“ฉันขอร้องแก อย่าฆ่าฉันเลย ฉันยังไม่ได้ทันทำอะไรเธอเลยนะ! แกปล่อยฉัน ฉันเอาเงินมากมายให้แกได้นะ ฉันยังอนุมัติเงินกู้ให้ฉินโม่หนงได้อีกด้วย ถ้าฉันตายไปแล้ว เงินกู้ของเธอก็ไม่ได้รับการอนุมัติ”หลิวเย่าหมิงตกใจจนฉี่ราด เนื่องจากหลินหยางนำครึ่งตัวของเขายื่นออกไปด้านนอกหน้าต่างแล้วรู้สึกได้ถึงลมเย็นที่กำลังพัดหวีดหวิวที่นอกหน้าต่าง พัดเส้นผมที่มีไม่มากนักบนหัวของเขาจนยุ่งเหยิง หลิวเย่าหมิงตกใจขวัญกระเจิง จนกางเกงเปียกเป็นวงกว้างเมื่อมองเห็นหลิวเย่าหมิงฉี่ราดกางเกงไม่หยุด หลินหยางก็กล่าวอย่างสะอิดสะเอียน “เป็นถึงผู้จัดการผู้สง่าผ่าเผย ทำไมถึงได้ขี้ขลาดแบบนี้? แค่เรื่องเล็ก ๆก็ทำให้แกตกใจจนฉี่ราดได้? คนแบบนี้ ไม่เหมาะกับเป็นผู้จัดการเลย ยังไงก็ตายไปเถอะ”หลิวเย่าหมิงถูกคำพูดประโยคนี้ของหลินหยางทำให้โมโหจนหมดสติไป แอบด่าในใจ แกยืนพูดไม่ปวดเอวหรือไงวะ หรือว่าเรื่องความเป็นความตาย เป็นเรื่องเล็กเหรอไงวะ?คนที่จะตายไม่ใช่แก แกมันฆาตกร ยังพูดจาเหน็บแนมแบบนี้ได้อีก มันเหมาะสมไหม?หลินหยางไม่มีทางใจอ่อนเด็ดขาด แล้วก็ไม่อยากฟังคำอ้อนวอนของหลิวเย่าหมิงอีก เตรียมที่จะโยนเขาออกไป“เดี๋ยวก่อน!”
เมื่อหลินหยางเห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจของฉินโม่หนง ก็มั่นใจว่าเธอไม่ได้แสร้งอวดดี ที่พูดมาเป็นความจริงหัวสมองของเขาเกิดความคิด แล้วก็เข้าใจในทันที“คุณคิดจะล่อเหยื่อ? จงใจให้โอกาสเขา จากนั้นค่อยข่มขู่เขาใช่ไหม?”“ถ้าไม่อย่างนั้นละ? กินข้าวกับเขามื้อเดียวฉันยังรู้สึกสะอิดสะเอียน ฉันจะให้เขาได้สมปรารถนาได้ยังไง” ในระหว่างที่ฉินโม่หนงพูด ก็ควักเครื่องบันทึกเสียงอันหนึ่งออกมาจากตัวเมื่อครู่นี้เดิมทีเธอกำลังจะลืมตาเพื่อตอบโต้ แต่คิดไม่ถึงว่าหลินหยางจะบุกเข้ามากะทันหัน ทำให้เธอตกใจ“มีเสียงบันทึกนี้ ฉันก็สามารถใช้การที่เขาพยายามจะข่มขืนฉันมาตอบโต้และข่มขู่ให้เขาเซ็นอนุมัติเงินกู้ให้ฉันได้ ตอนนี้เป็นไงละ เขาตายแล้ว เครื่องบันทึกเสียงนี้ไม่มีความหมายบ้าอะไรแล้ว แกว่า แกทำลายเรื่องดี ๆของฉันไหมล่ะ?”ถึงแม้ว่าฉินโม่หนงจะกำลังตำหนิหลินหยาง แต่อันที่จริงในใจก็ยังรู้สึกอบอุ่นอยู่เล็ก ๆอย่างไรเสียเธอก็เคยผ่านฝันร้ายที่ถูกคนขืนใจมาแล้ว เป็นคนที่ไม่มีความรู้สึกปลอดภัยเอามาก ๆแต่หลินหยางปรากฏตัวช่วยเธอเอาไว้ได้ทันเวลาถึงสองครั้ง ทำให้เธอค่อนข้างรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น“ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นห้อ
“การฆ่าคนที่สมควรตาย จะมีเรื่องยุ่งยากอะไร? เรื่องเล็กน้อย ฉันจัดการได้” หลินหยางพูดอย่างสบาย ๆ“เขาไม่ได้ล่วงเกินแก ทำไมถึงสมควรตาย? แกอย่าพูดจาอวดดีขนาดนี้ได้ไหม?”ฉินโม่หนงคิดว่าหลินหยางพูดจาโอ้อวดเกินไป โอ้อวดเกินไปหน่อย อาศัยที่ตัวเองมีฝีมือที่ไม่ธรรมดา ก็เลยอวดดีขนาดนี้ จะช้าหรือเร็วก็จะเกิดเรื่องจนได้ “เขากล้าสนใจในตัวแก แน่นอนว่าสมควรตาย อย่าว่าแต่ผู้จัดการธนาคารเมืองตัวเล็ก ๆคนหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นผู้ว่าเมือง กล้ามีความสนใจในตัวแก ก็ควรตาย!”หลินหยางพูดด้วยสีหน้าเผด็จการเวลาแบบนี้ เขาย่อมรู้ว่าตนเองควรพูดจาแบบไหนผู้หญิงถึงชอบฟัง ผู้หญิงคนไหนบ้างที่ไม่ชอบให้ผู้ชายของตนเองเผด็จการและแข็งแกร่งตอนปกป้องตนเองบ้างละ?ฉินโม่หนงเป็นผู้หญิงแกร่ง เธอยิ่งต้องการให้ผู้ชายคนของตนเองเผด็จการมากกว่า แข็งแกร่งกว่าเธอ ไม่อย่างนั้นจะคู่ควรกับเธอได้ยังไง?จำต้องพูดว่า หลินหยางมาถูกทางอย่างรวดเร็ว ได้เรียนรู้การควบคุมจิตใจของผู้หญิงถึงแม้ว่าฉินโม่หนงปากพูดว่าไม่ แต่เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ ภายในใจก็ยิ่งมีความรู้สึกดีมากกว่า มีความรู้สึกปลอดภัยมาก“ผู้ว่าเมืองลั่วของพวกเรา เป็นผู้หญิง!
“ฉันกำลังพูดเรื่องจริงจังกับแกอยู่นะ ช่วยจริงจังหน่อยได้ไหม!”ฉินโม่หนงรู้สึกว่าตนที่อยู่ต่อหน้าหลินหยางนี้ ช่างไร้ค่าเสียเหลือเกิน “ที่ฉันพูดอยู่ก็เป็นเรื่องจริงจังเหมือนกันนะ แม่ทูนหัว”"แกห้ามเรียกฉันว่าแม่ทูนหัวอีก!” ฉินโม่หนงชักจะทนไม่ไหวแล้ว จึงเปล่งเสียงสั่งห้ามออกไป“ทำไมล่ะครับ แม่ทูนหัว! ก็แกเป็นแม่ทูนหัวฉันนี่ ทั้งเมื่อก่อน ตอนนี้ แล้วในอนาคตก็ต้องเป็นสิ” รู้หลินรู้อยู่แล้วว่าทำไมฉินโม่หนงถึงหน้าแดง เดิมทีเพราะว่าชื่อเรียกนี้ทำให้เธอรู้สึกอับอาย แต่ตอนนี้มันเจ๋งสุด ๆ ไปเลยล่ะ! ทั้งสองมือของฉินโม่หนงยกขึ้นมาปิดใบหูเอาไว้ “แม่ทูนหัวครับ ฉันมีคำที่ไม่รู้จะพูดจะจาออกมายังไง”หลินหยางเดินไปกล่าวต่อหน้าฉินโม่หนง “มีอะไรก็รีบพูดมา! พูดจบแล้วก็รีบออกไปซะ อีกเดี๋ยวคนจากหน่วยตรวจการก็มาแล้ว มารับเรื่องไป ให้ฉันเข้ามาจัดการ ซึ่งเรื่องพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับแกเลย” ฉินโม่หนงกล่าวออกมาอย่างน่าเกรงขาม “แม่ทูนหัว แกดีกับฉันจัง ฉันฆ่าคน แกก็ยังช่วยเช็ดก้นให้ฉัน ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ได้ต้องการเลยก็ตาม แค่โทรกริ๊งเดียวก็จัดการได้แล้ว” หลินหยางลงมือสังหารหลิวเย่าหมิง ตาม
“ท้ายที่สุดประธานธนาคารคนหนึ่งก็ตาย เรื่องนี้ฉันไม่มั่นใจเลยว่าคลี่คลายลงอย่างง่ายดาย ดังนั้นต้องวางแผนสำหรับเรื่องที่เลวร้ายที่สุดก่อน ออกไปอยู่ที่อื่นก่อนแล้วกัน” ฉินโม่หนงบอกที่อยู่ที่หนึ่งให้หลินหยาง หลินหยางจึงขับรถมุ่งหน้าไปทันทีที่เมืองลั่วฉินโม่หนงไม่ได้มีอสังหาริมทรัพย์เพียงแค่แห่งเดียวเท่านั้น หลังจากที่เข้ามาในห้อง ฉินโม่หนงเอ่ยขึ้นว่า “สองวันนี้แกก็พักที่นี่ไปก่อนแล้วกัน” “แล้วลูกสาวแกล่ะ? แกจะไม่สนใจเฮเหรอ?” หลินหยางเอ่ยถาม “เธออยู่ที่โรงเรียน อย่าเพิ่งมีคำถามเลย ฉันจะไปโทรศัพท์ ต้องใช้ความสัมพันธ์บางอย่าง คอยดูว่าเรื่องจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนได้ไหม”หลินหยางรั้งฉินโม่หนงเอาไว้ แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ ความจริงแล้ว แกไม่ต้องเครียดขนาดนี้ก็ได้ เรื่องนี้ฉันจัดการได้” “ในเวลาแบบนี้ แกอย่าเพิ่งอวดเก่งไปหน่อยเลย” ฉินโม่หนงคิดว่าหลินหยางกำลังเสแสร้งอยู่ สุดท้ายแล้วหลินหยางก็ถูกปิดกั้นนานถึงสองปี งั้นจะไปมีอำนาจเส้นสายอะไรเรื่องนี้ ใช้เพียงอำนาจอันป่าเถื่อนแก้ไขไม่ได้ ฉินโม่หนงเดินเข้าไปโทรศัพท์ในห้อง หลินหยางทำได้เพียงแค่ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ “ทำไมไม่เชื่อที่ฉันพูด
ดั่งคำกล่าวที่ว่าไม่เจอกันหนึ่งวัน เหมือนผ่านไปแล้วสามฤดูใบไม้ร่วง สองสามวันนี้ฉินโม่หนงไม่ได้สนิทแนบชิดกันกับหลินหยางเลย จึงมีความคะนึงหากันตามธรรมชาติ และแสดงท่าทางออกมาอย่างกระตือรือร้น ด้วยปฏิภาณอันยิ่งใหญ่คือกำราบหลินหยางไว้ในคราเดียว แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อหลินหยางมีร่างกายเป็นปรมาจารย์ระดับเบิกฟ้า ถึงแม้ว่าฉินโม่หนงจะเหมือนหมาป่าและแม่เสือ แต่ก็ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้กันกับหลินหยางได้ การต่อสู้เข้าสู่รอบที่สาม ฉินโม่หนงแพ้ลง และยอมรับความพ่ายแพ้อย่างจริงใจ เดิมทีที่อยากจะรีบคิดวิธีจัดการกับเรื่องการฆ่าหลิวเย่าหมิง แต่เมื่อคืนนี้บ้าบิ่นเกินไป มีความอ่อนล้าโรยแรงอยู่บ้าง ทำให้ฉินโม่หนงลอยหลับไปและตื่นขึ้นมาอีกทีจนตะวันโด่งเมือลืมตาตื่นขึ้นมา ก็เห็นหลินหยางนอนอยู่ข้างกาย ฉินโม่หนงพอใจไปทั้งใจ ก่อนหน้านี้ หลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาแล้ว บนเตียงนอกนอกจากกลิ่นกายที่หลินหยางหลงเหลือไว้แล้ว เรือนร่างของเขากลับไม่เห็น ฉินโม่หนงจ้องมองยังผู้ชายข้างกาย พร้อมทั้งอารมณ์สับสนไปหมด เธอคิดว่ากำลังมองดูการเติบโตของหลินหยาง เธอมองหลินหยางเป็นเสมือนหลานชายเสมอมา เคยคิดถึงขั้นอยากเป็นแม่สื่อ
“กำลังคิดถึงเรื่องคดีของหลิวเย่าหมิง ฉันแค่รู้สึกว่ามันแปลก ๆ หน่อย” ฉินโม่หนงกล่าว หลินหยางจึงแสร้งบอกความลำไป “อันที่จริงแล้ว ฉันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” ฉินโม่หนงถูกทำให้เกิดความสงสัยขึ้นมาในใจ “แกรู้เหรอ? ไหนลองว่ามาซิ” “เรียกว่าผัวก่อนสิ แล้วฉันจะบอกแก” “ผัวขา.....” หลินหยางพึงพอใจอย่างมาก ฉินโม่หนงในตอนนี้นับวันก็ยิ่งเชื่อง นอกจากจะพอใจมากแล้ว ยังรู้สึกสำเร็จอย่างมากด้วย “เด็กดี” หลินหยางบีบไปที่แก้มของฉินโม่หนง ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ ความจริงแล้วมันง่ายมากเลย ฉันโทรขอเฉาเค่อหมิง แล้วบอกว่าเขาน่ะฉันเป็นคนฆ่าเอง เขาเห็นแก่หน้าฉัน เลยทำให้การตายของหลิวเย่าหมิงกลายเป็นฆ่าตัวตายแทน” ทันใดนั้นฉินโม่หนงก็เอ่ยชื่นชมขึ้น “แต่ไหนแต่ไรก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว แกน่ะเองมากเลยนะ แค่โทรกริ๊งเดียวให้เรื่องถึงหูเฉาเค่อหมิง แกเก่งมากเลย”“ฉันเก่งใช่ไหมล่ะ แกยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ?” หลินหยางหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย เตรียมกระตุ้นให้ฉินโม่หนงสำนึก “อย่ามากวนไปหน่อยเลย! ฉันดูก็รู้ว่าแกขี้โม้ไม่งั้นให้ฉันตายเลย” ฉินโม่หนงไม่ยอมให้หลินหยางสำเร็จ เพราะว่าเธอหิวขึ้นมาแล้ว ไม่มีแรงจะสู้ด้วยแล้ว จึงร
เจี่ยฟู่เฉียงกล่าวด้วยความแค้นเคือง “ท่านประธานฉินคะ ด้วยเครดิตของคุณแล้ว เงินกองทุนนี้จึงกลายเป็นเรื่องง่าย ตลอดมาล้วนเป็นเพราะไอ้หมาหลิวเย่าหมิงที่คอยขัดขวาง ไม่ยอมเซ็นชื่อสักที พวกเราเองก็ทำอะไรไม่ได้ค่ะ”“แล้วหลังจากนั้นล่ะ? หลิวเย่าหมิงตายไปแล้ว ประธานธนาคารคนใหม่คงจะไม่ได้แต่งตั้งขึ้นเร็วขนาดนั้นนะ?” “แน่นอนค่ะ! เงินกองทุนของคุณ ผู้อำนวยการเฉาเป็นผู้อนุมัติด้วยตัวเองค่ะ จึงไม่ต้องไปหาประธานธนาคารที่ไหนมาเซ็น! ท่านประธานฉินคะ ท่านมีความสัมพันธ์อะไรกันกับผู้อำนวยการเฉาหรือเปล่าคะ ท่านรีบบอกมาเถอะค่ะ... ก่อนหน้านี้ที่ฉันมีทัศนคติที่ไม่ดี ก็เพราะถูกไอ้หมาหลิวเย่าหมิงบังคับทั้งนั้น โปรด่านให้อภัยฉันด้วยนะคะ” เจี่ยฟู่เฉียงไม่กล้าต้องโทษกับฉินโม่หนง ใบหน้าล้วนเต็มไปด้วยรอบยิ้ม“ผู้อำนวยการเฉาอนุมัติด้วยตัวเอง?” ฉินโม่หนงเกิดความสงสัยขึ้นในใจ เธอกับเฉาเค่อหมิงไม่ได้สนิทสนมกันเลยสักนิด เพียงแค่เคยพบกันบ้างไม่กี่ครั้ง แต่ก็อยู่ในสถานการณ์ทางการทั้งหมด จึงไม่เคยพูดคุยกันมาก่อน เฉาเค่อหมิงจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องเข้ามาช่วยเธอสิ หรือจะเป็นไปได้ไหมว่าเฉาเค่อหมิงกับลังจับตามองเธออยู่?
“ผม ผมยินดีเป็นพยานที่มีความผิด ประณามและฟ้องร้องจ้าวเจี้ยนชิง! ในมือของผมมีข้อมูลอยู่ร้อยชุด สามารถเป็นหลักฐานที่แสดงว่าจ้าวเจี้ยนชิงได้กระทำความผิด!”เขารู้ดีแก่ใจว่า ชีวิตของตนในตอนนี้ถูกกุมอยู่ในกำมือของหลินหยาง ดังนั้นจึงรีบเคลียร์ความสัมพันธ์ให้ชัดเจน หวังว่าหลินหยางจะไว้ชีวิตตนเองสักครั้งแต่ทว่าในเวลานี้ ยังไม่ทันที่หลินหยางจะพูด เฉิงหว่านฉิงกลับพูดขึ้นมาทันทีว่า “ปรมาจารย์หลินอย่าเชื่อพ่อของฉัน! เขาแค้นคุณมานานมากแล้ว! เขายังจับตาดูคุณ ภายใต้คำสั่งของหลูอ้าวตง!”“อีกทั้งข้อมูลในมือของเขา ไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งร้อยชุด อย่างน้อยต้องมีถึงสามร้อยชุด! เขาไม่ซื่อสัตย์กับคุณเลยแม้แต่นิดเดียว!”“อย่างนั้นเหรอ?” หลินหยางหันหน้าไปมองเธอด้วยสีหน้าประหลาดใจเมื่อเฉิงคั่วได้ยินดังนั้น กลับโมโหจนแทบกระอักเลือด “แม่งเอ๊ย ทำไมฉันถึงได้มีลูกสาวอกตัญญูอย่างแก่! ไม่นึกเลยว่าแม้แต่พ่อของตัวยังทรยศได้! ตอนนั้นฉันควรจะยิงแกให้ติดกำแพง!”แต่ทว่าเฉิงหว่านฉิงกลับไม่สะทกสะท้าน ในทางกลับกันดวงตาคู่งามนั้น จ้องมองหลินหยางด้วยสีหน้ากังวลใจพร้อมกล่าววิงวอน “ขอเพียงแค่ปรมาจารย์หลินไว้ชีวิตฉันสักครั้ง ฉัน
เปรี้ยง!ตอนที่ยาเสพติดมากมายปรากฏขึ้น ทุกคนต่างพากันอ้าปากค้างตกตะลึง?!“ไม่นึกเลยว่าจ้าวเจี้ยนชิงยังสมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด!”“ยาเสพติดเหล่านี้ มากพอที่จะทำให้ทั้งตระกูลตายหลายพันรอบ!”แต่ท่ามกลางเสียงร้องตกใจเหล่านั้นจ้าวเจี้ยนชิงก็จ้องมองยาเสพติดเหล่านั้นด้วยความตกตะลึง กล่าวด้วยใบหน้าที่ยากจะเหลือเชื่อ “เป็น เป็นไปได้ยังไง?”ยาเสพติดพวกนี้ตนเก็บเอาไว้ในสถานที่ที่เป็นความลับ จะถูกตรวจเจอได้ยังไง?เขาหันหน้าไปมองหลินหยางทันทีกล่าว “แกซื้อตัวคนของฉัน?!”“อย่าพูดจามั่วซั่วสิ ฉันไม่ได้จ่ายแม้แต่สตางค์แดงเดียว”หลินหยางมองบน ตนไม่ได้จ่ายแม้แต่สตางค์แดงเดียวจริง ๆเห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่าฉันใช้แรงกายบนเตียงเพื่อให้ได้มาต่างหาก!“พ่อครับ ตอนนี้เราจะทำยังไงกันดี?”จ้าวเจิ้งฮ่าวตกใจจนเสียงสั่นเครือ สีหน้าตกใจและหวาดกลัวทำยังไงดี?จ้าวเจี้ยนชิงกลับหัวเราะด้วยความเจ็บปวด เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ยังจะทำอะไรได้อีก?!เขาคุกเข่าลงให้หลินหยางเสียงดังตึ้งอย่างรวดเร็ว กล่าวอย่างสิ้นหวัง “ปรมาจารย์หลิน ผมขอโทษคุณ ผมไม่ควรหาเรื่องคุณ ผมไม่ขอร้องให้คุณไว้ชีวิตผม แต่ปล่อยคนในครอบครัวข
“ปรมาจารย์หลินปิดบังเก่งนี่นา! แม้แต่กรมอัยการสูงสุดแห่งหนานตูยังเชื่อฟังคำสั่งของปรมาจารย์หลิน?!”“น่าตลก จ้าวเจี้ยนชิงนั่นยังใช้อำนาจและอิทธิพลข่มเหงผู้คน! อำนาจและอิทธิพลของปรมาจารย์หลินมากกว่าเขาไม่รู้ตั้งกี่เท่า!”“ไอดอล...เก่งมาก!”หานเซวี่ยอิ๋งอ้าริมฝีปากแดงเล็กน้อย จ้องมองหลินหยางที่สีหน้าเรียบเฉยด้วยความตื่นตะลึง ในใจไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีจ้าวเจี้ยนชิงที่อวดดีจนถึงขนาดไม่มีใครเทียบได้ ไม่นึกเลยว่าจะถูกจับกุมแบบนี้?“นายพลจ้าว ช่วยพวกเราด้วย! ฉันไม่อยากตาย!”และในเวลานี้ เฉิงหว่านฉิงกลับถูกเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายจับกุม ใส่กุญแจมือ เธอหันหน้าไปมองจ้าวเจี้ยนชิงอย่างขอร้องด้วยสีหน้าตื่นตระหนกและหวาดกลัวถึงแม้ว่าเธอจะเป็นแม่ม่ายดำ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ใหญ่เกินไป เกือบจะทำให้เธอฉี่ราด ตอนนี้ทำได้เพียงฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่จ้าวเจี้ยนชิง?จ้าวเจี้ยนชิงในเวลานี้กลับหันไปมองเหยียนฮ่าวด้วยสีหน้าไม่ดีพร้อมกล่าวเสียงเย็นยะเยือก “คุณชายเหยียน! คุณไม่ได้รับสายโทรศัพท์ของคุณพ่อคุณเหรอ นายท่านตงกับคุณพ่อของคุณสัญญากันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าจะเก็บหลินหยาง!”หลังจากเกิดเรื่องต
“แกพูดจาเหลวไหล! พวกเราทุกคนเห็นกันหมดแล้ว เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าแกสมคบคิดกับชาวตงอิ๋ง รังแกคนประเทศหลงของพวกเรา!”“ชาวตงอิ๋งนั่นบอกว่าพวกเราเป็นไอ้ขี้ยาแห่งเอเชียตะวันออก ทำไมแกถึงยังปกป้องเขาอยู่อีก! เห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่าแกควรจะปกป้องเมืองลั่ว!”“ทำแต่เรื่องชั่วช้าสามานย์!”ทันใดนั้น บรรดาฝูงชนที่มุงดูเกิดอารมณ์ขุ่นเคืองขึ้นมา พยายามปกป้องหลินหยาง การกระทำที่กลับดำเป็นขาวของจ้าวเจี้ยนชิงทำให้พวกเขาโมโหจนสำลัก พากันหยิบมือถือขึ้นมาอัดวิดีโอเอาไว้เป็นหลักฐานแต่ทว่าเสียงปังดังขึ้นทันที!บรรดาคนสนิทของจ้าวเจี้ยนชิงลงมือทันที ราวกับเสือกระโจนเข้าฝูงแกะ ทำให้ฝูงชนที่มามุงดูพวกนั้นถูกเตะล้มลงไปบนพื้น โทรศัพท์มือถือของบรรดาแฟนคลับถูกเหยียบแตกละเอียด!ทั้งหมดเต็มไปด้วยความวุ่นวาย!“หลินหยาง ฉันยอมรับว่าฉันเอาชนะแกไม่ได้ แต่นั่นแล้วยังไง ฉันจะจัดการกับคนเจ้าเล่ห์อย่างแก ก็ยังคงง่ายเหมือนกับปอกกล้วยเข้าปาก!”ถึงแม้ว่าจ้าวเจี้ยนชิงจะถูกหลินหยางบีบคอเอาไว้ แต่สีหน้ากลับไม่แสดงความกลัวเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันยังเต็มไปด้วยความเย้ยหยันและเหยียดหยาม!“ข่มขู่ฉัน?” หลินหยางกลับยิ้มออกมา“ฉันจะข่
ร่างกายของฮิเดนากะ ยามาโมโตะเหมือนกับระเบิด แฝงไปด้วยพลังมหาศาล!“บ้าเอ๊ย!”จ้าวเจี้ยนชิงรีบจับเอาไว้อย่างรวดเร็ว พยายามรักษาระยะห่างกับหลินหยางแต่ทว่าหลินหยางกลับขยับตัวเข้าไปใกล้! ตามเขาไปอย่างใกล้ชิด!ทันใดนั้น แม้ว่าเป็นพวกคนสนิทของจ้าวเจี้ยนชิงก็ไม่กล้าเหนี่ยวไก กลัวว่าจะพลาดทำจ้าวเจี้ยนชิงบาดเจ็บ!“ไสหัวออกไป!”จ้าวเจี้ยนชิงคำรามออกมาพร้อมทั้งสวนหมัดออกไป อยากจะบีบให้หลินหยางถอยออกไปแต่หลินหยางกลับคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ กล่าวพร้อมแสยะยิ้ม “คิดจะหนี? แกหนีพ้นเหรอไง?”จ้าวเจี้ยนชิงสีหน้าตกใจ ออกแรงอย่างบ้าคลั่งพยายามจะทำให้หลุดพ้นแต่ทว่ามือของหลินหยางเหมือนกับคีม ขยับเขยื้อนไม่ได้เลยสักนิด! ในทางกลับกันมีเสียงดังสนั่นกลุ่มหนึ่งลอยมา ทำให้จ้าวเจี้ยนชิงรู้ว่าตนเองราวกับถูกพันธนาการเอาไว้แน่น!“แม่งเอ๊ย แกปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าผู้หญิงขี้ยาพวกนั้น!” จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวข่มขู่ด้วยความโมโหเพี้ยะ!ทันใดนั้นก็ถูกตบหน้าฉาดหนึ่ง!นี่เป็นการโจมตีที่รุนแรงและหนักหน่วง เสียงเปรี้ยงดังขึ้นทำให้หัวของจ้าวเจี้ยนชิงสั่นสะเทือน!“การตบนี้ ตบเพราะแกลืมรากเหง้า!” หลิ
เปรี้ยง!หลินหยางสวนหมัดสังหารออกไปทันที หมัดนี้เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า!เขาต้องการจะเอาชีวิตสุนัขของเขา!แต่ทว่าในเวลานี้ ทันใดนั้นที่ประตูใหญ่ของตระกูลเฉิงก็แหลกละเอียด จ้าวเจี้ยนชิงพังประตูออกมา ขวางเอาไว้ที่ด้านหน้าของฮิเดนากะ ยามาโมโตะ สวนหมัดเพื่อโจมตีออกไปเช่นกัน!หมัดทั้งสองปะทะเข้าใส่กัน เกิดเสียงดังเปรี้ยงขึ้นทีหนึ่งแล้วทั้งสองก็ถูกแรงสั่นสะเทือนลอยออกไปพร้อมกันร่างกายของจ้าวเจี้ยนชิงร่นถอยไปหลายก้าวติดต่อกัน เสียงดังเปรี้ยง หินแผ่นหนึ่งถูกบดขยี้อยู่ใต้เท้า“ปรมาจารย์หลิน เรื่องเล็กน้อยนี้ควรค่าที่จะให้คุณต้องโมโหขนาดนี้เลยเหรอ? ไม่คู่ควรหรอกน่า”จ้าวเจี้ยนชิงยืนเอามือไพล่หลัง สายตาที่จ้องมองหลินหยางราวกับกำลังชื่นชม หลินหยางยิ่งโกรธ เขาก็ยิ่งรื่นรมย์ เขาถูกหลินหยางทำให้โมโหจนขาดสติหลายครั้ง ยินดีมากที่จะได้เห็นหลินหยางโมโห“ไม่ผิด!” ฮิเดนากะ ยามาโมโตะกลับกล่าวพร้อมรอยยิ้มเยาะหยัน “พวกเธอเป็นผู้หญิงเสพยาทั้งนั้น ฉันปรารถนาดีหางานให้พวกเธอ ยังจัดการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนั้นให้คุณอีก”“ปรมาจารย์หลินยังจะตำหนิผมอีก ผมนี่มันทำดีแต่ไม่ได้ดีเลยจริง ๆ!”แต่ทว่าทันทีที่พูดจบ
“เหลวไหล!” หลินไร้ศัตรูกลับค้อนเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “หลานชายของฉันเป็นสายเลือดโดยตรงรุ่นที่สามที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตระกูลหลิน! ถ้าหากเขาไม่อยู่แล้ว กิจการมากมายของตระกูลหลินจะส่งต่อให้ใครดูแล?!”“คือ...”ว่านเหลยกล่าวด้วยท่าทางลำบากใจ“พยายามตามหาเข้า ถึงอย่างไร...” หลินไร้ศัตรูถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง กลับมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “ตอนนั้นเป็นเพราะตระกูลหลินของฉันติดค้างเขาแล้วก็ยังมีพี่ชายคนโตของฉันด้วย หนี้ก้อนนี้ จำเป็นต้องคืน”อีกทางด้านหนึ่งหลินหยางกลับจามอย่างรุนแรง “ใครกำลังด่าฉัน? แม่งเอ๊ย จะต้องเป็น...”เมื่อลองคิด ๆ ดูแล้วเหมือนว่าศัตรูที่อยากจะด่าตนมีเยอะแยะมากมาย หลินหยางก็คร้านจะนับเช่นกันมองดูเวลาแวบหนึ่งก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เขาจึงออกจากบ้านด้านนอกคฤหาสน์ หลี่หรูเยว่ได้ยืนอยู่ที่ด้านหน้ารถแล้ว เปิดประตูรถให้หลินหยาง กล่าวด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย “ตระกูลเฉิงจัดงานเลี้ยงไว้รอแล้ว แต่ว่าจ้าวเจี้ยนชิงอยู่ที่งานเลี้ยงนั่นด้วย ที่นั่นจะต้องมีกองทัพทหารคอยเฝ้าอยู่!”ถ้าหากจ้าวเจี้ยนชิงเป็นสุนัขจนตรอก เรื่องจะต้องมีความยุ่งยากขึ้นแน่“งานใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะพลาดได้ยังไ
ชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านของปลายสายโทรศัพท์ราวกับตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เหมือนว่าจู่ ๆ ก็ได้เห็นความหวัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “คุณรักษาได้จริง ๆ เหรอ?”“คือว่าค่าตอบแทนนี่...”“ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัญหา! ขอเพียงแค่คุณสามารถรักษาพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกได้ คุณอยากได้อะไรก็ว่ามาได้เลย!”“ยอดเยี่ยม! โสมคนอายุสามร้อยปีสักสามสิบต้น สมุนไพรอายุห้าร้อยปีสิบต้น...”หลินหยางก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกัน จากนั้นก็สั่งสมุนไพร ราวกับสั่งอาหาร สมุนไพรพวกนี้มากพอที่จะทำให้หลูอ้าวตงต้องเจ็บปวดใจแต่ทว่าปลายสายกลับกล่าวด้วยความไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “ได้! คืนนี้ผมจะให้รถไปรับคุณ!”น้ำเสียงที่ดีใจดีนี้ ทำให้หลินหยางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเสนอราคาต่ำไปแต่ว่าไม่เสียใจภายหลัง เขาก็ไม่ได้สนใจอีก “โรคพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกจะรีบร้อนไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเตรียมตัวสักหน่อย ถึงเวลานั้นผมจะแจ้งให้คุณทราบ”ชายวัยกลางคนนั้นรับปากทันทีหลินหยางวางสายโทรศัพท์ พูดเบา ๆ “ดูท่าจะเป็นมหาเศรษฐี”อีกฝ่ายไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตน ยังสามารถเอาสมุนไพรมากมายขนาดนี้มาให้ได้อีก ตัวตนจะต้องสูงส่งมาจนไม่สะดวกที่จะเ
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา