Share

บทที่ 471

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
ใช่ เขาผู้เป็นเจ้าเมืองเมืองหรงตูกลัวเพียงสถานะถงเซิงของเฉินฝาน

เหตุผลแรก คือวิธีการของเฉินฝานน่ากลัวเกินมาก

เหตุผลที่สอง คือวันนี้เฉินฝานนั่งรถม้าของเขา แต่เขาเดิน

เหตุผลสองข้อนี้ เพียงข้อใดข้อหนึ่งก็ทำให้เขารู้สึกกระสับกระส่ายได้ทั้งนั้น

“เสี่ยวฝาน เจ้าจะเข้าร่วมการสอบราชสำนัก?” เพ่ยจี้หันไปถามเฉินฝาน

“ใช่!”

เฉินฝานยังไม่ทันตอบกลับ หลี่หงโห่วก็แย่งตอบก่อน “นายพลมีอะไรบางอย่างที่ไม่รู้ เฉินฝานเข้าร่วมการสอบขุนนางปีแรกก็สอบได้อันดับหนึ่งของการสอบระดับมณฑลจากอำเภอผิงอันขอรับ”

หลี่หงโห่วกล่าวยกย่องเฉินฝาน

เมื่อใดที่เฉินฝานเข้าร่วมการสอบขุนนาง เช่นนั้นแล้วก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะได้เป็นนายกองทหาร

ขอบข่ายของการสอบราชสำนักใหญ่กว่าการสอบระดับอำเภอและการสอบระดับมณฑลมาก นักเรียนจากสิบมณฑลของเมืองหรงตูที่สอบผ่านระดับมณฑลล้วนมาเข้าร่วมหมดและล้วนเป็นหัวกะทิทั้งนั้น

อำเภอผิงอันเป็นอำเภอที่ยากจนที่สุดและเล็กที่สุดในเมืองหรงตู้ เฉินฝานสอบได้อันดับหนึ่งในอำเภอผิงอัน เมื่อไปสอบที่เมืองหรงตูก็อาจจะสอบไม่ผ่าน แม้ว่าเขาจะสอบผ่าน อย่างมากก็เป็นคนที่สอบระดับซิ่วไฉคนหนึ่ง

พอถึงครึ่งปีหลังยังมีการสอ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 472

    สำหรับอำเภอผิงอันที่เขาต้องการผนวกมากที่สุด ก็ไม่ถูกรวมเข้ากับอำเภอตูอัน นอกจากนี้อำเภอตูอันยังต้องช่วยอำเภอผิงอันจ่ายภาษีและชดเชยการรับราชการทหารเป็นเวลาสามปีหลังกลับมาจากอำเภอผิงอัน ลวี่เหลียงเจ๋อกระวนกระวายใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ตลอดเวลา การช่วยเหลือหนึ่งอำเภอจ่ายภาษีนั้นไม่สามารถทำได้ด้วยพ่อค้าเพียงไม่กี่ร้านค้า จำเป็นต้องเพิ่มการจ่ายภาษีของพลเมืองทั้งอำเภอจ่ายภาษีมากขึ้น อย่างมากพลเมืองแค่ด่าทอลับหลังไม่กี่คำแต่เพิ่มจำนวนการรับราชการทหาร……ในสามปีข้างหน้า เขาจะถูกพลเมืองด่าว่าเป็นขุนนางสุนัข ก็นับว่าเบาแล้วและหลังจากเพิ่มภาษีและจำนวนการรับราชการทหารเป็นเวลาสามปี อำเภอตูอันในฐานะเขตที่ร่ำรวยที่สุดของเมืองหรงตูจะไม่คงอยู่อีกต่อไป แผนการที่จะผนวกอำเภอผิงอันและกลายเป็นเจ้าเมืองของลวี่เหลียงเจ๋อก็ไม่ต้องคาดหวังอีกเช่นเดียวกันเฉินฝาน เฉินฝาน!ลวี่เหลียงเจ๋อกัดฟันเอ่ยชื่อของเฉินฝานทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นเพราะเฉินฝาน หากไม่มีเขา เรื่องราวก็คงไม่กลายเป็นเช่นนี้เฉินฝาน รอก่อนเถอะ เจ้าไม่มีทางราบรื่นด้วยดีทุกเรื่อง!……“ฮัดชิ้ว ๆ ๆ!”ในห้องทำงาน เฉินฝานที่กำลังฝึกคัดลายมือ จามไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 473

    “เสี่ยวฝาน!” เพ่ยจี้พูดสีหน้าจริงจัง “บังคับอะไรล่ะ ข้าทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อตัวเจ้า……”“เย่ว์เจียว!” เฉินฝานตะโกนไปที่ประตู “เก็บของของนายพล……”“ช้าก่อน ๆ! ข้าไม่พูดแล้ว ไม่พูดแล้ว” สีหน้าจริงจังในตอนแรกของเพ่ยจี้เปลี่ยนเป็นใบหน้ายิ้มแย้มประจบประแจงเฉินฝานจ้องเขม่นเพ่ยจี้หนึ่งที จากนั้นก็ก้มศีรษะหยิบพู่กันขึ้นมาใหม่“โห!” เพ่ยจี้เร็วกว่าหนึ่งก้าว เขาหยิบพู่กันของเฉินฝานขึ้นมา “เสี่ยวฝาน พู่กันนี่ของเจ้าสวยมาก!”“ข้ามีชีวิตนานเพียงนี้ เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นพู่กันที่งามเยี่ยงนี้ เจ้าซื้อมาจากที่ใดหรือ?” เพ่ยจี้เริ่มเล่นพู่กันของเฉินฝานเฉินฝานไม่ตอบเพ่ยจี้ เพียงยื่นมือออกไปหาเขา “เอามา!”“นี่ เสี่ยวฝาน เจ้าขี้เหนียวจริง ๆ ข้าขอมองสักหน่อยก็ไม่ได้” เพ่ยจี้บ่นในขณะที่......“แครก!”“อ้าว!”เพ่ยจี้มองพู่กันที่หักคามือแล้วตะโกน ต่อด้วยการกล่าวดูถูก “พู่กันนี้สวยนะ แต่คุณภาพแย่มาก ข้าแค่อยากทดสอบความแข็งเล็กน้อย ยังไม่ทันออกแรงก็หักเสียแล้ว!”เมื่อเขาพูดคำว่าหัก ความได้ใจเล็กน้อยแสดงไว้บนใบหน้าของเพ่ยจี้อย่างเปิดเผย“ไปกันเถอะ!” เพ่ยจี้ดึงมือเฉินฝาน “เสี่ยวฝาน ข้าพาเจ้าออกไปซื้อพู่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 474

    ฉินเย่ว์โหรวมีความคิดที่ละเอียดอ่อนและฉลาดเฉลียว นางรู้ความตั้งใจของเพ่ยจี้ตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้ามาในเรือนเฉินฝานวางพู่กันแล้วดึงฉินเย่ว์โหรวมาอยู่ข้าง ๆ เขาลูบผมของนางและเอ่ยถาม “ถ้าเช่นนั้น เจ้าคิดสามีอย่างข้าควรเข้าร่วมการสอบขุนนางต่อไป หรือเข้าร่วมกองทัพหมาป่าของนายพลดีล่ะ?”ฉินเย่ว์โหรวส่ายหัวเบา ๆ “ข้าน้อยไม่ทราบ ไม่ว่านายท่านจะไปที่ไหน ข้าน้อยก็จะตามไปที่นั่นเจ้าค่ะ”เฉินฝานบีบคางฉินเย่ว์โหรวเล่นอย่างแผ่วเบา คางของนางทั้งเนียนและนุ่มลื่น จับแล้วรู้สึกสบายมาก “แล้วถ้าข้าไปที่กองทัพหมาป่าจริง ๆ สภาพความเป็นอยู่ในค่ายทหารไม่เหมือนกับที่เรือน เจ้าไม่กลัวลำบากหรือ?”ฉินเย่ว์โหรวซุกหัวเข้าไปในอ้อมแขนของเฉินฝานแล้วพูดเบา ๆ “ไม่กลัว ขอเพียงที่นั่นมีนายท่าน ข้าก็ไม่รู้สึกลำบากแต่อย่างใดเจ้าค่ะ”คนที่อยู่ในอ้อมแขน ตัวหอมท่วมท้น เส้นเลือดเย้ายวน ปากแดงเหมือนยาแดง รูปหน้างามอย่างยิ่งมีความงามอันน่าทึ่งอยู่ในอ้อมแขน จะไม่รู้สึกอะไรคงยากเฉินฝานยกคางของฉินเย่ว์โหรวขึ้น “ข้าต่างหากที่จะทำใจไม่ได้ ให้ภรรยาตัวน้อยของข้าไปตกที่นั่งลำบากในสถานที่เช่นนั้น อีกอย่าง……”เฉินฝานดึงฉินเย่ว์โห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 475

    “ปล่อยให้เขาไปไม่ได้แน่น่ะสิ อัจฉริยะอย่างเขา คงน่าเสียดายหากไปรับราชการ คิดก่อน ให้ข้าคิดดูก่อน!”ห้องเซียงฝาง[footnoteRef:1] ที่เพ่ยจี้พักอาศัย อยู่ตรงข้ามกับห้องหนังสือของเฉินฝาน [1: ห้องเซียงฝาง คือห้องที่อยู่ด้านข้างเรือนเหนือทั้งสองฝั่ง ซึ่งเรือนตะวันออกและเรือนตะวันตกในแต่ละฝั่งจะมีอีกสองห้อง] ทำเลที่ตั้งที่นี่ไม่ดี เดิมทีเขาไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ แต่วันนี้เขาดั้นด้นย้ายมาโดยใช้ข้ออ้างว่าที่นี่เงียบสงบ แต่จริง ๆ แล้วเขามาที่นี่เพื่อเฝ้าดูเฉินฝาน กลัวว่าเฉินฝานจะแอบไปเมืองหรงตูเงียบ ๆนอกจากเพ่ยจี้จะเฝ้าดูเองแล้ว เขายังสั่งให้ตั้งค่ายรอบ ๆ เรือนเฉินฝาน หรือกล่าวได้ว่าต่อให้เฉินฝานอยากจะหนีไปเงียบ ๆ เขาก็ไม่มีทางทำสำเร็จช่วงเวลาพลบค่ำ หลี่ซานก็มาถึงหากเฉินฝานออกมาไม่ทันเวลา หลี่ซานคงเข้ามาไม่ได้เนื่องจากการมาถึงของหลี่ซาน หมายความว่าเฉินฝานหาโรงเตี๊ยมที่เมืองหรงตูเรียบร้อยแล้ว แต่เพ่ยจี้ไม่ยอมให้เขาเข้าไป“นาย นายพล!”เมื่อออกมาจากห้องหนังสือของเฉินฝาน หลี่ซานตกใจวิญญาณแทบหลุดออกจากร่างเพ่ยจี้ที่ยืนอยู่หน้าประตูเวลานี้ กำลังจ้องเขาด้วยท่าทางดุร้าย“ผู้เฒ่า ถ้ายัง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 476

    “อะไรนะ!” เพ่ยจี้ร้อนใจกระโดดโลดเต้น “เสี่ยวฝาน เจ้าจะไม่กอบกู้ได้อย่างไรเล่า? อย่าเพิ่งยอมแพ้ กอบกู้หนังสือบางส่วนได้อย่างแน่นอน”เฉินฝานมองไฟที่โหมกระหน่ำตรงห้องหนังสือครู่หนึ่ง แล้วหันมองเพ่ยจี้พร้อมยิ้มเยาะ “กอบกู้ได้หรือไม่? ท่านนายพลรู้ดีแก่ใจไม่ใช่หรือขอรับ?”“ขะ ข้าจะรู้ได้อย่างไรเล่า พอข้าตื่นขึ้นมาก็พบว่าห้องหนังสือของเจ้าไฟไหม้!”มันแปลกจริง ๆเพ่ยจี้ยังรู้สึกแปลกในใจ แต่ทำไมเขาถึงใจไม่เป็นสุข?แม้ว่าเขาเป็นคนจุดไฟ ด้วยนิสัยของเขา ก็ไม่มีทางที่เขาจะรู้สึกผิด ตอนนี้เมื่อเขาเห็นเฉินฝาน......เจ้าหนุ่มคนนี้ ไม่เพียงแต่เป็นอัจฉริยะ แต่ราศียังทรงพลังจนน่ากลัวเพียงสายตาเดียวของเขา ก็เจาะทะลุหัวใจคนอื่นได้ทันที“แม้ว่าข้าเป็นคนเผาห้องหนังสือ แต่แล้วอย่างล่ะ?”ในเมื่อปกปิดไม่ได้ เพ่ยจี้เลยยอมรับโดยตรง“นายพลเป็นคนจุดไฟนี้ ทำทำไมเจ้าคะ นายท่านของข้าใจดีกับท่านถึงเพียงนั้น แต่ท่านกลับทำสิ่งที่ลืมบุญคุณเช่นนี้!”ฉินเย่ว์ฉู่สองมือเท้าเอวและจ้องเขม่นเพ่ยจี้อย่างโมโห“เช้ง!”หยวนอิงชักกระบี่ออกจากเอว“เก็บกระบี่กลับเข้าไปซะ อย่าทำให้เด็กตกใจ!” เพ่ยจี้หันกลับไปตำหนิเสียงดัง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 477

    เพ่ยจี้ตวัดกระบี่ในมือ “เสี่ยวฝาน เจ้าคิดอย่างไรกับกระบี่ของข้า?”เฉินฝานจ้องมองกระบี่ของเพ่ยจี้เรียบนิ่ง “รูปร่างงามประณีต แสงกระบี่ชัดเจน เป็นกระบี่ชั้นดีที่คมกริบ ทำไมรึ นายพลจะลงมือฆ่าหรือขอรับ?”“นี่!” เพ่ยจี้แสดงสีหน้าไม่พอใจ “เสี่ยวฝาน เจ้าพูดอะไรเล่า? ข้าอยากมอบกระบี่เล่มนี้ให้กับเจ้าต่างหาก!”เมื่อมาถึงตอนนี้ ในที่สุดหยวนอิงก็ทนไม่ไหวจึงก้าวขามาถึงตรงหน้าเฉินฝาน “ท่านนายพล ทำแบบไม่ได้นะขอรับ!”“ไปให้พ้น!” เพ่ยจี้ผลักหยวนอิง “ทำได้หรือทำไม่ได้ ถึงคราของเจ้ามาสอนข้าตั้งแต่เมื่อไหร่”หลังจากผลักหยวนอิงออกไป เพ่ยจี้ก็เสียบกระบี่กลับเข้าไปในฝักแล้วยื่นให้เฉินฝานเฉินฝานกอดมือไว้ที่หน้าอกแล้วกล่าวอย่างสบาย ๆ “ไม่มีผลงานไม่ควรรับรางวัล ข้าไม่รับ!”“ตุบ!” หยวนอิงล้มไปกับพื้น“ไม่ได้เรื่อง!” เพ่ยจี้เตะหยวนอิง “ไสหัวออกไปซะ”“ท่านนายพล โปรดใคร่ครวญให้ดีด้วยขอรับ!” หยวนอิงไม่ตายใจ เมื่อเพ่ยจี้ยกเก้าอี้ขึ้น เขาถึงยอมเดินออกไปโดยดี“เสี่ยวฝาน เจ้ารู้ไหมว่ากระบี่นี้มีชื่อว่าอะไร? กระบี่แห่งเสถียรภาพ! จักรพรรดิผู้ล่วงลับเป็นผู้พระราชทานมันให้กับข้า สามารถประหารก่อนรายงานทีหลังได้”

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 478

    เพ่ยจี้ยิ่งพูดยิ่งดูน่าสงสาร เสียงร้องไห้ก็ยิ่งร้องยิ่งดังเฉินฝานฟังแล้วไม่สบายใจ “ผู้เฒ่า ท่านหยุดร้องก่อน ท่านจะไม่มีผู้สืบทอดได้อย่างไร? ท่านมีทหารเสือตั้งมากมายในกองทัพหมาป่า!”“มากมาย มากมายที่ไหนกัน ต่อสู้ฆ่าศัตรู พวกเขาเก่งก็จริง แต่เมื่อพูดถึงยุทธวิธี แต่ละคนก็โง่เขลาเบาปัญญากันทั้งนั้น ฮือ ๆ!”แม้ว่าคำพูดของเพ่ยจี้จะดูเกินจริง แต่ทหารเสือที่อยู่ในกองทัพของเขานั้น เมื่อเทียบเฉินฝานแล้ว ด้อยกว่ามากจริง ๆวินาทีที่เฉินฝานบอกว่าไม่ไปกับเขา เพ่ยจี้ร้องไห้น้ำตาไหลจริง แต่ต่อมาล้วนเป็นการหลอกเฉินฝานทั้งนั้นเขาอยู่มาถึงทุกวันนี้ได้ ไม่เพียงเพราะเก่งด้านการสู้รบ แต่เพราะเป็นคนหน้าด้านด้วยกระบี่เสถียรภาพ ก็คือสิ่งที่เขาร้องขออย่างไร้ยางอายจากจักรพรรดิผู้ล่วงลับ“แล้วหยวนอิงล่ะ!” เฉินฝานชี้หยวนอิงที่อยู่ข้าง ๆ เพ่ยจี้ “ข้าว่าเขาก็ไม่เลว มีหัวสมองฉลาดและยังจงรักภักดีต่อท่าน เหมาะสมมากที่จะเป็นผู้สืบทอดของท่าน”เพ่ยจี้ปาดน้ำตาแล้วหันไปถามหยวนอิง “หยวนอิง เจ้าอยากเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพหมาป่าหรือไม่?”“ท่านนายพล!”หยวนอิงคุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตุบ “หยวนอิง......ไม่มี

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 479

    “ข้าน้อยขอคารวะใต้เท้าอัครเสนาบดีเบื้องซ้าย”เมื่อเห็นชายชราผู้นั้น หยวนอิงคุกเข่าลงทันทีชายชราเมินเฉยหยวนอิงและก้าวเท้าเร็วไปหาเฉินฝาน แต่เพ่ยจี้ตะโกนเสียงโกรธระหว่างทาง “ซูซิวฉี ท่านไม่อยู่ในราชสำนัก มาทำอะไรที่นี่?”เพ่ยจี้โกรธมากดั่งสายฟ้าแลบ ถ้าชายชราผู้นี้ไม่ปรากฏตัว เฉินฝานคงจะตอบตกลงเขาแล้ว“ถ้าข้าไม่มา คนของข้าก็คงถูกแย่งชิงไปแล้ว!”ขณะที่เขาพูด ซูซิวฉีก็เดินมาถึงตรงหน้าเฉินฝาน เขามองเฉินฝานอย่างตื่นเต้น “เสี่ยวฝาน เจ้าคิดถึงข้าบ้างไหม ข้าคิดถึงเจ้ามากเลยนะ”หลังกลับจากอำเภอผิงอันจนถึงเมืองหลวง ซูซิวฉีรู้สึกว่าแต่ละวันยาวนานเหมือนเป็นปี เขานับวันและตั้งตารอวันที่สอบระดับราชสำนักจะมาถึงเร็ว ๆ ระหว่างการสอบระดับมณฑลกับการสอบระดับราชสำนัก ห่างกันเพียงหนึ่งเดือนกว่า ซึ่งก็คือสามสิบแปดวัน แต่สามสิบแปดวันนี้ ซูซิวฉีรู้สึกยาวนานเหมือนสามร้อยแปดสิบวันเขากลัวการสอบระดับราชสำนักจะเกิดปัญหาระหว่างทาง ซูซิวฉีจึงเดินทางจากเมืองหลวงมาที่นี่เองเดิมที เขาแค่อยากรอเฉินฝานในเมืองหรงตูตอนที่เขามาถึงเมืองหรงตูเป็นเวลาสามสี่โมงเช้าแล้วตอนที่เขากลับไปครั้งที่แล้ว เขาให้คนอยู่ต่ออำเ

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status