ขณะที่จ้าวหยางยิงออกไป ฉินปิงเยว่ก็เตรียมพร้อมที่จะตายแล้วแต่ครู่ต่อมา เธอก็ได้ยินหนิงชิงเสว่ส่งเสียงอุทานฉินปิงเยว่รีบลืมตาและเห็นภาพที่ทำให้เธอแทบไม่เชื่อสายตาเธอเห็นบาเรียสีฟ้าปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ บาเรียนั้นปิดกั้นกระสุนกลางอากาศทำให้มันไม่สามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้“ติ๊ง……”กระสุนตกลงไปที่พื้นอย่างรวดเร็ว และม่านแสงสีฟ้าด้านหน้าฉินปิงเยว่ก็หายไป“กึก...”ในเวลานี้ เสียงที่คมชัดดังขึ้นบนข้อมือของเธอฉินปิงเยว่มองลงโดยไม่รู้ตัวและพบว่าสร้อยข้อมือที่เธอสวมบนข้อมือมีเสียงดัง และหนึ่งไข่มุกเม็ดหนึ่งในหกเม็ดนั้นก็ระเบิดออก“มันเป็นของขวัญวันเกิดของฉันที่คุณชายฉู่ให้มาค่ะ!”ฉินปิงเยว่รู้สึกประหลาดใจและมีความสุขเธอไม่คิดเลยว่า สร้อยข้อมือที่ฉู่เฉินมอบให้เธอจะสามารถช่วยชีวิตเธอได้ในช่วงเวลาวิกฤติจริง ๆจ้าวหยางตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ และพูดด้วยความตื่นตระหนก: “เป็นไปได้ยังไง”“ไม่ กูไม่เชื่อ!”“ปังปัง...”เขาคำรามและเหนี่ยวไกใส่ฉินปิงเยว่อีกครั้ง โดยยิงสองนัดติดต่อกันแน่นอนเมื่อกระสุนกำลังจะเข้าใกล้ฉินปิงเยว่ไข่มุกบนสร้อยข้อมือบนข้อมือเธอก็ระเบิดด้วยเช่
หนิงชิงเสว่เหลือบมองฉินปิงเยว่ที่อยู่ข้างๆ เธอ และพบว่าเธอกำลังลูบไข่มุกที่เหลือเพียงสามเม็ดอย่างระมัดระวัง ราวกับว่าเธอได้พบสมบัติล้ำค่าหนิงชิงเสว่ยิ้มอย่างขมขื่น และน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ขอโทษนะ ฉู่เฉิน...ขอโทษนะเสี่ยวสือโถว...ในขณะนี้ เธอแทบรอไม่ไหวที่จะเจอกับฉู่เฉินเพราะเธอต้องการชดใช้...……เมื่อถึงเวลาห้าโมงเย็นของวันนั้น เครื่องบินโดยสารการบินพลเรือนที่บินขึ้นจากสนามบินหนานเจียงก็ลงจอดที่สนามบินเมืองจิงโจวอย่างราบรื่นฉู่เฉินเดินออกจากเครื่องบินเพียงลำพัง เขามองดูสนามบินแล้วพึมพำ: “ในที่สุดเราก็มาถึงจิงโจวแล้วสินะ...”ในเวลานี้โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น เป็นพี่หงโทรมา“คุณชายฉู่ ฉันมีญาติห่าง ๆ ที่จิงโจว เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉันชื่ออู๋อวี่เหมิง ฉันขอให้เธอไปรับคุณที่อาคารผู้โดยสาร 3 ค่ะ”“ถ้าคุณยังไม่รู้อะไรตอนอยู่เมืองจิงโจว คุณสามารถถามเธอได้นะคะ ฉันทักทายเธอไปแล้ว”“ครับ”หลังจากที่ฉู่เฉินวางสาย เขาก็เดินไปที่ทางเข้าอาคารผู้โดยสาร 3ด้านนอกอาคารผู้โดยสาร 3 มีรถปอร์เช่ 911 สีแดงจอดอยู่ริมถนนอย่างโอ่อ่าชายหนุ่มคนหนึ่งสวมชุดของอาร์มานี่พร้อมกับเ
กัวไคหน้าแดงและพูดด้วยคอหนาๆ ว่า "เด็กน้อย แกกำลังพูดอะไร?"เดิมทีเขาอยากจะทําให้ฉู่เฉินอับอายขายหน้า ไม่คิดว่าฉู่เฉินจะโหดร้ายกว่าเขามาก คาดไม่ถึงว่าจะด่าเขาว่าพิการทางสมอง หรือทำแม้กระทั่งแนะนำอู๋อวี่เหมิงให้ทิ้งเขาไปมันจะทำให้เขาไม่โกรธได้ยังไง?อู๋อวี่เหมิงพูดห้ามว่า "เอาล่ะ พูดให้น้อยลงเถอะ"เธอถึงมองฉู่เฉินด้วยสีหน้าเย็นชาและพูด "ลูกพี่ลูกน้องของฉันบอกว่านายมาที่จิงโจว เพื่อเข้าร่วมการประมูลในวันพรุ่งนี้ใช่ไหม?"ใช่แล้ว" ฉู่เฉินพยักหน้าตามที่พี่หงบอก ดอกเทียนหลิงและโสมโลหิตอายุร้อยปีจะออกสู่สายตาประชาชนในงานประมูลที่จิงโจว"เจ้าหนู ขึ้นอยู่กับว่าแกมีคุณสมบัติจะเข้าร่วมการประมูลที่จิงโจวหรือเปล่า?" กัวไคหัวเราะเยาะทันที: "จะบอกอะไรให้นะ การประมูลในวันพรุ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะเข้าร่วมได้ แกต้องมีจดหมายเชิญ""จดหมายเชิญ?" ฉู่เฉินขมวดคิ้ว ก่อนมาพี่หงไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้เขาฟังกัวไคเห็นเขาท่าทางแบบนี้ ยิ่งภูมิใจมากขึ้น "เด็กน้อย พอดีฉันมีจดหมายเชิญไปงานประมูล ทำไมแกไม่ก็คุกเข่าลงและคำนับให้ฉันสักครั้ง แล้วพรุ่งนี้ฉันจะพาแกไปงาน คิดว่าเป็นยังไง?""งั้นแกคำนับให้ฉันก่อ
หงเจียเชากอดเอวของผู้หญิงคนนั้นด้วยท่าทางใหญ่โตและใจกว้าง หรี่ตามองไปที่ฉู่เฉิน "นั่นใคร?"เขาไม่ได้สนใจฉู่เฉิน สนใจแค่ว่าไอ้เด็กคนนี้เห็นตัวเองแล้ว ทำไมไม่ทักทาย"นายน้อยหง เขาชื่อฉู่เฉิน เป็นเพื่อนของลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งค่ะ ครั้งนี้ฉันพาเขามาขอความช่วยเหลือจากท่าน"อู๋อวี่เหมิงพูดพลางส่งซิกฉู่เฉิน เพื่อให้เขาฉลาดขึ้นสักหน่อยอย่างไรก็ตามฉู่เฉินกลับไม่รู้ร้อนรู้หนาว เพียงแค่พยักหน้าเบา ๆ ให้กับหงเจียเชาบัดซบ!ไอ้เด็กคนนี้ช่างกล้าทุกคนรอบตัวอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง แล้วมองฉู่เฉินอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นอู๋อวี่เหมิงโกรธจัดส่วนกัวไคก็หัวเราะเสียงดังในใจไอ้โง่!แกคิดว่าจะกำราบกับนายน้อยหงได้ง่ายๆเหรอ? แกถึงคราวซวยแล้วตามที่คาดไว้ หงเจียเชาหน้าบึ้งตึงพูดอย่างเย็นชาแล้วเยาะเย้ย: "ขอให้ฉันช่วยเรื่องอะไร? บอกมาสิ"“นายน้อยหง เขาต้องการเข้าร่วมการประมูลในวันพรุ่งนี้ คุณช่วยมอบการ์ดเชิญของคุณให้เขาสักใบ……”” อู๋อวี่เหมิงพูดอย่างเสียใจหากรู้ว่าฉู่เฉินจะสิ้นคิดขนาดนี้ ต่อให้ทุบตีจนตายเธอก็จะไม่พาฉู่เฉินมาด้วยตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงบัตรเชิญ คงจะดีกว่า ถ้านายน้อยหงไม่ฆ่า
ครู่ต่อมาเขาเห็นชายวัยกลางคนสวมเสื้อคลุมสีดําและใบหน้าชั่วร้ายวิ่งเข้ามาพร้อมกับชายชกรรจ์สิบกว่าคนหงว่านสุ้ยเจ้าของคาราโอเกะอิมพิเรียล และคนที่ทรงอำนาจที่สุดในจิงโจวทุกคนหายใจไม่ทั่วท้องทันทีทันใดนั้นหงเจียเชาเหมือนเห็นคนช่วยชีวิต เอื้อมมือไปชี้ฉู่เฉินแล้วพูด "คุณพ่อ ไอ้เด็กคนนี้ตีผม..."หงว่านสุ้ยหรี่ตามองไปที่ฉู่เฉิน หลังจากเห็นเขาแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะยังเด็กและจิตไม่ปกติ ก็อดไม่ได้ที่จะถาม "แกเป็นใคร ทําไมถึงต้องตบลูกชายฉันด้วย?""เพราะเขาสมควรถูกตบไง" ฉู่เฉินพูดธรรมดาและยังคงนั่งนิ่งพอคําพูดนี้ออกมา ไม่ว่าหงจะอารมณ์เย็นแค่ไหนก็หัวเราะออกมาด้วยความโกรธ“ดีๆ ช่างเป็นเด็กที่กล้าบ้าบิ่นดีจริงๆ วันนี้ฉันจะสั่งสอนให้กับแกแทนญาติผู้ใหญ่ของตระกูลแกสักหน่อย!””หลังจากเขาพูดดีๆ ก็ตวาดว่า "ไทซาน ตัดแขนไอ้เด็กคนนี้มาให้ฉันข้างหนึ่ง แล้วจากนั้นโยนมันออกไป!""ตู้ม!"จากข้างหลังเขามีชายร่างใหญ่ที่มีความสูงมากกว่าสองเมตรกระโดดออกมา ชายร่างใหญ่เหมือนกับหอคอยเหล็ก พอปรากฏตัวขึ้นเหมือนจะทําให้พื้นดินสั่นสะเทือนสีหน้าของคนที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ก็ถอดสีไปพร้อมกันเพราะชายคนนี้มีฉายาว
อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกคนเห็นได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของพื้นใต้เท้าของเขา สีหน้าก็เหมือนกับเห็นผีComment by suphirat boonrin: เพราะทุกครั้งที่ชายชราเดินไป ก็จะฝังรอยเท้าลึกไว้บนพื้น และรอยเท้าฝังทะลุไปสามส่วนของพื้นคุณพระ!นั้นมันเป็นพื้นหินอ่อนเลยนะ!หลังจากชายชราเดินเข้ามา หงว่านสุ้ยก็แสดงความเคารพและพูดว่า "ปรมาจารย์ซุน เกิดเรื่องแล้ว"ปรมาจารย์ซุนคนนี้เป็นปรมาจารย์วนยุทธโบราณ ถูกไล่ล่าฆ่าฟันในช่วงปีแรก ๆ และบังเอิญได้รับการช่วยเหลือจากหงว่านสุ้ยไว้ หลังจากฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บแล้ว ก็อยู่เคียงข้างหงว่านสุ้ยมาตลอด เพื่อปกป้องเขาซึ่งถือเป็นการตอบแทนบุญคุณหลายปีที่ผ่านมา หงว่านสุ้ยไม่เคยเปิดเผยถึงความแข็งแกร่งของปรมาจารย์ซุน แต่ตอนนี้เพื่อจัดการกับฉู่เฉิน เขาจําเป็นต้องเปิดเผยมันออกมาปรมาจารย์ซุนพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองฉู่เฉินComment by suphirat boonrin: ผู้ชมทั้งหมดมองฉู่เฉินด้วยสายตาที่มองศพผู้เชี่ยวชาญตัวจริงมาแล้วไอ้เด็กคนนี้ตายอย่างเขียดแน่!ยังไงซะ คนคนนี้ก็สามารถสร้างรอยเท้าบนพื้นได้ หากเหยียบไปบนร่างกายของคน มันคงจะกลายเป็นรูโบ๋แน่หงเจี
“ปะ….ปรมาจารย์ฉู่ เข้าใจผิด นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด”หงว่านสุ้ยคุกเข่าอยู่บนพื้น เหงื่อเย็นไหลออกอย่างบ้าคลั่ง กลัวจนวิญญาณแทบจะหลุดออกจากร่างเขาเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับฉู่เฉิน ในเวลานั้นเขายังคิดกับตัวเองว่าจะไม่มีวันขัดใจกับบุคคลเช่นนี้แต่เขาไม่เคยฝันเลยว่าปรมาจารย์ฉู่คนนี้จะมาที่พื้นที่ของเขาจริง ๆ และลูกชายของเขายังไปยั่วยุเขาอีกและหลังจากเห็นท่าทางของเขา ผู้คนที่อยู่ข้างๆ ก็สมองขาวโพ้นจนว่างเปล่าหงเจียเชากําลังจะพูด แต่หลังจากสบกับสายตาอาฆาตของหงว่านสุ้ยแล้ว ก็ไม่กล้าพูดอีกแม้แต่คําเดียว"เข้าใจผิด?"มุมปากฉู่เฉินยกขึ้นราวกับเยาะเย้ย "เมื่อกี้คุณหงตะโกนว่าจะตัดมือของฉัน ทําไมผ่านไปแปบเดียวมาถึงบอกฉันว่าเข้าใจผิดแล้วล่ะ?"หงว่านสุ้ยรู้ดีว่าหากเขาไม่แสดงความสำนึกผิดในวันนี้ เขาอาจจะตายไม่ดีแน่เขากัดฟันแล้วพูดว่า "ปรมาจารย์ฉู่ สุนัขไม่มีตาไม่รู้จักภูเขาไท่ซานและไปยั่วยุท่าน ผมเป็นพ่อที่สอนลูกไม่ดี หากจะฆ่าก็ฆ่าหงคนนี้เถอะ""แค่ขอให้ปรมาจารย์ฉู่ปล่อยลูกชายผมไป แม้ว่าเขาจะไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่จนถึงตอนนี้เขาก็ไม่เคยทําอะไรที่เป็นอันตรายต่อสังคมรอบข้างเลย"คํ
ฉู่เฉินพูดว่า "ฉันอยากให้แกไปตามหาที่อยู่ของสองสิ่งนี้มาให้ฉัน นั่นคือดอกเทียนหลิงและโสมโลหิตอายุร้อยปี"แม้ว่าก่อนหน้านี้พี่หงบอกวว่าข่าวโสมโลหิตร้อยปีและดอกเทียนหลิงปรากฏออกมาที่จิงโจว แต่รายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงนั้น เธอเองก็ไม่ทราบและหงว่านสุ้ยในฐานะหัวโจกของจิงโจว เส้นทางข่าวสารย่อมไม่ธรรมดาอยู่แล้วหงว่านสุ้ยอุทานขึ้นทันทีว่า "ปรมาจารย์ฉู่ก็มาเพื่อโสมโลหิตร้อยปีด้วยเหรอครับ?""แกรู้ที่อยู่ของมันเหรอ" ดวงตาของฉู่เฉินเป็นประกายหงว่านสุ้ยอดไม่ได้ที่จะมองปรมาจารย์ซุนที่อยู่ข้าง ๆ แล้วพยักหน้าว่า "โสมโลหิตร้อยปีที่คุณต้องการจะปรากฏออกมาในการประมูลสมุนไพรในจิงโจวในวันพรุ่งนี้ เวลาสิบโมงเช้าและที่โรงยาโบราณ""โรงยาโบราณ?" ฉู่เฉินขมวดคิ้ว"ไม่เลวนิ"หงจวี่เหว่ยพูดว่า "โรงยาโบราณเป็นหัวขบวนของตลาดยาสมุนไพรจิงโจวของผม เจ้าของชื่อกู้ไป่ชวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นราชาโอสถแห่งจิงโจว ในมือมีกลุ่มเก็บยาพิเศษกลุ่มหนึ่ง มีคนเป็นพันไม่เพียงแต่สามารถเก็บยาได้ แต่ยังฆ่าคนได้ด้วย เกือบจะผูกขาดตลาดสมุนไพรของจิงโจว"จู่ๆ ฉู่เฉินก็ตระหนักได้ว่าหงว่านสุ้ยมองเขา ท่าทางอยากพูดแล้วหยุดพูด"คุณอ