เรื่องที่ชายผมหยิกโด่งดังที่สุดคงหนีไม่พ้นที่เขาเคยใช้เวลาเพียงหนึ่งก้านธูปนับแกะวงใหญ่ แกะพวกนั้นมีมากถึงสามพันกว่าตัว พวกเสิ่นหมิงหยวนยืนชมความครึกครื้นอยู่ทางด้านข้างพวกเขาชอบเห็นเฉินฝานอับอายขายหน้า“รู้แล้ว ๆ จะไว้หน้าแน่นอน” ชายผมหยิกเอ่ยพลางหัวเราะลั่น จะต้องทำให้อัครเสนาบดีผู้นี้อับอายขายหน้าอย่างถึงที่สุดชายผมหยิกกับเฉินฝานยืนอยู่เบื้องหน้ากรงใหญ่ ภายในกรงมองเห็นเพียงหัวและขาของไก่กับกระต่ายเท่านั้นชายผมหยิกกระดกนิ้วมือทั้งสิบไปมา พูดพึมพำในปาก ส่วนเฉินฟานก็ชี้นิ้วไปยังไก่และกระต่ายในกรงเช่นกัน แต่ว่าการเคลื่อนไหวของเขาช้ากว่าชายผมหยิกมากฉินเย่ว์เหมยไม่กล้าดูแล้ว ปากของอ๋องตวนก็พึมพำตลอด ถึงแม้ลูกเขยของข้าจะไม่ค่อยเก่งเรื่องการคำนวณ แต่เขาเดาตัวเลขเก่ง เดาเลขเก่งก็เป็นลูกเขยที่ดีของเขาแล้ว“ผ่านไปครึ่งถ้วยชา”เสียงแหลมของหลี่เต๋อฉวนดังขึ้นความจริงแล้วเวลาหนึ่งถ้วยชาก็คือประมาณสองนาที ตอนนี้เวลาผ่านไปหนึ่งนาทีแล้วเฉินฝานมองไปทางชายผมหยิกที่อยู่ด้านข้างอย่างเบื่อหน่ายเล็กน้อย อีกฝ่ายยังคงกระดกนิ้วมืออย่างว่องไว ริมฝีปากขยับรวดเร็ว“พวกท่านดูเขาสิ ไม่ค
“ข้าไม่ยอม ชาวต้าชิ่งอย่างพวกท่านจะต้องโกงเป็นแน่ ต้องมีคนบอกคำตอบให้เฉินฝานล่วงหน้าอย่างแน่นอน”ชายผมหยิกส่งเสียงดังหากให้เขาขอโทษเฉินฟาน เช่นนั้นชื่อเสียงของเทพคำนวณอันดับหนึ่งในใต้หล้าของเขาจะไม่หายไปเหรอ?เขาอาศัยชื่อเสียงนี้ทำให้กิจการใหญ่โตขึ้นมานะ“พอได้แล้ว!” โอวหยางน่าหลันตวาดด้วยความโมโห “เจ้าแพ้ก็คือแพ้ คุกเข่าขอโทษท่านอัครเสนาบดีเสีย!”ในฐานะที่เป็นผู้กุมอำนาจที่แท้จริงของแคว้นหลู่ โอวหยางน่าหลันพบเจอคนนับไม่ถ้วน และจัดการเรื่องราวมานับไม่ถ้วนนางรู้ว่าเฉินฝานไม่ได้โกงเฉินฝานชนะแล้ว ในใจของโอวหยางน่าหลัน ความจริงแล้ว...ดีใจมากเลยเนื่องจากเฉินฝานชนะแล้ว พิสูจน์ว่าเขาเป็นคนที่เข้าใจตัวเลข เรื่องการซื้ออาวุธหกล้านชิ้นในเวลาสามเดือนก็เป็นความจริง“ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอกพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมอยากเสนอเงื่อนไขข้อหนึ่งกับองค์หญิงโอวหยาง” เฉินฝานกล่าวเงื่อนไขที่เขากำลังจะเสนอ มีค่ามากกว่าเข่าของชายผมหยิกมากนัก“เชิญท่านพูดมา” โอวหยางน่าหลันตอบรับอย่างตรงไปตรงมามากถึงแม้ชายผมหยิกจะเป็นพ่อค้ารายใหญ่ที่สุดของแคว้นหลู่ แต่ถ้าชื่อเสียงของชายผมหยิกเสียหาย ทำเงินได้น้อยลง แคว้
ครั้งนี้ บรรดาขุนนางต้าชิ่งในท้องพระโรงต่างเงียบกริบอย่างผิดปกติไม่มีการคัดค้านเสียงดัง ยิ่งไม่มีการดุด่าเสียงดัง ทุกคนล้วนก้มหน้า ถอนหายใจด้วยความโศกเศร้าฝ่าบาททรงปล่อยให้เฉินฝานทำตามอำเภอใจ เสิ่นหมิงหยวนก็คอยชมเรื่องสนุกอยู่ด้านข้าง พวกเขาโกรธไปคัดค้านไปจะมีประโยชน์อันใดขุนนางอาวุโสบางคนถึงกับแอบเช็ดน้ำตารากฐานสองร้อยกว่าปีของต้าชิ่งเกรงว่าจะจบสิ้นแล้วโอวหยางน่าหลันแค่นเสียงเบา ๆ “การซื้อขายไม่ใช่แค่ลมปากก็ได้นะ”“องค์หญิงตรัสถูกต้อง การทำการค้าไม่ใช่เรื่องแค่ลมปากก็ได้ ต้องให้ความสำคัญกับความจริงใจด้วย” เฉินฝานหันไปพูดกับเสิ่นหยวนเลี่ยงว่า “เสิ่นหยวนเลี่ยง!”“เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ?” เสิ่นหยวนเลี่ยงทำหน้าบูดบึ้งมาก เฉินฝานเรียกชื่อเขาตรง ๆ แถมยังต่อหน้าขุนนางนับร้อยด้วยเสิ่นหยวนเลี่ยงยังคงไม่ชินกับการเปลี่ยนสถานะของเฉินฝาน ยังคงมองว่าเฉินฝานเป็นเพียงคนบ้านนอกคนหนึ่ง“เสิ่นหยวนเลี่ยงไง? มีอะไร?” เฉินฝานหัวเราะหยันเบา ๆ “เจ้าเปลี่ยนชื่อแล้วหรือ?” “ข้าเปลี่ยนชื่อที่ไหนกัน? แต่เป็นเจ้าต่างหากที่...”“บังอาจ!”“เพียะ!”ตบหน้าเสิ่นหยวนเลี่ยงไปหนึ่งฉาด“หา!”คนทั้งท้อง
โอวหยางน่าหลันเลิกผมของตัวเอง บิดสะโพกเดินเข้ามาอย่างอ่อนช้อย ร่างอวบอิ่มของเธอแทบจะแนบชิดกับร่างของเฉินฝานแล้วยอดอกคู่นั้นกระเพื่อมเป็นระลอกหลังจากเฉินฝานเอาชนะชายผมหยิกมาได้ ความตั้งใจที่ชิงตัวเฉินฝานของโอวหยางน่าหลันก็ยิ่งแน่วแน่มากขึ้นมือเรียวงามของโอวหยางน่าหลันลูบผ่านหน้าอกของเฉินฝาน ก่อนจะยื่นไปหาภูเขาเงินเบื้องหน้า นางหยิบแท่งเงินขึ้นมาจ่อที่ริมฝีปากแล้วเป่าลมเบา ๆเมื่อโอวหยางน่าหลันวางเงินลงและชักมือกลับมา นางยังไม่ระวังสัมผัสโดนหน้าของเฉินฝานนางไม่ได้ขอโทษ เธอคลี่ยิ้มงดงาม“ท่านอัครเสนาบดีซ้ายตรงไปตรงมาขนาดนี้ ข้าชอบ!”“ได้!” โอวหยางน่าหลันยกมือเรียวสวยขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะเอานิ้วชี้จิ้มหน้าอกเฉินฝานเบา ๆ ริมฝีปากแดงเผยอเล็กน้อย “ภายในสามเดือน จะส่งอาวุธหกล้านชิ้น และวัวหนึ่งหมื่นห้าพันตัวให้แก่ต้าชิ่ง!”เวลานี้ ความรู้สึกของโอวหยางน่าหลันเหมือนกับเสิ่นหมิงหยวนไม่มีผิดต้องรีบทำการค้านี้โดยเร็ว สูบเงินออกจากท้องพระคลังของต้าชิ่งโดยเร็ว จากนั้นเฉินฝานก็จะกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของต้าชิ่งนางแย่งเฉินฝานมาก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้ว“แต่...” โอวหยางน่าหลันกล่าวอีกว่า
“ชิ้ง!”เฉินฝานเพิ่งมาถึงตำหนักไท่เหอมินาน ก็มีมีดเล่มหนึ่งมาจ่อที่คอไว้ เดิมทีคิดว่าฝ่ายตรงข้ามต้องการเพียงขู่ขวัญเขาเท่านั้น มิคิดว่า...“ชิ้ง ๆ ๆ ๆ!”มีเงาดาบเงินที่จ้องจะเอาชีวิตพุ่งมาใส่เขาอย่างรวดเร็วโชคดีที่เฉินฝานมีทักษะพื้นฐานที่ดี มิเช่นนั้นวิญญาณคงจะหลุดออกจากร่างไปนานแล้ว“ว้าว เจ้าจริงจังหรือ!” เฉินฝานเบี่ยงตัวหลบดาบที่พุ่งมาหาตนไปมา “หากยังมิยั้งมือ ข้าจะถูกเจ้าแทงตายจริงเข้าแล้ว เจ้าคิดจะสังหารสามีตนเองงั้นหรือ!”“ตายก็ช่างเจ้าสิ!”ดาบอ่อนในมือของฉินเย่ว์เหมยกวัดแกว่งอย่างมิหยุดหย่อนทว่าตอนที่ดาบสัมผัสกับเฉินฝาน ก็หันคมดาบออกทันทีเฉินฝานอาศัยจังหวะนี้จับข้อมือของฉินเย่ว์เหมยดึงนางเข้ามากอด“เจ้าหึงข้างั้นรึ?”เฉินฝานยิ้มพลางจ้องใบหน้างดงามเยือกเย็นนั้น“ใครหึงเจ้ากัน? ชายมักมาก!”ฉินเย่ว์เหมยปั้นสีหน้าเคร่งขรึม ผลักเฉินฝานออกไปทันทีหลังจากที่ผลักเฉินฝานออกไปแล้ว ฉินเย่ว์เหมยก็เดินตรงเข้าไปในตำหนัก เดินออกมาพร้อมกับชุดลำลองหนึ่งชุดกล่าวเป็นชุดลำลองก็มิเชิง คล้ายกับชุดอยู่เรือนเสียมากกว่า“ท่านจะไปอาบน้ำงั้นหรือ จะพาข้าน้อยไปอาบด้วยสินะ?” เฉินฝานยิ้มหน
“กล่าวหากันชัด ๆ”“โอ้โห!” เฉินฝานตกใจอย่างมาก “นี่เป็นการกล่าวหาข้าชัด ๆ!”เมื่อก่อนเคยเห็นแต่ในโทรทัศน์ ตอนนี้ได้มาเจอของจริง เฉินฝานรู้สึกแปลกใหม่อย่างมาก “ไหนข้าดูสิมีใครกล่าวหาข้าบ้าง?”เฉินฝานกวาดสายตาอ่านต่อ“หลิวเกาจัว!” เฉินฝานชี้ชื่อของหลิวเกาจัว “เจ้าคนที่พูดจาเหน็บแนมข้า คอยดูเถอะ”“มิได้มีเพียงหลิวเกาจัวเสียหน่อย” ฉินเย่ว์เหมยชี้นิ้วไปทางโต๊ะ “กองเหล่านี้ล้วนใช่ทั้งหมด!”เฉินฝานผินสายตาขึ้นจากสาสน์กราบทูลของหลิวเกาจัว มองไปทางฉินเย่ว์เหมยสามกองพะเนิน“โอ้โห เยอะเพียงนั้นเชียวรึ!”“มาถึงเพียงนี้แล้วไฉนเจ้ายังทำตัวเป็นทองมิรู้ร้อนได้อีก? คนมหาศาลกำลังใส่ความเจ้าอยู่ หากท้ายที่สุดเจ้าผลาญเงินท้องพระคลังจนหมดสิ้นจริง ๆ ต่อให้ข้ายอมสละบัลลังก์ ก็ปกป้องเจ้าไว้มิได้”ใบหน้าเย็นชาของฉินเย่ว์เหมยพลันหม่นหมองนางรู้สึกผิดหวังในท่าทีของเฉินฝานเฉินฝานเป็นคนที่ได้รับความสำเร็จเพียงเล็กน้อย ก็ลำพองใจ มิรู้จักแยกแยะความสำคัญอย่างที่พวกหลิวเกาจัวพูดงั้นหรือ?เฉินฝานสังเกตเห็นความหม่นหมองและความผิดหวังของฉินเย่ว์เหมยได้ทั้งหมด เขาวางสาสน์กล่าวหาของหลิวเกาจัวลง เดินมาด้าน
“ก็ได้ ข้าจะเชื่อใจเจ้า!”ถึงแม้น้ำเสียงของฉินเย่ว์เหมยจะแผ่วเบา ทว่าความตั้งใจหนักแน่นอย่างมากนางเชื่อมั่นเฉินฝานอย่างแท้จริงนางมิรู้ว่าสงครามการค้าที่เฉินฝานกล่าวถึงคือสิ่งใดกันแน่ รู้เพียงว่าแค่มีเฉินฝานอยู่ นางก็สบายใจแล้วจันทราด้านนอกหน้าต่าง ปรากฏอยู่บนท้องนภาแล้วในค่ำคืนที่สิบห้าจันทราเต็มดวงเป็นพิเศษ แสงจันทร์เย็นยะเยือกส่องมาที่ใบหน้าเย็นยะเยือกแบบเดียวกันของฉินเย่ว์เหมยทว่ามิทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวเหน็บหัวใจ กลับขับความเย็นชาชวนหลงใหลของฉินเย่ว์เหมยให้เด่นชัดขึ้นปอยผมที่ปลิดปลิว ใบหน้าอันยลโฉม ทำให้นางดูเป็นความงดงามของชนชั้นสูงลมพัดลอดผ่านทางหน้าต่างมาทำให้ผมตรงหน้าผากของฉินเย่ว์เหมยยุ่งเหยิงเฉินฝานเอื้อมมือไปจัดผมให้ฉินเย่ว์เหมยอย่างแผ่วเบาหาได้ยากที่ฉินเย่ว์เหมยจะมิผลักเฉินฝานออกไปความรู้สึกลึกซึ้งในใจของทั้งสองคนหยั่งรากลึกขึ้นเรื่อย ๆในตอนที่สติหลุดลอย ริมฝีปากของเฉินฝานก็ไปอยู่ใกล้ริมฝีปากของฉินเย่ว์เหมยแล้ว...“ฝ่าบาท!”หงอิงเดินมาที่ทางเข้าตำหนักหย่งเหอด้วยท่าทางรีบร้อน“ข้า ข้าน้อยมิเห็นอันใดทั้งสิ้น!”หงอิงมิอยากรบกวนพวกเฉินฝาน จึงรีบหันหน้า
ปรากฏว่าหมอหลวงสวีกลับเข้ามาอย่างกะทันหัน หากหมอหลวงสวีอยู่ การที่เสิ่นหมิงหยวนคิดที่จะให้เสิ่นไต้มั่นแสร้งตั้งครรภ์ก็แทบจะเป็นไปมิได้แล้วตอนนี้ต่อให้เขาจะหาสตรีที่ตั้งครรภ์มาได้แล้ว ก็ต้องให้เสิ่นไต้มั่นตั้งครรภ์ให้ได้เสียก่อนหลังจากที่เฉินฝานออกไปปราบก่อกบฏแล้ว ฉินเย่ว์เหมยก็อ้างว่ารู้สึกกระวนกระวายใจอย่างมากจึงปฏิเสธมิเข้าวังหลังกองกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนสามหมื่นนายบุกเข้าโจมตีเมืองหลวง ฉินเย่ว์เหมยมิเข้าวังหลัง เสิ่นหมิงหยวนก็พูดอะไรมากมิได้ตอนนี้กำจัดกองกำลังกบฏได้แล้ว เสิ่นหมิงหยวนจึงให้แม่ของเสิ่นไต้มั่นเข้าวัง เพื่อที่ให้นางทำทุกวิถีทางพยายามเอาอกเอาใจฉินเย่ว์เหมย และตั้งครรภ์รัชทายาทก่อนปีใหม่ให้จงได้หลังจากที่ขึ้นปีใหม่ ท้องพระคลังก็จะถูกเฉินฝานผลาญจนหมดสิ้นถึงตอนนั้น เฉินฝานก็ถูกตราหน้าว่าเป็นคนขายชาติกิน อย่าว่าแต่ตำแหน่งอัครเสนาบดี แม้แต่ชีวิตเขาก็คงจะรักษาไว้มิได้!เมื่อเฉินฝานตายแล้ว เสิ่นหมิงหยวนก็จะเนรเทศฉินเย่ว์เหมยออกไปทันที ถึงตอนนั้น เขาจะมิรีรอ ผลักดันให้เสิ่นไต้มั่นที่กำลังตั้งครรภ์ขึ้นบัลลังก์ทันทีความปรารถนาที่โค่นล้มบัลลังก์ของเสิ่นหมิงหยว
เมื่อฉินเย่ว์เหมยถามจางทงกับจางสิงว่าผู้ใดบงการพวกเขา ทั่วทั้งบริเวณก็เงียบลงอีกครั้งทั้ง ๆ ที่มีคนยืนอยู่นับล้าน แต่กลับเงียบงันจนได้ยินแม้กระทั้งเข็มตกลงบนพื้น...เสิ่นหมิงหยวนกับเสิ่นหยวนเลี่ยงสบตากันอันที่จริงแล้วไม่เรียกว่าสบตากัน แต่เสิ่นหมิงหยวนกำลังปลอบใจเสิ่นหยวนเลี่ยง ไม่ให้เขาตื่นตระหนกมากกว่าจางทงกับจางสิงเองก็สบตากันแวบหนึ่ง“ท่านพี่ พูดไปเถิด” จางสิงกล่าว“ปึก!”จางทงโขกศีรษะลงกับพื้นอย่างแรงจางสิงก็ทำตามเช่นกัน“ฝ่าบาท ผู้ที่บงการพวกกระหม่อม ก็คือ...”“พวกเขา!”จางทงและจางสิงชี้ไปที่พ่อลูกตระกูลเสิ่นพร้อมกันคำตอบที่ได้นี้ทำให้ชาวเมืองลู่ตูตกตะลึงเกินไปแล้ว ถึงขนาดที่พวกเขาไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบกลับใด ๆ ในตอนที่จางทงกับจางสิงชี้ไปยังพ่อลูกตระกูลเสิ่น ชาวบ้านทั่วไปตะลึงงัน เสิ่นหมิงหยวนกับเสิ่นหยวนเลี่ยงก็ตะลึงงันเช่นกันจางทงกับจางสิงเป็นนักรบกล้าตายที่ตระกูลเสิ่นของพวกเขาเลี้ยงดูสั่งสอนมาตั้งแต่เล็ก จงรักภักดีต่อพวกเขาอย่างถึงที่สุด จางทงกับจางสิงไม่มีทางหักหลักพวกเขาเพราะเฉินฝานช่วยชีวิตจางทงกับจางสิงไว้เป็นอันขาดเดิมทีจางทงกับจางสิงจงรักภักดีต่อต
เมื่อได้ยินฐานะของบุรุษที่อยู่ด้านหลังผู้นั้น ในใจของฉินเย่ว์เหมยก็รู้สึกอย่างตกตะลึงอย่างมาก ก่อนหน้านี้นางก็ได้ยินหงอิงบอกว่าพวกนักฆ่าที่ลอบเข้าศูนย์บรรเทาทุกข์เหล่านั้นกินยาพิษฆ่าตัวตายกันหมดแล้ว นอกจากนี้ยาที่กินยังเป็นสารหนูอีกด้วย คนที่กินสารหนูเข้าไปยังมีชีวิตรอดได้จริงหรือ?ฉินเย่ว์เหมยมองเฉินฝานด้วยความเหลือเชื่อ หลังจากที่เคยเห็นวิชาแปลงโฉมมาก่อน ฉินเย่ว์เหมยกังวลเล็กน้อยว่าเฉินฝานจะใช้กลอุบายนี้ ตอนนี้ไม่เหมาะที่จะใช้กลอุบายนี้ ทางฝั่งเสิ่นหมิงหยวนสามารถมองออกได้ทันที ราวกับว่ากระแสจิตเชื่อมถึงกัน ฉินเย่ว์เหมยมองไปทางเฉินฝาน เฉินฝานก็มองมาทางนางพอดีเมื่อรับรู้ถึงความกังวลในใจฉินเย่ว์เหมย เฉินฝานก็พยักหน้าให้นางเล็กน้อย บ่งบอกให้นางไต่สวนอย่างสบายใจในขณะเดียวกัน ฉินเย่ว์เจียวก็เดินมาอยู่ข้างกายหงอิงเงียบ ๆ ฉินเย่ว์เจียวยัดกระดาษแผ่นหนึ่งใส่มือของหงอิง จากนั้นหงอิงก็แสดงตัวอักษรบนกระดาษให้ฉินเย่ว์เหมยเห็นหลังจากที่เห็นตัวอักษรบนกระดาษ ฉินเย่ว์เหมยก็สะบัดแขนเสื้อ จ้องมองบุรุษสองคนที่คุกเข่าตรงหน้านาง “บังอาจ คนที่กินสารหนูจะรอดชีวิตจนถึงตอนนี้ได้อย่างไร? จงกล่าวตามคว
“พวกเขา...”เมื่อเห็นชายทั้งสองคน คนแรกที่พูดคือเสิ่นหยวนเลี่ยง หากไม่ใช่เสิ่นหมิงหยวนคว้ามือของเขาไว้ทัน เขาคงสูญเสียการควบคุมทันทีแน่นอนเฉินฝานจับจ้องเสิ่นหยวนเลี่ยง ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ใต้เท้าเสี่ยวเสิ่น เหตุใดสีหน้าของท่านจึงซีดขาวเช่นนี้ หรือว่าท่านรู้จักสองคนนี้?”“ข้า ข้าจะรู้จักพวกเขาได้ยอ่างไร!”เสิ่นหยวนเลี่ยงรีบตอบทันทีเฉินฝานยิ้ม น้ำเสียงของเขายังคงเย็นชา “ใต้เท้าเสี่ยวเสิ่นตกใจเกินไปแล้ว ต่อหน้าฝ่าบาทแทนตนเองว่าข้า แม้กระทั่งคำว่ากระหม่อมก็ไม่ใช้”“เพี๊ยะ!”เฉินฝานเพิ่งพูดจบ ตามมาด้วยเสียงตบดังสนั่นฉินเย่ว์เจียวตบเสิ่นหยวนเลี่ยงอย่างดังท่ามกลางผู้คนมากมาย ถูกตบหน้า อีกทั้งยังถูกสตรีตบ เสิ่นหยวนเลี่ยงทั้งโมโหและอับอาย หูของเขาแดงก่ำ เขาชี้ไปที่ฉินเย่ว์เจียวพร้อมกัดฟันพูด “สตรีชั่ว กล้าตบข้างั้นรึ!”“เพี๊ยะ!”เสิ่นหยวนเลี่ยงถูกตบอีกครั้ง ครั้งนี้คนที่ตบเขาไม่ใช่ฉินเย่ว์เจียวแต่เป็นเฉินฝานเดิมทีเสิ่นหยวนเลี่ยงมีรอยฝ่ามือบนใบหน้าเพียงด้านเดียวเท่านั้น ตอนนี้เขามีรอยฝ่ามือทั้งสองด้าน ใบหน้าขาวซีดราวกับถูกประทับด้วยรอยฝ่ามือขับให้เด่นชัดยิ่งนัก“เจ้า...”“เพี
“ไป่เผยหราน”ฉินเย่ว์เหมยร้องเรียกไป่เผยหราน แล้วเดินหน้าหนึ่งก้าวทันทีไป่เผยหรานตัวสั่น รีบร้องตะโกนไปด้านหน้า “ฝ่าบาทอยู่ที่นี่ ใครกล้าขยับ ถือว่าดูหมิ่นกษัตริย์ ประหารชีวิต!”เหอจื่อหลินรอเวลานี้“มือธนู เตรียมตัว !”เกาทัณฑ์ของมือธนูกองทัพลาดตระเวนชูขึ้น เตรียมยิงชาวบ้านที่จะพุ่งตัวมา“ปล่อยตัวเฉินฝานไป ทั้งยังให้กองทัพยิงธนู คนเช่นนี้ไม่สมควรเป็นกษัตริย์แคว้นต้าชิ่งของเรา!”เสื่นหมิงหยวนแฝงตัวในกลุ่มคน ชักจูงทุกคนทันที“ลุย แม้ท่ามกลางพวกเราต้องมีคนตาย แต่อย่างน้อยคนส่วนมากก็ยังมีชีวิตรอด”หลังจากถ้อยคำนี้จบลง ชาวบ้านราวกับได้รับแรงกระตุ้น เลือดสูบฉีดกว่าเมื่อครู่ แต่ละคนพุ่งตัวมาข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิตกองทัพลาดตระเวนไม่อาจทานต้านทานได้แล้วเหอจื่อหลินหลับตาลงด้วยความปวดใจ ยกมือขวาขึ้น“ยิง!”“หยุด!”เสียงของเฉินฝานกลบเสียงของเหอจื่อหลินหลังจากสงครามเมืองเตียนตู กองทัพลาดตระเวนฟังคำสั่งของเฉินฝาน ทั้งที่เฉินฝานไม่มีตำแหน่งใดๆ ในกองทัพลาดตระเวน แต่แท้จริงแล้วเขาคือหัวหน้าที่แท้จริงของกองทัพลาดตระเวนขณะที่กองทัพลาดตระเวนลดเกาทัณฑ์ลง เฉินฝานผลักหงอิงแล้วเดินไปทาง
เสิ่นหมิงหยวนในวันนี้เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ มั่นใจว่าตนต้องเป็นฝ่ายชนะเพราะถอยหลังก้าวหนึ่ง แม้เฉินฝานจะออกนอกโรงเตี๊ยมได้ แต่เขาจะไปหาหลักฐานที่ใด สิ่งที่เกี่ยวข้องกับคนวางยาพิษ นอกจากไป่ชงซาน คนอื่นๆ ล้วนอยู่ระหว่างทางเตรียมเกิดใหม่แล้วเสิ่นหมิงหยวนก้าวไปข้างหน้าก้าวใหญ่ พูดเสียงดัง “เฉินฝานและองค์หญิงแคว้นหลู่ร่วมมือกับวางยาพิษให้กับชาวต้าชิ่ง ฝ่าบาทโปรดรับสั่งจับเขาด้วยพ่ะย่ะค่ะ พร้อมทั้งประหารชีวิตเขา เอาหัวเสียบประจารบนกำแพงเมืองลู่ตู เพื่อสยบความขุ่นเคืองของราษฎรพ่ะย่ะค่ะ!”พูดถึงท้ายประโยค เสิ่นหมิงหยวนคุกเข่าลง “ฝ่าบาทโปรดรับสั่งด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”ลง “ฝ่าบาทโปรดรับสั่งด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”ขุนนางด้านหลังเสิ่นหมิงหยวนต่างคุกเข่า เพียงชั่วพริบตาภาพตรงหน้าฉินเย่ว์เหมยคือผู้คนมากมายชาวบ้านด้านหน้าเห็นฉินเย่ว์เหมยไม่ออกคำสั่ง ยิ่งโมโหมากกว่าเดิม กองทัพลาดตระเวนของเหอจื่อหลินถอยหลังแล้วถอยหลังอีก“ฝ่าบาท ทางด้านแม่ทัพเหอไม่อาจต้านทานแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”หงอิงก็ร้อนใจยิ่งนัก หากฉินเย่ว์เหมยยังไม่มีคำสั่งให้เหอจื่อหลินใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด เช่นนั้นชาวบ้านก็จะฝ่าวงล้อมเข้ามาแล้วทุกคนล้ว
“เสิ่นไต้มั่นท้องหรือ? เป็นไปไม่ได้กระมัง”เฉินฝานส่ายหน้าทันที เขาไม่อยากให้เสิ่นไต้มั้นตั้งครรภ์ ดังนั้นโดยทั่วไปเขาจะให้ฉินเย่ว์เหมยเปิดป้ายของเสิ่นไต้มั่น ในช่วงระยะปลอดภัยเท่านั้น แม้จะเป็นช่วงปลอดภัย ตอนเขาร่วมหฤหรรษ์กับเสิ่นไต้มั่นก็ล้วนปล่อยน้ำรักด้านนอกแม้วิธีการนี้ไม่อาจเลี่ยงการตั้งครรภ์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ลดโอกาสการตั้งครรภ์ได้มาก มากไปกว่านั้นทุกครั้งที่เขาร่วมรักกับนาง เขาล้วนให้ฉินเย่ว์เหมยลอบให้เขาใส่ยาคุมเข้าไปในอาหารของเสิ่นไต้มั่นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เสิ่นไต้มั่นยังตั้งครรภ์ได้เช่นนั้นก็หมายความว่าเสิ่นไต้มั่นรู้ว่าในอาหารมียาคุม แล้วตั้งครรภ์ภายใต้สถานการณ์ที่โอกาสในการตั้งครรภ์ต่ำมิเช่นนั้นก็หมายความว่าเสิ่นไต้มั่นแอบมีชายอื่นในวังหลวงแม้เสิ่นไต้มั่นจะเป็นบุตรีของเสิ่นหมิงหยวน แต่เขามีช่วงเวลาหฤหรรษ์กับนางหลายครั้ง ถือว่าเป็นสามีภรรยากัน อีกทั้งนางยังมอบช่วงเวลาดีๆ ให้เขาหลายครั้ง ด้วยเหตุนี้ เฉินฝานจึงไม่เคยคิดอยากจะเอาชีวิตของเสิ่นไต้มั่นหากนางลักลอบมีคนอื่น...แววตาของเฉินฝานลุ่มลึกม่านตาหดเล็ก แววตาของเขาเอ่อล้นด้วยไอสังหารเช่นนั้นอย่าหาว่าเ
ฉินเย่ว์เจียวยังอยากจะพูดบางอย่าง แต่ถูกเฉินฝานลากตัวไปที่ใต้กำแพงด้านหน้ามีก้อนหินนับไม่ถ้วนถูกโยนมาแม้เหอจื่อหลินจะคอยตักเตือนตลอดเวลา ทว่าชาวบ้านโมโหจนขาดสติแล้ว ภายในใจของพวกเขาเปี่ยมไปด้วยความโมโหและความแค้นภายใต้การชักจูงของเสิ่นหมิงหยวน บวกกับชื่อเสียงด้านลบของโอวหยางน่าหลันในแคว้นต้าชิ่ง ชาวบ้านเชื่อเสิ่นหมิงหยวนไปแล้ว คิดว่าเฉินฝานที่แต่งงานกับโอวหยางน่าหลันและเข้ารับตำแหน่งอัครเสนาบดีของแคว้นหลู่ ต้องร่วมมือกับโอวหยางน่าหลันวางยาพิษในแหล่งน้ำอย่างแน่นอน“วันนี้ต้องสังหารคนขายชาติให้ได้”“ฆ่าเฉินฝาน ฆ่าเฉินฝาน!”เสียงร้องตะโกนของชาวบ้านที่กำลังโมโหราวกับฟ้าผ่า ดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า แม้กระทั่งฉินเย่ว์เหมยยังต้องถอยหลังสถานการ์อยู่เหนือการควบคุมแล้ว หากเหอจื่อหลินยังไม่ออกคำสั่งขั้นเด็ดขาด ชาวบ้านที่กำลังโมโหต้องบุกเข้าโรงเตี๊ยมอย่างแน่นอน อีกทั้งความขุ่นเคืองของชาวบ้านก็ได้ย้ายจากเฉินฝานไปที่ฉินเย่ว์เหมยแทนแล้วเฉินฝานทำถึงขั้นนี้แล้ว แต่ฝ่าบาทยังไม่มีรับสั่งประหารชีวิตเขา เช่นนั้นฝ่าบาทก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน“ท่านแม่ทัพ มีคำสั่งเร็วเข้า!”รองแม่ทัพที่อยู่ข้างเ
“กล้าแตะต้องนายท่านของข้า ข้าจะสังหารเจ้า!”ฉินเย่ว์เจียวคว้าเกาทัณฑ์ขึ้นยิง ไม่รอช้าแม้กระทั่งเสี้ยววินาทีหวงหวั่นเอ๋อร์ที่อยู่บนหลังคาคว้าธนูของฉินเย่ว์เจียวเอาไว้อย่างง่ายดาย“เจ้า...เป็นไปได้อย่างไร?” ฉินเย่ว์เจียวถอยหลังหนึ่งก้าวด้วยความตกตะลึง มองหวงหวั่นเอ๋อร์อย่างไม่อยากเชื่อสายตาฉินเย่ว์เจียวถือเป็นมือธนูอันดับหนึ่ง ลูกศรที่ถูกยิงไปจากนาง ทั้งเร็วและแม่นยำ แม้กระทั่งยอดฝีมือบู๊ลิ้มก็ทำได้เพียงหลบเท่านั้น คนที่สามารถรับลูกศรของฉินเย่ว์เจียวได้ หวงหวั่นเอ๋อร์เป็นคนแรกหวงหวั่นเอ๋อร์ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แววตาของนางเคล้าไปด้วยความดูแคลน“เอาคืนไป!” ขณะพูด หวงหวั่นเอ๋อร์โยนทิ้งอย่างแรง“คืนก็คืนดีๆ นางเป็นภรรยาของข้า ไม่อาจทำร้ายพร่ำเพรื่อได้” เฉินฝานตอบเวลาเดียวกันกับที่เฉินฝานพูดจบ หวงหวั่นเอ๋อร์ก็โยนลูกธนูในมือทิ้งแล้วลูกธนูตกลงมาด้วยความเร็วสูง ปักลงบนพื้นใกล้กับเท้าของฉินเย่ว์เจียว หากลูกศรนี้ขึ้นหน้าอีกเพียงหนึ่งมิลลิเมตร ก็จะโดนเท้าของฉินเย่ว์เจียวแล้ว“ของเล่นเด็ก!” หวงหวั่นเอ๋อร์ปัดมือ มองฉินเย่ว์เจียวด้วยความทระนง“ของเล่นเด็กเช่นนั้นหรือ? ข้าจะดูสิว่าเจ้าจ
“ความร่ำรวยเกิดจากความเสี่ยง ก้าวใหญ่เพียงใดก็จะได้รับผลตอบแทนมากเท่านั้น อีกอย่าง...” น้ำเสียงและแววตาของเฉินฝานแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ชาวแคว้นต้าชิ่ง ไม่อาจมีชีวิตเช่นนี้ต่อไปได้แล้ว”ความเป็นจริงเขาไม่ได้ก้าวใหญ่ แต่เสิ่นหมิงหยวนก้าวใหญ่เกินไปหากเสิ่นหมิงหยวนไม่ส่งคนไปวางยาพิษในแหล่งน้ำของแคว้นหลู่ที่ไหลเข้ามา ค่อยๆ สู้กับเขาต่อไป เสิ่นหมิงหยวนคงจะอยู่ได้นานกว่านี้ด้านนอกชุลมุนวุ่นวาย เฉินฝานเพิ่งออกจากห้อง ไป่เผยหรานที่รออยู่นานรีบเดินมาหาเฉินฝานพร้อมอธิบายสถานการณ์ด้านนอกให้ฟังเฉินฝานช่วยชีวิตคนป่วย ตอนบ่ายชาวบ้านล้วนซาบซึ้งในความดีของเขาจนน้ำตารินไหล ขอบคุณที่เขาช่วยชีวิตชาวต้าชิ่ง ทว่าตอนพลบค่ำ เสียงของชาวบ้านกลับแตกออกไปมีคนบอกว่า นี่เป็นการแสดงละครครั้งใหญ่ของเฉินฝาน เขาตั้งใจวางยาพิษลงในแหล่งน้ำ จากนั้นให้ยาถอนพิษกับคนป่วย เพื่อหลอกเอาใจจากชาวบ้านข่าวลือนี้ถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งเล่าลือก็ยิ่งไปไกล สุดท้ายกลายเป็นว่าน้ำจากแคว้นหลู่นี้ หากชายต้าชิ่งดื่มกินแล้วจะทำให้เป็นหมัน สาเหตุที่เฉินฝานช่วยชีวิตคนถูกยาพิษ เพราะต้องการให้ชาวบ้านคิดว่าเขาทำทุกอย่างเพื่อราษฎ