่ไม่ค่อยมีความสุข นั่นคือหานลี่ฉิน เขาเห็นท่าทีดี๊ด๊าของหานเซวี่ยอิ๋งแล้ว ก็ถอนหายใจออกมาในใจ “จบแล้ว ลูกสาวฉันสิ้นฤทธิ์เสียแล้ว” หากว่าสามารถหาลูกเขยอย่างหลินหยางได้ อย่างนั้นก็ถือเป็นเรื่องดีอย่างแน่นอน แต่หานลี่ฉินเองก็ชัดเจนมากแล้วว่า ผู้ชายอย่างหลินหยางนี้ ไม่เหมาะกับลูกสาวของเขาเลย ทั้งยังเป็นลูกเขยเขาไม่ได้อีก ลูกสาวของเขาตกหลุมรักหลินหยาง อย่างนั้นก็จะต้องผิดหวังอย่างแน่นอน ในฐานะบุพการีแล้ว โดยจะไม่ยอมให้ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนต้องผิดหวังอยู่แล้วหลูอ้าวตงและชายชราในชุดไท่เก๊กออกมาจากอาคารผู้ป่วยใน เดินไปทางฝั่งที่จอดรถ จึงเห็นเข้ากับด้านนอกที่ผู้คนมากมายห้อมล้อมอยู่ ตัวตนใด ๆ ของหลูอ้าวตง ก็ไม่ได้สนใจดูความครึกครื้น จึงทำเพียงแค่เดินจากไป แต่เวลานี้เอง ท่ามกลางกลุ่มคนก็ส่งเสียงของอาฮ่าวออกมา หลูอ้าวตงจึงหยุดเท้าที่กำลังก้าวเดิน “ลุงเหยา นี่เสียงของอาฮ่าวหรือเปล่า?” เหยาจงผู้ที่สวมชุดไท่เ
ผู้คนรอบข้างตกใจกันยกใหญ่ จนอดไม่ได้ที่ต้องถอยออกไปสองสามก้าว “คุณหลู คุณเองก็โหดเกิดไปแล้ว ยังไงซะเขาก็เป็นหมาที่ซื่อสัตย์ของคุณ นี่คุณฆ่าได้ลงคอเลยหรือ?” หลินหยางเอ่ย หลูอ้าวตงก้าวเดินออกมาจากด้านหลังของเหยาจง ก่อนจะกล่าวด้วยสีหน้าเยือกเย็น “สร้างเรื่องไม่เว้น แถมยังทำให้ฉันขายหน้าอีก ตายไปยังไม่น่าเสียดายเลยด้วยซ้ำ “ “นี่ก็คงเป็นพวกคุณฆ่ากันเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ชายชราผู้นี้แข็งแกร่งเหลือเกิน ยากที่จะทัดเทียม รู้หลบเป็นปลีกรู้หลีกเป็นทาง “คุณตีหมาผมจนเจ็บ ก็ควรจะให้อะไรตอนแทนผมหน่อย “ หลูอ้าวตงกล่าวอย่างเยือกเย็น “คุณอยากให้ผมตอบแทนอย่างไรครับ?” หลินหยางเอ่ยถาม “ชีวิตและชีวิต” “ก็คนของคุณเลือกมาหาความเดือดร้อนเอง คุณพูดไม่เข้าใจหรือ? ผู้คนมากมายขนาดนี้เองก็เห็น ต่างก็ให้การได้ทั้งนั้น ชีวิตของหมากับชีวิตของคนมันเทียบกันได้หรือ? ทว่า คนคนนี้คือคนที่คุณกระทำจนตาย แล้วทำไมฉันต้องตำหนิไอดอลของฉันด้วย” หานเซวี่ยอิ๋งทนไม่ไหวที่จะลุกขึ้นมาต่อล้อต่อเถียงเทนหลินหยาง ขอโทษแทนไอดอล “ในสายตาผม พวกเขาคือเหล่าคนในเมืองนคร มีค่าน้อยกว่าชีวอตของสนัขต
การลงมืออย่างง่ายดายของชายชราจากเมื่อครู่นี้ หลินหยางติดสินบนไว้ว่าเขาจะต้องเป็นถึงปรมาจารย์ระดับเก้าให้ได้ อย่างนี้สู้ไม่ไหวแน่ เขาเองก็ไม่ได้มีแผนที่จะต้องมาเสี่ยงชีวิตกับชายชรา ปราณแท้ในกายไหลเวียน พร้อมที่จะหนีได้ทุกเมื่อ สู้ไม่ไหวก็วิ่ง!แต่ในช่วงเวลานี้เอง เสียงหวูดไซเรนก็ดังขึ้น รถของเหยียนหรูอวี้มาเยือน ด้านหลังรถของเหยียนหรูอวี้ คือรถของเจ้าหน้าที่หน่วยรักษาความปลอดภัยเมืองอีกสองสามคัน หลังจากที่เหยียนหรูอวี้ลงจากรถมานั้น ก็เอ่ยกับเฉินอวี้ถิงว่า “เข้าควบคุมสถานการณ์โดยเร็ว ผู้ที่เกี่ยวข้องหลีกไป” เมื่อกล่าวเช่นนั้นแล้ว เหยียนหรูอวี้ก็สาวเท่ายาวก้าวเข้ามา อย่างหาญกล้า และเจ้าหน้าที่หน่วยรักษาความปลอดภัยเมืองก็เข้าดำเนินการอย่างรวดเร็ว ลากเส้นลิมิตไลน์ตรงจุดเกิดเหตุ ทำให้ฝูงชนกระจายออกไป หลินหยางที่เคยพูดว่าไม่อยากเปิดเผยตัวคน ดังนั้นจึงตกอยู่ภายใต้การจับจ้องของสาธารณะชน เหยียนหรูอวี้เองก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมามาก เพียงแค่เข้ามาส่งสายตาให้หลินหยางเท่านั้น เพื่อส่งสารว่าปล่อยให้เธอจัดการเอง บนทางเดินเหยียนหรูอวี้กำลังดูการถ่ายทอดสดในที่เกิดเหตุ สำหรับสถานการณ์ ณ จ
“เหลวไหล!” หลินไร้ศัตรูกลับค้อนเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “หลานชายของฉันเป็นสายเลือดโดยตรงรุ่นที่สามที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตระกูลหลิน! ถ้าหากเขาไม่อยู่แล้ว กิจการมากมายของตระกูลหลินจะส่งต่อให้ใครดูแล?!”“คือ...”ว่านเหลยกล่าวด้วยท่าทางลำบากใจ“พยายามตามหาเข้า ถึงอย่างไร...” หลินไร้ศัตรูถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง กลับมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “ตอนนั้นเป็นเพราะตระกูลหลินของฉันติดค้างเขาแล้วก็ยังมีพี่ชายคนโตของฉันด้วย หนี้ก้อนนี้ จำเป็นต้องคืน”อีกทางด้านหนึ่งหลินหยางกลับจามอย่างรุนแรง “ใครกำลังด่าฉัน? แม่งเอ๊ย จะต้องเป็น...”เมื่อลองคิด ๆ ดูแล้วเหมือนว่าศัตรูที่อยากจะด่าตนมีเยอะแยะมากมาย หลินหยางก็คร้านจะนับเช่นกันมองดูเวลาแวบหนึ่งก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เขาจึงออกจากบ้านด้านนอกคฤหาสน์ หลี่หรูเยว่ได้ยืนอยู่ที่ด้านหน้ารถแล้ว เปิดประตูรถให้หลินหยาง กล่าวด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย “ตระกูลเฉิงจัดงานเลี้ยงไว้รอแล้ว แต่ว่าจ้าวเจี้ยนชิงอยู่ที่งานเลี้ยงนั่นด้วย ที่นั่นจะต้องมีกองทัพทหารคอยเฝ้าอยู่!”ถ้าหากจ้าวเจี้ยนชิงเป็นสุนัขจนตรอก เรื่องจะต้องมีความยุ่งยากขึ้นแน่“งานใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะพลาดได้ยังไ
ชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านของปลายสายโทรศัพท์ราวกับตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เหมือนว่าจู่ ๆ ก็ได้เห็นความหวัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “คุณรักษาได้จริง ๆ เหรอ?”“คือว่าค่าตอบแทนนี่...”“ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัญหา! ขอเพียงแค่คุณสามารถรักษาพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกได้ คุณอยากได้อะไรก็ว่ามาได้เลย!”“ยอดเยี่ยม! โสมคนอายุสามร้อยปีสักสามสิบต้น สมุนไพรอายุห้าร้อยปีสิบต้น...”หลินหยางก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกัน จากนั้นก็สั่งสมุนไพร ราวกับสั่งอาหาร สมุนไพรพวกนี้มากพอที่จะทำให้หลูอ้าวตงต้องเจ็บปวดใจแต่ทว่าปลายสายกลับกล่าวด้วยความไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “ได้! คืนนี้ผมจะให้รถไปรับคุณ!”น้ำเสียงที่ดีใจดีนี้ ทำให้หลินหยางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเสนอราคาต่ำไปแต่ว่าไม่เสียใจภายหลัง เขาก็ไม่ได้สนใจอีก “โรคพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกจะรีบร้อนไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเตรียมตัวสักหน่อย ถึงเวลานั้นผมจะแจ้งให้คุณทราบ”ชายวัยกลางคนนั้นรับปากทันทีหลินหยางวางสายโทรศัพท์ พูดเบา ๆ “ดูท่าจะเป็นมหาเศรษฐี”อีกฝ่ายไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตน ยังสามารถเอาสมุนไพรมากมายขนาดนี้มาให้ได้อีก ตัวตนจะต้องสูงส่งมาจนไม่สะดวกที่จะเ
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา
จ้าวเจี้ยนชิงตกตะลึงไปแล้ว “ราง รางวัลพลเมืองดีเด่น?”เฉิงคั่วร้อนใจ “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าคนตายคาที่ ทุกคนเห็นกันหมด! คุณทำ...”เสียงเพี้ยะดังขึ้นทีหนึ่ง!เหยียนฮ่าวสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่บนใบหน้าของเขา เขากล่าวเสียงขรึม “เมื่อครู่นี้แกเห็นอะไร?”“ผม...”เฉิงคั่วสีหน้าซีดขาว ภายใต้สีหน้าที่เย็นยะเยือกของเหยียนฮ่าว กลับไม่กล้าพูดอะไรอีกเขาเป็นปรมาจารย์บ้านนอกคนหนึ่ง จะล่วงเกินเหยียนฮ่าวไม่ได้อย่างเด็ดขาด!“พวกแกเห็นอะไร?”เหยียนฮ่าวกวาดสายตามองคนอื่นด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกล่าวขึ้นอีกครั้งทั้งหมดนิ่งเงียบ“คดีของวันนี้ง่ายมาก!” เหยียนฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “หวังเทียนเหิงรัฐมนตรีกรมอัยการสูงสุด กลั่นแกล้งประชาชน บังคับใช้กฎหมายที่รุนแรง!”“คุณหลินป้องกันตัวตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการอพยพฉุกเฉิน!”“ผมพูดจบแล้ว มีใครเห็นด้วย มีใครคัดค้านไหม?”การอพยพฉุกเฉินสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีเหตุผล!ทุกคนตะลึงงันแต่ว่าภายใต้สายตาของเหยียนฮ่าว สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพียงเพราะบิดาของเหยียนฮ่าวยังเป็นอธิบดีกรมอัยการสูงสุด คำพูดของเขาก็คือกฎหม
เหยียนฮ่าวรู้สึกหมดความอดทนอยู่บ้าง “อยากจะเจรจาก็รีบพูดมา ไม่พูดฉันจะไปแล้ว!”หลินหยางกลับจิบไวน์อึกหนึ่ง ถึงได้หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเหยียน เหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปนะ”“คุณ มีสิทธิ์อะไรมาเจรจากับผม?”“ว่าอะไรนะ?”เหยียนฮ่าวงุนงงไปทันที หลินหยางเพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่ง!ทันใดนั้น เหยียนฮ่าวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์! ร่างกายคดงอราวกับกุ้งต้มสุก!ยังดีที่ครั้งก่อนต่อสู้ครั้งใหญ่กับหวังเหลียนเฉิง หลังจากทำลายคฤหาสน์จนพัง หลินหยางก็ได้ให้คนมาซ่อมแซมแล้ว ยังใช้วัสดุเก็บเสียงชั้นดีอีกด้วย ถึงไม่ทำให้เสียงร้องที่ราวกับจะขาดใจตายของเขาไม่ดังเล็ดลอดออกไปข้างนอกหลินหยางนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์อย่างไม่รีบไม่ร้อน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเสียงร้องอันน่าเวทนานั่นหลังจากผ่านไปห้านาที ถึงได้ค่อย ๆ วางแก้วไวน์ลงเสียงร้องอันน่าเวทนาของเหยียนฮ่าวก็ค่อย ๆ หยุดลงเขาในเวลานี้นอนอยู่บนพื้น เหงื่อท่วมตัว สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ แม้แต่พรมยังถูกเขาฉีกจนเละเทะ!“รู้สึกดีแล้วใช่ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แก แกทำอะไรกับฉัน?
“แกคิดว่าแกมีลั่วหงอวี๋คอยปกป้อง ก็จะทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างนั้นหรือ? เพ้อเจ้อ! บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าจะเป็นลั่วหงอวี๋ก็ไม่สามารถต่อต้านได้!”จ้าวเจี้ยนชิงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีลั่วหงอวี๋ หลินหยางจะสามารถหนีมานานขนาดนี้ได้ยังไง!เขาทำได้แค่มองดูหลินหยางทำตัวอวดดีมานานขนาดนั้น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกบีบจนแทบจะเสียสติ!แต่ต่อหน้ากำลังของทางการ!ลั่วหงอวี๋ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!ในระหว่างที่พูด เขาหันไปพูดกับเหยียนฮ่าว “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าข้าราชการของกรมอัยการสูงสุดต่อหน้าทุกคน ยังทำร้ายชาวตงอิ๋งจนบาดเจ็บ ทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม!”แม้แต่ฮิเดนากะ ยามาโมโตะก็รีบกล่าวเช่นกัน “คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม แก่ชาวตงอิ๋งด้วย!”เหยียนฮ่าวเข้าใจในทันที หันหน้าไปมองหลินหยางแสยะยิ้มกล่าว “ไม่คิดเลยว่าแกจะก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ยังกล้าทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอีกด้วย!”“ใครก็ได้!”ปรมาจารย์หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขาก้าวออกมาพร้อมกัน บนตัวแฝงไปด้วยสีหน้าอันดุร้าย ทุกคนเป็นปรมาจารย์ระดับแปด!
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ
เจียงรั่วหานหัวใจตึงเครียดขึ้นมาทันที เป็นห่วงชายชู้ของตนเอง ครั้งนี้หลินหยางตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ!อย่างไรเสียใช้ยศตำแหน่งข่มเหงคนอื่น!ซ่งหว่านอวี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็ถอนหายใจในใจเช่นกัน ต่อให้ตำแหน่งของหลินหยางที่เมืองลั่วสูงกว่านี้แล้วจะยังไงต่อหน้าผู้มีอิทธิพลอย่างหวังเทียนเหิง ก็ทำได้แค่เพียงอดกลั้นเท่านั้น!“จะตรวจสอบงั้นก็ได้ แต่ก็ต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย”หลี่หรูเยว่สีหน้าไม่สุขุม แต่กลับไม่กล้าให้หลินหยางมีข้อหาขัดขวางทางการติดตัว“กฎหมาย?” หวังเทียนเหิงยิ้มเยาะ กล่าวด้วยท่าทีหยิ่งยโส “คำพูดของฉัน ก็คือกฎหมาย! มีปัญหา? เข้าไปในห้องกับฉันค่อย ๆ คุยกัน ถ้าทำให้ฉันพอใจได้ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะปล่อยแกไปสักครั้ง!”เขาทำตัวอวดดีกำเริบเสิบสาน! ถึงอย่างไรเหยียนฮ่าวก็ได้แทรกแซงคดีนี้ด้วยตนเองแล้ว ถ้าอยากจะจับหลินหยางให้อยู่หมัด! ต้องมีหลักฐานแน่ชัด ทำให้หลินหยางดิ้นไม่หลุดตลอดไป!ส่วนการหลับนอนกับปรมาจารย์ระดับแปดคนหนึ่ง นั่นก็เป็นเพียงเรื่องของผลพลอยได้เท่านั้น!เขาจ้องมองสำรวจรูปร่างที่สวยงามประณีตของหลี่หรูเยว่ด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว มีความร้อนกลุ่มหนึ่งพลุ่งพล่านขึ้นในท้องน้อยข
แต่กลัวว่าเขาจะฉวยโอกาสช่วงจังหวะชุลมุน ลงมือกับจ้าวเจิ้งฮ่าว!“นายพลจ้าววางใจ”สีหน้าเฉิงคั่วหนักใจ ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งในฐานะที่เขาเป็นปรมาจารย์ระดับห้า ประกอบกับมีนักรบทหารองครักษ์ชาวตงอิ๋งที่มีระดับมานะสร้างกลุ่มหนึ่งคอยช่วยเหลือ ก็มากพอที่จะจับตัวปรมาจารย์หนึ่งในนั้นได้“แม่งเอ๊ย ในเมื่อพวกแกทั้งหมดยอมเป็นสุนัขรับใช้ของหลินหยาง ถ้าอย่างนั้นก็ไปตายให้หมด! คิดว่าปรมาจารย์ระดับเก้าของฉันมีไว้ประดับเหรอไงวะ!?”จ้าวเจี้ยนชิงดวงตาแดงก่ำด้วยความริษยา ตนเป็นผู้บังคับบัญชาของเมืองลั่วมานานหลายปี ยังไม่มีลูกน้องที่แข็งแกร่งขนาดนี้ หลินหยางเพิ่งมาได้ไม่นาน ก็มีปรมาจารย์ระดับหกถึงสี่คนเป็นสุนัขรับใช้?!หลินหยางยิ่งใช้ชีวิตดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากจะสับหลินหยางให้แหลกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!แต่ทว่ายังไม่ทันได้ลงมือเขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัว แรงอาฆาตที่เย็นยะเยือกขั้นสุดกลุ่มหนึ่งลอยมา!“จ้าวเจี้ยนชิง แกอยากตายใช่ไหม?”ในเวลานี้ หลี่หรูเยว่ยืนอยู่ที่ประตูคฤหาสน์ ในมือของเธอใช้โซ่เหล็ก จูงม๋อจื่อที่เหมือนกับเป็นสัตว์ร้าย จ้องมองเขาด้วยความเย็นชาจ้าวเจี้ยนชิงรูม่านตาหดทันที กล่าวอย