แชร์

บทที่ 298

ผู้แต่ง: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เพียงครู่เดียว

ชายชราในชุดขาวก็เดินมาถึงตรงหน้าเฉินฝาน

เฉินฝานมองชายชราที่ฉีกยิ้มและยืนอยู่ตรงหน้าเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า

วันนี้ชายชราขาวทั้งตัวจริง ๆ เสื้อสีขาว เคราสีขาว ผมสีขาว ใบหน้าก็ล้างอย่างขาวสะอาด

กับหลายครั้งก่อนหน้านี้ เสื้อผ้าลินินสีเทาทั้งตัว รูปลักษณ์เปรอะเปื้อนต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ชายชราลูบเคราเบา ๆ และยืนตรงนั้นท่าทางได้ใจเล็กน้อย

เขากำลังรอให้เฉินฝานกล่าวชื่นชม

เพราะว่า ปกติถ้าเขาแต่งตัวแบบนี้ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คน…...

“ทำไม ฟ้ายังไม่มืดสนิท ท่านก็แต่งตัวเป็นผีมาหลอกคนแล้วรึ?”

“นี่ข้า......”

ชายชราเบิกตากว้างราวกับตาวัว สองมือขยับมือขึ้นลงบนตัวไม่หยุด “เห็นอยู่ว่ามีความลอยล่องดุจเทพเซียน!”

“เทพเซียนมองไม่ออก แต่ลอยล่องนั้นคล้ายอยู่พอสมควร!”

“พรวด!”

คนใช้ที่อยู่ข้างชายชราอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงหัวเราะ

“ตลกมากไหม?” ชายชราหันศีรษะและจ้องเขม่น

คนใช้ส่ายหัวไม่หยุดและกล่าวน้ำเสียงคลุมเครือ “ไม่ตลกขอรับ”

“แล้วเมื่อครู่เจ้าหัวเราะอะไร?”

“เปล่าขอรับ ข้าคันปาก เลยส่งเสียงออกมาอย่างอดไม่ได้ขอรับ”

“คันปาก? ข้าว่าเจ้าคันผิวหนังนะ”

ทันใด ชายชราพลันก้มถอดรองเท้าของตนเองแล
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 299

    “มีจดหมายจากบ้านเกิดขอให้ข้ากลับไป!”เมื่อพูดถึงบ้านเกิด ชายชราไม่ยิ้มทะเล้นอีกต่อไป สายตาอันแหลมคมแวบผ่านไปเฉินฝานจับได้พอดีคงมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นที่เมืองหลวงมีการรุกรานจากศัตรู? มีผู้ทรยศก่อความวุ่นวาย? มีภัยพิบัติเกิดขึ้น?เหอะ!เฉินฝานเยาะเย้ยตนเองตอนนี้เขาเป็นแค่ถงเซิงคนหนึ่ง สถานะสูงกว่าชาวบ้านทั่วไปเล็กน้อยเท่านั้นเรื่องของบ้านเมือง เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเล่า“เกี่ยวอะไรกับข้าล่ะ? ข้าไม่ใช่พ่อท่านเสียหน่อย ท่านจะไปไหนไม่ต้องมารายงานข้าหรอก”คนใช้ที่ยืนข้าง ๆ เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเฉินฝานก็รู้สึกมีเลือดพุ่งขึ้นศีรษะโธ่เอ๋ยสะใจจริง ๆเขาอยากพูดกับชายชราแบบนี้ถึงกระทั่งเก็บไปฝันเอ่อ......เขาก็พูดได้แต่ในฝันเท่านั้นแหละขนาดนี้แล้วชายชราคงทนไม่ไหวแล้วสิทนไม่ไหวก็มีประโยชน์ คนใช้แอบตัดสินใจช่วยเฉินฝานไปแล้วช้าก่อน คำพูดที่ชายชราสั่งให้เขาสั่งสอนเฉินฝาน เขาคงไม่สั่งสอนจริง ๆ หรอกกระมัง“ข้า......”ชายชราแสดงหน้าเศร้าโศกคนใช้ถูกโจมตีอย่างหนักอีกครั้ง คำพูดของเฉินฝาน ไร้ความปรานีมากถึงเพียงนั้น จนเขาคิดว่าชายชราจะโมโห ต่อให้ไม่โมโหอย่างรุนแรง แต่ก็น่าจะโมโ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 300

    “เย่ว์โหรว”เฉินฝานเรียกฉินเย่ว์โหรวที่อยู่ไกลเขามากที่สุดให้ปูผ้าห่มให้เขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาดวงตาคู่งามของฉินเย่ว์โหรวมองขึ้นมาแล้วตกลงบนตัวเฉินฝานไม่ถึงหนึ่งวินาที นางก็ก้มศีรษะลงทันที “ข้าน้อยอยู่เจ้าค่ะ นายท่านมีอะไรจะรับสั่งหรือเจ้าคะ?”ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียงหรือกิริยาท่าทาง ก็ล้วนไม่มีที่ติเพียงแต่......เฉินฝานรู้สึกได้ถึงความผิดปกติสุภาพมากเกินไป ไม่เหมือนสามีภรรยา แต่เหมือนสาวใช้ที่คอยรับใช้เขามากกว่ายอมจำนน แต่ทำตัวห่างเหินฉินเย่ว์โหรวเคยปฏิบัติกับเขาเช่นนี้มาก่อน ตอนนั้นเขาเพิ่งข้ามมิติมาที่นี่และเจ้าของร่างเดิมขายนางให้กับหอนางโลมอี๋ชุนย่วนนางในเวลานั้น ทั้งไม่พอใจ เกลียดชังและกลัวเขา นางปฏิบัติเช่นนั้นย่อมเป็นเรื่องปกติแต่ตอนนี้......เฉินฝานพยายามทบทวนทุกสิ่งที่เขาทำและคำพูดที่กล่าวออกไป ก่อนที่เขาเดินทางออกไปสอบขุนนาง รวมถึงสิ่งที่ทำไปหลังจากกลับมาถึงยิ่งคิดก็ยิ่งสับสนงุนงงเขาไม่เคยล่วงเกินฉินเย่ว์โหรวและไม่เคยพูดรุนแรงใด ๆ กับนาง“นายท่าน ท่านมีอะไรจะรับสั่งข้าน้อยหรือไม่เจ้าคะ?”เมื่อเห็นเฉินฝานไม่ส่งเสียง ฉินเย่ว์โหรวจึงถามอีกครั้ง“เอ่อ......”

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 301

    ฉินเย่ว์โหรวนับว่าเป็นคนที่หลับง่ายที่สุดในบรรดาสามพี่น้องตระกูลฉิน อีกทั้งท่าทางของนางก่อนหลับและหลังหลับก็ช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงนางเป็นคนที่สะดุ้งตื่นกลางดึกน้อยมาก แต่ท่านอนของนางกลับไม่เข้าท่าเอาเสียเลย นางมักจะชอบถีบผ้าห่ม หลังจากที่เฉินฝานข้ามมิติมา เขาต้องคอยหมั่นเข้ามาช่วยห่มผ้าให้นางอย่างน้อยหนึ่งถึงสองครั้งในทุกวันแต่ตอนนี้นางกลับไม่อยู่บนเตียงนางไปไหน? เกิดอะไรขึ้นเฉินฝานรีบกระโดดลงจากเตียงและวิ่งออกไปท้องฟ้ายามราตรีในคืนนี้ค่อนข้างมืดเป็นพิเศษ ไม่มีแม้แต่แสงดวงดาว ภายในลานกว้างก็มืดสนิท มองไม่เห็นอะไรเลยเฉินฝานวิ่งเข้าไปในครัวเป็นที่แรกแต่ภายในครัวกลับเงียบสงัด นอกจากหม้อและกระทะแล้วก็ไม่มีร่างเงาของฉินเย่ว์โหรวเลยสักนิดเฉินฝานวิ่งไปยังเล้าไก่นอกจากห้องครัวแล้ว สถานที่ที่ฉินเย่ว์โหรวมักจะชอบไปอยู่บ่อยครั้งก็คือเล้าไก่พี่น้องตระกูลฉินชอบกินไก่ที่สุด ในบ้านจะมีการฆ่าไก่เป็นประจำ แต่ในช่วงแรกที่เฉินฝานกลับมาจากการล่าสัตว์บนภูเขาหัวเสือพร้อมกับไก่ป่าที่เขาบอกว่าจะให้มันฟักไข่ออกมาไว้บำรุงร่างกายฉินเยว์โหรวตัวนั้น นางสั่งห้ามฉินเย่ว์เจียวฆ่ามันเด็ดขาดฉิน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 302

    “อ่า?”เฉินฝานมองเด็กสาวที่กำลังเมามายตำหนิเรื่องที่เขาไม่อยากอยู่กับนางในอ้อมกอดของตัวเอง ในใจของเขาตอนนี้ทั้งโกรธทั้งจนปัญญา อีกทั้งความโกรธนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเรื่องเดียวที่แท้ ที่นางตีตัวออกห่างเขาเป็นเพราะความหึงหวงนี่เองก็ว่าอยู่ เพราะก่อนที่เขาจะส่งครอบครัวของเฉินผิง นางยังดี ๆ อยู่เลย พอเขาหันกลับมา นางก็เปลี่ยนไปทันทีคาดว่าในระหว่างที่เขาส่งครอบครัวของเฉินผิง ฉินเย่ว์เจียวและนางกันคุยเรื่องของเถียนเสี่ยวอวี่แต่...ความหึงหวงของเด็กสาวคนนี้ดูออกได้อย่างชัดเจน ราวกับคนขี้หึง หลังจากโดนกระทำจนตัวเองแตกเป็นเสี่ยง ๆนางจึงได้ลุกขึ้นมาดื่มเหล้ากลางดึกเช่นนี้“เหลวไหล!”เฉินฝานใช้นิ้วดีดหัวของฉินเย่ว์โหรวเสียงดัง “ทำไมข้าจะไม่ต้องการเจ้าเล่า สมองกลวง ๆ ของเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่?”เขาแค่คิดว่านางยังเด็กเกินไป อยากรอให้นางโตกว่านี้หน่อยก็เท่านั้นเขาไม่อยากให้นางตกอยู่ในอันตราย จึงพยายามข่มความคิดที่อยากได้ตัวนางเอาไว้เพราะยังเด็กนี่ไง ตอนนี้เฉินฝานจึงยังไม่อยากให้นางตั้งท้องเขาข้ามมิติมา ในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน มีหญิงสาวลาจากโลกนี้ไปในขณะคลอดลูกถึงสองคนแล้วเนื่อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 303

    “อื้อ....”ฉินเย่ว์โหรวที่ถูกโอบเอว ถือโอกาสตอนที่ถูกดึงตัวกลับมาใช้ปากประกบปากของเฉินฝานทันที“นายท่าน”เมื่อเห็นเฉินฝานนิ่งไม่ขยับ ความกล้าหาญของฉินเย่ว์โหรวก็ยิ่งทวีคูณริมฝีปากที่อ่อนนุ่มและหนุบหนับของนางขยับอยู่บนริมฝีปากของเฉินฝาน“นายท่านไม่ชอบโหรวเอ๋อร์จริง ๆหรือเจ้าคะ? แต่ตอนนี้โหรวเอ๋อร์ชอบนายท่านมากจริง ๆ นะเจ้าคะ”“นายท่าน ข้าไม่ได้แสนดีเหมือนกับพี่เถียน พี่เถียนเป็นบุตรสาวจากครอบครัวที่มั่งคั่ง มีการศึกษาและสุภาพ ส่วนข้าก็แค่หญิงสาวชาวไร่ ข้า....”เฉินฝานเชยคางของฉินเย่ว์โหรวขึ้น ให้นางและเขาได้สบตากัน “ต่อไปห้ามเจ้าพูดว่าตัวเองเช่นนี้อีก เข้าใจไหม? ในใจของข้า พวกเจ้าทุกคนเหมือนกัน ทุกคนเป็นภรรยาของข้า ไม่มีแบ่งแยกสูงหรือต่ำ”“เช่นนั้นทำไมนายท่านถึงไม่ต้องการข้า?”ภายใต้แสงไฟสีเหลืองเรืองรองจากตะเกียง ใบหน้าที่งดงามของฉินเย่ว์โหรวนั้นดูมัวหมอง ผิวพรรณที่ซีดขาวจู่ ๆ ก็ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อคล้ายดอกกุหลาบสีสันสดสวยแพรวพรายภายใต้การฉีดน้ำใครเห็นแล้วไม่อยากกัดบ้าง“ใครบอกว่าข้าไม่ต้องการเจ้า!” มือของเฉินฝานลูบไล้อยู่บนแผ่นหลังของฉินเย่ว์โหรว จากนั้นก็กล่าวด้วยน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 304

    ผู้ที่สอบได้คะแนนสูงสุดระดับมณฑล อย่าว่าแต่จะเป็นอันดับต้นของหมู่บ้านซานเหอในรอบหนึ่งร้อยปีเลย ทั้งยังเป็นอันดับต้นในรอบหนึ่งร้อยปีของตำบลหลีผิงด้วย คนที่มาแสดงความยินดี ไม่เพียงแต่มาจากหมู่บ้านซานเหอเท่านั้น ยังมาจากแคว้นและเมืองที่อยู่รอบ ๆ หมู่บ้าน ไปจนถึงในตัวเมืองของอำเภอผิงอันอีกด้วยสรุปโดยประมาณได้ว่า นอกจากคนที่ดำรงตำแหน่งขุนนางอยู่ในอำเภอผิงอันเพียงไม่กี่คนที่ไม่ได้มา คนอื่น ๆ ที่ทั้งรวยทั้งมีตำแหน่งต่างก็มาแสดงความยินดีทั้งสิ้นบ้างก็อยากมาประจบประแจงเฉินฝาน บ้างก็อยากมาดึงตัวเฉินฝานไปเป็นพวก แต่โดยส่วนใหญ่ล้วนอยากรู้อยากเห็นทั้งนั้นถึงอย่างไรเฉินฝานก็โด่งดังเพราะกลอนคู่ ‘หมาโสด’ บทนั้น แม้แต่ลายมือของเขาก็ยังสู้เด็กน้อยอายุสามสี่ขวบไม่ได้ เรื่องที่เขาสอบได้อันดับรั้งท้ายของอำเภอจึงดังกระฉ่อนไปทั่วเมืองคนที่ดังกระฉ่อนไปทั่วผู้นี้สอบได้คะแนนสูงสุดใครบ้างจะไม่สงสัย ทุกคนถึงได้พากันไปมุงดูว่าเฉินฝานมีหน้าตาอย่างไรเฉินฝานสอบติดอันดับต้น ๆ คนที่ตื่นเต้นที่สุดก็คงหนีไม่พ้นหลี่เจิ้งและมั่วหงเหวินจากตำบลหลีผิงเขาเพิ่งได้รับการเลื่อนขั้น นักศึกษาในตำบลของเขาต่างก็สอบไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 305

    ดูเหมือนว่าความสุขของเฉียนเจิ้งหยางและความสุขของเศรษฐีอย่างมั่วหงเหวินนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในที่สุดเขาก็กลับมามีความสุขได้อีกครั้งหลังจากที่อึดอัดมาหลายปีก่อนงานเลี้ยงจะเริ่มขึ้น ในตอนที่อยู่ในบ้านของเฉินฝาน เฉียนเจิ้งหยางที่มีอายุเกินห้าสิบปีแล้วยังคงจับมือของเฉินฝานด้วยความตื้นตันจนน้ำตาไหลเขายังคงพร่ำพูดไม่หยุด "มันไม่ง่ายเลย มันไม่ง่ายเลยจริงๆ"ก่อนหน้าของเฉินฝาน มีเพียงเฉียนหย่งหนิงจากหมู่บ้านซานเหอคนเดียวเท่านั้นที่สอบผ่านระดับต้น ทั้งยังสอบแค่พอผ่านอันดับล่างขึ้นมาเท่านั้นผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านโดยรอบต่างเยาะเย้ยเฉียนเจิ้งหยางมาหลายปีแล้ว พวกเขาขบขันที่เขายอมจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อเชิญท่านอาจารย์เฉียนมาสอนในหมู่บ้าน แต่ถึงอย่างนั้นเหล่าชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านซานเหอก็ยังคงไร้ประโยชน์เช่นเดิมต่อมาหลังจากที่นักพรตจากวัดซานชิงกวนทำนายว่าเฉินเจียงจะได้กลายเป็นทายาทตระกูลสูงศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้านในหมู่บ้านโดยรอบพยายามกลั้นขำและเก็บการที่มีต่อเฉียนเจิ้งหยางแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นถึงอย่างไรทุกคนต่างก็รู้ดีว่าคำทำนายของนักพรตซานชิงกวนไม่มีทางเป็นเรื่องโกหกข่าวที่เฉินฝานสอบได้ค

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 306

    “เสี่ยวฝาน จะเริ่มงานเลี้ยงตอนนี้ก็เร็วไปหน่อย นักเรียนด้านล่างก็รอคอยให้เจ้าแบ่งปันนิสัยและจิตสำนึกในการเรียนหนังสือให้กับพวกเขา”ที่จริงแล้วมั่วหงเหวินไม่อยากให้เฉินฝานพูดอะไรมากมาย ทว่าเป็นตัวเขาเองที่อยากพูดเยอะๆหลี่เจิ้งมั่วหงเหวินไม่อยากเริ่มงานเลี้ยงเร็วขนาดนั้น รู้สึกว่าตัวเองยังไม่ได้พูดอะไรเลย งานแบบนี้ ในฐานะที่เขาเป็นหลี่เจิ้ง การพูดในงานจะขาดไปได้อย่างไรกัน ถ้าเป็นคนธรรมดา ต้องตามใจมั่วหงเหวินอย่างแน่นอนทว่าคนที่ยืนอยู่ด้านหน้ามั่วหงเหวินไม่ใช่คนอื่น เป็นเฉินฝาน“ใต้เท้า”เฉินฝานเกาหัวด้วยสีหน้าเหยเก “เมื่อวานข้าเคลิบเคลิ้มกับการอ่านหนังสือ อ่านจนฟ้าเกือบสว่าง สูบพลังไปค่อนข้างมาก ตอนนี้... ”เฉินฝานลูบท้องตัวเองเบาๆอย่างเหนียมอายผู้ใหญ่บ้านเฉียนเจิ้งหยางพยักหน้าเงียบๆอยู่ด้านข้าง เมื่อครู่ตอนที่เฉินฝานเสนอให้เริ่มงานเลี้ยงก่อนกำหนด เขายังรู้สึกร้อนรนอยู่ในใจเจ้าเด็กคนนี้จะว่าฉลาดก็ฉลาด ทว่าในด้านการรู้ทันโลกจะขาดแคลนไปเสียหน่อยตอนนี้เขาคือผู้ที่สอบได้คะแนนสูงสุด เป็นถงเซิงไม่ผิดแน่ ทว่าคนอยู่ด้านหน้าเขาคือหลี่เจิ้งถึงแม้หลี่เจิ้งจะเป็นขุนนางผู้น้อย ทว

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status