แชร์

บทที่ 757

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-03 18:00:00
“เจ้ารีบนำขาเขากางออก บนพื้นนี้หนาวเย็นอย่างแปลกประหลาด” บุคคลเจ้าเนื้อที่คิดเพ้อฝันทำราวกับว่าตนเองเป็นขุนนางที่ราชสำนักแต่งตั้ง มิต้องพูดแสดงความเคารพกับเฉินฝานแล้ว

เฉินฝานยิ้มอย่างเยือกเย็นอีกครั้ง “ลงโทษเล็กน้อย ทว่ามิใช่มิลงโทษ!”

เขาเพิ่งพูดจบ เท้าที่เหยียบหลังบุคคลเจ้าเนื้อของโจวอวี่นั้น เค้นแรงกดลงไปในทีเดียว

“อ้าก!”

เสียงโอดครวญดังขึ้นตามคาด

การเหยียบย่ำของโจวอวี่นี้ ปัญญาชนเจ้าเนื้อมิตายก็พิการ

เฉินฝานยังมิมีท่าทีจะจากไป หลี่ชางกล่าวถามเสียงเบา “ใต้เท้า ท่านยังจะสั่งสอนสิ่งใดอีกหรือไม่?”

“ทำไมล่ะ?” เฉินฝานผินสายตาไปมองหลี่ชาง “เจ้าจะไล่ข้างั้นหรือ?”

หลี่ชางกล่าวอย่างลนลาน “ข้าน้อยมิบังอาจ เพียงแต่ว่าเหล่าปัญญาชนต้องเข้าเรียนแล้ว”

“อืม!”

เฉินฝานพยักหน้า เดินไปนั่งที่นั่งเดิมที่เป็นของปัญญาชนเจ้าเนื้อ “นึกย้อนถึงครานั้น ข้าก็เคยร่ำเรียนมาสองสามเดือนแล้ว ไม่ได้ฟังการบรรยายบทเรียนมานาน ข้าก็อยากจะเรียนด้วย”

สองสามเดือน?

ถึงแม้เหล่าปัญญาชนเหล่านั้นจะก้มหน้าตลอดเวลา ทว่าได้ยินเฉินฝานกล่าวว่าตนเองเคยร่ำเรียนมาสองสามเดือน แววตาพลันปรากฏความดูถูกเล็กน้อย

สองสามเดือน เช่นน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 758

    “โอ้!” หลี่ชางเลิกคิ้วขึ้น “ใต้เท้ากล่าวว่าข้าน้อยท่องบทกลอนผิด ข้าน้อยท่องผิดวรรคใดกัน? ใต้เท้าโปรดชี้แนะ”คนรากหญ้าผู้ที่รู้หนังสือน้อยนิด คิดว่าตนเองเป็นชายที่ฝ่าบาทโปรดปราน ได้รับความโปรดปรานเล็กน้อย ได้ตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังลาดตระเวน ก็สามารถเข้าใจบทกลอนได้แล้วงั้นหรือ?ช่างเป็นคนโง่เง่าที่มิรู้จักเจียมตัวเสียจริง ฝ่าบาทให้เขาเป็นบัญชาการกองกำลังลาดตระเวน ที่จริงแล้วเป็นเพราะเบื่อหน่ายเขาแล้ว ส่งให้เขาเข้าสู่ความมรณะก็แค่กองกำลังลาดตระเวนไร้ค่าเหล่านี้ และจำนวนคนก็น้อยเพียงนั้น จะสู้กับกองกำลังเมืองเตียนตูที่ดุดันเพียงนั้นของอ๋องเจิ้งหนานได้งั้นหรือ?ช่างเป็นเรื่องน่าขันเสียจริงทราบข่าวว่ากองกำลังลาดตระเวนสามารถทำลายล้างกองกำลังเมืองเตียนตูสามหมื่นคนได้อย่างราบคาบที่อำเภอเหออัน ทั้งราชวงศ์ต้าชิ่ง นอกจากเหล่าฉินเย่ว์เหมยสองสามคนที่ตื่นเต้นดีใจแล้ว ผู้อื่นมิคิดว่ากองกำลังลาดตระเวนเก่งกาจ ล้วนคิดว่ากองกำลังเมืองเตียนตูประมาท จึงทำให้พ่ายแพ้ในสงครามแน่นอนว่าหลี่ชางก็คิดแบบนั้นเช่นกันความพ่ายแพ้หรือชัยชนะของกองกำลังเมืองเตียนตู ในฐานะที่ขุนนางฝ่ายบุ๊นท้องถิ่นอย่างหลี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 759

    บัณฑิตมั่วรีบสาวเท้าเดินมาหน้าเฉินฝาน มองอย่างพินิจพิเคราะห์ตั้งแต่หัวจรดเท้าหนึ่งครั้ง ยิ่งมองสีหน้าปีติยินดี “ใต้เท้า เป็นท่านจริงๆด้วย วันนั้นคนที่ไปร่ำสุรากับตวนซินอ๋องคือท่านนี้เอง!”ทั้งๆที่ผมเส้นดอกเลาแล้ว ทว่าบัณฑิตมั่วยังกระโดดโลดเต้นดีใจราวกับเด็กน้อยเริ่นรุ่ยฟ่าน หลี่ชางและเหล่าปัญญาชนด้านหลังพวกเขาล้วนมองบัณฑิตมั่วด้วยความฉงนสงสัยนี่เกิดอันใดขึ้น? ไยบัณฑิตมั่วกลายเป็นเช่นนี้อย่างกะทันหัน“แก้ไขมั่วซั่ว ๆ บทกลอนล้ำเลิศ เติมแต่งตัวอักษรอันใดกัน!”บัณฑิตมั่วที่เดิมก็กระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข ตบหน้าตัวเองเสียงดังอย่างรุนแรงทันทีตอนนี้เฉินฝานจำได้แล้วบัณฑิตมั่วผู้นี้ ก็คือผู้เฒ่าที่เขาเจอตอนที่อยู่หอสุราในวันนั้น“นี่ ผู้เฒ่า!” เฉินฝานกล่าวอย่างรีบร้อน “เจ้าอย่าทำเช่นนี้เลย ถ้าตบตีตนเองจนบาดเจ็บ ลูกหลานของเจ้าเหล่านั้นมาขู่กรรโชกค่ารักษาตัว เช่นนั้นข้าก็งานเข้ากันพอดี”ในยุคโบราณมีคนสูงอายุที่แกล้งบาดเจ็บเพื่อขู่รีดเงินหรือไม่ เฉินฝานก็ไม่แน่ใจ แล้วถ้าฉุกละหุกมีสิ่งนี้เกิดขึ้นจริงๆล่ะบัณฑิตมั่วรีบร้อนเก็บมือ เคารพนบนอบทำหน้าเหยเกให้เฉินฝานพลางกล่าว “ทำให้ใต้เท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 760

    เหอจื่อหลินมึนงงทันที “ยึดที่คืนงั้นหรือ? ที่ตรงไหนกัน?”เฉินฝานชี้ที่เท้าของตนเอง “ที่แห่งนี้งั้นหรือ?”“หมายความว่าเยี่ยงไร?”หลี่หงโห่วและหลี่ชางพูดขึ้นพร้อมกัน“หมายความเยี่ยงไร?” เฉินฝานกวาดสายตามองคนแซ่หลี่ทั้งสองอย่างเยือกเย็น “พวกเจ้ามิเข้าใจจริงๆงั้นหรือ?”“ข้าน้อยมิเข้าใจจริงๆ ใต้เท้าโปรดชี้ให้กระจ่าง” ถึงแม้น้ำเสียงของเฉินฝานจะอ่อนน้อม ทว่าท่าที่มิได้นอบน้อมตามเมื่อเห็นเฉินฝานเขาไม่ตื่นตกใจเหมือนหลี่ชาง เขาได้รับจดหมายจากเสิ่นหมิงหยวนก่อนแล้ว ทราบว่ามันสมองหลักของกองกำลังลาดตระเวนครั้งนี้คือเฉินฝานและทราบจุดจบในตอนท้ายของเฉินฝานและกองกำลังลาดตระเวนแล้ว“ท่านเจ้าเมืองหลี่ ที่ดินที่ข้าเหยียบย่ำอยู่ เอกสารทางการในตอนแรกให้สร้างสำนักบัณฑิตงั้นหรือ? ข้าอยากอ่านเอกสารนั้นตอนนี้ รีบไปเอามาให้ข้าดูเร็วเข้า”หลี่หงโหวกริยาท่าทางไม่ดี เฉินฝานก็มิเกรงใจ กล่าวถามออกไปทันที“ใต้...เท้า...” หลี่หงโหว่คาดไม่ถึงว่าเฉินฝานจะถามเรื่องนี้ เขาพูดไปพลางคิดมาตรการในการรับมือกับเฉินฝานไปพลาง “ตอนนี้กองกำลังเมืองเตียนตูจวนจะมาโจมตีเมืองหรงตูแล้ว ใต้เท้า ข้าน้อยเห็นว่า ใต้เท้าควรจะกลับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 761

    เฉินฝานชักดาบของทหารคุ้มกันหลี่ซานออกมา แล้วฟันไปที่ศีรษะ!“...”“!!!!”“แหวะ...”“แหวะ...”“แหวะ...” เริ่นรุ่ยฟ่านชี้ไปทางเฉินฝานด้วยมือที่สั่นเทา “กล้าภายในลานกว้าง เสียงอาเจียนดังก้องไปทั่วศีรษะของหลี่ซานถูกเฉินฝานฟันเป็นสองท่อน“เจ้า เจ้า...” เริ่นรุ่ยฟ่านชี้ไปทางเฉินฝานด้วยมือสั่นเทา “เจ้ากล้าสังหารผู้ว่าราชการประจำมณฑลเช่นนั้นหรือ?”“สังหารแล้วอย่างไร? ขืนยังเข้าใกล้ ข้าจะเด็ดคอเจ้าด้วยเช่นกัน!”เฉินฝานกวัดแกว่งกระบี่ที่เต็มไปด้วยเลือดตรงหน้าเริ่นรุ่ยฟ่าน“อ๊าก อ๊าก!”เริ่นรุ่ยฟ่านร้องตะโกนสองครั้งติดกัน แล้วล้มลงบนพื้น เป็นลมหมดสติเฉินฝานแตะเริ่นรุ่ยฟ่านบนพื้น “เที่ยวบอกว่าตนเป็นผู้รู้ ให้คนมากมายฝากตัวเป็นศิษย์ ทว่ากลับเป็นเพียงหนูขลาดเขลาตัวหนึ่งเท่านั้น!”หลี่ซานถูกสังหาร เริ่นรุ่ยฟ่านหมดสติ ปัญญาชนในสำนักบัณฑิตขดตัวอยู่ในมุมด้วยความสั่นเทาเฉินฝานชำเลืองมองปัญญาชนเหล่านั้นปราดหนึ่งหันกลับมา เจอหลี่หงโห่วที่อยู่ด้านหลัง“เป็นอะไรไป เจ้าเมืองหลี่ไม่เห็นด้วยเช่นนั้นหรือ?”“เปล่าขอรับ แน่นอนว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น!” หลี่หงโห่วส่ายหน้าราวกับกลองป๋องแป๋ง“หาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 762

    ก่อนจะเอาชนะพวกกบฏได้ ปัญญาชนหยุดร่ำเรียนก่อน ปัญญาชนทุกคนไปทำอาหารให้กับเหล่าทหารในค่ายซะ!”ทำอาหารให้ทหารเช่นนั้นหรือ? !คำพูดของเฉินฝาน ราวกับระเบิด ทำให้ปัญญาชนแตกตื่นพวกเขาต่างวิพากษ์วิจารณ์ มากไปกว่านั้นยังมีคนใจกล้าเริ่มถามเฉินฝาน“มือของพวกเราใช้สำหรับพลิกเปิดตำราปราชญ์ แล้วจะให้ทำอาหารซึ่งเป็นงานสกปรกระดับล่างได้อย่างไร?”“พวกกบฏบุกโจมตีจวนจะถึงแล้ว ชาวบ้านทั้งเมืองต่างสู้กับทหาร ปัญญาชนเยี่ยงพวกเจ้าดื่มด่ำกับความสุขสบายมานาน เวลานี้ยังไม่คิดจะช่วยเช่นนั้นหรือ?”คำถามของปัญญาชน ทำให้เหอจื่อหลินเคืองขุ่นพวกปัญญาชนเหม็นคลุ้ง ต้องกินดีอยู่ดี นอกจากนี้ราชสำนักยังต้องคัดเลือกภรรยาดีๆ มาคอยรับใช้ปรนนิบัติพวกเขาชาวบ้านธรรมดาทั่วไป แม้แต่งภรรยาหลายคนจะได้รับรางวัลจากราชสำนัก แต่ในทางเดียวกันก็ต้องจ่ายภาษีเพิ่มมากขึ้นแตกต่างกับพวกปัญญาชน ที่ไม่เคยต้องจ่ายภาษีเมื่อครึ่งปีก่อน ฉินเย่ว์เหมยอยากยกเลิกสวัสดิการนี้ของปัญญาชน แต่เสิ่นหมิงหยวนกลับปล่อยข่าวนี้ออกไปทำให้เกิดการคัดค้านจากปัญญาชนทั้งแคว้นเวลานี้ เฉินฝานยังไม่ได้เริ่มโต้กลับ เสิ่นหมิงหยวนยังคงครอบครองอำนาจโดยมากข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 763

    “ผิดปกติ ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ!”บนกำแพงเมือง เหอจื่อหลินมองทหารเตียนตูที่ตัวเล็กราวกับมดร้องโหยหวนไม่หยุด“พี่จื่อหลิน สิ่งใดผิดปกติหรือ?”เฉินฝานก็มองเห็นความผิดปกติเช่นเดียวกัน แต่เขาอยากฟังดู สิ่งที่เหอจื่อหลินบอกว่าผิดปกตินั้น ใช่เรื่องเดียวกับเขาหรือไม่“จำนวนคนไม่ถูกต้อง”“ใช่ ไม่ถูกต้อง” เฉินฝานเห็นด้วยกับความคิดของเหอจื่อหลิน“ใต้เท้าทั้งสอง อะไรผิดปกติหรือขอรับ” หลูเฉิงกวงอดไม่ได้ที่จะถาม ทหารเตียนตูยังอยู่อีกไกล มองจากตรงนี้พวกเขาตัวเล็กราวกับมด พวกท่านดูออกได้อย่างไรขอรับ?”“จำนวนคนน้อย ต้องไม่ถึงหนึ่งแสนคนแน่นอน อย่างมากสุดก็แค่สามสี่หมื่นคน” เหอจื่อหลินกล่าว“น้อยลงจริงๆ ด้วย” เฉินฝานพยักหน้า “อีกทั้งไม่ถึงสี่หมื่นคน ประมาณสามหมื่นกว่าคนเท่านั้น”จำนวนคนน้อย?หลูเฉิงกวงยื่นคอจนยาว ทหารเตียนตูที่อยู่ทางไกลตัวเล็กกระจิ๋วหลิวความสงสัยก่อตัวในใจ น้อยอย่างไร?ทั้งยังดูออกว่าน้อยหกเจ็ดหมื่นคน“รายงานขอรับ!”ขณะเฉินฝานและเหอจื่อหลินพูดคุยกันอยู่นั้น ก็มีคนมารายงานคนที่มาครั้งนี้ไม่ใช่นักส่งสารธรรมดา แต่เป็นเจี่ยเจิ้งฟางหัวหน้ากลุ่มนักส่งสารเจี่ยเจิ้งฟา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 764

    หลังจากฟังสิ่งที่เฉินฝานวิเคราะห์ เหอกังพยักหน้า เห็นด้วยกับความคิดของเฉินฝาน“น้องฝาน เจ้าวิเคราะห์เช่นนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้อง อ๋องเจิ้นหนานต้องการให้จบลงอย่างรวดเร็ว แต่เหตุใดจึงมีทหารเพียงสามหมื่นนาย ทหารอีกเจ็ดหมื่นนายเล่า?” เหอจื่อหลินไม่เข้าใจอย่างมาก“คาดว่า อ๋องเจิ้นหนานคงคิดว่าพวกเขาโจมตีหรงตู ง่ายเหมือนเมืองฝูตูเช่นนั้นหรือ?” มั่วเซินทหารลาดตระเวนกองกำลังหนึ่งพูดเมื่อครั้นโจมตีเมืองฝูตู อ๋องเจิ้นหนานใช้ทหารเพียงสามพันคน ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวัน ก็ยึดครองเมืองฝูตูได้แล้วทหารเฝ้าเมืองฝูตูหมื่นกว่านายนั้น หลังทหารของอ๋องเจิ้นหนานโจมตีไม่นานพวกเขาก็หนีกันจ้าละหวั่น“หึ!” หลูเฉิงกวงหัวเราะในลำคอ แววตาเปี่ยมไปด้วยความหนักแน่นและความเหี้ยมโหด “คิดว่าทุกคนจะไร้ความสามารถเหมือนพวกทหารเมืองฝูตูเช่นนั้นหรือ? หากอ๋องเจิ้นหนานกล้าคิดเช่นนั้น ก็ให้เขามาลองดู”หลูเฉิงกวงไม่ถนัดเล่นเล่ห์ ดำรงตำแหน่งนายอำเภอย่อมเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ทว่าด้านการฝึกทหาร เขาชำนาญยิ่งนักบวกกับเขาเรียนรู้วิธีฝึกทหารมาจากเฉินฝานไม่น้อยไม่กล้ากล่าวว่าทหารเฝ้าเมืองหรงตูเก่งกาจเพียงใด แต่อย่างน้อยก็กล้าเผชิญหน้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 765

    เจี่ยเจิ้งฟางไม่ต้องมารายงาน เฉินฝานก็เดาได้แล้ว อ๋องเจิ้นหนานแบ่งทหารเตียนตูหนึ่งแสนนายเป็นสิบกองกำลัง ก่อตัวเป็นวงล้อมขนาดใหญ่ กำลังทยอยเข้าใกล้หรงตูระยะเวลาไม่ถึงครึ่งก้านธูป ทหารเตียนตูจะกลายเป็นวงกลมตีล้อมเข้ามาได้สำเร็จตามรายงานที่นักส่งสารกล่าวมานั้น เฉินฝานสรุปได้ว่าทหารตรงหน้ากำแพงเมืองมีจำนวนมากที่สุด มากถึงสามหมื่นนาย ส่วนที่เหลือเป็นกองกำลังขนาดใหญ่แปดพันนายระหว่างแต่ละกองกำลัง ห่างกันห้าลี้ ซึ่งเท่ากับสองพันห้าร้อยเมตร ระยะห่างเช่นนี้ ไม่ไกลและไม่ใกล้ สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีผ่านระเบิดมือของเฉินฝานได้เพราะไม่ไกล ขอเพียงจุดใดจุดหนึ่งเริ่มปะทะกัน กองกำลังรอบๆ ก็สามารถเข้าไปช่วยได้อย่างรวดเร็วกลยุทธ์การต่อสู้เช่นนี้ ดีกว่ากลยุทธ์การแบ่งโจมตีหลายเท่านักทหารเตียนตูไม่ต้องโจมตี เพียงล้อมเอาไว้ก็ทำให้พวกเฉินฝานตกที่นั่งลำบากหรงตูคือเมืองที่มีประชากรหนึ่งล้านกว่าคน ไม่ถึงสามวัน อาหารในเมืองจะขาดแคลนเมื่อถึงเวลานั้น ทหารเตียนตูไม่ต้องโจมตี ภายในหรงตูก็พังทลายด้วยตนเองเฉินฝานกวาดตามองทหารเตียนตูที่ไกลๆ ซึ่งเริ่มมีการก่อกระโจมด้วยแววตาเย็นชาอ๋องเจิ้นหนานคือคู่ต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 850

    “ผู้จัดสรร มิสามารถแบ่งให้คนนอกที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าเช่นนี้ได้เด็ดขาด!”“ถูกต้องแล้ว แบ่งให้คนที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้ามิได้!”คนรับใช้สองสามคนข้างกายเหลยหย่งอัน พูดเสริมทันที“เช่นนั้นนายน้อยเหลยคิดว่าผู้ใดเป็นผู้จัดสรรจึงจะเหมาะสม?”มีคนตะโกนถามท่ามกลางผู้เหลือรอดเหลยหย่งอันเลิกคิ้วขึ้นทันที ประโยคที่เขารอก็คือประโยคนี้ผู้นั้นเพิ่งจะกล่าวจบ เหลยหย่งอันก็ส่งสายตาไปที่คนรับใช้ข้างกายทันที“ร้านค้าตระกูลเหลยมากมายมหาศาล นายน้อยของพวกเราก็มีส่วนร่วมดูแล ไปตรวจสอบที่ร้านค้าทุกเดือน”ตรวจสอบแบบใดกัน ไปเกี้ยวพาราสีสตรีในร้านเสียมากกว่าเรื่องนี้ทุกคนในเมืองเซียนตูทราบดี เพียงแต่มิอยากให้เหลยหย่งอันมิพอใจ จึงมิมีผู้ใดกล้าพูดเปิดโปง“ดังนั้น...” คนใช้ผู้นั้นกล่าวต่อ “ผู้จัดสรรนี้ นายน้อยของข้าเป็นคนที่เหมาะสมที่สุด “ทุกคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว พวกเจ้า...” เหลยหย่งอันยกมือขึ้นทำท่าทางแบกรับรับความผิดชอบไว้เพียงผู้เดียว “คนที่ร่วมทุกข์กับข้าทุกคน ขอเพียงแค่สามารถมีชีวิตรอดออกไปได้ ก็สามารถไปรับเงินหนึ่งร้อยตำลึงได้ที่ตระกูลเหลยของพวกเรา”เพื่อที่จะได้ตำแหน่งผู้จัดสรรนี้ เหลยห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 849

    “ต่อให้เสบียงอาหารทั้งหมดต้องถูกจัดสรรปันส่วนอย่างเท่าเทียม เช่นนั้นไฉนอำนาจในการจัดการจัดแบ่งต้องเป็นเจ้าคนเดียวงั้นหรือ? เจ้าเป็นใครกัน?”ชายหนุ่มที่สวมชุดผ้าไหมอย่างดี ศีรษะสวมหมวกสีทองประดับด้วยไข่มุกเดินเข้ามากล่าวถามเฉินฝานด้วยท่าทีโอหังบุคคลนี้คือลูกชายคนโตของตระกูลเหลยเก่าแก่อันดับหนึ่งของเมืองเซียนตู เหลยหย่งอันด้วยความที่ชาติตระกูลมีเงินและอำนาจ เหลยหย่งอันได้รับสมญานามให้เป็นอันธพาลอันดับหนึ่งในเมืองเซียนตู ปกติก็มักจะรังแกผู้ชายข่มเหงผู้หญิง กระทำชั่วทุกรูปแบบสำหรับวีรกรรมของเหลยหย่งอันแล้ว เจ้าเมืองซื่อต้าเผิงต้องยอมปล่อยผ่านไปเหลยหย่งอันรู้สึกว่ามิถูกชะตาเฉินฝานอยู่ก่อนแล้วเรือนเซียนผาสุกมีกฎว่านอกจากผู้ฟังโชคดี่ถูกเมี่ยวอวี่สุ่มเลือกมา บุคคลที่ให้เงินรางวัลจำนวนมากที่สุด เมี่ยวอวี่ก็จะบรรเลงพิณเป็นการส่วนตัวเช่นกันทว่า ทุกปีจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นต้นปีเหลยหย่งอันก็เริ่มให้เงินรางวัลจำนวนมหาศาล ในที่สุดเมื่อมาถึงเดือนท้ายปีก็ได้ลำดับที่หนึ่งมาครองเห็นว่าตนเองสามารถเข้าไปในกระท่อมหิมะพบกับเมี่ยวอวี่ ได้ฟังพิณที่นางบรรเลงให้ตนเองโดยเฉพาะ กลับคาดมิถึงว่าอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 848

    เรือนเซียนผาสุกมีชื่อเสียงเงินทองมหาศาลดังคาด จำนวนเสบียงที่กักตุนไว้ตอนฤดูหนาว มากกว่าเสบียงครึ่งปีของครอบครัวสามัญชนเสียอีกตรงข้ามกับผู้เหลือรอดเหล่านั้น เฉินฝานยิ่งฟัง คิ้วยิ่งขมวดหนักขึ้นเรื่อย ๆน้อยไป น้อยเกินไปแล้วคนสามร้อยกว่าคน ต่อให้กินอาหารวันละหนึ่งมื้อ เสบียงอาหารเหล่านี้ก็หมดเกลี้ยงเพียงในพริบตาเดียว“เสบียงอาหารของกระท่อมหิมะนำออกมาไว้ที่แห่งนี้ทั้งหมดแล้วใช่หรือไม่?” เฉินฝานหันหน้ากล่าวถามเมี่ยวอวี่“กระท่อมหิมะแห่งนี้ของข้ามิได้ใหญ่โตเสียหน่อย ตุนไว้จำนวนมากเพียงนั้น ยังมินับว่าเยอะอีกหรือ?” เมี่ยวอวี่ย้อนถามเฉินฝาน“ก็จริง” เฉินฝานหัวเราะสมเพชตนเองในส่วนลึกของหัวใจ หวังว่าจะมีเยอะกว่านี้“ตอนนี้นับเสบียงเรียบร้อยแล้ว รีบแบ่งให้ทุกคนเถอะ”มีคนเร่งเร้าหิวจนทนมิไหวแล้วจริง ๆ“แบ่งมิได้!” เฉินฝานกล่าว“มิแบ่งงั้นหรือ?”สายตาสามร้อยกว่าคนจับจ้องไปที่เฉินฝานอย่างพร้อมเพียงมิเข้าใจ มิเชื่อเสบียงอาหารทั้งหมดถูกขนย้ายออกมานับจำนวนแล้ว ไม่เพียงแต่จำนวนเสบียงเท่านั้น จำนวนคนก็นับแล้วเช่นกันทำถึงเพียงนี้แล้ว เฉินฝานกลับกล่าวว่ามิแบ่งแล้ว“เจ้าหมายความว่าอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 847

    เขายืนกรานไม่ยอมนำเสบียงออกมามิใช่หรือ ไฉนตอนนี้ต้องการเอาออกมา และยังต้องนำออกมาทั้งหมดอีกด้วยเขากำลังคิดสิ่งใดอยู่กันแน่?“ทำไมล่ะ? แม่นางเมี่ยวอวี่มิเห็นด้วยงั้นหรือ?” เฉินฝานกล่าวถาม“โอ้ ไม่ใช่หรอก!” เมี่ยวอวี่กล่าวอย่างรีบร้อน “แน่นอนว่าข้าต้องเห็นด้วยอยู่แล้ว เจ้ารีบพาคนไปนำเสบียงอาหารในคลังออกมาทั้งหมด”“ช้าก่อน!” เฉินฝานเรียกยายจ้าวไว้ “เพื่อให้มั่นใจว่าเสบียงอาหารทั้งหมดจะถูกขนย้ายออกมา เย่ว์เจียวเจ้าไปตามยายจ้าวไปด้วย พวกเจ้า... ”เฉินฝานหันไปกล่าวกับผู้เหลือรอดเหล่านั้น “ก็ส่งหนึ่งคนตามไปด้วย”ผ่านไปครู่เดียว เสบียงอาหารทั้งหมดในกระท่อมหิมะถูกขนมาไว้ด้านหน้าฝูงชนเฉินฝานมองดูเสบียงอาหารที่กองเป็นพะเนินด้านหน้า กล่าวอย่างเนิบนาบ “โอ้ จำนวนมิน้อยเลยนะเนี่ย”“อากาศเย็น คร้านออกไปจับจ่าย ดังนั้นจึงซื้อจำนวนมากในคราวเดียว” เมี่ยวอวี่กล่าวอย่างมิใส่ใจมากนักเสบียงอาหารเหล่านั้นมีจำนวนมากก็จริงทว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนจำนวนมากเพียงนี้อยู่รอด!ท้ายที่สุด ก็ยังคงต้องตายอยู่ดีเหล่าผู้เหลือรอด มิได้มองการณ์ไกลเช่นนั้น พวกเขาที่หิวมาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว มองเสบียงอาห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 846

    เมื่อมีคนเปิดประเด็นแล้วคนอื่นก็พากันทำตาม คนกลุ่มใหญ่จำนวนมหาศาลคุกเข่าต่อหน้าเฉินฝานเฉินฝานมิได้กล่าวอันใด เมี่ยวอวี่ที่อยู่ด้านข้างชิงพูดก่อน“เหอะ!” เมี่ยวอวี่เยาะเย้ยออกมาทันที กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ช่างเป็นชายที่ใจดำอำมหิตเสียจริง คิดว่าตนเองมีผู้มากฝีมือที่เก่งกาจอยู่ข้างกาย ก็สามารถมิสนใจชีวิตของผู้คนรอบตัว แม้กระทั่งเด็กและคนชราก็ยังมิยอมช่วย”เมี่ยวอวี่จงใจกล่าวเช่นนี้จงใจที่พัดความโมโหของฝูงชนให้ลุกฮือดังคาด...“เขาใจดำอำมหิตเพียงนั้น แม้กระทั่งเด็กน้อยคนแก่ก็ยังมิยอมให้อาหารกินแม้แต่น้อย เช่นนั้นเรายังต้องกลัวสิ่งใดอีก?”เมื่อมีคนเริ่มก็มีคนตาม“ถูกต้อง อย่างไรเสียก็ถูกขังจนตายอยู่ที่นี้อยู่ดี ก่อนที่จะจากโลกนี้ไป ทุกคนต้องได้กินให้อิ่มท้อง!”“พวกเรามิต้องมาอ้อนวอนอยู่ตรงนี้และ ไปสืบเสาะ ไปค้นหา กระท่อมหิมะอาจจะใหญ่ไปเสียหน่อย แต่พวกเรามีจำนวนคนเยอะจะหาที่ซ่อนของเสบียงอาหารมิได้เชียวหรือ?”กลุ่มคนจำนวนมหาศาลในกระท่อมแต่เดิม รีบออกไปอย่างรวดเร็วราวกับกระแสน้ำลงของมหาสมุทร“เจี้ยนฮวง!” เฉินฝานกล่าวเกรงว่าเซียนเจี้ยนหวงจะเข้าใจผิด เฉินฝานจึงพูดเสริมอีกห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 845

    เซียนเจี้ยนหวงมิลงมือทำร้ายสามัญชน ชายรอยบาดแผลคิดว่าชื่อเสียงของเซียนเจี้ยนหวงเป็นสิ่งจอมปลอม และเขาคิดว่าตนเองมีจำนวนมากมาย ต่อให้เซียนเจี้ยนหวงจะเก่งกาจเพียงใดก็มิสามารถลุยเดี่ยวกับคนหนึ่งร้อยคนได้และเฉินฝานก็ดูจะเป็นคนสุภาพเรียบร้อย ดังนั้นชายรอยบาดแผลมิได้รู้สึกเกรงกลัวอันใด ท่าทียโสโอหังยิ่งเขาต้องการเสบียงอาหารในกระท่อมหิมะทั้งหมด และประสงค์ที่จะคุมชะตาคนหลายคนไว้ในกำมือ ในขณะเดียวกันก็สามารถช่วยเมี่ยวอวี่ให้หลุดพ้นได้ด้วยอำนาจ สาวงาม เสบียงอาหารเขาต้องการทั้งหมดเฉินฝานเงยหน้าขึ้น เหลือบมองชายรอยบาดแผลอย่างเรียบนิ่ง “ดูเจ้าพูดเข้าสิ เจ้าเก่งกาจมากสินะ”“เยี่ยนหลิ่งผู้ยิ่งใหญ่!” ชายรอยบาดแผลวางท่าทีใหญ่โต“ว้าว!” เฉินฝานยกนิ้วโป้ง “ชื่อนี้ช่างน่าเกรงขามเสียจริง!”สุดยอด!เซียนเจี้ยนหวงต้องเก็บอาการอยู่ด้านข้างนี่คงจะเป็นความสนุกเพียงอย่างเดียวตอนที่ถูกกักขังอยู่ที่แห่งนี้ดูคนโง่ ที่จริงแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าสนุก“เพียงแต่...” เฉินฝานเปลี่ยนเรื่องทันที “มิทราบว่าชื่อที่น่าเกรงขามเช่นนี้ จะชำนาญในการต่อสู้หรือไม่?”ระหว่างที่พูด เฉินฝานหันไปด้านข้างเล็กน้อย “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 844

    “ตุ้บ ๆ ๆ ๆ!”เสียงทุบประตูหน้าต่างด้านนอกดังขึ้นเรื่อย ๆ เซียนเจี้ยนหวงฝึกวรยุทธ์จนชำนาญแล้ว สถานการณ์ฝั่งเขานั้นค่อนข้างไปในทิศทางที่ดีฝั่งฉินเย่ว์เจียวและเย่ว์หนูนี้ค่อนข้างลำบาก“เย่ว์หนู เจ้ากันไว้ก่อน ข้าจะไปย้ายเตียงมากันไว้!”“มิจำเป็นหรอก!” เฉินฝานโบกมือเล็กน้อย เขาให้ฉินเย่ว์เจียวและเย่ว์หนูเปิดประตูออก“เปิดประตูงั้นหรือ?” ฉินเย่ว์เจียวส่ายหน้าทันที “ไม่ได้เจ้าค่ะ นายท่าน”คนด้านนอกทุกคนล้วนโกรธเฉินฝานจนกัดฟันกรอด ตะโกนอย่างดุเดือดเพื่อให้ต้องการพวกเขาผ่านเข้าไป เฉินฝานเสี่ยงอันตรายเกินไปแล้ว“พวกเจ้าสามารถกันไว้ได้หนึ่งชั่วยาม จะสามารถกันได้ถึงสองชั่วยามงั้นหรือ?”เมื่อคนตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตาย มิว่าสิ่งใดก็สามารถทำได้ความเลวทรามของมนุษย์ เป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวที่สุดในโลกใบนี้“นายท่าน ขอเพียงข้ายังอยู่ ข้าก็จะยังคงกันต่อไปเรื่อย ๆ จะมิยอมให้คนด้านนอกเหล่านั้นทำร้ายท่านแม้แต่ปลายเล็บ”ฉินเย่ว์เจียวกำหมัดไว้แน่นขนัดเฉินฝานมองท่าทีที่เศร้าสลดทว่าเข้มแข็งของฉินเย่ว์เจียว รู้สึกซาบซึ้งและหงุดหงิด“นายท่าน บ่าวก็เช่นกันเจ้าค่ะ”เย่ว์หนูเพิ่มแรงในการกันประต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 843

    ฉินเย่ว์เจียวง้างมือขึ้นทันที เดิมทีต้องการจะตบหน้าเมี่ยวอวี่เป็นครั้งที่สองพลันยั้งมือกะทันหันกลั้นหายใจ รอฟังคำตอบของเมี่ยวอวี่ด้วยความกังวลเฉินฝานก็อดมิได้ที่จะเงี่ยหูฟังจะรู้ร่องรอยของเย่ว์ฉินแล้ว รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย“หยกห้อยเอวชิ้นนี้...”“ตุ้บ!”อยู่ ๆ ก็มีก้อนหิมะลอยก้อนหนึ่งลอยทะลุหน้าต่างเข้ามา“โอ๊ย!”เมี่ยวอวี่อยู่ใกล้หน้าต่างอย่างมาก ก้อนหิมะขว้างโดนหัวหน้า ทำให้นางตกใจจึงร้องออกมาทันที“ตุ้บ”ครั้งนี้สิ่งที่ขว้างมาคือก้อนหิน“ระวัง!”เมี่ยวอวี่รู้สึกเพียงว่าร่างกายทรงตัวมิอยู่ ตัวไปชนกับอ้อมอกที่ล่ำสันหัวสมองว่างเปล่าราวกับถูกจี้จุด เมี่ยวอวี่มองเฉินฝานด้วยความมึนงงดวงตากลมโตที่เปล่งประกายแวววับดังดวงดารา สภาพอารมณ์แปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็วหาคำตอบมิได้ มิเชื่อ มิเข้าใจ“เจ้า...” เมี่ยวอวี่กลอกตาไปมา “ไยเจ้าจึงช่วยข้า?”หากมิใช่เฉินฝานดึงนางหลบได้ทัน ตอนนี้นางก็คงหัวแตกเลือดไหลนองไปนานแล้วเฉินฝานผลักเมี่ยวอวี่ในอ้อมอกออก เขาที่พลังภายในยังฟื้นฟูมิสมบูรณ์เอนตัวล้มพิงเรือนร่างของฉินเย่ว์เจียว น้ำเสียงเยือกเย็น “อย่าคิดเข้าตัวเอง ข้าทำไปตามสัญชาตญาณเท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 842

    ถึงแม้ในทุกวันนางมักจะรับคำเยินยอจากบุรุษเพศอยู่แล้ว ทว่าท่าทางที่รักใคร่หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งราวภาพวาดนี้ นางมิเคยพบเห็นมาก่อนเมี่ยวอวี่ที่สงสัยว่าตัวเองมองผิดไป จึงตั้งใจหันกลับไปดูอีกครั้งภาพที่เฉินฝานช่วยปัดไรผมบนหน้าผากของฉินเย่ว์เจียวออก และฉินเย่ว์เจียวยิ้มตอบกลับให้เฉินฝานอย่างหวานหยาดเยิ้ม เมี่ยวอวี่เหลือบไปเห็นพอดีไม่จริงหรอก!เมี่ยวอวี่รีบหันหน้ากลับไปด้วยความรวดเร็ว ตีหน้าอกตนเองเบา ๆสองสามทีคาดมิถึงว่าจะเป็นเรื่องจริงใต้หล้านี้มีสามีภรรยาที่รักใคร่กันเช่นนี้จริงหรือ ? เป็นเรื่องจริงหรือว่าผู้ชายจะอ่อนโยนกับภรรยาตนเองได้เพียงนั้น?เฉินฝานเป็นชายที่เลวทรามต่ำช้ามิใช่หรือ?เย่ว์หนูชะเง้อมองมาจากทางเข้าเห็นว่าเฉินฝานตื่นแล้ว รีบวิ่งกลับไปที่ในห้อง ยกโจ๊กครึ่งชามที่วางไว้ในห้องไปอุ่นที่ห้องครัว หลังจากที่อุ่นจนร้อนแล้วก็วิ่งกลับมา“โจ๊กมาแล้วเจ้าค่ะ”“เอามาให้ข้า!” ฉินเย่ว์เจียวรับโจ๊กในมือเย่ว์หนูมาทันที“ลำบากเจ้าแล้ว” เฉินฝานหันไปพยักหน้ากับเย่ว์หนู“บ่าวมิลำบากเลยเจ้าค่ะ ขอเพียงนายท่านหายดีก็เพียงพอแล้ว” เย่ว์หนูหน้าแดง ส่ายหน้าอย่างแรงกล่าวว่าตนเองมิลำ

DMCA.com Protection Status