Share

บทที่ 650

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“หลินชาง!”

เสิ่นหมิงหยวนเดินไปทางหลินชาง

“ใต้เท้า!” ราวกับคนจมน้ำ เจอขอนไม้ช่วยชีวิต หลินชางจับเสิ่นหมิงหยวน “ข้ารู้ดีว่า ท่านต้องช่วยข้า...”

“ฉึบ!”

เสิ่นหมิงหยวนคว้าดาบของหลี่ชิ่ง แล้วแทงลึกเข้าไปในหัวใจของหลินชาง...

“แย่แล้ว!”

หงอิงพุ่งตัวไป แต่ก็สายไปแล้ว

เสียงพู่ดังขึ้น ดาบในมือของเสิ่นหมิงหยวนแทงลึกเข้าไปในหัวใจของหลินชางแล้ว

“ใต้เท้า ท่าน ท่าน เพราะเหตุใด...”

หลินชางเบิกตากว้าง สีหน้าของเขาเปี่ยมไปด้วยความเหลือเชื่อ

นอกจากลูกชายของตนแล้ว คนที่เสิ่นหมิงหยวนเชื่อใจที่สุด ให้ความสำคัญที่สุดก็คือเขา เหตุใดเสิ่นหมิงหยวนจึงใจร้ายเช่นนี้

“เพราะอะไร? คนชั่วที่หักหลังแคว้นร่วมมือกับศัตรู สมควรตาย!”

มือที่ถือดาบของเสิ่นหมิงหยวน ออกแรงมากขึ้น

“เมิ่นหมิงหยวน เจ้า...”

“ตึ้ง!”

หลินชางล้มลงบนพื้น กระทั่งตาย ดวงตาคู่นั้นยังคงจับจ้องเสินหมิงหยวน

ทุกคนล้วนดูออก

หลินชางตายตาไม่รับ

ขณะที่ทุกคนพุ่งความสนใจไปยังเสิ่นหมิงหยวนและหลินชาง

เสิ่นหยวนฮวาก็คว้าดาบฟันไปที่เริ่นอวี่เฟย

ครั้งนี้หงอิงหยุดเอาไว้ได้ทัน แต่นางเพิ่งก้าวเท้าออกไปก็ถูกเฉินฝานห้ามไว้แล้ว

แม้เริ่นอวี่เฟยจะมีหลักฐานมา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Suradej Boonlue
แย่มาก...ปล่อยปละละเลย...
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 651

    “ส่วนเสิ่นตู้สื่อนั้น รับราชการอยู่ที่กรมคลังมาหลายปี ที่สำคัญตระกูลฝั่งแม่ของแม่ของเสิ่นตู้สื่อคือตระกูลหลี่ที่ทำค้าขายใหญ่ที่สุดของแคว้นเรา เสิ่นตู้สื่อเรียนรู้การแลกเปลี่ยนค้าขายกับน้าชายของเขาตั้งแต่เด็ก มีรากฐานที่มั่นคง ดังนั้น เสิ่นตู้สื่อเหมาะสมที่จะเป็นเลขาธิการกรมพระคลังมากกว่าเฉินซื่อหลาง”“กระหม่อมเห็นด้วย เสิ่นตู้สื่อเหมาะสมที่จะเป็นซื่อหลางกรมพระคลังมากกว่า”“กระหม่อมเห็นด้วย!”“กระหม่อมก็เห็นด้วย!”เสียงเห็นด้วย ดังขึ้น ๆ ลง ๆ ภายในท้องพระโรงเฉินฝานทอดสายตามองไป คนที่ไม่เอ่ยเสียงเห็นด้วยไม่เกินสิบคนภายใต้ความกดดันจากเหล่าขุนนาง ฉินเย่ว์เหมยไม่สามารถบังคับให้เฉินฝานรับตำแหน่งฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ของแคว้นต้าชิ่งเคยออกกฎไว้ว่า ขุนนางระดับชั้นสามขึ้นไป ต้องได้รับการเห็นชอบจากขุนนางชั้นผู้ใหญ่จำนวนครึ่งหนึ่งขึ้นไปเท่านั้นเป็นกฎที่ดีมาก หากตอนนี้ครอบครัวของเสิ่นหมิงหยวนไม่ใช่ครอบครัวเดียวที่มีอำนาจในราชสำนักทุกวันนี้เสิ่นหมิงหยวนหลอกใช้กฎข้อนี้ ต้องการให้ใครรับราชการตำแหน่งใด ก็ให้ผู้นั้นเข้ามารับราชการตำแหน่งนั้น“เสิ่นหมิงหยวนใช้วิธีการชั่วร้ายเช่นนี้ทุกครั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 652

    “ท่านพี่ ท่านพ่อพูดถูก ตอนนั้นลากเหอจื่อหลินจากขุนพลกุยเต๋อระดับชั้นสามลงมา แล้วเปลี่ยนเป็นพี่รับตำแหน่งแทน ฉินหย่งคังไม่ได้ใช้วิธีนี้เหมือนกันหรือ? แล้วมีประโยชน์หรือไม่? สุดท้ายพี่ก็ได้ตำแหน่งขุนพลกุยเต๋อมาเหมือนกัน”พอพูดจบ เสิ่นหยวนเลี่ยงเชิดหน้าเดินออกไปเขาเริ่มฝึกท่าทางการเดินของเลขาธิการลับ ๆเลขาธิการ ขุนนางระดับชั้นสอง ตำแหน่งรองจากอัครเสนาบดีเพียงหนึ่งระดับเท่านั้นมีความสง่าน่าเกรงขามตั้งเท่าไหร่!หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จไม่นาน หลี่เต๋อฉวนก็ส่งข่าวไปจวนเสิ่นวันนี้หลังจากว่าราชกิจเสร็จ ฉินเย่ว์เหมยเรียกเฉินฝานมาที่ตำหนักไท่เหอ จากนั้นไม่นาน ฉินเย่ว์เหมยก็ออกคำสั่งให้ปล่อยตัวตวนชินอ๋องที่เฝ้าสุสานหลวงกลับเข้ามา“ให้ตวนชินอ๋องกลับมา? คนขี้เมาหยำเปนั่น จะหน่วงเหนี่ยวน้องเลี่ยงเป็นเลขาธิการกรมพระคลังได้?”“นี่เป็นข้อเสนอของใครกัน? คงไม่ใช่เฉินฝานไอ้อ่อน/หัดนั่นหรอกกระมัง!”“ฮ่า ๆ!” เสิ่นหยวนฮวาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง“เมื่อเช้า ท่านพ่อพูดถูก หมาแมวตามซอกมุม มีความสามารถเพียงเท่านั้นแหละ เสนอให้มาอยู่ใต้ชายคาของเรา ถือว่าเป็นความผิดของลูกเองจริง ๆ”-การว่าราชกิจในเช้าวั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 653

    สิ่งที่ปรากฏตัวตรงประตูพระตำหนักจินหลวนคือ…ผู้ชายกลุ่มหนึ่งศีรษะสวมมงกุฎดอกไม้ ห่มกายด้วยผ้าแพร แต่งตัวมีสง่าราคาแพงพอเห็นผู้ชายกลุ่มนี้ เหล่าขุนนางในท้องพระโรงไม่มีใครไม่แสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยามผู้ชายเหล่านี้บนตัวมีแต่ของราคาแพง แต่กลับไม่มีสง่าราศีแต่ละคนถ้าไม่ใช่กลิ่นเหล้าเหม็นคลุ้ง ก็แป้งชาดฟุ้งสำลักจมูก บางคนกระทั่งมีลูกเต๋าในมือคนเหล่านี้มาจากร้านอาหาร หรือไม่ก็มาจากสำนักหอนางโลม หรือไม่ก็มาจากโรงบ่อนเสิ่นหมิงหยวนยิ้มเหยียดหยาม เขายกมือคารวะตวนชิงอ๋องที่มีกลิ่นเหล้าหึ่งสะท้านฟ้าอีกคน “ลำบากท่านอ๋องจริง ๆ ก่อนเดินทางมาที่นี่คงไปมาแล้วหลายแห่ง”ตวนชินอ๋องหรี่ตาครึ่งดวงตาแล้วชำเลืองมองเสิ่นหมิงหยวน “หยุดพูดจาเหลวไหลเถอะ เมื่อครู่นี้พวกเจ้ามีคนเยอะไม่ใช่รึ? ตอนนี้ฝั่งไหนมีคนมากกว่าก็ยังไม่รู้ พวกเราต่างก็คิดว่าเฉินฝานมีความสามารถที่จะดำรงตำแหน่งเลขาธิการกรมพระคลังมากกว่า”“ใช่ พวกเราสนับสนุนเฉินฝาน”ผู้ชายเหล่านั้นตะโกนตามหลังตวนชินอ๋อง แต่ว่าแต่ละคนมีลมกลับไม่มีกำลัง ซึ่งแตกต่างจากเสียงที่ดังสนั่นก้องอย่างพร้อมเพรียงของบริวารเสิ่นหมิงหยวนเมื่อครู่นี้ราวกับฟ้ากับเหว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 654

    เสิ่นหมิงหยวนทำหน้าบึ้งตึง ลังเลครู่หนึ่งแล้วยกเท้าขึ้น“อืม แบบนี้สิถึงถูกต้อง!”ตอนที่ตวนชินอ๋องไม่ออกเสียงยังดีหน่อย พอพูดออกเสียง ร่างกายของเสิ่นหมิงหยวนก็เริ่มสั่นแขวน เขาดึงหลิวเกาจัวมาอยู่ข้าง ๆ เพื่อพิงและหลีกเลี่ยงการล้มหลิวเกาจัวไม่ได้สบายแบบนั้น เดิมทียืนขาข้างเดียวก็ลำบากมากแล้ว ตอนนี้ยังต้องเป็นที่พิงให้กับเสิ่นหมิงหยวนอีกเมื่อมองเสิ่นหมิงหยวนกับหลิวเกาจัวที่สั่นไหวไม่หยุด ใบหน้าของตวนชินอ๋องเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่พอใจ“หลี่เต๋อฉวน!”เสิ่นหมิงหยวนแผดเสียงโมโห “ยังไม่รีบสั่งให้คนของเจ้ามานับอีก?”“อ่อ ๆ ๆ!”หลี่เต๋อฉวนรีบหันตัวเข้าหาขุนนางจำนวนนับไม่ถ้วนที่ยืนขาเดียวกระโดดไปมา เป็นสภาพการณ์ที่น่าขำมากเมื่อครู่นี้เขาอดไม่ไหวเลยหันกลับไปหัวเราะ“หลี่เต๋อฉวน ข้าไม่เชื่อใจคนของเจ้า เจ้าไปนับเอง นับให้ดี ๆ ถ้าเจ้ากล้านับผิด ข้าจะตัดหัวเจ้าให้ขาดในคราเดียว!”ตวนชินอ๋องแผดเสียงดังลั่น หลี่เต๋อฉวนถึงกระทั่งอกสั่นขวัญแขวนตวนชินอ๋องผู้นี้มีอุปนิสัยโหดเหี้ยม มักฆ่าคนและอ้างว่าเพราะความเมาคนที่เขาฆ่าไม่ใช่ขันทีก็เป็นนางกำนัลในวัง แม้ว่าได้รับการตำหนิลงโทษ แต่ท้ายที่สุดก็

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 655

    เสิ่นหมิงหยวนขยับมุมปากแฝงยิ้ม “ท่านอ๋อง ข้าวกินมั่วได้ คำพูดพูดมั่วไม่ได้ รัชทายาทหรงชอบดื่มเหล้า ในเมืองหลวงมีใครไม่รู้บ้าง?”“ฮึ่ม!” ตวนชินอ๋องคำรามไม่พอใจ “รัชทายาทหรงชอบดื่มเหล้าไม่ผิด แต่เขาไม่เคยเข้ามาพระราชวัง ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนนำทาง เขาจะหาห้องเครื่องเจอในเวลาสั้นเท่านี้ได้รึ?”“เฮ้อ ตวนชินอ๋อง ท่านพูดเช่นนี้ก็ไม่ถูก” รอยยิ้มมุมปากของเสิ่นหมิงหยวนชัดขึ้นกว่าเดิม “ข้าน้อยได้ยินว่าคนชอบดื่มเหล้าสามารถได้กลิ่นเหล้าแม้อยู่ห่างออกไปหนึ่งลี้ ทั้งยังหาตำแหน่งของเหล้าได้อย่างรวดเร็ว”คำพูดในประโยคตอนท้าย เสิ่นหมิงหยวนจ้องตวนชินอ๋องไม่ขยับไปไหนได้กลิ่นเหล้าแม้อยู่ห่างออกไปหนึ่งลี้ ทั้งยังหาตำแหน่งของเหล้าได้อย่างรวดเร็วไม่ใช่คำพูดที่เสิ่นหมิงหยวนคิดเอง แต่เป็นการกระทำของตวนชินอ๋องเป็นตำนานที่พลเมืองแคว้นต้าชิ่งมักพูดถึงหลังอาหารเย็นรัชทายาทหรงย่อมไม่มีความสามารถนั้น ตวนชินอ๋องพาสมาชิกราชวงศ์กลุ่มนั้นเข้ามาไม่นาน เสิ่นหมิงหยวนก็ส่งหลี่ชิ่งไปหลอกล่อรัชทายาทหรงด้วยอาหารและสุราชั้นดีนี่คือเหตุผลว่าทำไมตอนหลังเสิ่นหมิงหยวนตอบตกลงตวนชินอ๋องอย่างเฉียบขาด ให้สมาชิกราชวงศ์เหล่านั้น

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 656

    สายตาทุกคู่ในท้องพระโรงรวมกันที่ตัวเฉินฝาน“ความจริง ยอมแพ้ตั้งแต่แรกก็ดีเหมือนกัน!”เมื่อเห็นเฉินฝานไม่ตอบโต้ทันที เสิ่นหยวนฮวาขยายรูจมูกสูง ทำตัวอยู่เหนือกว่าและพูดจาย่ามใจ “ได้ดำรงตำแหน่งซื่อหลางกรมพระคลัง ถือว่ามีควันออกมาจากหลุมศพบรรพบุรุษ[footnoteRef:1] แล้ว” [1: มีควันออกมาจากหลุมศพบรรพบุรุษ มีที่มาจากผู้นับถือลัทธิเต๋ามีความเชื่อว่าคนตายแล้วจะกลายเป็นเซียน ร่างกายจะสลายเป็นเหมือนควันบางๆ เปรียบเปรยว่า เกิดเรื่องที่น่ายินดีมากแต่ก็สามารถนำมาใช้ในการเสียดสีหรือด่าทอได้] คำพูดนี้ เป็นคำพูดที่กระตุ้นเฉินฝาน อีกทั้งยังเป็นคำพูดที่ไม่เห็นเฉินฝานอยู่ในสายตาคนบ้านนอก ไอ้เศษสวะที่เจ้าทำสำเร็จสองสามครั้งก่อนหน้านี้ เพราะโชคขี้หมา ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะโชคดีขนาดนั้นทุกครั้งกลุ่มขุนนางด้านข้างเสิ่นหยวนฮวา พากันพยักหน้าไม่มีใครเชื่อว่า เฉินฝานจะชนะเสิ่นหยวนเลี่ยงได้ครอบครัวฝ่ายหญิงของแม่ของเสิ่นหยวนเลี่ยง มีความเกี่ยวเนื่องทางการค้าที่กว้างใหญ่เกินไปฉินเย่ว์เหมยส่ายหน้าเหมือนกัน ให้สัญญาณกับเฉินฝานว่าห้ามตกลงถ้าไม่ตกลง แล้วยืนยันเลือกวิธีลงคะแนนเสียง เฉินฝานยังมีโอกาสช

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 657

    “แล้วอีกอย่าง ข้าไม่ไปเป็นเพื่อนเจ้า เจ้าจะไม่ถูกฮ่องเต้หลานของข้าด่าตายรึ วางใจเถอะน่า!” ตวนชินอ๋องทำทีว่าตนเก่งมาก “มีข้าอยู่ด้วย เขาไม่กล้าด่าเจ้ารุนแรงเกินไปหรอก!”“ท่านอ๋อง ท่านไม่โกรธหรือ?” เฉินฝานเอ่ยถาม“ข้าต้องโกรธเรื่องอะไร?” ตวนชินอ๋องถูกเฉินฝานถามจนสับสน“แข่งหาเงินกับเสิ่นหยวนเลี่ยงไงเล่า ท่านไม่กลัวว่าข้าจะแพ้?”“เรื่องนี้…” ตวนชินอ๋องเกาศีรษะทำท่าลำบากใจ แต่ท่าทางลำบากใจหายวับไปจากใบหน้าของเขาทันที “ข้าเชื่อใจเจ้า เจ้าทายตัวเลขเก่งขนาดนั้น เรื่องหาเงินก็ไม่ใช่ปัญหาแน่นอน!”เฉินฝาน: “…”ทายตัวเลขเก่งกับหาเงิน ความยากอยู่ระดับเดียวกัน?ไม่แปลกใจเลย หลังจากฉินหย่งคังตัวจริงเสียชีวิต ฮ่องเต้องค์ก่อนถึงเรียกให้ซูซิวฉีไปหาตัวฉินเย่ว์เหมยและไม่ให้ตวนชินอ๋องขึ้นรับตำแหน่ง“เฮ้อ เสี่ยวฝาน พวกเรารีบไปเถอะ ให้หลานฮ่องเต้ด่าให้เสร็จ พวกเราจะได้รีบออกไปดื่มเหล้า ข้าจะบอกให้ วันนี้ข้าชนะเจ้าแน่นอน”ความเป็นจริงดูเหมือนไม่เป็นไปตามความคิดของตวนชินอ๋องฉินเย่ว์เหมยไม่ดุด่าเฉินฝานหลังจากการว่าราชกิจจบลงและกลับมาถึงพระตำหนักไท่เหอ อารมณ์ของฉินเย่ว์เหมยสงบลงเรียบร้อยเหตุผลท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 658

    “ใช่เพคะ เนื้อผิวของเหนียงเหนียงขาวเป็นธรรมชาติ ราวกับหิมะใต้พื้น ถ้าผู้ชายทั่วไปมองเห็น สายตาย่อมไม่เคลื่อนไปไหนแน่นอนเพคะ”สาวใช้สองคนกล่าวเยินยอ พวกนางอยู่ข้าง ๆ ลู่ชุนเยี่ยนตั้งแต่เด็ก ความสัมพันธ์ข้ามพ้นเจ้านายกับสาวใช้แล้ว“เจ้าเด็กคนนี้ ถ้ายังพูดเรื่อยเปื่อยอีก ข้าจะจัดการพวกเจ้าซะ”สาวใช้สองคนไม่เก็บคำตำหนิของลู่ชุนเยี่ยนมาใส่ใจ ยังคงหัวเราะคิกคัก พวกนางรู้ว่าลู่ชุนเยี่ยนไม่จัดการจริง ๆ“เหนียงเหนียง!” หนึ่งในสาวใช้แสดงท่าทางบนหน้าอก “ท่านรู้หรือไม่ว่า ตรงนี้ของท่าน ทำเอาคนหลงใหลจนตายได้ ท่านเอาแต่ซ่อนมันไว้ข้างใน พวกนางอึดอัดแย่ ควรเอาออกมารับแสงบ้างเพคะ”“ใช่ ก็เหมือนกับดอกต้นชาในสวนดอกไม้ ได้รับแสงแดด ถึงจะเติบโตขึ้นอย่างสวยงาม”“พวกเจ้า…” ลู่ชุนเยี่ยนอารมณ์เสียจนต้องไล่สองสาวใช้ออกจากห้อง“เหนียงเหนียง” ตรงหน้าต่าง มีสองศีรษะโผล่ขึ้นมา “ความสุขของตนเองต้องคว้าไว้ให้ดี ต้องใจกล้าหน่อยนะเพคะ”“ปัง!”ลู่ชุนเยี่ยนดึงหน้าตาปิดลงอย่างแรงปกตินางเอ็นดูพวกนางมากเกินไป จนไม่มีความยำเกรงต่อสิ่งใดแล้วลู่ชุนเยี่ยนเดินออกมาจากหน้าต่าง มาถึงข้างหน้าราวแขวนเสื้อผ้าแล้วเลือกเสื

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status