Home / แฟนตาซี / เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์ / บทที่ 7 เจ้าเก็บความลับได้หรือไม่??? 

Share

บทที่ 7 เจ้าเก็บความลับได้หรือไม่??? 

last update Huling Na-update: 2024-11-16 11:15:20

บทที่ 7 เจ้าเก็บความลับได้หรือไม่??? 

วันเวลาผ่านไปอีก 1 สัปดาห์ที่พวกเขาเดินทาง และระยะทางที่จะถึงจุดหมายนั้นยังอีกประมาณครึ่งเดือน ค่ำวันหนึ่งเจียงหย่าเสวี่ยกำลังนอนพัก เธอเงี่ยหูฟังเสียงลมที่พัดผ่านใบไม้ เสียงนกร้อง และเสียงพูดคุยจากท่านแม่เจียงซิ่วเหยาและป้าจวงที่อยู่ใกล้ ๆ แม้ไม่ได้ตั้งใจจะฟัง แต่คำพูดบางคำก็แว่วเข้ามาในหู ทำให้เธอหยุดพู่กันที่กำลังขยับอยู่บนกระดาษ

"คุณหนูเจ้าคะ ตอนนี้เงินที่เหลืออยู่ก็เพียง 400 ตำลึงเท่านั้นเอง อีกทั้งเรายังต้องเดินทางอีกเกือบหนึ่งเดือน ข้าก็ไม่รู้ว่าพวกเราจะทำอย่างไรกันต่อไปดี" ป้าจวงพูดด้วยน้ำเสียงกังวลเงินที่หมดไปส่วนใหญ่นั้นก็เพราะต้องซื้อยาซื้อโสมราคาแพงมาบำรุงคุณหนูที่ป่วยหนักมาตลอดทั้งเดือน ถ้าไม่มีโสมและยาทั้งหมดนั้น คุณหนูคงไม่สามารถรอดมาได้ป้าจวงตอบด้วยความเศร้าใจ

"ข้าไม่สนว่าเงินจะหมดไปเท่าไร สุขภาพของลูกสาวข้านั้นสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด ถ้าการใช้จ่ายเหล่านี้ทำให้เสวี่ยเออร์ของข้าหายป่วย ข้าก็ยินดีที่จะแลกทุกอย่าง"

เจียงซิ่วเหยาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตาของนางเปี่ยมไปด้วยความรักและความห่วงใย

เจียงหย่าเสวี่ยฟังคำพูดเหล่านั้นและรู้สึกหัวใจบีบแน่น แม้ว่าท่านแม่และป้าจวงจะพยายามช่วยเหลือและทำทุกวิถีทางเพื่อให้นางหายป่วย แต่ทุกอย่างกลับกลายเป็นภาระทางการเงินที่หนักอึ้ง การที่เงินทองเหลือน้อยเหลือเกินทำให้นางรู้สึกว่าตนเองต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยครอบครัวเสียแล้ว

ถึงแม้ว่าตอนนี้เจียงหย่าเสวี่ยจะหายป่วยแล้ว แต่ร่างกายของนางยังคงอ่อนแออย่างมาก ร่างผอมบางของนางดูบอบบางเหมือนกิ่งไม้ที่อาจหักได้ง่าย ใบหน้าสวยงามของนางซีดเซียวและไร้สีเลือด ถึงแม้ว่านางจะมีความงามที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ความเจ็บป่วยที่ยาวนานทำให้นางสูญเสียความสดใสไป ความผอมของนางเห็นได้ชัดเมื่อสวมใส่ชุดที่หลวมเกินไป

สามวันต่อมา เมื่อพวกเขาเดินทางไปถึงบริเวณเชิงเขาแห่งหนึ่ง เป็นพื้นที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งหญ้าเขียวขจีและดอกไม้ป่าที่เบ่งบาน เจียงซิ่วเหยาจึงตัดสินใจหยุดพักเพื่อให้ทุกคนได้ผ่อนคลายจากการเดินทางที่เหน็ดเหนื่อย พวกเขาจัดค่ายพักอยู่ใกล้กับเชิงเขา มีภูเขาสูงตระหง่านอยู่ข้างหลังและป่าไม้ที่สงบล้อมรอบ

เจียงหย่าเสวี่ยเอ่ยบอกท่านแม่ด้วยน้ำเสียงเบา ๆ

"ท่านแม่ ข้าขออนุญาตออกไปเดินเล่นสักครู่เจ้าค่ะ ตรงนั้นต้นไม้เยอะน่าจะไม่ร้อน ข้าไปไม่ไกลเจ้าค่ะ"

เจียงซิ่วเหยาขมวดคิ้วเล็กน้อย นางดูเป็นห่วงลูกสาวมาก

"เจ้าใหญ่ เจ้าจะออกไปคนเดียวหรือลูก? แม่ไม่ไว้ใจ ถ้าอย่างนั้นให้เจ้าเล็กเดินไปกับเจ้าด้วยดีหรือไม่?" นางมองร่างผอมบางของลูกสาวด้วยความเป็นห่วง เกิดเป็นลมหมดสติไปจะทำอย่างไร ให้เจ้าเล็กไปด้วยนะดีแล้ว

เจียงหย่าเสวี่ยนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง นางรู้ว่าท่านแม่เป็นห่วง นางหันมองเจ้าน้องชาย 6 นิ้ว (มือ) ของนาง เจียงหยวนเจี๋ยที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ และยิ้มแป้นมองมาเพราะเขาก็อยากออกไปเดินเล่นเช่นกัน และเขามองกดดันนางมาก สีหน้าเหมือนจะบอกว่า ‘ตกลงสิพี่ใหญ่ ตกลงสิพี่ใหญ่’ อะไรประมาณนั้น เมื่อเห็นสายตาคาดหวังขนาดนั้นเจียงหย่าเสวี่ยยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยแล้วจึงพยักหน้า

 "ก็ได้เจ้าค่ะ ท่านแม่ เจี๋ยเออร์ไปกับพี่ใหญ่นะ"

“ไป ไป…ข้าจะไปเป็นเพื่อนท่านเองพี่ใหญ่”

เจียงหยวนเจี๋ยกระโดดลุกขึ้นด้วยท่าทางกระตือรือร้น แม้ว่าร่างกายของเขาจะผอมบางมาก แต่ในดวงตาของเขายังมีความมุ่งมั่นและความสดใส หน้าตาของเขาน่ารักหล่อเหลาแม้จะยังเด็ก ผมดำยาวตกลงมาเล็กน้อยปิดหน้าผาก และรอยยิ้มที่ซุกซนเล็กน้อยทำให้เขาดูเป็นเด็กที่มีเสน่ห์

"พี่ใหญ่ข้าจะไปกับพี่เอง ข้าจะปกป้องพี่ให้ดีที่สุดเลย! ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะขอรับ เชื่อใจข้าได้เลย" เจียงหยวนเจี๋ยพูดด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความมั่นใจจากนั้นก็ใช้มือเล็กตบที่หน้าอกเล็กๆ ของตัวเองเป็นการบอกว่าให้เชื่อเขาได้เลย แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าตนเองยังคงอ่อนแอเช่นกัน เนื่องจากการเดินทางที่ยาวนานและไม่ได้กินอาหารมากนักทำให้เขาผอมเช่นเดียวกับพี่สาวของเขา แต่ว่า…เขาอยากไปเดินเล่น…เออ…. เขาอยากไปปกป้องพี่ใหญ่….

เจียงหย่าเสวี่ยมองหน้าน้องชายอย่างเอ็นดู นางเอื้อมมือไปลูบศีรษะของเขาเบา ๆ 

"ขอบใจมากนะ พอมีเจ้าไปด้วยแล้วพี่ใหญ่รู้สึกมั่นใจขึ้นเยอะเลย ไปกัน!!"

เจียงหย่าเสวี่ยเดินจูงมือน้องชายขี้โรคของนางออกมาจากค่ายพัก ขณะที่คนอื่น ๆ กำลังจัดการเตรียมอาหารและดูแลที่พัก

เจียงหย่าเสวี่ยพูดกับน้องชายเมื่อเดินมาไกลสายตาคนพอสมควร

 "เจ้าเล็ก เจ้าสามารถรักษาความลับได้หรือไม่?"

เจียงหยวนเจี๋ยตอบทันทีด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

"รักษาได้สิพี่ใหญ่ ข้านะเป็นคนที่รักษาความลับได้เก่งที่สุดเลยนะ แม้แต่ป้าจวงที่ชอบกระโดดตีลังกา และขวางมีด ฟันดาบ ข้ายังไม่เคยบอกใครเลยนะ ท่านเป็นคนแรกที่ข้าบอก....อะ.อ้าว!!!.."

 เมื่อเขานึกได้ว่าตัวเองได้หลุดความลับไปเสียแล้วก็ทำหน้าเหลอหลาน่ารักน่าเอ็นดูใส่พี่สาว

เจียงหย่าเสวี่ยชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นท่าทางนั้นของเขาก็กลั้นหัวเราะและยิ้มอย่างก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ

"เจ้าเล็ก เจ้าเพิ่งบอกความลับนั้นให้พี่ใหญ่ฟังแล้วนะ ฮาฮาฮา!!! แต่ไม่เป็นไร พี่ใหญ่จะไม่บอกใครว่าป้าจวงเป็นจอมยุทธก็แล้วกัน เจ้าเก่งมากแล้วที่รักษาความลับได้ขนาดนี้ เอาหล่ะข้าก็แค่จะให้เจ้าดูบางอย่าง ซึ่งความลับนี้จะทำให้ครอบครัวเราไม่ลำบากอีกต่อไป แต่อย่าบอกใครนะ"…

.เอาอีกแล้ว เจ้าเล็กจะไหวหรือเปล่า

เจียงหยวนเจี๋ยพยักหน้ารัวๆ ราวกับไก่จิกด้วยความตื่นเต้น ถึงแม้เมื่อสักครู่เขาตื่นเต้นไปหน่อยที่อยากจะอวดพี่ใหญ่ว่าเขารักษาความลับมานานแล้ว แต่ว่าคราวนี้เขาเอาจริงแล้วนะ จะไม่บอกใคร

"ได้เลยพี่ใหญ่ ข้าจะไม่บอกใครทั้งนั้น!"

จากนั้นเขาก็ยกมือเล็กผอมที่มี 6 นิ้วของเขาขึ้นมาปิดปาก เมื่อเขาเหลือบเห็นนิ้วที่หกที่เกือบทิ่มตาของตัวเอง เขาก็ค่อยดึงมือข้างนั้นลงและซ้อนมันเอาไว้อีกครั้ง เจียงหย่าเสวี่ยมองเห็นพอดี นางจึงหัวเราะอีกครั้งก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“ส่วนเจ้านิ้วน้อยที่เกินมาอันนี้เดี๋ยวพี่ใหญ่จะทำให้มันหายไปเอง เจ้าอดทนรอไม่นานนะน้องรัก”

“จะ ..จริงหรือพี่ใหญ่ท่านจะทำให้เจ้าเสี่ยวลิ้วของข้าหายไปได้จริงๆ หรือ” 

เขาถึงขนาดตั้งชื่อนิ้วที่หกของตัวเองว่าเสี่ยวลิ้วแล้วเพราะนึกว่าจะต้องอยู่กับมันไปตลอดชีวิต..

“ได้สิน้องรักเดี๋ยวพี่ใหญ่จะทำการผ่าตัดให้เจ้าเอง เสี่ยวลิ้วของเจ้าก็จะหายไป อดทนหน่อยนะ"

เจียงหยวนเจี๋ยน้ำตาไหลทันทีเขาพุ่งเข้าไปกอดพี่สาวแน่นทันที มันแน่นมากๆ ทำให้เจียงหย่าเสวี่ยรู้ทันทีว่าเขานั้นทุกข์ทรมานขนาดไหนที่มีเสี่ยวลิ้วอยู่ นางลูบหัวเขาเบาๆ ก่อนจะบอกว่านางจะแสดงบางอย่างให้เขาดู

นางหยิบพู่กันชิงหลงออกมาจากแขนเสื้อและมองหาบริเวณเหมาะๆ ไปรอบๆ บริเวณที่ยืนอยู่กลางป่า นางเงยหน้ามองภูเขาสูงที่อยู่เบื้องหน้านางจุงเจ้าเล็กเข้าไปเล็กน้อยจากนั้น…

เจียงหย่าเสวี่ยยืนมั่นคง จับพู่กันชิงหลงให้มั่นและเริ่มลงมือวาดลงไปบนกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่นางนำมาด้วย ภาพในจิตใจของนางชัดเจนมาก นางวาดภาพดงโสมใหญ่ที่แผ่กระจายอยู่รอบๆ เอาสัก 20 หัว พร้อมด้วยเห็ดหลินจือที่ขึ้นหนาแน่นสัก 30 ดอกทันทีพู่กันชิงหลงเริ่มส่องแสงสีฟ้า สายพลังแห่งสวรรค์ไหลผ่านจากปลายพู่กันลงสู่พื้นดิน ราวกับพลังชีวิตที่ค่อย ๆ ก่อเกิดขึ้น

ทันใดนั้นเอง แสงสว่างที่เปล่งประกายจากพู่กันเริ่มแผ่กระจายออกไปทั่วบริเวณ แสงสีฟ้าและสีทองหมุนวนรอบตัวเจียงหย่าเสวี่ย ราวกับว่าพลังสวรรค์กำลังแผ่ขยายผ่านพู่กัน สายลมที่เคยสงบกลับกลายเป็นกระแสลมที่หมุนวนพัดพาเอาใบไม้และกลีบดอกไม้ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า รากไม้และพืชพรรณรอบ ๆ เริ่มเปลี่ยนแปลง โสมขาวบริสุทธิ์เริ่มงอกขึ้นมาจากพื้นดินราวเป็นหัวไชเท้าอย่างอัศจรรย์ รากยาว บางหัวมีแขนขาคล้ายคนซึ่งบ่งบอกอายุว่ามากกว่า 500 ปี แน่นอน และถัดไปก็เป็นดงเห็ดหลินจือสีแดงเข้มก็ปรากฏขึ้นใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีไม้ผุพังขอนใหญ่อยู่ด้านล่าง มันเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเต็มไปด้วยพลังแห่งธรรมชาติ

ท่ามกลางแสงสว่างและสายลมที่หมุนวน ดอกไม้ป่าหลากสีเริ่มเบ่งบานขึ้นรอบตัวเจียงหย่าเสวี่ย กลีบดอกไม้สีทองและสีม่วงเปล่งประกายส่องแสงออกมาเหมือนกับดาวตกในยามค่ำคืน สัตว์ป่าที่อยู่ใกล้เคียงค่อย ๆ โผล่ออกมาจากที่ซ่อน ราวกับว่าพวกมันถูกดึงดูดด้วยพลังที่เปล่งประกายออกมา กวางสีขาวสองตัวเดินเข้ามาใกล้เจียงหย่าเสวี่ยมองดูด้วยความตะลึงงัน ดวงตาของนางเบิกกว้างเมื่อเห็นกวางเหล่านั้นโค้งคำนับราวกับแสดงความเคารพต่อพลังแห่งสวรรค์ที่นางปลดปล่อยออกมา

เจียงหย่าเสวี่ยยิ้มออกมาอย่างพอใจ ขณะที่แสงจากพู่กันค่อย ๆ จางลง ดงโสมและดงเห็ดลินจือดงใหญ่ที่นางวาดกลายเป็นจริง ป่าที่เคยเงียบสงบกลับมีชีวิตชีวาด้วยพลังธรรมชาติและสีสันที่น่าทึ่งของโสมและเห็ดหลินจือ แสงแดดที่ส่องผ่านใบไม้ลงมาสะท้อนกับแสงของดอกไม้และโสม ทำให้พื้นที่รอบ ๆ ดูเหมือนสรวงสวรรค์ นางรู้สึกโล่งใจอย่างมากที่สามารถช่วยท่านแม่และคนอื่น ๆ ได้บ้าง

ส่วนเจ้าเสี่ยวลิ้ว…เอ้ย…เจ้าเสี่ยวเจี๋ยนั้นตาค้างไปแล้ว เขายกนิ้วมือขึ้นและชี้ไปที่แสงสว่างจ้านั้นมือสั่นไปหมด

“ป๊อก!!!"

เสียงกิ่งไม้ที่หักทำให้ทั้งสองหันควับมองไปด้านหลังทันที และคนที่ทำกิ่งไม้หักนั้นก็ไม่ใช่ใครแต่ว่าเป็นป้าจวง…เป็นท่านจอมยุทธนั้นเองรึ …. เจียงหย่าเสวี่ยมองและยิ้มเล็กน้อย….

****เอาหล่ะสิต่างฝ่ายต่างก็มีความลับแล้ว5555*****

**** สิ่งที่ไรท์ต้องการ....หัวใจสีแดง เพิ่มเข้าชั้นและคอมเมนต์มาเมาท์มอย ชี้แนะค่ะ จะได้อ่านนิยายสนุกด้วยกันทั้งคนเขียนและคนอ่าน *****

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 8 ข้าพบดงโสมเจ้าค่ะ…ท่านแม่!!!

    บทที่ 8 ข้าพบดงโสมเจ้าค่ะ…ท่านแม่!!!เสียงจากข้างหลังทำให้นางหันกลับไปมอง เป็นป้าจวงที่ตามมาหานาง สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความตกใจและความประหลาดใจเมื่อเห็นดงโสมและเห็ดหลินจือที่เพิ่งเกิดขึ้น"คะ…คุณหนู คือ..คือ..เออ ท่านทำทั้งหมดนี้หรือเจ้าคะ?"ถามด้วยน้ำเสียงไม่อยากเชื่อสายตา ป้าจวงถึงจะเป็นคนจิตแข็งขนาดไหนเมื่อเห็นกับตาว่าคุณหนู่ของนางอยู่ก็วาดๆ อะไรสักอย่างและเมื่อนางสะบัดแปรงเบาๆ ก็ทำให้มีเส้นแสงสีเงินสีทองวูบวาบเต็มไปหมดไม่ถึง5 อึดใจต้นโสมที่เป็นของหายากอันดับหนึ่งของป่าต่างก็รีบผุดขึ้นมาจากดินราวกับว่าหากขึ้นช้าแล้วจะไม่ทันหัวอื่นๆ อย่างไรอย่างนั้นนางก็ตกใจทีเดียวเจียงหย่าเสวี่ยนั้นแต่แรกก็ไม่ได้คิดจะปิดบังครอบครัวแต่เพราะว่ายังไม่ถึงเวลาจึงไม่ได้บอกไป แต่เมื่อป้าจวงที่เป็นคนที่ภักดีที่สุดของท่านแม่มาเห็นเช่นนี้ นางก็ได้แต่ปล่อยให้ได้เห็น“ป้าจวงเร็วเข้ารีบมาขุดโสมเหล่านี้เร็ว ด้านนั้นยังมีเห็ดหลินจือด้วยเจ้าค่ะ ดอกใหญ่ๆ ทั้งนั้น อย่างเพิ่งนิ่ง เดี๋ยวกลับไปข้าจะอธิบายให้ฟังเจ้าค่ะ”เจียงหย่าเสวี่ยไม่อยากจะเสียเวลาเพราะหากอยู่ที่นี่นางไม่แน่ว่าท่านแม่อาจจะส่งใครมาตามพวกนางอีก ป้าจ

    Huling Na-update : 2024-11-16
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 9 ขายโสม

    บทที่ 9 ขายโสม“ข้าพบดงโสมเจ้าค่ะท่านแม่!!!” เสียงกระซิบของลูกสาวนั้นแผ่วเบาแต่ทว่าเสียงที่นางบอกนั้นดังสนั่นในหัวของเจียงซิ่วเหยา“อะ..อะไรนะลูกรัก เจ้าพูดอีกทีซิ”เจียงซิ่วเหยาเอื่อมมือมาจับมือของลูกสาวและเขย่าเบาๆ เจียงหย่าเสวี่ยหันไปมองป้าจวงและพยักหน้าให้เล็กน้อยจากนั้น ป้าจวงก็นำตะกร้าใบหน้าเข้าไปวางไว้ในรถม้าปิดผ้าหน้าหน้าต่างให้เรียบร้อยและหันไปพยักหน้าให้คุณหนูเล็กของนางประมาณว่าเรียบร้อย เสร็จแล้วนางก็เดินไปหากลุ่มของคนขับรถม้าและคนคุ้มกันที่กำลังนั่งกินอาหารที่พวกนางทำโดยพวกเขาได้แยกไปนั่งไกลพอสมควร ทำให้ไม่เห็นสิ่งที่ป้าจวงแบกมาป้าจวงเดินไปหาอาหานและสั่งให้เขาทำความสะอาดไก่ทันที พลางหันไปบอกคนคุ้มกันว่าวันนี้พวกนางจะย่างไก่เพิ่ม เมื่อพวกเขาเห็นว่าวันนี้จะมีเนื้อเพิ่มขึ้นจึงวางชามโจ๊กและรีบไปช่วยอาหานจัดการไก่ทันที ใครเล่าจะไม่อยากกินเนื้อ เป็นอันว่าทั้งคนคุ้มกันคนขับรถม้าพากันเอาไก่ออกไปทำที่ลำธารที่อยู่ไม่ไกลแทนซึ่งเป็นการดีต่อเจียงหย่าเสวี่ยที่จะได้นำโสมและเห็ดหลินจือมาให้ท่านแม่ดูเมื่อเจียงซิ่วเหยาเดินเข้าไปในรถม้าที่ปิดประตูผ้าม่านเรียบร้อย ชั่วครู่ที่นางมองเห็นโสมขน

    Huling Na-update : 2024-12-09
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 10 โรงประมูลมังกรเหิน

    บทที่ 10 โรงประมูลมังกรเหินก่อนที่จะกลับมาที่โรงเตี้ยม ทั้งสองได้แวะไปที่โรงประมูลมังกรเหินและแจ้งตามที่หลงจู๊ของร้านขายยาหยูอี้ถังบอกว่าต้องการเข้าร่วมประมูล เมื่อพวกเขารู้ว่าจะมีโสมอายุ 1,000 ปี และเห็ดหลินจืออายุ 500 ปีเข้าประมูล ทำให้โรงประมูลนั้นตื่นเต้นและโกลาหลกันขึ้นมาทันที พวกเขาถึงขนาดเชิญหลงจู๊มาและขอให้พวกนางนำโสมและเห็ดหลินจือออกมาให้ดู เพราะว่ากลัวว่าพวกนางจะพูดไม่จริง และเมื่อได้เห็นของเรียบร้อย ตอนนี้สายตาที่พวกเขามองสองป้าหลานนั้นมีความนับถือมากขึ้นมาหลายส่วน"ข้าไม่ได้เห็นโสมที่มีอายุถึงพันปีมานานเหลือเกินแล้ว น่าจะเกือบ 10 ปีได้แล้ว มันล้ำค่าจริงๆ"หลงจู๊พูดด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยตื่นเต้นและความประทับใจมาก นานมาแล้วที่พวกเขาไม่ได้เห็นโสมและเห็ดหลินจือที่มีอายุเยอะขนาดนี้ในโรงประมูลมังกรเหินของพวกเขาและที่สำคัญมันถูกส่งเข้าประมูลเป็นคู่ด้วยครั้งนี้เมืองชิงเฉินจะต้องแตกตื่นอย่างแน่นอน พวกเขารีบส่งสายตาให้กันเป็นการบอกว่า พวกเจ้ารีบไปกระจายข่าวนี้ให้เร็วที่สุดและให้ได้มากที่สุดด้วยเพราะว่า ของมีค่าเช่นนี้มาถึงโรงประมูลกระชั้นชิดเหลือเกิน พวกเขาได้แต่ต้องทำวิธีการส่งข่า

    Huling Na-update : 2024-12-09
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 11 แหวนมิติ

    บทที่ 11 แหวนมิติจากนั้นเสียงของฟู่เสี่ยวหานดังขึ้นมาอีกครั้ง“และแล้วก็ถึงเวลาที่ข้าคิดว่าทุกท่านรอคอยแล้ว!!!…..”ภายในห้องโถงใหญ่ของโรงประมูลมังกรเหิน จากที่เงียบเมื่อสักครู่เสียงก็ดังกระหึ่มขึ้นมาอีกครั้ง ทันใดนั้น ฟู่เสี่ยวหานก้าวไปด้านหน้า และเปิดกล่องที่อยู่ตรงกลางทันที จากนั้นก็หยิบแหวนวงเล็กๆ วงหนึ่งในมือของเขา แม้แต่ผู้ที่อยู่ห้องรับรองพิเศษด้านบนนั้นถึงกับเปิดประตูเพื่อออกมามองมันให้ชัดเจนมากขึ้นท่ามกลางความคาดหวังของทุกคนที่คิดว่าจะได้เห็นการประมูลโสมและเห็ดหลินจือในครั้งนี้ ฟู่เสี่ยวหานยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดึงดูดความสนใจ"ทุกท่านที่มาในวันนี้ข้าน้อยทราบดีว่านี่คือสิ่งที่พวกท่านคาดหวังจะได้เห็นและเป็นเจ้าของ ข้าน้อยขอเชิญทุกท่านจับตามองให้ดี เพราะของที่ทางโรงประมูลมังกรเหินจะนำเสนอในครั้งนี้ไม่ใช่โสมอายุ 1,000 ปีและเห็ดหลินจืออายุ 500 ปีที่ท่านคาดหวังไว้"จากนั้น เขาค่อยๆ กางมือออก แหวนวงเล็กๆ นั้นลอยขึ้นกลางอากาศและเปล่งแสงสีทองอ่อนออกมา เสียงผู้คนเริ่มเงียบลงด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่จะมีเสียงอุทานเบาๆ ดังขึ้นในกลุ่มคน"แหวนวงนั้น...มันทำอะไรได้?"ม

    Huling Na-update : 2024-12-09
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 12 ป้าจวง

    บทที่ 12 ป้าจวงขณะที่ทุกคนภายในโรงประมูลยังคงตื่นตะลึงที่อยู่ๆ ผู้ชนะที่ประมูลแหวนมิติไปได้อยู่ก็หายวับไปกับตา เสียงอุทานด้วยความตกใจและการซุบซิบคาดเดาถึงตัวตนของผู้ประมูลผู้ลึกลับนั้นยังคงดังก้องอยู่ทั่วห้องโถงหลายคนยังไม่ทันได้คิดแผนร้ายที่จะหาทางช่วงชิงแหวนมา นางก็หายตัวไปเสียแล้ว ราวกับภูตผีที่ปรากฏขึ้นและหายไปในพริบตา"นางหายไปไหน!" ชายคนหนึ่งอุทานพลางหันไปมองรอบตัว"ข้าไม่ทันเห็นอะไรเลย นางหายไปเหมือนลม!" อีกคนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความงุนงง"หรือว่านางจะเป็นจอมยุทธผู้วิเศษ?" หญิงสาวในชุดหรูหราถามพลางขมวดคิ้ว สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความสงสัย"ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่นอน นางต้องเป็นคนที่มีอำนาจบางอย่าง ถึงได้กล้าทุ่มเงินมากขนาดนั้นและหายตัวไปได้ในพริบตา" ชายสูงชุดสีทองเบอร์ 9 คนที่ ที่บ้านไม่มีอะไรมากนอกจากเงินซึ่งเป็นไปได้ว่ามีไม่เยอะเท่าหญิงสาวเมื่อสักครู่แล้ว พึมพำขณะที่มองดูที่ว่างตรงเวทีด้วยความไม่เชื่อสายตาเสียงซุบซิบยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ บางคนถึงกับเริ่มออกความคิดเห็นอย่างร้อนแรง"ข้าคิดว่าคนแบบนี้อาจจะเป็นสายลับของแคว้นอื่นก็ได้! นางดูไม่ธรรมดาเกินไป!""ข้าว่าเราไม

    Huling Na-update : 2024-12-09
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 13 วงการแฟชั่นเมืองชิงเฉินต้องสะเทือน

    บทที่ 13 วงการแฟชั่นเมืองชิงเฉินต้องสะเทือนภายในห้องนั้นพักขนาดใหญ่ของโรงเตี้อมอิงฮวา ที่เป็นโรงเตี้ยมอันดับหนึ่งของเมืองชิงเฉินที่พวกนางเลือกที่จะเข้าพัก เจียงซิ่วเหยาและเด็กๆ ต่างก็มองไปที่ตำลึงเงินตำลึงทองที่กองอยู่ในตะกร้าที่บ้านจวงแบกเข้ามา ภาพตะกร้าที่มีตำลึงเงินตำลึงทองนั้นสร้างความตะลึงและดึใจแก่ทุกคน ตอนนี้อาหงและเสี่ยวจิวบ่าวรับใช้ทั้งสองก็นั่งมองตาลอยอยู่เช่นกัน พวกนางนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่เพราะว่าเมื่อวานอยู่ๆคุณหนูเล็กกับป้าจวงก็บอกว่าจะออกไปหาเงินมาไว้ใช้สักเล็กน้อย และวันนี้พวกเจ้านายทั้งสามรวมทั้งป้าจวงก็พากันออกไปอีกครั้ง และเมื่อไม่นานเจ้านายทั้งสามนั้ได้กลับมาที่โรงเตี้ยมก่อนและบอกว่าป้าจวงไปรับเงิน เมื่อป้าจวงเดินแบกตะกร้าขนาดใหญ่เข้ามาในห้องพวกเขาก็นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเงินมากมายมหาศาลขนาดนี้ มันมากมายจริงๆ เพราะตอนแรกที่ถูกไล่ออกจากจวนและต่อมาคุณหนูเล็กก็มาล้มป่วยอีกเป็นเดือน พวกนางนั้นรู้ดีว่าชีวิตความเป็นอยู่ต่อจากนี้จะต้องลำบากอย่างแน่นอน แต่ใครจะนึกว่า เมื่อไม่นานมานี้ไม่เพียงแต่คุณหนูเล็กจะหายป่วยและกลับมาค่อยๆ แข็งแรงแต่พวกเขากลับสามารถหาเงินมาเต็มเ

    Huling Na-update : 2024-12-09
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 14 พวกเจ้ารู้หรือไม่ ว่าพ่อของข้าเป็นใคร!!!! 

    บทที่ 14 พวกเจ้ารู้หรือไม่ ว่าพ่อของข้าเป็นใคร!!!! เจียงหย่าเสวี่ยและครอบครัวกำลังเดินทางไปที่ร้านรถม้าด้วยความร่าเริง ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความคาดหวังว่าจะได้เห็นรถม้าใหม่ที่พวกเขาวางแผนจะซื้อ ระหว่างทางพวกเขาทั้งเจ็ดคนหยุดแวะที่ตลาดเพื่อซื้อของอย่างสนุกสนาน"ข้าชอบปิ่นปักผมหยกชิ้นนี้มากดูสิ มันช่างงดงามเหลือเกิน" อาหงคุยกับเสี่ยวจิวพลางลูบและยกเครื่องประดับขึ้นมากันดู"เช่นนั้นก็ซื้อเลยพี่อาหง วันนี้เราจะซื้อทุกอย่างที่เราชอบ!" เจียงหย่าเสวี่ยหัวเราะอย่างสนุกสนาน ขณะที่นางหยิบผ้าปักลายมังกรที่มีสีสันสวยงามขึ้นมา มันเป็นผ้าคลุมไหล่ที่ปักได้สวยมาก งานแฮนด์เมดชัดเจนนางจึงหยิบมา 5-6 ชิ้นเอาคละสีกัน และยังเดินดูพวกขนสัตว์ต่างๆ ด้วย ท่านแม่นั้นตอนนี้กำลังเลือกอยู่เพราะว่าอีกไม่นานก็จะถึงฤดูหนาวแล้ว ขนสัตว์พวกนี้จะช่วยได้มาก พวกนางขนซื้อจนเถ้าแก่ยิ้มปากกว้างเกือบถึงหูทีเดียว"ไม่ทราบว่าจะให้ทางร้านไปส่งที่หรือขอรับ ซื้อเยอะขนาดนี้ทางร้านมีบริการส่ง""ไปส่งไว้ที่โรงเตี้ยมอิงฮวาเถอะ" ป้าจวงเป็นคนบอก แน่นอนว่าทุกคนในเมืองนั้นรู้ว่าโรงเตี้ยมอิงฮวานั้นอยู่ที่ไหน เพราะว่ามันเป็นโรงเตี้ยมที

    Huling Na-update : 2024-12-09
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 15 เจ้ารู้หรือไม่ ป้าจวงคือใคร???!!!

    บทที่ 15 เจ้ารู้หรือไม่ ป้าจวงคือใคร???!!!เจียงหย่าเสวี่ยที่มาจากอนาคตนั้นรู้ทันทีว่าประโยคต่อมาที่คุณชายท่านนี้จะพูดนั้นคืออะไร"หากว่าข้าเดาไม่ผิด ประโยคต่อมาที่เจ้าจะพูดก็คือ... พวกเจ้ารู้ไหมว่าพ่อของข้าเป็นใครใช่หรือไม่!!!!""เจ้า!!! เจ้ากล้ามากที่มาพูดจาเช่นนี้กับข้า! ทั่วทั้งชิงเฉินนี่มีใครไม่รู้บ้างว่ามีแค่ข้าเท่านั้นที่สามารถพูดประโยคนี้ได้ " ฉินหลงแค่นเสียง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง"แต่ถึงเจ้าจะพูดไปแล้ว ถึงอย่างไรข้าก็จะต้องได้พูดประโยคนี้ด้วย!!! พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร? ข้าฉินหลง ข้าเป็นลูกชายของเจ้าเมืองชิงเฉิน! พ่อของข้าเป็นผู้ที่มีอำนาจที่สุดยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองนี้และไม่มีใครกล้าหือกับข้า!!"พูดเสร็จก็ยกกำปั้นอวบอ้วนของตัวเองขึ้นฟ้า และเชิดหน้าเล็กน้อย ถ้าหากว่าเป็นคนที่ผอมกว่านี้ทำมันอาจจะดูน่าเกรงขามมากกว่านี้แต่นี่เพราะเขาอ้วนมากเมื่อยกกำปั้นเงยหน้าก็เลยเป็นภาพที่ดูตลกเสียมากกว่าตอนนี้ผู้คนต่างก็เมียงมองและไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวพลางคิดสงสารกลุ่มเจียงหย่าเสวี่ยที่อุตส่าห์เข้าช่วยเหลือคนแต่กลับจะมีปัญหากับลูกอันธพาลของท่านเจ้าเมืองเสียแล้ว เฮ้ออ....

    Huling Na-update : 2024-12-09

Pinakabagong kabanata

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   ตอนพิเศษ 3 บทส่งท้ายแห่งความสุข EP 2 NC...

    ตอนพิเศษ 3 บทส่งท้ายแห่งความสุข EP 2 NC...“…อา อื๊อ อี้หลง”เจิ้งอี้หลงใช้ความจัดเจนดูดดุนปลายลิ้นกับทรวงอกอวบสวยทำให้นางแอ่นหน้าอกขึ้นมาด้วยเสียวซ่าน ขณะที่มืออีกข้างก็เขี่ยคลึงเล่นไปที่ปลายถันที่ยังว่างอยู่จนยอดแข็งชันสู้มือหญิงสาวส่ายร่างบิดไปมาบนที่นอนด้วยด้วยความกระสันซ่าน อารมณ์ปรารถนาของนางถูกปลุกเร้าจนตื่นเพริศ เนื้อตัวเร่าร้อนไปหมดนางปรารถนาเขาจริงๆ ส่วนเจิ้งอี้หลงนั้น เมื่อหญิงสาวตอบสนองและไม่หวงเนื้อหวงตัว เขาจึงจัดเต็มตามอารมณ์ที่เก็บกดไว้ ริมฝีปากของเขาหยอกเย้าดูดดุนอยู่ที่ปลายถัน ส่วนมือก็บีบเค้นปทุมถันอวบใหญ่แรงขึ้นจนผิวขาวๆ เริ่มเป็นจ้ำสีแดงตามรอยมือและปาก จนเมื่อเขาละริมฝีปากจากปลายถันก็เล็มไล้ไต่ลงมาที่เนินหน้าท้อง แล้วซุกไซ้จมูกและปากอยู่ที่สะดือสวย ก่อนจะใช้นิ้วเลื่อนลูบไปที่เนินเนื้อโหนกนูนที่บิดส่ายอยู่ใต้ร่างเขา“อ๊า…อี้หลงค่ะ ฉัน..”หญิงสาวสะดุ้งเฮือกขึ้นมา แล้วจับข้อมือชายหนุ่มไว้ เจิ้งอี้หลงยกยิ้มที่มุมปากและค่อยดึงมือของเขาออก และยกมือของนางมาจูบและรวบดูดปลายนิ้วเล็กเรียวแสนสวยนั้นเสียเลย เฟิงหย่าเสวี่ยตัวอ่อนระรวย ไม่มีแรงที่จะห้ามปรามเขาเสียแล้ว… (เฮ้อช่าง

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   ตอนพิเศษ3 บทส่งท้ายแห่งความสุข ep 1

    ตอนพิเศษ3 บทส่งท้ายแห่งความสุข ep 1ค่ำคืนอันสดใสในฤดูใบไม้ผลิ ท้องฟ้ายามราตรีเหนือพระราชวังต้าหมิงสว่างไสวไปด้วยแสงประกายของดอกไม้ไฟที่พุ่งขึ้นสูง สาดส่องท้องฟ้าด้วยสีสันอันตระการตา เสียงเพลงบรรเลงจากเครื่องดนตรีพื้นบ้านผสมผสานกับเสียงปรบมือและเสียงหัวเราะของเหล่าประชาชนที่มารวมตัวกันอย่างคับคั่ง บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุขและความปลื้มปีติภายในพระราชวังงานเฉลิมฉลองครบรอบ 5 ปีแห่งการครองราชย์ของฮ่องเต้เจิ้งอี้หลงกำลังดำเนินไปอย่างยิ่งใหญ่ ท้องพระโรงอันวิจิตรตระการตาประดับประดาไปด้วยโคมไฟหลากสี เสนาอำมาตย์และขุนนางจากทั้งแคว้นต้าหมิงและแคว้นต้าโจวต่างมาชุมนุมกันอย่างพร้อมเพรียง เพื่อร่วมแสดงความยินดีและสรรเสริญความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของสองแคว้นฮ่องเต้เจิ้งอี้หลงประทับบนบัลลังก์แกะสลักมังกร พระพักตร์เปี่ยมด้วยความสุขและความภาคภูมิใจ ขณะที่เฟิงฮองเฮา หรือเฟิงหย่าเสวี่ยนั่งเคียงข้างพระสวามี สวมอาภรณ์สีเหลือทองประดับประดาอย่างงดงามสมเกียรติสะท้อนความงดงามหยดย้อยของนางอย่างชัดเจน แววตาของนางแสดงถึงความมุ่งมั่นและความรักและความเมตตาที่มีต่อแผ่นดินและประชาชน"กระหม่อมขอกราบบังคมทูล" เสนาบดีอาวุ

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   ตอนพิเศษ 2  สองสุดยอดแพทย์แห่งยุค

    ตอนพิเศษ 2 สองสุดยอดแพทย์แห่งยุคภายในห้องผ่าตัดขนาดกลางที่ถูกดัดแปลงอย่างพิถีพิถัน แสงจากโคมไฟหลากดวงส่องรวมตรงกลาง เผยให้เห็นเตียงผ่าตัดที่ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ บนเตียงมีชายชราผู้สูญเสียขาจากสงครามนอนหลับสนิทด้วยฤทธิ์ยาชา รอบข้างเต็มไปด้วยเครื่องมือแพทย์ที่ดูแปลกตาสำหรับแพทย์จำนวนไม่น้อยในยุคนี้วันนี้ถือเป็นวาระสำคัญที่หลายคนต่างพูดถึง เพราะจะมีการผ่าตัดเพื่อใส่ขาเทียมให้กับผู้ป่วยที่ขาพิการโดยผู้นำการผ่าตัดคือนายท่านเฟิงหยวนเจี๋ย คุณชายหมอเทวดาซึ่งกำลังมีชื่อเสียงขจรขจาย และถือเป็นคุณชายเนื้อหอมมากๆ ผู้หนึ่งของแคว้นต้าหมิง และอีกผู้ยิ่งใหญ่อีกผู้หนึ่งก็คือฮองเฮาเฟิงหย่าเสวี่ย ซึ่งแม้ร่างกายเพิ่งฟื้นตัวได้ไม่นาน แต่ความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ของนางก็ไม่เป็นสองรองใคร และการผ่าตัดในครั้งนี้ก็เป็นการที่นางต้องการที่จะทำด้วย และวาระสำคัญเช่นนี้ฮ่องเต้ของทั้งสองแคว้นนั้นไม่รอช้าที่จะส่งนายแพทย์มาเพื่อศึกษาดูงาน ซึ่งฮองเฮาเฟิงนั้นก็ยินดีที่จะให้พวกเขาได้เรียนรู้ในการผ่าตัดครั้งนี้ด้วยเหล่าแพทย์ของจากทั้งสองแคว้นคือแคว้นต้าโจวและต้าหมิงรวมตัวกันอยู่รอบ ๆ ทางด้านหลังเพื่อศึกษาขั้นตอนในก

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   ตอนพิเศษ ครอบครัวสุขสันต์

    ตอนพิเศษ ครอบครัวสุขสันต์หลังจากที่เฟิงหย่าเสวี่ยฟื้นคืนสติ ข่าวดีนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วอย่างรวดเร็วตอนนี้ทั้งประชาชนแคว้นอวี้ไห่และประชาชนแคว้นต้าหมิงต่างก็ความสุขที่ได้รับรู้ว่าเฟิงฮองเฮานั้นได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เมืองอวี้ไห่ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ดอกเหมยท้อบานสะพรั่งทั้งสวนส่งกลิ่นหอมไปทั่ว ภายในสวนที่จัดแต่งเอาไว้อย่างงดงามนั้นมีเสียงหัวเราะและบทบทสนทนาของคนในครอบครัวเฟิงที่นั่งล้อมวงคุยกันอยู่ เฟิงหย่าเสวี่ยหลังจากฟื้นก็ได้รับการดูแลอย่างดีทั้งจากอาจารย์ของนาง ท่านป้าจวงและเฟิงหยวนเจี๋ยที่มักจะนำยาบำรุงชั้นเลิศที่เขาคิดค้นขึ้นมาสำหรับนางโดยเฉพาะมาให้ดื่มเสมอ ทำให้ร่างก่ายของนางนั้นแข็งแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว สมกับที่นางนั้นได้ตกอยู่ในมือของเหล่าหมอเทวดาจริงๆ"ท่านแม่" เฟิงหย่าเสวี่ยเอ่ยเรียกเฟิงซิ่งเหยาที่กำลังนั่งปักรองเท้าอยู่ในสวนดอกไม้ "ท่านแม่ดูอิ่มเอิบขึ้นมากเลยนะเจ้าคะ" เฟิงซิ่งเหยายิ้มอายๆ ขณะที่มือลูบท้องน้อยที่เริ่มนูนขึ้น"เสด็จพ่อของเจ้านี่สิ... ตั้งแต่รู้ว่าข้าตั้งครรภ์บุตรคนนี้ก็เอาแต่แพ้ท้องแทนข้า กินไม่ได้นอนไม่หลับวิงเวียนอยู่ตลอดเ

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 163  จนกว่าจะพบกัน.. (จบบริบูรณ์)

    บทที่ 163 จนกว่าจะพบกัน.. (จบบริบูรณ์)แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างโรงพยาบาลในยุคปัจจุบัน เฟิงหย่าเสวี่ยค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาที่เคยเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวากลับสับสนเล็กน้อย ราวกับจิตวิญญาณของนางยังคงล่องลอย เธอมองเพดานสีขาวสะอาดและพยายามดึงความทรงจำที่กระจัดกระจายกลับคืนมาเธอถูกพาออกจากโลกแห่งยุคโบราณและกลับมายังยุคปัจจุบัน ร่างกายของนางอ่อนแอแต่หัวใจของนางเต็มไปด้วยความทรงจำอันเจ็บปวด นางนึกถึงผู้คนที่นางได้ช่วยเหลือและเสียสละเพื่อพวกเขา นึกถึงท่านแม่และเจ้าเล็กหากว่าพวกเขารู้ข่าวจะเป็นอย่างไรนะ…คงจะเศร้าเสียใจอย่างแน่นอน..ไหนจะป้าจวงที่จะต้องรู้สึกผิดที่ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือนางได้ จากนั้นน้ำตาไหลของนางก็ออกมาเงียบๆ ขณะที่นางพึมพำชื่อคนที่คุ้นเคยจากโลกอีกใบหลังจากนั้น เฟิงหย่าเสวี่ยฟื้นตัวและกลับไปดำเนินชีวิตในฐานะจิตรกร นางใช้ศิลปะในการแสดงความรู้สึกและความทรงจำจากอดีต ทุกภาพที่นางวาดล้วนเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการเสียสละและความหวัง นางกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียง ผู้คนต่างหลงใหลในผลงานของนางโดยไม่รู้ว่านั่นคือเศษเสี้ยวของชีวิตที่นางเคยผ่านพ้นมา แต่ทว่าพู่กันชิงหลงที่เธอใช

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 162 พี่ใหญ่...ท่านผิดสัญญาเช่นนั้นหรือ?

    บทที่ 162 พี่ใหญ่...ท่านผิดสัญญาเช่นนั้นหรือ?“จบแล้ว...” เฟิงหย่าเสวี่ยพึมพำ เสียงแผ่วบางราวกับสายลมที่พัดผ่านใบไม้ร่วง ร่างบางของนางค่อยๆ ทรุดลงกับพื้นอย่างช้าๆ ราวกับวิญญาณที่กำลังหลุดลอยไปจากโลกนี้“คุณหลีหนิง!” เสียงของเจิ้งอี้หลงดังขึ้นด้วยความตกใจ พระองค์รีบพุ่งเข้ามาประคองร่างของนางไว้ในอ้อมพระกร พระพักตร์ซีดเผือด น้ำพระเนตรเอ่อคลอ “คุณหลีหนิง! ลืมตาขึ้นมา! อย่าทิ้งข้าไปแบบนี้!”ดวงตาของเฟิงหย่าเสวี่ยค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างยากลำบาก เปลือกตาที่หนักอึ้งเผยให้เห็นดวงตาที่แฝงไว้ด้วยความอ่อนล้าและเศร้าสร้อย ริมฝีปากซีดเผือดสั่นระริก “อี้หลง... ข้า... ข้าเหนื่อยเหลือเกิน...”“ไม่เป็นไร ข้าอยู่ตรงนี้” เจิ้งอี้หลงพูดด้วยน้ำเสียงสั่น มือหนาลูบใบหน้าซีดขาวของนางอย่างอ่อนโยน ราวกับพยายามปลอบประโลมความเจ็บปวดของนาง “เจ้าอย่าพูดแบบนี้ เจ้าจะไม่เป็นอะไร ข้าสัญญา...”เฟิงหย่าเสวี่ยพยายามยกมือที่อ่อนแรงขึ้นแตะใบหน้าที่แสนหล่อเหลาของเจิ่งอี้หลง มือที่เย็นเฉียบสั่นระริกจนเจิ้งอี้หลงรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวัง “ข้า... ใช้พลังทั้งหมดแล้ว... ทุกหยด... ตอนนี้ข้ารู้สึกเหมือน... เหมือนวิญญาณกำลังหลุดลอย

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 161 ข้าได้บอกเจ้าหรือยังว่าอาจารย์ของข้าคือ จวงหลิวเฟิง!!!

    บทที่ 161 ข้าได้บอกเจ้าหรือยังว่าอาจารย์ของข้าคือ จวงหลิวเฟิง!!!เฟิงหย่าเสวี่ยถูกกับไป่เหลียนใช้มีดจี้ที่คอและถูกจับเอาไว้ พยายามนิ่งมากที่สุดแม้ว่าตอนนี้นางแmบจะไม่มีแรงที่จะยืนแล้ว ขณะนั้นเองมือขวากำเข็มเงินแน่น สายตาจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของอีกตนที่ตอนนี้ทุกคนต่างก็ล้อมไป่เหลียนเอาไว้ ทุกทางส่วนกองทัพเด็กของนางนั้นต่างก็ถูกช่วยเหลือและพาออกจากสถานที่นี้แล้ว ทำให้ตอนนี้กลางลานนั้นมีเพียงนางเท่านั้นที่ยังคงยืนหยัดอยู่พร้อมกับตัวประกันของนางที่เป็นคนที่สำคัญที่สุดด้วย"เจ้าคิดว่าตัวเองจะหยุดข้าได้หรือ?" ไป่เหลียนเอ่ยเสียงเย็น พลางหันมองดวงหน้าที่งดงามของนังเด็กบ้าผู้นี้…เหตุใดนางถึงได้งดงามเช่นนี้แม้ว่าตอนนี้หน้าของนางจะซีดเซียวมากก็ตาม ไป่เหลียนคิด ดวงตาฉายแววอำมหิตขึ้นมาอีกครั้ง "เด็กน้อยอย่างเจ้า ช่างงดงามเสียจริงหากว่าความงามของเจ้าเป็นของข้าคงจะดีไม่น้อย ฮ่าฮ่าฮ่า!" นางพูดขึ้นมา พลางพยักหน้ากับความคิดของตัวเอง และคิดหาทางที่จะใช้ประโยชน์จากความเยาว์วัยนี้ให้ได้"ข้ารู้ว่าท่านกำลังทำผิด" เฟิงหย่าเสวี่ยตอบเสียงมั่นคง มือยังคงกำเข็มเงินแน่น "ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด การทำร้ายผู้บริสุท

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 160  เจ้าแพ้แล้ว!!

    บทที่ 160 เจ้าแพ้แล้ว!!จวงหลิวอวี้จ้องมองเหตุการณ์ที่เบื้องหน้าอย่างแน่นิ่ง สายตาของนางจับจ้องเฟิงหย่าเสวี่ยที่ยกพู่กันชิงหลงขึ้นมา เสียงหัวใจเต้นหนักหน่วงในอกบอกให้นางรู้ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก นางรีบพุ่งตัวเข้าหาหลานสาวทันที มือแข็งแรงคว้ามือที่กำพู่กันไว้แน่นก่อนที่จะทันได้วาดอะไรลงในอากาศ“อะไรก็ตามที่เจ้าคิดจะทำและเสียสละ...จงหยุดมันเดี๋ยวนี้!!!” จวงหลิวอวี้เอ่ยเสียงดัง สายตาของนางเต็มไปด้วยความกังวลและห่วงใยเฟิงหย่าเสวี่ยเงยหน้าขึ้นมองป้าจวง ดวงตาคู่นั้นเปี่ยมไปด้วยความรักและเคารพที่นางมีต่อผู้ที่คอยปกป้องและดูแลมาตลอด ทว่าในแววตานั้นกลับแฝงไว้ด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง“ท่านป้า...” เฟิงหย่าเสวี่ยพูดเสียงสั่น ดวงตาเริ่มเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำตา “ข้าขอโทษ...” คำพูดนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความอาลัยจวงหลิวอวี้มองหลานสาวอย่างตกตะลึง นางยื่นมือไปจับใบหน้าของเฟิงหย่าเสวี่ย “เสวี่ยเออร์... เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ เจ้าคือความหวังของตระกูลเฟิง! ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าเสียสละตัวเองเด็ดขาด เจ้านึกถึงท่านแม่และน้องชายของเจ้าสิพวกเขาจะเป็นอย่างไร หากว่า

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 159  ฉันขอทำหน้าที่ของฮองเฮาที่กล้าเสียสละเพื่อลูกหลาน

    บทที่ 159 ฉันขอทำหน้าที่ของฮองเฮาที่กล้าเสียสละเพื่อลูกหลาน"และนี่คือผลงานชิ้นเอกของข้า!" ไป่เหลียนผายมือไปที่เด็กๆ "พิษที่ไม่เพียงทำลายร่างกาย แต่ยังบดขยี้จิตวิญญาณ ทำให้พ่อแม่ต้องเห็นลูกของตัวเองกลายเป็นเครื่องมือสังหาร! ความทรมานทั้งผู้ใช้และผู้ถูกใช้ นี่คือสิคือสิ่งที่เรียกว่าพิษที่ดีที่สุดที่ที่ข้าสามารถสร้างขึ้นมาได้ ไม่เพียงทำลายหนึ่งแต่ทำลายได้ทั้งครอบครัวฮ่าฮ่าฮ่า!" เสียงหัวเราะของนางดังลั่นไปทั่วเฟิงซินซินร้องไห้จ้า มือน้อยๆ กำพู่กันแน่นดวงตาเล็กๆ ของนางมองไปที่เหล่าเด็กๆ ที่ถูกทำให้กลายเป็นหุ่นเชิดเป็นร่างที่ไร้ชีวิต"นางสละความเป็นมนุษย์... แลกกับพลังแห่งความชั่วร้าย ยิ่งมีผู้ถูกพิษตาย พิษก็ยิ่งแข็งแกร่ง ยิ่งมีผู้ทุกข์ทรมาน พิษก็ยิ่งร้ายกาจ... วงจรแห่งความชั่วร้ายที่ไม่มีวันสิ้นสุด!"จวงหลิงเฟิงสะท้านเฮือก "นี่มัน... เกินกว่าที่มนุษย์คนใดจะทำได้ไป่เหลียนเจ้านี่มันกู่ไม่กลับจริงๆ ไม่เคยสำนึกถึงความผิดของตัวเอง..""ฮ่าฮ่าฮ่า!!!นี่เจ้ารู้ได้อย่างไรเพื่อนรักว่าข้าไม่ใช่มนุษย์แล้ว!" ไป่เหลียนตะโกนก้องและหันมาจ้องมองเพื่อนรักในอดีตที่ได้กลายมาเป็นศัตรูคู่แค้น และเพราะความแค้น

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status