Share

บทที่ 701

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update Last Updated: 2024-11-13 18:55:36
“พร้อมกันเช่นนั้นหรือ?”

ทุกคนต่างตกใจกับน้องสาวของเจ้าสาว

พวงแก้มของหญิงสาวแดงระเรื่อ

ท่านหญิงไม่เหมือนผู้อื่นจริงๆ

แม้พวกนางจะเป็นฝาแฝด แต่พร้อมกันเช่นนี้ ไม่กล้าคาดคิดจริงๆ

“ไม่คิดว่าท่านหญิงจะรุนแรงเช่นนี้!”

ฉินเย่ว์ฉู่วิ่งไปหลบด้านหลังฉินเย่ว์โหรวด้วยความเขินอาย

“ไม่ ไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิด แต่ว่า ว่า...”

ทุกคนทำให้ตกใจเช่นนั้น น้องเจ้าสาวตัวสั่นยิกๆ อยากอธิบาย ทว่าเพราะความเขินอาย จึงพูดติดอ่าง

พี่เจ้าสาวจับมือน้องสาว “ไม่เป็นไร พร้อมกันก็พร้อมกัน พี่อยู่เคียงข้างเจ้า”

นางคิดว่าน้องสาวหวาดกลัวคืนร่วมหอ ดังนั้นจึงปลอมนาง

“ไม่ใช่เช่นนั้นท่านพี่ ตอนออกมา ท่านแม่บอกข้าว่า ท่านให้หมอดูทำนายดวงชะตา หมอดูกล่าวว่าหากอยากให้ชีวิตของพวกเราในอนาคต เรียบง่าย ทุกอย่างราบรื่น ต้องเจอหน้านายท่านพร้อมกัน ไม่ใช่อย่างที่พวกท่านคิด เช่นนั้น เช่นนั้น...”

แม้ผ้าปิดหน้าเจ้าสาวจะปิดบังใบหน้าของเจ้าสาว แต่ด้วยน้ำเสียงอิดออดของนาง สามารถจินตนาการได้ว่าเวลานี้นางเขินอายเพียงใด

“นายท่าน!” หลิวหมัวมัวเดินไปตรงหน้าเฉินฝาน “ทำตามที่พระชายากล่าวก็แล้วกัน พวกท่านหญิงเป็นฝาแฝด ทั้งคู่เกิดวันเวลาเดียวก
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 702

    เหลวไหลนี่เป็นการคลุมถุงชนอย่างแท้จริง อีกฝ่ายสวยหรือไม่ เขาไม่รู้แม้แต่น้อยเขาไม่ตื่นเต้นน่ะสิแปลกผ้าคลุมเจ้าสาวร่วงหล่นลงพื้นหากเปิดแล้วภาพที่เห็นคือหญิงงามสองคน ถือเป็นเรื่องน่ายินดี หากเปิดแล้วเป็นหญิงอัปลักษณ์ เขาจะทำอย่างไร?ควรจะกินหรือไม่กินแล้วเขาก็ทรมานไม่กินเขาก็ทรมานด้วยนิสัยของตวนชินอ๋อง ต้องไล่ตามเขาทุกวัน ตั้งแต่หน้าตลาดไปจนท้ายตลาด ตั้งแต่จวนไปถึงวังหลวง ให้เขารีบเข้าหอกับลูกสาวของเขาภาพนั้นเพียงแค่คิด ก็ทำให้หนาวเย็นยิ่งนัก“ฟู่!”เฉินฝานสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อีกครั้ง หัวเราะเยาะตนเองเล็กน้อยให้ตายสิเฉินฝาน เจ้ากลัวอะไรของเจ้าในฐานะทหารหน่วยพิเศษ เมื่อครั้นอยู่ในยุคปัจจุบันไม่เคยพบเจอเหตุการณ์ใดบ้าง จะกลัวผู้หญิงโบราณสองคนได้อย่างไรหากเปิดแล้วเป็นหญิงอัปลักษณ์สองคน เช่นนั้นก็กลายเป็นยันต์มังกรไล่ผีเฉินฝานวางไม้เปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวทั้งสองไว้ใต้ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวทั้งสอง ปิดตา แล้วรีบเปิดผ้าคลุมเจ้าสาวทั้งสองร่วงหล่นลงพื้นเฉินฝานสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยลืมตาเขาจะมองเจ้าสาวของเขาเอ่อ...เจ้าสาวดูหวาดกลัวยิ่งกว่าเขา หลังจากเปิดผ้าคลุม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 703

    ตั้งแต่เล็ก พวกนางถูกพร่ำสอนให้เชื่อฟังสามีแม้เฉินฝานจะเคลื่อนไม้เปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวไปแล้ว ทว่าพวกนางยังคงไม่กล้าพูดอะไร“เยี่ยม!” เฉินฝานวางไม้เปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวลง พยายามพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่สุด “พวกท่านไม่ต้องเขินอาย ยิ่งไม่ต้องกลัวข้า นับจากนี้พวกเราคือครอบครัวเดียวกัน เข้าใจไหม?”“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”เสียงของท่านหญิงทั้งสองคนราวกับเสียงยุง หลังจากตอบเฉินฝานเสร็จก็รีบก้มหน้าลงทันทีหัวใจของพวกนางเต้นแรงไม่หยุดทั้งเขินอายที่จะสบตากับเฉินฝาน ทั้งสงสัยใคร่รู้ในตัวเฉินฝานสองพี่น้องเงยหน้าขึ้นแอบมองเฉินฝานเป็นครั้งคราว หลังจากเฉินฝานจับได้ ก็รีบก้มหน้าลงความเขินอายต่างๆ ความคิดต่างๆบุรุษตรงหน้าคือสามีของพวกนางเขาแตกต่างจากคุณชายตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงผิวขาว ทว่าไม่ดูอ่อนยวบเหมือนคุณชายเหล่านั้นแววตาของเขาลุ่มลึก ให้ความรู้สึกเข้มแข็งมองแล้วมีความสุขุม เสียงอ่อนโยนไพเราะอย่างมาก คำพูดคำจาก็เปี่ยมล้นด้วยมารยาทนับตั้งแต่พวกนางเข้าพิธีปักปิ่น ท่านแม่ก็เคยพร่ำบ่นเสมอสตรีเลือกบุรุษ จงจำให้ดีอย่ามองเพียงรูปร่างภายนอก ยิ่งไม่ต้องให้ความสำคัญกับความร่ำรวยของบุรุษ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 704

    “แล้วพวกท่านจะทำหรือไม่?” เฉินฝานย้อนถาม“แน่นอนว่าข้าย่อมไม่มีทางทำ!” สองพี่น้องพูดขึ้นพร้อมกัน“เช่นนั้นก็สิ้นเรื่องแล้วไม่ใช่หรือ?”“ไม่สั่งสอนก็ได้เจ้าค่ะ!” หลิวหมัวมัวพูดความคิดของเฉินฝานไม่เหมือนคนทั่วไป หลิวหมัวมัวเคยชินแล้ว“นายท่าน ท่านรีบแลกดื่มกับเจ้าสาวทั้งสองเถอะเจ้าค่ะ มิเช่นนั้นจะล่วงเลยฤกษ์ยามแล้ว”หลิวหมัวมัวให้เฉินฝานนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างฉินฮวาและฉินเหนียน ทั้งสามคล้องแขนแลกกันดื่ม“ขอให้คู่บ่าวสาว ครองรักกันยืนยาว รักกันตลอดไป มีลูกมีหลานในเร็ววัน!”หลิวหมัวมัวมัดชายเสื้อของทั้งสามคนเข้าด้วยกัน แล้วออกไปห้องหอตกสู่ความเงียบทั้งสามคนในห้องนั่งเงียบ ความตื่นเต้นแผ่ซ่านไปทั่วห้องหอหลังจากนี้ เป็นพิธีสำคัญที่สุดของคืนเข้าหอให้สตรีข้างกายทั้งสองคนเป็นฝ่ายพูด นั่นย่อมเป็นไปไม่ได้“เอ่อ...”เฉินฝานเพิ่งพูด ฉินฮวาที่นั่งอยู่ทางฝั่งขวายืนขึ้น “ข้าเป็นพี่ ควรยอมน้องสาว นายท่าน ให้เหนียนเอ๋อร์ปรนนิบัติก่อนเจ้าค่ะ”พูดจบ แก้ชายเสื้อตนเองแล้ววิ่งออกไป“ท่านพี่!”ฉินเหนียนแก้ชายเสื้อแล้ววิ่งไล่ตามไป“ข้าเป็นน้องสาว มีอย่างที่ไหนให้น้องสาวเริ่มก่อนพี่สาว”“

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 705

    ตอนที่เด็กน้อยยังไม่ได้ดื่มสุรา มีความเป็นกุลสตรี หลังจากดื่มสุราแล้วนั้น กลายเป็นคนที่มีความกล้าเพียงครู่หนึ่ง ก็นั่งบนตักเขาแล้ว“ก่อนออกเรือน ท่านแม่ให้อาหมัวมาอบรมสั่งสอน อาหมัวกล่าวว่า ช่วยสามีถอดอาภรณ์ สิ่งแรกที่ต้องทำ ก็คือ...”เฉินฝานรู้สึกเพียงระหว่างเอวหลวม เข็มขัดของเขาถูกฉินฮวาดึงออกมา เฉินฝานส่ายหน้าพร้อมกับยิ้ม มองไม่ออกจริงๆ มือเรียวบางขาวดั่งหยก จะมีเรี่ยวแรงมากเช่นนี้“หลังจากนั้นก็คือ...”พวงแก้มแดงระเรื่อสีน้ำเมาแดงของฉินฮวา ขยับแนบชิดเฉินฝานไม่หยุด มือทั้งสองจับกระดุมเสื้อของเฉินฝาน ออกแรงจนเหน็ดเหนื่อย ก็ไม่อาจปลดกระดุมได้“นายท่าน กระดุมของนายท่านทำจากเหล็กหรือ? จึงปลดยากเช่นนี้?” ดวงตาฉินฮวาฉายความเมามาย เบิกกว้างมองเฉินฝานดุเหมือนเด็กน้อย มองแล้วน่ารักยิ่งนัก ความน่ารักนี้เคล้าไปด้วยความเย้ายวนเฉินฝานจับแก้มฉินฮวาเบาๆ “ปลดอย่างตรงไหน เจ้าดื่มเยอะต่างหาก...”เสียงครืดดังขึ้น ขัดคำพูดของเฉินฝานฉินฮวาฉีกชุดแต่งงานที่นางสวมใส่แล้ว ร่างบางเหลือเพียงเสื้อชั้นในปักลายนกเป็ดน้ำคู่หนึ่งช่วยบดบังเฉินฝานสูดลมหายใจเข้าลึกๆดูไม่ออกจริงๆ ดูไม่ออกจริงๆเรือน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 706

    “อ๋องเจิ้นหนานก่อกบฏเช่นนั้นหรือ?” ฉินเย่ว์เหมยตกใจจนแทบลุกจากบัลลังก์มังกรภายในตำหนัก มีเสียงสูดลมหายใจดังขึ้นเป็นพักๆทหารเตียนตูของอ๋องเจิ้นหนาน ความสามารถเป็นรองเพียงกองทัพหมาป่าของเพ่ยจี้ อ๋องเจิ้นหนานก่อกบฏ เช่นนั้นต้าชิ่งวุ่นวายทั้งภายในและภายนอก ตกอยู่ในความเสี่ยงเพ่ยจี้อยู่แดนเหนือต้านทานชาวหู ไม่อาจแยกตัวไปรบกับอ๋องเจิ้นหนานเมืองเตียนตูได้“ฝ่าบาท ตอนนี้อ๋องเจิ้นหนานยึดเมืองฝูตูได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ กำลังมุ่งหน้าไปเมืองหรงตู!”“ยึดเมืองฝูตูได้แล้ว! เตรียมบุกหรงตู?” เสิ่นหมิงหยวนร้องตะโกนเสียงดัง กอดหยกสมปรารถนาโค้งตัวลงกล่าว “ฝ่าบาท สถานการณ์สงครามในเวลานี้ไม่อาจประมาทได้ ต้องรีบส่งทหารฝ่ายหน้าไปตั้งรับพ่ะย่ะค่ะ”“ขุนนางที่รับ!”สายตาของฉินเย่ว์เหมยมองไปยังขุนนางฝ่ายบู๊ในตำหนัก “มีผู้ใดยินดีต่อสู้กับอ๋องเจิ้นหนานหรือไม่?”“...” ภายในตำหนักเงียบสงัด ไม่มีเสียงตอบรับเวลานี้ในแคว้นต้าชิ่งชายมากหญิงน้อย นอกจากเพ่ยจี้แล้ว ทหารที่เหลือไม่มีผู้ใดมีความสามารถมากพอในการต้านทานอ๋องเจิ้นหนาน“ฝ่าบาท!”เสิ่นหมิงหยวนส่งเสียงอีกครั้ง “กระหม่อมขอเสนอเหอกังเจอ เหอจื่อหลินทหารสองนายน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 707

    “พวกท่านสองพ่อลูกไม่ต้องแย่งกัน เสิ่นหมิงหยวนเสนอชื่อพวกท่านทั้งสองในท้องพระโรง ไม่ว่าพวกท่านคนใดอยากอยู่ในเมืองหลวงก็ไม่อาจเป็นไปได้” เฉินฝานพูด“เสิ่นหมิงหยวนอยากโค่นล้างตระกูลเหอของพวกข้า!” เหอกังกำหมัดแน่น สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความแค้น“กล่าวอย่างถูกต้องคือ เสิ่นหมิงหยวนอยากฆ่าพวกเราทั้งหมด ตราบใดที่พวกเราไม่แปรพักตร์ไปอยู่กับพวกเขา พวกเขาก็ไม่มีทางปล่อยพวกเรา ดังนั้น...”เฉินฝานพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “พวกเราไม่อาจโอดครวญ พวกเราต้องรักษาชีวิตของตนเอง และต้องกำจัดอ๋องเจิ้นหนานทิ้ง”“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์เหมยยังคงมีสีหน้ากังวล “กำจัดอ๋องเจิ้นหนานเป็นเรื่องยาก ค่ายลาดตระเวนนั่น...”แม้ปฐมจักรพรรดิจะลดจำนวนทหารเตียนตูไปมากแล้ว ทว่ายังมีมากถึงห้าหมื่นนายอ๋องเจิ้นหนานเป็นคนโหดเหี้ยม ยามเขาฝึกทหาร เทียนไม่เห็นทหารเป็นคนภายใต้การฝึกหนักของอ๋องเจิ้นหนาน ทหารเตียนตูแต่ละคนราวกับพยัคฆ์ร้าย โหดเหี้ยมอย่างมากค่ายลาดตระเวนของเหอจื่อหลิน แม้จะมีห้าหมื่นคนเช่นเดียวกัน แต่โดยมากล้วนเป็นบุรุษที่มาจากตระกูลใหญ่ บวกกับเสิ่นหยวนฮวาไม่รู้วิธีฝึกทหาร เวลานี้ทหารห้าหมื่นนายในค่ายลาดตระเวน นอกจากรังแ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 708

    “ตนรอใต้เท้าอยู่ก็พูดตามตรง เหตุใดต้องอ้างฮองเฮาด้วย!”หงอิงวิ่งออกไป เพราะว่า...“ปึ้ง!”แท่นบดหมึก ถูกโยนไปตำแหน่งที่หงอิงยืนเมื่อครู่ห่างจากเข้าวังหลวงรอบก่อน ประมาณสิบวันแล้วไม่เจอกันสิบวัน เสิ่นไต้มั่นราวกับหญ้าแห้งในไร่ เมื่อเฉินฝานมา ก็ระดมจูบกอดทางด้านฉินเย่ว์เหมยและขันทีผู้ดูแลกลับไม่สนใจ ปล่อยให้เสิ่นไต้มั่นอยู่กับเฉินฝานจนถึงเช้าตรู่ กว่าเฉินฝานจะได้ออกมาจากตำหนักฮองเฮา“ล่วงเลยยามจื่อแล้ว ไม่สะดวกออกจากวังหลวงแล้ว วันนี้เจ้าอยู่พระตำหนักไท่เหอแล้วกัน!”กลับถึงพระตำหนักไท่เหอ ฉินเย่ว์เหมยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา แล้วเดินเข้าไปในตำหนักถอดชุดนางกำนัลออกนี่มันเรื่องอะไรเฉินฝานยืนฉงนอยู่ที่เดิม ไม่ให้เขาออกจากวังหลวงเช่นนั้นหรือ?หลายครั้งก่อนตอนเข้าเฝ้าเหอเสียนเฟย ก็อยู่จนถึงดึก แต่ฉินเย่ว์เหมยยังคงหาวิธีออกจากวังหลวงให้เขาได้ตอนออกมา เห็นเฉินฝานยืนอยู่ที่เดิม จึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เหตุใดจึงยืนอยู่ข้างนอก ไม่เข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้า”“เฮ้อ เข้าใจแล้ว!” เฉินฝานเบ้ปาก รีบวิ่งเข้าไปในตำหนักตำหนักด้านใน ฉินเย่ว์เหมยไม่ให้เข้ามานานแล้วเมื่อเข้ามาด้านในตำหนัก เฉิ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 709

    “นี่คือจานบินโลหิต นี่คือเกาทัณฑ์แขนเสื้อดอกเหมย นี่คือขนนกยูงมรกต...”กลัวเฉินฝานใช้ไม่เป็น ฉินเย่ว์เหมยจึงเริ่มสอนรอบที่สอง“พอได้แล้ว!” เฉินฝานคว้าข้อมือของฉินเย่ว์เหมย ดึงตัวนางมาข้างกาย “หยุดพูดได้แล้ว ดึกมากแล้ว รีบพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ฝ่าบาทยังต้องเข้าท้องพระโรงแต่เช้า”เฉินฝานอยากอุ้มฉินเย่ว์เหมยไปที่เตียงเดินทางทะลุมิติมาตั้งนาน เขายังไม่เคยนอนกอดภรรยาหลวงคนนี้มาก่อนผลสุดท้ายเฉินฝานเพิ่งอุ้มฉินเย่ว์เหมยเข้าไปในผ้าห่มไม่นาน นางก็ดึงสติกลับมา“คนบ้า!”ฉินเย่ว์เหมยจ้องไปที่แผงอกกว้างของเฉินฝาน แล้วเตะหนึ่งที“อั๊ยโย๊ว!”เฉินฝานเอามือป้องหน้าอก แกล้งทำเป็นเจ็บปวด “ท่านคิดอยากจะลอบสังหารสามีตนเองจริงๆ หรือ เจ็บยิ่งนัก!”“ระมัดระวังคำพูด สามีอะไร ข้าบอกอีกรอบ ข้าไม่มีวันแต่งงานกับใคร!”“ว้าว ท่านแต่งเข้าตระกูลเฉิน คิดไม่ถึงว่าหลังจากได้กันแล้วก็จะไม่รับผิดชอบ ผู้หญิงใจร้าย!”เฉินฝานบิดพลิ้ว คำพูดของเขาทำให้ฉินเย่ว์เหมยเขินอายยิ่งนัก “ข้าไม่รับผิดชอบตอนไหน ตอนนั้นข้าแต่งเข้าตระกูลเจ้า ทว่าพวกเราไม่ได้ ไม่ได้ร่วมหอกันเสียหน่อย!”“แม้ไม่ได้ร่วมหอท่านก็เป็นคนของข้า แต่ตอนน

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status