แชร์

บทที่ 193

ผู้แต่ง: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เฉินเย่ว์ฉู่ก้าวเท้าเล็กๆ เดินมาใกล้เฉินฝานช้าๆ

เฉินฝานยื่นมือไปลูบผมของนาง “สุภาพบุรุษขยับปากไม่ลงไม้ลงมือ อ่านตำรากับข้าไม่กี่เล่ม วันหน้าพวกเขาก็ไม่อาจพูดชนะเจ้าได้แล้ว”

“แต่ข้าไม่ใช่สุภาพบุรุษ ข้าเป็นสตรีเจ้าค่ะ”

“สตรีก็ไม่ได้เหมือนกัน!” เฉินฝานเกือบจะโมโห เด็กน้อยคนนี้เถียงคำไม่ตกฟาก

“เจ้าค่ะ นายท่าน เสียวฉู่สำนึกผิดแล้ว” รู้ว่าเฉินฝานโมโหแล้วจริงๆ ฉินเย่ว์ฉู่ค่อยก้มหน้ายอมรับความผิด หลังจากนั้นนั่งอ่านหนังสือข้างเฉินฝานอย่างว่าง่าย

ค่ำคืน ฉินเย่ว์โหรวถามเฉินฝาน

“นายท่านเจ้าคะ นายท่านไปสำนึกศึกษา ถึงเวลาจะเข้าร่วมการสอบขุนนางหรือไม่เจ้าคะ?”

“อื้ม...”

เรื่องนี้เฉินฝานไม่เคยคิดมาก่อนจริงๆ เขาไปสำนักศึกษา แค่เพราะอยากปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยนี้

เห็นเฉินฝานเงียบอยู่นานไม่ตอบคำถามของตน ฉินเย่ว์โหรวจึงพูดอีก “การสอบขุนนางไม่ใช่เรื่องง่าย คนส่วนมากสอบไม่ผ่าน แม้สอบไม่ผ่าน ท่านก็เป็นนายท่านที่แสนดีของพวกข้า”

เฉินฝานเข้าใจ ฉินเย่ว์โหรวคิดว่าเขากดดัน จึงปลอบใจเขา

“อ่อ! จากที่เจ้าพูด หากข้าสอบผ่านเช่นนั้นก็ไม่ใช่นายท่านที่แสนดีของพวกเจ้าแล้วสิ? หากข้าสอบผ่าน ข้าจะไปรับภรรยาคนให
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 194

    “นายท่าน วันนี้...”ฉินเย่ว์เจียวเดินเข้ามากะทันหัน“ข้า...”ฉินเย่ว์เจียวรีบหมุนตัวหันหลังเดินออกไป พร้อมกับลากฉินเย่ว์ฉู่ที่กำลังจะเดินเข้ามาในห้องออกไป“พี่สาม เกิดเรื่องอะไรขึ้นเจ้าคะ เหตุใดพี่ไม่ให้ข้าเข้าห้อง?”“เจ้าสกปรกเช่นนี้ ต้องล้างหน้าล้างตัวก่อนค่อยเข้าไป”“พี่สาม ข้าล้างแล้วเจ้าค่ะ”“ล้างไม่สะอาด ไปล้างอีก!”“…พี่สี่!” ฉินเย่ว์ฉู่ร้องเรียกคนที่วิ่งผ่านนางไป “ท่านจะไปไหนเจ้าคะ?”“ข้า ข้าจะไปล้างหน้าแปรงฟัน”ฉินเย่ว์เจียวอยากให้เวลาส่วนตัวกับฉินเย่ว์โหรวและเฉินฝาน แต่ฉินเย่ว์โหรวหน้าบางเกินไป นางจะกล้าทำได้อย่างไร อาศัยตอนที่เฉินฝานถูกฉินเย่ว์เจียวขัดจังหวะ ผลักเฉินฝานแล้ววิ่งออกไป“ล้างหน้าแปรงฟันก็ล้างหน้าแปรงฟันสิ ท่านวิ่งเร็วขนาดนี้ทำไมเจ้าคะ? กลัวข้าแย่งท่านหรือ?”เห็นฉินเย่ว์โหรวไม่ตอบคำถาม ฉินเย่ว์ฉู่ส่ายหน้า หันไปหาฉินเย่ว์เจียว “พี่สาม ท่านว่าข้าควรไปล้างอีกหรือไม่?”“ไม่ต้องล้างแล้ว”ฉินเย่ว์เจียวหงุดหงิดยิ่งนัก หากไม่ใช่เพราะนางบุ่มบ่ามเกินไป...เฮ้อ!ฉินเย่ว์เจียวเคาะศีรษะตนเองฉินเย่ว์เจียวที่เข้าไปในห้องอีกครั้ง ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น อุ้มผ้าห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 195

    “อื้ม!” เฉินฝานถือขนมปังหนึ่งอัน เดินออกมาจากห้องครัว “เย่ว์เจียวรอก่อน ข้ากลับไปเอาพวกพู่กันและหมึกดำก่อน”“นายท่าน ไม่ต้องไปแล้วเจ้าค่ะ” ฉินเย่ว์เจียวตบกระเป๋าสะพายบนหลัง “ของที่ใช้ในสำนึกศึกษาของท่านอยู่ในนี้หมดแล้ว”“เอ๋?”เฉินฝานจ้องมองกระเป๋าสะพายที่ฉินเย่ว์เจียวสะพาย สิ่งนี้คล้ายกับที่เขาเห็นในโทรทัศน์ยุคปัจจุบันคล้ายกับที่ฉวี่เซียน หนิงไช่เฉินสะพาย“เย่ว์เจียว เจ้าเอาสิ่งนี้มาจากไหน”ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจะเรียนหนังสือ ดังนั้นไปร้านหนังสือหลายรอบก็ไม่เคยคิดจะซื้อสิ่งนี้“นายท่าน ท่านจำไม่ได้อีกแล้วหรือเจ้าคะ นี่ไม่ได้เรียกว่าสิ่งนี้ เรียกว่ากระเป๋าสะพายเจ้าค่ะ”กระเป๋าสะพาย โดยทั่วไปสานจากไม้ไผ่ เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับเก็บตำรา พู่กันและหมึกของปัญญาชนในยุคโบราณ คล้ายกระเป๋าของนักเรียนในยุคปัจจุบันฉินเย่ว์โหรวถือตะกร้าไม้ไผ่เดินออกมาจากห้องเก็บเสบียงอาหาร เรือนร่างและอุปนิสัยของนางเหมือนกัน บอบบางและอ่อนช้อยนางเดินมาถึงตรงหน้าเฉินฝาน “กระเป๋าสะพายนี้พี่อวิ๋นอิงเอามาให้เจ้าค่ะ นางบอกว่าพี่หย่งเหนียนมีหลายใบแล้ว ทั้งยังบอกว่านายท่านเข้าเรียนกะทันหัน ที่บ้านต้องไม่มีก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 196

    “เสียวฉู่ของเราวิ่งเร็วแบบนี้ สูงขึ้นแล้วหรือเปล่า?” เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่วิ่งมาหาเขาด้วยความเอ็นดู“สูงขึ้นแล้วเจ้าค่ะ!” ฉินเย่ว์เจียวที่ยืนมองอยู่ข้าบๆ พยักหน้า “ตอนนี้เสียวฉู่สูงถึงเอวนายท่านแล้ว”“อื้ม ข้าเองก็รู้สึกว่าสูงขึ้นเหมือนกัน”เฉินฝานและฉินเย่ว์เจียวบอกว่าฉินเย่ว์ฉู่สูงขึ้นแล้ว ฉินเย่ว์ฉู่ดีใจจนยิ้มกว้างระหว่างทาง ฉินเย่ว์ฉู่ที่กระโดดโลดเต้นอยู่นั้น จู่ๆ ก็พูดขึ้น “วันนี้ข้าพบว่า แม้ปกตินายท่านจะเก่งกาจ แต่นายท่านกลัวพี่สี่”“เสียวฉู่ เงียบเดี๋ยวนี้” ฉินเย่ว์เจียวพูดเสียงดังร้องปรามฉินเย่ว์ฉู่ฉินเย่ว์เจียวทำให้ฉินเย่ว์ฉู่ตกใจจนตัวสั่น ตัวนางเองก็ตกใจเช่นเดียวกันจริงด้วย นางลืมไปได้อย่างไร การบอกว่าบุรุษกลัวภรรยาของตนเองเป็นข้อห้ามใหญ่“เย่ว์เจียว อย่าทำให้เสียวฉู่ตกใจ” เฉินฝานรีบพูด “เสียวฉู่พูดถูก ข้ากลัวเย่ว์โหรวจริงๆ”“พวกเรารีบไปกันเถอะ!” เฉินฝานเร่งสองพี่น้อง “ขืนยังไม่ไปอีกก็จะสายแล้วจริงๆ ประเดี๋ยวกลับไปเย่ว์โหรวจะดุพวกเราอีก”ฉินเย่ว์เจียวมองแผ่นหลังเหยียดตรงของเฉินฝาน พูดพึมพำ “ท่านไม่ได้กลัว เห็นชัดว่ารักต่างหาก”ยิ่งใกล้สำนักศึกษา ก็ยิ่งเห็นคนส

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 197

    “เสี่ยวฝาน” เฉียนหย่งเหนียนมองเฉินฝานด้วยความประหลาดใจ “เหตุใดเจ้าจึงถามเช่นนี้? เจ้าใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาโดยตลอดไม่ใช่หรือ?”“อ่อ!” เฉินฝานเกาศีรษะเล็กน้อย “พี่หย่งเหนียน เมื่อวานพวกจูต้าอันบอกว่าข้าเปลี่ยนไปแล้วไม่ใช่หรือ? พวกเขาพูดถูก ข้าเปลี่ยนไปแล้ว ข้าลืมเรื่องในอดีตไปมากมาย”“เช่นนี้...ก็ดีเหมือนกัน!” เฉียนหย่งเหนียนตบไหล่เฉินฝาน “จำตนเองในอดีตไม่ได้ก็ดีเหมือนกัน!”เฉินฝานในอดีตไม่เหมือนคนเลย“ข้าได้ยินท่านพ่อบอกว่า ถึงรุ่นของเรา ทารกชายก็เริ่มน้อยลง โดยเฉพาะหลายปีนี้ยิ่งร้ายแรง ดังนั้น...”เฉียนหย่งเหนียนชี้ไปยังภรรยาที่ยืนรอสามีด้านนอกท่ามกลางลมหนาว “ราชสำนักจึงจัดสรรภรรยาให้พวกเขา อีกทั้งเมื่อได้ลูกชายก็จะมีรางวัลให้”“เรื่องนี้ข้ารู้แล้ว ทารกชายให้กำเนิดน้อย มีเพียงต้าชิ่งของเราที่เป็นเช่นนี้หรือขอรับ? แคว้นรอบๆ มีสถานการณ์เช่นนี้หรือไม่” เฉินฝานถาม“แคว้นโดยรอบก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เพียงแต่ไม่รุนแรงเท่าแคว้นต้าชิ่งของเรา ก็เพราะแบบนี้!”ขณะพูด เฉียนหย่งเหนียนกำหมัดแน่น“แคว้นโดยรอบโจมตีอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ต้าชิ่งของเราสูญเสียหลายเมือง และเพราะแบบนี้” เฉียนหย่งเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 198

    เฉินฝานกำลังตั้งใจแยกแยะขนของพู่กัน ไม่ทันสังเกตว่าพวกปัญญาชนพูดอะไร รู้สึกคล้ายมีคนกำลังมองเขา เขาจึงเงยหน้าขึ้นยิ้มบางๆ แล้วพยักหน้าให้พวกปัญญาชน“ฮ่าๆ เห็นไหม พวกเรากำลังว่าเขา แต่เขากลับส่งยิ้มให้พวกเขา โง่เขลาจริงๆ”“ฮ่าๆ เป็นบ่อเกิดของความสุขจริงๆ เก็บเขาเอาไว้เถอะ”“ก็จริง เรียนหนังสือบางครั้งก็น่าเบื่อ มีคนโง่อยู่ด้วย คอยปรับอารมณ์ก็ดีเหมือนกัน”เฉินเจียงที่นั่งอยู่ไกล ฟังปัญญาชนเหล่านี้หัวเราะเยาะหลานตนเอง เขาไม่เพียงแต่ไม่โมโห แต่ยังมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นเฉินฝาน เจ้าคิดว่าขายปลาไม่กี่ตัว หาเงินได้นิดหน่อย ก็เทียบเท่าข้าแล้วอย่างนั้นหรือ?ไร้เดียงสาจริงๆ!“อาจารย์มาแล้ว!”ไม่รู้ว่าใครร้องเรียก ภายในห้องเรียบเงียบกริบทันทีอาจารย์เฉียนกอดตำรา ถือไม้บรรทัด เดินเข้ามาในห้องเรียนวางตำราและไม้บรรทัดลง อาจารย์เฉียนกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องเรียน สุดท้ายสายตาหยุดลงที่เฉินฝาน“เสี่ยวฝาน มา!”อาจารย์เฉียนโบกมือให้เฉินฝานตามระเบียบแล้ว สิ่งแรกที่ทำเมื่อเข้าเรียน คือไหว้ภาพวาดขงจื๊อเฉินฝานโค้งคำนับภาพวาดชายชราสามครั้ง อาจารย์เฉียนค่อยให้เขาลุกขึ้น “เสี่ยวฝาน ก่อน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 199

    “เฉินเจียงไม่เพียงเขียนตัวหนังสือได้สวย วิชาทั่วไป การสอบพระคัมภีร์ รวมถึงบทกวี ล้วนทำได้ดี”“ไม่ใช่ล้วนทำได้ดี ทำได้ดีมากต่างหาก เฉินเจียงเพิ่งเริ่มเรียนตอนอายุสิบห้า ระหว่างนั้นหยุดเรียนไปหนึ่งปี ทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่ถึงสามปี เรียนได้ดีกว่าพวกเราหลายคน”“ใช่ เรื่องนี้ต้องยอมรับจริงๆ ข้าจำได้ว่าเมื่อสี่ปีก่อน เฉินเจียงในวัยสิบห้าปี วันแรกที่มาเข้าเรียน ใช้เวลาเพียงครึ่งวัน เขาเขียนตัวหนังสือตัวบรรจงงดงามอย่างมาก แต่เมื่อมองไปที่เฉินฝาน...”“คนหนึ่งฟ้า คนหนึ่งดินจริงๆ”“ชิๆ นี่อาจจะเป็นความแตกต่างระหว่างคนมีพรสวรรค์กับคนโง่กระมัง”“เจ้าพูดผิดแล้ว ควรบอกว่า เป็นความแตกต่างระหว่างหงส์กับคางคก”“เสี่ยวฝาน คนพวกนั้นปากเสีย เจ้าอย่าเก็บมาใส่ใจ”กลัวเฉินฝานได้ยินคำพูดเย้ยหยันเหล่านั้นแล้วจะเสียใจ ตอนเดินออกไปจากสำนึกศึกษา เฉียนหย่งเหนียนปลอบเฉินฝานเฉินฝานยิ้ม เขาลูบผมของตนเอง มองดูซื่อๆ “ข้าไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ลายมือของข้าน่าเกลียดอยู่แล้ว”เห็นเฉินฝานเปิดใจกว้างเช่นนี้ เฉียนหย่งเหนียนเองก็ยิ้ม “เจ้าคิดได้แบบนี้ก็ดีแล้ว ฝึกเขียนบ่อยๆ ก็จะเขียนสวยเอง”“ขอรับ พี่หย่งเหนียน ข้าจะฝึกบ่อย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 200

    อยากจะเลียนแบบเฉินเซวี่ยจื่อที่อยู่อำเภอตูอันหรือ? คิดว่าตนเป็นนักเรียนที่เรียนไม่เก่ง แต่ก็สอบผ่านระดับต้นๆ?”“ตลก เขาคงไม่คิดว่าตนแซ่เฉินแล้ว จะเป็นเหมือนเฉินเซวี่ยจื่อกระมัง”“เป็นได้แค่ของเลียนแบบที่ทำได้ไม่ดี”หลังจากสตรีพวกนั้นว่าเฉินฝานเสียๆ หายๆ จบ ก็เริ่มด่าทอฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์ฉู่“เห็นหญิงไร้ยางอายสองคนนั้นไหม? คนโตแบกธนู ทำตัวเป็นสตรีร้ายกาจ ส่วนคนเล็ก ผอมแห้ง สายตาที่มองคนอื่นดุร้ายยิ่งนัก มองแล้วก็เป็นสตรีร้ายกาจเหมือนกัน ไม่มีภาพลักษณ์ภรรยาของปัญญาชนแม้แต่น้อย”“ฮ่าๆ คนหนึ่งไม่เอาไหนและขี้โกง อีกสองคนเป็นสตรีร้ายกาจ ผีเน่ากับโลงผุชัดๆ เหมาะสมกันยิ่งนัก!”ฉินเย่ว์เจียวอายุมากกว่า สำหรับคำดูถูกและเย้ยหยันเหล่านั้น นางยังพอที่จะไม่แสดงออกทางสีหน้าฉินเย่ว์ฉู่อายุน้อย ความอดทนต่ำ โมโหจนร้องไห้หลังจากเฉินฝานบอกลาเฉียนหย่งเหนียน เขาก็เดินไปหาพวกฉินเย่ว์เจียว“เสี่ยวฉู่ เจ้าเป็นอะไร?”เฉินฝานที่เดินถึงตรงหน้าสองพี่น้อง มองเพียงปราดหนึ่งก็เห็นฉินเย่ว์ฉู่ที่ขอบตาร้อนผ่าว“เย่ว์เจียว เจ้ารังแกน้องสาวอีกแล้วหรือ?”“นายท่าน ข้าเปล่า ข้าขอเอาคันธนูรับประกัน ข้าไม่ได

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 201

    “แต่ข้าไม่สามารถเอาชนะพวกนางเพียงลำพังได้ ข้าไม่ได้เก่งเหมือนพี่สาม”ฉินเย่ว์ฉู่คอตกและท้อแท้เล็กน้อย“ข้าไม่ได้ให้เจ้าสู้ซึ่งหน้ากับพวกเขาสักหน่อย เจ้าสามารถ……”เฉินฝานยกนิ้วขึ้นแล้วหมุนวนอยู่บนศีรษะ “ลองหาวิธีอื่นดู”ฉินเย่ว์ฉู่ชะงักเล็กน้อยจากนั้นก็ยิ้มทันที“ข้าคิดออกแล้ว” นางยกกระโปรงขึ้นแล้ววิ่งออกไปทันที“อย่าทำเกินไปเชียวล่ะ” เฉินฝานเตือนร่างเล็ก ๆ ที่วิ่งอย่างรวดเร็ว“ข้ารู้แล้ว”หลังจากนั้นไม่นาน เฉินฝานก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้นเป็นพัก ๆและหลังจากนั้นไม่นาน ฉินเย่ว์ฉู่ก็ยกกระโปรงและวิ่งกลับมาพร้อมกับรอยยิ้ม“เจ้าใช้วิธีไหนหรือ ถึงทำให้พวกนางแต่ละคนกรีดร้องอย่างเจ็บปวดเช่นนั้น” เฉินฝานถามผู้หญิงตัวเล็กที่อยู่ข้างเขาอย่างสงสัยใบหน้าเล็ก ๆ ของฉินเย่ว์ฉู่เต็มไปด้วยความสุข “ข้าซ่อนตัวอยู่ในที่ที่พวกนางมองไม่เห็นและขว้างก้อนหินใส่พวกนาง”“พวกนางไม่ได้รับบาดเจ็บใช่หรือไม่?”“นายท่าน เรื่องนี้ท่านไม่ต้องกังวลเลยเจ้าค่ะ!”ฉินเย่ว์ฉู่เอียงศีรษะเล็ก ๆ ของนางแล้วกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “เสียวฉู่รู้ดีว่าถ้าทำร้ายพวกนาง พวกนางจะตามหาข้าจนเจอ จากนั้นนายท่านก็ต้องจ่ายค่าชดเชย

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status