หลินหยางมองเห็นสีหน้าที่ไม่พอใจและผิดหวังของมู่หรงยิ่น เข่คิดว่าตนเองจำเป็นต้องอธิบายสักหน่อย ไม่ใช่ว่าเธอเสน่ห์ของเธอไม่มากพอ อันที่จริงเขายุ่งมากจนไม่สามารถดูแลได้!ธุระมีทั้งไม่สำคัญ สำคัญและเร่งด่วน ฉินโม่หนงทางนั้นเห็นว่าเร่งด่วนกว่า ถ้าหากถูกหลิวเย่าหมิงไอ้ชาติหมานั่นทำอะไรขึ้นมา ไม่ใช่ว่าตนเองต้องถูกสวมเขาหรอกเหรอ?หลินหยางไม่มีทางยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด“คุณหนูมู่หรง ผม...”มู่หรงยิ่นกลับไม่ให้โอกาสหลินหยางอธิบาย ถอยหลังกลับไปหนึ่งก้าว ปิดประตูทันที ประตูเกือบจะกระแทกถูกหลินหยางหลินหยางลูบจมูก ‘จบแล้ว ตอนนี้ทำให้มู่หรงยิ่นไม่พอใจเรียบร้อยแล้ว เธอไม่มีทางคิดว่าฉันจงใจแสร้งทำเป็นเก่งหรอกมั้ง?’หลินหยางแสดงออกว่าตนต่อหน้าสาวสวย อยากจะแค่จะตอกเท่านั้น ไม่ได้อยากจะแสร้งทำเป็นเก่ง!เรื่องมาถึงขั้นนี้ หลินหยางเองก็จนปัญญามากเช่นกัน ทำได้แค่เพียงกลับไปแล้วค่อยคิดหาหนทางง้อมู่หรงยิ่น จากนั้นค่อยศึกษาเรื่องการสอนพิเศษกับฝีมือการทำอาหารภารกิจสำคัญตอนนี้ คือต้องไปจับตาดูสถานการณ์ของฉินโม่หนงทางด้านนั้นก่อนภายในห้อง หลังจากมู่หรงยิ่นปิดประตูก็รู้สึกโมโหมากจริง ๆ ห
“ประธานฉิน ไม่รีบร้อน ในเมื่อเมาแล้ว ก็นอนพักที่นี่เลยสิ ผมได้เปิดห้องให้คุณไว้เรียบร้อยแล้ว”หลิวเย่าหมิงยิ้มหื่นกาม“ไม่ต้องหรอกค่ะฉินโม่หนงกำลังจะลุกขึ้น จากนั้นก็รู้สึกเวียนหัว ร่างหายไร้เรี่ยวแรง กล่าวอย่างโมโห “แก...แกวางยาฉัน!”หลิวเย่าหมิงในเวลานี้ไม่เสแสร้งอีกต่อไป กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ประธานฉิน ผมชื่นชมคุณมานาน ได้ยินมาตลอดว่าคุณโสด คิดว่าจะต้องลำบากมากแน่ ๆใช่ไหมล่ะ คุณวางใจ ผมจะปฏิบัติกับคุณเป็นอย่างดี หลังจากที่ผมสบายตัวแล้ว ผมย่อมอนุมัติเงินกู้ของคุณแน่นอน”“ระยำ! แกมันไร้ยางอาย ถ้าหากแกกล้าแตะต้องฉันแม้แต่ปลายผม ฉันจะฆ่าแก”ฉินโม่หนงกล่าวอย่างไร้เรี่ยวแรงหลิวเย่าหมิงกล่าวพร้อมรอยยิ้มชั่วร้าย “เกรงว่าตอนนี้คุณคงจะฆ่าผมไม่ลง ผมจะอัดวิดีโอทั้งหมดเอาไว้ ถ้าหากคุณกล้าไม่เชื่อฟังผม ผมจะเอาวิดีโอที่อัดไว้กับรูปภาพมาเปิดโปง คุณก็ไม่อยากจะชื่อเสียงป่นปี้หรอกใช่ไหม?”“ชาติชั่ว!”ฉินโม่หนงกัดฟันด่า หน้ามืดแล้วก็สลบไปด้านนอกห้องส่วนตัว หลินหยางมองเห็นทุกอย่าง อดไม่ได้ที่จะพูดแขวะ ‘ฉินโม่หนงเอยฉินโม่หนง คุณฉลาดมาตลอด คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำผิดพลาดแบบนี้ ถูกกลอุบายต่ำช้าแบบนี้จ
ทันทีที่กระโจนขึ้นไปบนเตียง หลิวเย่าหมิงเตรียมถอดเสื้อผ้าของฉินโม่หนงก็ตกใจทันที รีบกระโดดลงจากเตียง“ใคร!”“ปู่ของแก!”หลินหยางค่อย ๆเดินเข้าไปในห้อง“ไม่ใช่ แกยังไม่มีสิทธิ์เป็นหลานชายของฉัน!” หลินหยางรู้สึกว่าไม่เหมาะสม รีบแก้ไขความผิดพลาดของตัวเอง“แก! ไอ้สารเลว แกบ้าไปแล้วเหรอไงวะ ถึงกล้าบุกเข้ามาในห้องของฉัน แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”หลิวเย่าหมิงโมโหมาก ฉันถอดกางเกงแล้ว กำลังจะได้แสดงพลังของตนเอง แต่กลับถูกไอ้เด็กบ้ารบกวนอารมณ์สนุก เขาแทบอยากจะควักปืนมาเป่าหัวหลินหยางเดี๋ยวนี้เลย“แกเป็นใคร ฉันไม่สนใจเลยสักนิด! แล้วแกรู้ไหมว่าเธอเป็นใคร?” หลินหยางชี้ไปยังฉินโม่หนงที่อยู่บนเตียงหลิวเย่าหมิงมีกะจิตกะใจที่จะสนทนากับหลินหยางที่ไหนกัน ชี้ไปยังประตูกล่าว “รีบไสหัวไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะจับแกโยนลงไปข้างล่างจากตรงนี้ ให้แกตกลงไปตายซะไอ้เด็กนรก!”หลินหยางดีดนิ้วกล่าว “เป็นความคิดที่ดี!”หลิวเย่าหมิงรู้สึกว่าตนได้พบเข้ากับไอ้โรคจิตเข้าให้แล้ว เขาเตรียมที่จะควักโทรศัพท์ออกมาโทรหาคนขับรถของบริษัท ให้คนขับรถขึ้นมาจัดการกับไอ้หมอนี่หลินหยางแย่งโทรศัพท์มือถือมาจา
“ฉันขอร้องแก อย่าฆ่าฉันเลย ฉันยังไม่ได้ทันทำอะไรเธอเลยนะ! แกปล่อยฉัน ฉันเอาเงินมากมายให้แกได้นะ ฉันยังอนุมัติเงินกู้ให้ฉินโม่หนงได้อีกด้วย ถ้าฉันตายไปแล้ว เงินกู้ของเธอก็ไม่ได้รับการอนุมัติ”หลิวเย่าหมิงตกใจจนฉี่ราด เนื่องจากหลินหยางนำครึ่งตัวของเขายื่นออกไปด้านนอกหน้าต่างแล้วรู้สึกได้ถึงลมเย็นที่กำลังพัดหวีดหวิวที่นอกหน้าต่าง พัดเส้นผมที่มีไม่มากนักบนหัวของเขาจนยุ่งเหยิง หลิวเย่าหมิงตกใจขวัญกระเจิง จนกางเกงเปียกเป็นวงกว้างเมื่อมองเห็นหลิวเย่าหมิงฉี่ราดกางเกงไม่หยุด หลินหยางก็กล่าวอย่างสะอิดสะเอียน “เป็นถึงผู้จัดการผู้สง่าผ่าเผย ทำไมถึงได้ขี้ขลาดแบบนี้? แค่เรื่องเล็ก ๆก็ทำให้แกตกใจจนฉี่ราดได้? คนแบบนี้ ไม่เหมาะกับเป็นผู้จัดการเลย ยังไงก็ตายไปเถอะ”หลิวเย่าหมิงถูกคำพูดประโยคนี้ของหลินหยางทำให้โมโหจนหมดสติไป แอบด่าในใจ แกยืนพูดไม่ปวดเอวหรือไงวะ หรือว่าเรื่องความเป็นความตาย เป็นเรื่องเล็กเหรอไงวะ?คนที่จะตายไม่ใช่แก แกมันฆาตกร ยังพูดจาเหน็บแนมแบบนี้ได้อีก มันเหมาะสมไหม?หลินหยางไม่มีทางใจอ่อนเด็ดขาด แล้วก็ไม่อยากฟังคำอ้อนวอนของหลิวเย่าหมิงอีก เตรียมที่จะโยนเขาออกไป“เดี๋ยวก่อน!”
เมื่อหลินหยางเห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจของฉินโม่หนง ก็มั่นใจว่าเธอไม่ได้แสร้งอวดดี ที่พูดมาเป็นความจริงหัวสมองของเขาเกิดความคิด แล้วก็เข้าใจในทันที“คุณคิดจะล่อเหยื่อ? จงใจให้โอกาสเขา จากนั้นค่อยข่มขู่เขาใช่ไหม?”“ถ้าไม่อย่างนั้นละ? กินข้าวกับเขามื้อเดียวฉันยังรู้สึกสะอิดสะเอียน ฉันจะให้เขาได้สมปรารถนาได้ยังไง” ในระหว่างที่ฉินโม่หนงพูด ก็ควักเครื่องบันทึกเสียงอันหนึ่งออกมาจากตัวเมื่อครู่นี้เดิมทีเธอกำลังจะลืมตาเพื่อตอบโต้ แต่คิดไม่ถึงว่าหลินหยางจะบุกเข้ามากะทันหัน ทำให้เธอตกใจ“มีเสียงบันทึกนี้ ฉันก็สามารถใช้การที่เขาพยายามจะข่มขืนฉันมาตอบโต้และข่มขู่ให้เขาเซ็นอนุมัติเงินกู้ให้ฉันได้ ตอนนี้เป็นไงละ เขาตายแล้ว เครื่องบันทึกเสียงนี้ไม่มีความหมายบ้าอะไรแล้ว แกว่า แกทำลายเรื่องดี ๆของฉันไหมล่ะ?”ถึงแม้ว่าฉินโม่หนงจะกำลังตำหนิหลินหยาง แต่อันที่จริงในใจก็ยังรู้สึกอบอุ่นอยู่เล็ก ๆอย่างไรเสียเธอก็เคยผ่านฝันร้ายที่ถูกคนขืนใจมาแล้ว เป็นคนที่ไม่มีความรู้สึกปลอดภัยเอามาก ๆแต่หลินหยางปรากฏตัวช่วยเธอเอาไว้ได้ทันเวลาถึงสองครั้ง ทำให้เธอค่อนข้างรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น“ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นห้อ
“การฆ่าคนที่สมควรตาย จะมีเรื่องยุ่งยากอะไร? เรื่องเล็กน้อย ฉันจัดการได้” หลินหยางพูดอย่างสบาย ๆ“เขาไม่ได้ล่วงเกินแก ทำไมถึงสมควรตาย? แกอย่าพูดจาอวดดีขนาดนี้ได้ไหม?”ฉินโม่หนงคิดว่าหลินหยางพูดจาโอ้อวดเกินไป โอ้อวดเกินไปหน่อย อาศัยที่ตัวเองมีฝีมือที่ไม่ธรรมดา ก็เลยอวดดีขนาดนี้ จะช้าหรือเร็วก็จะเกิดเรื่องจนได้ “เขากล้าสนใจในตัวแก แน่นอนว่าสมควรตาย อย่าว่าแต่ผู้จัดการธนาคารเมืองตัวเล็ก ๆคนหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นผู้ว่าเมือง กล้ามีความสนใจในตัวแก ก็ควรตาย!”หลินหยางพูดด้วยสีหน้าเผด็จการเวลาแบบนี้ เขาย่อมรู้ว่าตนเองควรพูดจาแบบไหนผู้หญิงถึงชอบฟัง ผู้หญิงคนไหนบ้างที่ไม่ชอบให้ผู้ชายของตนเองเผด็จการและแข็งแกร่งตอนปกป้องตนเองบ้างละ?ฉินโม่หนงเป็นผู้หญิงแกร่ง เธอยิ่งต้องการให้ผู้ชายคนของตนเองเผด็จการมากกว่า แข็งแกร่งกว่าเธอ ไม่อย่างนั้นจะคู่ควรกับเธอได้ยังไง?จำต้องพูดว่า หลินหยางมาถูกทางอย่างรวดเร็ว ได้เรียนรู้การควบคุมจิตใจของผู้หญิงถึงแม้ว่าฉินโม่หนงปากพูดว่าไม่ แต่เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ ภายในใจก็ยิ่งมีความรู้สึกดีมากกว่า มีความรู้สึกปลอดภัยมาก“ผู้ว่าเมืองลั่วของพวกเรา เป็นผู้หญิง!
“ฉันกำลังพูดเรื่องจริงจังกับแกอยู่นะ ช่วยจริงจังหน่อยได้ไหม!”ฉินโม่หนงรู้สึกว่าตนที่อยู่ต่อหน้าหลินหยางนี้ ช่างไร้ค่าเสียเหลือเกิน “ที่ฉันพูดอยู่ก็เป็นเรื่องจริงจังเหมือนกันนะ แม่ทูนหัว”"แกห้ามเรียกฉันว่าแม่ทูนหัวอีก!” ฉินโม่หนงชักจะทนไม่ไหวแล้ว จึงเปล่งเสียงสั่งห้ามออกไป“ทำไมล่ะครับ แม่ทูนหัว! ก็แกเป็นแม่ทูนหัวฉันนี่ ทั้งเมื่อก่อน ตอนนี้ แล้วในอนาคตก็ต้องเป็นสิ” รู้หลินรู้อยู่แล้วว่าทำไมฉินโม่หนงถึงหน้าแดง เดิมทีเพราะว่าชื่อเรียกนี้ทำให้เธอรู้สึกอับอาย แต่ตอนนี้มันเจ๋งสุด ๆ ไปเลยล่ะ! ทั้งสองมือของฉินโม่หนงยกขึ้นมาปิดใบหูเอาไว้ “แม่ทูนหัวครับ ฉันมีคำที่ไม่รู้จะพูดจะจาออกมายังไง”หลินหยางเดินไปกล่าวต่อหน้าฉินโม่หนง “มีอะไรก็รีบพูดมา! พูดจบแล้วก็รีบออกไปซะ อีกเดี๋ยวคนจากหน่วยตรวจการก็มาแล้ว มารับเรื่องไป ให้ฉันเข้ามาจัดการ ซึ่งเรื่องพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับแกเลย” ฉินโม่หนงกล่าวออกมาอย่างน่าเกรงขาม “แม่ทูนหัว แกดีกับฉันจัง ฉันฆ่าคน แกก็ยังช่วยเช็ดก้นให้ฉัน ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ได้ต้องการเลยก็ตาม แค่โทรกริ๊งเดียวก็จัดการได้แล้ว” หลินหยางลงมือสังหารหลิวเย่าหมิง ตาม
“ท้ายที่สุดประธานธนาคารคนหนึ่งก็ตาย เรื่องนี้ฉันไม่มั่นใจเลยว่าคลี่คลายลงอย่างง่ายดาย ดังนั้นต้องวางแผนสำหรับเรื่องที่เลวร้ายที่สุดก่อน ออกไปอยู่ที่อื่นก่อนแล้วกัน” ฉินโม่หนงบอกที่อยู่ที่หนึ่งให้หลินหยาง หลินหยางจึงขับรถมุ่งหน้าไปทันทีที่เมืองลั่วฉินโม่หนงไม่ได้มีอสังหาริมทรัพย์เพียงแค่แห่งเดียวเท่านั้น หลังจากที่เข้ามาในห้อง ฉินโม่หนงเอ่ยขึ้นว่า “สองวันนี้แกก็พักที่นี่ไปก่อนแล้วกัน” “แล้วลูกสาวแกล่ะ? แกจะไม่สนใจเฮเหรอ?” หลินหยางเอ่ยถาม “เธออยู่ที่โรงเรียน อย่าเพิ่งมีคำถามเลย ฉันจะไปโทรศัพท์ ต้องใช้ความสัมพันธ์บางอย่าง คอยดูว่าเรื่องจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนได้ไหม”หลินหยางรั้งฉินโม่หนงเอาไว้ แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ ความจริงแล้ว แกไม่ต้องเครียดขนาดนี้ก็ได้ เรื่องนี้ฉันจัดการได้” “ในเวลาแบบนี้ แกอย่าเพิ่งอวดเก่งไปหน่อยเลย” ฉินโม่หนงคิดว่าหลินหยางกำลังเสแสร้งอยู่ สุดท้ายแล้วหลินหยางก็ถูกปิดกั้นนานถึงสองปี งั้นจะไปมีอำนาจเส้นสายอะไรเรื่องนี้ ใช้เพียงอำนาจอันป่าเถื่อนแก้ไขไม่ได้ ฉินโม่หนงเดินเข้าไปโทรศัพท์ในห้อง หลินหยางทำได้เพียงแค่ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ “ทำไมไม่เชื่อที่ฉันพูด
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา
จ้าวเจี้ยนชิงตกตะลึงไปแล้ว “ราง รางวัลพลเมืองดีเด่น?”เฉิงคั่วร้อนใจ “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าคนตายคาที่ ทุกคนเห็นกันหมด! คุณทำ...”เสียงเพี้ยะดังขึ้นทีหนึ่ง!เหยียนฮ่าวสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่บนใบหน้าของเขา เขากล่าวเสียงขรึม “เมื่อครู่นี้แกเห็นอะไร?”“ผม...”เฉิงคั่วสีหน้าซีดขาว ภายใต้สีหน้าที่เย็นยะเยือกของเหยียนฮ่าว กลับไม่กล้าพูดอะไรอีกเขาเป็นปรมาจารย์บ้านนอกคนหนึ่ง จะล่วงเกินเหยียนฮ่าวไม่ได้อย่างเด็ดขาด!“พวกแกเห็นอะไร?”เหยียนฮ่าวกวาดสายตามองคนอื่นด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกล่าวขึ้นอีกครั้งทั้งหมดนิ่งเงียบ“คดีของวันนี้ง่ายมาก!” เหยียนฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “หวังเทียนเหิงรัฐมนตรีกรมอัยการสูงสุด กลั่นแกล้งประชาชน บังคับใช้กฎหมายที่รุนแรง!”“คุณหลินป้องกันตัวตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการอพยพฉุกเฉิน!”“ผมพูดจบแล้ว มีใครเห็นด้วย มีใครคัดค้านไหม?”การอพยพฉุกเฉินสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีเหตุผล!ทุกคนตะลึงงันแต่ว่าภายใต้สายตาของเหยียนฮ่าว สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพียงเพราะบิดาของเหยียนฮ่าวยังเป็นอธิบดีกรมอัยการสูงสุด คำพูดของเขาก็คือกฎหม
เหยียนฮ่าวรู้สึกหมดความอดทนอยู่บ้าง “อยากจะเจรจาก็รีบพูดมา ไม่พูดฉันจะไปแล้ว!”หลินหยางกลับจิบไวน์อึกหนึ่ง ถึงได้หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเหยียน เหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปนะ”“คุณ มีสิทธิ์อะไรมาเจรจากับผม?”“ว่าอะไรนะ?”เหยียนฮ่าวงุนงงไปทันที หลินหยางเพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่ง!ทันใดนั้น เหยียนฮ่าวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์! ร่างกายคดงอราวกับกุ้งต้มสุก!ยังดีที่ครั้งก่อนต่อสู้ครั้งใหญ่กับหวังเหลียนเฉิง หลังจากทำลายคฤหาสน์จนพัง หลินหยางก็ได้ให้คนมาซ่อมแซมแล้ว ยังใช้วัสดุเก็บเสียงชั้นดีอีกด้วย ถึงไม่ทำให้เสียงร้องที่ราวกับจะขาดใจตายของเขาไม่ดังเล็ดลอดออกไปข้างนอกหลินหยางนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์อย่างไม่รีบไม่ร้อน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเสียงร้องอันน่าเวทนานั่นหลังจากผ่านไปห้านาที ถึงได้ค่อย ๆ วางแก้วไวน์ลงเสียงร้องอันน่าเวทนาของเหยียนฮ่าวก็ค่อย ๆ หยุดลงเขาในเวลานี้นอนอยู่บนพื้น เหงื่อท่วมตัว สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ แม้แต่พรมยังถูกเขาฉีกจนเละเทะ!“รู้สึกดีแล้วใช่ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แก แกทำอะไรกับฉัน?
“แกคิดว่าแกมีลั่วหงอวี๋คอยปกป้อง ก็จะทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างนั้นหรือ? เพ้อเจ้อ! บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าจะเป็นลั่วหงอวี๋ก็ไม่สามารถต่อต้านได้!”จ้าวเจี้ยนชิงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีลั่วหงอวี๋ หลินหยางจะสามารถหนีมานานขนาดนี้ได้ยังไง!เขาทำได้แค่มองดูหลินหยางทำตัวอวดดีมานานขนาดนั้น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกบีบจนแทบจะเสียสติ!แต่ต่อหน้ากำลังของทางการ!ลั่วหงอวี๋ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!ในระหว่างที่พูด เขาหันไปพูดกับเหยียนฮ่าว “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าข้าราชการของกรมอัยการสูงสุดต่อหน้าทุกคน ยังทำร้ายชาวตงอิ๋งจนบาดเจ็บ ทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม!”แม้แต่ฮิเดนากะ ยามาโมโตะก็รีบกล่าวเช่นกัน “คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม แก่ชาวตงอิ๋งด้วย!”เหยียนฮ่าวเข้าใจในทันที หันหน้าไปมองหลินหยางแสยะยิ้มกล่าว “ไม่คิดเลยว่าแกจะก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ยังกล้าทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอีกด้วย!”“ใครก็ได้!”ปรมาจารย์หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขาก้าวออกมาพร้อมกัน บนตัวแฝงไปด้วยสีหน้าอันดุร้าย ทุกคนเป็นปรมาจารย์ระดับแปด!
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ
เจียงรั่วหานหัวใจตึงเครียดขึ้นมาทันที เป็นห่วงชายชู้ของตนเอง ครั้งนี้หลินหยางตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ!อย่างไรเสียใช้ยศตำแหน่งข่มเหงคนอื่น!ซ่งหว่านอวี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็ถอนหายใจในใจเช่นกัน ต่อให้ตำแหน่งของหลินหยางที่เมืองลั่วสูงกว่านี้แล้วจะยังไงต่อหน้าผู้มีอิทธิพลอย่างหวังเทียนเหิง ก็ทำได้แค่เพียงอดกลั้นเท่านั้น!“จะตรวจสอบงั้นก็ได้ แต่ก็ต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย”หลี่หรูเยว่สีหน้าไม่สุขุม แต่กลับไม่กล้าให้หลินหยางมีข้อหาขัดขวางทางการติดตัว“กฎหมาย?” หวังเทียนเหิงยิ้มเยาะ กล่าวด้วยท่าทีหยิ่งยโส “คำพูดของฉัน ก็คือกฎหมาย! มีปัญหา? เข้าไปในห้องกับฉันค่อย ๆ คุยกัน ถ้าทำให้ฉันพอใจได้ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะปล่อยแกไปสักครั้ง!”เขาทำตัวอวดดีกำเริบเสิบสาน! ถึงอย่างไรเหยียนฮ่าวก็ได้แทรกแซงคดีนี้ด้วยตนเองแล้ว ถ้าอยากจะจับหลินหยางให้อยู่หมัด! ต้องมีหลักฐานแน่ชัด ทำให้หลินหยางดิ้นไม่หลุดตลอดไป!ส่วนการหลับนอนกับปรมาจารย์ระดับแปดคนหนึ่ง นั่นก็เป็นเพียงเรื่องของผลพลอยได้เท่านั้น!เขาจ้องมองสำรวจรูปร่างที่สวยงามประณีตของหลี่หรูเยว่ด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว มีความร้อนกลุ่มหนึ่งพลุ่งพล่านขึ้นในท้องน้อยข
แต่กลัวว่าเขาจะฉวยโอกาสช่วงจังหวะชุลมุน ลงมือกับจ้าวเจิ้งฮ่าว!“นายพลจ้าววางใจ”สีหน้าเฉิงคั่วหนักใจ ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งในฐานะที่เขาเป็นปรมาจารย์ระดับห้า ประกอบกับมีนักรบทหารองครักษ์ชาวตงอิ๋งที่มีระดับมานะสร้างกลุ่มหนึ่งคอยช่วยเหลือ ก็มากพอที่จะจับตัวปรมาจารย์หนึ่งในนั้นได้“แม่งเอ๊ย ในเมื่อพวกแกทั้งหมดยอมเป็นสุนัขรับใช้ของหลินหยาง ถ้าอย่างนั้นก็ไปตายให้หมด! คิดว่าปรมาจารย์ระดับเก้าของฉันมีไว้ประดับเหรอไงวะ!?”จ้าวเจี้ยนชิงดวงตาแดงก่ำด้วยความริษยา ตนเป็นผู้บังคับบัญชาของเมืองลั่วมานานหลายปี ยังไม่มีลูกน้องที่แข็งแกร่งขนาดนี้ หลินหยางเพิ่งมาได้ไม่นาน ก็มีปรมาจารย์ระดับหกถึงสี่คนเป็นสุนัขรับใช้?!หลินหยางยิ่งใช้ชีวิตดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากจะสับหลินหยางให้แหลกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!แต่ทว่ายังไม่ทันได้ลงมือเขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัว แรงอาฆาตที่เย็นยะเยือกขั้นสุดกลุ่มหนึ่งลอยมา!“จ้าวเจี้ยนชิง แกอยากตายใช่ไหม?”ในเวลานี้ หลี่หรูเยว่ยืนอยู่ที่ประตูคฤหาสน์ ในมือของเธอใช้โซ่เหล็ก จูงม๋อจื่อที่เหมือนกับเป็นสัตว์ร้าย จ้องมองเขาด้วยความเย็นชาจ้าวเจี้ยนชิงรูม่านตาหดทันที กล่าวอย
ก็แค่ปรมาจารย์ระดับหกคนหนึ่งเท่านั้น เขาไม่สนใจอยู่แล้วแต่ปรมาจารย์ระดับหกคนหนึ่งไม่คิดเลยว่าจะมาเป็นยามให้หลินหยาง เขาไม่สามารถเข้าใจได้!แม้ว่าเขาจะเป็นปรมาจารย์ระดับเก้าก็ยังไม่เคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้!จ้าวเจิ้งฮ่าวและคนอื่น ๆ ต่างก็อ้าปากค้างอย่างตกตะลึงสถานการณ์ตรงราวกับเป็นภาพลวงตาเลยทีเดียว!ไอ้หมอนี่หัวสมองมีปัญหาเหรอไง? ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้เป็นปรมาจารย์ระดับหก แต่กลับมาเป็นยามให้คนที่มีระดับเจ็ดอย่างหลินหยาง?!“นับว่าแกพอมีความสามารถอยู่บ้าง แต่การรับใช้คนที่กำลังจะตาย เป็นการทำให้ตัวเองเสื่อมถอยแท้ ๆ เลย!”จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “หลินหยางทำลายการค้าระหว่างกองทัพกับชาวตงอิ๋ง ฉันมาเพื่อค้นหาหลักฐาน”“ตอนนี้ฉันให้โอกาสแกกลับตัวกลับใจหนึ่งครั้ง สวามิภักดิ์ต่อฉัน! ไม่อย่างนั้น จะถือว่าแกขัดขวางการสอบสวน! ฝ่าฝืนกฎหมายระดับประเทศ! ฉันจะประหารชีวิตแกทันที”เขามีความคิดที่จะชักจูงคนคนนี้ถึงอย่างไรปรมาจารย์ระดับหกในเมืองลั่วก็นับว่าเป็นยอดฝีมือ ฆ่าไปก็น่าเสียดายแต่ทว่าอาต้ากลับกล่าวเสียงเย็นชา “รับเลี้ยงฉัน? แกคู่ควรเหรอ! ไสหัวไป!”“แกคิดให้ดี ๆ กล้าขัดขวาง
เจียงรั่วหานกล่าวโต้เถียงด้วยสีหน้าแดงก่ำแต่นี่ก็คือเรื่องจริงถึงอย่างไรตนก็ไม่ได้ขึ้นเตียงกับหลินหยาง แต่ทว่าทำในรถ...“ไม่ต้องรีบ นั่งลงคุยกัน...” ซ่งหว่านอวี๋ท่าทางสบาย ๆ พูดจาปลอบโยนอย่างมีเลศนัย “เป็นเพราะพี่กลัวเธอถูกหลินหยางหลอกเอา หลินหยางนั่นบังคับให้พี่ทำเรื่องแบบนั้น เขาไม่ใช่คนดีอะไร!”“พี่หว่านอวี๋พี่ไม่เข้าใจเขา!”เจียงรั่วหานกลับวางแก้วกาแฟลง รีบพูดขึ้นว่า “อันที่จริงหลินหยางเป็นคนดีคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่เขาทำแบบนั้นกับพี่ อัน อันที่จริงเป็นเพราะจ้าวเจิ้งฮ่าวเป็นต้นเหตุ!”“ฉันบอกเขาแล้ว ว่าต่อไปห้ามแตะต้องพี่อีก!”ไม่แตะต้องฉัน?ฉันต้องการให้เธอช่วยเหลือเรื่องนี้เหรอ?เธอกินอิ่มแล้วไม่กะจะไม่เหลือไว้ให้ฉันกินสักคำเลยเหรอไง!ซ่งหว่านอวี๋สีหน้าดูแย่เล็กน้อย เธอกินอาหารทะเลมื้อหรูจนเคยชินแล้ว จะกินอาหารจืดชืดลงได้ยังไงอีก?“พี่หว่านอวี๋ ต่อไปฉันคงต้องอาศัยพี่คอยเป็นที่กำบังให้ฉันแล้ว ครอบครัวนี้ ฉันทนอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแม้แต่วันเดียวแล้ว!”เจียงรั่วหานยังหันหน้าไปมองซ่งหว่านอวี๋ด้วยท่าทางขอร้อง“เรื่องเล็กน้อย...”ซ่งหว่านอวี๋กล่าวพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ไม่ว่าจะพู