Share

บทที่ 645

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update Last Updated: 2024-10-31 18:00:03
ท้องพระโรงเช้าวันนี้ หลินชางเป็นคนแรกที่พูด

เขาถือหยกสมปรารถนา ยืนอยู่หน้าตำหนัก “ฝ่าบาท ตั้งแต่เฉินฝานเลื่อนขั้นเป็นซื่อหลางกรมพระคลัง

ตำแหน่งเสนาบดีกรมพระคลังว่างเว้นมาโดยตลอด ท้องพระคลังถือเป็นรากฐานของแคว้น หวังว่าฝ่าบาทรีบเลือกคนมาทำหน้าที่นี้พ่ะย่ะค่ะ”

“เสนาบดีกรมพระคลัง ต้องรีบแต่งตั้งพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเย่ว์เหมยเพิ่งพูดจบ หลิงชางหยิบรายชื่อออกมาจากแขนเสื้อ

ในใบรายชื่อของหลินชางมีเพียงคนเดียว หลังจากเขาอ่านชื่อในใบรายชื่อ ยังตั้งใจพูดเสริมอีกหนึ่งประโยค

“ฝ่าบาท บุคคลที่จะถูกคัดเลือกนี้ กระหม่อมให้ท่านอัครเสนาบดีดูแล้ว ใต้เท้าเห็นว่าคนผู้นี้มีความสามารถโดดเด่น มีความสามารถที่จะดำรงตำแหน่งเสนาบดีกรมพระคลัง”

หลินชางอ้างชื่อเสิ่นหมิงหยวน

ความหมายที่ซ่อนอยู่นั้นก็คือ

ไม่ได้ให้ฉินเย่ว์เหมยตัดสินใจ เพียงแจ้งให้ทราบเท่านั้น

เสิ่นหมิงหยวนเงียบ เพียงพยักหน้า แสดงให้เห็นว่าหลินชางพูดถูก

มือของฉินเย่ว์เหมยที่จับบัลลังก์มังกรอยู่นั้น กุมแน่นเล็กน้อย

คนผู้นั้นมีความสามารถ?

ถุย!

คนที่หลินชางพูดถึง คือมั่วหมิงเจอบุตรของพี่สาวหลินชาง

มั่วหมิงเจอคือคุณชายเที่ยวเตร่ไม่เอาการเอางานคนหนึ่
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 646

    “ตึ้ง!”บุรุษที่สั่นเทาด้วยความหวาดกลัวสะดุดล้ม เนื้อตัวของเขาสั่นจนไม่อาจควบคุมได้ ข้างกายเขาคือเสิ่นหยวนเลี่ยงพอดิบพอดีเสิ่นหยวนเลี่ยงยื่นมือไปพยุงตามสัญชาตญาณ แต่กลับถูกชายคนนั้นกระชากให้ล้มลง“ใต้เท้า”“ท่านไม่เป็นอะไรกระมังพวกพ้องของเสิ่นหมิงหยวนล้วนเป็นพวกประจบประแจง เมื่อเห็นเสิ่นหยวนเลี่ยงล้มลง รีบกรูกันเข้ามาขุนนางที่ยืนล้อมเสิ่นหยวนเลี่ยงไม่น้อยกว่าสิบคนชั่วขณะหนึ่ง ในตำหนักวุ่นวายเล็กน้อยท่ามกลางความวุ่นวายนี้ เสิ่นหยวนเลี่ยงกระซิบบอกชายคนนั้นเสียงเบา “อยากมีชีวิตรอดหรือไม่?”บุรุษชะงักไปครู่หนึ่ง ตามด้วยพยักหน้า “อยากขอรับ”“ดีมาก ข้าขอถามเจ้า เจ้าเป็นคนแคว้นใด?”“ขอรับ?” บุรุษตกอยู่ในความฉงนสงสัยอีกครั้ง “แน่นอนว่าข้าเป็นชาวแคว้นต้าชิ่ง...”“ไม่ใช่ เจ้าคือ...”“โอ๊ยโหย” หลิวเกาจัวที่วิ่งมาคนแรกพยุงเสิ่นหยวนเลี่ยงขึ้นแล้ว หลิวเกาจัวมองนิ้วโป้งของเสิ่นหยวนเลี่ยงด้วยความปวดใจ ตอนล้มลง นิ้วโป้งของเขาบวมเป่ง“โบราณกล่าวว่า นิ้วทั้งสิบประสานกับหัวใจ ท่านใต้เท้าเสิ่นน่าจะเจ็บมากกระมังขอรับ”เสิ่นหยวนเลี่ยงขมวดคิ้วเล็กน้อย เจ็บบ้าเจ็บบออะไร!ประจบไม่เป็นก็อย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 647

    “ฝ่าบาท พระตำหนักจินหลวน เป็นตำหนักหารือตัดสินงานบ้านงานเมือง ปล่อยให้ขุนนางชั้นต่ำสกปรกเข้ามาได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”เสิ่นหมิงหยวนเพิ่งพูดจบ ขุนนางมากมายด้านหลังเขาต่างเห็นด้วย โดยเฉพาะหัวหน้าเลขาฝ่ายพิธีการหลิวเกาจัว“พระตำหนักจินหลวนคือเส้นเลือดใหญ่ของหัวใจมังกร เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ขุนนางที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยกลิ่นเงิน ไม่ควรเข้ามาในนี้พ่ะย่ะค่ะ”“ฝ่าบาท โปรดรีบไล่พวกเขาออกไปด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”“ฝ่าบาท โปรดมีรับสั่ง!”“ขุนนางในตำหนักคุกเข่ากันเป็นแพคล้ายว่าหากไม่ไล่พวกพ่อค้าเหล่านี้ พวกเขาก็จะก่อกบฏอย่างไรอย่างนั้นฉินเย่ว์เหมยอดทนกับการโจมตีครั้งใหญ่นี้ นางเหยียดตัวนั่งตรง เผชิญหน้ากับสายตาบีบบังคับ“พ่อค้าพ่อสกปรกเช่นนั้นหรือ? ขุนนางที่รัก หรือว่าทุกวันนี้พวกท่านไม่ได้กินข้าวปลาอาหารที่พ่อค้าค้าขายหรือ? หรือว่าพวกท่านไม่ได้จุดตะเกียงน้ำมันที่พ่อค้าค้าขาย? หรือว่าพวกท่านไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าที่พวกพ่อค้าค้าขาย?”ทันทีที่ถ้อยคำนี้ออกมาจากปากของฉินเย่ว์เหมยพวกขุนนางที่ถูกรังเกียจจนไม่อาจทนได้ อยากจะเดินออกไปเองนั้น น้ำตาคลอเบ้าบัณฑิตชนชั้นนำ กสิกร กรรมกร และพ่อค้าวาณิชย์นับ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 648

    ตัวของเริ่นอวี่เฟยสั่นเทา “กระหม่อม กระหม่อม...”“ณ แดนเหนือ กองทัพหมาป่ากำลังต่อสู้กับชาวหูที่พยายามลุกล้ำ อากาศหนาวเย็น กองทัพหมาป่ามีความต้องการเสื้อผ้าฝ้ายและกางเกงผ้าฝ้ายโดยด่วน แต่เจ้ากลับฉวยโอกาสนี้ พาพ่อค้าชาวหูมากว้านซื้อดอกฝ้ายของแคว้นเรา”“พูดมา! เจ้าร่วมมือกับศัตรูหรือไม่?”สิ้นเสียงของฉินเย่ว์เหมย บรรดาพ่อค้ารีบพูดทันที “ฝ่าบาท เขาต้องร่วมมือกับศัตรูแน่นอนพ่ะค่ะย่ะ ตอนพ่อค้าชาวหูมากว้านซื้อ ไม่เพียงกว้านซื้อดอกฝ้ายในคลัง แม้กระทั่งดอกฝ้ายในไร่ที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวพวกเขาก็ซื้อ อย่าว่าแต่เมล็ดฝ้าย แม้กระทั่งเปลือกฝ้ายก็ไม่หักลบพ่ะย่ะค่ะ”“พวกกระหม่อมยังสงสัย ไม่หักลบแม้กระทั่งเมล็ดและเปลือกฝ้าย ทั้งยังซื้อในราคาแพง เขาต้องอยากให้กองทัพหมาป่าหนาวตายแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ เขาคือกบฏชั่วพ่ะย่ะค่ะ”“ฝ่าบาท!” เหอกังเดินออกมาจากแถวของขุนนาง “กองทัพหมาป่าคือกำลังสำคัญของแคว้น ผู้บ่อนทำลาย ควรถูกลงโทษด้วยการทัณฑ์พาหนะแยกร่างพ่ะย่ะค่ะ!”“กระหม่อม กระหม่อม...”คำว่าทัณฑ์พาหนะแยกร่างทำให้เริ่นอวี่เฟยเหงื่อแตก ขยับลิ้นอยู่นานก็ไม่อาจทำให้ตรงได้เขาใช้สายตาอ้อนวอนขอความช่วยเหลือกับหลิ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 649

    เขาเพิ่งได้รับใบสั่งซื้อของราชสำนักจากหลินชาง กำลังนั่งนับเงินในบ้านอย่างมีความสุข สตรีเกรี้ยวกราดคนหนึ่ง ยกธนูขึ้นบุกรุกเข้ามาในบ้านของเขา“ฮ่องเต้ต้าชิ่ง ท่านเป็นใบ้หรือ ฮ่าๆ !” เริ่นอวี่เฟยหยุดด่าฉินเย่ว์เหมยแล้ว เขาชี้ไปทางขุนนางทั้งหลายแล้วหัวเราะเยาะ “คิดไม่ถึงว่าฮ่องเต้ต้าชิ่งของพวกเจ้า จะเป็นใบ้”ฉินเย่ว์เหมยโมโหมากหงอิงก็หงุดหงิดมากเหตุใดนางจึงประมาทเช่นนี้ ไม่ค้นตัวเริ่นอวี่เฟยให้ละเอียด ไม่รู้แม้กระทั่งว่าเขาพกป้ายชื่อติดตัว“หลี่ชิ่ง!” เสิ่นหมิงหยวนพูดแล้ว “เอาตัวพ่อค้าชาวหูคนนี้...”“ช้าก่อน!”เฉินฝานแหวกจากวงขุนนางที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขา ค่อยๆ เดินไปด้านหน้าเขาหยุดลงตรงหน้าเริ่นอวี่เฟย พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ “อยากตาย?”“ใช่!” เริ่นอวี่เฟยเชิดหน้าขึ้น “อยากตาย เจ้าคือคนที่จะฆ่าข้าหรือ?”เฉินฝานพยักหน้า “แน่นอน แต่ว่า...” ตอนเฉินฝานเดินผ่านเริ่นอวี่เฟย เขาพูดเสียงแผ่วเบา “อยากมีชีวิตรอดหรือไม่?”เริ่นอวี่เฟยชะงักครู่หนึ่งในระยะเวลาสั้นๆ ถ้อยคำนี้ เขาได้ยินมาสองครั้งแล้วเฉินฝานไม่รอเขาตอบ พูดเสียงเบา ‘อยากมีชีวิตรอด ก็ต้องกัดให้แน่น’พูดจบ เฉินฝานเดินผ่านเขา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 650

    “หลินชาง!”เสิ่นหมิงหยวนเดินไปทางหลินชาง“ใต้เท้า!” ราวกับคนจมน้ำ เจอขอนไม้ช่วยชีวิต หลินชางจับเสิ่นหมิงหยวน “ข้ารู้ดีว่า ท่านต้องช่วยข้า...”“ฉึบ!”เสิ่นหมิงหยวนคว้าดาบของหลี่ชิ่ง แล้วแทงลึกเข้าไปในหัวใจของหลินชาง...“แย่แล้ว!”หงอิงพุ่งตัวไป แต่ก็สายไปแล้วเสียงพู่ดังขึ้น ดาบในมือของเสิ่นหมิงหยวนแทงลึกเข้าไปในหัวใจของหลินชางแล้ว“ใต้เท้า ท่าน ท่าน เพราะเหตุใด...”หลินชางเบิกตากว้าง สีหน้าของเขาเปี่ยมไปด้วยความเหลือเชื่อนอกจากลูกชายของตนแล้ว คนที่เสิ่นหมิงหยวนเชื่อใจที่สุด ให้ความสำคัญที่สุดก็คือเขา เหตุใดเสิ่นหมิงหยวนจึงใจร้ายเช่นนี้“เพราะอะไร? คนชั่วที่หักหลังแคว้นร่วมมือกับศัตรู สมควรตาย!”มือที่ถือดาบของเสิ่นหมิงหยวน ออกแรงมากขึ้น“เมิ่นหมิงหยวน เจ้า...”“ตึ้ง!”หลินชางล้มลงบนพื้น กระทั่งตาย ดวงตาคู่นั้นยังคงจับจ้องเสินหมิงหยวนทุกคนล้วนดูออกหลินชางตายตาไม่รับขณะที่ทุกคนพุ่งความสนใจไปยังเสิ่นหมิงหยวนและหลินชางเสิ่นหยวนฮวาก็คว้าดาบฟันไปที่เริ่นอวี่เฟยครั้งนี้หงอิงหยุดเอาไว้ได้ทัน แต่นางเพิ่งก้าวเท้าออกไปก็ถูกเฉินฝานห้ามไว้แล้วแม้เริ่นอวี่เฟยจะมีหลักฐานมา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 651

    “ส่วนเสิ่นตู้สื่อนั้น รับราชการอยู่ที่กรมคลังมาหลายปี ที่สำคัญตระกูลฝั่งแม่ของแม่ของเสิ่นตู้สื่อคือตระกูลหลี่ที่ทำค้าขายใหญ่ที่สุดของแคว้นเรา เสิ่นตู้สื่อเรียนรู้การแลกเปลี่ยนค้าขายกับน้าชายของเขาตั้งแต่เด็ก มีรากฐานที่มั่นคง ดังนั้น เสิ่นตู้สื่อเหมาะสมที่จะเป็นเลขาธิการกรมพระคลังมากกว่าเฉินซื่อหลาง”“กระหม่อมเห็นด้วย เสิ่นตู้สื่อเหมาะสมที่จะเป็นซื่อหลางกรมพระคลังมากกว่า”“กระหม่อมเห็นด้วย!”“กระหม่อมก็เห็นด้วย!”เสียงเห็นด้วย ดังขึ้น ๆ ลง ๆ ภายในท้องพระโรงเฉินฝานทอดสายตามองไป คนที่ไม่เอ่ยเสียงเห็นด้วยไม่เกินสิบคนภายใต้ความกดดันจากเหล่าขุนนาง ฉินเย่ว์เหมยไม่สามารถบังคับให้เฉินฝานรับตำแหน่งฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ของแคว้นต้าชิ่งเคยออกกฎไว้ว่า ขุนนางระดับชั้นสามขึ้นไป ต้องได้รับการเห็นชอบจากขุนนางชั้นผู้ใหญ่จำนวนครึ่งหนึ่งขึ้นไปเท่านั้นเป็นกฎที่ดีมาก หากตอนนี้ครอบครัวของเสิ่นหมิงหยวนไม่ใช่ครอบครัวเดียวที่มีอำนาจในราชสำนักทุกวันนี้เสิ่นหมิงหยวนหลอกใช้กฎข้อนี้ ต้องการให้ใครรับราชการตำแหน่งใด ก็ให้ผู้นั้นเข้ามารับราชการตำแหน่งนั้น“เสิ่นหมิงหยวนใช้วิธีการชั่วร้ายเช่นนี้ทุกครั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 652

    “ท่านพี่ ท่านพ่อพูดถูก ตอนนั้นลากเหอจื่อหลินจากขุนพลกุยเต๋อระดับชั้นสามลงมา แล้วเปลี่ยนเป็นพี่รับตำแหน่งแทน ฉินหย่งคังไม่ได้ใช้วิธีนี้เหมือนกันหรือ? แล้วมีประโยชน์หรือไม่? สุดท้ายพี่ก็ได้ตำแหน่งขุนพลกุยเต๋อมาเหมือนกัน”พอพูดจบ เสิ่นหยวนเลี่ยงเชิดหน้าเดินออกไปเขาเริ่มฝึกท่าทางการเดินของเลขาธิการลับ ๆเลขาธิการ ขุนนางระดับชั้นสอง ตำแหน่งรองจากอัครเสนาบดีเพียงหนึ่งระดับเท่านั้นมีความสง่าน่าเกรงขามตั้งเท่าไหร่!หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จไม่นาน หลี่เต๋อฉวนก็ส่งข่าวไปจวนเสิ่นวันนี้หลังจากว่าราชกิจเสร็จ ฉินเย่ว์เหมยเรียกเฉินฝานมาที่ตำหนักไท่เหอ จากนั้นไม่นาน ฉินเย่ว์เหมยก็ออกคำสั่งให้ปล่อยตัวตวนชินอ๋องที่เฝ้าสุสานหลวงกลับเข้ามา“ให้ตวนชินอ๋องกลับมา? คนขี้เมาหยำเปนั่น จะหน่วงเหนี่ยวน้องเลี่ยงเป็นเลขาธิการกรมพระคลังได้?”“นี่เป็นข้อเสนอของใครกัน? คงไม่ใช่เฉินฝานไอ้อ่อน/หัดนั่นหรอกกระมัง!”“ฮ่า ๆ!” เสิ่นหยวนฮวาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง“เมื่อเช้า ท่านพ่อพูดถูก หมาแมวตามซอกมุม มีความสามารถเพียงเท่านั้นแหละ เสนอให้มาอยู่ใต้ชายคาของเรา ถือว่าเป็นความผิดของลูกเองจริง ๆ”-การว่าราชกิจในเช้าวั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 653

    สิ่งที่ปรากฏตัวตรงประตูพระตำหนักจินหลวนคือ…ผู้ชายกลุ่มหนึ่งศีรษะสวมมงกุฎดอกไม้ ห่มกายด้วยผ้าแพร แต่งตัวมีสง่าราคาแพงพอเห็นผู้ชายกลุ่มนี้ เหล่าขุนนางในท้องพระโรงไม่มีใครไม่แสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยามผู้ชายเหล่านี้บนตัวมีแต่ของราคาแพง แต่กลับไม่มีสง่าราศีแต่ละคนถ้าไม่ใช่กลิ่นเหล้าเหม็นคลุ้ง ก็แป้งชาดฟุ้งสำลักจมูก บางคนกระทั่งมีลูกเต๋าในมือคนเหล่านี้มาจากร้านอาหาร หรือไม่ก็มาจากสำนักหอนางโลม หรือไม่ก็มาจากโรงบ่อนเสิ่นหมิงหยวนยิ้มเหยียดหยาม เขายกมือคารวะตวนชิงอ๋องที่มีกลิ่นเหล้าหึ่งสะท้านฟ้าอีกคน “ลำบากท่านอ๋องจริง ๆ ก่อนเดินทางมาที่นี่คงไปมาแล้วหลายแห่ง”ตวนชินอ๋องหรี่ตาครึ่งดวงตาแล้วชำเลืองมองเสิ่นหมิงหยวน “หยุดพูดจาเหลวไหลเถอะ เมื่อครู่นี้พวกเจ้ามีคนเยอะไม่ใช่รึ? ตอนนี้ฝั่งไหนมีคนมากกว่าก็ยังไม่รู้ พวกเราต่างก็คิดว่าเฉินฝานมีความสามารถที่จะดำรงตำแหน่งเลขาธิการกรมพระคลังมากกว่า”“ใช่ พวกเราสนับสนุนเฉินฝาน”ผู้ชายเหล่านั้นตะโกนตามหลังตวนชินอ๋อง แต่ว่าแต่ละคนมีลมกลับไม่มีกำลัง ซึ่งแตกต่างจากเสียงที่ดังสนั่นก้องอย่างพร้อมเพรียงของบริวารเสิ่นหมิงหยวนเมื่อครู่นี้ราวกับฟ้ากับเหว

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status