แชร์

บทที่ 27 ไข่มุก

ผู้เขียน: primพริมโรส
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-13 13:51:57

บทที่ 27 ไข่มุก

เรื่องราวของครอบครัวของท่านเจ้าเมืองก็ดำเนินไปตามครรลอง ใครที่ควรจะถูกวางยาพิษก็ถูกวางยาพิษไป ใครที่ยังโง่เง่าเป็นควายก็เป็นควายไป แต่เช้าวันนี้ครอบครัวของเจียงหย่าเสวี่ยนั้นก็เริ่มปรึกษากับผู้คุ้มทั้งสองที่พวกนางรั้งไว้เพื่อที่จะได้ปรึกษากับพวกเขา โดยท่านแม่เจียงหย่าเสวี่ยพร้อมด้วยป้าจวงกำลังนั่งสนทนากับผู้คุ้มทั้งสองซึ่งเป็นชายฉกรรจ์ที่มากความสามารถในการป้องกันและต่อสู้ ที่คุ้มครองความปลอดภัยในการย้ายถิ่นฐานครั้งนี้ของตระกูลเจียง พวกเขามีความชำนาญและภักดีอย่างยิ่ง และเจียงซิ่วเหยาก็ต้องการที่จะให้พวกเขาอยู่ช่วยคุ้มกันที่โรงงานที่พวกนางกำลังจะสร้างที่เมืองแห่งนี้

"พวกท่านล่ะ มีความคิดจะอยู่ช่วยงานกับพวกข้าต่อหรือไม่"

เจียงซิ่วเหยามองผู้คุ้มกันที่นั่งอยู่ตรงหน้าหลังจากที่นางได้เอ่ยถามว่าพวกเขาต้องการจะทำงานกับพวกนางหรือไม่ นางมีรอยยิ้มบนใบหน้าเอ่ยวาจาเบาๆ กับพวกเขา

"ข้ารู้ว่ามันเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ เพราะพวกท่านก็ล้วนเป็นคนเมืองหลวง แต่ข้าก็อยากให้พวกท่านได้พิจารณาดู เรากำลังจะตั้งหลักกันที่นี่ และเราจะสร้างบ้าน สร้างโรงงานผลิตสินค้าที่นี่ พวกเราต้องการคนจ้างคนดู
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 28  เก็บคนได้จากลำธาร

    บทที่ 28 เก็บคนได้จากลำธารท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมายังลำธารใสสะอาด เสียงน้ำที่ไหลกระทบหินก้องสะท้อนให้ความรู้สึกสงบ ลำธารนี้เต็มไปด้วยหินขนาดเล็กและพืชน้ำที่เขียวขจี เจียงหย่าเสวี่ยและป้าจวงกำลังนั่งเก็บหอยมุกที่พบในลำธาร แต่ละตัวมีเปลือกเงาวาวที่สะท้อนแสงแดดเล่นสีรุ้ง นางจึงไม่สามารถห้ามความตื่นเต้นได้"ป้าจวง ดูสิ! หอยมุกพวกนี้ช่างสวยจริง ๆ!" เจียงหย่าเสวี่ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นป้าจวงยิ้มและพยักหน้า "ใช่เจ้าค่ะคุณหนูเล็ก หากว่านำไปขายน่าจะทำเงินไม่น้อยทีเดียว โดยเฉพาะสีแดงและสีม่วง เป็นสีที่หาได้ยากมากจริง ๆ" นางมีความคิดว่าหากนำไปฝากให้หลงจู๊ฟู่เสี่ยวหานประมูลน่าจะได้เงินไม่น้อยทั้งคู่ช่วยกันเก็บหอยมุกใส่ตะกร้ามิติของป้าจวง ทั้งสองตั้งใจว่าจะเก็บเท่าที่เห็นอยู่ตรงหน้า ส่วนที่เหลือก็ค่อยมาเก็บในวันหลัง และหากว่าพวกนางสามารถซื้อภูเขาลูกนี้ได้ พื้นที่ทั้งหมดก็จะเป็นของพวกนาง ถึงตอนนั้นจะมาเก็บเมื่อไหร่ก็ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่เจียงหย่าเสวี่ยก้มลงเก็บหอยอยู่นั้น นางก็มองเห็นสิ่งหนึ่งอยู่ตรงมุมลำธารที่ลึกกว่าเดิม"ป้าจวง ดูนั่น!" เจียงหย่าเสวี่ยชี้ไปท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 29  สินบน

    บทที่ 29 สินบนย้อนไป 1 เดือนก่อนหน้าในยามราตรีที่เงียบสงบ ภายในห้องลับของโรงเตี๊ยมในเมืองหลวง ไฟโคมที่แขวนอยู่บนผนังส่งแสงวูบวาบทำให้เงาสะท้อนของคนสองคนที่กำลังเจรจากันเคลื่อนไหวตามจังหวะของไฟที่แกว่งไปมา เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นจากห้องนั้น ชายทั้งสองนั่งประจันหน้ากันที่โต๊ะไม้เก่าแก่ กลิ่นไม้เก่าอบอวลผสมกับกลิ่นอายแห่งความลับที่ทำให้บรรยากาศน่าอึดอัดเจียงเฉินนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทางที่ดูมั่นคง ดวงตาของเขาจ้องไปยังชายตรงหน้าด้วยความระมัดระวัง ชายที่นั่งตรงข้ามเขาไม่ใช่คนธรรมดา เขาคือพ่อค้ารายใหญ่ของเมืองหลวงที่มีอำนาจในแวดวงการค้าขาย "พ่อค้าใหญ่เซี่ยจง" ชายผู้ถูกลือว่าไม่มีสิ่งใดที่เขาไม่สามารถซื้อได้ ถ้ามีทองคำมากพอพ่อค้าเซี่ยจงยิ้มแย้มอย่างมีเลศนัย มือที่สวมแหวนทองขยับไปหยิบถุงหนังขนาดใหญ่จากด้านข้างแล้ววางลงบนโต๊ะ เสียงเงินตำลึงในถุงดังก้องเบา ๆ ราวกับเสียงเรียกที่เย้ายวนใจ เจียงเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่มือของเขาเอื้อมไปสัมผัสถุงนั้นก่อนที่จะค่อย ๆ เปิดมันออก ภายในเต็มไปด้วยเหรียญตำลึงที่ส่องแสงสีเงินสุกใส"ท่านเสนาบดีเจียงเฉิน ข้านำสิ่งนี้มาเพื่อเป็นการขอบคุณล่วงหน้าสำหรับค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 30 แผนสังหารที่ล้มเหลว

    บทที่ 30 แผนสังหารที่ล้มเหลว“บัดซบ!!!”"เพี๊ยะ!!!"“เพี๊ยะ”เสียงตวาดดังลั่นพร้อมกับฝ่ามือที่ฟาดเข้าที่ใบหน้าของคนสนิท ภายในห้องหนังสือขนาดใหญ่ของจวนตระกูลเจียง ดวงตาของเสนาบดีเจียงเฉินแดงฉานด้วยความโกรธ พ่อบ้านและบ่าวรับใช่คนสนิท ต่างตัวสั่นเทา หมอบกราบลงกับพื้น หวังเฟิงและหวังหยู๋ ลูกน้องมือขวาของเขาทั้งสองต่างสั่นสะท้าน เมื่อเผชิญกับความโกรธของเจ้านาย ภาพลักษณ์ของเสนาบดีเจียงเฉินที่แสนสุภาพและมีรอยยิ้มอ่อนโยนในยามปกติได้หายไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงชายวัยกลางคนที่เต็มไปด้วยความเดือดดาลอย่างไม่สามารถสะกดกลั้นอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้“พวกเจ้ามันเลี้ยงเสียข้าวสุกจริง ๆ แค่สังหารชินอ๋องที่มีองครักษ์ติดตามไม่กี่คนก็ยังทำไม่ได้! ข้าจะเก็บพวกเจ้าไว้ทำไม ถ้าใช้การไม่ได้เลยแบบนี้!”เสียงของเจียงเฉินดังก้องราวกับฟ้าผ่า ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธเกรี้ยว มือใหญ่ตบหน้าหวังเฟิงอย่างแรงจนเสียงดังไปทั่วห้องอีกครั้งหวังเฟิงกัดฟันอดกลั้น ความเจ็บปวดจากการถูกตบไม่มีสิ่งใดเทียบได้กับความหวาดกลัวในใจ เขายังคงคุกเข่าอยู่กับพื้น ก้มหน้าแนบพื้น ไม่กล้าแม้แต่จะสบตา“เรียนนายท่าน ในกลุ่มขององครักษ์นั้น...

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 31 การต่อรอง

    บทที่ 31 การต่อรองทางเมืองหลวงส่งมือสังหารจำนวนมากมาเพิ่มอย่างลับๆ ทางแม่ทัพซู่หลิงและเหล่าองครักษ์ต่างก็เร่งค้นหาร่างของชินอ๋องอยู่ในป่าอย่างเร่งด่วน ส่วนชายปริศนาที่เจียงหย่าเสวี่ยและป้าจวงช่วยชีวิตและเก็บมาได้ กำลังพักรักษาตัวอยู่ในเรือนไม่ได้รับรู้ถึงการตามหาและตามล่าตัวเองแต่อย่างใดวันนั้นหลังจากที่ป้าจวงและเจียงหย่าเสวี่ยกลับมาจากดูที่ดินพร้อมเก็บชายหนุ่มปริศนาผู้บาดเจ็บสาหัสและความจำเสื่อมมาด้วย 1 คน ตอนนี้เขาพักอยู่ที่เรือนรับแขกที่มีเหลืออยู่ 1ห้องพอดี หลังจากที่เจียงหย่าเสวี่ยเข้าไปดูอาการของเขาและเห็นว่าไข้ลดลงแล้ว เพียงแต่ว่าแผลที่ศีรษะยังน่าเป็นห่วงอยู่นางจึงให้เขาพักผ่อน และให้อาหานค่อยดูแล จากนั้นทั้งสามก็ปรึกษากันว่า ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกนางต้องไปชำระเงินและจัดการเรื่องการตั้งตระกูลตามที่ได้แจ้งให้ท่านเจ้าเมืองทราบไว้ก่อนหน้านี้ ให้เรียบร้อยเสียที วันนี้พวกนางจึงจะเข้าไปทำสัญญาซื้อขายที่ดินกับทางเมืองอวี้ไห่และเจียงหย่าเสวี่ยยังบอกกับท่านแม่ของนางว่านางต้องการภูเขาด้านหลังนั้นเพิ่มและได้ให้ท่านแม่ดูเหตุผลที่นางอยากได้ ซึ่งเมื่อเห็นไข่มุกหลากสีสันส่องประกายอยู่ ท่านแม่พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 32 จ้างแรงงาน

    บทที่ 32 จ้างแรงงานเย็นวันนั้นหลังจากที่เจียเฟิงซิ่วเหยา เจียงหย่าเสวี่ย ซึ่งต่อไปจะเรียกแซ่ของตัวเองว่าเฟิง นั้นก็กลับมาปรึกษาการเรื่องที่ดินใหม่ทันทีเฟิงซิ่วเหยานั้นเสนอให้เริ่มทำรั้วและทำความสะอาดพื้นที่ได้เลย เพราะว่าตอนนี้นั้นใกล้ที่จะเข้าหน้าหนาวแล้ว และเท่าที่จำได้ท่านแม่ของนางบอกว่าหน้าหนาวของที่นี่นั้นหิมะตกหนักมากและยาวนานถึง 3 เดือนที่เดียวหากว่าช้าไปกว่านี่การสร้างบ้านและโรงงานของพวกนางอาจจะมีปัญหาได้ ป้าจวงที่นั่งฟังก็เห็นด้วยเช่นกันเฟิงหย่าเสวี่ยนั้นเห็นด้วยเรื่องการทำรั่วและการปรับทำความสะอาดที่ดิน ส่วนเรื่องการสร้างบ้านนั้นนางเสนอท่านแม่และป้าจวงอีกอย่าง นั้นคือ นางคิดว่านางจะวาดมันออกมาเลยเพราะว่านางมีแบบที่ต้องการในใจแล้ว แต่หากว่ามีคนสงสัยหรือถามก็ให้ป้าจวงเป็นคนตอบคำถามพวกเขาแทน…ป้าจวง……..อีกแล้วรึคุณหนู!!!อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่าตอนนี้พวกนางมีแต่ผู้หญิงเด็ก แม่ลูกอ่อน คนเจ็บที่ไม่รู้ที่มาที่ไป และคนชรา (ที่ไม่ชรา) ทำให้ท่านแม่นั้นพยักหน้าเอาตามที่ลูกสาวบอก เพราะว่าจะให้รอคนคุ้มกันจากเมืองหลวงนั้นหากว่าพวกเขาตกลงที่จะมา มันก็ต้องใช้เวลาอยู่ดีและ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 33 รับคนพิการและเด็กทำงานด้วย

    บทที่ 33 รับคนพิการและเด็กทำงานด้วยยามเช้าของวันที่อากาศสดใส ลุงจงนายทหารผ่านศึกผู้พิการจากสงคราม มายืนแอบมองการจ้างงานของตระกูลเฟิงอย่างลับๆ หัวใจของเขาหนักอึ้ง จากการถูกปฏิเสธเมื่อวานนี้ แม้จะพยายามแล้ว แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ศาลาว่าการเห็นว่าเขาพิการพวกเขาจึงไม่ให้เขาลงชื่อทำให้ลุงจงผิดหวังมากพอสมควร แต่ทว่านี่ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาเสมอมา นั้นคือการถูกปฎิเสธนั้นเอง และที่ยืนอยู่กับเขาเป็นกลุ่มเด็กชายที่มีอายุประมาณ 8 - 10 ปี เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าพวกเขาเด็กไปเลยไม่ให้ลงชื่อเช่นกันแต่ว่าทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ปิดโอกาสเขาบอกว่าหากว่าพรุ่งนี้พวกเขาลองไปดูก็ได้ ไม่แน่ว่าทางนายจ้างอาจจะมีงานอย่างอื่นให้พวกเขาทำ ตอนนี้ไม่ว่าใครก็ต้องการงานต้องการเงินทั้งนั้นพวกเขาหน้าที่ก็ไม่อยากที่จะตัดโอกาสใครแต่พวกเขาก็ไม่อยากจะตัดสินใจโดยพลการ กลุ่มลุงจงและเด็กๆ 10 กว่าคนจึงยืนมองพวกชาวบ้านที่ต่อแถวรับอาหารอยู่ไกลๆ ไม่ได้เข้าไปวุ่นวายถึงแม้ว่าพวกเขาจะแอบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นคนงานที่ได้มีรายชื่อต่างก็กัดกินซาลาเปาไส้เนื้อกันอย่างเอร็ดอร่อยเฟิงหยวนเจี๋ยนายท่านเจ้าตระกูลเฟิง เดินไปมาด้วยความกระตือรือร้น ใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 34 เซรุ่ม

    บทที่ 34 เซรุ่มเมื่อชาวบ้านได้รับมอบหมายงานจากเจ้าหน้าที่ศาลาว่าการพวกเขาต่างก็แยกย้ายกันไป กลุ่มที่ต้องตัดไม้ล้วนเป็นชายฉกรรจ์มีแรงเยอะก็แยกออกไป กลุ่มคนแก่และเด็กก็แยกออกไป ส่วนกลุ่มที่อาสาเป็นแม่ครัวที่เฟิงหย่าเสวี่ยให้แยกออกมา นั้นตอนนี้พวกนางทั้ง 20 คนต่างก็รอว่านายหญิงจะให้พวกนางทำอาหารอะไรเป็นมื้อเที่ยง เฟิงหย่าเสวี่ยให้อาหงไปเรียกเหล่าแม่บ้านมาที่บริเวณที่พวกนางจะตั้งเป็นโรงครัวที่ได้กางเต้นท์ ตั้งโต๊ะวางอาหารสด เครื่องปรุงเอาไว้มากมายเมื่อชาวบ้านมาถึงบริเวณที่ตั้งโรงครัวที่ทางตระกูลเฟิงจัดเตรียมไว้ พวกเขาต่างก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ภายในบริเวณที่จัดให้เป็นโรงครัวนั้นเต็มไปด้วยเนื้อหมูสดใหม่ที่หั่นเป็นชิ้นใหญ่ ไก่ที่ถอนขนแล้วกองเป็นภูเขาเล็กๆ อยู่บนภาชนะขนาดใหญ่ และอาหารทะเลสด ๆ ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ซึ่งเฟิงหย่าเสวี่ยได้ซื้อมาจากชาวบ้านในเมืองอวี้ไห่ นอกจากนี้ยังมีผักสด ๆ เป็นตะกร้าใหญ่ ๆ เรียงรายเอาไว้เต็มพื้นที่ไปหมด"นี่... นี่มันอาหารที่พวกเราจะได้ทำกินเองหรือ?" ป้าถิงที่เป็นหนึ่งในแม่ครัวมือฉมังของเมืองอวี้ไห่เอ่ยขึ้นมา"ใช่เจ้าค่ะท่านป้า " เฟิงหย่าเสวี่ยต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 35 นายทหารผ่านศึกจงซีเหยียน

    บทที่ 35 นายทหารผ่านศึกจงซีเหยียนท่ามกลางแสงแดดยามบ่าวที่ร้อนแรงลุงจงหรือชื่อเต็มคือจงซีเหยียนกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ หลังจากที่เขาเพิ่งฟื้นตัวจากพิษงูอย่างน่าอัศจรรย์เพราะว่ายาวิเศษที่นายหญิงน้อยนั้นบอกว่าฉีดเข้าไปในร่างกายของเขา ความจริงแล้วนายหญิงน้อยนั้นให้เขากลับบ้านไปพักผ่อนและเงินค่าจ้างของวันนี้ก็ยังจะให้เขาอยู่ แต่ว่าเขาบอกว่าเขาดีขึ้นแล้วเขาขอนั่งดูชาวบ้านทำงานเถิดหากว่ามีงานเล็กๆ อะไรที่ไม่ต้องใช้แรงมากเขาอยากจะทำ เขาไม่อยากจะเอาเปรียบตระกูลของนางหญิง เฟิงหย่าเสวี่ยนั้นเมื่อเห็นว่าเขาไม่เป็นอะไรและยังไม่อยากกลับจึงให้คนพาเขาไปนั่งที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลและให้เสี่ยวลิ่วเอาเสื่อไปปูและนั่งเล่นกับท่านลุงคนนี้ได้ จะว่าไปเขาถือเป็นคนที่ช่วยชีวิตเจ้าเสี่ยวลิ่วก็ให้พวกเขาไปนั่งรออยู่ด้วยกันก็แล้วกันใต้ต้นไม้ใหญ่ตอนนี้มีลมพัดมาเย็นสบาย จงซีเหยี่ยนนั่งถอนใจระลึกถึงอดีตครั้งยังหนุ่ม ที่เขาเคยเป็นนายกองทหารในกองทัพ ช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยการต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเมืองของตนเอง รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา แม้แต่ตอนที่เขาหลับตา เสียงกลองรบยังคงก้องอยู่ในหู เสียงดา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17

บทล่าสุด

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 131  ผู้ถือครองพู่กันมังกรดำคนใหม่ / ป้ายทองเว้นโทษตาย

    บทที่ 131 ผู้ถือครองพู่กันมังกรดำคนใหม่ / ป้ายทองเว้นโทษตายพู่กันมังกรดำส่องประกายวูบวาบ ก่อนจะพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าและมุ่งหน้าตรงไปที่แคว้นต้าโจวมันพุ่งอย่างเร็วและแรงเลยผ่านหลายเมืองของแคว้นต้าโจวไม่ว่าจะเป็นดินแดนทางเหนือเลยผ่านเมืองหลวง และมุ่งหน้าลงใต้และในที่สุดมันก็สิ้นสุดลงที่่เมืองอวี้ไห่จากนั้นก็ค่อยๆ ลอยไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลเฟิงที่ตอนนี้มีผู้ที่อยู่ที่นั่นมีเพียงแค่หลินเหมยและเฟิงซินซินลูกสาวตัวน้อยของนางนั้นเองในห้องที่อบอุ่นของคฤหาสน์ตระกูลเฟิง เฟิงซินซินน้อยเพิ่งดื่มนมมารดาเสร็จ ดวงตากลมโตเริ่มหรี่ลงด้วยความง่วง ริมฝีปากน้อยๆ ยังเปื้อนรอยนม หลินเหมยได้อุ้มลูกน้อยไปนอนในเปลและเมื่อเห็นว่าลูกน้อยหลับนางจึงได้ออกจากห้องไปแต่แล้วลมเย็นก็พัดผ่านเข้ามาในห้อง พู่กันมังกรดำลอยเข้ามาอย่างเงียบเชียบ มันวนเวียนอยู่เหนือเปลเด็ก ปลายพู่กันแตะเบาๆ ที่ปลายจมูกเล็กๆ ของเฟิงซินซินเด็กน้อยขยับตัว มือป้อมๆ ยกขึ้นปัดราวกับกำลังขับไล่แมลงหรือสิ่งก่อกวนที่ไม่พึงปรารถนาแต่แค่มือเล็กนุ่มนิ่มของนางปัดเบาๆ ของเด็กน้อยคราวนี้กลับสัมผัสเข้ากับด้ามพู่กันที่เย็นเยียบเป็นพู่กันมังกรดำโบราณท

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 130 การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของมังกรทอง

    บทที่ 130 การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของมังกรทองเสียงหยดน้ำที่กระทบพื้นหินดังสะท้อนก้องภายในถ้ำมืดมิดราวกับโถงใต้พิภพที่ไร้จุดสิ้นสุด บรรยากาศชวนให้หัวใจเต้นระส่ำราวกับมีมือที่มองไม่เห็นกำลังบีบรัดอยู่รอบคอ ทุกคนค่อยๆ ก้าวลึกเข้าไปทีละน้อยอย่างระแวดระวัง เสียงสวดที่ดังก้องอยู่รอบข้างฟังดูเหมือนเสียงครวญครางของวิญญาณซึ่งโหยหาการปลดปล่อย เสียงหอบหายใจของเหล่าทหารและคนในคณะเดินทางประสานเข้ากับเสียงน้ำหยด ท่ามกลางความมืดที่สลัว แสงจากคบเพลิงสาดส่องให้เห็นภาพวาดโบราณบนผนังถ้ำ เป็นภาพของมังกรดำกำลังกลืนกินดวงจันทร์อย่างดุร้าย สะท้อนให้เห็นร่องรอยความน่าสะพรึงในอดีตที่เคยถูกผนึกไว้ในถ้ำแห่งนี้กลางโถงถ้ำกว้าง เหวินเทียนหลงผู้ถูกครอบงำด้วยพลังมืดแห่งพู่กันมังกรดำกำลังตกอยู่ในสภาพอันชวนขนลุก ร่างกายของเขาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นร่างครึ่งมังกร เกล็ดสีดำทะมึนขึ้นปกคลุมเนื้อหนัง ลามไปถึงใบหน้าจนเห็นเค้าโครงแทบไม่เหลือเค้าคนเดิม ดวงตาสีแดงฉานเบิกกว้างดุจสัตว์ร้ายที่กระหายเลือด เสียงหัวเราะของเขาแหลมสูงสะท้อนก้องราวกับภูตผีที่อาละวาดในคืนเดือนมืด"หยุดเดี๋ยวนี้!" ฮ่องเต้เจิ้งอี้หลงตรัส "เจ้ากำลังทำลายชีวิตผู้บ

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 131  ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ตระกูลเหวิน

    บทที่ 131 ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ตระกูลเหวิน"เป็นแค่งู จะสู้มังกรได้อย่างไร? ชิงหลง!!"เฟิงหย่าเสวี่ยตะโกนขึ้นมายกพู่กันขึ้นตวัดวาดอักขระด้วยจังหวะที่สงบนิ่ง แต่เต็มไปด้วยพลังที่ซ่อนอยู่ แสงสีเงินเริ่มเปล่งประกายจากพู่กัน และทันใดนั้น เสียงคำรามแผ่วลึกก็ดังก้องไปทั่วป่า มังกรที่นางวาดคราวนี้ไม่ใช้มังกรทองแต่ทว่าเป็นมังกรเหล็กขนาดมหึมาปรากฏขึ้นจากแสงอักขระ ร่างของมันแวววาวด้วยเกล็ดโลหะคมกริบ ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องไปยังงูยักษ์มังกรเหล็กพุ่งเข้าโจมตีอย่างดุเดือด กรงเล็บและหางของมันกวาดผ่านนางพญางูยักษ์ เกล็ดแข็งของงูไม่อาจต้านทานพลังอันมหาศาลนี้ได้ เสียงคำรามของงูดังสะท้อนป่า ขณะที่มังกรเหล็กใช้กรงเล็บจับงูไว้แน่น ก่อนที่มันจะอ้าปากพ่นไฟสีเงินบริสุทธิ์ที่ในเปลวไฟนั้นเป็นพิษที่เหมือนกับตะกั่วใส่ร่างของนางพญางูยักษ์ภายในพริบตา นางพญางูยักษ์ก็ถูกพิษตะกั่วลามไปทั่วทั้งร่างไม่สามารถขยับตัวได้ จากนั้นมังกรเหล็กก็ใช้หางฟาดอย่างแรงไปที่ร่างของมันทำให้มันแตกเป็นเสี่ยงๆ ราวกับกระจกแตกและในที่สุดก็สลายเป็นเถ้าถ่านกระจายไปในอากาศทันที เฟิงหยวนเจี๋ยลดพู่กันลง มังกรเหล็กยังคงลอยอยู่บนท้องฟ้าจากนั้นก็ค่อยล

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 128 ป่าพิษกับนางพญางูยักษ์

    บทที่ 128 ป่าพิษกับนางพญางูยักษ์คณะของเฟิงหย่าเสวี่ยค่อยๆ เดินทางมาเรื่อยๆ ระหว่างทาง เฟิงหย่าเสวี่ยสังเกตเห็นเมฆดำก่อตัวเหนือยอดเขาที่เป็นจุดหมายปลายทาง นางรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่าง... บางสิ่งที่ชั่วร้ายกำลังรอคอยพวกเขาอยู่...คณะเดินทางมุ่งหน้าไปตามเส้นทางที่ปรากฏในแผนที่ เมื่อพระอาทิตย์คล้อยต่ำ เฟิงหยวนเจี๋ยสังเกตเห็นสัญลักษณ์แปลกๆ สลักอยู่บนก้อนหินริมทาง"หยุดก่อน!" เขาร้องเตือน "ตรงนี้มีค่ายกลซ่อนอยู่"แม่ทัพเว่ยสิง เดินเข้าไปตรวจสอบสัญลักษณ์อย่างละเอียด “มันคล้ายกับค่ายกล” เขาเอ่ยขึ้นมา"เป็นค่ายกลนำทาง" เฟิงหย่าเสวี่ยกล่าว นางจ้องมองสัญลักษณ์บนก้อนหิน "ถ้าเราเดินผ่านไปโดยไม่ทำตามที่มันบอก จะเจอกับดัก"เฟิงหยวนเจี๋ยพยักหน้า "และดูเหมือนว่าจะมีคนผ่านมาที่นี่ไม่นานมานี้" เขาชี้ไปที่รอยเท้าบนพื้น "รอยเท้าเหล่านี้ยังใหม่มาก""เหวินเทียนหลงและพรรคพวก" ฮ่องเต้เจิ้งอี้หลงกล่าว ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่รอยเท้า "พวกเขาต้องมุ่งหน้าไปที่ถ้ำแน่นอน""ทูลฝ่าบาท" ทหารนายหนึ่งชี้ไปที่เส้นทางข้างหน้า "มีควันลอยขึ้นมาจากทางนั้น"ทุกคนมองไปตามทิศทางที่ทหารชี้ เห็นควันบางๆ ลอยขึ้นมาจากป่าทึบ กลิ่น

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 121 เดินทางสู่ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเหวิน

    บทที่ 121 เดินทางสู่ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเหวินแสงแรกของวันทอดผ่านบานหน้าต่างพระราชวัง เฟิงหย่าเสวี่ยมองออกไปยังลานกว้างเบื้องล่าง ใจหนึ่งยังคงหนักอึ้งเมื่อครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่เพิ่งค้นพบเกี่ยวกับพู่กันมังกรดำ แต่ในขณะเดียวกันนั้น ก็มีความอบอุ่นบางอย่างก่อเกิดขึ้นภายในใจ ทุกครั้งที่นางละสายตาจากภาพยามเช้า นางจะพบว่าฮ่องเต้เจิ้งอี้หลงยืนอยู่ไม่ไกล ราวกับต้องการคุ้มกันนางอย่างเงียบ ๆ“เมื่อคืนเจ้าคงหลับไม่ค่อยสนิทกระมัง” เสียงทุ้มของฮ่องเต้เจิ้งอี้หลงเอ่ยถาม เขาเดินมายืนข้าง ๆ เฟิงหย่าเสวี่ยพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็ยื่นแก้วกาแฟดำที่ตอนนี้ได้กลายเป็นเครื่องดื่มที่เจิ้งอี้หลงนั้นชื่นชอบมากที่สุดก็ว่าได้ ข้างๆ นั้นเฟิงหยวนเจี๋ยกำลังดื่มนมผสมช็อกโกแลตที่พี่ใหญ่วาดออกมาให้เขาเช่นกัน และแน่นอนว่ามันคือเครื่องดื่มที่เขานั้นชอบมากที่สุดในตอนนี้ “เพคะ” นางพยักหน้า ก่อนจะกล่าวอย่างจริงจัง “เรื่องพู่กันมังกรดำทำให้หม่อมฉันเป็นกังวล มันน่าหวั่นเกรงกว่าที่เคยรู้มาเสียอีก”เจิ้งอี้หลงรับฟังด้วยสีหน้าเรียบขรึม จากนั้นก็เหล่ตามองเจ้าเจี๋ยหยวนที่กำลังก้มหน้าก้มตาดื่มนมช็อกโกแลตของตัวเองอยู่ ก่อนจะโน

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 120 ความลับของพู่กันมังกรดำ

    บทที่ 120 ความลับของพู่กันมังกรดำและก่อนที่พวกเขาจะกลับออกมา เฟิงหยวนเจี๋ยได้พบประตูเล็กๆ อีกบานที่อยู่ด้านหลังค่ายอาคมที่เพิ่งระเบิดไป เมื่อเขาเดินไปดูใกล้ๆ ก็เห็นว่าประตูยังปิดสนิทอยู่ เขาค่อยๆ ยกพู่กันมังกรหยกของตัวเองขึ้นมาและใช้มันเหมือนกับกระบี่ที่ค่อยๆ ดันให้ประตูเปิดออก ฮ่องเต้เจิ้งอี้หลงและเฟิงหย่าเสวี่ยหันไปมองทันทีที่ได้ยินเสียงประตูเปิด พวกเขามองหน้ากัน จากนั้นก็เดินตามเจ้าเล็กเข้าไปเมื่อประตูห้องถูกเปิดออก กลิ่นหมึกและกระดาษเก่าโชยออกมา ภายในห้องมืดสนิท เฟิงหย่าเสวี่ยจึงให้ฮ่องเต้เจิ้งอี้หลงวาดไฟฉาย LED ขนาดใหญ่ขึ้นมา และจัดการห้อยไว้ตรงประตูทางเข้า ห้องที่เคยมืดสนิทเมื่อเจอแสงสว่างจากหลอด LED เข้าก็ไม่มีส่วนใดมืดมิดอีกต่อไป พวกเขาจึงสามารถมองเห็นทั้งห้องได้อย่างชัดเจน ภายในห้องมีชั้นหนังสือสูงจรดเพดาน แสงจากไฟฉายเผยให้เห็นโต๊ะไม้แกะสลักตัวใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง พวกเขาทั้งสามเดินดูรอบๆ ห้องทันทีพวกเขาหยิบคัมภีร์เหล่านั้นมาดู มีบันทึกเก่าและวิชาของตระกูลเหวินมากมายอยู่บนนั้น รวมทั้งคาถา บันทึกการเดินทางของบรรพบุรุษ และการวางค่ายกลต่างๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ตระกูลเหวินส

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 119 ขุมทรัพย์ตระกูลเหวิน

    บทที่ 119 ขุมทรัพย์ตระกูลเหวินหลังจากที่คณะของแม่ทัพซู่หลิงและชินอ๋องช่วยเหลือจนสามารถกวาดล้างเหล่าผู้ทรยศได้ พวกเขาก็กลับแคว้นต้าโจวพร้อมกับสองพี่น้องจวงและพระชายาเฟิง ซึ่งหากว่าชินอ๋องและแม่ทัพใหญ่แห่งต้าโจวอยู่ด้วยคงจะไม่ดีนักในสายตาของเหล่าขุนนางของแคว้นต้าหมิง ส่วนเฟิงหย่าเสวี่ยและเฟิงหยวนเจี๋ยนั้นยังคงอยู่ที่แคว้นต้าหมิงเพื่อช่วยเหลือองค์ชายอี้หลงให้ขึ้นครองบัลลังก์ก่อนเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังก้องในท้องพระโรง ร่างของทหารนายหนึ่งวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก เลือดไหลซึมจากแผลบนแขนของเขา"ทูลฝ่าบาท! มีเหตุด่วนที่จวนตระกูลเหวินพะยะค่ะ!" ทหารคุกเข่าลงรายงาน "ค่ายอาคมที่ซ่อนอยู่ในจวนได้ทำให้นายทหารของเราบาดเจ็บสาหัสไปสิบนายแล้วพะยะค่ะ และอีกหลายคนได้ดูเหมือนว่าจะรับพิษพะยะค่ะ"เจิ้งอี้หลงทรงขมวดคิ้ว"เกิดอะไรขึ้น?""นายทหารหนึ่งกองร้อยได้ตรงไปที่จวนตระกูลเหวินเพื่อทำการยืดทรัพย์สินของพวกเขาเป็นของแผนดินตามพระราชบัญชา พอถึงประตูจวนพวกเราก็ไม่สามารถเข้าไปได้อย่างง่ายดาย มีนายทหารเริ่มบาดเจ็บและเมื่อเข้าไปได้ พวกเราพยายามค้นห้องลับตามที่ได้รับรายงานพะยะค่ะ แต่พบว่าทั่วทั้งจวนมีกับดักและ

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 118 การชำระล้างราชวงค์ต้าหมิง

    บทที่ 118 การชำระล้างราชวงค์ต้าหมิงเสียงคำรามสุดท้ายของมังกรดำทั้งเก้าดังก้องไปทั่วผืนฟ้า ก่อนที่ร่างของพวกมันจะสลายกลายเป็นละอองแสงสีทองที่ลอยหายไป เฟิงหยวนเจี๋ยยังคงยืนนิ่งกลางวงเวท ร่างเล็กๆ ของเขาส่องแสงอ่อนๆ จากพลังน้ำทิพย์ที่ยังหลงเหลืออยู่ในมือ ทุกสายตาในลานพิธีจับจ้องเขาด้วยความเคารพและทึ่งในความกล้าหาญเฟิงหยวนเจี๋ยนั้นมองไปที่เงาดำมรณะที่เมื่อร่างของฮองไทเฮาสลายไปพวกมันยังคงพยายามที่จะต่อสู้ เขาจึงยกพู่กันขึ้นและตวัด2-3 ครั้งร่างของพวกเขาก็สลายกลายเป็นเถ้าตามฮองไทเฮาไป ส่วนทหารที่เหลือเมื่อเห็นว่าฝ่ายตนนั้นพ่ายแพ้พวกเขาต่างก็รีบหันหลังและวิ่งหนีไปฮ่องเต้เจิ้งหลี่เฟิงก็เหมือนกันที่เห็นว่าตอนนี้พวกเขานั้นพ่ายแพ้แล้วกำลังอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีออกไปโดยการช่วยเหลือของคนของเขา องค์ชายเจิ้งอี้หลงนั้นไม่ได้ติดไปเขาไป แต่เลือกใช้พู่กันชิงหลงวาดอักขระควบคุมวิญญาณแทน แสงสีฟ้าสายหนึ่งพุ่งตรงไปยังร่างของเจิ้งหลี่เฟิงอย่างแม่นยำ รอยอักขระลึกลับเรืองแสงขึ้นบนหน้าผากของอดีตฮ่องเต้หนุ่ม ก่อนที่เขาจะหายลับเข้าไปในความมืด"ข้าคิดว่าเขาจะกลับไปหากองกำลังที่หลงเหลือของอดีตฮองไทเฮา" องค์ชายเจิ้ง

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 117  การปลดปล่อยมังกรโบราณทั้ง 9 EP 2

    บทที่ 117 การปลดปล่อยมังกรโบราณทั้ง 9 EP 2เขามองดูขวดน้ำทิพย์ในมือ ความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องราวโบราณที่เคยได้ยินผุดขึ้นมา เรื่องของมังกรที่ถูกกักขัง ถูกทรมาน ถูกบังคับให้กลายเป็นอาวุธแห่งความมืด พวกเขาไม่ได้ต้องการการทำลาย แต่ต้องการการไถ่บาป ต้องการคนที่เข้าใจและยอมรับในตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา"น้ำยานี้..." เขากระซิบ มองดูของเหลวใสที่เรืองแสงในขวดหยก"มันไม่ควรเป็นอาวุธ แต่ควรเป็นน้ำแห่งการชำระล้างและการปลดปล่อย มันควรจะเป็น น้ำทิพย์!!"เขากัดริมฝีปากความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจ หากเลือดบริสุทธิ์ของเด็กสามารถเปลี่ยนน้ำยาในขวดหยกนี้ให้กลายเป็นน้ำแห่งการไถ่บาปได้... และหากเขาใช้มันไม่ใช่เพื่อทำร้าย แต่เพื่อปลดปล่อยพวกเขาเล่า เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองเหล่ามังกรดำที่กำลังส่งเสียงคำรามก้องไปทั่วไป ราวกับว่าพวกมันกำลังเรียกร้องหา…อิสรภาพ!!!.."ข้าเข้าใจแล้ว..." เขาลุกขึ้นยืน ดวงตาเปล่งประกายด้วยความหวัง "ศึกครั้งนี้ไม่ใช่การต่อสู้ แต่เป็นการช่วยเหลือ ไม่ใช่การทำลาย แต่เป็นการปลดปล่อย..."เด็กน้อยกัดปลายนิ้ว เลือดสีแดงหยดลงในน้ำยาภายในขวดหยก น้ำยาที่เคยใสกลับเปล่งประกายเรืองรองเป็นสีทองทันที คลื่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status