แชร์

บทที่ 648

ผู้แต่ง: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-01 18:00:03
ตัวของเริ่นอวี่เฟยสั่นเทา “กระหม่อม กระหม่อม...”

“ณ แดนเหนือ กองทัพหมาป่ากำลังต่อสู้กับชาวหูที่พยายามลุกล้ำ อากาศหนาวเย็น กองทัพหมาป่ามีความต้องการเสื้อผ้าฝ้ายและกางเกงผ้าฝ้ายโดยด่วน แต่เจ้ากลับฉวยโอกาสนี้ พาพ่อค้าชาวหูมากว้านซื้อดอกฝ้ายของแคว้นเรา”

“พูดมา! เจ้าร่วมมือกับศัตรูหรือไม่?”

สิ้นเสียงของฉินเย่ว์เหมย บรรดาพ่อค้ารีบพูดทันที “ฝ่าบาท เขาต้องร่วมมือกับศัตรูแน่นอนพ่ะค่ะย่ะ ตอนพ่อค้าชาวหูมากว้านซื้อ ไม่เพียงกว้านซื้อดอกฝ้ายในคลัง แม้กระทั่งดอกฝ้ายในไร่ที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวพวกเขาก็ซื้อ อย่าว่าแต่เมล็ดฝ้าย แม้กระทั่งเปลือกฝ้ายก็ไม่หักลบพ่ะย่ะค่ะ”

“พวกกระหม่อมยังสงสัย ไม่หักลบแม้กระทั่งเมล็ดและเปลือกฝ้าย ทั้งยังซื้อในราคาแพง เขาต้องอยากให้กองทัพหมาป่าหนาวตายแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ เขาคือกบฏชั่วพ่ะย่ะค่ะ”

“ฝ่าบาท!” เหอกังเดินออกมาจากแถวของขุนนาง “กองทัพหมาป่าคือกำลังสำคัญของแคว้น ผู้บ่อนทำลาย ควรถูกลงโทษด้วยการทัณฑ์พาหนะแยกร่างพ่ะย่ะค่ะ!”

“กระหม่อม กระหม่อม...”

คำว่าทัณฑ์พาหนะแยกร่าง

ทำให้เริ่นอวี่เฟยเหงื่อแตก ขยับลิ้นอยู่นานก็ไม่อาจทำให้ตรงได้

เขาใช้สายตาอ้อนวอนขอความช่วยเหลือกับหลิ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 649

    เขาเพิ่งได้รับใบสั่งซื้อของราชสำนักจากหลินชาง กำลังนั่งนับเงินในบ้านอย่างมีความสุข สตรีเกรี้ยวกราดคนหนึ่ง ยกธนูขึ้นบุกรุกเข้ามาในบ้านของเขา“ฮ่องเต้ต้าชิ่ง ท่านเป็นใบ้หรือ ฮ่าๆ !” เริ่นอวี่เฟยหยุดด่าฉินเย่ว์เหมยแล้ว เขาชี้ไปทางขุนนางทั้งหลายแล้วหัวเราะเยาะ “คิดไม่ถึงว่าฮ่องเต้ต้าชิ่งของพวกเจ้า จะเป็นใบ้”ฉินเย่ว์เหมยโมโหมากหงอิงก็หงุดหงิดมากเหตุใดนางจึงประมาทเช่นนี้ ไม่ค้นตัวเริ่นอวี่เฟยให้ละเอียด ไม่รู้แม้กระทั่งว่าเขาพกป้ายชื่อติดตัว“หลี่ชิ่ง!” เสิ่นหมิงหยวนพูดแล้ว “เอาตัวพ่อค้าชาวหูคนนี้...”“ช้าก่อน!”เฉินฝานแหวกจากวงขุนนางที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขา ค่อยๆ เดินไปด้านหน้าเขาหยุดลงตรงหน้าเริ่นอวี่เฟย พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ “อยากตาย?”“ใช่!” เริ่นอวี่เฟยเชิดหน้าขึ้น “อยากตาย เจ้าคือคนที่จะฆ่าข้าหรือ?”เฉินฝานพยักหน้า “แน่นอน แต่ว่า...” ตอนเฉินฝานเดินผ่านเริ่นอวี่เฟย เขาพูดเสียงแผ่วเบา “อยากมีชีวิตรอดหรือไม่?”เริ่นอวี่เฟยชะงักครู่หนึ่งในระยะเวลาสั้นๆ ถ้อยคำนี้ เขาได้ยินมาสองครั้งแล้วเฉินฝานไม่รอเขาตอบ พูดเสียงเบา ‘อยากมีชีวิตรอด ก็ต้องกัดให้แน่น’พูดจบ เฉินฝานเดินผ่านเขา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 650

    “หลินชาง!”เสิ่นหมิงหยวนเดินไปทางหลินชาง“ใต้เท้า!” ราวกับคนจมน้ำ เจอขอนไม้ช่วยชีวิต หลินชางจับเสิ่นหมิงหยวน “ข้ารู้ดีว่า ท่านต้องช่วยข้า...”“ฉึบ!”เสิ่นหมิงหยวนคว้าดาบของหลี่ชิ่ง แล้วแทงลึกเข้าไปในหัวใจของหลินชาง...“แย่แล้ว!”หงอิงพุ่งตัวไป แต่ก็สายไปแล้วเสียงพู่ดังขึ้น ดาบในมือของเสิ่นหมิงหยวนแทงลึกเข้าไปในหัวใจของหลินชางแล้ว“ใต้เท้า ท่าน ท่าน เพราะเหตุใด...”หลินชางเบิกตากว้าง สีหน้าของเขาเปี่ยมไปด้วยความเหลือเชื่อนอกจากลูกชายของตนแล้ว คนที่เสิ่นหมิงหยวนเชื่อใจที่สุด ให้ความสำคัญที่สุดก็คือเขา เหตุใดเสิ่นหมิงหยวนจึงใจร้ายเช่นนี้“เพราะอะไร? คนชั่วที่หักหลังแคว้นร่วมมือกับศัตรู สมควรตาย!”มือที่ถือดาบของเสิ่นหมิงหยวน ออกแรงมากขึ้น“เมิ่นหมิงหยวน เจ้า...”“ตึ้ง!”หลินชางล้มลงบนพื้น กระทั่งตาย ดวงตาคู่นั้นยังคงจับจ้องเสินหมิงหยวนทุกคนล้วนดูออกหลินชางตายตาไม่รับขณะที่ทุกคนพุ่งความสนใจไปยังเสิ่นหมิงหยวนและหลินชางเสิ่นหยวนฮวาก็คว้าดาบฟันไปที่เริ่นอวี่เฟยครั้งนี้หงอิงหยุดเอาไว้ได้ทัน แต่นางเพิ่งก้าวเท้าออกไปก็ถูกเฉินฝานห้ามไว้แล้วแม้เริ่นอวี่เฟยจะมีหลักฐานมา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 651

    “ส่วนเสิ่นตู้สื่อนั้น รับราชการอยู่ที่กรมคลังมาหลายปี ที่สำคัญตระกูลฝั่งแม่ของแม่ของเสิ่นตู้สื่อคือตระกูลหลี่ที่ทำค้าขายใหญ่ที่สุดของแคว้นเรา เสิ่นตู้สื่อเรียนรู้การแลกเปลี่ยนค้าขายกับน้าชายของเขาตั้งแต่เด็ก มีรากฐานที่มั่นคง ดังนั้น เสิ่นตู้สื่อเหมาะสมที่จะเป็นเลขาธิการกรมพระคลังมากกว่าเฉินซื่อหลาง”“กระหม่อมเห็นด้วย เสิ่นตู้สื่อเหมาะสมที่จะเป็นซื่อหลางกรมพระคลังมากกว่า”“กระหม่อมเห็นด้วย!”“กระหม่อมก็เห็นด้วย!”เสียงเห็นด้วย ดังขึ้น ๆ ลง ๆ ภายในท้องพระโรงเฉินฝานทอดสายตามองไป คนที่ไม่เอ่ยเสียงเห็นด้วยไม่เกินสิบคนภายใต้ความกดดันจากเหล่าขุนนาง ฉินเย่ว์เหมยไม่สามารถบังคับให้เฉินฝานรับตำแหน่งฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ของแคว้นต้าชิ่งเคยออกกฎไว้ว่า ขุนนางระดับชั้นสามขึ้นไป ต้องได้รับการเห็นชอบจากขุนนางชั้นผู้ใหญ่จำนวนครึ่งหนึ่งขึ้นไปเท่านั้นเป็นกฎที่ดีมาก หากตอนนี้ครอบครัวของเสิ่นหมิงหยวนไม่ใช่ครอบครัวเดียวที่มีอำนาจในราชสำนักทุกวันนี้เสิ่นหมิงหยวนหลอกใช้กฎข้อนี้ ต้องการให้ใครรับราชการตำแหน่งใด ก็ให้ผู้นั้นเข้ามารับราชการตำแหน่งนั้น“เสิ่นหมิงหยวนใช้วิธีการชั่วร้ายเช่นนี้ทุกครั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 652

    “ท่านพี่ ท่านพ่อพูดถูก ตอนนั้นลากเหอจื่อหลินจากขุนพลกุยเต๋อระดับชั้นสามลงมา แล้วเปลี่ยนเป็นพี่รับตำแหน่งแทน ฉินหย่งคังไม่ได้ใช้วิธีนี้เหมือนกันหรือ? แล้วมีประโยชน์หรือไม่? สุดท้ายพี่ก็ได้ตำแหน่งขุนพลกุยเต๋อมาเหมือนกัน”พอพูดจบ เสิ่นหยวนเลี่ยงเชิดหน้าเดินออกไปเขาเริ่มฝึกท่าทางการเดินของเลขาธิการลับ ๆเลขาธิการ ขุนนางระดับชั้นสอง ตำแหน่งรองจากอัครเสนาบดีเพียงหนึ่งระดับเท่านั้นมีความสง่าน่าเกรงขามตั้งเท่าไหร่!หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จไม่นาน หลี่เต๋อฉวนก็ส่งข่าวไปจวนเสิ่นวันนี้หลังจากว่าราชกิจเสร็จ ฉินเย่ว์เหมยเรียกเฉินฝานมาที่ตำหนักไท่เหอ จากนั้นไม่นาน ฉินเย่ว์เหมยก็ออกคำสั่งให้ปล่อยตัวตวนชินอ๋องที่เฝ้าสุสานหลวงกลับเข้ามา“ให้ตวนชินอ๋องกลับมา? คนขี้เมาหยำเปนั่น จะหน่วงเหนี่ยวน้องเลี่ยงเป็นเลขาธิการกรมพระคลังได้?”“นี่เป็นข้อเสนอของใครกัน? คงไม่ใช่เฉินฝานไอ้อ่อน/หัดนั่นหรอกกระมัง!”“ฮ่า ๆ!” เสิ่นหยวนฮวาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง“เมื่อเช้า ท่านพ่อพูดถูก หมาแมวตามซอกมุม มีความสามารถเพียงเท่านั้นแหละ เสนอให้มาอยู่ใต้ชายคาของเรา ถือว่าเป็นความผิดของลูกเองจริง ๆ”-การว่าราชกิจในเช้าวั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 653

    สิ่งที่ปรากฏตัวตรงประตูพระตำหนักจินหลวนคือ…ผู้ชายกลุ่มหนึ่งศีรษะสวมมงกุฎดอกไม้ ห่มกายด้วยผ้าแพร แต่งตัวมีสง่าราคาแพงพอเห็นผู้ชายกลุ่มนี้ เหล่าขุนนางในท้องพระโรงไม่มีใครไม่แสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยามผู้ชายเหล่านี้บนตัวมีแต่ของราคาแพง แต่กลับไม่มีสง่าราศีแต่ละคนถ้าไม่ใช่กลิ่นเหล้าเหม็นคลุ้ง ก็แป้งชาดฟุ้งสำลักจมูก บางคนกระทั่งมีลูกเต๋าในมือคนเหล่านี้มาจากร้านอาหาร หรือไม่ก็มาจากสำนักหอนางโลม หรือไม่ก็มาจากโรงบ่อนเสิ่นหมิงหยวนยิ้มเหยียดหยาม เขายกมือคารวะตวนชิงอ๋องที่มีกลิ่นเหล้าหึ่งสะท้านฟ้าอีกคน “ลำบากท่านอ๋องจริง ๆ ก่อนเดินทางมาที่นี่คงไปมาแล้วหลายแห่ง”ตวนชินอ๋องหรี่ตาครึ่งดวงตาแล้วชำเลืองมองเสิ่นหมิงหยวน “หยุดพูดจาเหลวไหลเถอะ เมื่อครู่นี้พวกเจ้ามีคนเยอะไม่ใช่รึ? ตอนนี้ฝั่งไหนมีคนมากกว่าก็ยังไม่รู้ พวกเราต่างก็คิดว่าเฉินฝานมีความสามารถที่จะดำรงตำแหน่งเลขาธิการกรมพระคลังมากกว่า”“ใช่ พวกเราสนับสนุนเฉินฝาน”ผู้ชายเหล่านั้นตะโกนตามหลังตวนชินอ๋อง แต่ว่าแต่ละคนมีลมกลับไม่มีกำลัง ซึ่งแตกต่างจากเสียงที่ดังสนั่นก้องอย่างพร้อมเพรียงของบริวารเสิ่นหมิงหยวนเมื่อครู่นี้ราวกับฟ้ากับเหว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 654

    เสิ่นหมิงหยวนทำหน้าบึ้งตึง ลังเลครู่หนึ่งแล้วยกเท้าขึ้น“อืม แบบนี้สิถึงถูกต้อง!”ตอนที่ตวนชินอ๋องไม่ออกเสียงยังดีหน่อย พอพูดออกเสียง ร่างกายของเสิ่นหมิงหยวนก็เริ่มสั่นแขวน เขาดึงหลิวเกาจัวมาอยู่ข้าง ๆ เพื่อพิงและหลีกเลี่ยงการล้มหลิวเกาจัวไม่ได้สบายแบบนั้น เดิมทียืนขาข้างเดียวก็ลำบากมากแล้ว ตอนนี้ยังต้องเป็นที่พิงให้กับเสิ่นหมิงหยวนอีกเมื่อมองเสิ่นหมิงหยวนกับหลิวเกาจัวที่สั่นไหวไม่หยุด ใบหน้าของตวนชินอ๋องเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่พอใจ“หลี่เต๋อฉวน!”เสิ่นหมิงหยวนแผดเสียงโมโห “ยังไม่รีบสั่งให้คนของเจ้ามานับอีก?”“อ่อ ๆ ๆ!”หลี่เต๋อฉวนรีบหันตัวเข้าหาขุนนางจำนวนนับไม่ถ้วนที่ยืนขาเดียวกระโดดไปมา เป็นสภาพการณ์ที่น่าขำมากเมื่อครู่นี้เขาอดไม่ไหวเลยหันกลับไปหัวเราะ“หลี่เต๋อฉวน ข้าไม่เชื่อใจคนของเจ้า เจ้าไปนับเอง นับให้ดี ๆ ถ้าเจ้ากล้านับผิด ข้าจะตัดหัวเจ้าให้ขาดในคราเดียว!”ตวนชินอ๋องแผดเสียงดังลั่น หลี่เต๋อฉวนถึงกระทั่งอกสั่นขวัญแขวนตวนชินอ๋องผู้นี้มีอุปนิสัยโหดเหี้ยม มักฆ่าคนและอ้างว่าเพราะความเมาคนที่เขาฆ่าไม่ใช่ขันทีก็เป็นนางกำนัลในวัง แม้ว่าได้รับการตำหนิลงโทษ แต่ท้ายที่สุดก็

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 655

    เสิ่นหมิงหยวนขยับมุมปากแฝงยิ้ม “ท่านอ๋อง ข้าวกินมั่วได้ คำพูดพูดมั่วไม่ได้ รัชทายาทหรงชอบดื่มเหล้า ในเมืองหลวงมีใครไม่รู้บ้าง?”“ฮึ่ม!” ตวนชินอ๋องคำรามไม่พอใจ “รัชทายาทหรงชอบดื่มเหล้าไม่ผิด แต่เขาไม่เคยเข้ามาพระราชวัง ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนนำทาง เขาจะหาห้องเครื่องเจอในเวลาสั้นเท่านี้ได้รึ?”“เฮ้อ ตวนชินอ๋อง ท่านพูดเช่นนี้ก็ไม่ถูก” รอยยิ้มมุมปากของเสิ่นหมิงหยวนชัดขึ้นกว่าเดิม “ข้าน้อยได้ยินว่าคนชอบดื่มเหล้าสามารถได้กลิ่นเหล้าแม้อยู่ห่างออกไปหนึ่งลี้ ทั้งยังหาตำแหน่งของเหล้าได้อย่างรวดเร็ว”คำพูดในประโยคตอนท้าย เสิ่นหมิงหยวนจ้องตวนชินอ๋องไม่ขยับไปไหนได้กลิ่นเหล้าแม้อยู่ห่างออกไปหนึ่งลี้ ทั้งยังหาตำแหน่งของเหล้าได้อย่างรวดเร็วไม่ใช่คำพูดที่เสิ่นหมิงหยวนคิดเอง แต่เป็นการกระทำของตวนชินอ๋องเป็นตำนานที่พลเมืองแคว้นต้าชิ่งมักพูดถึงหลังอาหารเย็นรัชทายาทหรงย่อมไม่มีความสามารถนั้น ตวนชินอ๋องพาสมาชิกราชวงศ์กลุ่มนั้นเข้ามาไม่นาน เสิ่นหมิงหยวนก็ส่งหลี่ชิ่งไปหลอกล่อรัชทายาทหรงด้วยอาหารและสุราชั้นดีนี่คือเหตุผลว่าทำไมตอนหลังเสิ่นหมิงหยวนตอบตกลงตวนชินอ๋องอย่างเฉียบขาด ให้สมาชิกราชวงศ์เหล่านั้น

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 656

    สายตาทุกคู่ในท้องพระโรงรวมกันที่ตัวเฉินฝาน“ความจริง ยอมแพ้ตั้งแต่แรกก็ดีเหมือนกัน!”เมื่อเห็นเฉินฝานไม่ตอบโต้ทันที เสิ่นหยวนฮวาขยายรูจมูกสูง ทำตัวอยู่เหนือกว่าและพูดจาย่ามใจ “ได้ดำรงตำแหน่งซื่อหลางกรมพระคลัง ถือว่ามีควันออกมาจากหลุมศพบรรพบุรุษ[footnoteRef:1] แล้ว” [1: มีควันออกมาจากหลุมศพบรรพบุรุษ มีที่มาจากผู้นับถือลัทธิเต๋ามีความเชื่อว่าคนตายแล้วจะกลายเป็นเซียน ร่างกายจะสลายเป็นเหมือนควันบางๆ เปรียบเปรยว่า เกิดเรื่องที่น่ายินดีมากแต่ก็สามารถนำมาใช้ในการเสียดสีหรือด่าทอได้] คำพูดนี้ เป็นคำพูดที่กระตุ้นเฉินฝาน อีกทั้งยังเป็นคำพูดที่ไม่เห็นเฉินฝานอยู่ในสายตาคนบ้านนอก ไอ้เศษสวะที่เจ้าทำสำเร็จสองสามครั้งก่อนหน้านี้ เพราะโชคขี้หมา ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะโชคดีขนาดนั้นทุกครั้งกลุ่มขุนนางด้านข้างเสิ่นหยวนฮวา พากันพยักหน้าไม่มีใครเชื่อว่า เฉินฝานจะชนะเสิ่นหยวนเลี่ยงได้ครอบครัวฝ่ายหญิงของแม่ของเสิ่นหยวนเลี่ยง มีความเกี่ยวเนื่องทางการค้าที่กว้างใหญ่เกินไปฉินเย่ว์เหมยส่ายหน้าเหมือนกัน ให้สัญญาณกับเฉินฝานว่าห้ามตกลงถ้าไม่ตกลง แล้วยืนยันเลือกวิธีลงคะแนนเสียง เฉินฝานยังมีโอกาสช

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status