Share

บทที่ 777

Penulis: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
หลี่หงโห่วรีบร้อนตอบกลับ “มีเพียงในจวนข้าเท่านั้น ข้าน้อยตรวจสอบและค้นหาอย่างละเอียดรอบคอบ ให้สายตรวจลักลอบขุดเส้นทางลับ”

“นี่ เจ้าเมืองหลี่ ข้าขอเตือนเจ้าเสียหน่อย!” เฉินฝานพูดจากด้านหลัง “คำพูดของเจ้าจะฟันธงเช่นนั้นมิได้ อย่างเช่นค่ายทหารที่สกปรกรกรุงรังทางตะวันตกของเมืองที่เจ้าไม่ยอมไปนั้น ที่แห่งนั้นเจ้ามิได้ไปตรวจสอบ”

“ปกป้องท่านอ๋อง ๆ กองกำลังลาดตระเวนมาแล้ว!”

แม่ทัพกองกำลังเมืองเตียนตูที่เลือดท่วมร่างคนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามา พูดจบไปได้มินาน ศีรษะถึงพื้นก็สิ้นลมไป

“กองกำลังลาดตระเวน?”

“กองกำลังลาดตระเวน!

ตื่นตระหนก มิน่าเชื่อ!

คลังเก็บอาหารในเมืองหรงตูถูกเผาทำลายไปแล้ว ในเมืองเกิดความโกลาหลวุ่นวาย เส้นทางลับออกจากเมืองของหลี่หงโห่วเส้นนั้น ทางเข้าก็ถูกปิดผนึกไว้แล้ว และยังมีทหารป้องกันอย่างแน่นหนา

กองกำลังเมืองเตียนตูออกจากเมืองไปได้อย่างไรกัน?

“เฮ้อ!” เฉินฝานถอดหายใจเสียงดัง “เมื่อครู่ข้าก็เตือนแล้ว เจ้าเมืองหลี่มิได้ไปตรวจสอบค่ายทหาร ค่ายทหารแห่งนั้นยังมีลู่ทางที่สามารถออกจากเมืองได้ พวกเราก็ออกจากเมืองโดยใช้เส้นทางนั้น หลังจากผลัดเปลี่ยนกลับมาโอบล้อมศัตรู”

“อ๋องเจิ้งหน
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 778

    เฉินฝานนั่งไขว่ห้าง น้ำเสียงยังคงเรียบนิ่ง แหงนหน้ารับแสงตะวัน“แสงตะวันของวันนี้ช่างผ่อนคลายเสียจริง สหายกองกำลังลาดตระเวนคงจะไม่ต้องกังวลว่าเลือดที่อาบมีดดาบจะแข็งตัวแล้ว”“คิดจริงๆหรือว่าเจ้ารู้วิธีประดิษฐ์โถระเบิดสุราแล้ว ข้าจะมิสังหารเจ้า”อ๋องเจิ้งหนานกัดฟันกรอด สีหน้าดุร้ายโหดเหี้ยม“ข้าเปลี่ยนใจแล้ว จากจับเป็นเจ้าได้รับหนึ่งแสนตำลึงทอง เปลี่ยนเป็นรอให้เหล่าทหารของข้าเหล่านั้นกลับมา ข้าจะให้พวกเขาบรรจงขูดเลือดเนื้อเจ้าออกมา ผู้ใดขูดออกมาได้มาก ข้าก็จะให้ตำลึงมากเช่นกัน นำเงินหนึ่งแสนตำลึงทองนั้นแบ่งให้หมด”“ท่านอ๋อง แม่ทัพกองกำลังที่สองกลับมาแล้วขอรับ!”ด้านนอกค่ายทหารมีคนตะโกนเสียงดังความดีใจมหาศาลทำให้ใบหน้าของอ๋องเจิ้งหนานบิดเบี้ยวจนน่าสะพรึงกลัว เขามองไปที่เฉินฝานอย่างดีอกดีใจ“ดูสิ คนของข้ากลับมาแล้ว เจ้าต้องชดใช้ให้กับความอวดดีของเจ้า”อ๋องเจิ้งหนานเพิ่งจะพูดจบ มีบุคคลที่สวมชุดสีแดงปรากฏตัวต่อสายตาสาธารณชน“ท่าน...แค่ก!”คนผู้นั้นเพิ่งจะเริ่มพูด ก็กระอักเลือดออกมาอย่างรุนแรง ล้มลงกับพื้นมิสามารถลุกขึ้นมาได้อีกตอนนี้ ฝูงชนจึงได้สติกลับมา เสื้อผ้าที่เขาใส่มิใช่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 779

    ไม่นานนัก...“ตู้ม!”เสียงระเบิดอึกทึกครึกโครมที่รวดเร็วดังออกมาจากในค่ายทหารร่างเงาหนึ่งล้มตัวเหยียดตรงลงกับพื้น“เย่ว์เจียว ๆ!”เฉินฝานอุ้มฉินเย่ว์เจียวที่ล้มลงกับพื้นขึ้นมา“เหยียนเชียง ๆ!”อ๋องเจิ้งหนานลนลานนั่งยองลงไป มองไปที่เหยียนเชียงที่นอนแน่นิ่งด้วยความตื่นกลัวอย่างท่วมท้นตาทั้งสองของเหยียนเชียงตาเบิกโพลง ตรงกลางหน้าผากของเขา มีรอยแผลลึกที่ชุ่มไปด้วยเลือด เหมือนกับหน้าผากเหยียนอิงมิมีผิดอ๋องเจิ้งหนานเงยหน้ามองเฉินฝานอย่างมึนงงเมื่อครู่เขาเห็นเพียงในมือเฉินฝานกำสิ่งสีดำทมิฬไว้ในมือ ตอนที่เขามือขึ้นเสียงระเบิดดังขึ้นทว่ามิเห็นระเบิดในตอนนั้นอ๋องเจิ้งหนานคิดว่าเป็นที่ดังมาจากด้านนอกเสียด้วยซ้ำ ปรากฏว่าผ่านไปครู่เดียว เหยียนเชียงที่พุ่งตัวมาบังราวด้านหน้าเขาราวเสาไม้ ล้มตัวเหยียดตรงลงไปกับพื้นตกลงแล้วในมือของเฉินฝานเป็นอาวุธวิเศษอันใด? ไยจึงน่ากลัวเช่นนั้นด้านเฉินฝาน เขามองสตรีที่หลับตาปิดแน่นทั้งสองข้างในอ้อมอก“ถ้ายังมิลืมตาอีก วันนี้จะมิไปห้องเจ้าแล้วนะ”ตอนที่อ๋องเจิ้งหนานง้างกระบี่ลงมา สถานการณ์คับขัน เฉินฝานใช้เท้าถีบฉินเย่ว์เจียวที่ปกป้องเขาให้ล้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 780

    เมื่อพูดถึงคำสุดท้ายเฉินฝานหายใจมิทั่วท้องแล้วลอบก่นด่าอยู่ในใจบัดซบ!คิดมิถึงว่าจะใช้พิษ? ช่างไร้จรรยาบรรณในการต่อสู้เสียจริงและเป็นความสะเพร่าของเขาเช่นกันมิได้คำนึงถึงการป้องกันพิษ“มิได้ขอรับ ร่างกายของใต้เท้ารับมิไหว ต้องพักผ่อน!” หมอเยี่ยนสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที มิมีท่าทีจะยอมโอนอ่อนให้แม้แต่น้อย “การสู้รบเป็นเรื่องของท่าน ท่านติดพิษได้รับบาดเจ็บ ก็เป็นคนป่วยแล้ว ต้องเชื่อฟังข้า“หมอเยี่ยน เฉินฝานยิ้มอย่างอ่อนแรง “ข้ามิได้บอกว่าข้าจะมิพักผ่อน จัดแจงในรถม้าให้ดีเสียหน่อย บนรถม้าปูผ้าที่หนาขึ้น หลังจากนั้น ท่าน...ก็คอยดูแลตลอดทาง ก็ใช้ได้แล้วมิใช่หรือ?”“เช่นนั้นก็มิได้ขอรับ!” หมอเยี่ยนยังคงมีท่าทียืนหยัดในความพูดของตนเองโดยมิสนใจสิ่งใดทั้งสิ้น“เช่นนั้นหลังจากที่กลับเมืองหลวงแล้ว ข้าจะบอกหมอหลวงสวีว่า วิชาการแพทย์ของเจ้าใช้มิได้ พิษเพียงเล็กน้อย ข้านั่งอยู่บนรถม้า เจ้าก็ยังรักษามิได้”คำพูดของเฉินฝานนี้ ครึ่งหนึ่งคือการล้อเล่น อีกครึ่งหนึ่งคือจริงจังต้องใช้โอกาสนี้เพื่อไล่ล่าเอาชนะ มิสามารถให้อ๋องเจิ้งหนานมีโอกาสให้พักหายใจได้เฉินฝานมิอยากสู้รบในเขตต้าชิ่งจริง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 781

    ประตูเมืองเหล็กที่หนักและแน่นหนา ค่อยๆเปิดออก“แปร๊ด~~~~”เสียงสัตว์ที่แปลกประหลาดดังขึ้น“นั้น นั้นคืออะไรกัน?”“ไยจมูกถึงยาวเพียงนี้? รูปร่างใหญ่โตมโหฬาร พยัคฆ์สิบตัวก็ยังเทียบมิได้”“เป็นสัตว์ประหลาดหรือกระไร?”“อ๋องเจิ้งหนานสู้รบมิไหว จึงใช้สัตว์ประหลาดมาจัดการพวกเรางั้นหรือ?”สิ่งของที่มิรู้จัก ผู้คนมักจะเกิดความหวาดกลัวในใจเสมอทหารแนวหน้าหวาดผวา ตื่นตกใจเฉินฝานรีบร้อนเปิดผ้าม่านขึ้นเดินออกไปเสียงร้องของสัตว์ประหลาดนั้น เฉินฝานจำได้คือช้างเมืองเตียนตูตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ ในเขตแดนมีป่าเขตร้อนจำนวนมาก มีช้างโคลงใหญ่อาศัยอยู่ในตอนแรก เฉินฝานกังวลว่าในกองกำลังเตียนตูจะมีฝูงช้าง อ๋องเจิ้งหนานจะใช้ฝูงช้างต่อกรกับพวกเขาหากช้างที่รวมตัวเป็นกลุ่มบุกเข้าโจมตีกองกำลังลาดตระเวน คงจะรับมือได้ยากจริงๆเดินออกมาจากรถม้า เห็นว่าในประตูเมืองมีช้างเพียงหนึ่งตัว หัวใจที่สั่นไหวไปมาของเฉินฝานในที่สุดก็สงบลงเขายืนอยู่ที่คนขับรถม้า ยกมือสองข้างขึ้น ตะโกนเสียงดัง “ทุกคนมิต้องตื่นตระหนก นั่นมิใช่สัตว์ประหลาด นั่นคือช้าง ช้างไม่กินมนุษย์ เพียงแค่พวกเราไม่ทำให้มันตกใจ มันก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 782

    ......เครื่องแต่งกายของสตรีเหล่านั้น ทำให้เฉินฝานนึกถึงสาวงามมณฑลหนึ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ในประเทศยุคปัจจุบันของเขาด้านหลังของสตรีเหล่านั้น ตามมาด้วยนักดนตรีสิบกว่าคน นักดนตรีทุกคนล้วนมีเครื่องดนตรีหนึ่งชิ้น บรรเลงท่วงทำนองที่งดงามซาบซึ้งกินใจกลุ่มสาวงามด้านหน้าช้าง เข้าใกล้เฉินฝานขึ้นเรื่อย ๆ“ทุกคนจงเตรียมรับมือ ระวังกับดัก!”“ปกป้องใต้เท้าให้ดี!”เหอจื่อหลินออกคำสั่งทันที ทุกคนล้วนวางมือไว้บนด้ามดาบมิต้องพูดถูกบริเวณโดยรอบของเฉินฝาน มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาท่วงทำนองที่ไพเราะ ดังราวกับบรรเลงอยู่ในโสตประสาทแล้วคิดว่าขบวนช้างคงจะอยู่มิไกลแล้วน่าเสียดาย...เฉินฝานมองไปด้านนอกรถม้าที่นายทหารคุ้มกันอย่างแน่นหนา ถอดหายใจออกมาเล็กน้อยเหอจื่อหลินวิตกกังวลเกินไปแล้ว คนมากมายเพียงนั้นล้อมไว้ เขาอยากดูก็ทำมิได้สาวงามที่นั่งอยู่หลังช้าง เขาเคยเห็นในละครยุคปัจจุบันมิใช่องค์หญิงก็เป็นพระชายาองค์หญิงหรือพระชายาต่างเผ่า เขาอยากจะเห็นอย่างมากผ่านการป้องกันของนายทหารที่แน่นหนา เฉินฝานชะเง้อมองที่นั่งมีร่มบังอันงดงามบนหลังช้างอย่างทุลักทุเลขบวนช้างเคลื่อนมาถึงด้านหน้ากองกำลัง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 783

    ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ บนศีรษะนางมีเครื่องหัวรูปร่างเจดีย์สีทองแวววับ และใบหูสองข้างยังใส่ต่างหูบุปผาสีทองแวววับเหมือนกันดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนที่น่าหลงใหล สันจมูกที่โด่งและเรียวเล็ก ริมฝีปากที่อวบอิ่มแวววับบนไหล่ผ้าคลุมไว้เพียงหนึ่งข้าง ผ้าคุลมไหล่ลายปักบุปผา ล้วนใช้ไหมสีทองในการถักทอผ้าคาดอกบนเรือนร่าง ยังคงทองประกายแวววับบนสะดือที่งดงาม มีอัญมณีที่เปล่งประกายฝังอยู่แสงตะวันสาดส่องไปที่เรือนร่างของนาง เปล่งประกายแสงสีทองออกมา“ว้าว!”“สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นจริงๆ”“งาม ช่างงามเหลือเกิน”กองกำลังลาดตระเวนพากันชื่นชม ถึงขั้นมีคนเริ่มวิพากษ์วิจารณ์อ๋องเจิ้งหนาน“มีภรรยาที่สูงสง่างดงามเพียงนั้น ไยต้องก่อกบฏ?”“ช่างเป็นการโลภมากลาภหายเสียจริง!”การวิพากษ์วิจารณ์ของกองกำลังลาดตระเวน สาวใช้ของพระชายาเหล่านั้นมิได้สนใจ พวกนางเริ่มปูพรมตั้งแต่ข้างช้างจนไปถึงด้านข้างรถม้าของเฉินฝาน พระชายาเดินตามแนวพรมไปหาเฉินฝานทีละก้าวเอวเรียวเล็กอ่อนหวานปานน้ำผึ้ง เคลื่อนย้ายไปมา ยอดประทุมถันที่ตั้งตระหง่านบนเรือนร่าง ส่ายไปมาเล็กน้อย นางมิได้สวมรองเท้า กระดิ่งบนกำไลเท้า ดั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 784

    “นั่งช้างของเจ้าเข้าเมืองงั้นหรือ?”เรื่องนี้ทำให้เฉินฝานประหลาดใจอย่างมาก“ถูกต้องเพคะ ใต้เท้า พื้นเพหม่อมฉันเป็นคนแคว้นเหมี่ยน การนั่งช้างเข้าเมืองเป็นพิธีการปฏิบัติต่อแขกที่สูงสุดของพวกเราแคว้นเหมี่ยนเพคะ”“โอ้ เป็นเช่นนี่นี้เอง”ระหว่างที่เฉินฝานพูด กำลังจะลุกขึ้นลงจากรถม้า เท้ายังมิทันได้ขยับเขยื้อน พระชายาก็พูดขึ้นอีกครั้ง“ใต้เท้า ท่านโปรดถอดรองเท้า รับพิธีการจุมพิตจากหม่อมฉันด้วยเพคะ”ถอดรองเท้ารับ...พิธีการจุมพิต!นี่มันอะไรกันเนี่ย?ถึงแม้จะฉงนสงสัย เฉินฝานก็ยอมทำ“......” เฉินฝานก้มหน้า ดวงตาเบิกโพลงองครักษ์ด้านข้างเขาชักดาบออกมาอีกครั้ง หากไม่ใช่เพราะเฉินฝานห้ามปรามอย่างรวดเร็ว พวกเขาคงจะพุ่งตัวใส่ไปแล้วในตอนนี้...บนฝ่าเท้า มีความรู้สึกร้อนผ่าวและนุ่มนวลพระชายาโน้มตัวมาจุมพิตเท้าของเฉินฝาน“.......”เฉินฝานจับผมของตนเองด้วยความเขินอายเล็กน้อย สองสามวันมานี้ยุ่งอยู่กับการสู้รบกับอ๋องเจิ้งหนานมาโดยตลอด มิได้ใส่ใจชำระร่างกายให้ดีคาดว่า เท้าของเขา...ตอนนี้คงจะมีกลิ่นแปลก ๆจุมพิตอย่างน้อยสิบวินาที ริมฝีปากของพระชายาจึงถอนจากฝีเท้าของเฉินฝานออกไปมิรู่ว่าเป็

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 785

    ระหว่างที่ปะทะกับกองกำลังเมืองเตียนตูอย่างดุเดือด ถึงแม้เฉินฝานได้รับชัยชนะมาอย่างขาดลอย ทว่าก็สูญเสียกำลังคนไปมิน้อยตอนนี้กองกำลังลาดตระเวนและกองกำลังรักษาเมือง จำนวนคนรวมกันแล้วมีสองหมื่นห้าพันกว่าคนเหอจื่อหลินนำกองกำลังหนึ่งหมื่นคนเข้าเมืองไปพร้อมกับเฉินฝาน ที่เหลืออีกหนึ่งหมื่นห้าพันคน ตั้งค่ายไว้ด้านนอกเมืองป้องกันมิให้อ๋องเจิ้งหนานหลบหนีหลังที่เข้าเมืองไปแล้ว เหอจื่อหลินพาคนไปตรวจค้นทุกครัวเรือนทันทีป้องกันมิให้อ๋องเจิ้งหนานใช้เส้นทางลับหลบหนีออกเมืองเฉินฝานนั่งอยู่หลังช้าง เข้าจวนอ๋องเจิ้งหนานไปพร้อมกับพระชายาจวนของอ๋องเจิ้งหนานแตกต่างจากจวนอ๋องที่เฉินฝานเคยที่เคยเห็นที่เมืองหลวงเหล่านั้นอย่างสิ้นเชิงเหลืองอร่ามแวววาว เปล่งประกายวิบวับกำแพงตกแต่งด้วยผงทองคำ ทางเดินใช้อิฐสีทองในการปูพื้น เครื่องเรือนล้วนเคลือบทองทั้งหมดแม้กระทั่งเชือกจูงสุนัขก็ยังทำมาจากทองคำเฉินฝานอดมิได้ที่จะลอบตกตะลึงอยู่ในใจมิแปลกที่อ๋องเจิ้งหนานจะเอาเงินสองแสนตำลึงทางมาเป็นรางวัลอย่างมิกังวลอันใดและมิแปลกที่ต้าชิ่งที่มีจำนวนผู้ชายน้อย ทว่าอ๋องเจิ้งหนานมีกองกำลังหนึ่งแสนสามหมื่นคนได้

Bab terbaru

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status