“ยัยโง่!” เขาไม่รู้จะตอบอะไร เขารู้สึกเจ็บกับคำขอ ‘หย่า’ ของคนดื้อ ดื้อที่จะอยู่ข้างเขามาตลอด แต่ทำไมตอนนี้ถึงยอมแพ้แล้วล่ะ คนอวดดีปากเก่งก่อนหน้านี้ไปไหน คนที่ตะโกนบอกตลอดว่าจะไม่ยอมหย่า แล้วทำไมวันนี้กลับยอมแพ้เสียแล้วล่ะ มันน่านัก มันน่าลงโทษให้หลาบจำว่าหล่อนน่ะคือของเขา ไม่มีสิทธิ์จะขอ
‘หย่า’ ถ้าเขาไม่อนุญาต“ใช่ค่ะ จอมมันโง่ โง่ที่รักคนที่ไม่รักจอม โง่ที่รักคนที่เกลียดตัวเอง แต่ต่อไปนี้จอมจะตัดใจแล้วค่ะ จะไม่พยายามแล้ว เพราะความพยายามสองเดือนที่ผ่านมามันสูญเปล่า เพราะสุดท้ายแล้วคนที่พี่แทคต้องการก็คือพี่ขวัญอยู่ดี” เธอบอกเขาพร้อมกับก้มหน้าไปหาความอุ่นร้อนที่กำลังเหยียดตัวขยายใหญ่ขึ้นในตอนนี้
‘ให้ตายสิ ยัยบ้านี่จะมายอมแพ้อะไรตอนนี้วะ เขาไม่มีทางหย่าหรอก ไม่มีทางแน่นอน ฉันไม่หย่ากับเธอแน่นอนจอม’ พรรธน์ยศพึมพำในใจด้วยความหงุดหงิดพร้อมกับสูดปากร้องครางออกมาเมื่อปากน้อยเริ่มทำงานให้ความสุขความอุ่นร้อนกลางหว่
“อ่ะ...พี่แทคคะ จอม...อ่า...อื้อ” แล้วเธอก็ต้องครางกระเส่าออกมาเมื่อเขาก้มหน้าลงมาหาความเป็นสาวพร้อมดูดเลียความเป็นสาว ทั้งเขินทั้งอาย แม้เขาจะทำแบบนี้แทบทุกคืน แต่ก็ยังไม่ชินอยู่ดี เธออายทุกครั้งยามเขาซุกหน้าและดูดเม็ดเกสรของตัวเอง“โอว์...หอมและหวานมาก น้ำของจอมหวานมากทูนหัว อ่า...หลั่งให้ผัวเยอะมาก อืม...เสียวก็ปล่อยออกมา พี่จะกินน้ำของจอมเอง อ่า...อืม”เรียวลิ้นสากลากถูไถกลีบสวาทพร้อมกับดูดเลียเม็ดเกสรอวบอูมสีสวยของคนตัวเล็กไปด้วย มือใหญ่ทั้งสองจับเรียวขาเล็กแยกกว้างไม่ให้เบียดแนบตัวเอง ก่อนจะดุนดันปลายลิ้นเข้าหาโพรงสวาทฉ่ำแฉะแล้วระรัวลิ้นเข้าออกซอยถี่ภายในของหล่อน เอวเล็กแอ่นเด้งไหวตอบสนองลิ้นยิ่งทำให้เขาคึกคะนอง“อ่า...พี่แทคยะ...อย่าทำร้ายจอมแบบนี้ อ่า...ไม่ไหวแล้ว ร้อน อืม...” ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดโตที่ผุดขึ้นเพราะแรงสวาทกลางลำตัว“อืม...ทำร้ายที่ไหน เนี่ยเขาเรียกว่าให้ความสุขต่างหากล่ะ อ่า...ไม่ไหวแล้ว หวานเหลือเกิน ไปให้ถึงนะ ทูนหัวของพี่” เขาถอดถอนลิ้นออกจากโพรงสวาทคับแน่นเปลี่ยนนำนิ้วแกร่งสอดแทรกทแยงเข้าไปแทนพร้อมเด้งเร่ากระแทกเป็นจังห
เมื่อทุกคนออกไปจากห้องของคู่บ่าวสาวหมดแล้วในตอนนี้ เหลือเพียงพรรธน์ยศ กรีฑา หรือแทค วัย 36 ปี ผู้บริหารบริษัทนำเข้ารถจากยุโรปรายใหญ่ของประเทศ แน่นอนในวันนี้เขาคือเจ้าบ่าว แต่เจ้าสาวนี่สิไม่ใช่คนที่เขาอยากแต่งงานด้วย หล่อนคือจอมใจ พรทิพย์ หรือจอม วัย 24 ปี ที่มาเป็นเจ้าสาวแทนเจ้าสาวตัวจริงของเขาในวันนี้ พรรธน์ยศมองไปยังเจ้าสาวในชุดลายลูกไม้สีขาวที่เคลื่อนตัวจากพื้นพรมขึ้นไปนั่งบนเตียงนุ่มแล้วเม้มปากแน่น เขาเกลียดชังหล่อนที่กล้าเอาตัวเองมายัดเยียดให้เขาในค่ำคืนนี้ ทุกคนจัดการทุกอย่างโดยไม่ถามความสมัครใจของเขาที่เป็นเจ้าบ่าวเลยว่าต้องการจอมใจมาเป็นเจ้าสาวของตนไหม ถึงแม้ว่าขวัญใจ พี่สาวของหล่อนจะหนีไป ใช่ว่าเขาจะต้องแต่งงานกับคนเป็นน้องแทน งานแต่งงานมันยกเลิกได้ เขายอมอายดีกว่าต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่เขาชังน้ำหน้าตั้งแต่แรกเจออย่างหล่อน “ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนได้แล้ววันนี้” นั่นคือประโยคแรกที่เขาเอ่ยกับเจ้าสาวป้ายแดงของตนเองในวันนี้ “พี่แทคอาบก่อนจอมก็ได้ค่ะ” เธอบอกเขาเขินๆ เมื่อต้องอยู่กันตามลำพัง หึ! “ฉันจะไปอาบที่คอนโด” เขาตอบกลับสั้นๆ “แต่วันนี
เช้าวันรุ่งขึ้น เธอตื่นมาช่วยแม่ครัวของบ้านเตรียมของใส่บาตรทำบุญเพื่อรอสามีแต่ง แต่รอแล้วรอเล่าเขาก็ไม่มา เธอได้ใส่บาตรคนเดียว ยอมรับว่าเสียใจเมื่อตื่นเช้ามาพ่อกับแม่ถามหาพรรธน์ยศ จะให้ตอบยังไงว่าเขาออกไปจากบ้านตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เขาไม่ได้ค้างที่บ้านด้วย ไม่ได้นอนที่ห้องหอ เขาไปค้างที่ไหนเธอยังไม่รู้ รู้แต่ว่าคอนโด แต่คอนโดไหนล่ะ เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสามีป้ายแดงตัวเองเลยสักอย่าง“จอมโอเคไหมลูก” ทิพย์มณีเอ่ยถามลูกสาวหลังจากทานมื้อเช้าอิ่ม“มีตรงไหนที่จอมบอกไม่โอเคบ้างคะแม่ทิพย์ แล้วตอนนี้พ่อภูกับแม่ทิพย์ได้ข่าวของพี่ขวัญรึยังคะ” เธอตอบและถามถึงเรื่องของพี่สาวไปด้วยในท้ายประโยค“อย่าถามถึงนังลูกไม่รักดีเลยจอม พ่อไม่อยากได้ยินชื่อของพี่สาวเรา” เป็นภูธิปเอ่ยตอบ เขาเจ็บใจและโกรธลูกสาวคนโตมากที่หนีงานแต่งงานไปกับผู้ชาย ซึ่งเขาเองก็เพิ่งรู้วันที่ขวัญใจหนีไปว่าเธอแอบมีแฟนอยู่ก่อนที่จะรับหมั้นกับพรรธน์ยศแล้ว“ใจเย็นๆ สิคะคุณภู ยังไงตอนนี้เราก็ต้องตามหายัยขวัญให้เจอ” คนเป็นภรรยาเอ่ยพร้อมลูบต้นแขนสามีเบาๆ เพื่อให้สามีอารมณ์เย็นลง“มันอยากไปก็ไป ไม่ต้องไปตามหามัน ดูซิ...มันจะไปได้กี่น้ำกัน นังล
“ผมจำได้ครับ และจำได้ดีว่าผมต้องแต่งงานกับลูกสาวบ้านพรทิพย์” เขาตอบท่าน เพราะคำพูดในวันนั้นที่เขาพูดกับพ่อก่อนจะสิ้นลมมันยังดังก้องอยู่ในความรู้สึก“ถ้าจำได้ก็ดี เพราะพ่อเราไม่ได้บอกว่าต้องเป็นหนูขวัญคนเดียว เป็นใครก็ได้ในตระกูลพรทิพย์ และตอนนี้เป็นหนูจอมที่เข้าพิธีกับเราแทนหนูขวัญ ถ้าลูกจำคำสัญญากับพ่อได้ แม่ก็สบายใจ แล้วทำไมถึงมาคนเดียว หนูจอมล่ะ” นางวกกลับมาถามถึงลูกสะใภ้อีกครั้ง“ก็อยู่บ้านของเขา” เขาตอบสั้นๆ เมื่อไม่รู้จะพูดอะไร เพราะแม่ก็พูดถูก เขาหนีไปก็ได้ แต่เขาเลือกจะเข้าพิธีแต่งงานเอง ซึ่งตัวเขาเองก็งงจนตอนนี้ทำไมต้องยอมด้วย ทำไมต้องยอมเข้าพิธีแต่งงานด้วยทั้งๆ ที่จะหนีไปหรือยกเลิกงานแต่งงานก็ได้“หมายความว่ายังไงพ่อแทค เมื่อคืนลูกไม่ได้อยู่กับน้องเหรอ?” นางเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย“ครับ เมื่อคืนผมไปนอนที่คอนโด พอตื่นก็กลับมาทานข้าวเช้ากับแม่ฐาเนี่ยแหละครับ” เขาตอบหน้าตาเฉยแล้วก้มหน้าตักข้าวต้มในชามตรงหน้าทานต่อ“ลูกไม่ให้เกียรติน้องเลยนะแทคทำแบบนี้” นางตำหนิลูกชาย“การที่ผมไม่ได้นอนกับเธอคืนเข้าหอเป็นการไม่ให้เกียรติ ผมขอโทษด้วยครับ แต่ผมฝืนตัวเองอยู่กับเธอไม่ได้จริงๆ ครับแม่ฐ
พรรธน์ยศขับรถมาเรื่อยๆ จนมาถึงร้านอาหารไทยของเธอที่เป็นทางผ่านไปทางบริษัทของตนเองก็จอดเทียบรถกับหน้าร้านเธอเพื่อให้จอมใจได้ลงจากรถ ส่วนจอมใจก็เปิดประตูรถลงเงียบๆ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาลงไปเหยียบพื้นก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงกระด้างดังขึ้น “ไม่คิดจะขอบคุณสักคำเลยรึไง?” เป็นคนที่บึ้งตึงเงียบตลอดทางนั่นเองเอ่ยขึ้น “ขอบคุณค่ะพี่แทค” เธอหันมาเอ่ยขอบคุณเขาแล้วก้าวลงไปยืนข้างรถเต็มตัว แต่ยังไม่ทันได้ปิดประตูรถ เขาก็ตอบกลับมาอีกด้วยน้ำเสียงกรุ่นโกรธ “ถ้าฝืนก็ไม่ต้องขอบคุณก็ได้ ปิดประตูรถได้แล้ว เสียเวลาฉันมากแล้ว” “ค่ะ ถ้าฝืนจะไม่พูดอีกค่ะ” แล้วจอมใจก็กระแทกปิดประตูรถยนต์คันหรูของพรรธน์ยศทันที ตึบ! “น่าเบื่อ!” เขาพึมพำกับตัวเองแล้วก็ออกตัวรถไปทันทีด้วยความเร็วสูง ส่วนจอมใจก็ได้แต่เม้มปากแน่นเป็นเส้นตรงมองตามหลังรถยนต์ที่แล่นจากไปด้วยแรงโกรธไม่พอใจของเจ้าของรถ เธอมองออกว่าเขาไม่พอใจเธอก่อนหน้านี้ หรืออาจจะไม่พอใจมาตลอดตั้งแต่รู้จักกันเลยก็ว่าได้ ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด! ยังไม่ทันได้เดินเข้าร้านอาหารก็มีสายเรียกเข้าเข้ามาจนต้องล้วงกระเป๋าค้นหาโทรศั
“ค่ะพี่เป๊ก ค่ะ รอจอมที่ร้านเลยค่ะ เดี๋ยวจอมรีบกลับไปนะคะ” เธอกดวางสายทันทีพร้อมกับเก็บโทรศัพท์ไว้ที่เดิมพร้อมกับคว้าหยิบปิ่นโตที่วางตั้งไว้มาถือเพื่อจะกลับ ก็ในเมื่อสามีไม่ต้องการปิ่นโตที่นำมาให้จะเอาไว้ทำไมล่ะ ก็เอากลับไปกินเองสิ “ฉันเปลี่ยนใจแล้ว จะกินข้าวที่เธอเตรียมมา” พรรธน์ยศเอ่ยขึ้นเมื่อตอนนี้จอมใจไม่ได้สนใจตัวเองแล้วและกำลังจะเดินกลับไป “คะ?” เธอเอี้ยวหน้าหันมากลอกตาไปมาอย่างสงสัยในประโยคของสามี “ฉันหิว” เขาตอบสั้นห้วน “แล้วยังไงคะ จะกินกับข้าวที่จอมเอามาเหรอคะ?” เธอถามกวนกลับพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก แต่แค่แป๊บเดียวเท่านั้นก็เปลี่ยนกลับเป็นหน้านิ่งปกติ “ก็เอามาให้ฉันไม่ใช่เหรอ เอามาแล้วก็เอาเข้าไปจัดใส่จานสิ ฉันจะได้กิน” เขาบอกสั่งเธอ “ไหนบอกว่าไม่กินของที่จอมนำมาให้คะ แล้วทำไมตอนนี้ถึงอยากกินล่ะคะ” “ถ้าจะให้กินก็ไปจัดใส่จานมา พูดมาก น่ารำคาญ!”เมื่อพูดจบเขาก็เดินกลับเข้าไปในห้องทำงานพร้อมเปิดประตูทิ้งไว้ ส่วนจอมใจก็ได้แต่เบ้ปากเล็กน้อยแล้วเดินถือปิ่นโตไปยังห้องครัวที่เมื่อกี้เธอเดินผ่านมาทันที เพื่อจัดกับข้าวในปิ่นโตที่นำมาใส่จานน
ฮึก! ฮือๆยิ่งเขาพูด เธอก็ยิ่งเจ็บยิ่งช้ำกับคำพูดของเขา คำพูดของพรรธน์ยศเปรียบเหมือนเข็มเล็กๆ ที่ทิ่มแทงตำในอกของเธอและมันก็เหมือนมีดเล่มเล็กๆ ที่กรีดเฉือนใจเธอด้วยในตอนนี้ ทำไมกัน ทำไมเขาถึงมองเธอในแง่ร้ายแบบนี้ เธอไม่เคยคิดและนึกอิจฉาขวัญใจเลยสักครั้งที่ถูกเขาเลือก แต่เธอน้อยใจในโชคชะตาตัวเองมากกว่าที่ไม่เป็นคนที่ถูกเขาเลือก“ใช่ จอมมันไม่สวย จอมมันไม่น่าดึงดูดแบบพี่ขวัญ แต่ยังไงตอนนี้พี่แทคก็เป็นของจอม เป็นสามีจอมไม่ใช่ของพี่ขวัญ” เธอปาดเช็ดน้ำตากลืนก้อนสะอื้นลงคอพร้อมโต้ตอบกลับเสียงดังโดยไม่นึกกลัวสายตาสีทมิฬที่เพ่งมองมาทางตน“น่าสมเพช! หึ!” พรรธน์ยศยิ้มเยาะเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะพูดต่อ “เก็บโต๊ะแล้วรีบไสหัวไป ก่อนที่ฉันจะทำร้ายเธอจอม ไปให้พ้นหน้าฉัน ผู้หญิงความคิดต่ำอิจฉาได้แม้กระทั่งพี่สาวตัวเอง”“ถึงวันนี้จอมจะไป ยังไงเราก็ต้องเจอกัน เพราะเราคือสามีภรรยากัน จำไว้ว่าพี่แทคเป็นของจอมไม่ใช่ของพี่ขวัญแล้วตอนนี้ พี่แทคเป็นของจอม” เธอฝืนความเจ็บปวดในอกตะโกนตอกกลับพร้อมกับคว้าหยิบกระเป๋าแล้วลุกเดินหนีออกจากห้องทำงานใหญ่ไปทันที โดยไม่สนใจจะเก็บโต๊ะตามที่เขาสั่งปึก!พรร
‘อืม! อร่อยเป็นบ้า ไม่อยากเชื่อว่าเป็นฝีมือยัยนี่ และเหมือนกับรสชาติเมื่อตอนกลางวันเลยด้วย หรือว่าเธอทำกับข้าวเมื่อตอนกลางวันด้วยวะ!’ เขาได้แต่พูดถามตัวเองในใจเมื่อลิ้นได้รับรสอาหารฝีมือภรรยาแต่งตัวเอง คือรสชาติถูกปากเขามาก แต่พอมองไปทางคุณแม่ที่รักที่มองมาทางตนก็แสร้งวางช้อนในมือทำเหมือนไม่พอใจกับรสชาติอาหาร“รสชาติก็งั้นๆ ไม่เห็นอร่อยเลย แทบกระเดือกไม่ลง” เขาพูดจบก็คว้าหยิบแก้วน้ำใกล้มือมาดื่มไปจนหมดแก้วแล้วเด็กรับใช้ที่ยืนรอรับใช้ก็เดินมารินน้ำใส่ไว้ให้เต็มแก้วเหมือนเดิม“เหรอ งั้นแม่กินมั่ง หนูจอมก็ทานด้วยนะลูก คืนนี้กับพี่เขาค้างที่บ้านเรานะ แม่ให้เด็กจัดห้องไว้ให้แล้ว ส่วนเราห้ามไปนอนคอนโดด้วยวันนี้ ถ้าไปแม่โกรธจริงด้วย” นางพูดจบก็ตักหมูผัดกะปิมาทานเป็นเมนูแรก“อืม...อร่อยจะตาย ใครบอกงั้นๆ กระเดือกไม่ลงก็ไม่ต้องกิน แม่กินเองคนเดียวก็ได้” เมื่อได้ลิ้มรสชาติฝีมือลูกสะใภ้ก็เอ่ยชมทันที“งั้นผมจะกินข้าวไข่เจียว ไปเจียวไข่ให้ฉันหน่อย ฉันจะกินข้าวกับไข่เจียว และนอนที่บ้าน ผมนอนได้ครับ ไม่มีปัญหา เพราะเนี่ยบ้านผม ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย” คนใจแข็งเอ่ย ส่วนเด็กรับใช้ก็รีบไปทำไข่เจียวมาให้เ