เฉินฝานที่รับการฝึกฝนมาแล้วไม่ใช่ว่าไม่สามารถดิ้นหลุดออกมาได้ ทว่าเขาพบว่าคนที่จับตัวเขาไป เป็นคนของจวนตวนซินอ๋องเฉินฝานพึมพำอยู่ในใจผู้เฒ่าคนนั้นคงจะไม่ใช่เพราะทายตัวเลขแพ้ ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ จึงลักพาตัวเขามากหรอกกระมังรู้เช่นนี้ เขาจะยอมอ่อนข้อให้เขาเสียหน่อยวันนี้มีความสุข ลืมคำนึงถึงความคิดของผู้เฒ่านั้นไปชั่วคราวเฮ้อพูดไปแล้วเฉินฝานรู้สึกว่าผู้เฒ่าต้าชิ่งนี้รับใช้ยากเกินไปแล้วเฉินฝานถูกหามเข้าไปในห้องหนังสือของตวนซินอ๋อง“ไอ้หยา พวกเจ้าทำอะไรกันเนี่ย ข้าให้พวกเจ้าไปเชิญมาดีๆ ไยใช้กระสอบใส่มา”คนเหล่านี้นำเฉินฝานออกมาจากกระสอบ ตวนซินอ๋องรีบวิ่งเข้ามาทันที ตำหนิทหารประจำจวนที่จับเฉินฝานเสียงดังไปพลาง ก้มตัวคิดจะพยุงเฉินฝานเฉินฝานปัดมือของตวนซินอ๋องออก “อย่าทำเป็นเสแสร้ง ข้าไม่ใช่คนโง่เสียหน่อย เจ้าไม่ออกคำสั่งเช่นนี้ พวกเขาจะกล้างั้นรึ?”ตวนซินอ๋องที่ถูกมองออกหัวเราะฮี่ๆเล็กน้อยเฉินฝานลุกขึ้น ไม่กล่าวทักทายตวนซินอ๋อง มุ่งตรงไปหาที่นั่งทันทีตวนซินอ๋องเดินตามหลังเฉินฝานอย่างเชื่อฟัง พยักหน้าและโค้งคำนับ คนใช้ด้านข้างยังไม่ชำนาญ ถูกเขาใช้มือเขกหัว “ตาบอดหร
“ข้า...”ตวนซินอ๋องรู้สึกเขินอายขึ้นมาทันที “ไม่ได้มีเพียงแค่พี่น้องเยียนอวี่ที่ยังไม่ได้ออกเรือน...”ขณะที่พูด ตวนซินอ๋องก็กางนิ้วขึ้นมา “ข้ามีลูกสาวทั้งหมดสามสิบแปดคน มีสิบห้าคนที่ยังไม่ได้ออกเรือน”ที่ต้าชิ่ง ในครอบครัวมีลูกสาวมากมายที่ยังไม่ได้ออกเรือน จะถูกผู้อื่นหัวเราะเยาะดังนั้น ตวนซินอ๋องจึงป่าวประกาศไปทั่วว่าตนเองมีเพียงลูกสาวสองคนที่ยังไม่ได้แต่งงานผู้ชายน้อย ท่านหญิงครอบครัวท่านอ๋องก็ออกเรือนยากเช่นกันเลวหรือจนเกินไป ตวนซินอ๋องและพระชายาตัดใจให้พวกนางแต่งงานไม่ลง ผู้ชายที่ยอดเยี่ยมก็น้อยเกินไปอีกดังนั้น ตวนซินอ๋องกังวลใจเป็นอย่างมากชายหนุ่มที่ยอดเยี่ยมอย่างเฉินฝานเช่นนี้ปรากฏตัวต่อหน้าเขา เขาจะพลาดได้เช่นไรหากไม่กลัวว่าเฉินฝานจะปฏิเสธ เขายังคิดที่ยัดให้เฉินฝานสิบกว่าคน“ฝาแฝดอีกคู่นั้นเจ้าไม่ต้องการก็ไม่เป็นไร ข้าให้พระชายานัวบุตรสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานทั้งหมดออกมา ให้เจ้าดูทั้งหมดครั้งหนึ่ง ชื่นชอบก็นำกลับบ้านไป อย่างน้อยต้องเลือกสักสองคน แน่นอนว่า...”ตวนซินอ๋องยิ้มตาหยี “ถ้าเจ้าชื่นชอบทั้งหมด ข้าจะมีความสุขมากขึ้น”ระหว่างที่พูด ตวนซินอ๋องก็ตะโกนเรียกพระช
“ตกลงตามนี้ ทุกอย่างราบรื่นก็ดีแล้ว วันนี้เจ้าก็พาลูกสาวสองคนของข้ากลับไป เจ้าพักผ่อนที่นี่ครู่หนึ่ง ข้าจะไปหาหวังเฟยให้นางจัดการเดี๋ยวนี้”ระหว่างที่พูด ตวนซินอ๋องก้าวเท้าออกจากห้องหนังสือ“ท่านอ๋อง...”“ข้ารู้!” ตวนซินอ๋องหันหน้ากลับมา “เจ้ารังเกียจที่เยียนเอ๋อร์อวี่เอ๋อร์อายุน้อย วางใจเถอะ ข้าไม่ได้เจ้าแต่งงานกับพวกนาง เจ้าจะแต่งงานกับเหล่าพี่สาวของเยียนเอ๋อร์อวี่เอ๋อร์ คู่นั้นก็เป็นฝาแฝดเช่นกัน”ตอนที่ตวนซินอ๋องจากไป ยังไม่ลืมที่จะให้องครักษ์จับตาดูเฉินฝานเอาไว้กล่าวโดยสรุป เฉินฝานคิดจะหนีก็ไร้ซึ่งหนทางให้เฉินฝานแต่งงานกับลูกสาวตนเอง ตวนซินอ๋องวางแผนไว้นานแล้วเขาออกไปครู่เดียว หวังเฟยก็นำชุดแต่งงานเข้ามาชุดแต่งงานพอดีตัวอย่างมาก ขนาดไม่ผิดเพี้ยนแม้แต่น้อยหากกล่าวตวนซินอ๋องไม่ได้วางแผนมานาน ก็คงไม่มีใครเชื่อตอนที่เฉินฝานสวมชุดแต่งงาน เดินนำสองเจ้าสาวคนใหม่ และเหล่าสินเดิมที่สุดลูกหูลูกตาด้านหลังเขา ทุกคนตกตะลึงกันหมดทุกคนมาร่ำสุรา ไยเฉินฝาจึงแตกต่างจากพวกเขากันล่ะพวกเขามาอย่างไร ก็กลับไปเช่นนั้นทว่าเฉินฝานได้แต่งงานกับท่านหญิงทันที และยังแต่งทีเดียวสองคนหลี
“พร้อมกันเช่นนั้นหรือ?”ทุกคนต่างตกใจกับน้องสาวของเจ้าสาวพวงแก้มของหญิงสาวแดงระเรื่อท่านหญิงไม่เหมือนผู้อื่นจริงๆแม้พวกนางจะเป็นฝาแฝด แต่พร้อมกันเช่นนี้ ไม่กล้าคาดคิดจริงๆ“ไม่คิดว่าท่านหญิงจะรุนแรงเช่นนี้!”ฉินเย่ว์ฉู่วิ่งไปหลบด้านหลังฉินเย่ว์โหรวด้วยความเขินอาย“ไม่ ไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิด แต่ว่า ว่า...”ทุกคนทำให้ตกใจเช่นนั้น น้องเจ้าสาวตัวสั่นยิกๆ อยากอธิบาย ทว่าเพราะความเขินอาย จึงพูดติดอ่างพี่เจ้าสาวจับมือน้องสาว “ไม่เป็นไร พร้อมกันก็พร้อมกัน พี่อยู่เคียงข้างเจ้า”นางคิดว่าน้องสาวหวาดกลัวคืนร่วมหอ ดังนั้นจึงปลอมนาง“ไม่ใช่เช่นนั้นท่านพี่ ตอนออกมา ท่านแม่บอกข้าว่า ท่านให้หมอดูทำนายดวงชะตา หมอดูกล่าวว่าหากอยากให้ชีวิตของพวกเราในอนาคต เรียบง่าย ทุกอย่างราบรื่น ต้องเจอหน้านายท่านพร้อมกัน ไม่ใช่อย่างที่พวกท่านคิด เช่นนั้น เช่นนั้น...”แม้ผ้าปิดหน้าเจ้าสาวจะปิดบังใบหน้าของเจ้าสาว แต่ด้วยน้ำเสียงอิดออดของนาง สามารถจินตนาการได้ว่าเวลานี้นางเขินอายเพียงใด“นายท่าน!” หลิวหมัวมัวเดินไปตรงหน้าเฉินฝาน “ทำตามที่พระชายากล่าวก็แล้วกัน พวกท่านหญิงเป็นฝาแฝด ทั้งคู่เกิดวันเวลาเดียวก
เหลวไหลนี่เป็นการคลุมถุงชนอย่างแท้จริง อีกฝ่ายสวยหรือไม่ เขาไม่รู้แม้แต่น้อยเขาไม่ตื่นเต้นน่ะสิแปลกผ้าคลุมเจ้าสาวร่วงหล่นลงพื้นหากเปิดแล้วภาพที่เห็นคือหญิงงามสองคน ถือเป็นเรื่องน่ายินดี หากเปิดแล้วเป็นหญิงอัปลักษณ์ เขาจะทำอย่างไร?ควรจะกินหรือไม่กินแล้วเขาก็ทรมานไม่กินเขาก็ทรมานด้วยนิสัยของตวนชินอ๋อง ต้องไล่ตามเขาทุกวัน ตั้งแต่หน้าตลาดไปจนท้ายตลาด ตั้งแต่จวนไปถึงวังหลวง ให้เขารีบเข้าหอกับลูกสาวของเขาภาพนั้นเพียงแค่คิด ก็ทำให้หนาวเย็นยิ่งนัก“ฟู่!”เฉินฝานสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อีกครั้ง หัวเราะเยาะตนเองเล็กน้อยให้ตายสิเฉินฝาน เจ้ากลัวอะไรของเจ้าในฐานะทหารหน่วยพิเศษ เมื่อครั้นอยู่ในยุคปัจจุบันไม่เคยพบเจอเหตุการณ์ใดบ้าง จะกลัวผู้หญิงโบราณสองคนได้อย่างไรหากเปิดแล้วเป็นหญิงอัปลักษณ์สองคน เช่นนั้นก็กลายเป็นยันต์มังกรไล่ผีเฉินฝานวางไม้เปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวทั้งสองไว้ใต้ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวทั้งสอง ปิดตา แล้วรีบเปิดผ้าคลุมเจ้าสาวทั้งสองร่วงหล่นลงพื้นเฉินฝานสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยลืมตาเขาจะมองเจ้าสาวของเขาเอ่อ...เจ้าสาวดูหวาดกลัวยิ่งกว่าเขา หลังจากเปิดผ้าคลุม
ตั้งแต่เล็ก พวกนางถูกพร่ำสอนให้เชื่อฟังสามีแม้เฉินฝานจะเคลื่อนไม้เปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวไปแล้ว ทว่าพวกนางยังคงไม่กล้าพูดอะไร“เยี่ยม!” เฉินฝานวางไม้เปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวลง พยายามพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่สุด “พวกท่านไม่ต้องเขินอาย ยิ่งไม่ต้องกลัวข้า นับจากนี้พวกเราคือครอบครัวเดียวกัน เข้าใจไหม?”“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”เสียงของท่านหญิงทั้งสองคนราวกับเสียงยุง หลังจากตอบเฉินฝานเสร็จก็รีบก้มหน้าลงทันทีหัวใจของพวกนางเต้นแรงไม่หยุดทั้งเขินอายที่จะสบตากับเฉินฝาน ทั้งสงสัยใคร่รู้ในตัวเฉินฝานสองพี่น้องเงยหน้าขึ้นแอบมองเฉินฝานเป็นครั้งคราว หลังจากเฉินฝานจับได้ ก็รีบก้มหน้าลงความเขินอายต่างๆ ความคิดต่างๆบุรุษตรงหน้าคือสามีของพวกนางเขาแตกต่างจากคุณชายตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงผิวขาว ทว่าไม่ดูอ่อนยวบเหมือนคุณชายเหล่านั้นแววตาของเขาลุ่มลึก ให้ความรู้สึกเข้มแข็งมองแล้วมีความสุขุม เสียงอ่อนโยนไพเราะอย่างมาก คำพูดคำจาก็เปี่ยมล้นด้วยมารยาทนับตั้งแต่พวกนางเข้าพิธีปักปิ่น ท่านแม่ก็เคยพร่ำบ่นเสมอสตรีเลือกบุรุษ จงจำให้ดีอย่ามองเพียงรูปร่างภายนอก ยิ่งไม่ต้องให้ความสำคัญกับความร่ำรวยของบุรุษ
“แล้วพวกท่านจะทำหรือไม่?” เฉินฝานย้อนถาม“แน่นอนว่าข้าย่อมไม่มีทางทำ!” สองพี่น้องพูดขึ้นพร้อมกัน“เช่นนั้นก็สิ้นเรื่องแล้วไม่ใช่หรือ?”“ไม่สั่งสอนก็ได้เจ้าค่ะ!” หลิวหมัวมัวพูดความคิดของเฉินฝานไม่เหมือนคนทั่วไป หลิวหมัวมัวเคยชินแล้ว“นายท่าน ท่านรีบแลกดื่มกับเจ้าสาวทั้งสองเถอะเจ้าค่ะ มิเช่นนั้นจะล่วงเลยฤกษ์ยามแล้ว”หลิวหมัวมัวให้เฉินฝานนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างฉินฮวาและฉินเหนียน ทั้งสามคล้องแขนแลกกันดื่ม“ขอให้คู่บ่าวสาว ครองรักกันยืนยาว รักกันตลอดไป มีลูกมีหลานในเร็ววัน!”หลิวหมัวมัวมัดชายเสื้อของทั้งสามคนเข้าด้วยกัน แล้วออกไปห้องหอตกสู่ความเงียบทั้งสามคนในห้องนั่งเงียบ ความตื่นเต้นแผ่ซ่านไปทั่วห้องหอหลังจากนี้ เป็นพิธีสำคัญที่สุดของคืนเข้าหอให้สตรีข้างกายทั้งสองคนเป็นฝ่ายพูด นั่นย่อมเป็นไปไม่ได้“เอ่อ...”เฉินฝานเพิ่งพูด ฉินฮวาที่นั่งอยู่ทางฝั่งขวายืนขึ้น “ข้าเป็นพี่ ควรยอมน้องสาว นายท่าน ให้เหนียนเอ๋อร์ปรนนิบัติก่อนเจ้าค่ะ”พูดจบ แก้ชายเสื้อตนเองแล้ววิ่งออกไป“ท่านพี่!”ฉินเหนียนแก้ชายเสื้อแล้ววิ่งไล่ตามไป“ข้าเป็นน้องสาว มีอย่างที่ไหนให้น้องสาวเริ่มก่อนพี่สาว”“
ตอนที่เด็กน้อยยังไม่ได้ดื่มสุรา มีความเป็นกุลสตรี หลังจากดื่มสุราแล้วนั้น กลายเป็นคนที่มีความกล้าเพียงครู่หนึ่ง ก็นั่งบนตักเขาแล้ว“ก่อนออกเรือน ท่านแม่ให้อาหมัวมาอบรมสั่งสอน อาหมัวกล่าวว่า ช่วยสามีถอดอาภรณ์ สิ่งแรกที่ต้องทำ ก็คือ...”เฉินฝานรู้สึกเพียงระหว่างเอวหลวม เข็มขัดของเขาถูกฉินฮวาดึงออกมา เฉินฝานส่ายหน้าพร้อมกับยิ้ม มองไม่ออกจริงๆ มือเรียวบางขาวดั่งหยก จะมีเรี่ยวแรงมากเช่นนี้“หลังจากนั้นก็คือ...”พวงแก้มแดงระเรื่อสีน้ำเมาแดงของฉินฮวา ขยับแนบชิดเฉินฝานไม่หยุด มือทั้งสองจับกระดุมเสื้อของเฉินฝาน ออกแรงจนเหน็ดเหนื่อย ก็ไม่อาจปลดกระดุมได้“นายท่าน กระดุมของนายท่านทำจากเหล็กหรือ? จึงปลดยากเช่นนี้?” ดวงตาฉินฮวาฉายความเมามาย เบิกกว้างมองเฉินฝานดุเหมือนเด็กน้อย มองแล้วน่ารักยิ่งนัก ความน่ารักนี้เคล้าไปด้วยความเย้ายวนเฉินฝานจับแก้มฉินฮวาเบาๆ “ปลดอย่างตรงไหน เจ้าดื่มเยอะต่างหาก...”เสียงครืดดังขึ้น ขัดคำพูดของเฉินฝานฉินฮวาฉีกชุดแต่งงานที่นางสวมใส่แล้ว ร่างบางเหลือเพียงเสื้อชั้นในปักลายนกเป็ดน้ำคู่หนึ่งช่วยบดบังเฉินฝานสูดลมหายใจเข้าลึกๆดูไม่ออกจริงๆ ดูไม่ออกจริงๆเรือน
เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ
เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั
“ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม
เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน
เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข
ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่
“สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ
“ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล
ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ