Share

บทที่ 424

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
หลังจากที่ผ่านไปสามวินาทีเต็มๆ เฉินฝานถึงจะได้สติกลับมาว่าเรื่องมันเป็นอย่างไร

คนที่ซุกตัวในอ้อมอกเขาตัวสั่นเล็กน้อย

ไม่ใช่เพราะกลัว และไม่ใช่เพราะหนาว กำลังยิ้มอยู่

ณ ตอนนี้ ในที่สุดเฉินฝานก็เข้าใจ มาวัดอุณหภูมิน้ำ สำนึกผิดอะไรนั้น ล้วนเป็นเรื่องเสแสร้งทั้งเพ

ความจริงแล้ว เกรงว่าคงจะเป็น......

เฉินฝานง้างมือตีทันที

“เผียะ!”

“อ้าก!” ฉินเย่ว์โหรวร้องออกมา ยันร่างขึ้นทำปากจู๋ “นายท่าน ตีข้าทำไม!”

“เจ้าคิดว่าไงล่ะ?” เฉินฝานน้ำเสียงแหบพร่า

เสื้อผ้าของฉินเย่ว์โหรวเปียกปอน ใต้แสงเทียน ผิวขาวเรียบเนียนเปล่งประกายออกมา

มองเห็นทรวดทรงองค์เอวอรชรอ้อนแอ้นได้อย่างไม่มีอะไรปิดกั้น

“คืออะไรหรือ ข้าน้อยไม่รู้เลย!” ฉินเย่ว์โหรวที่เมื่อครู่ยังเหมือนกับแกะน้อยตัวหนึ่ง ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ทันที

ตอนกลางวันเป็นเด็กน้อยที่นุ่มนวลสงบเสงี่ยม เมื่อถึงกลางคืนก็กลายร่างเป็นสาวพราวเสน่ห์ที่ยั่วยวนคน

คืนนี้คงจะลิขิตให้......

น้ำในอ่างขนาดใหญ่สาดกระเซ็นไปทั่ว

จันทราบนท้องนภาเมื่อได้เห็นก็เขินอายจนเคลื่อนย้ายไปหลบหลังเมฆา

.......

รุ่งสาง

หลังจากที่พวกสาวใช้แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เฉินฝานเปิดประตูออกไ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (6)
goodnovel comment avatar
Phongsak Pla Yookeat
นะจะลงหลายๆตอนหน่อยครับ ลงไม่กี่ตอนต่อวันแบบนี้คงได้เลิกอ่านแล้ว
goodnovel comment avatar
นนท์ ปู นัท. นนท์
ทำไมอ่านไม่ได้ละคะเสียเงินซื้อแล้ว
goodnovel comment avatar
ฌภัทชัย ทองเหลือ
สงสัยต้องเลิกอ่าน
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่425

    เฉินฝานในตอนนี้ เป็นคนสอบได้อันดับแรกสอบระดับมณฑลอำเภอผิงอัน เป็นปัญญาชั้นสูง และยังเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในอำเภอผิงอันตอนนี้อีกด้วยตามที่พวกเขาเคยรู้มา คนเช่นนี้สูงส่งยากที่จะเข้าถึง อย่าว่าแต่ทำงานร่วมกันเลย แม้แต่สบตากับพวกเขาโดยตรงก็ยังทำไม่ได้“ไม่ใช่เหยือกทรายก็เป็นถุงทราย โลกนั้นปราบโจรแบบนี้จริงๆหรือ? ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?” หลี่ซานเริ่มบ่นอีกครั้ง“พี่หลี่!” เฉินฝานที่นั่งอยู่ม้านั่งตัวเล็กกำลังใส่ทรายเข้าไปในถุงยิ้มพลางพูดว่า “แทนที่พี่จะมาบ่นอุบอิบมาช่วยกันใส่ทรายดีกว่า”ตอนที่ใกล้จะทำถุงทรายใกล้จะเสร็จแล้ว เฉินฝานให้หลี่ซานไปหาหลูเฉิงกวง เขาต้องยืมใช้สนามฝึกม้า“นี่คือ....”หลูเฉิงกวงเพิ่งจะจัดการงานหลวงของวันนี้เสร็จ ก็รีบตาลีตาเหลือกไปที่สนามฝึกม้า วันนี้ช่วงเช้าเฉินฝานวานให้หลี่ซานมายืมสนามฝึกม้าเขาที่พาทหารมา แค่ครู่เดียวก็เดาได้ว่า เฉินฝานยืมใช้สถานที่ต้องเอามาฝึกทหารแน่นอน เขาอยากจะไปดูว่าเฉินฝานจะฝึกอย่างไรในใจของหลูเฉิงกวงคิดว่าต้องเจ๋งเป้งมากแน่นอน ไม่เช่นนั้นคงจะไม่เอาแค่หนึ่งร้อยคนหรอกตอนที่เขามาถึงสนามฝึกม้าเห็นสภาพด้านในรู้สึกงงงัน ตื่นตกใจ และมีค

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 426

    “โจมตียามวิกาล?” โจวลี่เหรินลุกขึ้นยืนคนแรก “มากันมากน้อยเพียงใด?”“มองเห็นไม่ชัดเจน เหมือนว่า....” ลูกสมุนคนนั้นเค้นสมอง หน้านิ่วคิ้วขมวด “มีแค่ร้อยคน ทว่าก็เหมือนไม่ได้มีแค่นั้น เหมือนห้าหกร้อยคนมากกว่า น่าจะมากกว่านั้น คงจะหนึ่งพันคนขึ้นไป”“พลั่ก”ถ้วยสุราลอยละลิ่วใส่ลูกสมุนคนนั้น“ไอ้สถุล!” มังกรตาเดียวโมโหตวาดลั่น “มากี่คน? พวกเจ้ามองไม่ชัดกันหมดเลยหรือไร? พวกสวะ!”พวกเขาตั้งหลักปักฐานอยู่ภูเขาวิฬาร์เกือบจะสิบปีแล้ว เผชิญหน้ากับการปราบโจรมานับไม่ถ้วนนับตั้งแต่ทหารหลวงสิบคนจนไปถึงสองสามพันคนบุกโจมตียามวิกาล บุกทะลวงยามกลางวัน ฝนห่าธนู หรือถึงขั้นลอบวางเพลิง ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหน วิธีโจมตีแบบใด พวกเขาก็เคยเจอมาหมดแล้วตอนนี้มาบอกเขาว่า น่าจะหนึ่งร้อย น่าจะห้าร้อยคน และอาจจะมากกว่าพันคน นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เฉินฝานมีเวทมนตร์หรือกระไร? ครู่หนึ่งเสกคนให้เป็นหนึ่งร้อยคน อีกครู่หนึ่งกลายเป็นห้าหกร้อย อีกครู่หนึ่งก็กลายเป็นพันกว่าคนนอกจากโจวลี่เหรินแล้ว ผู้นำคนอื่นสีหน้าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เคียดแค้นอยากจะฉีกลูกสมุนคนนั้นออกเป็นชิ้นๆ“ท่าน ท่านผู้นำ มองไม่ชัดจริงๆ” ร่างกายข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 427

    “และพวกเขาก็พกถุงทรายจริงด้วย พวกเขาลงทุนขนาดนั้นมาบุกพวกเรายามวิกาล ก็คืออยากจะใช้ถุงทรายขว้างใส่พวกเราให้ตายงั้นรึ?” วานรผู้นำที่สาม พูดอย่างกลั้นขำ“ฮ่าฮ่า!” ถูซิงซุนผู้นำที่ห้า หัวเราะเสียงดังอย่างห้ามไม่ได้ “เฮ้อ พวกเราช่างอ่อนแอเกินไปเสียจริง โดนถุงทรายแค่ถุงเดียวขว้างใส่ก็ทนไม่ไหวแล้ว”“เปิดประตูค่าย!” วานรตะโกนลั่น ข้าจะไปตัดหัวพวกเขาให้ขาดวิ่น เอาไว้ให้พวกพี่น้องไปเล่นเตะบอล!”“น้องสาม ช้าก่อน!” โจวลี่เหรินรีบร้อนห้ามปราม “มันไม่ใช่เรื่องง่ายแบบนั้นแน่นอน”“ท่านโจว ท่านหวาดระแวงเกินไปแล้ว เมื่อครู่ก็เห็นอย่างชัดเจนว่ามีแค่ร้อยกว่าคน และคนพวกนั้นดูแล้วก็พวกชายหนุ่มโง่ๆที่ไม่มีประสบการณ์การรบอะไรเลย บนตัวก็แขวนทราย......”“ดับแล้ว พวกเขาดับคบไฟแล้ว”วานรยังพูดไม่ทันจบ ข้างหูก็มีเสียงตื่นตกใจดังขึ้น“ดับไฟแล้วมันอย่างไรล่ะ ใครจะไปจับเป็นกับข้า......”“วาบ”“วาบ วาบ วาบ!”“ฆ่ามัน!”“ตึงตึงตึง!”ด้านล่างของเขามีแสงคบไฟขนาดใหญ่ส่องสว่างขึ้น เสียงกลองศึกและเสียงการฆ่าฟันก็ตามมาเสียงกองกำลังนี้มีไม่ถึงพันคนอย่างน้อยก็ต้องมีเจ็ดแปดร้อยคน“เมื่อครู่ที่พวกเราเห็นพวกนั้นเป็

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 428

    ถุงทราย!แถมยังมี.....เหยือกสุรา?โจวลี่เหรินก้มตัวไปหยิบเหยือกสุราขึ้นมา เตรียมจะเปิดออก“คุณท่าน ระวังมีกับดัก!” มังกรตาเดียวปรามโจวลี่เหรินไว้ เขาเอาเหยือกสุราจากโจวลี่เหรินส่งให้ลูกสมุนข้างๆ “เปิดมันออกมา!”ตอนที่ลูกสมุนเปิดเหยือกสุราออก ทุกคนกลั้นหายใจ ลูกสมุนนั้นยิ่งกว่าหลับตาปี๋ขี้เลื่อยที่อัดปากขวดถูกลูกสมุนกระเทาะออกมา ของด้านในทะลักออกมา....ดินทรายก้อนหินเล็กๆ“ฮ่าฮ่าฮ่า!” เสียงหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังของวานรผู้นำที่สาม ดังกู่ก้องไปทั่วค่ายชิงหลง“ ดินทราย ก้อนหิน พี่ใหญ่ ท่านโจว ข้าว่าพวกท่านหวาดระแวงเกินไปแล้ว ต่อให้ปัญญาชนคนหนึ่งจะเก่งกาจแค่ไหน จะเก่งกาจกว่ากองกำลังที่นายกองหรงตูพามาเชียวหรือ?”“ฆ่ามัน!”“ตึงตึงตึง!”ด้านล่างเขาเสียงแห่งการฆ่าฟัน เสียงกลองศึกดังขึ้นอีกครั้ง“พี่น้องทั้งหลายอย่าได้หวาดกลัวไป ทหารหลวงด้านล่างมันตาขาวกว่าพวกเราอีก ที่รุดหน้ามาเป็นพวกชายหนุ่มโง่ๆที่ปัญญาชนนั้นพามาเท่านั้น” วานรวิ่งมาด้านข้างกำแพงค่ายตะโกนเสียงดัง “ออกไปฆ่าไอพวกสารเลวนั้นให้สิ้นซาก!”ในขณะเวลาเดียวกัน“เย่ว์เจียว เห็นคนนั้นหรือยัง?” เฉินฝานที่ฟุบอยู่กับพื้นชี้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 429

    โจรภูเขาที่เฝ้าป้อมสังเกตการณ์ มองด้านล่างภูเขา แล้วก็มองโจวลี่เหรินตอนนี้ด้านล่างภูเขามืดสนิท ท่านโจวมองออกได้อย่างไรว่าพวกนี้เป็นละครตบตาที่ทำให้คนสับสน มองออกได้อย่างไรว่าคนด้านล่างเขากำลังจะหนีโจวลี่เหรินเป็นกุนซือที่ฉลาดหลักแหลม มองออกได้อย่างรวดเร็ว นี่เป็นจุดที่เฉินฝานคาดไม่ถึงเหล่าโจรภูเขามักจะฝึกฝนอย่างมีประสิทธิภาพเสมอ ผนวกกับคุ้นชินกับสภาพภูมิประเทศ กองกำลังคนหนึ่งร้อยคนของเฉินฝานมีสิบกว่าคนที่หนีไม่รอดตอนที่เฉินฝานแอบชื่นชมโจวลี่เหรินว่าเป็นกุนซือที่ไม่ธรรมดา โจวลี่เหรินก็ตะลึงงันกับฝูงหุ่นไล่กาอันกว้างใหญ่ด้านหน้าเขาบนตัวหุ่นไล่กาทุกตัวมีคบไฟสามสี่ท่อนเสียบอยู่ไม่แปลกที่ลูกสมุนบนป้อมสังเกตการณ์จะแยกไม่ออกว่ามากันกี่คนเพราะเฉินฝานสั่งให้คนจุดคบไฟแต่ละครั้งไม่เท่ากันนี่เป็นยุทธวิธีที่มักจะใช้ในการทำให้คนสับสนในสนามรบ เฉินฝานเป็นแค่ปัญญาชนคนหนึ่งเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไรกัน?โจวลี่เหรินเคยส่งคนไปสะกดรอยตามเฉินฝาน ตั้งแต่เฉินฝานเกิดจนถึงตอนนี้ ไม่เคยได้ออกจากอำเภอผิงอันเลยอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับยุทธวิธีการสู้รบยิ่งเป็นไม่ได้ไปใหญ่จักรพรรดิที่ก่อตั้งรา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 430

    “มาดูว่าพวกเราจะสู้กับเขาอย่างไร?”มังกรตาเดียวและถูซิงซุนพูดพร้อมกัน สายที่มองไปที่โจวลี่เหรินทั้งสงสัยและประหลาดใจ“มาบุกกลางคืนดึกดื่นเพื่อที่จะมาดุว่าพวกเราจะสู้กับเขาอย่างไร?” ถึงแม้จะไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจ ทว่ามังกรตาเดียวรู้สึกว่าโจวลี่เหรินยิ่งออกทะเลไปไกลดูสิ่งที่เขาพูดพวกนี้สิ เฉินฝานบ้าหรือโง่มาบุกโจมตีตอนกลางค่ำกลางคืน“คุณท่าน เมื่อครู่ท่านไม่ได้ดื่มเยอะไปใช่ไหม” ถูซิงซุนเองก็รู้สึกว่าโจวลี่เหรินกำลังพูดจามั่วซั่ว“พี่ใหญ่ น้องห้า คุณท่านไม่ได้ดื่มเยอะไป ที่เขาพูดถูกต้องแล้ว เฉินฝานนั้นมาดูว่าพวกเราจะโจมตีเขาอย่างไรจริงๆ ตอนที่สู้รบกัน สองกองทัพเผชิญกัน มักจะมีการส่งกองกำลังที่ยอดเยี่ยมมาแกล้งโจมตีเพื่อสำรวจจุดอ่อนจุดแข็งของศัตรู” โจวอวี่กล่าวแตกต่างจากมังกรตาเดียวกับถูซิงซุนโจวอวี่กับโจวลี่เหริน คนหนึ่งเป็นเทพยิงธนู คนหนึ่งเป็นกุนซือ ล้วนเคยอยู่ในกองทัพ และเคยไปต่อสู้ในสนามรบสำหรับสาเหตุที่ว่าเหตุใดพวกเขาสองคนตกต่ำจนต้องกลายเป็นโจร ก็ไม่ทราบเช่นกัน“สำรวจจุดอ่อนจุดแข็งของศัตรู? คิดไม่ถึงเลยว่าปัญญาชนคนหนึ่งอย่างเขาจะมีแนวคิดและยุทธวิธีเช่นนี้”สีหน้าของมังก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 431

    “อื้ม!” โจวอวี่พยักหน้า “มองเช่นนี้ ฝีมือของปัญญาชนคนนี้เก่งกาจยิ่งกว่านายกองของหรงตูคนนั้นเสียอีก”“เก่งกาจเพียงใดแล้วอย่างไร? สุดท้ายคุณท่านของเราก็มองทะลุปรุโปร่ง!” ถูซิงซุนภาคภูมิใจมาก“มีคุณท่านอยู่ เป็นโชคดีของภูเขาวิฬาร์ ขอบคุณคุณท่าน!”มังกรตาเดียวโน้มตัวคำนับโจวลี่เหริน ถูซิงชุนก้มคำนับตาม“ขอบคุณคุณท่าน!”พี่ใหญ่และพี่ห้าคำนับขอบคุณแล้ว แน่นอนว่าโจรภูเขาด้านหลังก็ย่อมก้มคำนับตามโจวลี่เหรินลูบหนวดเครา ยืนอยู่ตรงนั้นเขาดื่มด่ำกับความรู้สึกได้รับความเคารพนับถือเช่นนี้ยิ่งนักนี่เป็นเหตุผลว่า เหตุเขาจึงขึ้นมาบนเขาวิฬาร์เมื่อก่อน...ภาพสิ่งที่ต้องเผชิญในค่ายทหารฉายขึ้นมาในความคิดของโจวลี่เหริน สีหน้าของเขาฉายความร้ายกาจข้า จะทำให้พวกเจ้าเสียใจ“คุณท่าน ตอนนี้ข้าจะสั่งให้คนใช้ก้อนหินก่อกำแพงให้สูงขึ้น บ้านในค่ายที่ยังเป็นหลังคาหญ้าคา ข้าจะสั่งให้คนเปลี่ยนเป็นหลังคากระเบื้อง ข้าดูสิว่าเฉินฝานจะเผาอย่างไร” มังกรตาเดียวพูดโจวลี่เหลินโบกมือ พูดด้วยความทระนง “ไม่ต้อง!”“เพราะเหตุใดขอรับ? เมื่อครู่ท่านเพิ่งบอกว่าเฉินฝานอยากเผาพวกเราให้ตายไม่ใช่หรือ?” สีหน้าของมังกรตาเด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 432

    ด้วยวิถีของภูเขาวิฬาร์ บวกกับตอนนี้การเผชิญหน้าของพวกเขาอยู่ท่ามกลางสายตาของผู้คน ทั้งสิบเจ็ดคนที่ถูกจับ เฉินฝานเชื่อว่าพวกเขาไม่อาจมีชีวิตรอดกลับมาแล้วเฉินฝานบอกให้เฉินเย่ว์โหรวเตรียมเงินหนึ่งพันเจ็ดร้อยตำลึง รวมถึงข้าวสารและบะหมี่แห้ง กล่าวขอโทษครอบครัวของทั้งสิบเจ็ดคนในคืนนั้นด้วยตนเองทั้งหนึ่งร้อยคนที่เขารับสมัครมานี้ บ้านอยู่ที่ไหน สมาชิกในครอบครัวมีใครบ้าง เฉินฝานจำได้เป็นอย่างดีในยุคปัจจุบัน ค่ายทหารที่เฉินฝานอยู่ ผู้บัญชาการทุกคนต้องจำสถานะครอบครัวของทหารทุกคนได้ ด้วยวัฒนธรรมค่ายทหารอันใส่ใจนี้ ทำให้ค่ายทหารที่เขาอยู่กลายเป็นทหารมากความสามารถหนึ่งปีก่อนทะลุมิติ เฉินฝานขึ้นเป็นผู้บัญชาการ ดังนั้นเขาจึงติดนิสัยนี้มาด้วยดีกว่าที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ ครอบครัวของทั้งสิบเจ็ดคน ตอนได้ยินว่าลูกชายของพวกเขาถูกโจรภูเขาวิฬาร์จับตัวไป พวกเขาไม่ร้องไห้และโวยวายแต่อย่างใด สามารถยอมรับความจริงข้อนี้ได้ตรงกันข้าม ตอนเฉินฝานมอบเงินหนึ่งร้อยตำลึง ข้าวสารและบะหมี่นั้น พวกเขาตกใจเล็กน้อย กล่าวขอบคุณไม่หยุด“คิดไม่ถึงจริงๆ พวกเขากลับยังกล่าวคำขอบคุณ”หลังจากมอบเงิน ข้าวสารและบะหมี่ให้ทั

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status