Share

บทที่ 744

Penulis: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
ของสีดำสิ่งนั้น ปลายหางยังมาพร้อมกับสิ่งสวยงาม…ดอกไม้ไฟ?

ทหารเตียนตูสามหมื่นกว่าคน ต่างเงยหน้าขึ้นชื่นชมดอกไม้ไฟอันสวยงามนี้

“ดอกไม้ไฟนี้สวยงามอย่างยิ่ง”

“ทำไมถึงจุดดอกไม้ไฟในเวลานี้? ทหารลาดตระเวนคิดจะหลอกล่อพวกเราหรือ? ให้พวกเราเบนความสนใจ พวกเขาจะได้จู่โจมง่ายขึ้น?”

“ทำตัวประหลาดหลอกล่อพวกเรา ให้เราเบนความสนใจ อย่าได้มองว่าเศษสวะพวกนั้นเก่งกาจนักเลย ข้ามองว่าเป็นสัญญาณของการยอมศิโรราบของพวกมันมากกว่ากระมัง?”

“ข้าว่าความคิดของเจ้าน่าเชื่อถือ เห็นหรือไม่ หอด้านบนประตูเมืองบนนั้นไม่มีใครเดินออกมาสักคน”

“ในเดิมทีพวกเขายังคิดจะหวังพึ่งพวกผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังพวกเรา ปรากฏว่าครั้นผู้หญิงเหล่านั้นออกมาก็ถูกพวกเรายิงตายทันที”

“หวังพึ่งผู้หญิง เป็นคนไร้ประโยชน์ทั้งสิ้นอย่างแท้จริง!”

ทหารเตียนตูจำนวนมากเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ แรกเริ่มมีเพียงความสงสัย ภายหลังกลายเป็นดูถูกเหยียดหยาม

ขณะเดียวกัน สิ่งของสีดำ ใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ

ค่อย ๆ เห็นชัดว่าของสีดำสิ่งนั้นคือสิ่งของใด?

โถสุรานับสิบขวดมัดไว้ด้วยกัน ดอกไม้ไฟที่พวกเขาเห็นเมื่อครู่นี้ คือผลลัพธ์ของเชือกเล็กตรงปลายโถสุราแต่ละอันที่ติด
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 745

    “กระจายตัว กระจายตัว!”หลีเทียนไม่สนใจไหล่ถูกลูกธนูยิง ยังสั่งให้กระจายตัวอย่างต่อเนื่อง“ยิงธนู!”ทหารเตียนตูใต้หอด้านบนประตูเมืองเริ่มกระจายตัว เหอกังออกคำสั่งให้พลยิงธนูยิงธนูทันทีเมื่อไม่มีโล่กำบัง ทหารเตียนตูภายใต้หอด้านบนประตูเมืองกลายเป็นเป้าหมายการยิงของพลธนูทหารลาดตระเวนไปโดยปริยายทหารเตียนตูอยากรวมตัวเข้าด้วยกัน คล้ายกับการใช้โล่คอยปกป้องดั่งเมื่อครู่นี้ ครั้นพวกเขารวมตัวกันเสร็จ กลับถูกฉินเย่ว์เจียวถล่มด้วยหน้าไม้ยิงแตกระเบิดหน้าไม้ยิงแตกระเบิดของฉินเย่ว์เจียว ห่าฝนลูกธนูจู่โจมของทหารลาดตระเวน สลับกันจู่โจม จนทหารเตียนตูข้างล่างหอด้านบนประตูเมืองถึงกับมึนหัวไม่รู้ทิศทางเสียงร้องโหยหวนดังไม่หยุด ทหารเตียนตูล้มลงราบเป็นหน้ากลอง“ถอยทัพ!”“ถอยทัพ!”หลีเทียนประกาศคำสั่งถอยทัพเขาอยากให้กองกำลังถอยห่างจากหอด้านบนประตูเมืองออกมาเล็กน้อย มายังสถานที่ที่ลูกธนูกับระเบิดยิงมาไม่ถึงหลังจากนั้น…โจวอวี่ผู้อยู่ไกล ๆ ได้พาทหารหญิงเข้าใกล้ทหารเตียนตูอย่างเงียบงัน ตั้งแต่หลีเทียนจะประกาศคำสั่งถอยทัพก่อนแล้วแท้จริงแล้ว หากหลีเทียนอดทนอีกเพียงครู่หนึ่ง ก็ไม่ถึงกับแหลกสลายต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 746

    เฉินฝานรู้สึกโล่งอกเช่นกันกลุ่มทหารผู้ดีกลุ่มนี้ได้กลายเป็นผู้กล้าอย่างแท้จริงแล้วเสียงตะโกนร้องของกองกำลังลาดตระเวน ดังต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน จวบจนชาวบ้านอำเภอบ้านเหออันยกอาหารมา จึงหยุดตะโกนเหอกังกำลังจะรายงานสถานการณ์สงครามให้กับเฉินฝาน“ท่านแม่ทัพ พวกเราไม่รีบร้อน ตอนนี้รับประทานอาหารก่อน รับประทานไปด้วยคุยไปด้วย”เฉินฝานลากเหอกังวิ่งไปโต๊ะอาหารที่ใกล้ที่สุดนับตั้งแต่เสี้ยววินาทีที่ออกจากเมืองหลวงครานั้น เฉินฝานก็ให้พ่อลูกตระกูลเหอและนายทหารอยู่กินร่วมกันตักข้าวเข้าปากหนึ่งคำ เหอกังทำเช่นไรก็อดกลั้นไว้ไม่อยู่ เขากล่าวอย่างฮึกเหิม “ใต้เท้า กองกำลังสามหมื่นคน ราบเป็นหน้ากองแล้ว กองกำลังข้าสูญเสียไปเพียงสามพันกว่าคนเท่านั้น”สามพันกว่าคน!เฉินฝานฟังแล้วรู้สึกโอดครวญอยู่ในใจตอนนี้ผู้ชายน้อยนิดเพียงนั้น ชั่วครู่เดียวก็หายวับไปสามพันคนทันที เป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่เชียวนะในยุคปัจจุบัน ในสถานการณ์การโจมตีกลับเช่นนี้ สูญเสียเกินห้าร้อยคน แม่ทัพผู้นั้นก็ต้องถูกกักขังแล้วทว่าเห็นเหอกังยินดีปรีดาเช่นนั้น เฉินฝานมิได้พูดอันใดกองกำลังลาดตระเวนสามารถต่อสู้ได้เช่นนี้ เกินควา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 747

    ยังไม่ทันถึงกระโจมค่ายของกองกำลังหญิง เฉินฝานก็สามารถมองเห็นกองกำลังหญิงรวมตัวกันอยู่ประตูทางเข้าค่ายจากที่ไกลๆ เขย่งเท้าชะเง้อคอรอคอยอย่างใจจดจ่อเหล่ากองกำลังหญิงจำเฉินฝานไม่ได้ ทว่าจำโจวอวี่ได้ ตอนที่พวกนางเห็นเฉินฝานที่เดินข้างกายโจวอวี่ ก็เข้าใจทันทีขุนนางที่หน้าตาขาวผ่อง สุภาพเรียบร้อยข้างกายท่านแม่ทัพโจวผู้นั้น ก็คือเฉินฝานที่มอบชีวิตที่สองให้กับพวกนาง ใต้เท้าเฉิน“ใต้เท้ามาแล้ว”“รีบจัดเรียงขบวนทัพให้เรียบร้อย!”ตอนที่เฉินฝานเดินเข้าไปในกระโจมค่าย กองกำลังหญิงหนึ่งพันห้าร้อยกว่าคน ก็ยืนตัวตรงเรียบร้อยแล้วกองกำลังหญิงเหล่านี้อายุยังน้อย ล้วนอายุเพียงสิบเจ็ดสิบแปดปีมองดูใบหน้าทุกคนที่แดงก่ำความสดใสของวัยแรกแย้ม เฉินฝานรู้สึกหดหู่ใจทันที หากเป็นยุคปัจจุบัน เด็กสาวเหล่านี้คงจะยังภายใต้การดูแลของพ่อแม่อย่างใกล้ชิด ใช้ชีวิตอย่างไร้ความกังวลทว่าเด็กสาวด้านหน้าเขาเหล่านี้ กลับเข้าสู่สนามรบแล้ว เมื่อครู่ก็ฆ่าฟันกับผู้ชายที่แข็งแกร่งกว่าพวกนางหลายเท่าในเหล่าพวกนาง ก็มีความจำนวนมากที่ลาลับโลกนี้ไปแล้วในใจหวนระลึกถึงเด็กสาวหนึ่งพันกว่าคนที่ล้มลงด้านนอกหอบนประตูเมือง เฉิ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 748

    ร่างเงาที่สูงใหญ่ตรงตระหง่านนั้น ยืนปะทะกับแรงลมไม่รู้ด้วยเหตุใดกัน เฉินฝานรู้สึกว่าร่างเงานั้นรู้สึกหงอยเหงาเศร้าสร้อยอย่างมากเฉินฝานกำลังจะถามว่านั้นคือผู้ใด ได้ยินคนพูดว่า “ท่านแม่ทัพใหญ่ ลมหนาวแล้ว พวกเราลงไปกันเถอะ”คำพูดเฉินฝานหยุดชะงักเล็กน้อยที่แท้ก็เป็นเหอกังเหอกังยกมือขึ้นมาเล็กน้อย สื่อความหมายให้องครักษ์ข้างกายลงจากหอบนประตูเมืองไปก่อนตอนที่องครักษ์หันกายลงจากหอบนประตูเมือง เห็นเฉินฝาน กำลังจะปริปากพูด เฉินฝานทำท่าไม่ให้เขาพูดลมยามค่ำคืนของเหมันตฤดู แหลมคมราวกับใบมีดเฉินฝานกระชับเสื้อผ้บนร่างตนเองให้แน่นขึ้น ก็ยังคงรู้สึกความเหน็บหนาวรุกล้ำเข้ามาสู่เรือนร่างอยู่ดีเหอกังที่อยู่ด้านข้างหอบนประตูเมือง กลับถอดหมวกบนศีรษะออกผมของเขาเป็นสีดอกเลาแล้ว เวลาที่ลมพัด ผมสีเงินสองสามเส้นสะท้อนแสงสีขาวเงินจากสัญญาณไฟแจ้งเหตุเฉินฝานตกใจเล็กน้อยเมื่อวาน ผมของเหอกังยังไม่ได้ขาวเพียงนี้ไยผ่านไปเพียงวันเดียว ผมก็ขาวจนเป็นเช่นนี้แล้วล่ะ?สายตาของเฉินฝาน จับจ้องไปที่ทิศทางเมืองฝูตูเป็นเวลานานไม่เคลื่อนย้ายไปที่อื่นโอ้...นี่จึงทำให้เฉินฝานนึกขึ้นได้เหอจื่อนำทหารห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 749

    นั่นคือขาคน—— หนึ่งข้าง!“โอ้...”เหอจื่อหลินนำขาคนในมือโยนไปบนพื้นทันที “ขานี้ เป็นของหลีเทียนคนชาติชั่วผู้นั้น!”ตอนที่หลีเทียนกำลังหลบหนีกลับเมืองฝูตู บังเอิญเจอกับเหอจื่อหลินที่กลับมาพอดี“หลีเทียน!” เหอกังตาเปล่งประกายทันที “หลินเอ๋อร์ เจ้าสังหารเขาแล้วงั้นหรือ?”“เจ้าชาติชั่วผู้นั้นดวงแข็ง ได้มาเพียงขาหนึ่งข้างเท่านั้น!” เหอจื่อหลินกล่าวด้วยความเสียดายเล็กน้อย“ขาหนึ่งข้าง ต่อให้เอาชีวิตเขามาไม่ได้ เขาก็ไร้ค่าแล้ว” เฉินฝานยิ้มพลางพูดหลีเทียนไม่สามารถลงสนามรบด้วยตนเอง ส่งผลดีกับพวกเขาอย่างมากหลังจากความเบิกบานใจที่ได้กลับมาพบกันผ่านไปแล้ว เหอจื่อหลินก็เริ่มรู้สึกเศร้าซึมคนที่กลับมากับเขามีเพียงยี่สิบสามสิบคน ท่ามกลางกลุ่มนี้ยังมีคนจำนวนมากที่เป็นทหารองครักษ์ประจำตัวที่ปกป้องเฉินฝานวินาทีที่เหอจื่อหลินกลับมา เฉินฝานและเหอกังก็สังเกตได้แล้ว ทว่าพวกเขามิได้พูดอันใด ตอนนี้เหอจื่อหลินเป็นฝ่ายพูดออกมาก่อน“ท่านพ่อ น้องฝาน ข้าทำให้กองกำลังห้ากลุ่มตายทั้งหมด เพื่อที่จะให้ข้าตีฝ่าวงล้อมมาได้พวกมั่วเซิน...ฮือ ๆ!”ลูกชายที่สูงเจ็ดฉื่อเยี่ยงเหอจื่อหลิน ชายชาตรีที่แข็งแกร่งกำย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 750

    เฉินฝานพยักหน้า “ข้ารู้ว่าเจ้าไม่พึ่งพาบุคคลใด เจ้าฝ่าวงล้อมมาด้วยตนเอง”เสี่ยวซื่อเป็นทหารระดับล่างที่สุดนายหนึ่ง เวลาที่สู้รบ เขาไม่สามารถไปอยู่ข้างกายเหอจื่อหลินได้อยู่แล้ว“ใต้เท้า ข้าพึ่งพาสิ่งหนึ่งหนีออกมา”เสี่ยวซื่อหยิบสิ่งของสิ่งหนึ่งออกมากระเป๋าอกเสื้ออย่างมีพิรุธเมื่อเฉินฝานเห็นแล้วก็รู้สึกสนุกทันที สิ่งของในมือของเสี่ยวซื่อเขาคุ้นเคยเป็นอย่างมากนี่คือสิ่งที่เขาเล่นตั้งแต่เด็กจนโต—— หนังสติ๊กมิใช่หรือ?ทว่าหนังสติ๊กในมือเสี่ยวซื่อชิ้นนี้ ใหญ่กว่าที่เฉินฝานเล่นตอนเด็กเล็กน้อย“หนังสติ๊กเล็กหนึ่งอัน อย่างมากก็สามารถยิงก้อนหินสองสามลูกได้ ยิงหินไปไม่กี่ลูกก็สามารถฝ่าฝูงชนที่ปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูออกมาได้ เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนโง่งั้นหรือ?”เมื่อพูดถึงตรงนี้ เฉินฝานปรับสีหน้าเคร่งขรึม “เจ้ารู้ใช่หรือไม่ปิดบังข้าจะพบกับจุดจบเยี่ยงไร?”ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าเสี่ยวซื่อมีโอกาสที่จะทรยศไม่มากนัก ทว่ารอบคอบไว้เสียหน่อยคงจะดีกว่าสองกองกำลังปะทะกัน โดยเฉพาะสถานการณ์ที่จำนวนศัตรูแตกต่างจากฝั่งเรามากมายเพียงนั้น หากในกองกำลังมีผู้ทรยศ เช่นนั้นช่างเป็นการโจมตีที่ถึงแก่ชีวิต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 751

    “ขอรับ ใต้เท้า!” เสี่ยวซื่อเหลือบมองเสาธงที่ห่างออกไป รับระเบิดมือจากมือเฉินฝานด้วยสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจผ่านไปครู่เดียว...“ตู้ม!”หลังจากเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างฉับพลัน ธงด้านนอกหอประตูเมืองก็มลายสิ้นไป“เจ้าหนุ่ม!” เฉินฝานตบไหล่เสี่ยวซื่อเบาๆ “เจ้าใช้ได้เลยนี่!”เจ้าหนุ่มนี่ฝีมือดีจริงๆ หากอยู่ในยุคปัจจุบัน ก็จะเป็นมือปืนซุ่มยิงที่มีความสามารถผู้หนึ่ง“ขอบคุณคำชื่นชมของใต้เท้า!”อย่างไรเสียเขาก็ยังเป็นเด็กน้อยอยู่ดี เฉินฝานพูดชื่นชมเช่นนั้น เสี่ยวซื่อยิ้มจนไม่เห็นฟันแล้ววันนี้สำหรับเฉินฝานแล้ว ช่างวันเป็นวันที่มีความสุขเรื่องดีๆเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเรื่องแรกคือกำจัดกองกำลังหลีเทียนสามหมื่นคนให้ราบคาบ ต่อด้วยเรื่องที่เหอจื่อหลินกลับมาได้อย่าปลอดภัย ตอนนี้ก็บังเอิญเจอเด็กตัวแสบที่มีความสามารถมาอีกหนึ่งคน-รุ่งสางยังมิมาถึง เฉินฝานก็ตื่นนอนแล้ว กองกำลังลาดตระเวนต้องเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองหรงตูไม่สามารถหยุดพักอยู่ที่เมืองเหออันได้นาน อ๋องเจิ้งหนานจะต้องออกคำสั่งให้เหยียนเชียงย้อนกลับมาเป็นแน่ไม่แน่ว่าตอนนี้กองกำลังหนึ่งแสนคนของเหยียนเชียง กำลังอยู่ในเส้นทางที

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 752

    “ใต้เท้า ตอนนี้ดินระเบิดทำได้ยาก ผนวกกับการที่ไม่สามารถให้เหล่าเจ้าเมืองหรงตูทราบ ทำได้ห้าพันลูก ใต้เท้าหลูและคนงานก็ทำงานอย่างมิได้พักผ่อนแล้วขอรับ”โจวอวี่อธิบายแทนหลูเฉิงกวงตอนนี้ดินระเบิดมือหาซื้อได้ยาก และยังต้องหลบเลี่ยงสายตาของคนกลุ่มนั้นของหลี่หงโหว่ ทำระเบิดมือได้มากมายเพียงนั้น หลูเฉิงกวงก็ลำบากมากแล้ว“ใต้เท้าโจว ท่านมิจำเป็นต้องอธิบายแทนข้าน้อย เป็นเพราะข้าน้อยไร้ความสามารถ” หลูเฉิงกวงก้มหน้ายอมรับผิดเฉินฝานกล่าว : “เรื่องนี้จะโทษเจ้าไม่ได้จริงๆ!”เมื่อครู่เห็นระเบิดมือน้อยเพียงนั้น ร้อนใจไปชั่วขณะ น้ำเสียงที่พูดจึงแข็งกระด้างเช่นนั้นระเบิดมือจะน้อยก็น้อยไปเถอะ มีจำนวนน้อยก็มีวิธีต่อสู้ในแบบของมันอยู่ในปีนั้นแคว้นเซี่ยโจมตีแคว้นแดนงาม ไม่มีเสบียง ไม่มีเสื้อผ้าฝ้าย ไม่มีกองกำลังสนับสนุนทางอากาศ ยังสามารถโจมตีจนแคว้นแดนงามต้องร่ำไห้ออกมากองกำลังลาดตระเวนและกองกำลังรักษาเมืองหรงตูก็จะสามารถทำได้แน่นอนเขาจะใช้ยุทธวิธีในยุคปัจจุบัน ตาต่อตาฟันต่อฟันกับอ๋องเจิ้งหนาน ดูว่าในท้ายที่สุดว่าใครจะเป็นผู้เก่งกาจที่แท้จริง?“นายกองหลู พาข้าไปดูกองกำลังรักษาเมืองของเจ้า”ใ

Bab terbaru

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status