แชร์

บทที่ 752

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“ใต้เท้า ตอนนี้ดินระเบิดทำได้ยาก ผนวกกับการที่ไม่สามารถให้เหล่าเจ้าเมืองหรงตูทราบ ทำได้ห้าพันลูก ใต้เท้าหลูและคนงานก็ทำงานอย่างมิได้พักผ่อนแล้วขอรับ”

โจวอวี่อธิบายแทนหลูเฉิงกวง

ตอนนี้ดินระเบิดมือหาซื้อได้ยาก และยังต้องหลบเลี่ยงสายตาของคนกลุ่มนั้นของหลี่หงโหว่ ทำระเบิดมือได้มากมายเพียงนั้น หลูเฉิงกวงก็ลำบากมากแล้ว

“ใต้เท้าโจว ท่านมิจำเป็นต้องอธิบายแทนข้าน้อย เป็นเพราะข้าน้อยไร้ความสามารถ” หลูเฉิงกวงก้มหน้ายอมรับผิด

เฉินฝานกล่าว : “เรื่องนี้จะโทษเจ้าไม่ได้จริงๆ!”

เมื่อครู่เห็นระเบิดมือน้อยเพียงนั้น ร้อนใจไปชั่วขณะ น้ำเสียงที่พูดจึงแข็งกระด้างเช่นนั้น

ระเบิดมือจะน้อยก็น้อยไปเถอะ มีจำนวนน้อยก็มีวิธีต่อสู้ในแบบของมันอยู่

ในปีนั้นแคว้นเซี่ยโจมตีแคว้นแดนงาม ไม่มีเสบียง ไม่มีเสื้อผ้าฝ้าย ไม่มีกองกำลังสนับสนุนทางอากาศ ยังสามารถโจมตีจนแคว้นแดนงามต้องร่ำไห้ออกมา

กองกำลังลาดตระเวนและกองกำลังรักษาเมืองหรงตูก็จะสามารถทำได้แน่นอน

เขาจะใช้ยุทธวิธีในยุคปัจจุบัน ตาต่อตาฟันต่อฟันกับอ๋องเจิ้งหนาน ดูว่าในท้ายที่สุดว่าใครจะเป็นผู้เก่งกาจที่แท้จริง?

“นายกองหลู พาข้าไปดูกองกำลังรักษาเมืองของเจ้า”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 753

    เฉินฝานเดินอย่างรีบร้อน ไปชนเข้ากับโต๊ะทำงานของหลูเฉิงกวง“โคร้ม!”โต๊ะพังทลายลงมาทันที“......”เฉินฝานสาบานว่า เขาเพียงชนเท่านั้น มิใช่เตะ ชนเช่นนี้โต๊ะก็สามารถพังทลายได้เชียวหรือ!!ก้มศีรษะดู ความเดือดดาลในใจเฉินฝาน ก็พรวดพุ่งออกมาอีกครั้งมุมทั้งสี่ของโต๊ะเริ่มที่จะเน่าเปื่อยแล้ว มิแปลกที่เมื่อชนแล้วก็พังทลายทันทีตอนที่เฉินฝานเดินมาจากค่ายของหลูเฉิงกวง เป็นช่วงเวลาที่เหล่านายทหารกำลังรับประทานอาหารกลางวันพอดีเขามิได้รีบร้อนไปสำนักบัณฑิตของเริ่นรุ่ยฟ่าน ทว่าเดินเข้าไปในโรงอาหารออกมาจากโรงอาหารแล้ว เฉินฝานก็กลับไปที่ค่ายของเหล่านายทหารอีกครั้งเดินออกมาจากค่ายทหาร เฉินฝานหันหน้าไปออกคำสั่งกับกองกำลังองครักษ์ประจำตัวข้างกาย ให้พวกเขาห่ออาหารที่เหล่าทหารกินหนึ่งชุด และเครื่องนอนที่เหล่านายทหารใช้เฉินฝานมิได้อธิบายว่าเขาต้องสิ่งของเหล่านี้ไปทำอันใด เขาเก็บความโมโหไว้ในส่วนลึก โจวอวี่และหลูเฉิงกวงทำได้เดินตามหลังอย่างเงียบ ๆ มิกล้ากล่าวถาม“พวกบัณฑิตปัญญาชนหน้าโง่!”ระหว่างทางมีเพียงฉินเย่ว์เจียวที่กล้าส่งเสียงตั้งแต่ค่ายทหารรักษาเมืองทิศตะวันออกของเมืองจวบจนถึงสำนักบั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 754

    ในสำนักบัณฑิตที่ครอบคลุมพื้นที่ห้าสิบกว่าหมู่ ศาลาทางเดินบุปผาทะเลสาบ ดอกไม้ใบหญ้าที่แปลกใหม่ตระการตา งดงามหาสิ่งได้เปรียบมิได้เหยียบทางเดินยาวของศาลา ความรู้สึกที่ขึ้นมาจากฝีเท้าก็รับรู้ได้เลยว่าวัสดุที่ใช้ในการทำทางเดินยาวคุณภาพดีอย่างมากสายน้ำไหลรินจากด้านล่างของทางเดินยาวลงไป“ที่แห่งนี้ ตกแต่งได้อย่างงดงามเสียจริง!”หลูเฉิงกวงที่เดินตามเฉินฝานมา ซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก“อะไรกัน?” เฉินฝานขมวดคิ้ว “จากคำพูดของนายกองหลู นี้เป็นครั้งแรกที่เจ้าเข้ามาในสำนักบัณฑิต”หลูเฉิงกวงลูบหัวเบา ทำหน้าเหยเกพลางกล่าว “ถูกต้องแล้ว ข้าน้อยนายทหารระดับล่าง เข้ามาที่แห่งนี้มีแต่จะทำลายบรรยากาศ ดังนั้นการที่ไม่เข้ามาที่แห่งนี้คงจะดีเสียกว่า”“ผู้ใดพูดกับเจ้าเช่นนี้?”เฉินฝานหันกลับมา ไม่เพียงแต่น้ำเสียงเยือกเย็นเท่านั้น สายตาก็ยังเยือกเย็นด้วย น้ำเสียงและสายตาของเฉินฝานนี้ ทำให้หลูเฉิงกวงตื่นตกใจ เขารู้จักกับเฉินฝานมานาน เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเฉินฝานจริงจังและเยือกเย็นเช่นนี้“ก็ ก็...” หลูเฉิงกวงพูดตะกุกตะกัก คิดว่าตนเองทำผิด “ใต้เท้า นายทหารอย่างพวกเราเหล่านี้ ทุกคนล้วนเป็นคนไร้มรรยาท สำนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 755

    กล่าวถามผู้คนใต้หล้า ความรักคือสิ่งใด? เฉินฝานตกตะลึงในใจเล็กน้อย ตอนที่เขาอยู่เมืองหลวง มีครั้งหนึ่งที่ถูกตวนซินอ๋องลากไปร่ำสุราที่หอสุรา เมื่อร่ำสุราจนเคลิบเคลิ้ม เขาท่องบทกลอนโบราณนี้ออกมาในความทรงจำของเขายังขาดไปอีกสองวรรคที่ยังมิจบ เพราะตอนนั้นเขามึนเมาแล้ว ตอนที่ตวนซินอ๋องดึงเขาออกมาหอสุรา มีผู้เฒ่าผู้นี้ที่ดูเป็นผู้ดีสง่างาม วิ่งมาถามเขาว่า บทกลอนยังมิจบใช่หรือไม่ วรรคต่อไปคืออันใด?เฉินฝานในตอนนั้นกำลังเคลิบเคลิ้มอย่างมาก คิดที่บอกวรรคที่เหลือให้ผู้เฒ่าคนนั้น ปรากฏว่าตวนซินอ๋องที่อารมณ์ร้อนไล่ผู้เฒ่าคนนั้นไป“แม้ว่าจะบินอย่างมีสุขไปด้วย ทว่าการจากลาทุกข์ระทม จึงตระหนักได้ว่าห่านป่าคู่นั้นลุ่มหลงกว่าปุถุชนเสียอีก การเดินทางหมื่นลี้เพียงลำพัง เหมันตฤดูหรือคิมหันต์ฤดูภูเขานับพัน การมีชีวิตอยู่จะมีประโยชน์อันใด?”เมื่ออ่านมาถึงวรรคที่ซาบซึ้งใจ ปัญญาชนผู้นั้นถึงขั้นยืนขึ้นบนโต๊ะยาว“แถบแม่น้ำเฟิ่นนี้ เดิมทีเป็นที่จักรพรรดิแสวงหาความรื่นรมย์ เสียงดนตรีดังขับขาน ครื้นเครงเหลือคณา บัดนี้เหลือเพียงที่รกร้าง จักรพรรดิหวูสวรรคต เรียกวิญญาณเขากลับมามิมีประโยชน์อันใด เทพยดาแห่งขุน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 756

    “เอะอะโวยวายเสียงดังอันใดกัน มิรู้หรือว่าบัณฑิตเริ่นและบัณฑิตมั่วกำลังต่อบทกลอนอยู่ด้านในหรือกระไร?”ห้าคนเดินออกมาจากด้านหลังลานสำนักบุคคลที่เป็นหัวหน้า เฉินฝานจำได้เขาคือผู้ว่าราชการประจำเมืองหรงตูหลี่ชางเฉินฝานยิ้มอย่างเย็นชาช่างดีเหลือเกิน หลี่ชางอยู่ที่นี่ มิต้องเสียเวลาให้คนไปเรียกเขามา“หลูเฉิงกวง เจ้าเป็นอันใดไป? ที่แห่งนี้เป็นที่เจ้าสามารถเข้ามาได้งั้นหรือ? กลิ่นความบ้านนอกของเจ้านั้นทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แปดเปื้อน”“และพาคนรากหญ้าเข้ามาอีก หลูเฉิงกวงเจ้าเสียสติไปแล้วกระมัง!”คนรากหญ้าที่หลี่ชางหมายถึง ก็คือเฉินฝานเฉินฝานแต่งกายเรียบง่าย ผนวกกับเพิ่งจะออกมาสนามรบ บนเรือนร่างยังคงมีฝุ่นธุลีจำนวนมาก ดังนั้นมองปราดเดียว ก็เหมือนกับชาวบ้านที่มาจากหมู่บ้านหลี่ซานดูถูกหลูเฉิงกวงมาโดยตลอด แน่นอนว่าไม่คิดอยู่แล้วว่า คนรากหญ้าที่เขาหมายถึงจะเป็นซื่อหลางกรมคลังและเป็นผู้บัญชาการของกองกำลังลาดตระเวน เฉินฝาน“บัณฑิตมั่วยังอยู่ที่นี่ ข้าไม่อยากทำให้เขาตื่นตระหนก หลูเฉิงกวงเจ้ารีบไล่เจ้าคนรากหญ้านี้ออกไปเสียหลูเฉิงกวงหันกายไปทำความเคารพให้เฉินฝาน “ใต้เท้าเฉิน ท่านนำกอง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 757

    “เจ้ารีบนำขาเขากางออก บนพื้นนี้หนาวเย็นอย่างแปลกประหลาด” บุคคลเจ้าเนื้อที่คิดเพ้อฝันทำราวกับว่าตนเองเป็นขุนนางที่ราชสำนักแต่งตั้ง มิต้องพูดแสดงความเคารพกับเฉินฝานแล้วเฉินฝานยิ้มอย่างเยือกเย็นอีกครั้ง “ลงโทษเล็กน้อย ทว่ามิใช่มิลงโทษ!”เขาเพิ่งพูดจบ เท้าที่เหยียบหลังบุคคลเจ้าเนื้อของโจวอวี่นั้น เค้นแรงกดลงไปในทีเดียว“อ้าก!”เสียงโอดครวญดังขึ้นตามคาดการเหยียบย่ำของโจวอวี่นี้ ปัญญาชนเจ้าเนื้อมิตายก็พิการเฉินฝานยังมิมีท่าทีจะจากไป หลี่ชางกล่าวถามเสียงเบา “ใต้เท้า ท่านยังจะสั่งสอนสิ่งใดอีกหรือไม่?”“ทำไมล่ะ?” เฉินฝานผินสายตาไปมองหลี่ชาง “เจ้าจะไล่ข้างั้นหรือ?”หลี่ชางกล่าวอย่างลนลาน “ข้าน้อยมิบังอาจ เพียงแต่ว่าเหล่าปัญญาชนต้องเข้าเรียนแล้ว”“อืม!”เฉินฝานพยักหน้า เดินไปนั่งที่นั่งเดิมที่เป็นของปัญญาชนเจ้าเนื้อ “นึกย้อนถึงครานั้น ข้าก็เคยร่ำเรียนมาสองสามเดือนแล้ว ไม่ได้ฟังการบรรยายบทเรียนมานาน ข้าก็อยากจะเรียนด้วย”สองสามเดือน?ถึงแม้เหล่าปัญญาชนเหล่านั้นจะก้มหน้าตลอดเวลา ทว่าได้ยินเฉินฝานกล่าวว่าตนเองเคยร่ำเรียนมาสองสามเดือน แววตาพลันปรากฏความดูถูกเล็กน้อยสองสามเดือน เช่นน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 758

    “โอ้!” หลี่ชางเลิกคิ้วขึ้น “ใต้เท้ากล่าวว่าข้าน้อยท่องบทกลอนผิด ข้าน้อยท่องผิดวรรคใดกัน? ใต้เท้าโปรดชี้แนะ”คนรากหญ้าผู้ที่รู้หนังสือน้อยนิด คิดว่าตนเองเป็นชายที่ฝ่าบาทโปรดปราน ได้รับความโปรดปรานเล็กน้อย ได้ตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังลาดตระเวน ก็สามารถเข้าใจบทกลอนได้แล้วงั้นหรือ?ช่างเป็นคนโง่เง่าที่มิรู้จักเจียมตัวเสียจริง ฝ่าบาทให้เขาเป็นบัญชาการกองกำลังลาดตระเวน ที่จริงแล้วเป็นเพราะเบื่อหน่ายเขาแล้ว ส่งให้เขาเข้าสู่ความมรณะก็แค่กองกำลังลาดตระเวนไร้ค่าเหล่านี้ และจำนวนคนก็น้อยเพียงนั้น จะสู้กับกองกำลังเมืองเตียนตูที่ดุดันเพียงนั้นของอ๋องเจิ้งหนานได้งั้นหรือ?ช่างเป็นเรื่องน่าขันเสียจริงทราบข่าวว่ากองกำลังลาดตระเวนสามารถทำลายล้างกองกำลังเมืองเตียนตูสามหมื่นคนได้อย่างราบคาบที่อำเภอเหออัน ทั้งราชวงศ์ต้าชิ่ง นอกจากเหล่าฉินเย่ว์เหมยสองสามคนที่ตื่นเต้นดีใจแล้ว ผู้อื่นมิคิดว่ากองกำลังลาดตระเวนเก่งกาจ ล้วนคิดว่ากองกำลังเมืองเตียนตูประมาท จึงทำให้พ่ายแพ้ในสงครามแน่นอนว่าหลี่ชางก็คิดแบบนั้นเช่นกันความพ่ายแพ้หรือชัยชนะของกองกำลังเมืองเตียนตู ในฐานะที่ขุนนางฝ่ายบุ๊นท้องถิ่นอย่างหลี

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 759

    บัณฑิตมั่วรีบสาวเท้าเดินมาหน้าเฉินฝาน มองอย่างพินิจพิเคราะห์ตั้งแต่หัวจรดเท้าหนึ่งครั้ง ยิ่งมองสีหน้าปีติยินดี “ใต้เท้า เป็นท่านจริงๆด้วย วันนั้นคนที่ไปร่ำสุรากับตวนซินอ๋องคือท่านนี้เอง!”ทั้งๆที่ผมเส้นดอกเลาแล้ว ทว่าบัณฑิตมั่วยังกระโดดโลดเต้นดีใจราวกับเด็กน้อยเริ่นรุ่ยฟ่าน หลี่ชางและเหล่าปัญญาชนด้านหลังพวกเขาล้วนมองบัณฑิตมั่วด้วยความฉงนสงสัยนี่เกิดอันใดขึ้น? ไยบัณฑิตมั่วกลายเป็นเช่นนี้อย่างกะทันหัน“แก้ไขมั่วซั่ว ๆ บทกลอนล้ำเลิศ เติมแต่งตัวอักษรอันใดกัน!”บัณฑิตมั่วที่เดิมก็กระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข ตบหน้าตัวเองเสียงดังอย่างรุนแรงทันทีตอนนี้เฉินฝานจำได้แล้วบัณฑิตมั่วผู้นี้ ก็คือผู้เฒ่าที่เขาเจอตอนที่อยู่หอสุราในวันนั้น“นี่ ผู้เฒ่า!” เฉินฝานกล่าวอย่างรีบร้อน “เจ้าอย่าทำเช่นนี้เลย ถ้าตบตีตนเองจนบาดเจ็บ ลูกหลานของเจ้าเหล่านั้นมาขู่กรรโชกค่ารักษาตัว เช่นนั้นข้าก็งานเข้ากันพอดี”ในยุคโบราณมีคนสูงอายุที่แกล้งบาดเจ็บเพื่อขู่รีดเงินหรือไม่ เฉินฝานก็ไม่แน่ใจ แล้วถ้าฉุกละหุกมีสิ่งนี้เกิดขึ้นจริงๆล่ะบัณฑิตมั่วรีบร้อนเก็บมือ เคารพนบนอบทำหน้าเหยเกให้เฉินฝานพลางกล่าว “ทำให้ใต้เท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 760

    เหอจื่อหลินมึนงงทันที “ยึดที่คืนงั้นหรือ? ที่ตรงไหนกัน?”เฉินฝานชี้ที่เท้าของตนเอง “ที่แห่งนี้งั้นหรือ?”“หมายความว่าเยี่ยงไร?”หลี่หงโห่วและหลี่ชางพูดขึ้นพร้อมกัน“หมายความเยี่ยงไร?” เฉินฝานกวาดสายตามองคนแซ่หลี่ทั้งสองอย่างเยือกเย็น “พวกเจ้ามิเข้าใจจริงๆงั้นหรือ?”“ข้าน้อยมิเข้าใจจริงๆ ใต้เท้าโปรดชี้ให้กระจ่าง” ถึงแม้น้ำเสียงของเฉินฝานจะอ่อนน้อม ทว่าท่าที่มิได้นอบน้อมตามเมื่อเห็นเฉินฝานเขาไม่ตื่นตกใจเหมือนหลี่ชาง เขาได้รับจดหมายจากเสิ่นหมิงหยวนก่อนแล้ว ทราบว่ามันสมองหลักของกองกำลังลาดตระเวนครั้งนี้คือเฉินฝานและทราบจุดจบในตอนท้ายของเฉินฝานและกองกำลังลาดตระเวนแล้ว“ท่านเจ้าเมืองหลี่ ที่ดินที่ข้าเหยียบย่ำอยู่ เอกสารทางการในตอนแรกให้สร้างสำนักบัณฑิตงั้นหรือ? ข้าอยากอ่านเอกสารนั้นตอนนี้ รีบไปเอามาให้ข้าดูเร็วเข้า”หลี่หงโหวกริยาท่าทางไม่ดี เฉินฝานก็มิเกรงใจ กล่าวถามออกไปทันที“ใต้...เท้า...” หลี่หงโหว่คาดไม่ถึงว่าเฉินฝานจะถามเรื่องนี้ เขาพูดไปพลางคิดมาตรการในการรับมือกับเฉินฝานไปพลาง “ตอนนี้กองกำลังเมืองเตียนตูจวนจะมาโจมตีเมืองหรงตูแล้ว ใต้เท้า ข้าน้อยเห็นว่า ใต้เท้าควรจะกลับ

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status