จบแล้ว หวังว่าจะสนุกไม่มากก็น้อย แล้วเจอกันในเรื่องต่อไปนะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตาม ดวงดาวบนหาดทราย
เจ้าสาวคน (ไม่) โปรดของอาวิณดวงดาวบนหาดทราย : เขียนบทนำ ห้องจัดเลี้ยงภายในโรงแรมดังภายในจังหวัด คลาคล่ำไปด้วยแขกที่มาร่วมงานฉลองมงคลสมรสของหญิงสาวกับหนุ่มหล่อที่เหมาะสมราวกับกิ่งทองใบหยกเจ้าสาวสวยราวนางฟ้า เจ้าบ่าวนั้นหล่อราวออปป้าหลุดออกมาจากซีรีส์เกาหลีเรื่องโปรดของสาวๆนั่นเป็นคำกล่าวของเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งที่ไปงานเลี้ยงฉลองสมรสของคู่บ่าวสาว แล้วไลฟ์สดเพื่อให้คนที่ไม่ได้ไปงานได้ชมภาพแห่งความสุขนั้นและเพื่อตอกย้ำความเจ็บปวดของใครบางคน!ภูวิณโยนโทรศัพท์ลงข้างตัวอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหยิบบรั่นดีที่มีอยู่ครึ่งแก้วเทลงคอรวดเดียวหมด ปกติเขาแทบไม่ดื่ม มีแค่งานเลี้ยงต่างๆ ที่กินพอเป็นพิธี แต่ค่ำคืนนี้เขาไม่ไหวจริงๆ เขาอยากหลับไปแบบสบายๆ ไม่ทรมานกับความรู้สึกสูญเสียความรักเขากับระริน เจ้าสาวของคนอื่นในค่ำคืนนี้ คบหากันมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย เข้าไปเรียนต่อปริญญาตรีในกรุงเทพฯ ด้วยกัน ก็ยังคบหามาตลอด แต่พอเรียนจบเขากลับมาดูแลธุรกิจที่บ้าน ส่วนเธอทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แยกจากกันแค่หกเดือน เธอก็บอกเลิก เหตุผลทนความเหงาไม่ไหว เลยคบหากับรุ่นพี่ในบริษัทเขาทั้งอ้อนวอน และยอมทิ้งธุรกิจครอบคร
ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาในตอนใกล้ฟ้าสาง ได้ยินเสียงหายใจของใครบางคนดังอยู่ข้างกาย หันขวับไปมองก็เห็นว่าเป็นเด็กหญิงอรองค์หลับอยู่ข้างๆ เอาเท้าพาดบนขา หลับสบายจนน่าทุบ ส่วนมารดาของเขาหลับอยู่บนโซฟาเบดในมุมนั่งเล่นภูวิณค่อยๆ ยกขาเล็กๆ ของอรองค์ออกจากขาเขา แล้วลุกจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำ จัดการธุรส่วนตัวเงียบๆ ก่อนจะออกไปที่ไร่ เพราะนอนเต็มอิ่ม และอยากใช้แรงกายให้เหนื่อยเข้าไว้ จะได้ไม่ต้องพึ่งเหล้าให้เมาหลับ ไม่เช่นนั้นชีวิตอันแสนอิสระของเขาจะถูกตามควบคุมจากผู้หญิงต่างวัยสองคนนี้ถึงจะรู้ว่าเป็นห่วง แต่ก็ไม่อยากให้ทั้งสองมากังวลด้วย โดยเฉพาะมารดา ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดที่ยังเหลืออยู่ บิดาของเขานั้นเสียชีวิตไปเมื่อสองปีก่อน พร้อมกับบิดาของอรองค์ อรรคพลเป็นรุ่นพี่ของเขาที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก บ้านอยู่ใกล้กัน อายุมากกว่าเขาห้าปี และทำงานเป็นหัวหน้าคนงานและเป็นผู้ช่วยของบิดาเขาด้วยบิดาเขาที่นอกจากเป็นเจ้าของไร่ภูวิณ ยังรั้งตำแหน่งกำนันที่น่านับถือของคนในพื้นที่ ซึ่งมีคู่แข่งและศัตรูทางการเมืองท้องถิ่นอยู่พอสมควร สองเดือนก่อนการเลือกตั้งกำนันอีกวาระ ขณะไปทำธุระที่ในเมืองพร้อมกับอรรคพล จากนั้นก็แว
ผีบนต้นไม้หกปีผ่านไปณไร่ภูวิณอันกว้างใหญ่หลายร้อยไร่ของชายหนุ่มชื่อเดียวกับไร่ ปลูกพืชทางเกษตรครบวงจร รวมทั้งผลไม้นานาชนิด ภายในไร่ยังมีรีสอร์ตหรูสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ใกล้ชิดป่าเขา แม่น้ำ หากอยากชมน้ำตกก็อยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ตเจ้าของไร่ในวัย 30 รูปร่างหน้าตาดี เป็นที่หมายปองของสาวๆ ทั้งสาวน้อย สาวใหญ่ และวัยกำลังดี คือยี่สิบกลางๆ ซึ่งอันหลังนี้เป็นวัยที่โปรดปรานของภูวิณในวันสุดสัปดาห์เขามักจะใช้เวลากับสาวๆ เพื่อผ่อนคลายวันนี้เขาจึงนัดหญิงสาวนามมะลิมาค้างคืนด้วย แม้เจ้าตัวจะยังไม่กลับจากธุระในเมือง แต่มะลิก็มารอที่ห้องนอนในบ้านพักหลังใหญ่ ซึ่งเป็นบ้านไม้สักทั้งหลังสองชั้น สไตล์คันทรีตามแบบฉบับชาวไร่ที่มีอันจะกินเพราะพื้นพี่กว้างใหญ่ จึงมีบ้านพักคนรับใช้อยู่ด้านหลังไกลออกไป ที่อยู่ใกล้เรือนใหญ่มากที่สุดก็คือเรือนหลังเล็ก ซึ่งเคยเป็นที่พักอาศัยของมารดา ตอนนี้ก็มีอรองค์กับศรีนวลและลูกชายพักอยู่ด้วย ตัวบ้านใหญ่ไม่มีกำแพง เพราะอยู่ในอาณาเขตของไร่เจ้าของบ้านชอบต้นไม้ บ้านจึงถูกล้อมด้วยไม้ยืนต้น และไม้ประดับให้ความร่มรื่น ไม่เว้นแม้กระทั่งด้านที่อยู่ใกล้ห้องนอน มีต้นไม้ใหญ่อายุ
สามสิบนาทีต่อมา เด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดตัวผอมสูง ผิวเข้ม กับเด็กสาววัยสิบย่างสิบห้า เจ้าของร่างผอมบาง ทว่าหน้าตาสวยงามอย่างชัดเจน นั่งบนพื้นก้มหน้า โดยมีร่างสูงใหญ่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทีเคร่งเครียด ใบหน้าคมหล่อนั้นเคร่งขรึม บดกรามเพื่อระงับอารมณ์จนขึ้นสันนูน“นาย น้องเอิงก่อเรื่องอะไรอีก” เสียงถามอย่างเรียบๆ ของศรีนวลนั้น บ่งบอกว่าไม่ได้แปลกใจเมื่อเห็นภาพของอรองค์กับลูกชายของเธอนั่งคุกเข่าบนพื้นต่อหน้าเจ้านายหนุ่ม เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้งสองก่อเรื่องจริงๆ แล้ววสุ ลูกชายของเธอไม่ใช่คนก่อ แต่เป็นคนตามเรื่องมากกว่า เพราะไม่ว่าอรองค์จะทำอะไร วสุไม่เคยขัดอยู่แล้ว แม้เรื่องนั้นจะไม่ใช่เรื่องที่ควรทำก็ตามที่เป็นแบบนี้ เพราะวสุได้สัญญากับอรองค์มาตั้งแต่เด็กว่าจะยกให้เป็นลูกพี่ เหตุเพราะอรองค์เคยช่วยวสุตกน้ำเมื่อสามปีก่อน วสุเลยสัญญาจะเป็นลูกน้องอรองค์ จะเชื่อฟังลูกพี่ทุกอย่าง สั่งให้ทำอะไรก็ทำตามอย่างไม่มีข้อแม้คราวก่อนโยนงูเขียวตัวเล็กใส่ผู้หญิงคนหนึ่งของนาย จนอีกฝ่ายตกใจกรีดร้องจนเป็นลมล้มพับไป คราวนี้อะไรอีก หวังว่าคงไม่ร้ายแรงเกินกว่าที่ภูวิณจะอภัยให้ไม่ได้“ตกลงน้องเอิงทำอะไรค
คำบัญชา หนึ่งเดือนต่อมา...“เอิงไม่ไป ฮือๆ อาวิณอยู่ไหน เอิงจะหาอาวิณ ฮือๆ”“อาวิณไปเที่ยวเมืองนอกกับมะลิ” สุชาติบอก เมื่ออรองค์บุกมาถึงบ้านใหญ่ หลังจากมีคำสั่งให้อรองค์ไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ โดยมอบหมายให้พี่สะใภ้เป็นคนดูแล ซึ่งอินทุอรแต่งงานใช้ชีวิตกับภากรณ์ ซึ่งเป็นญาติผู้พี่ของภูวิณ ใช้ชีวิตครอบครัวอยู่กรุงเทพฯ มีลูกสาวหนึ่งคน อายุเท่ากับอรองค์ และทั้งสองก็เข้ากันได้ดี เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว“เอิง หยุดร้องไห้ได้แล้ว ยังไงก็ต้องไปอยู่กรุงเทพฯ ด้วยกัน เพราะป้าเองก็ขัดคำสั่งของอาวิณไม่ได้เหมือนกัน” อินทุอรบอกเหตุผล พลางโอบกอดเด็กสาวเพื่อปลอบโยน“อาวิณบอกจะยกโทษให้ แบบนี้มันไม่ใช่แล้ว เขาลงโทษเอิงต่างหากฮือๆ”“ยังไงเรื่องการไปเรียนต่อกรุงเทพฯ มันก็อยู่ในความคิดของอาวิณตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มันแค่เร็วขึ้นเท่านั้นเอง” ตอนแรกภูวิณจะส่งอรองค์ไปเรียนต่อในตอนเข้ามหาวิทยาลัย แต่เพราะอรองค์ทำเรื่องปวดหัวไม่เว้นวัน ภูวิณเลยหมดความอดทน เลยต้องส่งอรองค์ไปเรียนต่อมัธยมปลายกรุงเทพฯ เร็วกว่ากำหนดหลายปี“อาวิณเกลียดเอิงแล้ว ฮือๆ” เด็กสาวยังร้องไห้คร่ำครวญ“เอิงผิดไปแล้ว เอิงจะไม่แกล้
มีแต่ความคิดถึง “ชอบห้องนี้ไหมเอิง” อารียาถามขึ้นเมื่อเธอถูกพามายังห้องพักส่วนตัว ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามห้องอารียานั้นเอง เป็นโซนห้องพักที่จัดรับรองสำหรับเครือญาติ“ชอบสิ ห้องสวยขนาดนี้” อรองค์มองรอบห้อง แต่เพราะการมาอยู่ในที่ไม่คุ้นเคย แถมจิตใจก็ยังอาวรณ์กับที่ที่จากมา เจ้าตัวก็เลยไม่มีแก่ใจยินดีกับอะไรทั้งนั้น“ดีแล้วที่ชอบ จริงๆ เพราะห้องข้างๆ ห้องนี้คือห้องของอาวิณ”“เขาคงไม่มามาที่นี่อีกแล้วมั้ง” อรองค์พูดด้วยน้ำเสียงเนือยๆ“ว่าไปนั่น บ้านนี้เป็นบ้านของอาวิณเหมือนกันนะ ยังไงเขาก็ต้องกลับมาสิ”บิดาของเธอเป็นเพียงอาจารย์ในมหาวิทยาลัยคนหนึ่ง ตอนนี้ก็เสียไปแล้ว ไม่ได้มีเงินมากมายจะซื้อบ้านหลังใหญ่ ภูวิณกับคุณย่าพิศมัยจึงเข้ามาดูแลเธอกับมารดา รวมทั้งซื้อบ้านหลังนี้ให้อยู่ด้วย โดยเฉพาะย่าพิสมัยก่อนที่ท่านจะเสียนั้นได้เดินทางมาหามารดาของเธอ เพื่อจะให้ดูแลอรองค์เสมือนผู้ปกครองคนหนึ่ง แถมยังให้เงินมารดาเธอไว้จำนวนหนึ่ง ซึ่งมากพอสมควร สำหรับค่ากินอยู่ขณะที่อรองค์อยู่ที่บ้านส่วนค่าเล่าเรียนนั้นภูวิณจะเป็นคนรับผิดชอบทุกอย่าง เพราะมรดกที่อรองค์จะได้รับนั้นต้องรออายุยี่สิบเสียก่อนถึงจะได้สิทธิ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูนั่นเองที่ทำให้คนที่นอนอยู่บนเตียง ขยับตัวอย่างเกียจคร้าน“เอิง ตื่นหรือยัง นี่ใกล้เที่ยงแล้วนะ ลงไปกินข้าวกันเถอะ” เสียงของอารียาดังอยู่หน้าห้องนอน“เออ ตื่นแล้ว ขอเข้าห้องน้ำก่อน แล้วจะลงไป” เธอตะโกนตอบ แล้วเดินเอื่อยๆ เข้าห้องน้ำใช้เวลาจัดการธุระส่วนตัวอยู่เพียงสิบห้านาทีเท่านั้นอรองค์ก็ออกจากห้อง ลงไปชั้นล่างเจอสาวชื่อวิไลกำลังเก็บกวาดห้องโถงอยู่พอดี“คุณอินกับคุณอิ้งอยู่ในห้องกินข้าวค่ะ”“ค่ะ” อรองค์รับคำ แล้วเดินตรงไปยังห้องกินข้าว ซึ่งอยู่ในโซนใกล้ครัว“อ้าว มาๆ กินข้าวกัน”เมื่อโผล่หน้าเข้าไปอินทุอรก็กวักมือให้มานั่งข้างๆ“ขอโทษด้วยค่ะ เอิงตื่นสายมาก”“ไม่ต้องขอโทษหรอก ป้าเข้าใจ แปลกที่แปลกทาง คงนอนไม่หลับสิท่า”“ค่ะ กว่าจะหลับก็...อือ เกือบเช้า”“ไม่เป็นไรหรอก นานๆ ไปเดี๋ยวก็ชินไปเอง แต่เราต้องเข้มแข็งนะ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง”“ค่ะ เอิงจะเข้มแข็ง และปรับตัวให้ได้ค่ะ”“งั้นก็กินเถอะ จะได้ไปช้อปกัน” อารียาพูดแล้ว ตักอาหารใส่จานตัวเอง“ช้อปที่ไหน”“แม่จะพาเราสองคนไปเดินห้าง เธอน่ะต้องซื้อเสื้อผ้าเพิ่ม และเปลี่ยนแนวการแต่งตัวดีไหม”เพราะอรองค์ชอบแ
หลาน (นอกไส้) อาวิณเป็นเด็กดี [อะไรนะครับ เอิงรังแกเพื่อนร่วมชั้น ไม่มีทางหรอก เอิงไม่ใช่คนที่จะไปรังแกใคร ตรงกันข้ามชอบช่วยเหลือคนที่ถูกรังแกมากกว่า ผมมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ เอิงเป็นเด็กดี ไม่รังแกใครก่อนแน่นอน]ภูวิณที่เพิ่งรับสายจากอินทุอรว่าครูฝ่ายปกครองแจ้งมาว่า อรองค์รังแกเพื่อนจนคางแตก และทางโรงเรียนจะไล่อรองค์ออก ซึ่งเป็นสิ่งที่เขารับไม่ได้“ใช่แล้ว เพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ยืนยันว่าอีกฝ่ายจะทำร้ายเอิงก่อน เอิงแค่ป้องกันตัว แต่ทางครูฝ่ายปกครองก็ยังยืนยันว่าเอิงผิด เด็กที่ถูกชกก็โกหกหาว่าเอิงทำก่อน”[ก็ในเมื่อมีคนในเหตุการณ์ยืนยัน ทำไมครูยังดึงดันว่าเอิงทำก่อน] ภูวิณเริ่มมีโมโห เพราะอรองค์นั้นเขารู้จักมาตั้งแต่วันลืมตาดูโลก รู้จักนิสัยใจคอดีว่า ไม่มีทางรังแกคนอื่นก่อนแน่นอน เอาหัว ภูวิณเป็นประกันได้“ตอนแรกพี่ก็สงสัยว่าครูทำไมไม่ฟังคนที่อยู่ในเหตุการณ์ แต่ยัยอิ้งกระซิบบอก เพราะเด็กที่เอิงมีเรื่อง พ่อแม่บริจาคให้โรงเรียนมากที่สุดในบรรดาผู้ปกครอง เขาเลยเอาใจเด็ก”[อ๋อ แบบนี้นี่เอง งั้นผมจะบริจาคให้มากกว่านั้น]“วิณ เอาจริงเหรอ”[เอาจริงครับ พี่อินช่วยส่งเบอร์โทร. ของโรงเรียน
พอลูกสาวหลับไปแล้ว ภูวิณก็เก็บหนังสือนิทานไว้บนโต๊ะ ห่มผ้านวมให้ หอมแก้มเบาๆ ไม่ลืมที่จะปิดโคมไฟหัวเตียง เหลือเพียงโคมไฟหน้าห้องน้ำ จากนั้นก็กลับห้องนอนของเขากับภรรยาที่อยู่ห้องถัดไป คั่นกลางด้วยห้องแต่งตัวที่ประตูทั้งสองห้องเชื่อมต่อกันได้ภูวิณยิ้มกริ่มเมื่อเปิดประตูห้องแต่งตัวเข้ามาก็เห็นภรรยากำลังสวมชุดนอนสีดำสายเดี่ยว ยิ่งขับผิวขาวนวลลออตา ชุดสั้นเหนือเข่ามาเกือบคืบ โชว์เรียวขาสวยที่เขามองไม่เคยเบื่อ ผมยาวดำขลับทิ้งสยายเต็มกลางหลังใบหน้าที่ไร้การแต่งแต้มกลับเห็นผิวขาวใสไร้รอยด่างดำ แม้จะออกไปช่วยงานในไร่บ่อยครั้ง สลับกลับไปทำงานในรีสอร์ต แต่อรองค์ก็ดูแลตัวเองอย่างดีอรองค์ในวัยสามสิบต้นๆ เหมือนเจ้าตัวเพิ่งเป็นสาวเต็มตัว มีเสน่ห์มากยิ่งกว่าเด็กสาวในวันวานทั้งรูปร่างที่ผอมเพรียว แต่ก็เฟิร์มไปทั้งเนื้อตัว ช่วงอกอวบอิ่มขึ้น ดวงตากว้างเป็นประกายรู้ทันเมื่อเห็นสายตาโลมเลียของเขา“เซ็กซี่จัง” ภูวิณเดินมาโอบกอดภรรยาจากด้านหลัง ซุกจมูกที่ลำคอระหง ก่อนย้ายไปยังซอกหู มือใหญ่นั้นเริ่มไล้เบาๆ ตั้งแต่โค้งสะโพก ผ่านชุดนอนเนื้อบางเบา ทำให้อรองค์วูบไหวจนร่างสะท้าน พร้อมครางเสียงแผ่วริมฝีปากอุ่น
ตอนพิเศษ “คุณแม่ขาหนูอยากปั่นจักรยานเล่นที่ไร่ค่ะ” เด็กหญิงอิงจันทร์ วัยสี่ขวบเอ่ยขึ้นในเวลาบ่ายวันหยุด กำลังกินของว่างกับแม่ในสวนข้างบ้านเด็กหญิงอิงจันทร์มีหน้าตาคล้ายแม่ค่อนข้างมาก ทั้งใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตาโตกว้างเป็นประกายสดใส ริมฝีปากจิ้มลิ้มได้รูป ผมสั้นเคลียหูและมีหน้าม้า ยิ่งทำให้ใบหน้านั้นเหมือนตุ๊กตาเดินได้“งั้นกินนมให้หมดก่อนค่ะ เดี๋ยวแม่พาไป” เมื่อได้ยินแบบนั้นเด็กหญิงก็ยกแก้วนมที่เหลืออยู่ครึ่งแก้วดื่มจนหมด“หมดแล้วค่ะ”“งั้นเราไปเปลี่ยนรองเท้าและใส่หมวกกันค่ะ” อรองค์ที่ตอนนี้อยู่ในวัยสามสิบต้นๆ บอกลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนลูกสาวตัวน้อยก็รีบลงจากเก้าอี้ แล้วเดินลิ่วเข้าไปในบ้านทันทีไม่กี่นาทีต่อมาสองแม่ลูกก็อยู่ในชุดเตรียมพร้อมสำหรับการปั่นจักรยาน รองเท้าผ้าใบและหมวกกันน็อค“น้องเอิงคะ ป้าศรีถาม ค่ำนี้กินอะไรดี”“อ๋อ เอิงลืมบอก ตอนค่ำเอิงจะพาน้องอิงไปกินข้าวที่ รีสอร์ตกับพ่อเขาน่ะ”อรองค์หันมาบอกคำแพง ที่ตอนนี้รับหน้าที่หลักเป็นพี่เลี้ยงเด็กหญิงอิงจันทร์ ช่วยงานบ้านอื่นๆ ยามว่างเว้นจากการดูแลเด็กหญิง เช่นวันหยุดที่อรองค์ไม่ได้ทำงาน เธอก็จะดูแลลูกสาวเอง
บทส่งท้าย หกปีต่อมาที่ไร่ภูวิณในเวลาเช้าตรู่ อรอรงค์กำลังแต่งหน้าทำผมเสร็จ สวมใส่ชุดไทยประยุกต์สีครีม ส่งผลให้รูปร่างสูงเพรียวนั้นยิ่งหน้ามองเครื่องประดับน้อยชิ้น แต่ใบหน้าสวยที่แต่งแบบเรียบๆ กลับยิ่งโดดเด่นนัยน์ตาเรียวกว้างและคมหวานเป็นประกายมีชีวิตชีวา ริมฝีปากยิ้มแย้มอิ่มเต็มและเย้ายวนอยู่ในที“แกสวยมาก” มะเหมี่ยวเอ่ยปากชม“เหมือนนางฟ้าเลยแก” มัทนาชมบ้าง“ฉันเห็นเอิงใส่ชุดแต่งงานครั้งที่สองแล้วนะ ครั้งแรกแต่งแทนคนอื่น ตอนนั้นเอิงยังเด็กอยู่ก็สวยน่ารัก ตอนนี้ดูเป็นสาวเต็มตัว เฉิดฉายมากเลย ออร่าแบบพุ่งสุดๆ” อารียาเอ่ยชมด้วยสีหน้าสุดปลื้มปริ่มกับเพื่อนรัก ที่ตอนนี้เพิ่มสถานะอาสะใภ้เข้าไปด้วย“ครั้งนี้ต้องพิเศษสิ เพราะงานแต่งของฉันจริงๆ ไม่ได้แต่งแทนคนอื่น” อรองค์เอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มกว้าง ปลื้มกับคำชมของเพื่อนๆ จนจะลอยได้อยู่แล้ว“สรุป แกเป็นเจ้าสาวสองครั้งในชีวิตของอาวิณ”“ฉันถือครั้งนี้ คืองานแต่งของฉันจริงๆ”“เด็กๆ ไปข้างล่างกันเถอะ ได้กฤกษ์ทำพิธีแล้ว” อินทุอรโผล่หน้ามาบอกทุกคนในห้องแต่งตัวเมื่อลงมาถึงชั้นล่างที่สวนข้างบ้าน ก็เห็นเจ้าบ่าวยืนอยู่กับมัชกร และกลุ่มเพื่อนๆ เพื่อรอเ
“เราชอบอิ้งตั้งแต่ตอนมอต้น แต่เราไม่กล้าแม้จะคุยกับอิ้ง กลัวยัยน้อยหน่าแกล้งอิ้ง”“เราก็คิดว่าไม้ชอบเอิงเสียอีก”“ใครจะกล้าชอบ อิ้งบอกย้ำเราตลอดว่าเอิงจะเป็นเจ้าสาวของอาวิณของอิ้ง”“แฮะๆ ขอโทษนะ ตอนนั้นเรากลัวไม้ชอบเอิงน่ะ เลยบอกย้ำ” เธอสารภาพน้ำเสียงเขินๆ“ก็ตอนนั้นเราชอบอิ้งแล้ว จะชอบใครได้อีก”“แล้วทำไมไม่บอก ถ้าบอกตั้งแต่ตอนนั้นเราคงคบกันได้หลายปีแล้ว แล้วตอนนั้นไม้เหมือนสนใจเอิงด้วยนะ”“ก็สนใจ เพราะเอิงดูสู้คนไง”“เลยให้เอิงไปสู้กับยัยน้อยหน่าว่างั้นเถอะ”“อือ คิดว่าเอิงจัดการได้”“แต่เสียดาย น่าจะบอกกันบ้าง”“ถึงเราจะชอบอิ้ง แต่ก็ยังเด็ก และไม่แน่ใจว่าจะชอบต่อไปได้นานแค่ไหน”“งั้นตอนนี้ก็ยังชอบนะ”“ก็ชอบอยู่”“งั้นเรามาเป็นแฟนกันไหม” เพราะอย่างไรก็คบในฐานะเพื่อนมานานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำความรู้จักกันอะไรกันเพิ่มเติม“ได้ แต่อย่าเพิ่งบอกคนอื่นๆ ได้ไหม”“ทำไม อายเหรอที่จะเป็นแฟนกับเรา” น้ำเสียงมีแววน้อยเนื้อต่ำใจ“ถ้าอิ้งไม่กลัวพวกเขาแซวก็ตามใจอิ้งนะ”“งั้นปิดไว้ก่อนเหอะ แอบๆ คบกันก็น่าสนุกดีนะ” น้ำเสียงเธอร่าเริงขึ้นมาทันที“แต่อิ้งควรบอกผู้ใหญ่ของอิ้งก่อนนะ”“หมายถึงคุณแม่กับอาวิ
“จะไปไหน แต่งตัวซะสวยเชียว” อรองค์ถามขึ้นเมื่อนั่งอ่านหนังสืออยู่ในโถงชั้นล่างพร้อมกินของว่างไปด้วย ก็เห็น อารียาใส่เดรสสีครีมดูอ่อนหวานนุ่มนวล แถมยังแต่งหน้าอ่อนๆ ให้ดูหวานละมุนเข้ากับชุดที่สวมใส่“ไปดูหนังกับไม้”“แกไปล่อลวงไม้ให้ไปดูหนังได้ด้วยเหรอ”“บ้า ล่อลวงอะไร ปกติไม้ก็ไปดูหนังกับฉันกับยัยเหมี่ยวบ่อยๆ” ส่วนอรองค์กับมัทนาไม่ชอบเข้าโรงหนัง รวมทั้งมัชกรด้วย แต่ทุกครั้งที่ชวนเขาก็ไม่เคยปฏิเสธ“ก็ไม้ไปเป็นเพื่อนแกกับยัยเหมี่ยวไง แต่ครั้งนี้เหมี่ยวไปด้วยหรือเปล่า”“ก็ชวนแล้ว แต่มันไม่ว่าง และฉันก็อยากดูหนังเรื่องนี้มาก” เจ้าตัวก็บอกชื่อภาพยนตร์ที่จะไปดู“มีแผนไรหรือเปล่าเนี่ย ชวนไม้ไปดูหนังผี แล้วตัวเองแต่งตัวเป็นนางฟ้า”“อุ๊ย ฉันสวยมากใช่ไหมแก” น้ำเสียงของอารียาร่าเริงขึ้นมาทันที“ไปถามป้าอินที่ร้านดูก่อนไหม”“บ้าสิ ขืนไปถาม แม่ก็ซักไซ้ว่าฉันแอบกิ๊กผู้ชายไม่บอกเขาน่ะสิ”“คิดว่าป้าอินจะไม่รู้เหรอ แกมองไม้ที โหหวานซึ้งตรึงใจไปถึงสามโลก”“เว่อร์น่า”“ไม่เชื่อก็ไปถามไอ้ไม้ดู”“แกว่าฉันควรถามตรงๆ เหรอ”“เออ จะอมพะนำไปทำไม ค้างๆ คาๆ”“งั้นฉันจะลองทำใจกล้าถามเขาดู”“แต่ก็ต้องเผื่อใจด้วยน
ชอบมาตั้งนาน อรองค์กับแก๊งเพื่อนสนิทนั่งอ่านข่าวเด่นข่าวดังด้วยความชื่นมื่นในร้านชาบู ซึ่งจองห้องวีไอพีเฉพาะพวกเขาเท่านั้นข่าวลูกชายนักการเมืองจัดปาร์ตี้ยาได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมค่อนข้างมาก ในคืนนั้นใครตรวจเจอฉี่ม่วงก็โดนกันไป เรียกว่าไม่มีใครรอดสักคน แต่คนที่หนักสุดคือดรีม เพราะเป็นถึงลูกชายนักการเมืองที่เป็นถึงระดับผู้ช่วยรัฐมนตรี แถมตำรวจเจอคลิปลับในโทรศัพท์ของอีกฝ่ายอีกหลายสิบคลิปในโซเซียลฯ ก็ถูกประจานสันดานเลวๆ ของดรีม ส่วนใหญ่ผู้หญิงออกมาพูดว่าดรีมชอบเอาคลิปลับมาขู่ให้ยอมมีเซ็กซ์ในครั้งต่อๆ ไป บางคนก็ถูกล่อลวง แอบถ่ายต่างๆ นานา เรียกว่างานนี้เรียกโจทย์ทั้งเก่าและใหม่มาทัวร์ลงเท่านั้นยังไม่พอทำพ่อเสียชื่อไปด้วย ได้ยินข่าวมาว่า ประกันตัวออกมาแล้ว ดรีมถูกพ่อส่งไปเมืองนอก เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตามประสาคนรวย พอมีเรื่องก็อยู่เมืองไทยไม่ได้ เพราะกระแสจากสังคมตอนนี้แรงมากทางมหาวิทยาลัยก็สั่งพักการเรียนทุกคนในงานที่ตรวจเจอฉี่ม่วง รวมทั้งน้ำผึ้งด้วย ที่คืนนั้นแม้จะออกมาก่อนตำรวจจะมาถึง แต่อีกฝ่ายก็เป็นเจ้าของงานวันเกิด ถึงแม้คนที่เป็นเจ้าของปาร์ตี้ตัวจริงจะคือดร
ขณะที่อรองค์ถูกน้ำผึ้งกับเพื่อนสนิทของดรีม ชื่อทิว พยุงเข้าไปในห้องนอนนั้น แม้อรองค์จะมั่นใจว่าจัดการได้ตามแผน แต่ก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ รวมทั้งความกระหายบางอย่าง“เธอเก่งมากน้ำผึ้ง เสร็จงาน ฉันจะให้รางวัลเธออีก” ดรีมเอ่ยด้วยสีหน้าพึงพอใจ“ขอบใจ” น้ำผึ้งตอบรับเสียงแผ่ว“ออกไปได้”“มึงก็เบาหน่อยนะ เดี๋ยวคนข้างนอกได้ยิน” ทิวเอ่ยสีหน้ายิ้มกริ่ม“ห้องนี้เก็บเสียงโว้ย พวกมึงก็เปิดเพลงให้ดังหน่อยก็ได้” อีกฝ่ายบอกน้ำเสียงอ้อแอ้เล็กน้อย เพราะดื่มและใช้ยาไปพอสมควร“งั้นตามสบายมึง อย่าลืมเอาคลิปมาให้กูดูด้วย” ทิวพูดสายตาเป็นประกาย ขณะที่น้ำผึ้งแววตาวูบแสง ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไปก่อน ทิวจึงเดินตามออกมาดรีมหันไปมองโทรศัพท์ที่ตั้งไว้ในมุมห้อง ที่สามารถถ่ายคลิปบนเตียงได้อย่างชัดเจนทุกมุมปกติเขาจะถ่ายคลิปในมุมที่เห็นหน้าตารูปร่างผู้หญิงอย่างชัดเจน แต่เห็นหน้าเขาไม่ชัด แต่คลิปนี้พิเศษ เพราะอรองค์เป็นผู้หญิงที่เขาอยากได้มาก และมันยากมากที่จะทำให้อีกฝ่ายมานอนอยู่บนเตียงได้แบบนี้เขาจะเก็บคลิปลับนี้ไว้ดูคนเดียว ไม่เผื่อแผ่ใครทั้งนั้นดรีมถอดเสื้อผ้าออก จากนั้นก็ปลดกระดุมกางเกงยีนส์ทรงเดฟ เพราะดื่มไ
“น้องเอิง ว่างไหม พี่ขอคุยด้วย” หลังเลิกคลาส อรองค์กำลังจะไปซ้อมเชียร์ ‘พี่ผึ้ง’ รุ่นพี่ในคณะที่เธอค่อนข้างสนิท เพราะเป็นพี่รหัสก็เดินมาหา“คุยได้ค่ะพี่ผึ้ง” อรองค์ตอบรับด้วยรอยยิ้มกว้างกว่าปกติ“คือเย็นวันเสาร์พี่เลี้ยงวันเกิดน่ะ อยากชวนเอิงไปด้วย”“อ๋อได้ค่ะ พี่บอกเวลาและส่งโลให้เอิงทางไลน์ได้เลยนะคะ” จริงๆ แล้วอรองค์ไม่ชอบไปงานปาร์ตี้ใคร นอกจากกลุ่มเพื่อนสนิทเท่านั้น แต่งานนี้กรณีพิเศษ“โอเคค่ะ แต่งตัวสวยๆ ด้วยนะ”“ได้เลยค่ะ”“อืม อยากเห็นเอิงแต่งตัวเซ็กซี่ๆ จัง”“ได้เลยค่ะ เอิงจะจัดเต็มเลย” อรองค์พูดด้วยสีหน้ามั่นใจ แต่แอบยิ้มพรายที่มุมปาก“โอเคค่ะ พี่จะรอดูเอิงในลุคเซ็กซี่”“รับรองพี่ไม่ผิดหวังแน่นอน แต่เอิงพาเพื่อนไปด้วยคนหนึ่งนะคะ เพราะที่บ้านไม่อนุญาตให้ออกไปปาร์ตี้คนเดียว”“เพื่อนหรือแฟน”“เพื่อนค่ะ ไม้ไง พี่ผึ้งก็รู้จัก”“โอ๊ยได้เลยค่ะ” พูดด้วยท่าทียินดี จนอรองค์ไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะเจ้าตัวสนใจมัชกรเป็นทุนเดิม แต่มัชกรก็ยังเป็นมัชกร ไม่สนใจสาวคนไหนทั้งนั้นนอกจากสาวๆ จากแก๊งเพื่อนสนิท “ไม่มีอะไรแล้ว งั้นเอิงไปซ้อมเชียร์นะคะ”“ตามสบายเลยเอิง เดี๋ยวพี่ไปห้องน้ำก่อน แล้วจะตาม
ขจัดคนเลว อรองค์หลับไปแล้ว ขณะที่ภูวิณพลิกดูข้อมูลของดรีม หรือดนุชัย ลูกชายคนเล็กของดนุวัฒน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่ หลังจากค้นหาประวัติดู เกเรเข้าขั้น สร้างปัญหาให้พ่อแก้มาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ทั้งชกต่อย ยาเสพติดและล่อลวงผู้หญิง แต่ก็รอดมาได้ด้วยบารมีพ่อก็ถ้าสร้างปัญหาอีกครั้ง ก็ดูสิพ่อจะช่วยได้ไหม! วันนี้เขาเห็นว่ามีคนเดินตามอรองค์ห่างๆ ตอนที่เดินมาลานจอดรถ มองปราดเดียวก็รู้ว่าคือคนที่กำลังสร้างความรำคาญให้อรองค์นั่นเองขนาดเขามาเปิดตัวขนาดนี้แล้ว ไอ้เด็กคนนี้ก็ดูจะไม่ยอมถอยง่ายๆภูวิณภาวนาแค่ว่า ให้อีกฝ่ายอยู่ห่างๆ อรองค์ เพราะเขาก็ไม่ได้อยากมีศัตรู แต่ถ้ามันเลี่ยงไม่ได้ก็พร้อมเช่นกันหลังโรงยิม เพราะไม่มีกล้องวงจรปิด ทำให้นักศึกษาบางกลุ่มแอบมาสูบบุหรี่ โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งหญิงและชายพ่นควันกันตลบอบอวล พลอดรัก นัดเคลียร์กับคู่กรณี หรือแม้แต่เรื่องชกต่อย เช่นตอนนี้ มีนักศึกษาคนหนึ่งกำลังโดนซ้อม สองคนจับ ล็อกไว้ ให้อีกคนปล่อยหมัดอย่างเมามันใส่อีกคน โดยไม่มีใครหน้าไหนมาช่วยอาจเพราะคนปล่อยหมัดคือดรีม ที่ใครๆ ก็ไม่กล้าจะเข้าไปยุ่งด้วย ส่วนที่เหลือคือลูกน้องของมัน ไม่เ