ฉู่เฉินขมวดคิ้ว แล้วมองย้อนกลับไป เห็นคนทั้งสี่ดินออกมาจากร้านเหล้าที่อยู่ข้าง ๆ อย่างอวดดีผู้นําคือหวังซวี่ เฉินย่าและกัวรุ่ยสามคน และข้างหลังพวกเขายังติดตามมาด้วยชายหนุ่มคนหนึ่ง"ไปกันเถอะ"ฉู่เฉินเกียจคร้านเกินกว่าสนใจทั้งสามคนนี้และพูดกับเสี่ยวเสว่แล้วก็กำลังจะจากไปแต่โหวเหลยกลับเข้ามาขวางเขาก่อน พูดด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร "แกคือฉู่เฉินเหรอ?"“แล้วนายล่ะ?” ฉู่เฉินขมวดคิ้ว"ไอ้คนแซ่ฉู่ ตาสุนัขของแกบอดแล้ว ไม่รู้จักพี่โหวเหลยของเราด้วยซ้ำ"หวังซวี่ก้าวไปข้างหน้าแล้วพูด "แกฟังให้ดีนะ พี่ชายฉัน โหวเหลยคนนี้เป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์หมัดสายฟ้าแห่งหนานเจียง หม่าเป้ากั่ว""พี่โหว ฉู่เฉินที่ผมบอกพี่ก็คือเด็กคนนี้"เขาชี้ไปที่ฉู่เฉิน"หมัดจรวดหมัดสายฟ้าอะไร ไม่เคยได้ยิน หลีกทางไป ฉันไม่อยากพูดเป็นครั้งที่สอง" ฉู่เฉินพูดอย่างใจร้อน"พี่โหว พี่คงเห็นแล้วสินะ เด็กคนนี้ไม่เห็นพี่อยู่ในสายตาด้วยซ้ำ" หวังซวี่พูดทันทีแล้วราดน้ํามันลงบนกองไฟ"เจ้าหนู แกบ้ามาก"โหวเหลยจ้องมองฉู่เฉินอย่างเย็นชา พร้อมยิ้มด้วยความโกรธ "ได้ยินว่าแกต่อสู้เก่งมาก เรามาประมือกันหน่อยไหม?"เขาหักขอนิ้วจนเสียงเป
เฉียนไป๋หว่านมองไปที่ชายชราผิวคล้ำอีกครั้งและพูดว่า “เผิงซือไห่ แกทํางานยังไงของแก คาดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับแขกผู้มีเกียรติของแกได้”“เหอะๆ นั่นไม่ใช่เรื่องที่แกต้องมาจุ้น เฉียนไป๋หว่าน”เผิงซือไห่ยิ้มอย่างเย็นชา พาจ้าวหยานและคนอื่น ๆ เดินเข้าไปในโรงยิมเฉียนไป๋หว่านนั้นไม่โกรธ อย่างไรเสียทั้งสองฝ่ายก็มีเรื่องกันมานานแล้ว"ผู้เฒ่าฉิน ต่อไปก็ขึ้นอยู่กับพวกคุณแล้ว"ฉินเหวินเทียนพยักหน้าก่อน พาทุกคนตามเขาเข้าไปในโรงยิมหลังจากเข้าไปแล้ว ฉู่เฉินก็เห็นสังเวียนขนาดใหญ่อยู่ข้างใน สามารถจุคนได้ร้อยคนในเวลาเดียวกันด้านล่างมีที่นั่งทรงวงแหวนเรียงกันเป็นแถว สามารถรองรับคนได้เป็นพันคนและตอนนี้บนสังเวียนมีชายเปลือยอกสองคน กําลังต่อสู้กันอยู่ฉู่เฉินไม่ได้ตามฉินเหวินเทียนและคนอื่นๆไป แต่หาที่นั่งและชมการแข่งขันบนสังเวียนด้วยความสนใจเสี่ยวเสว่เดินมาแนะนำ “คุณฉู่ นี่เป็นแมตซ์อุ่นเครื่อง อีกสิบกว่านาทีก่อนการต่อสู้จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการฉู่เฉินพยักหน้าและกําลังจะพูด เสียงประจบประแจงดังขึ้นมาจากข้าง ๆ "พี่โหว มานั่งที่นี่เถอะครับ"หวังซวี่และอีกพวกสามคนพาโหวเหลยมาบังเอ
"ครั้งหน้า ฉันจะฆ่าพวกแก!"คำพูดของฉู่เฉินเปรียบเสมือนเข็มที่ทิ่มแทง ซึ่งทำให้ท่าทีของหวังซวี่และพรรคพวกของเขาแข็งทื่อทันทีเฉินย่าต้องปิดปากแน่นยิ่งกว่าเดิม คำพูดที่หยาบคายมาถึงปลายลิ้นของเธอหลายครั้งต่อหลายครั้ง แต่สุดท้ายเธอก็ไม่กล้าพูดออกมาเพราะน้ําเสียงของฉู่เฉินนั้นไม่ได้ล้อเล่น ถ้าทําให้เขาโกรธจริง ๆ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมากแม้ว่าโหวเหลยจะไม่กลัวฉู่เฉิน แต่ก็ไม่ดีที่จะทําให้เรื่องใหญ่โต ได้แต่พูดคำพูดที่โหดร้ายลง "ไอ้หนู ฉันโหวเหลยจะจำแกไว้!"ฉู่เฉินไม่สนใจพวกเขาอีกต่อไป เขาหันหน้าไปทางเสี่ยวเสว่แล้วถามว่า "คุณโอเคไหม?""คุณฉู่ ฉันไม่เป็นไร" เสี่ยวเสว่เช็ดน้ำตาและส่ายหัวตอนนั้นเอง ก็เกิดความโกลาหลในสถานที่จัดงาน"ดูสิ นายกเทศมนตรีเผิงมาแล้ว!""ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองเฮยหยุนด้วย"“……”“……”ทุกคนรีบเงยหน้าขึ้นมอง และเห็นเพียงคนสองกลุ่มเดินออกมาจากสองทางเดินด้านซ้ายคือ เผิงซือไห่ นายกเทศมนตรีเมืองเฮยหยุนและด้านหลังเขาตามมาด้วยจ้าวเหยียนและคนอื่น ๆด้านขวาเป็นเศรษฐีที่ร่ำวยที่สุดในเมืองเฮยหยุน ข้างหลังเขาตามมาด้วยฉินเหวินเทียน ฉินป
ฉู่เฉินตกตะลึง ไม่คิดว่าจู่ๆโหวเหลยจะพูดถึงตัวเอง"ปรมาจารย์ฉู่?"มีเพียงหวังซวี่เท่านั้นที่สีหน้าเปลี่ยนไปและอุทาน "หรือว่าจะเป็นปรมาจารย์ฉู่ที่มีข่าวลือเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าชกปรมาจารย์จนตายและสามารถควบคุมสายฟ้าได้"พ่อของเขาเป็นเจ้าของโรงแรมเทียนเซิงและมักจะต้อนรับคนใหญ่คนโตในหนานเจียงหลายคน ดังนั้นเขาจึงได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับปรมาจารย์ฉู่"ไม่เลว"โหวเหลยยิ้มอย่างเหยียดหยามและพูด "ครั้งนี้อาจารย์ของฉันมาจัดการกับปรมาจารย์ฉู่ของตระกูลฉิน"“พี่ใหญ่โหว ผมได้ยินมาว่าปรมาจารย์ฉู่คนนี้สามารถควบคุมสายฟ้าได้นะ ปรมาจารย์หม่าเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้เหรอฦ" หวังซวี่พูดบางอย่างที่ไม่เชื่อ"ควบคุมสายฟ้า?"โหวเหลยเหยียนดหยาม "นั่นเป็นเพียงข่าวลือเล็กๆน้อยๆ เท่านั้น มนุษย์ธรรมดาจะมีพลังในการควบคุมสายฟ้าได้ยังไง""ผมก็คิดแบบนั้น" หวังซวี่พยักหน้าเห็นด้วยมากและชื่นชม "พี่ใหญ่โหว อีกสักพวกเราจะได้เห็นความกล้าหาญของปรมาจารย์หม่าแล้ว""ได้ การที่พวกนายได้เห็นฝีมือของอาจารย์ฉัน จะเป็นโชคดีของพวกนายไปตลอดชีวิต จําไว้ว่าเบิกตากว้างมองดูให้ดีๆ ล่ะ" โหวเหลยยิ่งภูมิใจมากขึ้นเขาพูดอย่างกระตือรือร้น ฉู่เ
ปรมาจารย์หม่าค่อย ๆ ลืมตาขึ้น พูดเบา ๆ ว่า "ท่านผู้นำตระกูลจ้าวมั่นใจได้ ถ้าหม่าลงมือ ไม่มีอุบัติเหตุ""งั้นก็ได้ เชิญเถอะ" จ้าวเหยียนหยุดความตื่นเต้นไม่ได้เมื่อทุกคนคิดว่าปรมาจารย์หม่าจะขึ้นเวทีด้วยทักษะที่น่าเหลือเชื่อพวกเขาเห็นเขาเดินขึ้นไปบนเวทีทีละก้าวโดยเอามือข้างหนึ่งไพล่ไว้ด้านหลัง โดยปราศจากทักษะเทคนิคใดๆ เลยผู้ชมอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงผิดหวัง แม้แต่หวังซวี่กับพวกก็ไม่มีข้อยกเว้นโหวเหลยมองเห็นสถานการณ์นี้ จึงแกตัวด้วยความเขินอาย “แค่กๆ อาจารย์ของข้าเป็นคนค่อนข้างเรียบง่าย”"เข้าใจแล้ว ปรมาจารย์หม่าก็เป็นบุคคลระดับสูง บุคคลระดับสูงมักจะเรียบง่ายและไม่โอ้อวด” หวังซวี่รับพยักหน้าอย่างรวดเร็ว"ไม่เลว ยิ่งเป็นแบบนี้ พวกเรายิ่งรู้สึกว่าปรมาจารย์หม่านั้นคาดเดาไม่ได้ ห่างไกลจากสิ่งที่นักพรตเต๋าบนเวทีจะเปรียบเทียบได้"กัวรุ่ยและเฉินย่าก็เห็นด้วยในใจโหวเหลยรู้สึกดีขึ้นไม่น้อยเขาอดไม่ได้ที่จะมองฉู่เฉินอย่างเย็นชา เขาพูดว่า "ไอ้หนู อีกเดี๋ยวแกเบิกตาของแกให้กว้างและมองให้ดี ๆ ดูว่าอาจารย์ของฉันมีพลังมากแค่ไหน""ฉันกำลังดูอยู่" ฉู่เฉินแสดงสีหน้าตลกขบขันโหวเหลยหัวเราะ
หมัดนี้ ตรงเข้าที่ฟันหน้าของปรมาจารย์หม่าหัก จนอาเจียนออกมาพร้อมด้วยเลือดกับฟันเป็นจังหวะเดียวกับที่อู่ฉางชุนง้างหมัดที่สามของเขานั้นปรมาจารย์หม่ากระโดดลงมากราบกับพื้นทันทีว่า ”โอ้ย อย่าตีเลย อย่าตีเลย ผมยอมแพ้แล้วในทันที สถานการณ์ที่มีเสียงโหวกเหวกแต่เดิมก็เงียบกริบลงไปทุกคนมองภาพนั้นบนสังเวียนด้วยสีหน้าว่างเปล่าโหวเหลยและหวังซวี่กับพวกยิ่งเหมือนกลายเป็นหินนี่ยังเป็นปรมาจารย์หม่าที่มีชื่อเสียงอยู่เหรอ? ทําไมเขาถึงได้อ่อนแอแบบนี้?อู่ฉางชุนเอื้อมมือไปจับข้อมือเขา แล้วตะโกนว่า "แกจะไม่เป็นกังฟูเลยสักนิด เสียดายจริงๆที่ก่อนหน้านี้สนใจคนอย่างแก""ใช่ ฉันไม่รู้กังฟูเลยจริง ๆ" ปรมาจารย์หม่าเสแสร้งต่อไปไม่ได้แล้ว พูดตามความจริง "ฉัน... เหตุผลที่ฉันมีชื่อเสียงในตอนนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะฉันหาคนมาสมรู้ร่วมคิดและแสดงละคร..."เมื่อสิ้นเสียงของเขา ด้านล่างเวทีก็กลายเป็นโกลาหล ทุกคนคิดว่าพวกเขาหูฝาดไปแล้วปรากฎว่าปรมาจารย์ที่พวกเขาเฝ้าดูเป็นเพียงนักแสดงจอมปลอมใช่ไหม?ในขณะนั้น หวังซวี่ก็อ้าปากกว้าง กัวรุ่ยก็อ้าปากกว้าง เฉินย่าก็อ้าปากกว้างนี่คือปรมาจารย์หม่าที่โหวเหลยยกย่องช
อาจารย์อาวุสโสเฟิง?เมื่อเห็นการพฤติกรรมของสมาชิกทุกคนในตระกูลจ้าวแล้ว ณะนั้น ทุกคนก็หันกลับมาและมองไปยังทางเข้าโรงยิมไม่รู้ว่าตอนไหน ที่ชายวัยกลางคนสวมชุดสีดําและเท้าเหยียบส้นรองเท้าผ้าก็ปรากฏตัวขึ้นชายคนนั้นดูเหมือนต้นไม้โบราณอายุพันปี ทั้งร่างไม่มีร่องรอยการรั่วไหลของพลังชีวิต และเขาก็ดูเป็นแค่คนธรรมดาแต่ ปรมาจารย์วรยุทธหลายคนในตอนนี้ต่างก็มองหน้ากัน ส่วนลูกศิษย์ของพวกเขาหดตัวเล็กลงเพราะแม้แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าชายวัยกลางคนนั้น มาปรากฏตัวตั้งแต่เมื่อใดต้องรู้ว่าในฐานะนักสู้ พวกเขามีความไวต่อพลังชีอย่างมาก และแม้แต่ต้นไม้ก็ไม่สามารถซ่อนพลังชีได้เหมือนว่าชายวัยกลางคนจะโผล่ออกมาจากอากาศ ซึ่งทำให้พวกเขานั้นตกใจแข็งแกร่ง!คนๆ นี้จะต้องเป็นปรมาจารย์แน่!"ห้ะ?"แม้แต่สายตาของฉู่เฉินก็จับจ้องหยุดอยู่ที่ชายวัยกลางคน ดวงตาระยิบระยับด้วยความประหลาดใจนับตั้งแต่ที่เขาลงมาจากภูเขาจนถึงตอนนี้ ในที่สุดก็ได้พบกับปรมาจารย์สักทีในสายตาของทุกคนนั้น เห็นชายวัยกลางคนแบกมือข้างเดียว เพียงนึ่งก้าวก็ขยับไปข้างหน้าทันทีห้าเมตรเมื่อปลายเท้าของเขาสัมผัสพื้น ก็เกิดระเบิดขึ้นที่พื้น และเกิด
บรรพบุรุษของตระกูลจ้าว?ท่าทางของฉินเหวินเทียนเปลี่ยนไปอย่างมากเขาคับคล้ายคับคาว่าตระกูลจ้าวมีบรรพบุรุษ แต่จากไปเพื่อฝึกฝนวิชาเมื่อหลายปีก่อน และมีข่าวลือน้อยมากผู้คนต่างคิดว่าอีกฝ่ายบวชเป็นพระไปแล้วคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะฝึกสอนลูกศิษย์ที่มีพลังอันน่าสะพรึงกลัวขนาดนี้!ดวงตาของเฟิงซิ่วเหมือนกับสายฟ้า และออร่าเบียดทับฉินเหวินเทียน: "ได้ยินมาว่าตระกูลฉินของแกมีปรมาจารย์ฉู่คนหนึ่ง ด้วยแรงสนับสนุนของเขา ทำให้พวกแกกดขี่ครอบครัวจ้าวและยังฆ่าศิษย์น้องลู่ของฉันด้วยซ้ำ""ท่านครับ ตระกูลฉินของผมไม่เคยคิดจะข่มเหงตระกูลจ้าวเลย ส่วนเรื่องที่ทำให้ศิษย์น้องตาย..." หางตาของฉินเหวินเทียนกระตุกอย่างแรง เมื่อต้องอธิบาย“เหอะๆ”เฟิงซิ่วหัวเราะออกมา และขัดจังหวะเขา: "ฉันไม่สนใจสาเหตุของความขัดแย้งระหว่างพวกแก ฉันจะให้โอกาสตระกูลฉิน ตราบใดที่แกส่งตัวปรมาจารย์ฉู่มา และประกาศยอมแพ้ต่อตระกูลจ้าวนับแต่วันนี้ ฉันจะไว้ชีวิตพวกแกเอง!”"ไม่อย่างงั้น ฉันจะทำให้ตระกูลฉินของแกตายอย่างศพไม่สวย!"เมื่อพูดถึงประโยคนี้ เขาก็กําหมัดไว้แน่น ทำให้หน้าจอโฆษณา LED ขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างหลังเขาระเบิด และชิ้นส่วนนับไม่ถ้