공유

บทที่ 813

작가: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
เสื้อคลุมสีขาวส่องสะท้านเข้าตาเฉินฝาน หญิงสาวผู้ยลโฉมลงมาจากรถม้า ในอ้อมอกของนางยังอุ้มเด็กชายอายุราวหนึ่งขวบไว้หนึ่งคน

ตอนที่เฉินฝานกำลังเหม่อลอย หญิงงามอุ้มเด็กรีบวิ่งมาหาเฉินฝานด้วยความรวดเร็ว ตอนที่ห่างจากเขาประมาณสองสามเมตร หญิงสาวก็หยุดชะงักทันที ยืนตัวตรงอย่างสง่างามอยู่ตรงนั้น ทั้งตื่นเต้นและประหม่า

ขานเรียกอย่างเหนียมอาย “นายท่าน”

“ลูกสาวคนที่แปด?!”

ตอนนี้เฉินฝานจำหญิงสาวได้แล้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจมองสตรีตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์

แยกจากกันไปปีกว่า ลูกสาวคนที่แปดที่เป็นแม่คนแล้ว เปลี่ยนจากสาวน้อยกลายเป็นหญิงสาวที่สง่างามแล้ว

“นายท่าน ข้าน้อยเองเจ้าค่ะ”

ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ หยดน้ำตาแวววับเอ่อล้นออกมาด้วยความปีติอย่างสุดซึ้ง

“มาสิ!” เฉินฝานยืนขึ้น อ้าแขนไปทางลูกสาวคนที่แปด

ลูกสาวคนที่แปดขยับตัวไปแล้ว ในท้ายที่สุดก็ยังคงมิได้โน้มตัวไปหาในอ้อมอกของเฉินฝานอยู่ดี

นางรู้สึกว่าตนเองมิได้เรื่องเลย ระหว่างที่เดินทางมา นางคิดเอาไว้แล้วว่าจะกระโจนเข้าไปในอ้อมอกเฉินฝานทันที เรื่องราวในใจเป็นหมื่นล้านคำ ต้องเล่าให้เขาฟังโดยละเอียด

ทว่าเมื่อเจอเฉินฝาน ฝีเท้าหนักอึ้ง คำ
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터
댓글 (3)
goodnovel comment avatar
กัญญารัตน์ ขาวอ้น
ใช่ปานิวไหม
goodnovel comment avatar
Pichitpol
ปานิวหรอ......
goodnovel comment avatar
Pichitpol
ลูกสาวคนที่แปดคือใครหรอครับ
댓글 모두 보기

관련 챕터

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 814

    “นายท่าน ท่านว่าพี่รองคงจะไม่ได้...”ตายไปแล้วประโยคหลัง ฉินเย่ว์เจียวมิกล้าพูดออกมาอยู่ดีในตอนนั้น นางเป็นคนแรกที่ถูกเจ้าของร่างเดิมไล่ออกไปหาเงิน คนที่ไร้ข่าวคราวเป็นคนแรกก็คือนางเช่นกันสตรีที่ร่างกายอ่อนแอนางหนึ่ง ในปีที่ข้าวยากหมากแพง ใช้ชีวิตอยู่แผ่นดินที่มีคนดีและคนเลวผสมปนเปกันไป จะมิลำบากได้อย่างไร?ความแค้นเคืองที่หายไปนาน ปรากฏขึ้นในแววตาของฉินเย่ว์เจียวอีกครั้งถึงแม้ตอนนี้เฉินฝานจะเปลี่ยนเป็นคนที่ดีเลิศแล้ว ทว่าเป็นความผิดที่เขาเคยทำ ทำให้สูญเสียพี่สาวคนนี้ไปตลอดกาล“ขอโทษด้วย!”เฉินฝานดีงฉินเย่ว์เจียวเข้ามากอด ถึงแม้จะเป็นความผิดของเจ้าของร่างเดิม ทว่าเขาใช้ร่างเจ้าของเดิม ความผิดเหล่านั้น ก็ต้องรับผิดชอบด้วย“พวกเจ้าเหล่าพี่น้อง ล้วนมีสายเลือดราชวงศ์ ชีวิตล้ำค่ายิ่งกว่าสิ่งใด พี่รองของพวกเจ้าจะต้องยังอยู่ดีเป็นแน่ พวกเราจะต้องหานางให้เจอ”“นายท่าน ท่านมิจำเป็นต้องปลอบใจข้าน้อยเพียงนี้หรอก ชีวิตล้ำค่ายิ่งกว่าสิ่งใดอะไรกัน ข้ารู้แก่ใจดีว่าพวกเรามิได้สูงค่าเช่นนั้น”ฉินเย่ว์เจียวยังคงกลัดกลุ้มใจถึงแม้ตอนนี้พวกนางจะมีชีวิตที่สุขสบายมากกว่าคนทั่วไปแล้ว ทว่าอยู่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 815

    “หนุ่มน้อย ต้องการความช่วยเหลือหรือไม่?”ตอนที่รถม้าเคลื่อนผ่านพวกเฉินฝาน คนด้านในเลิกผ้าม่านขึ้นพลางกล่าวถามเฉินฝานหันหน้ากลับไปดู พบว่าเป็นชายหนุ่มที่สวมชุดบัณฑิตอายุประมาณสามสิบปี ในมือของเขายังถือขลุ่ยไม้ไผ่ไว้อยู่“ขอบคุณพี่ใหญ่ มิต้องช่วยหรอก พวกเราจวนจะทำเสร็จแล้ว” เฉินฝานยิ้มพลางโบกมือ มิใช่ว่าเขาเกรงใจ แต่จวนจะเสร็จแล้วจริง ๆ“ก็ได้ เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนนะ” บุรุษผู้นั้นก็มิเซ้าซี้ เฉินฝานกล่าวว่ามิต้องการความช่วยเหลือ ก็จากไปทันทีรถม้าเคลื่อนตัวออกไปสักพัก พี่ใหญ่คนนั้นก็เปิดม่านยื่นหน้าออกมา ตะโกนพูดกับเฉินฝานอีกว่า “หนุ่มน้อย วันนี้ที่เรือนเซียนผาสุกมีการแสดงของแม่นางเมี่ยวอวี๋ พลาดมิได้เชียวนะ ถ้าพลาดไปก็ต้องรอแรกเริ่มวสันตฤดูปีหน้า”“โอ้? ได้เลย ขอบคุณพี่ใหญ่!”เฉินฝานมิรู้จักแม่นางเมี่ยวอวี๋ และมิรู้ว่าแม่นางเมี่ยวอวี๋ท่านนั้นมีความสามารถที่เลิศล้ำอันใด เขาจึงตอบรับไปแบบมิได้ใส่ใจมากนักต้องรีบกลับไปที่เมืองหลวง เขามิได้วางแผนว่าจะไปดู และมิมีเวลาแล้ว “แม่นางเมี่ยวอวี่?” ฉินเย่ว์เจียวที่ก้มหน้าขุดหิมะมาโดยตลอด อยู่ ๆ ก็เด้งตัวขึ้นมา มองรถม้าด้านหน้าที่อยู่ไกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 816

    “แหม สายตาแหลมคนอันใดกันเล่า? มองปราดเดียวก็รู้แล้ว เจ้ามิได้ถือเครื่องดนตรี เจ้าดูสิ...” ชายผู้นี้ชี้ไปที่คนรอบข้าง “คนที่มิได้ถือเครื่องดนตรี ล้วนมิใช่คนเมืองเซียนตูของพวกเรา มิเชื่อ หนุ่มน้อยก็ลองไปถามดูสิ”“ข้าเชื่อ ๆ” เฉินฝานรีบกล่าวตอบ“หนุ่มน้อยผู้นี้ช่างเป็นกันเองเสียจริง พวกเรารีบไปกันเถอะ มิเช่นนั้นคงจะแทรกตัวเข้าไปในเรือนเซียนมิได้แล้ว ทางนี้ หนุ่มน้อย เจ้าตามข้ามา พวกเราไปทางลัดดีกว่า” ชายอาวุโสชุดเหลืองกระตือรือร้นเป็นพิเศษ ดึงเฉินฝานไปทางเล็กอีกทางหนึ่งเย่ว์หนูรุดหน้าขึ้นมาทันที มองชายอาวุโสชุดเหลืองท่านนั้นด้วยความระแวดระวัง“นี่ แม่สาวน้อย ไยเจ้ายังลนลานกว่านายท่านของเจ้าเสียอีก?” ชายอาวุโสชุดเหลืองหัวเราะหึ ๆ เขามองมิออกว่าเย่ว์หนูคิดจะที่ฟันเขาเฉินฝานใช้สายตาบอกใบ้ให้เย่ว์หนูถอยไปตอนที่ชายอาวุโสชุดเหลืองลากมือเขาไป เขาได้ลองหยั่งเชิงแล้วว่าชายอาวุโสผู้นี้มิมีวรยุทธ์อันใด“หนุ่มน้อยเอ๋ย ก่อนหน้านี้เจ้าเคยฟังการบรรเลงบทเพลงผีผาของแม่นางเมี่ยวอวี่หรือไม่?”ชายอาวุโสชุดเหลืองเป็นคนช่างพูด ในขณะที่กำลังเดินทาง ก็ชวนเฉินฝานคุยตลอดเฉินฝานส่ายหน้าไปมา กล่าวตามจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 817

    เฉินฝานจ้องเขม็งทันที กล่าวอย่างจริงจังว่า “คันไม้คันมือ ก็ต้องอดทนไว้ การเป็นคนต้องมีมารยาทเข้าใจกาลเทศะ มิสามารถคว้าคอผู้อื่นมาต่อยตามอำเภอใจได้”“โอ้!” ฉินเย่ว์เจียวสีหน้าน่าสงสารเก็บมือไปด้านหลัง ใช้มือจับยับยั้งมือเย่ว์หนูเอาไว้เย่ว์หนูสีหน้าแดงก่ำเล็กน้อยมิใช่เขินอาย ทว่ารู้สึกทรมานเพราะถูกหยิก“หนุ่มน้อย ทางนี้ๆ!” หลังจากที่เข้าไปในหุบเขาแล้ว ชายอาวุโสชุดเหลืองก็พาเฉินฝานไปทางที่ขรุขระที่เต็มไปด้วยดินโคลนอีกเส้นทางหนึ่ง“ถึงแม้ว่าทางนี้จะเดินลำบากหน่อย ทว่าคนน้อยและใกล้อีกด้วย ตอนนี้พวกเรายอมลำบากเสียหน่อย ประเดี๋ยวจะสามารถแย่งชิงแนวหน้าเข้าไปเลือกตำแหน่งที่ดีในเรือนผาสุกก่อนได้”เฉินฝานชำเลืองมองดูรองเท้าที่เต็มไปด้วยดินโคลน......เอาเถอะ เพื่อที่จะสดับรับฟังดนตรีอันงดงามจะสกปรกเสียหน่อยก็มิเป็นไรไม่นานนักพวกเฉินฝานก็มาถึงเรือนเซียนผาสุกจริงๆ และตอนที่พวกเขามาถึง ก็นับว่าค่อนข้างเร็ว คนที่ต่อแถวรอเข้าไปยังมิมากนักทว่า...ตอนที่พวกเขากำลังจะไปต่อแถว ก็ถูกนักว่าการไล่ออกมากล่าวว่าพวกเขามิสามารถเข้าไปได้เขากำลังคิดที่จะโต้เถียง ชายอาวุโสชุดเหลืองก็ลากเขาออกมา“พี่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 818

    ระหว่างที่พูด ชายอาวุโสชุดเหลืองก็แย่งใบไม้ทองคำจากมือสามีภรรยาเฒ่าไป“นี่ เจ้ามาแย่งของคนอื่นได้อย่างไร?” สามีภรรยาเฒ่าลนลานทันที “ใบไม้ทองคำนี้เป็นสิ่งที่หนุ่มน้อยคนนั้นให้พวกเรามา วานให้พวกเราดูแลเจ้า”“แล้ว...เจ้าดูแลข้าแล้วงั้นหรือ?”“.....”สามีภรรยาเฒ่าถูกถามตกตะลึงทันที“ตอนนี้ข้าฟื้นแล้ว พวกเจ้ามิได้ดูแลข้า เช่นนั้นใบไม้ทองคำนี้ก็เป็นของข้า” กล่าวจบ ผู้อาวุโสชุดเหลืองหยิบเศษเงินออกจากกระเป๋าโยนใส่สามีภรรยาเฒ่า “สิ่งนั้นเป็นสิ่งพวกเจ้าสมควรได้รับ ถ้ายังริพูดพล่ามอีก ก็ระวังกำปั้นของข้าไว้ให้ดี”สิ่งที่ชายอาวุโสยกขึ้นมามิใช่กำปั้น ทว่าเป็นซอสองสายของเขา สามีภรรยาเฒ่าตกใจจนมิกล้าพูดอันใดเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วชายอาวุโสชุดเหลืองจึงพึงพอใจ เขาชั่งน้ำหนักใบไม้ทองคำด้วยมือ และวางไว้ตรงริมฝีปากเป่าลมเล็กน้อย “ดูแล้วเป็นของแท้ ช่างเถอะ ดูจากใบไม้ทองคำนี้แล้ว ก็ไม่ถือสาเจ้าหนุ่มนั้นแล้ว”เดินฮัมเพลงมาตลอดทาง ดื่มสุราในน้ำเต้าที่แขวนไว้ตรงเอว ชายอาวุโสชุดเหลืองสีหน้าสบายใจตอนที่เดินมาถึงมุมโค้ง ชายอาวุโสผู้นั้นหันกลับมาอย่างกะทันหัน มองไปทางเรือนเซียนผาสุก พูดพึมพำ “เหล่าซู ซูชิวฉ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 819

    “ปีนี้มิรู้ว่าใครจะเป็นผู้โชคดีที่ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของแม่นางเมี่ยวอวี่”“ถ้าข้าได้เห็น ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าก็เต็มใจอย่างยิ่ง”“แหม เจ้าอย่าพูดเลย สองปีมานี้ผู้โชคดีที่เห็นแม่นางเมี่ยวอวี่ คนหนึ่งก็เสียชีวิต อีกคนหนึ่งก็เสียสติ”“สามารถเห็นใบหน้าที่แท้จริงของแม่นางเมี่ยวอวี่ สามารถฟังการบรรเลงที่แม่นางเมี่ยวอวี่ทำเพื่อข้าโดยเฉพาะ ข้ายอมตายยอมเสียสติ”ระหว่างที่เดินมาตลอดทาง เฉินฝานได้ยินบทสนทนาที่ชวนขนลุกมากมาย และคนที่กล่าวคำพูดเหล่านี้ล้วนเป็นเด็กหนุ่มที่อายุยังน้อย เฉินฝานเงี่ยหูตั้งใจฟัง จึงเข้าใจคร่าวๆได้ว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร?ตอนที่แม่นางเมี่ยวอวี่ผู้นั้นบรรเลงดนตรี จะสวมหมวกผ้าม่านไว้บนศีรษะ มิเผยโฉมหน้าที่แท้จริงให้ผู้อื่นเห็นทุกปีนางจะเลือกผู้ฟังไปเป็นผู้โชคดีหนึ่งคนไปที่กระท่อมหิมะของนาง นางจะถอดหมวกผ้าม่านออก เผยให้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริง บรรเลงบทเพลงแบบตัวต่อเป็นการส่วนตัวให้ผู้โชคดีผู้นั้นหนึ่งเพลงตามที่ร่ำลือกันมา โฉมหน้าที่แท้จริงของเมี่ยวอวี่ ท่วงท่าเหนือมนุษย์ ราวกับว่าเป็นเทพอัปสร เพียงแค่เคยพบเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของนาง สตรีใต้หล้านี้ก็มิมีผู้ใดทั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 820

    ฉินเย่ว์เจียวหันหน้าไปกัดฟันกรอด พูดอย่างมิมั่นใจ “นั้นสิ บทบรรเลงผีผาอันใด”นางเตรียมที่จะทิ้งเฉินฝาน ชิงเอาตัวรอดก่อนคำพูดคุยโวของเขา ก็รับผลที่ตามมาเองแล้วกัน นางจะมิยอมโดนไปด้วยหรอกอย่างไรเสียตัวเฉินฝานก็สิ่งของที่สามารถยืนตัวตนได้มากมาย หากคนเหล่านี้ต้องการที่จะทำร้ายเขาจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ เจ้าเมืองเซียนตูก็ต้องรีบรุดมาปกป้องเขาเพื่อเอาหน้าหลังจากนั้นก็ทำท่าทีนอบน้อมเชิญเขาเข้าไปที่เรือนเซียนผาสุกทันที“โอ้! จริงสิ!” ฉินเย่ว์เจียวแววตาเปล่งประกายขึ้นมาทันที “ข้าลืมไปได้อย่างไรกัน?”“เจ้านึกอันใดอออกงั้นหรือ?”เฉินฝานรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกมิถูก“ข้าจะบอกพวกเจ้าให้นะ!” อยู่ ๆ ฉินเย่ว์เจียวก็ตะโกนพูดเสียงดัง “บทบรรเลงนั้น อยู่ที่เขา และเขายังเป็นคนประพันธ์เองอีกด้วย เขาคิดเสมอว่าโน้ตเพลงของเขาเป็นสิ่งที่หาได้ยากในใต้หล้านี้”“คำพูดที่ข้าพูดเมื่อครู่ ล้วนเป็นสิ่งที่เขาบังคับให้ข้าพูด”“เย่ว์เจียว...”เฉินฝานมองฉินเย่ว์เจียวด้วยตาเบิกโพลงเต็มไปด้วยความสงสัย ฉินเย่ว์เจียวเพียงแลบลิ้นออกมาเล็กน้อย ก้มหน้าพูดสองสามประโยค“ทนไปก่อนนะ ข้าจะไปหาคนมาช่วยเหลือท่าน”พูดจบ ก็

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 821

    “ไม่สมเหตุสมผลจริงๆ ให้คนตั้งมากมายสูญเงินไปเสียเปล่า สมควรถูกลงโทษ!”“ท่านผู้ว่าราชการประจำมณฑล!” ซื่อต้าเผิงหันไปทางผู้ว่าราชการจังหวัด “ออกคำสั่งประเดี๋ยวนี้ คืนเงินทั้งหมดให้กับผู้ชมที่ไม่อาจเข้าเรือนเซียนผาสุก”หางตาของซื่อต้าเผิง ชำเลืองมองไปที่เฉินฝานครู่หนึ่ง จากนั้นพูดเสียงดัง ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เรื่องนี้เฉียนหงละเลยในหน้าที่ขั้นรุนแรง เอาตัวเข้าคุกหลวง รอฟังคำสั่งต่อไป”“ใต้เท้า!”เฉินฝานมองซื่อต้าเผิงด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม“ข้าทำงานด้วยความเที่ยงตรงมาโดยตลอด ผู้ใดกระทำความผิด ไม่ว่าจะตำแหน่งสูงใหญ่เพียงใด ทำผิดล้วนถูกจับเข้าคุก” ซื่อต้าเผิงกล่าวโดยความทระนง เขาเห็นเฉินฝานยิ้มแก้มปริ คิดว่าเฉินฝานพอใจในการจัดการของเขาเฉินฝานยกนิ้วโป้งขึ้น “ใต้เท้ายอดเยี่ยมจริงๆ ปกปิดความผิดของขุนนางใหญ่ รังแกขุนนางชั้นผู้น้อย ยามเบื้องบนมา จับทุกคนเข้าคุก ยามเบื้องบนไป ก็ปล่อยคนที่อยู่ในคุกออกมา แล้วกระทำความผิดเฉกเช่นเดิม”“ชมเกินไปแล้วขอรับๆ ข้าเพียงทำตามหน้าที่ นำตัว...” ซื่อต้าผิงเห็นเฉินฝานยกนิ้วโป้งให้ ทั้งยังบอกว่าเขาเก่ง จึงแกล้งทำเป็นถ่อมตัวทันทีแค่ว่าพูดเพียงครึ่งหนึ่ง เข

최신 챕터

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status