แชร์

บทที่ 153

ผู้แต่ง: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เฉินฝานกำเหรียญทองแดงห้าเหรียญไว้ในมือแน่น นี่คือเหรียญทองแดงที่ฉินเต๋อโห่วยัดใส่มือของเขา เขายังไม่ทันจะคืนให้อีกฝ่าย คนพวกนี้ก็ถลันเข้ามาเสียก่อน

นางเย่ชำเลืองมองมือของเฉินฝาน นัยน์ตาพลันฉายแววโลภออกมา “เงิน ต้องเป็นเหรียญเงินแน่ ๆ!”

นางเดินเข้าไปหมายจะแย่งมันมาจากมือของเฉินฝาน

“เจ้าจะทำอะไร?”

น้ำเสียงของเฉินฝานเรียบเฉย แต่นัยน์ตากลับคมกริบดุจมีด

นางเย่ที่ดูโอหังและเย่อหยิ่งพลันหยุดชะงัก จากนั้นก็มองเฉินฝานอยู่ที่เดิมไม่กล้าก้าวเท้าต่อ

สายตาของชายผู้นี้น่ากลัวยิ่งนัก

แม้ว่าร่างกายจะไม่ขยับ แต่ปากกลับไม่ยอมแพ้ ยังคงพล่ามวาจาเหน็บแนมออกมา

“บางคนอายุยังไม่ถึงยี่สิบปี ทั้งยังหนุ่มยังแน่น แต่ดันมีภรรยาอายุเท่ากันหลายคน จนเลี้ยงดูไม่ไหว ถึงได้บากหน้ากลับมาขอเงินจากสองเฒ่า ถ้าเป็นข้าคงเอาหัวโขกกำแพงตายไปแล้ว ไหนเลยจะกล้ามีหน้าใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ต่อ”

“ถุย!” นางเย่ถ่มน้ำลายลงบนพื้น “ขยะ!

“ว่าใครขยะ พูดดี ๆ นะ!”

ฉินเย่ว์เจียวเดินขึ้นหน้า จ้องมองนางเย่ด้วยสายตาเย็นเยือก

ด่าทอว่าพวกนางเป็นผู้หญิงขาดทุน นางทนได้ แต่ว่าเฉินฝานว่าเป็นขยะ นางทนไม่ได้

เพียงแต่เขาไม่ใช่เฉินฝานคนเดิมอีกแ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 154

    “ใช่....”“สวรรค์!”เสียงที่ตอบกลับจูจื้ออันถูกเสียงร้องด้วยความตกใจจากด้านหลังกลบเสียงไปหมด“พวกเจ้าดูสิว่าเกวียนคันนี้บรรทุกอะไรมา”“น่าทึ่งมาก เกวียนคันนี้เต็มไปด้วยฟืนไม้กว่าครึ่งคัน แถมฟืนไม้พวกนี้ก็ดูเหมือนจะมาจากร้านขายฟืนในตัวอำเภอด้วย”“ไม่ใช่เหมือนนะ แต่มันคือฟืนไม้ของจงจี้ในตัวเมืองจริง ๆ!”“จงจี้? เจ้าดูไม่ผิด ฟืนไม้ของจงจี้เป็นฟืนที่ดีที่สุดและแพงที่สุดในเมือง ปกติแล้วคนที่ซื้อฟืนไม้ของจงจี้ได้จะต้องเป็นเศรษฐีในเมืองไม่ก็นักปราชญ์ในวังเท่านั้นที่จะซื้อได้”“ถูกต้อง หลายวันมานี้ข้าทำงานอยู่ในร้านจงจี้”“ว้าว เจ้าเป็นลูกจ้างของร้านขายฟืนจงจี้อย่างนั้นหรือ? ?เจ้าคงมีเงินน่าดู ข้าได้ยินมาว่าค่าจ้างหนึ่งวันของร้านขายฟืนจงจี้มีจำนวนถึงห้าเหรียญเงิน”“ไม่ใช่ ร้านขายฟืนไม้จงจี้เข้าง่ายที่ไหนกัน พี่เขยของข้าทำงานอยู่ที่นั่น ช่วงนี้เขาไม่สบาย ข้าก็เลยไปช่วยทำงานแทนเขาสองสามวัน วันละห้าเหรียญเงิน ข้าคงได้แค่ฝันแหละ”จูจื้ออันที่อยู่บนเกวียนได้ยินชาวบ้านตระกูลฉินพากันอิจฉาค่าจ้างของร้านขายฟืนจงจี้ ก็พลันรู้สึกภูมิใจและดูแคลนเล็กน้อยอยู่ในใจค่าจ้างร้านขายฟืนจงจี้วันละห้าเหร

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 155

    “เฉินฝาน? ดูเจ้าพูดเข้าสิ ใครเขาจะเชื่อ”“ฮ่า ๆ นั่นนะสิ”“อย่าว่าแต่เฉินฝานเลย ลูกเขยในหมู่บ้านก็ยังไม่มีใครทำเช่นนี้”“ใช่ สมัยนี้มีแต่พ่อแม่ต้องให้ลูกเขย มีอย่างที่ไหนลูกเขยเอาของมาให้พ่อแม่ ยิ่งไปกว่านั้นเฉินฝานผู้นั้นก็เป็นแค่ขยะคนหนึ่ง เขาไม่กลับมาขอก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว!”“เจ้าว่าใครขยะ?”เมื่อได้ยินชาวบ้านในหมู่บ้านกล่าวหาเฉินฝานว่าเป็นขยะ จูจื้ออันก็รีบกระโดดลงจากเกวียนทันที เขาคว้าคอเสื้อของคนที่กล่าวหาเฉินฝานว่าเป็นขยะคนนั้น“คนอย่างเฉินฝาน ในละแวกนี้.....”“ตุบ!”ยังไม่ทันที่คนผู้นั้นจะพูดจบ หมัดของจูจื้ออันก็อัดเข้าหน้าของเขาอย่างแรงซะก่อน“อ๊าก!” คนผู้นั้นกุมหน้าที่โดนอัดไว้แน่นพลางชี้นิ้วด่าทอจูจื้ออัน “ไอ้อันธพาล เจ้ากล้าบุกเข้ามาทำร้ายคนถึงในหมู่บ้านเชียวหรือ?”ชาวบ้านโดยรอบต่างมุงกันเข้ามาคนนอกหมู่บ้านเข้ามาทำร้ายคนในหมู่บ้านเป็นพฤติกรรมที่หยามหน้ากันสำหรับคนในสมัยนี้“ข้าต่อยเจ้า แล้วจะทำไม?”จูจื้ออันยกหมัดขึ้นมาอีกครั้ง เขาในตอนนี้กำลังเดือดพล่าน ในใจคิดอยู่อย่างเดียวพวกเขาด่าเฉินฝานว่าขยะ เขาต้องจัดการให้เฉินฝาน“จื้ออัน หยุดเดี๋ยวนี้!”เฉินฝานได้ยิ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 156

    ฉินฉายจินและฉินฉายหัวที่เพิ่งจะเยาะเย้ยว่าเป็นยาจกไร้ประโยชน์ ข่มขู่ว่าจะไล่เฉินฝานออกไปจากหมู่บ้านตระกูลฉิน ต่างตะลึงตาค้างจ้องมองของกินของใช้ที่ขนเข้าบ้านมาทีละอย่างโดยเฉพาะนางเย่ที่กระโดดสูงที่สุดนางมองฟืนพวกนั้น ข้าวพวกนั้น แป้งหมี่พวกนั้น ผ้าพวกนั้นด้วยดวงตาที่เบิกโพลงตอนที่สายตาสุดท้ายกวาดผ่านเนื้อสัตว์ น้ำลายก็ส่งอออกมาอย่างไม่รู้ตัวคิดไม่ถึงเลยว่าเด็กสาวของคนที่ตาแก่ยายแก่เลี้ยงดูมา จะคว้าลูกเขยมหาเศรษฐีกลับมาได้“แหม พี่ชายท่านนี้ เดินทางมาคงจะเหนื่อยแล้วสินะ มาๆ ข้าช่วยท่านถือ”คนโลภตะกละตะกลาม หนังหน้าหนายิ่งกว่าปูนหลายๆชั้น นางเย่วิ่งไปตรงหน้าจูจื้ออัน ต้องการจะรับเนื้อจากมือของเขา“ไม่ต้อง!”ถึงแม้จะไม่รู้ว่านางเย่เป็นใครในบรรดาพี่น้องตระกูลฉิน ทว่าสามารถเดาได้ว่าเป็นญาติกัน และก็ไม่รู้ว่าเมื่อครู่ในบ้านเกิดอะไรขึ้นทว่าก่อนที่เขาจะมา บรรยากาศที่นี้ต้องไม่ดีอย่างแน่นอน ญาติๆของพี่น้องตระกูลฉินเหล่านี้จะต้องไม่ญาติดีกับพวกเฉินฝานเป็นแน่เพราะสิ่งเหล่านี้เขาก็เคยผ่านมาแล้ว หลังจากที่พ่อแม่เขาตายไป พวกลุงป้าน้าอาก็ไม่ญาติดีกับครอบครัวของเขา โดยเฉพาะบรรดาน้องสา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 157

    “ใครเป็นครอบครัวเดียวกับเจ้ากัน ไสหัวไปให้พ้น ถ้ายังไม่ไสหัวไป ก็อย่ามาโทษที่ลูกธนูของข้าจะพุ่งใส่ไม่เลือกหน้า”“เมื่อครู่พวกเจ้าลงนามว่าจะตัดขาดความสัมพันธ์กับท่านปู่ท่านย่า ถ้ายังไม่ไปอีกก็ถือว่าทำผิดกฎหมายต้าชิ่งของเรา พวกข้าสามารถไปร้องเรียนกับทางการได้”“ตอนที่ข้าวและแป้งหมี่ของพวกข้ายังไม่มา อารองกับอาสามไม่ได้ออกมาจากกอไผ่หรอกหรือ พอข้าวกับแป้งหมี่มา ก็ออกมาจากท้องของท่านย่าเสียอย่างนั้น?”“สรุปแล้ว พวกเจ้าเป็นพวกสวะที่ตอนไม่มีอาหารก็สลัดพ่อแม่ตัวเองทิ้งไป พอมีอาหารก็รับว่าเป็นพ่อแม่ ครอบครัวอะไรกัน พวกเจ้าก็แค่หาข้ออ้างในการได้ส่วนแบ่งของกินของใช้พวกนี้ก็แค่นั้นเอง”สามพี่น้องช่วยกันไล่คนอย่างต่อเนื่องคนแรกที่พูดคือฉินเย่ว์เจียว ต่อจากนั้นก็เป็นฉินเย่ว์ฉู่และฉินเย่ว์โหรวเสียงของฉินเย่ว์เจียวเรียบง่ายและดุดัน ไม่ไปก็จะลงมือเดิมทีความสามารถของนางก็ไม่เลวอยู่แล้ว กองหลังก็ยังมีเฉินฝาน ทำให้ความมั่นใจของนางเต็มเปี่ยมเสียงฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้สลักสำคัญที่สุด ทว่าพลังโจมตีเต็มพิกัด มีเหตุผลและหลักการ ใช้ทางการกดดันคนโดยตรงณ ประตูที่ทำการ หลังจากที่ได้เห็นเฉินฝานใช้กฏหมายต้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 158

    “นายท่าน นายท่าน คิดไม่ถึงว่าเขาทำร้ายท่านรุนแรงขนาดนี้เชียว...” นางเย่เงยหน้าตะโกนลั่นใส่เฉินฝานด้วยความโมโห “เงินชดเชย อย่างน้อยต้อง...”ฉินฉายจินชูมือสามนิ้วขึ้นมาสายตาของนางเย่เหลือบไปมองมือของฉินฉายจิน “สามตำลึง!”สีหน้าของฉินฉายจินบิดเบี้ยวทันทีนั้นเป็นการบิดเบี้ยวที่ทั้งเจ็บปวดและตื่นเต้นดีใจพวกเมียเหล่านี้ร้ายกว่าเขานัก!เขาชูมือสามนิ้ว เดิมทีอยากได้แค่สามร้อยเหวินเงินทั้งปีนี้เอามารวมกันทั้งหมดยังไม่ถึงสามตำลึงเลยชาวบ้านด้านนอกก็ทำสีหน้าตกใจสามตำลึง! ! !นี่มันมากเกินไปแล้ว นี่มันเป็นข้อเรียกร้องที่มากไปชัดๆไม่นานนัก ความสนใจของชาวบ้านก็ย้ายจากนางเย่ที่เสนอเรียกร้องสูง ไปหาเฉินฝานว่าจะให้เงินตำลึงเยอะขนาดนั้นหรือไม่แบบแรกคือเยอะเกินไป ไม่ให้แบบที่สองคือเฉินฝานซื้อของมากมายมาส่งได้ภายในครู่เดียว ต้องจ่ายให้แน่นอนไม่นานนัก คนที่เห็นด้วยกับแบบที่สองเยอะกว่าแบบแรกพูดไป ท้ายที่สุดก็มีคนอิจฉาฉินฉายจินมือบาดเจ็บนิดเดียว ได้สามตำลึง คุ้มชะมัดนางลวี่ที่อยู่ในบ้าน หยิกสามีตนเองด้วยความคับแค้นใจดูครอบครัวฉายจิน ประเดี๋ยวเดียวก็จะได้เงินชดเชยเยอะขนาดนั้น

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 159

    ฉินฉายจินกุมนิ้วมือที่หักของเขา ใบหน้าบิดเบี้ยวดุร้ายน่ากลัวด้วยความเจ็บปวด “เจ้านี่ เจ้าแน่นักรึ เจ้าคงจะคิดว่ามีเงินนิดหน่อยก็สามารถจัดการทุกอย่างได้สินะ!”เฉินฝานยิ้มอย่างเยือกเย็น “ถูกต้อง วันนี้ข้าจะใช้เงินจัดการเจ้าจนตาย!”“เช่นนั้นเราจะได้เห็นดีกัน ไป!”ฉินฉายจินเอนตัวไปทางนางเย่ “พยุงข้าไปที่ทำการ!”เพิ่งจะเดินถึงประตู ฉินฉายจินก็หันหลังกลับมา เขามองเฉินฝานที่ยังคงนั่งอยู่ข้างกระถางไฟ “ไอหนุ่ม ทำไมยังไม่ไปอีก?ปอดแหกแล้วหรือไร? ไม่ใช่ว่าจะใช้เงินจัดการกับข้าหรอกรึ? มาสิ ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะจัดการอย่างไร?”“ไม่เป็นไร!” เฉินฝานตบไหล่ฉินเย่ว์โหรวที่กระวนกระวายใจเบาๆ “ข้าไปข้างนอกครู่เดียว ถ้าเจ้าหนาว ก็นั่งผิงไฟรอข้าก็พอแล้ว”เฉินฝานลุกขึ้นเดินออกไป เขาทำมือคำนับให้กับชาวบ้านที่เฝ้าดูอยู่ด้านนอก“ข้าน้อยเฉินฝานผู้ร่วมอาศัยหมู่บ้านซานเหอ อยากจะขอให้พี่น้องสามคนไปเป็นพยาน หากว่ายินยอมจะเป็นพยานให้ข้า ข้าจะจ่ายให้พวกเจ้าคนละสองร้อยเหวิน”เป็นพยาน?คนละสองร้อยเหวิน?ชาวบ้านที่เฝ้าดู ต่างพาจ้องหน้ากันและกันเฉินฝานทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร ให้พวกเขาไปเป็นพยานเรื่องอะไร ถ้าใ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 160

    “กฎหมายต้าชิ่ง คำกล่าวหน้าที่หก ผู้ที่บุกรุกเข้าไปที่อยู่อาศัย ขึ้นรถขึ้นเรือโดยไม่มีเหตุผลจะถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย การต่อสู้ป้องกันตัวถือว่าไม่มีความผิด”“อารอง เป็นท่านที่บุกรุกเข้าบ้านท่านปู่มาตบตีพวกเราก่อน เมื่อครู่นายท่านเพียงแค่ปกป้องพวกเรา ถึงลงมือทำร้ายร่างกายท่าน ตามกฎหมายต้าชิ่งของพวกเรา นายท่านของข้าไม่มีความผิด”ฉินเย่ว์ฉู่เชิดหน้าสูง ใบหน้ามีทั้งความทะนงและความภาคภูมิใจ น้ำเสียงก็ใสแจ๋วและดังกังวานเป็นพิเศษนับถือเฉินฝานที่มองการณ์ไกลในขณะเดียวก็รู้สึกขอบคุณแม่ที่จากไปของตนเองอย่างสุดซึ้งแม่ของพี่น้องตระกูลฉินไม่เหมือนกับสาวชาวบ้านคนอื่น นางรู้หนังสือ สอนให้พวกพี่สาวรู้หนังสือ ก่อนที่ตนเองจะจากโลกนี้ไป ก็ยังสั่งเสียให้พวกพี่สาวสอนนางให้รู้หนังสือ“ตีพวกเจ้า ข้าไปตีพวกเจ้าเมื่อใด?”ถึงแม้น้ำเสียงของฉินฉายจินจะดุดัน ทว่าฟังแล้วดูขี้ขลาดเล็กน้อยนี่ก็เป็นจุดที่ฉินฉายจินไม่ชอบพี่น้องตระกูลฉินเป็นพิเศษ ช่วงก่อนที่พวกนางพี่น้องยังไม่ได้ออกเรือน ก็เป็นเพราะว่ารู้หนังสือ มักจะทำให้เขาแค้นเคืองจนน้ำท่วมปากเขาเป็นอาของพวกนางนะ จะเถียงไม่ชนะพวกนางได้อย่างไรกัน?น่าอับอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 161

    “หลานเขย หลานเขยที่แสนดีของข้า!” นางเย่อ้อนวอนกอดขาของเฉินฝาน “อารองของเจ้าเจ็บมือ จึงหน้ามืดชั่วขณะ อาสะใภ้ขอร้องเจ้าล่ะ ปล่อยพวกข้าไปเถอะ!”“ข้ามีอาสะใภ้ในหมู่บ้านนี้ตั้งแต่เมื่อใด!” เฉินฝานสะบัดขา“เฉินฝาน!” นางเย่กอดแน่นกว่าเดิม “ข้าขอโทษ พวกข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าแจ้งทางการเลย อย่าแจ้งทางการเลย!”อากาศนับวันก็ยิ่งหนาวขึ้นเรื่อยๆ มือของฉินฉายจินหักแล้ว หากติดคุกเวลานี้ ตอนออกมาไม่ตายก็พิการแล้ว“ขอโทษ คำขอโทษของท่านมีค่าอย่างไร?”“พวกข้าผิดไปแล้ว หากสามีของข้าเข้าคุกแล้วพวกข้าจะทำอย่างไร? ลูกข้ายังเล็ก”“ท่านรู้ว่าลูกของท่านยังเล็ก หากไม่มีพ่อชีวิตก็จะลำบาก แล้วพวกภรรยาของข้าเมื่อก่อนเล่า? เวลานั้นพวกนางไม่ใช่เด็กหรือ?”นึกถึงคำว่านังชั่วที่เมื่อครู่ฉินฉายจินพูด รวมถึงการปฏิบัติด้วยความใจร้ายในอดีตที่ชาวบ้านบอก เฉินฝานไม่อาจให้อภัยสามีภรรยาคู่นี้จริงๆ“ข้า...”นางเย่คิดไม่ถึงว่า เมื่อก่อนพวกตนทุบตีพวกฉินเย่ว์เจียวด้วยความสะใจนั้น วันหนึ่งสามีของพวกนางจะกลับมาแก้แค้นแม้หลับฝันนางก็คิดไม่ถึงจริงๆ ว่า พวกฉินเย่ว์เจียวจะได้สามีที่มากความสามารถเช่นนี้เฉินฝานสะบัดอย่างแรง จนนา

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status