แชร์

บทที่ 750

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-01 18:00:00
เฉินฝานพยักหน้า “ข้ารู้ว่าเจ้าไม่พึ่งพาบุคคลใด เจ้าฝ่าวงล้อมมาด้วยตนเอง”

เสี่ยวซื่อเป็นทหารระดับล่างที่สุดนายหนึ่ง เวลาที่สู้รบ เขาไม่สามารถไปอยู่ข้างกายเหอจื่อหลินได้อยู่แล้ว

“ใต้เท้า ข้าพึ่งพาสิ่งหนึ่งหนีออกมา”

เสี่ยวซื่อหยิบสิ่งของสิ่งหนึ่งออกมากระเป๋าอกเสื้ออย่างมีพิรุธ

เมื่อเฉินฝานเห็นแล้วก็รู้สึกสนุกทันที สิ่งของในมือของเสี่ยวซื่อเขาคุ้นเคยเป็นอย่างมาก

นี่คือสิ่งที่เขาเล่นตั้งแต่เด็กจนโต—— หนังสติ๊กมิใช่หรือ?

ทว่าหนังสติ๊กในมือเสี่ยวซื่อชิ้นนี้ ใหญ่กว่าที่เฉินฝานเล่นตอนเด็กเล็กน้อย

“หนังสติ๊กเล็กหนึ่งอัน อย่างมากก็สามารถยิงก้อนหินสองสามลูกได้ ยิงหินไปไม่กี่ลูกก็สามารถฝ่าฝูงชนที่ปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูออกมาได้ เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนโง่งั้นหรือ?”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เฉินฝานปรับสีหน้าเคร่งขรึม “เจ้ารู้ใช่หรือไม่ปิดบังข้าจะพบกับจุดจบเยี่ยงไร?”

ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าเสี่ยวซื่อมีโอกาสที่จะทรยศไม่มากนัก ทว่ารอบคอบไว้เสียหน่อยคงจะดีกว่า

สองกองกำลังปะทะกัน โดยเฉพาะสถานการณ์ที่จำนวนศัตรูแตกต่างจากฝั่งเรามากมายเพียงนั้น หากในกองกำลังมีผู้ทรยศ เช่นนั้นช่างเป็นการโจมตีที่ถึงแก่ชีวิต

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 751

    “ขอรับ ใต้เท้า!” เสี่ยวซื่อเหลือบมองเสาธงที่ห่างออกไป รับระเบิดมือจากมือเฉินฝานด้วยสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจผ่านไปครู่เดียว...“ตู้ม!”หลังจากเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างฉับพลัน ธงด้านนอกหอประตูเมืองก็มลายสิ้นไป“เจ้าหนุ่ม!” เฉินฝานตบไหล่เสี่ยวซื่อเบาๆ “เจ้าใช้ได้เลยนี่!”เจ้าหนุ่มนี่ฝีมือดีจริงๆ หากอยู่ในยุคปัจจุบัน ก็จะเป็นมือปืนซุ่มยิงที่มีความสามารถผู้หนึ่ง“ขอบคุณคำชื่นชมของใต้เท้า!”อย่างไรเสียเขาก็ยังเป็นเด็กน้อยอยู่ดี เฉินฝานพูดชื่นชมเช่นนั้น เสี่ยวซื่อยิ้มจนไม่เห็นฟันแล้ววันนี้สำหรับเฉินฝานแล้ว ช่างวันเป็นวันที่มีความสุขเรื่องดีๆเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเรื่องแรกคือกำจัดกองกำลังหลีเทียนสามหมื่นคนให้ราบคาบ ต่อด้วยเรื่องที่เหอจื่อหลินกลับมาได้อย่าปลอดภัย ตอนนี้ก็บังเอิญเจอเด็กตัวแสบที่มีความสามารถมาอีกหนึ่งคน-รุ่งสางยังมิมาถึง เฉินฝานก็ตื่นนอนแล้ว กองกำลังลาดตระเวนต้องเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองหรงตูไม่สามารถหยุดพักอยู่ที่เมืองเหออันได้นาน อ๋องเจิ้งหนานจะต้องออกคำสั่งให้เหยียนเชียงย้อนกลับมาเป็นแน่ไม่แน่ว่าตอนนี้กองกำลังหนึ่งแสนคนของเหยียนเชียง กำลังอยู่ในเส้นทางที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 752

    “ใต้เท้า ตอนนี้ดินระเบิดทำได้ยาก ผนวกกับการที่ไม่สามารถให้เหล่าเจ้าเมืองหรงตูทราบ ทำได้ห้าพันลูก ใต้เท้าหลูและคนงานก็ทำงานอย่างมิได้พักผ่อนแล้วขอรับ”โจวอวี่อธิบายแทนหลูเฉิงกวงตอนนี้ดินระเบิดมือหาซื้อได้ยาก และยังต้องหลบเลี่ยงสายตาของคนกลุ่มนั้นของหลี่หงโหว่ ทำระเบิดมือได้มากมายเพียงนั้น หลูเฉิงกวงก็ลำบากมากแล้ว“ใต้เท้าโจว ท่านมิจำเป็นต้องอธิบายแทนข้าน้อย เป็นเพราะข้าน้อยไร้ความสามารถ” หลูเฉิงกวงก้มหน้ายอมรับผิดเฉินฝานกล่าว : “เรื่องนี้จะโทษเจ้าไม่ได้จริงๆ!”เมื่อครู่เห็นระเบิดมือน้อยเพียงนั้น ร้อนใจไปชั่วขณะ น้ำเสียงที่พูดจึงแข็งกระด้างเช่นนั้นระเบิดมือจะน้อยก็น้อยไปเถอะ มีจำนวนน้อยก็มีวิธีต่อสู้ในแบบของมันอยู่ในปีนั้นแคว้นเซี่ยโจมตีแคว้นแดนงาม ไม่มีเสบียง ไม่มีเสื้อผ้าฝ้าย ไม่มีกองกำลังสนับสนุนทางอากาศ ยังสามารถโจมตีจนแคว้นแดนงามต้องร่ำไห้ออกมากองกำลังลาดตระเวนและกองกำลังรักษาเมืองหรงตูก็จะสามารถทำได้แน่นอนเขาจะใช้ยุทธวิธีในยุคปัจจุบัน ตาต่อตาฟันต่อฟันกับอ๋องเจิ้งหนาน ดูว่าในท้ายที่สุดว่าใครจะเป็นผู้เก่งกาจที่แท้จริง?“นายกองหลู พาข้าไปดูกองกำลังรักษาเมืองของเจ้า”ใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 753

    เฉินฝานเดินอย่างรีบร้อน ไปชนเข้ากับโต๊ะทำงานของหลูเฉิงกวง“โคร้ม!”โต๊ะพังทลายลงมาทันที“......”เฉินฝานสาบานว่า เขาเพียงชนเท่านั้น มิใช่เตะ ชนเช่นนี้โต๊ะก็สามารถพังทลายได้เชียวหรือ!!ก้มศีรษะดู ความเดือดดาลในใจเฉินฝาน ก็พรวดพุ่งออกมาอีกครั้งมุมทั้งสี่ของโต๊ะเริ่มที่จะเน่าเปื่อยแล้ว มิแปลกที่เมื่อชนแล้วก็พังทลายทันทีตอนที่เฉินฝานเดินมาจากค่ายของหลูเฉิงกวง เป็นช่วงเวลาที่เหล่านายทหารกำลังรับประทานอาหารกลางวันพอดีเขามิได้รีบร้อนไปสำนักบัณฑิตของเริ่นรุ่ยฟ่าน ทว่าเดินเข้าไปในโรงอาหารออกมาจากโรงอาหารแล้ว เฉินฝานก็กลับไปที่ค่ายของเหล่านายทหารอีกครั้งเดินออกมาจากค่ายทหาร เฉินฝานหันหน้าไปออกคำสั่งกับกองกำลังองครักษ์ประจำตัวข้างกาย ให้พวกเขาห่ออาหารที่เหล่าทหารกินหนึ่งชุด และเครื่องนอนที่เหล่านายทหารใช้เฉินฝานมิได้อธิบายว่าเขาต้องสิ่งของเหล่านี้ไปทำอันใด เขาเก็บความโมโหไว้ในส่วนลึก โจวอวี่และหลูเฉิงกวงทำได้เดินตามหลังอย่างเงียบ ๆ มิกล้ากล่าวถาม“พวกบัณฑิตปัญญาชนหน้าโง่!”ระหว่างทางมีเพียงฉินเย่ว์เจียวที่กล้าส่งเสียงตั้งแต่ค่ายทหารรักษาเมืองทิศตะวันออกของเมืองจวบจนถึงสำนักบั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 754

    ในสำนักบัณฑิตที่ครอบคลุมพื้นที่ห้าสิบกว่าหมู่ ศาลาทางเดินบุปผาทะเลสาบ ดอกไม้ใบหญ้าที่แปลกใหม่ตระการตา งดงามหาสิ่งได้เปรียบมิได้เหยียบทางเดินยาวของศาลา ความรู้สึกที่ขึ้นมาจากฝีเท้าก็รับรู้ได้เลยว่าวัสดุที่ใช้ในการทำทางเดินยาวคุณภาพดีอย่างมากสายน้ำไหลรินจากด้านล่างของทางเดินยาวลงไป“ที่แห่งนี้ ตกแต่งได้อย่างงดงามเสียจริง!”หลูเฉิงกวงที่เดินตามเฉินฝานมา ซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก“อะไรกัน?” เฉินฝานขมวดคิ้ว “จากคำพูดของนายกองหลู นี้เป็นครั้งแรกที่เจ้าเข้ามาในสำนักบัณฑิต”หลูเฉิงกวงลูบหัวเบา ทำหน้าเหยเกพลางกล่าว “ถูกต้องแล้ว ข้าน้อยนายทหารระดับล่าง เข้ามาที่แห่งนี้มีแต่จะทำลายบรรยากาศ ดังนั้นการที่ไม่เข้ามาที่แห่งนี้คงจะดีเสียกว่า”“ผู้ใดพูดกับเจ้าเช่นนี้?”เฉินฝานหันกลับมา ไม่เพียงแต่น้ำเสียงเยือกเย็นเท่านั้น สายตาก็ยังเยือกเย็นด้วย น้ำเสียงและสายตาของเฉินฝานนี้ ทำให้หลูเฉิงกวงตื่นตกใจ เขารู้จักกับเฉินฝานมานาน เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเฉินฝานจริงจังและเยือกเย็นเช่นนี้“ก็ ก็...” หลูเฉิงกวงพูดตะกุกตะกัก คิดว่าตนเองทำผิด “ใต้เท้า นายทหารอย่างพวกเราเหล่านี้ ทุกคนล้วนเป็นคนไร้มรรยาท สำนัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 755

    กล่าวถามผู้คนใต้หล้า ความรักคือสิ่งใด? เฉินฝานตกตะลึงในใจเล็กน้อย ตอนที่เขาอยู่เมืองหลวง มีครั้งหนึ่งที่ถูกตวนซินอ๋องลากไปร่ำสุราที่หอสุรา เมื่อร่ำสุราจนเคลิบเคลิ้ม เขาท่องบทกลอนโบราณนี้ออกมาในความทรงจำของเขายังขาดไปอีกสองวรรคที่ยังมิจบ เพราะตอนนั้นเขามึนเมาแล้ว ตอนที่ตวนซินอ๋องดึงเขาออกมาหอสุรา มีผู้เฒ่าผู้นี้ที่ดูเป็นผู้ดีสง่างาม วิ่งมาถามเขาว่า บทกลอนยังมิจบใช่หรือไม่ วรรคต่อไปคืออันใด?เฉินฝานในตอนนั้นกำลังเคลิบเคลิ้มอย่างมาก คิดที่บอกวรรคที่เหลือให้ผู้เฒ่าคนนั้น ปรากฏว่าตวนซินอ๋องที่อารมณ์ร้อนไล่ผู้เฒ่าคนนั้นไป“แม้ว่าจะบินอย่างมีสุขไปด้วย ทว่าการจากลาทุกข์ระทม จึงตระหนักได้ว่าห่านป่าคู่นั้นลุ่มหลงกว่าปุถุชนเสียอีก การเดินทางหมื่นลี้เพียงลำพัง เหมันตฤดูหรือคิมหันต์ฤดูภูเขานับพัน การมีชีวิตอยู่จะมีประโยชน์อันใด?”เมื่ออ่านมาถึงวรรคที่ซาบซึ้งใจ ปัญญาชนผู้นั้นถึงขั้นยืนขึ้นบนโต๊ะยาว“แถบแม่น้ำเฟิ่นนี้ เดิมทีเป็นที่จักรพรรดิแสวงหาความรื่นรมย์ เสียงดนตรีดังขับขาน ครื้นเครงเหลือคณา บัดนี้เหลือเพียงที่รกร้าง จักรพรรดิหวูสวรรคต เรียกวิญญาณเขากลับมามิมีประโยชน์อันใด เทพยดาแห่งขุน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 756

    “เอะอะโวยวายเสียงดังอันใดกัน มิรู้หรือว่าบัณฑิตเริ่นและบัณฑิตมั่วกำลังต่อบทกลอนอยู่ด้านในหรือกระไร?”ห้าคนเดินออกมาจากด้านหลังลานสำนักบุคคลที่เป็นหัวหน้า เฉินฝานจำได้เขาคือผู้ว่าราชการประจำเมืองหรงตูหลี่ชางเฉินฝานยิ้มอย่างเย็นชาช่างดีเหลือเกิน หลี่ชางอยู่ที่นี่ มิต้องเสียเวลาให้คนไปเรียกเขามา“หลูเฉิงกวง เจ้าเป็นอันใดไป? ที่แห่งนี้เป็นที่เจ้าสามารถเข้ามาได้งั้นหรือ? กลิ่นความบ้านนอกของเจ้านั้นทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แปดเปื้อน”“และพาคนรากหญ้าเข้ามาอีก หลูเฉิงกวงเจ้าเสียสติไปแล้วกระมัง!”คนรากหญ้าที่หลี่ชางหมายถึง ก็คือเฉินฝานเฉินฝานแต่งกายเรียบง่าย ผนวกกับเพิ่งจะออกมาสนามรบ บนเรือนร่างยังคงมีฝุ่นธุลีจำนวนมาก ดังนั้นมองปราดเดียว ก็เหมือนกับชาวบ้านที่มาจากหมู่บ้านหลี่ซานดูถูกหลูเฉิงกวงมาโดยตลอด แน่นอนว่าไม่คิดอยู่แล้วว่า คนรากหญ้าที่เขาหมายถึงจะเป็นซื่อหลางกรมคลังและเป็นผู้บัญชาการของกองกำลังลาดตระเวน เฉินฝาน“บัณฑิตมั่วยังอยู่ที่นี่ ข้าไม่อยากทำให้เขาตื่นตระหนก หลูเฉิงกวงเจ้ารีบไล่เจ้าคนรากหญ้านี้ออกไปเสียหลูเฉิงกวงหันกายไปทำความเคารพให้เฉินฝาน “ใต้เท้าเฉิน ท่านนำกอง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 757

    “เจ้ารีบนำขาเขากางออก บนพื้นนี้หนาวเย็นอย่างแปลกประหลาด” บุคคลเจ้าเนื้อที่คิดเพ้อฝันทำราวกับว่าตนเองเป็นขุนนางที่ราชสำนักแต่งตั้ง มิต้องพูดแสดงความเคารพกับเฉินฝานแล้วเฉินฝานยิ้มอย่างเยือกเย็นอีกครั้ง “ลงโทษเล็กน้อย ทว่ามิใช่มิลงโทษ!”เขาเพิ่งพูดจบ เท้าที่เหยียบหลังบุคคลเจ้าเนื้อของโจวอวี่นั้น เค้นแรงกดลงไปในทีเดียว“อ้าก!”เสียงโอดครวญดังขึ้นตามคาดการเหยียบย่ำของโจวอวี่นี้ ปัญญาชนเจ้าเนื้อมิตายก็พิการเฉินฝานยังมิมีท่าทีจะจากไป หลี่ชางกล่าวถามเสียงเบา “ใต้เท้า ท่านยังจะสั่งสอนสิ่งใดอีกหรือไม่?”“ทำไมล่ะ?” เฉินฝานผินสายตาไปมองหลี่ชาง “เจ้าจะไล่ข้างั้นหรือ?”หลี่ชางกล่าวอย่างลนลาน “ข้าน้อยมิบังอาจ เพียงแต่ว่าเหล่าปัญญาชนต้องเข้าเรียนแล้ว”“อืม!”เฉินฝานพยักหน้า เดินไปนั่งที่นั่งเดิมที่เป็นของปัญญาชนเจ้าเนื้อ “นึกย้อนถึงครานั้น ข้าก็เคยร่ำเรียนมาสองสามเดือนแล้ว ไม่ได้ฟังการบรรยายบทเรียนมานาน ข้าก็อยากจะเรียนด้วย”สองสามเดือน?ถึงแม้เหล่าปัญญาชนเหล่านั้นจะก้มหน้าตลอดเวลา ทว่าได้ยินเฉินฝานกล่าวว่าตนเองเคยร่ำเรียนมาสองสามเดือน แววตาพลันปรากฏความดูถูกเล็กน้อยสองสามเดือน เช่นน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 758

    “โอ้!” หลี่ชางเลิกคิ้วขึ้น “ใต้เท้ากล่าวว่าข้าน้อยท่องบทกลอนผิด ข้าน้อยท่องผิดวรรคใดกัน? ใต้เท้าโปรดชี้แนะ”คนรากหญ้าผู้ที่รู้หนังสือน้อยนิด คิดว่าตนเองเป็นชายที่ฝ่าบาทโปรดปราน ได้รับความโปรดปรานเล็กน้อย ได้ตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังลาดตระเวน ก็สามารถเข้าใจบทกลอนได้แล้วงั้นหรือ?ช่างเป็นคนโง่เง่าที่มิรู้จักเจียมตัวเสียจริง ฝ่าบาทให้เขาเป็นบัญชาการกองกำลังลาดตระเวน ที่จริงแล้วเป็นเพราะเบื่อหน่ายเขาแล้ว ส่งให้เขาเข้าสู่ความมรณะก็แค่กองกำลังลาดตระเวนไร้ค่าเหล่านี้ และจำนวนคนก็น้อยเพียงนั้น จะสู้กับกองกำลังเมืองเตียนตูที่ดุดันเพียงนั้นของอ๋องเจิ้งหนานได้งั้นหรือ?ช่างเป็นเรื่องน่าขันเสียจริงทราบข่าวว่ากองกำลังลาดตระเวนสามารถทำลายล้างกองกำลังเมืองเตียนตูสามหมื่นคนได้อย่างราบคาบที่อำเภอเหออัน ทั้งราชวงศ์ต้าชิ่ง นอกจากเหล่าฉินเย่ว์เหมยสองสามคนที่ตื่นเต้นดีใจแล้ว ผู้อื่นมิคิดว่ากองกำลังลาดตระเวนเก่งกาจ ล้วนคิดว่ากองกำลังเมืองเตียนตูประมาท จึงทำให้พ่ายแพ้ในสงครามแน่นอนว่าหลี่ชางก็คิดแบบนั้นเช่นกันความพ่ายแพ้หรือชัยชนะของกองกำลังเมืองเตียนตู ในฐานะที่ขุนนางฝ่ายบุ๊นท้องถิ่นอย่างหลี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 850

    “ผู้จัดสรร มิสามารถแบ่งให้คนนอกที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าเช่นนี้ได้เด็ดขาด!”“ถูกต้องแล้ว แบ่งให้คนที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้ามิได้!”คนรับใช้สองสามคนข้างกายเหลยหย่งอัน พูดเสริมทันที“เช่นนั้นนายน้อยเหลยคิดว่าผู้ใดเป็นผู้จัดสรรจึงจะเหมาะสม?”มีคนตะโกนถามท่ามกลางผู้เหลือรอดเหลยหย่งอันเลิกคิ้วขึ้นทันที ประโยคที่เขารอก็คือประโยคนี้ผู้นั้นเพิ่งจะกล่าวจบ เหลยหย่งอันก็ส่งสายตาไปที่คนรับใช้ข้างกายทันที“ร้านค้าตระกูลเหลยมากมายมหาศาล นายน้อยของพวกเราก็มีส่วนร่วมดูแล ไปตรวจสอบที่ร้านค้าทุกเดือน”ตรวจสอบแบบใดกัน ไปเกี้ยวพาราสีสตรีในร้านเสียมากกว่าเรื่องนี้ทุกคนในเมืองเซียนตูทราบดี เพียงแต่มิอยากให้เหลยหย่งอันมิพอใจ จึงมิมีผู้ใดกล้าพูดเปิดโปง“ดังนั้น...” คนใช้ผู้นั้นกล่าวต่อ “ผู้จัดสรรนี้ นายน้อยของข้าเป็นคนที่เหมาะสมที่สุด “ทุกคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว พวกเจ้า...” เหลยหย่งอันยกมือขึ้นทำท่าทางแบกรับรับความผิดชอบไว้เพียงผู้เดียว “คนที่ร่วมทุกข์กับข้าทุกคน ขอเพียงแค่สามารถมีชีวิตรอดออกไปได้ ก็สามารถไปรับเงินหนึ่งร้อยตำลึงได้ที่ตระกูลเหลยของพวกเรา”เพื่อที่จะได้ตำแหน่งผู้จัดสรรนี้ เหลยห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 849

    “ต่อให้เสบียงอาหารทั้งหมดต้องถูกจัดสรรปันส่วนอย่างเท่าเทียม เช่นนั้นไฉนอำนาจในการจัดการจัดแบ่งต้องเป็นเจ้าคนเดียวงั้นหรือ? เจ้าเป็นใครกัน?”ชายหนุ่มที่สวมชุดผ้าไหมอย่างดี ศีรษะสวมหมวกสีทองประดับด้วยไข่มุกเดินเข้ามากล่าวถามเฉินฝานด้วยท่าทีโอหังบุคคลนี้คือลูกชายคนโตของตระกูลเหลยเก่าแก่อันดับหนึ่งของเมืองเซียนตู เหลยหย่งอันด้วยความที่ชาติตระกูลมีเงินและอำนาจ เหลยหย่งอันได้รับสมญานามให้เป็นอันธพาลอันดับหนึ่งในเมืองเซียนตู ปกติก็มักจะรังแกผู้ชายข่มเหงผู้หญิง กระทำชั่วทุกรูปแบบสำหรับวีรกรรมของเหลยหย่งอันแล้ว เจ้าเมืองซื่อต้าเผิงต้องยอมปล่อยผ่านไปเหลยหย่งอันรู้สึกว่ามิถูกชะตาเฉินฝานอยู่ก่อนแล้วเรือนเซียนผาสุกมีกฎว่านอกจากผู้ฟังโชคดี่ถูกเมี่ยวอวี่สุ่มเลือกมา บุคคลที่ให้เงินรางวัลจำนวนมากที่สุด เมี่ยวอวี่ก็จะบรรเลงพิณเป็นการส่วนตัวเช่นกันทว่า ทุกปีจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นต้นปีเหลยหย่งอันก็เริ่มให้เงินรางวัลจำนวนมหาศาล ในที่สุดเมื่อมาถึงเดือนท้ายปีก็ได้ลำดับที่หนึ่งมาครองเห็นว่าตนเองสามารถเข้าไปในกระท่อมหิมะพบกับเมี่ยวอวี่ ได้ฟังพิณที่นางบรรเลงให้ตนเองโดยเฉพาะ กลับคาดมิถึงว่าอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 848

    เรือนเซียนผาสุกมีชื่อเสียงเงินทองมหาศาลดังคาด จำนวนเสบียงที่กักตุนไว้ตอนฤดูหนาว มากกว่าเสบียงครึ่งปีของครอบครัวสามัญชนเสียอีกตรงข้ามกับผู้เหลือรอดเหล่านั้น เฉินฝานยิ่งฟัง คิ้วยิ่งขมวดหนักขึ้นเรื่อย ๆน้อยไป น้อยเกินไปแล้วคนสามร้อยกว่าคน ต่อให้กินอาหารวันละหนึ่งมื้อ เสบียงอาหารเหล่านี้ก็หมดเกลี้ยงเพียงในพริบตาเดียว“เสบียงอาหารของกระท่อมหิมะนำออกมาไว้ที่แห่งนี้ทั้งหมดแล้วใช่หรือไม่?” เฉินฝานหันหน้ากล่าวถามเมี่ยวอวี่“กระท่อมหิมะแห่งนี้ของข้ามิได้ใหญ่โตเสียหน่อย ตุนไว้จำนวนมากเพียงนั้น ยังมินับว่าเยอะอีกหรือ?” เมี่ยวอวี่ย้อนถามเฉินฝาน“ก็จริง” เฉินฝานหัวเราะสมเพชตนเองในส่วนลึกของหัวใจ หวังว่าจะมีเยอะกว่านี้“ตอนนี้นับเสบียงเรียบร้อยแล้ว รีบแบ่งให้ทุกคนเถอะ”มีคนเร่งเร้าหิวจนทนมิไหวแล้วจริง ๆ“แบ่งมิได้!” เฉินฝานกล่าว“มิแบ่งงั้นหรือ?”สายตาสามร้อยกว่าคนจับจ้องไปที่เฉินฝานอย่างพร้อมเพียงมิเข้าใจ มิเชื่อเสบียงอาหารทั้งหมดถูกขนย้ายออกมานับจำนวนแล้ว ไม่เพียงแต่จำนวนเสบียงเท่านั้น จำนวนคนก็นับแล้วเช่นกันทำถึงเพียงนี้แล้ว เฉินฝานกลับกล่าวว่ามิแบ่งแล้ว“เจ้าหมายความว่าอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 847

    เขายืนกรานไม่ยอมนำเสบียงออกมามิใช่หรือ ไฉนตอนนี้ต้องการเอาออกมา และยังต้องนำออกมาทั้งหมดอีกด้วยเขากำลังคิดสิ่งใดอยู่กันแน่?“ทำไมล่ะ? แม่นางเมี่ยวอวี่มิเห็นด้วยงั้นหรือ?” เฉินฝานกล่าวถาม“โอ้ ไม่ใช่หรอก!” เมี่ยวอวี่กล่าวอย่างรีบร้อน “แน่นอนว่าข้าต้องเห็นด้วยอยู่แล้ว เจ้ารีบพาคนไปนำเสบียงอาหารในคลังออกมาทั้งหมด”“ช้าก่อน!” เฉินฝานเรียกยายจ้าวไว้ “เพื่อให้มั่นใจว่าเสบียงอาหารทั้งหมดจะถูกขนย้ายออกมา เย่ว์เจียวเจ้าไปตามยายจ้าวไปด้วย พวกเจ้า... ”เฉินฝานหันไปกล่าวกับผู้เหลือรอดเหล่านั้น “ก็ส่งหนึ่งคนตามไปด้วย”ผ่านไปครู่เดียว เสบียงอาหารทั้งหมดในกระท่อมหิมะถูกขนมาไว้ด้านหน้าฝูงชนเฉินฝานมองดูเสบียงอาหารที่กองเป็นพะเนินด้านหน้า กล่าวอย่างเนิบนาบ “โอ้ จำนวนมิน้อยเลยนะเนี่ย”“อากาศเย็น คร้านออกไปจับจ่าย ดังนั้นจึงซื้อจำนวนมากในคราวเดียว” เมี่ยวอวี่กล่าวอย่างมิใส่ใจมากนักเสบียงอาหารเหล่านั้นมีจำนวนมากก็จริงทว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนจำนวนมากเพียงนี้อยู่รอด!ท้ายที่สุด ก็ยังคงต้องตายอยู่ดีเหล่าผู้เหลือรอด มิได้มองการณ์ไกลเช่นนั้น พวกเขาที่หิวมาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว มองเสบียงอาห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 846

    เมื่อมีคนเปิดประเด็นแล้วคนอื่นก็พากันทำตาม คนกลุ่มใหญ่จำนวนมหาศาลคุกเข่าต่อหน้าเฉินฝานเฉินฝานมิได้กล่าวอันใด เมี่ยวอวี่ที่อยู่ด้านข้างชิงพูดก่อน“เหอะ!” เมี่ยวอวี่เยาะเย้ยออกมาทันที กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ช่างเป็นชายที่ใจดำอำมหิตเสียจริง คิดว่าตนเองมีผู้มากฝีมือที่เก่งกาจอยู่ข้างกาย ก็สามารถมิสนใจชีวิตของผู้คนรอบตัว แม้กระทั่งเด็กและคนชราก็ยังมิยอมช่วย”เมี่ยวอวี่จงใจกล่าวเช่นนี้จงใจที่พัดความโมโหของฝูงชนให้ลุกฮือดังคาด...“เขาใจดำอำมหิตเพียงนั้น แม้กระทั่งเด็กน้อยคนแก่ก็ยังมิยอมให้อาหารกินแม้แต่น้อย เช่นนั้นเรายังต้องกลัวสิ่งใดอีก?”เมื่อมีคนเริ่มก็มีคนตาม“ถูกต้อง อย่างไรเสียก็ถูกขังจนตายอยู่ที่นี้อยู่ดี ก่อนที่จะจากโลกนี้ไป ทุกคนต้องได้กินให้อิ่มท้อง!”“พวกเรามิต้องมาอ้อนวอนอยู่ตรงนี้และ ไปสืบเสาะ ไปค้นหา กระท่อมหิมะอาจจะใหญ่ไปเสียหน่อย แต่พวกเรามีจำนวนคนเยอะจะหาที่ซ่อนของเสบียงอาหารมิได้เชียวหรือ?”กลุ่มคนจำนวนมหาศาลในกระท่อมแต่เดิม รีบออกไปอย่างรวดเร็วราวกับกระแสน้ำลงของมหาสมุทร“เจี้ยนฮวง!” เฉินฝานกล่าวเกรงว่าเซียนเจี้ยนหวงจะเข้าใจผิด เฉินฝานจึงพูดเสริมอีกห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 845

    เซียนเจี้ยนหวงมิลงมือทำร้ายสามัญชน ชายรอยบาดแผลคิดว่าชื่อเสียงของเซียนเจี้ยนหวงเป็นสิ่งจอมปลอม และเขาคิดว่าตนเองมีจำนวนมากมาย ต่อให้เซียนเจี้ยนหวงจะเก่งกาจเพียงใดก็มิสามารถลุยเดี่ยวกับคนหนึ่งร้อยคนได้และเฉินฝานก็ดูจะเป็นคนสุภาพเรียบร้อย ดังนั้นชายรอยบาดแผลมิได้รู้สึกเกรงกลัวอันใด ท่าทียโสโอหังยิ่งเขาต้องการเสบียงอาหารในกระท่อมหิมะทั้งหมด และประสงค์ที่จะคุมชะตาคนหลายคนไว้ในกำมือ ในขณะเดียวกันก็สามารถช่วยเมี่ยวอวี่ให้หลุดพ้นได้ด้วยอำนาจ สาวงาม เสบียงอาหารเขาต้องการทั้งหมดเฉินฝานเงยหน้าขึ้น เหลือบมองชายรอยบาดแผลอย่างเรียบนิ่ง “ดูเจ้าพูดเข้าสิ เจ้าเก่งกาจมากสินะ”“เยี่ยนหลิ่งผู้ยิ่งใหญ่!” ชายรอยบาดแผลวางท่าทีใหญ่โต“ว้าว!” เฉินฝานยกนิ้วโป้ง “ชื่อนี้ช่างน่าเกรงขามเสียจริง!”สุดยอด!เซียนเจี้ยนหวงต้องเก็บอาการอยู่ด้านข้างนี่คงจะเป็นความสนุกเพียงอย่างเดียวตอนที่ถูกกักขังอยู่ที่แห่งนี้ดูคนโง่ ที่จริงแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าสนุก“เพียงแต่...” เฉินฝานเปลี่ยนเรื่องทันที “มิทราบว่าชื่อที่น่าเกรงขามเช่นนี้ จะชำนาญในการต่อสู้หรือไม่?”ระหว่างที่พูด เฉินฝานหันไปด้านข้างเล็กน้อย “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 844

    “ตุ้บ ๆ ๆ ๆ!”เสียงทุบประตูหน้าต่างด้านนอกดังขึ้นเรื่อย ๆ เซียนเจี้ยนหวงฝึกวรยุทธ์จนชำนาญแล้ว สถานการณ์ฝั่งเขานั้นค่อนข้างไปในทิศทางที่ดีฝั่งฉินเย่ว์เจียวและเย่ว์หนูนี้ค่อนข้างลำบาก“เย่ว์หนู เจ้ากันไว้ก่อน ข้าจะไปย้ายเตียงมากันไว้!”“มิจำเป็นหรอก!” เฉินฝานโบกมือเล็กน้อย เขาให้ฉินเย่ว์เจียวและเย่ว์หนูเปิดประตูออก“เปิดประตูงั้นหรือ?” ฉินเย่ว์เจียวส่ายหน้าทันที “ไม่ได้เจ้าค่ะ นายท่าน”คนด้านนอกทุกคนล้วนโกรธเฉินฝานจนกัดฟันกรอด ตะโกนอย่างดุเดือดเพื่อให้ต้องการพวกเขาผ่านเข้าไป เฉินฝานเสี่ยงอันตรายเกินไปแล้ว“พวกเจ้าสามารถกันไว้ได้หนึ่งชั่วยาม จะสามารถกันได้ถึงสองชั่วยามงั้นหรือ?”เมื่อคนตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตาย มิว่าสิ่งใดก็สามารถทำได้ความเลวทรามของมนุษย์ เป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวที่สุดในโลกใบนี้“นายท่าน ขอเพียงข้ายังอยู่ ข้าก็จะยังคงกันต่อไปเรื่อย ๆ จะมิยอมให้คนด้านนอกเหล่านั้นทำร้ายท่านแม้แต่ปลายเล็บ”ฉินเย่ว์เจียวกำหมัดไว้แน่นขนัดเฉินฝานมองท่าทีที่เศร้าสลดทว่าเข้มแข็งของฉินเย่ว์เจียว รู้สึกซาบซึ้งและหงุดหงิด“นายท่าน บ่าวก็เช่นกันเจ้าค่ะ”เย่ว์หนูเพิ่มแรงในการกันประต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 843

    ฉินเย่ว์เจียวง้างมือขึ้นทันที เดิมทีต้องการจะตบหน้าเมี่ยวอวี่เป็นครั้งที่สองพลันยั้งมือกะทันหันกลั้นหายใจ รอฟังคำตอบของเมี่ยวอวี่ด้วยความกังวลเฉินฝานก็อดมิได้ที่จะเงี่ยหูฟังจะรู้ร่องรอยของเย่ว์ฉินแล้ว รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย“หยกห้อยเอวชิ้นนี้...”“ตุ้บ!”อยู่ ๆ ก็มีก้อนหิมะลอยก้อนหนึ่งลอยทะลุหน้าต่างเข้ามา“โอ๊ย!”เมี่ยวอวี่อยู่ใกล้หน้าต่างอย่างมาก ก้อนหิมะขว้างโดนหัวหน้า ทำให้นางตกใจจึงร้องออกมาทันที“ตุ้บ”ครั้งนี้สิ่งที่ขว้างมาคือก้อนหิน“ระวัง!”เมี่ยวอวี่รู้สึกเพียงว่าร่างกายทรงตัวมิอยู่ ตัวไปชนกับอ้อมอกที่ล่ำสันหัวสมองว่างเปล่าราวกับถูกจี้จุด เมี่ยวอวี่มองเฉินฝานด้วยความมึนงงดวงตากลมโตที่เปล่งประกายแวววับดังดวงดารา สภาพอารมณ์แปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็วหาคำตอบมิได้ มิเชื่อ มิเข้าใจ“เจ้า...” เมี่ยวอวี่กลอกตาไปมา “ไยเจ้าจึงช่วยข้า?”หากมิใช่เฉินฝานดึงนางหลบได้ทัน ตอนนี้นางก็คงหัวแตกเลือดไหลนองไปนานแล้วเฉินฝานผลักเมี่ยวอวี่ในอ้อมอกออก เขาที่พลังภายในยังฟื้นฟูมิสมบูรณ์เอนตัวล้มพิงเรือนร่างของฉินเย่ว์เจียว น้ำเสียงเยือกเย็น “อย่าคิดเข้าตัวเอง ข้าทำไปตามสัญชาตญาณเท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 842

    ถึงแม้ในทุกวันนางมักจะรับคำเยินยอจากบุรุษเพศอยู่แล้ว ทว่าท่าทางที่รักใคร่หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งราวภาพวาดนี้ นางมิเคยพบเห็นมาก่อนเมี่ยวอวี่ที่สงสัยว่าตัวเองมองผิดไป จึงตั้งใจหันกลับไปดูอีกครั้งภาพที่เฉินฝานช่วยปัดไรผมบนหน้าผากของฉินเย่ว์เจียวออก และฉินเย่ว์เจียวยิ้มตอบกลับให้เฉินฝานอย่างหวานหยาดเยิ้ม เมี่ยวอวี่เหลือบไปเห็นพอดีไม่จริงหรอก!เมี่ยวอวี่รีบหันหน้ากลับไปด้วยความรวดเร็ว ตีหน้าอกตนเองเบา ๆสองสามทีคาดมิถึงว่าจะเป็นเรื่องจริงใต้หล้านี้มีสามีภรรยาที่รักใคร่กันเช่นนี้จริงหรือ ? เป็นเรื่องจริงหรือว่าผู้ชายจะอ่อนโยนกับภรรยาตนเองได้เพียงนั้น?เฉินฝานเป็นชายที่เลวทรามต่ำช้ามิใช่หรือ?เย่ว์หนูชะเง้อมองมาจากทางเข้าเห็นว่าเฉินฝานตื่นแล้ว รีบวิ่งกลับไปที่ในห้อง ยกโจ๊กครึ่งชามที่วางไว้ในห้องไปอุ่นที่ห้องครัว หลังจากที่อุ่นจนร้อนแล้วก็วิ่งกลับมา“โจ๊กมาแล้วเจ้าค่ะ”“เอามาให้ข้า!” ฉินเย่ว์เจียวรับโจ๊กในมือเย่ว์หนูมาทันที“ลำบากเจ้าแล้ว” เฉินฝานหันไปพยักหน้ากับเย่ว์หนู“บ่าวมิลำบากเลยเจ้าค่ะ ขอเพียงนายท่านหายดีก็เพียงพอแล้ว” เย่ว์หนูหน้าแดง ส่ายหน้าอย่างแรงกล่าวว่าตนเองมิลำ

DMCA.com Protection Status