ฉู่เฉินไม่ได้โกรธเลยสักนิด แถมยังพูดติดเล่นไปด้วยว่า: "หวังซวี่ ถ้าฉันบอกว่าเดี๋ยวนายก็จะไม่ได้เป็นรองผู้จัดการแล้ว นายจะเชื่อฉันไหม?"หวังซวี่โกรธขึ้นมาทันที: "แกมายุ่งไรด้วย!"ถังรั่วเวยที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พูดอย่างเย็นชา: "ฉู่เฉิน ถึงแม้แกจะอิจฉาหวังซวี่ เพราะเขาเก่งกว่า แต่ก็ไม่ควรพูดจาแบบนี้ไหม?"“ผมอิจฉาเขา?” ฉู่เฉินหัวเราะ"หรือว่าไม่ใช่?"ถังรั่วเวยมองไปที่ฉู่เฉิน ด้วยสีหน้ารังเกียจ : " หวังซวี่กลายเป็นรองผู้จัดการทั่วไปของบริษัทตั้งแต่อายุยังน้อย แต่แกยังเป็นพนักงานตำแหน่งเล็กๆ ถ้าไม่ได้อิจฉาแล้วจะเป็นอะไร”“แล้วแต่คุณจะคิดเถอะ เชื่อผม เดี๋ยวผู้ชายที่คุณได้ภาคภูมิใจคนนี้ก็จะกลับไปอยู่ตำแหน่งเดิมแล้วล่ะ”ฉู่เฉินเหนื่อยเกินกว่าจะโต้เถียงกับเธอและจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำขณะนั้นเองโทรศัพท์มือถือของถังรั่วเวยก็ดังขึ้น หน้าจอปรากฏเป็นถังไห่ซานหลังจากสนทนาจบ เธอก็รั้งฉู่เฉินไว้และพูดว่า "เดี๋ยว พ่อฉันมีเรื่องจะคุยด้วย"ฉู่เฉินขมวดคิ้ว รับโทรศัพท์มาพูด “ลุงถัง”“เสี่ยวฉู่ ว่างไหม มาโรงแรมทอมสันหน่อยสิ ลุงมีข่าวดีจะบอกน่ะ” ถังไห่ซานพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นผ่านโทรศัพท์ข่าวดี?ฉู่เฉินตกตะลึงเ
กัวรุยและเฉินย่าได้ยินแบบนั้น ทั้งคู่ก็รู้สึกสมน้ำหน้าพวกเขารู้ว่าหวังซวี่กำลังจะจัดการฉู่เฉินภายในทางเข้าลานจอดรถของโรงแรมทอมสัน มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนกำลังงีบหลับขณะนั้นเองฉู่เฉินก็ขับรถมาหยุดหน้าทางเข้า เมื่อเห็นว่าที่กั้นไม่ยอมยกขึ้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะกดแตรรถเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองคนสะดุ้ง ขณะที่กำลังจะอ้าปากด่าคน เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นโลโก้สีทองของโรลส์-รอยซ์ พวกเขาตัวสั่นทันทีและรีบเปิดที่กั้นขึ้นหลังจากที่ฉู่เฉินพยักหน้าขอบคุณทั้งสองคนแล้ว เขาก็ขับรถเข้าไปในลานจอดรถเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งรีบเดินตามเขาไปทันที หลังจากที่จอดรถแล้ว ก็เดินเข้ามาข้างหน้าด้วยสีหน้าประจบประแจง: "เจ้านายครับ ให้ผมช่วยจอดรถไหมครับ?"เมื่อฉู่เฉินกำลังจะปฏิเสธ ถังไห่ซานก็โทรมาอีกครั้ง“งั้นก็รบกวนหน่อยแล้วกัน”ฉู่เฉินยื่นกุญแจรถให้เขา หันหลังเดินเข้าไปในลิฟต์ใกล้ๆ"ไม่มีปัญหาครับ ไม่มีปัญหาครับ"เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรับกุญแจแล้วส่ายหัวซ้ำ ๆ ที่เขาเคยเจอมักจะเย่อหยิ่ง มีเพียงฉู่เฉินเท่านั้นที่ดูใจดีและอ่อนโยนหลังจากที่เขาจอดรถและจากไป เมอร์เซเดส-เบนซ์ S ก็ขับเข้
แม้ว่าเธอจะอยู่ห่างออกไปสองถึงสามเมตร ฉู่เฉินก็ยังคงรู้สึกได้ถึงความธรรมดาและความมั่นใจของเธอเขาอดไม่ได้ที่จะหันศีรษะไปถามถังไห่ซาน : "ลุงถัง นี่คือ ...... "ถังไห่ซานยิ้มและพูดว่า: "เสี่ยวฉู่ ที่ลุงเรียกนายมาวันนี้ ก็เพราะอยากแนะนำเสี่ยวหยุน ลูกสาวของป้าหันให้นายรู้จักนะสิ คนหนุ่มสาวแบบพวกเธอคุยเก่ง ก็คุยกันหน่อย"ฉู่เฉิน: "..."เขานึกว่าถังไห่ซานจะเรียกเขามาเพราะมีธุระสำคัญหลังจากวุ่นวายอยู่นาน ที่แท้ก็มานัดดูตัวให้ตัวเอง?เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า: "ลุงถังครับ ผมยังมีงานต้องทำ ผมต้องขอตัวออกไปก่อนแล้วกันนะครับ..."ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่ได้มองหวงหยุนเลยด้วยซ้ำหลังจากได้ยินคำพูดของเขา ใบหน้าหันฮุยก็ตึงขึ้นทันทีเด็กเวร?แกหมายความว่าไง?ปล่อยให้ผู้ใหญ่รออยู่ที่นี่ตั้งนาน ผลลัพธ์ก็คือนายมาเพื่อก้มหัวแล้วก็ไปอย่างนี้หรอ?ขณะที่ถังไห่ซานอยากจะโน้มน้าวให้ฉู่เฉินอยู่ต่อ หวงหยุนก็พูดขึ้น: "ฉู่เฉินใช่ไหม? คุณพยายามเล่นตัวเพื่อดึงดูดความสนใจฉัน ดูตัวเองหน่อยว่าคุณคู่ควรไหม”เธอมองฉู่เฉินอย่างมั่นใจก่อนจะพูดต่อ : "บอกตามตรงเลยนะว่าคนแบบพวกคุณเมื่อก่อนฉันก็ไม่ชอบหรอก แต่เพรา
ฉู่เฉินเลิกคิ้วขึ้นแล้วพูดต่อ : "ผมก็แค่บอกว่าผมไม่ค่อยขับรถ ไม่ได้บอกว่าไม่มีรถนี่ครับ จริงๆ แล้วผมพึ่งซื้อรถ โรลส์-รอยซ์ แฟนทอมจาก 4S มา"“ส่วนบ้านน่ะเหรอ ผมไม่มีจริงๆ ครับ เพราะผมมีแค่คฤหาสน์อวี้หลงวานหมายเลข 1 ”“ส่วนเงินฝาก 100 ล้านก็น้อยเกินไป ถ้าน้อยกว่า 1 หมื่นล้านก็ว่าไปอย่าง”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา การแสดงออกของหันฮุยและคนอื่น ๆ ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงโรลส์-รอยซ์ แฟนทอม?คฤหาสน์?เงินฝากหมื่นล้าน?หลังจากทะเลาะกันอยู่นานถึงได้รู้ว่าว่าเด็กคนนี้เป็นเศรษฐีหันฮุยกลายเป็นคนกระตือรือร้นขึ้นมาทันที ขณะที่เธอกำลังจะทำดีกับฉู่เฉินก็มีเสียงเหน็บแนมดังมาจากนอกประตู: "ไอฉู่ ถ้าไม่โม้ มันจะตายเหรอวะ!"สักพักต่อมาก็เห็นหวังซวี่ ถังรั่วเวย และเฉินย่าก็ได้วางมาดเดินเข้ามา“เสี่ยวหวัง รั่วเวย มาสักที” ถังไห่ซานรีบขยิบตาให้ทั้งสามคนมาช่วยทำให้ในฉู่เฉินคบกับหวงหยุนแต่หวังซวี่แสร้งทำเป็นไม่เห็นและพูดว่า: "สวัสดีครับ พวกเราเป็นหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานของฉู่เฉิน สงสัยอะไรถามพวกเราได้เลยนะครับ"ขณะที่เขาพูด เขาก็หมุนกุญแจรถเมอร์เซเดส เบนซ์ S ในมือดวงตาของหันฮุยสว่างขึ้น และเธอก็ถามทั
พอฉู่เฉินพูดจบ พวกฮันฮุ่ยทั้งสามคนต่างก็ตกตะลึงกันไปหวังซวี่พูดอย่างโกรธเคืองไปว่า “ป้าฮันอย่าไปฟังเรื่องไร้สาระที่ไอ้เด็กนี่พูดเลยครับ เด็กนี่มันก็แค่อิจฉาผม ถึงได้บอกไปว่าผมจะอยู่ในตำแหน่งรองผู้จัดการได้ไม่นาน”ฮันฮุ่ยตวาดใส่ฉู่เฉิน “ขอร้องล่ะ นายคิดว่าตัวเองเป็นประธานบริษัทของเสี่ยวหวังรึยังไง”“นายมันก็เป็นแค่พนักงานตัวเล็กๆกระจอกๆ ตัวเองยังจะต้องคอยมองสีหน้าเสี่ยวหวังก่อนทำอะไรด้วยซ้ำไป”“ไร้น้ำยานักก็อย่าแสร้งทำเป็นเก่งนักเลย ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าพี่หวัง พวกเราไล่นายออกไปตั้งนานแล้ว”หวงเทามองไปที่ฉู่เฉินอย่างเย้ยหยัน“พี่หวัง งั้นพรุ่งนี้ฉันกับพี่ชายจะไปที่บริษัทของคุณ รบกวนคุณช่วยดูแลด้วยนะคะ”หวงอวิ๋นพูดอย่างประจบประแจง“วางใจเถอะน่า”หวังซวี่ตบไปที่หน้าอกของเขาทันทีและสัญญาไปว่า “ถึงตอนนั้นฉันจะแนะนําพวกเธอให้กับบริษัทได้อย่างแน่นอน”“ได้ งั้นก็ขอขอบคุณคุณเสี่ยวหวังล่วงหน้าเลยนะคะ”ฮันฮุ่ยยิ้มแล้วเหลือบมองฉู่เฉินอย่างดูถูก “เสี่ยวหวัง ป้าฮันก็ไม่ได้อยากจะปากมากหรอกนะ แค่อยากจะบอกว่าพนักงานที่ไม่เชื่อฟังอย่างไอ้เด็กนี่น่ะ คุณควรจะไล่ออกได้แล้วนะ”“คำแนะนำนี้ของป้าฮันฟังดูดี
พอหารถเบนซ์คันนั้นเจอ หวังซวี่ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบจะกระโดดไปนั่งตรงเบาะคนขับ“หวังซวี่ คุณดื่มมานี่ ฉันว่าอย่าขับเลยดีกว่าค่ะ ให้กัวรุ่ยขับเถอะ” ถังรั่วเวยพูดอย่างไม่สบายใจ“ไม่เป็นไร ฉันไม่เมา ฉันยังมีสติดีอยู่” หวังซวี่สะบัดมือของเธอออกแล้วจึงไปนั่งเบาะคนขับไม่รู้ว่าเพราะเขาเมาหรือว่าเพื่อจะทำเก๊กกันแน่ เมื่อเขาสตาร์ทรถก็ตั้งใจเหยียบคันเร่งสุดแรงจนเกิดเป็นเสียงดัง“บรื้นบรื้นบรื้น!”ทันใดนั้นทั้งโรงจอดรถก็เต็มไปด้วยเสียงเหยียบคันเร่งรถที่ดังสนั่น“พวกเธอรอดูนี่สิ ฉันไม่ได้เมา”หวังซวี่ผิวปากแล้วพูดขึ้นว่า “พวกเธอหลบทางหน่อย เดี๋ยวฉันจะขับรถออกไป”“คุณระวังด้วยนะคะ” ถังรั่วเวยพูดเตือน“ฉันไม่ได้เมาจริงๆ”หวังซวี่พูดจบก็ใส่เกียร์ หมุนพวงมาลัย แล้วเหยียบคันเร่งเพื่อออกตัวรถแต่ทว่ารถกลับเดินถอยหลัง“เอ๋ ทำไมถึงถอยหลังล่ะ หรือว่าฉันเมาแล้วจริงๆ หรอเนี่ย”หวังซวี่รู้สึกแปลกๆ จึงนึกขึ้นได้ทันใดก็รีบเหยียบเบรก“โครม!”ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่ารถเบนซ์ของตัวเองเหมือนกับว่าจะชนกับอะไรเข้า และก็แรงมากซะจนตัวถังรถยุบเข้าไปเลยหวังซวี่สร่างเมาในทันใดและรีบมองไปที่กระจกมองหลังก็พบว่าที่แท้ตอนที
เมื่อได้ยินเสียงนั้น หวังซวี่และคนอื่นๆ ต่างก็ตกใจทันที พวกเขาคิดว่าคงเป็นเจ้าของโรลส์-รอยซ์แฟนธอมมาแต่เมื่อพวกเขาหันหลังกลับไปมอง สิ่งที่เห็นตรงหน้าก็คือร่างที่คุ้นเคยหลังจากที่เห็นเจ้าของร่างนี้ ความตื่นตระหนกบนใบหน้าของหวังซวี่ก็หายไปในทันที แทนที่ด้วยการดูถูกไม่รู้จบ “ที่แท้ก็เป็นนายบ้านนอกนี่เอง ทำให้ฉันตกใจซะแทบแย่”“ไม่งั้นนายคิดว่าใครกันล่ะ” ฉู่เฉินเลิกคิ้วถามเฉินย่าพูดอย่างเย็นชาว่า “นายแซ่ฉู่ ฉันบอกให้นายไสหัวไปไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงยังหน้าด้านตามพวกเราลงมาอีก”“เจ้าเด็กนี่สงสัยจะเสียดายเมื่อกี้ที่ปฏิเสธคุณชายหวังไปแน่ๆ เลยคิดจะมากราบขอขมาคุณชายหวัง”กัวรุ่ยพูดอย่างดูถูก“ตอนนี้ถึงจะมานึกเสียดายหรอ สายไปแล้วล่ะ ฉันจะบอกนายให้นะ รอไว้พรุ่งนี้ให้ฉันไปบริษัทจะไล่นายออก” หวังซวี่พูดออกมาอย่างเย็นชาพูดจบเขาก็ลงจากรถ แล้วล้วงเข้าไปในกระเป๋าหยิบเงินออกมาโยนให้ฉู่เฉินแบงค์นึง “ฉันให้ค่าแท็กซี่นาย 50 บาท รีบรับไปแล้วรีบไสหัวไปซะ”เขากลัวว่าหากมัวเสียเวลาต่อปากต่อคำกับฉู่เฉินอยู่ อีกเดี๋ยวเจ้าของรถโรลส์-รอยซ์ก็จะมา เดี๋ยวพวกเขาก็หนีไม่ทันกันพอดีฉู่เฉินส่ายหัวไปมา เดินไปหน้ารถโรลส์-รอยซ
เขาเป็นแค่รปภ. ตัวเล็กๆ เงินเดือนแต่ละเดือนก็แค่หมื่นสองหมื่น จะรับผิดชอบยังไงไหวหวังซวี่สีหน้าเปลี่ยน รีบพูดขึ้นว่า “พี่รปภ.ครับ ผมไม่ทันระวังเลยชนเข้าให้ เอ่อ ขอโทษนะครับ……”รปภ. เดินเข้าไปถีบหวังซวี่จนล้มกลิ้ง แล้วพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่สั่นเทา “บัดซบ ที่แท้ก็คือเอ็งสินะ แม่งมาพูดขอโทษจะมีประโยชน์อะไรวะ มึงทำกูเดือดร้อนแล้ว”ถ้าหากสายตาฆ่าคนได้ ไม่รู้ว่าหวังซวี่จะต้องตายไปแล้วกี่ครั้งเนื่องจากฉู่เฉินยืนอยู่ที่มุมหนึ่ง ตามด้วยรปภ.ที่สายตาล้วนหยุดอยู่ที่ตัวของหวังซวี่ เพราะงั้นในขณะนึงเลยไม่ทันได้เห็นเขา“นาย……นายทำไมทำร้ายคนอื่นแบบนี้ล่ะ” ถังรั่วเวยมองเขาด้วยสายตาโกรธเคืองกัวรุ่ยและเฉินย่าก็รีบเดินเข้าไป ราวกับว่าจะลงมือกับ รปภ.ทำไม รปภ. จะไม่เคยผ่านการต่อสู้มาก่อน คนแค่นี้เขาจะกลัวอะไรเขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างเยือกเย็น “อะไรกัน พวกมึงชนรถหรูของแขกพิเศษ ยังคิดจะทำร้ายคนอื่นด้วยงั้นเหรอวะ”“ได้ งั้นพวกมึงคอยดู”เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงก็หยิบมือถือขึ้นมาตามพวก “เหลาหม่า รีบพาพวกสักสิบกว่าคนลงมา ใช่ ที่โรงจอดรถใต้ดิน”พอเห็นเขาตามพวกมา หวังซวี่ก็ยิ่งตื่นตระหนก รีบตะเกียกตะกายยืนขึ้นไม่ส