แชร์

บทที่ 757

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“เจ้ารีบนำขาเขากางออก บนพื้นนี้หนาวเย็นอย่างแปลกประหลาด” บุคคลเจ้าเนื้อที่คิดเพ้อฝันทำราวกับว่าตนเองเป็นขุนนางที่ราชสำนักแต่งตั้ง มิต้องพูดแสดงความเคารพกับเฉินฝานแล้ว

เฉินฝานยิ้มอย่างเยือกเย็นอีกครั้ง “ลงโทษเล็กน้อย ทว่ามิใช่มิลงโทษ!”

เขาเพิ่งพูดจบ เท้าที่เหยียบหลังบุคคลเจ้าเนื้อของโจวอวี่นั้น เค้นแรงกดลงไปในทีเดียว

“อ้าก!”

เสียงโอดครวญดังขึ้นตามคาด

การเหยียบย่ำของโจวอวี่นี้ ปัญญาชนเจ้าเนื้อมิตายก็พิการ

เฉินฝานยังมิมีท่าทีจะจากไป หลี่ชางกล่าวถามเสียงเบา “ใต้เท้า ท่านยังจะสั่งสอนสิ่งใดอีกหรือไม่?”

“ทำไมล่ะ?” เฉินฝานผินสายตาไปมองหลี่ชาง “เจ้าจะไล่ข้างั้นหรือ?”

หลี่ชางกล่าวอย่างลนลาน “ข้าน้อยมิบังอาจ เพียงแต่ว่าเหล่าปัญญาชนต้องเข้าเรียนแล้ว”

“อืม!”

เฉินฝานพยักหน้า เดินไปนั่งที่นั่งเดิมที่เป็นของปัญญาชนเจ้าเนื้อ “นึกย้อนถึงครานั้น ข้าก็เคยร่ำเรียนมาสองสามเดือนแล้ว ไม่ได้ฟังการบรรยายบทเรียนมานาน ข้าก็อยากจะเรียนด้วย”

สองสามเดือน?

ถึงแม้เหล่าปัญญาชนเหล่านั้นจะก้มหน้าตลอดเวลา ทว่าได้ยินเฉินฝานกล่าวว่าตนเองเคยร่ำเรียนมาสองสามเดือน แววตาพลันปรากฏความดูถูกเล็กน้อย

สองสามเดือน เช่นน
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 758

    “โอ้!” หลี่ชางเลิกคิ้วขึ้น “ใต้เท้ากล่าวว่าข้าน้อยท่องบทกลอนผิด ข้าน้อยท่องผิดวรรคใดกัน? ใต้เท้าโปรดชี้แนะ”คนรากหญ้าผู้ที่รู้หนังสือน้อยนิด คิดว่าตนเองเป็นชายที่ฝ่าบาทโปรดปราน ได้รับความโปรดปรานเล็กน้อย ได้ตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังลาดตระเวน ก็สามารถเข้าใจบทกลอนได้แล้วงั้นหรือ?ช่างเป็นคนโง่เง่าที่มิรู้จักเจียมตัวเสียจริง ฝ่าบาทให้เขาเป็นบัญชาการกองกำลังลาดตระเวน ที่จริงแล้วเป็นเพราะเบื่อหน่ายเขาแล้ว ส่งให้เขาเข้าสู่ความมรณะก็แค่กองกำลังลาดตระเวนไร้ค่าเหล่านี้ และจำนวนคนก็น้อยเพียงนั้น จะสู้กับกองกำลังเมืองเตียนตูที่ดุดันเพียงนั้นของอ๋องเจิ้งหนานได้งั้นหรือ?ช่างเป็นเรื่องน่าขันเสียจริงทราบข่าวว่ากองกำลังลาดตระเวนสามารถทำลายล้างกองกำลังเมืองเตียนตูสามหมื่นคนได้อย่างราบคาบที่อำเภอเหออัน ทั้งราชวงศ์ต้าชิ่ง นอกจากเหล่าฉินเย่ว์เหมยสองสามคนที่ตื่นเต้นดีใจแล้ว ผู้อื่นมิคิดว่ากองกำลังลาดตระเวนเก่งกาจ ล้วนคิดว่ากองกำลังเมืองเตียนตูประมาท จึงทำให้พ่ายแพ้ในสงครามแน่นอนว่าหลี่ชางก็คิดแบบนั้นเช่นกันความพ่ายแพ้หรือชัยชนะของกองกำลังเมืองเตียนตู ในฐานะที่ขุนนางฝ่ายบุ๊นท้องถิ่นอย่างหลี

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 759

    บัณฑิตมั่วรีบสาวเท้าเดินมาหน้าเฉินฝาน มองอย่างพินิจพิเคราะห์ตั้งแต่หัวจรดเท้าหนึ่งครั้ง ยิ่งมองสีหน้าปีติยินดี “ใต้เท้า เป็นท่านจริงๆด้วย วันนั้นคนที่ไปร่ำสุรากับตวนซินอ๋องคือท่านนี้เอง!”ทั้งๆที่ผมเส้นดอกเลาแล้ว ทว่าบัณฑิตมั่วยังกระโดดโลดเต้นดีใจราวกับเด็กน้อยเริ่นรุ่ยฟ่าน หลี่ชางและเหล่าปัญญาชนด้านหลังพวกเขาล้วนมองบัณฑิตมั่วด้วยความฉงนสงสัยนี่เกิดอันใดขึ้น? ไยบัณฑิตมั่วกลายเป็นเช่นนี้อย่างกะทันหัน“แก้ไขมั่วซั่ว ๆ บทกลอนล้ำเลิศ เติมแต่งตัวอักษรอันใดกัน!”บัณฑิตมั่วที่เดิมก็กระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข ตบหน้าตัวเองเสียงดังอย่างรุนแรงทันทีตอนนี้เฉินฝานจำได้แล้วบัณฑิตมั่วผู้นี้ ก็คือผู้เฒ่าที่เขาเจอตอนที่อยู่หอสุราในวันนั้น“นี่ ผู้เฒ่า!” เฉินฝานกล่าวอย่างรีบร้อน “เจ้าอย่าทำเช่นนี้เลย ถ้าตบตีตนเองจนบาดเจ็บ ลูกหลานของเจ้าเหล่านั้นมาขู่กรรโชกค่ารักษาตัว เช่นนั้นข้าก็งานเข้ากันพอดี”ในยุคโบราณมีคนสูงอายุที่แกล้งบาดเจ็บเพื่อขู่รีดเงินหรือไม่ เฉินฝานก็ไม่แน่ใจ แล้วถ้าฉุกละหุกมีสิ่งนี้เกิดขึ้นจริงๆล่ะบัณฑิตมั่วรีบร้อนเก็บมือ เคารพนบนอบทำหน้าเหยเกให้เฉินฝานพลางกล่าว “ทำให้ใต้เท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 760

    เหอจื่อหลินมึนงงทันที “ยึดที่คืนงั้นหรือ? ที่ตรงไหนกัน?”เฉินฝานชี้ที่เท้าของตนเอง “ที่แห่งนี้งั้นหรือ?”“หมายความว่าเยี่ยงไร?”หลี่หงโห่วและหลี่ชางพูดขึ้นพร้อมกัน“หมายความเยี่ยงไร?” เฉินฝานกวาดสายตามองคนแซ่หลี่ทั้งสองอย่างเยือกเย็น “พวกเจ้ามิเข้าใจจริงๆงั้นหรือ?”“ข้าน้อยมิเข้าใจจริงๆ ใต้เท้าโปรดชี้ให้กระจ่าง” ถึงแม้น้ำเสียงของเฉินฝานจะอ่อนน้อม ทว่าท่าที่มิได้นอบน้อมตามเมื่อเห็นเฉินฝานเขาไม่ตื่นตกใจเหมือนหลี่ชาง เขาได้รับจดหมายจากเสิ่นหมิงหยวนก่อนแล้ว ทราบว่ามันสมองหลักของกองกำลังลาดตระเวนครั้งนี้คือเฉินฝานและทราบจุดจบในตอนท้ายของเฉินฝานและกองกำลังลาดตระเวนแล้ว“ท่านเจ้าเมืองหลี่ ที่ดินที่ข้าเหยียบย่ำอยู่ เอกสารทางการในตอนแรกให้สร้างสำนักบัณฑิตงั้นหรือ? ข้าอยากอ่านเอกสารนั้นตอนนี้ รีบไปเอามาให้ข้าดูเร็วเข้า”หลี่หงโหวกริยาท่าทางไม่ดี เฉินฝานก็มิเกรงใจ กล่าวถามออกไปทันที“ใต้...เท้า...” หลี่หงโหว่คาดไม่ถึงว่าเฉินฝานจะถามเรื่องนี้ เขาพูดไปพลางคิดมาตรการในการรับมือกับเฉินฝานไปพลาง “ตอนนี้กองกำลังเมืองเตียนตูจวนจะมาโจมตีเมืองหรงตูแล้ว ใต้เท้า ข้าน้อยเห็นว่า ใต้เท้าควรจะกลับ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 761

    เฉินฝานชักดาบของทหารคุ้มกันหลี่ซานออกมา แล้วฟันไปที่ศีรษะ!“...”“!!!!”“แหวะ...”“แหวะ...”“แหวะ...” เริ่นรุ่ยฟ่านชี้ไปทางเฉินฝานด้วยมือที่สั่นเทา “กล้าภายในลานกว้าง เสียงอาเจียนดังก้องไปทั่วศีรษะของหลี่ซานถูกเฉินฝานฟันเป็นสองท่อน“เจ้า เจ้า...” เริ่นรุ่ยฟ่านชี้ไปทางเฉินฝานด้วยมือสั่นเทา “เจ้ากล้าสังหารผู้ว่าราชการประจำมณฑลเช่นนั้นหรือ?”“สังหารแล้วอย่างไร? ขืนยังเข้าใกล้ ข้าจะเด็ดคอเจ้าด้วยเช่นกัน!”เฉินฝานกวัดแกว่งกระบี่ที่เต็มไปด้วยเลือดตรงหน้าเริ่นรุ่ยฟ่าน“อ๊าก อ๊าก!”เริ่นรุ่ยฟ่านร้องตะโกนสองครั้งติดกัน แล้วล้มลงบนพื้น เป็นลมหมดสติเฉินฝานแตะเริ่นรุ่ยฟ่านบนพื้น “เที่ยวบอกว่าตนเป็นผู้รู้ ให้คนมากมายฝากตัวเป็นศิษย์ ทว่ากลับเป็นเพียงหนูขลาดเขลาตัวหนึ่งเท่านั้น!”หลี่ซานถูกสังหาร เริ่นรุ่ยฟ่านหมดสติ ปัญญาชนในสำนักบัณฑิตขดตัวอยู่ในมุมด้วยความสั่นเทาเฉินฝานชำเลืองมองปัญญาชนเหล่านั้นปราดหนึ่งหันกลับมา เจอหลี่หงโห่วที่อยู่ด้านหลัง“เป็นอะไรไป เจ้าเมืองหลี่ไม่เห็นด้วยเช่นนั้นหรือ?”“เปล่าขอรับ แน่นอนว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น!” หลี่หงโห่วส่ายหน้าราวกับกลองป๋องแป๋ง“หาก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 762

    ก่อนจะเอาชนะพวกกบฏได้ ปัญญาชนหยุดร่ำเรียนก่อน ปัญญาชนทุกคนไปทำอาหารให้กับเหล่าทหารในค่ายซะ!”ทำอาหารให้ทหารเช่นนั้นหรือ? !คำพูดของเฉินฝาน ราวกับระเบิด ทำให้ปัญญาชนแตกตื่นพวกเขาต่างวิพากษ์วิจารณ์ มากไปกว่านั้นยังมีคนใจกล้าเริ่มถามเฉินฝาน“มือของพวกเราใช้สำหรับพลิกเปิดตำราปราชญ์ แล้วจะให้ทำอาหารซึ่งเป็นงานสกปรกระดับล่างได้อย่างไร?”“พวกกบฏบุกโจมตีจวนจะถึงแล้ว ชาวบ้านทั้งเมืองต่างสู้กับทหาร ปัญญาชนเยี่ยงพวกเจ้าดื่มด่ำกับความสุขสบายมานาน เวลานี้ยังไม่คิดจะช่วยเช่นนั้นหรือ?”คำถามของปัญญาชน ทำให้เหอจื่อหลินเคืองขุ่นพวกปัญญาชนเหม็นคลุ้ง ต้องกินดีอยู่ดี นอกจากนี้ราชสำนักยังต้องคัดเลือกภรรยาดีๆ มาคอยรับใช้ปรนนิบัติพวกเขาชาวบ้านธรรมดาทั่วไป แม้แต่งภรรยาหลายคนจะได้รับรางวัลจากราชสำนัก แต่ในทางเดียวกันก็ต้องจ่ายภาษีเพิ่มมากขึ้นแตกต่างกับพวกปัญญาชน ที่ไม่เคยต้องจ่ายภาษีเมื่อครึ่งปีก่อน ฉินเย่ว์เหมยอยากยกเลิกสวัสดิการนี้ของปัญญาชน แต่เสิ่นหมิงหยวนกลับปล่อยข่าวนี้ออกไปทำให้เกิดการคัดค้านจากปัญญาชนทั้งแคว้นเวลานี้ เฉินฝานยังไม่ได้เริ่มโต้กลับ เสิ่นหมิงหยวนยังคงครอบครองอำนาจโดยมากข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 763

    “ผิดปกติ ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ!”บนกำแพงเมือง เหอจื่อหลินมองทหารเตียนตูที่ตัวเล็กราวกับมดร้องโหยหวนไม่หยุด“พี่จื่อหลิน สิ่งใดผิดปกติหรือ?”เฉินฝานก็มองเห็นความผิดปกติเช่นเดียวกัน แต่เขาอยากฟังดู สิ่งที่เหอจื่อหลินบอกว่าผิดปกตินั้น ใช่เรื่องเดียวกับเขาหรือไม่“จำนวนคนไม่ถูกต้อง”“ใช่ ไม่ถูกต้อง” เฉินฝานเห็นด้วยกับความคิดของเหอจื่อหลิน“ใต้เท้าทั้งสอง อะไรผิดปกติหรือขอรับ” หลูเฉิงกวงอดไม่ได้ที่จะถาม ทหารเตียนตูยังอยู่อีกไกล มองจากตรงนี้พวกเขาตัวเล็กราวกับมด พวกท่านดูออกได้อย่างไรขอรับ?”“จำนวนคนน้อย ต้องไม่ถึงหนึ่งแสนคนแน่นอน อย่างมากสุดก็แค่สามสี่หมื่นคน” เหอจื่อหลินกล่าว“น้อยลงจริงๆ ด้วย” เฉินฝานพยักหน้า “อีกทั้งไม่ถึงสี่หมื่นคน ประมาณสามหมื่นกว่าคนเท่านั้น”จำนวนคนน้อย?หลูเฉิงกวงยื่นคอจนยาว ทหารเตียนตูที่อยู่ทางไกลตัวเล็กกระจิ๋วหลิวความสงสัยก่อตัวในใจ น้อยอย่างไร?ทั้งยังดูออกว่าน้อยหกเจ็ดหมื่นคน“รายงานขอรับ!”ขณะเฉินฝานและเหอจื่อหลินพูดคุยกันอยู่นั้น ก็มีคนมารายงานคนที่มาครั้งนี้ไม่ใช่นักส่งสารธรรมดา แต่เป็นเจี่ยเจิ้งฟางหัวหน้ากลุ่มนักส่งสารเจี่ยเจิ้งฟา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 764

    หลังจากฟังสิ่งที่เฉินฝานวิเคราะห์ เหอกังพยักหน้า เห็นด้วยกับความคิดของเฉินฝาน“น้องฝาน เจ้าวิเคราะห์เช่นนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้อง อ๋องเจิ้นหนานต้องการให้จบลงอย่างรวดเร็ว แต่เหตุใดจึงมีทหารเพียงสามหมื่นนาย ทหารอีกเจ็ดหมื่นนายเล่า?” เหอจื่อหลินไม่เข้าใจอย่างมาก“คาดว่า อ๋องเจิ้นหนานคงคิดว่าพวกเขาโจมตีหรงตู ง่ายเหมือนเมืองฝูตูเช่นนั้นหรือ?” มั่วเซินทหารลาดตระเวนกองกำลังหนึ่งพูดเมื่อครั้นโจมตีเมืองฝูตู อ๋องเจิ้นหนานใช้ทหารเพียงสามพันคน ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวัน ก็ยึดครองเมืองฝูตูได้แล้วทหารเฝ้าเมืองฝูตูหมื่นกว่านายนั้น หลังทหารของอ๋องเจิ้นหนานโจมตีไม่นานพวกเขาก็หนีกันจ้าละหวั่น“หึ!” หลูเฉิงกวงหัวเราะในลำคอ แววตาเปี่ยมไปด้วยความหนักแน่นและความเหี้ยมโหด “คิดว่าทุกคนจะไร้ความสามารถเหมือนพวกทหารเมืองฝูตูเช่นนั้นหรือ? หากอ๋องเจิ้นหนานกล้าคิดเช่นนั้น ก็ให้เขามาลองดู”หลูเฉิงกวงไม่ถนัดเล่นเล่ห์ ดำรงตำแหน่งนายอำเภอย่อมเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ทว่าด้านการฝึกทหาร เขาชำนาญยิ่งนักบวกกับเขาเรียนรู้วิธีฝึกทหารมาจากเฉินฝานไม่น้อยไม่กล้ากล่าวว่าทหารเฝ้าเมืองหรงตูเก่งกาจเพียงใด แต่อย่างน้อยก็กล้าเผชิญหน้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 765

    เจี่ยเจิ้งฟางไม่ต้องมารายงาน เฉินฝานก็เดาได้แล้ว อ๋องเจิ้นหนานแบ่งทหารเตียนตูหนึ่งแสนนายเป็นสิบกองกำลัง ก่อตัวเป็นวงล้อมขนาดใหญ่ กำลังทยอยเข้าใกล้หรงตูระยะเวลาไม่ถึงครึ่งก้านธูป ทหารเตียนตูจะกลายเป็นวงกลมตีล้อมเข้ามาได้สำเร็จตามรายงานที่นักส่งสารกล่าวมานั้น เฉินฝานสรุปได้ว่าทหารตรงหน้ากำแพงเมืองมีจำนวนมากที่สุด มากถึงสามหมื่นนาย ส่วนที่เหลือเป็นกองกำลังขนาดใหญ่แปดพันนายระหว่างแต่ละกองกำลัง ห่างกันห้าลี้ ซึ่งเท่ากับสองพันห้าร้อยเมตร ระยะห่างเช่นนี้ ไม่ไกลและไม่ใกล้ สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีผ่านระเบิดมือของเฉินฝานได้เพราะไม่ไกล ขอเพียงจุดใดจุดหนึ่งเริ่มปะทะกัน กองกำลังรอบๆ ก็สามารถเข้าไปช่วยได้อย่างรวดเร็วกลยุทธ์การต่อสู้เช่นนี้ ดีกว่ากลยุทธ์การแบ่งโจมตีหลายเท่านักทหารเตียนตูไม่ต้องโจมตี เพียงล้อมเอาไว้ก็ทำให้พวกเฉินฝานตกที่นั่งลำบากหรงตูคือเมืองที่มีประชากรหนึ่งล้านกว่าคน ไม่ถึงสามวัน อาหารในเมืองจะขาดแคลนเมื่อถึงเวลานั้น ทหารเตียนตูไม่ต้องโจมตี ภายในหรงตูก็พังทลายด้วยตนเองเฉินฝานกวาดตามองทหารเตียนตูที่ไกลๆ ซึ่งเริ่มมีการก่อกระโจมด้วยแววตาเย็นชาอ๋องเจิ้นหนานคือคู่ต

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status