แชร์

บทที่ 153

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-08 18:00:00
เฉินฝานกำเหรียญทองแดงห้าเหรียญไว้ในมือแน่น นี่คือเหรียญทองแดงที่ฉินเต๋อโห่วยัดใส่มือของเขา เขายังไม่ทันจะคืนให้อีกฝ่าย คนพวกนี้ก็ถลันเข้ามาเสียก่อน

นางเย่ชำเลืองมองมือของเฉินฝาน นัยน์ตาพลันฉายแววโลภออกมา “เงิน ต้องเป็นเหรียญเงินแน่ ๆ!”

นางเดินเข้าไปหมายจะแย่งมันมาจากมือของเฉินฝาน

“เจ้าจะทำอะไร?”

น้ำเสียงของเฉินฝานเรียบเฉย แต่นัยน์ตากลับคมกริบดุจมีด

นางเย่ที่ดูโอหังและเย่อหยิ่งพลันหยุดชะงัก จากนั้นก็มองเฉินฝานอยู่ที่เดิมไม่กล้าก้าวเท้าต่อ

สายตาของชายผู้นี้น่ากลัวยิ่งนัก

แม้ว่าร่างกายจะไม่ขยับ แต่ปากกลับไม่ยอมแพ้ ยังคงพล่ามวาจาเหน็บแนมออกมา

“บางคนอายุยังไม่ถึงยี่สิบปี ทั้งยังหนุ่มยังแน่น แต่ดันมีภรรยาอายุเท่ากันหลายคน จนเลี้ยงดูไม่ไหว ถึงได้บากหน้ากลับมาขอเงินจากสองเฒ่า ถ้าเป็นข้าคงเอาหัวโขกกำแพงตายไปแล้ว ไหนเลยจะกล้ามีหน้าใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ต่อ”

“ถุย!” นางเย่ถ่มน้ำลายลงบนพื้น “ขยะ!

“ว่าใครขยะ พูดดี ๆ นะ!”

ฉินเย่ว์เจียวเดินขึ้นหน้า จ้องมองนางเย่ด้วยสายตาเย็นเยือก

ด่าทอว่าพวกนางเป็นผู้หญิงขาดทุน นางทนได้ แต่ว่าเฉินฝานว่าเป็นขยะ นางทนไม่ได้

เพียงแต่เขาไม่ใช่เฉินฝานคนเดิมอีกแ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 154

    “ใช่....”“สวรรค์!”เสียงที่ตอบกลับจูจื้ออันถูกเสียงร้องด้วยความตกใจจากด้านหลังกลบเสียงไปหมด“พวกเจ้าดูสิว่าเกวียนคันนี้บรรทุกอะไรมา”“น่าทึ่งมาก เกวียนคันนี้เต็มไปด้วยฟืนไม้กว่าครึ่งคัน แถมฟืนไม้พวกนี้ก็ดูเหมือนจะมาจากร้านขายฟืนในตัวอำเภอด้วย”“ไม่ใช่เหมือนนะ แต่มันคือฟืนไม้ของจงจี้ในตัวเมืองจริง ๆ!”“จงจี้? เจ้าดูไม่ผิด ฟืนไม้ของจงจี้เป็นฟืนที่ดีที่สุดและแพงที่สุดในเมือง ปกติแล้วคนที่ซื้อฟืนไม้ของจงจี้ได้จะต้องเป็นเศรษฐีในเมืองไม่ก็นักปราชญ์ในวังเท่านั้นที่จะซื้อได้”“ถูกต้อง หลายวันมานี้ข้าทำงานอยู่ในร้านจงจี้”“ว้าว เจ้าเป็นลูกจ้างของร้านขายฟืนจงจี้อย่างนั้นหรือ? ?เจ้าคงมีเงินน่าดู ข้าได้ยินมาว่าค่าจ้างหนึ่งวันของร้านขายฟืนจงจี้มีจำนวนถึงห้าเหรียญเงิน”“ไม่ใช่ ร้านขายฟืนไม้จงจี้เข้าง่ายที่ไหนกัน พี่เขยของข้าทำงานอยู่ที่นั่น ช่วงนี้เขาไม่สบาย ข้าก็เลยไปช่วยทำงานแทนเขาสองสามวัน วันละห้าเหรียญเงิน ข้าคงได้แค่ฝันแหละ”จูจื้ออันที่อยู่บนเกวียนได้ยินชาวบ้านตระกูลฉินพากันอิจฉาค่าจ้างของร้านขายฟืนจงจี้ ก็พลันรู้สึกภูมิใจและดูแคลนเล็กน้อยอยู่ในใจค่าจ้างร้านขายฟืนจงจี้วันละห้าเหร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-08
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 155

    “เฉินฝาน? ดูเจ้าพูดเข้าสิ ใครเขาจะเชื่อ”“ฮ่า ๆ นั่นนะสิ”“อย่าว่าแต่เฉินฝานเลย ลูกเขยในหมู่บ้านก็ยังไม่มีใครทำเช่นนี้”“ใช่ สมัยนี้มีแต่พ่อแม่ต้องให้ลูกเขย มีอย่างที่ไหนลูกเขยเอาของมาให้พ่อแม่ ยิ่งไปกว่านั้นเฉินฝานผู้นั้นก็เป็นแค่ขยะคนหนึ่ง เขาไม่กลับมาขอก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว!”“เจ้าว่าใครขยะ?”เมื่อได้ยินชาวบ้านในหมู่บ้านกล่าวหาเฉินฝานว่าเป็นขยะ จูจื้ออันก็รีบกระโดดลงจากเกวียนทันที เขาคว้าคอเสื้อของคนที่กล่าวหาเฉินฝานว่าเป็นขยะคนนั้น“คนอย่างเฉินฝาน ในละแวกนี้.....”“ตุบ!”ยังไม่ทันที่คนผู้นั้นจะพูดจบ หมัดของจูจื้ออันก็อัดเข้าหน้าของเขาอย่างแรงซะก่อน“อ๊าก!” คนผู้นั้นกุมหน้าที่โดนอัดไว้แน่นพลางชี้นิ้วด่าทอจูจื้ออัน “ไอ้อันธพาล เจ้ากล้าบุกเข้ามาทำร้ายคนถึงในหมู่บ้านเชียวหรือ?”ชาวบ้านโดยรอบต่างมุงกันเข้ามาคนนอกหมู่บ้านเข้ามาทำร้ายคนในหมู่บ้านเป็นพฤติกรรมที่หยามหน้ากันสำหรับคนในสมัยนี้“ข้าต่อยเจ้า แล้วจะทำไม?”จูจื้ออันยกหมัดขึ้นมาอีกครั้ง เขาในตอนนี้กำลังเดือดพล่าน ในใจคิดอยู่อย่างเดียวพวกเขาด่าเฉินฝานว่าขยะ เขาต้องจัดการให้เฉินฝาน“จื้ออัน หยุดเดี๋ยวนี้!”เฉินฝานได้ยิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-08
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 156

    ฉินฉายจินและฉินฉายหัวที่เพิ่งจะเยาะเย้ยว่าเป็นยาจกไร้ประโยชน์ ข่มขู่ว่าจะไล่เฉินฝานออกไปจากหมู่บ้านตระกูลฉิน ต่างตะลึงตาค้างจ้องมองของกินของใช้ที่ขนเข้าบ้านมาทีละอย่างโดยเฉพาะนางเย่ที่กระโดดสูงที่สุดนางมองฟืนพวกนั้น ข้าวพวกนั้น แป้งหมี่พวกนั้น ผ้าพวกนั้นด้วยดวงตาที่เบิกโพลงตอนที่สายตาสุดท้ายกวาดผ่านเนื้อสัตว์ น้ำลายก็ส่งอออกมาอย่างไม่รู้ตัวคิดไม่ถึงเลยว่าเด็กสาวของคนที่ตาแก่ยายแก่เลี้ยงดูมา จะคว้าลูกเขยมหาเศรษฐีกลับมาได้“แหม พี่ชายท่านนี้ เดินทางมาคงจะเหนื่อยแล้วสินะ มาๆ ข้าช่วยท่านถือ”คนโลภตะกละตะกลาม หนังหน้าหนายิ่งกว่าปูนหลายๆชั้น นางเย่วิ่งไปตรงหน้าจูจื้ออัน ต้องการจะรับเนื้อจากมือของเขา“ไม่ต้อง!”ถึงแม้จะไม่รู้ว่านางเย่เป็นใครในบรรดาพี่น้องตระกูลฉิน ทว่าสามารถเดาได้ว่าเป็นญาติกัน และก็ไม่รู้ว่าเมื่อครู่ในบ้านเกิดอะไรขึ้นทว่าก่อนที่เขาจะมา บรรยากาศที่นี้ต้องไม่ดีอย่างแน่นอน ญาติๆของพี่น้องตระกูลฉินเหล่านี้จะต้องไม่ญาติดีกับพวกเฉินฝานเป็นแน่เพราะสิ่งเหล่านี้เขาก็เคยผ่านมาแล้ว หลังจากที่พ่อแม่เขาตายไป พวกลุงป้าน้าอาก็ไม่ญาติดีกับครอบครัวของเขา โดยเฉพาะบรรดาน้องสา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-08
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 157

    “ใครเป็นครอบครัวเดียวกับเจ้ากัน ไสหัวไปให้พ้น ถ้ายังไม่ไสหัวไป ก็อย่ามาโทษที่ลูกธนูของข้าจะพุ่งใส่ไม่เลือกหน้า”“เมื่อครู่พวกเจ้าลงนามว่าจะตัดขาดความสัมพันธ์กับท่านปู่ท่านย่า ถ้ายังไม่ไปอีกก็ถือว่าทำผิดกฎหมายต้าชิ่งของเรา พวกข้าสามารถไปร้องเรียนกับทางการได้”“ตอนที่ข้าวและแป้งหมี่ของพวกข้ายังไม่มา อารองกับอาสามไม่ได้ออกมาจากกอไผ่หรอกหรือ พอข้าวกับแป้งหมี่มา ก็ออกมาจากท้องของท่านย่าเสียอย่างนั้น?”“สรุปแล้ว พวกเจ้าเป็นพวกสวะที่ตอนไม่มีอาหารก็สลัดพ่อแม่ตัวเองทิ้งไป พอมีอาหารก็รับว่าเป็นพ่อแม่ ครอบครัวอะไรกัน พวกเจ้าก็แค่หาข้ออ้างในการได้ส่วนแบ่งของกินของใช้พวกนี้ก็แค่นั้นเอง”สามพี่น้องช่วยกันไล่คนอย่างต่อเนื่องคนแรกที่พูดคือฉินเย่ว์เจียว ต่อจากนั้นก็เป็นฉินเย่ว์ฉู่และฉินเย่ว์โหรวเสียงของฉินเย่ว์เจียวเรียบง่ายและดุดัน ไม่ไปก็จะลงมือเดิมทีความสามารถของนางก็ไม่เลวอยู่แล้ว กองหลังก็ยังมีเฉินฝาน ทำให้ความมั่นใจของนางเต็มเปี่ยมเสียงฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้สลักสำคัญที่สุด ทว่าพลังโจมตีเต็มพิกัด มีเหตุผลและหลักการ ใช้ทางการกดดันคนโดยตรงณ ประตูที่ทำการ หลังจากที่ได้เห็นเฉินฝานใช้กฏหมายต้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-09
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 158

    “นายท่าน นายท่าน คิดไม่ถึงว่าเขาทำร้ายท่านรุนแรงขนาดนี้เชียว...” นางเย่เงยหน้าตะโกนลั่นใส่เฉินฝานด้วยความโมโห “เงินชดเชย อย่างน้อยต้อง...”ฉินฉายจินชูมือสามนิ้วขึ้นมาสายตาของนางเย่เหลือบไปมองมือของฉินฉายจิน “สามตำลึง!”สีหน้าของฉินฉายจินบิดเบี้ยวทันทีนั้นเป็นการบิดเบี้ยวที่ทั้งเจ็บปวดและตื่นเต้นดีใจพวกเมียเหล่านี้ร้ายกว่าเขานัก!เขาชูมือสามนิ้ว เดิมทีอยากได้แค่สามร้อยเหวินเงินทั้งปีนี้เอามารวมกันทั้งหมดยังไม่ถึงสามตำลึงเลยชาวบ้านด้านนอกก็ทำสีหน้าตกใจสามตำลึง! ! !นี่มันมากเกินไปแล้ว นี่มันเป็นข้อเรียกร้องที่มากไปชัดๆไม่นานนัก ความสนใจของชาวบ้านก็ย้ายจากนางเย่ที่เสนอเรียกร้องสูง ไปหาเฉินฝานว่าจะให้เงินตำลึงเยอะขนาดนั้นหรือไม่แบบแรกคือเยอะเกินไป ไม่ให้แบบที่สองคือเฉินฝานซื้อของมากมายมาส่งได้ภายในครู่เดียว ต้องจ่ายให้แน่นอนไม่นานนัก คนที่เห็นด้วยกับแบบที่สองเยอะกว่าแบบแรกพูดไป ท้ายที่สุดก็มีคนอิจฉาฉินฉายจินมือบาดเจ็บนิดเดียว ได้สามตำลึง คุ้มชะมัดนางลวี่ที่อยู่ในบ้าน หยิกสามีตนเองด้วยความคับแค้นใจดูครอบครัวฉายจิน ประเดี๋ยวเดียวก็จะได้เงินชดเชยเยอะขนาดนั้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-09
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 159

    ฉินฉายจินกุมนิ้วมือที่หักของเขา ใบหน้าบิดเบี้ยวดุร้ายน่ากลัวด้วยความเจ็บปวด “เจ้านี่ เจ้าแน่นักรึ เจ้าคงจะคิดว่ามีเงินนิดหน่อยก็สามารถจัดการทุกอย่างได้สินะ!”เฉินฝานยิ้มอย่างเยือกเย็น “ถูกต้อง วันนี้ข้าจะใช้เงินจัดการเจ้าจนตาย!”“เช่นนั้นเราจะได้เห็นดีกัน ไป!”ฉินฉายจินเอนตัวไปทางนางเย่ “พยุงข้าไปที่ทำการ!”เพิ่งจะเดินถึงประตู ฉินฉายจินก็หันหลังกลับมา เขามองเฉินฝานที่ยังคงนั่งอยู่ข้างกระถางไฟ “ไอหนุ่ม ทำไมยังไม่ไปอีก?ปอดแหกแล้วหรือไร? ไม่ใช่ว่าจะใช้เงินจัดการกับข้าหรอกรึ? มาสิ ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะจัดการอย่างไร?”“ไม่เป็นไร!” เฉินฝานตบไหล่ฉินเย่ว์โหรวที่กระวนกระวายใจเบาๆ “ข้าไปข้างนอกครู่เดียว ถ้าเจ้าหนาว ก็นั่งผิงไฟรอข้าก็พอแล้ว”เฉินฝานลุกขึ้นเดินออกไป เขาทำมือคำนับให้กับชาวบ้านที่เฝ้าดูอยู่ด้านนอก“ข้าน้อยเฉินฝานผู้ร่วมอาศัยหมู่บ้านซานเหอ อยากจะขอให้พี่น้องสามคนไปเป็นพยาน หากว่ายินยอมจะเป็นพยานให้ข้า ข้าจะจ่ายให้พวกเจ้าคนละสองร้อยเหวิน”เป็นพยาน?คนละสองร้อยเหวิน?ชาวบ้านที่เฝ้าดู ต่างพาจ้องหน้ากันและกันเฉินฝานทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร ให้พวกเขาไปเป็นพยานเรื่องอะไร ถ้าใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-09
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 160

    “กฎหมายต้าชิ่ง คำกล่าวหน้าที่หก ผู้ที่บุกรุกเข้าไปที่อยู่อาศัย ขึ้นรถขึ้นเรือโดยไม่มีเหตุผลจะถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย การต่อสู้ป้องกันตัวถือว่าไม่มีความผิด”“อารอง เป็นท่านที่บุกรุกเข้าบ้านท่านปู่มาตบตีพวกเราก่อน เมื่อครู่นายท่านเพียงแค่ปกป้องพวกเรา ถึงลงมือทำร้ายร่างกายท่าน ตามกฎหมายต้าชิ่งของพวกเรา นายท่านของข้าไม่มีความผิด”ฉินเย่ว์ฉู่เชิดหน้าสูง ใบหน้ามีทั้งความทะนงและความภาคภูมิใจ น้ำเสียงก็ใสแจ๋วและดังกังวานเป็นพิเศษนับถือเฉินฝานที่มองการณ์ไกลในขณะเดียวก็รู้สึกขอบคุณแม่ที่จากไปของตนเองอย่างสุดซึ้งแม่ของพี่น้องตระกูลฉินไม่เหมือนกับสาวชาวบ้านคนอื่น นางรู้หนังสือ สอนให้พวกพี่สาวรู้หนังสือ ก่อนที่ตนเองจะจากโลกนี้ไป ก็ยังสั่งเสียให้พวกพี่สาวสอนนางให้รู้หนังสือ“ตีพวกเจ้า ข้าไปตีพวกเจ้าเมื่อใด?”ถึงแม้น้ำเสียงของฉินฉายจินจะดุดัน ทว่าฟังแล้วดูขี้ขลาดเล็กน้อยนี่ก็เป็นจุดที่ฉินฉายจินไม่ชอบพี่น้องตระกูลฉินเป็นพิเศษ ช่วงก่อนที่พวกนางพี่น้องยังไม่ได้ออกเรือน ก็เป็นเพราะว่ารู้หนังสือ มักจะทำให้เขาแค้นเคืองจนน้ำท่วมปากเขาเป็นอาของพวกนางนะ จะเถียงไม่ชนะพวกนางได้อย่างไรกัน?น่าอับอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-09
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 161

    “หลานเขย หลานเขยที่แสนดีของข้า!” นางเย่อ้อนวอนกอดขาของเฉินฝาน “อารองของเจ้าเจ็บมือ จึงหน้ามืดชั่วขณะ อาสะใภ้ขอร้องเจ้าล่ะ ปล่อยพวกข้าไปเถอะ!”“ข้ามีอาสะใภ้ในหมู่บ้านนี้ตั้งแต่เมื่อใด!” เฉินฝานสะบัดขา“เฉินฝาน!” นางเย่กอดแน่นกว่าเดิม “ข้าขอโทษ พวกข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าแจ้งทางการเลย อย่าแจ้งทางการเลย!”อากาศนับวันก็ยิ่งหนาวขึ้นเรื่อยๆ มือของฉินฉายจินหักแล้ว หากติดคุกเวลานี้ ตอนออกมาไม่ตายก็พิการแล้ว“ขอโทษ คำขอโทษของท่านมีค่าอย่างไร?”“พวกข้าผิดไปแล้ว หากสามีของข้าเข้าคุกแล้วพวกข้าจะทำอย่างไร? ลูกข้ายังเล็ก”“ท่านรู้ว่าลูกของท่านยังเล็ก หากไม่มีพ่อชีวิตก็จะลำบาก แล้วพวกภรรยาของข้าเมื่อก่อนเล่า? เวลานั้นพวกนางไม่ใช่เด็กหรือ?”นึกถึงคำว่านังชั่วที่เมื่อครู่ฉินฉายจินพูด รวมถึงการปฏิบัติด้วยความใจร้ายในอดีตที่ชาวบ้านบอก เฉินฝานไม่อาจให้อภัยสามีภรรยาคู่นี้จริงๆ“ข้า...”นางเย่คิดไม่ถึงว่า เมื่อก่อนพวกตนทุบตีพวกฉินเย่ว์เจียวด้วยความสะใจนั้น วันหนึ่งสามีของพวกนางจะกลับมาแก้แค้นแม้หลับฝันนางก็คิดไม่ถึงจริงๆ ว่า พวกฉินเย่ว์เจียวจะได้สามีที่มากความสามารถเช่นนี้เฉินฝานสะบัดอย่างแรง จนนา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-10

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 850

    “ผู้จัดสรร มิสามารถแบ่งให้คนนอกที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าเช่นนี้ได้เด็ดขาด!”“ถูกต้องแล้ว แบ่งให้คนที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้ามิได้!”คนรับใช้สองสามคนข้างกายเหลยหย่งอัน พูดเสริมทันที“เช่นนั้นนายน้อยเหลยคิดว่าผู้ใดเป็นผู้จัดสรรจึงจะเหมาะสม?”มีคนตะโกนถามท่ามกลางผู้เหลือรอดเหลยหย่งอันเลิกคิ้วขึ้นทันที ประโยคที่เขารอก็คือประโยคนี้ผู้นั้นเพิ่งจะกล่าวจบ เหลยหย่งอันก็ส่งสายตาไปที่คนรับใช้ข้างกายทันที“ร้านค้าตระกูลเหลยมากมายมหาศาล นายน้อยของพวกเราก็มีส่วนร่วมดูแล ไปตรวจสอบที่ร้านค้าทุกเดือน”ตรวจสอบแบบใดกัน ไปเกี้ยวพาราสีสตรีในร้านเสียมากกว่าเรื่องนี้ทุกคนในเมืองเซียนตูทราบดี เพียงแต่มิอยากให้เหลยหย่งอันมิพอใจ จึงมิมีผู้ใดกล้าพูดเปิดโปง“ดังนั้น...” คนใช้ผู้นั้นกล่าวต่อ “ผู้จัดสรรนี้ นายน้อยของข้าเป็นคนที่เหมาะสมที่สุด “ทุกคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว พวกเจ้า...” เหลยหย่งอันยกมือขึ้นทำท่าทางแบกรับรับความผิดชอบไว้เพียงผู้เดียว “คนที่ร่วมทุกข์กับข้าทุกคน ขอเพียงแค่สามารถมีชีวิตรอดออกไปได้ ก็สามารถไปรับเงินหนึ่งร้อยตำลึงได้ที่ตระกูลเหลยของพวกเรา”เพื่อที่จะได้ตำแหน่งผู้จัดสรรนี้ เหลยห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 849

    “ต่อให้เสบียงอาหารทั้งหมดต้องถูกจัดสรรปันส่วนอย่างเท่าเทียม เช่นนั้นไฉนอำนาจในการจัดการจัดแบ่งต้องเป็นเจ้าคนเดียวงั้นหรือ? เจ้าเป็นใครกัน?”ชายหนุ่มที่สวมชุดผ้าไหมอย่างดี ศีรษะสวมหมวกสีทองประดับด้วยไข่มุกเดินเข้ามากล่าวถามเฉินฝานด้วยท่าทีโอหังบุคคลนี้คือลูกชายคนโตของตระกูลเหลยเก่าแก่อันดับหนึ่งของเมืองเซียนตู เหลยหย่งอันด้วยความที่ชาติตระกูลมีเงินและอำนาจ เหลยหย่งอันได้รับสมญานามให้เป็นอันธพาลอันดับหนึ่งในเมืองเซียนตู ปกติก็มักจะรังแกผู้ชายข่มเหงผู้หญิง กระทำชั่วทุกรูปแบบสำหรับวีรกรรมของเหลยหย่งอันแล้ว เจ้าเมืองซื่อต้าเผิงต้องยอมปล่อยผ่านไปเหลยหย่งอันรู้สึกว่ามิถูกชะตาเฉินฝานอยู่ก่อนแล้วเรือนเซียนผาสุกมีกฎว่านอกจากผู้ฟังโชคดี่ถูกเมี่ยวอวี่สุ่มเลือกมา บุคคลที่ให้เงินรางวัลจำนวนมากที่สุด เมี่ยวอวี่ก็จะบรรเลงพิณเป็นการส่วนตัวเช่นกันทว่า ทุกปีจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นต้นปีเหลยหย่งอันก็เริ่มให้เงินรางวัลจำนวนมหาศาล ในที่สุดเมื่อมาถึงเดือนท้ายปีก็ได้ลำดับที่หนึ่งมาครองเห็นว่าตนเองสามารถเข้าไปในกระท่อมหิมะพบกับเมี่ยวอวี่ ได้ฟังพิณที่นางบรรเลงให้ตนเองโดยเฉพาะ กลับคาดมิถึงว่าอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 848

    เรือนเซียนผาสุกมีชื่อเสียงเงินทองมหาศาลดังคาด จำนวนเสบียงที่กักตุนไว้ตอนฤดูหนาว มากกว่าเสบียงครึ่งปีของครอบครัวสามัญชนเสียอีกตรงข้ามกับผู้เหลือรอดเหล่านั้น เฉินฝานยิ่งฟัง คิ้วยิ่งขมวดหนักขึ้นเรื่อย ๆน้อยไป น้อยเกินไปแล้วคนสามร้อยกว่าคน ต่อให้กินอาหารวันละหนึ่งมื้อ เสบียงอาหารเหล่านี้ก็หมดเกลี้ยงเพียงในพริบตาเดียว“เสบียงอาหารของกระท่อมหิมะนำออกมาไว้ที่แห่งนี้ทั้งหมดแล้วใช่หรือไม่?” เฉินฝานหันหน้ากล่าวถามเมี่ยวอวี่“กระท่อมหิมะแห่งนี้ของข้ามิได้ใหญ่โตเสียหน่อย ตุนไว้จำนวนมากเพียงนั้น ยังมินับว่าเยอะอีกหรือ?” เมี่ยวอวี่ย้อนถามเฉินฝาน“ก็จริง” เฉินฝานหัวเราะสมเพชตนเองในส่วนลึกของหัวใจ หวังว่าจะมีเยอะกว่านี้“ตอนนี้นับเสบียงเรียบร้อยแล้ว รีบแบ่งให้ทุกคนเถอะ”มีคนเร่งเร้าหิวจนทนมิไหวแล้วจริง ๆ“แบ่งมิได้!” เฉินฝานกล่าว“มิแบ่งงั้นหรือ?”สายตาสามร้อยกว่าคนจับจ้องไปที่เฉินฝานอย่างพร้อมเพียงมิเข้าใจ มิเชื่อเสบียงอาหารทั้งหมดถูกขนย้ายออกมานับจำนวนแล้ว ไม่เพียงแต่จำนวนเสบียงเท่านั้น จำนวนคนก็นับแล้วเช่นกันทำถึงเพียงนี้แล้ว เฉินฝานกลับกล่าวว่ามิแบ่งแล้ว“เจ้าหมายความว่าอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 847

    เขายืนกรานไม่ยอมนำเสบียงออกมามิใช่หรือ ไฉนตอนนี้ต้องการเอาออกมา และยังต้องนำออกมาทั้งหมดอีกด้วยเขากำลังคิดสิ่งใดอยู่กันแน่?“ทำไมล่ะ? แม่นางเมี่ยวอวี่มิเห็นด้วยงั้นหรือ?” เฉินฝานกล่าวถาม“โอ้ ไม่ใช่หรอก!” เมี่ยวอวี่กล่าวอย่างรีบร้อน “แน่นอนว่าข้าต้องเห็นด้วยอยู่แล้ว เจ้ารีบพาคนไปนำเสบียงอาหารในคลังออกมาทั้งหมด”“ช้าก่อน!” เฉินฝานเรียกยายจ้าวไว้ “เพื่อให้มั่นใจว่าเสบียงอาหารทั้งหมดจะถูกขนย้ายออกมา เย่ว์เจียวเจ้าไปตามยายจ้าวไปด้วย พวกเจ้า... ”เฉินฝานหันไปกล่าวกับผู้เหลือรอดเหล่านั้น “ก็ส่งหนึ่งคนตามไปด้วย”ผ่านไปครู่เดียว เสบียงอาหารทั้งหมดในกระท่อมหิมะถูกขนมาไว้ด้านหน้าฝูงชนเฉินฝานมองดูเสบียงอาหารที่กองเป็นพะเนินด้านหน้า กล่าวอย่างเนิบนาบ “โอ้ จำนวนมิน้อยเลยนะเนี่ย”“อากาศเย็น คร้านออกไปจับจ่าย ดังนั้นจึงซื้อจำนวนมากในคราวเดียว” เมี่ยวอวี่กล่าวอย่างมิใส่ใจมากนักเสบียงอาหารเหล่านั้นมีจำนวนมากก็จริงทว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนจำนวนมากเพียงนี้อยู่รอด!ท้ายที่สุด ก็ยังคงต้องตายอยู่ดีเหล่าผู้เหลือรอด มิได้มองการณ์ไกลเช่นนั้น พวกเขาที่หิวมาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว มองเสบียงอาห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 846

    เมื่อมีคนเปิดประเด็นแล้วคนอื่นก็พากันทำตาม คนกลุ่มใหญ่จำนวนมหาศาลคุกเข่าต่อหน้าเฉินฝานเฉินฝานมิได้กล่าวอันใด เมี่ยวอวี่ที่อยู่ด้านข้างชิงพูดก่อน“เหอะ!” เมี่ยวอวี่เยาะเย้ยออกมาทันที กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ช่างเป็นชายที่ใจดำอำมหิตเสียจริง คิดว่าตนเองมีผู้มากฝีมือที่เก่งกาจอยู่ข้างกาย ก็สามารถมิสนใจชีวิตของผู้คนรอบตัว แม้กระทั่งเด็กและคนชราก็ยังมิยอมช่วย”เมี่ยวอวี่จงใจกล่าวเช่นนี้จงใจที่พัดความโมโหของฝูงชนให้ลุกฮือดังคาด...“เขาใจดำอำมหิตเพียงนั้น แม้กระทั่งเด็กน้อยคนแก่ก็ยังมิยอมให้อาหารกินแม้แต่น้อย เช่นนั้นเรายังต้องกลัวสิ่งใดอีก?”เมื่อมีคนเริ่มก็มีคนตาม“ถูกต้อง อย่างไรเสียก็ถูกขังจนตายอยู่ที่นี้อยู่ดี ก่อนที่จะจากโลกนี้ไป ทุกคนต้องได้กินให้อิ่มท้อง!”“พวกเรามิต้องมาอ้อนวอนอยู่ตรงนี้และ ไปสืบเสาะ ไปค้นหา กระท่อมหิมะอาจจะใหญ่ไปเสียหน่อย แต่พวกเรามีจำนวนคนเยอะจะหาที่ซ่อนของเสบียงอาหารมิได้เชียวหรือ?”กลุ่มคนจำนวนมหาศาลในกระท่อมแต่เดิม รีบออกไปอย่างรวดเร็วราวกับกระแสน้ำลงของมหาสมุทร“เจี้ยนฮวง!” เฉินฝานกล่าวเกรงว่าเซียนเจี้ยนหวงจะเข้าใจผิด เฉินฝานจึงพูดเสริมอีกห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 845

    เซียนเจี้ยนหวงมิลงมือทำร้ายสามัญชน ชายรอยบาดแผลคิดว่าชื่อเสียงของเซียนเจี้ยนหวงเป็นสิ่งจอมปลอม และเขาคิดว่าตนเองมีจำนวนมากมาย ต่อให้เซียนเจี้ยนหวงจะเก่งกาจเพียงใดก็มิสามารถลุยเดี่ยวกับคนหนึ่งร้อยคนได้และเฉินฝานก็ดูจะเป็นคนสุภาพเรียบร้อย ดังนั้นชายรอยบาดแผลมิได้รู้สึกเกรงกลัวอันใด ท่าทียโสโอหังยิ่งเขาต้องการเสบียงอาหารในกระท่อมหิมะทั้งหมด และประสงค์ที่จะคุมชะตาคนหลายคนไว้ในกำมือ ในขณะเดียวกันก็สามารถช่วยเมี่ยวอวี่ให้หลุดพ้นได้ด้วยอำนาจ สาวงาม เสบียงอาหารเขาต้องการทั้งหมดเฉินฝานเงยหน้าขึ้น เหลือบมองชายรอยบาดแผลอย่างเรียบนิ่ง “ดูเจ้าพูดเข้าสิ เจ้าเก่งกาจมากสินะ”“เยี่ยนหลิ่งผู้ยิ่งใหญ่!” ชายรอยบาดแผลวางท่าทีใหญ่โต“ว้าว!” เฉินฝานยกนิ้วโป้ง “ชื่อนี้ช่างน่าเกรงขามเสียจริง!”สุดยอด!เซียนเจี้ยนหวงต้องเก็บอาการอยู่ด้านข้างนี่คงจะเป็นความสนุกเพียงอย่างเดียวตอนที่ถูกกักขังอยู่ที่แห่งนี้ดูคนโง่ ที่จริงแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าสนุก“เพียงแต่...” เฉินฝานเปลี่ยนเรื่องทันที “มิทราบว่าชื่อที่น่าเกรงขามเช่นนี้ จะชำนาญในการต่อสู้หรือไม่?”ระหว่างที่พูด เฉินฝานหันไปด้านข้างเล็กน้อย “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 844

    “ตุ้บ ๆ ๆ ๆ!”เสียงทุบประตูหน้าต่างด้านนอกดังขึ้นเรื่อย ๆ เซียนเจี้ยนหวงฝึกวรยุทธ์จนชำนาญแล้ว สถานการณ์ฝั่งเขานั้นค่อนข้างไปในทิศทางที่ดีฝั่งฉินเย่ว์เจียวและเย่ว์หนูนี้ค่อนข้างลำบาก“เย่ว์หนู เจ้ากันไว้ก่อน ข้าจะไปย้ายเตียงมากันไว้!”“มิจำเป็นหรอก!” เฉินฝานโบกมือเล็กน้อย เขาให้ฉินเย่ว์เจียวและเย่ว์หนูเปิดประตูออก“เปิดประตูงั้นหรือ?” ฉินเย่ว์เจียวส่ายหน้าทันที “ไม่ได้เจ้าค่ะ นายท่าน”คนด้านนอกทุกคนล้วนโกรธเฉินฝานจนกัดฟันกรอด ตะโกนอย่างดุเดือดเพื่อให้ต้องการพวกเขาผ่านเข้าไป เฉินฝานเสี่ยงอันตรายเกินไปแล้ว“พวกเจ้าสามารถกันไว้ได้หนึ่งชั่วยาม จะสามารถกันได้ถึงสองชั่วยามงั้นหรือ?”เมื่อคนตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตาย มิว่าสิ่งใดก็สามารถทำได้ความเลวทรามของมนุษย์ เป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวที่สุดในโลกใบนี้“นายท่าน ขอเพียงข้ายังอยู่ ข้าก็จะยังคงกันต่อไปเรื่อย ๆ จะมิยอมให้คนด้านนอกเหล่านั้นทำร้ายท่านแม้แต่ปลายเล็บ”ฉินเย่ว์เจียวกำหมัดไว้แน่นขนัดเฉินฝานมองท่าทีที่เศร้าสลดทว่าเข้มแข็งของฉินเย่ว์เจียว รู้สึกซาบซึ้งและหงุดหงิด“นายท่าน บ่าวก็เช่นกันเจ้าค่ะ”เย่ว์หนูเพิ่มแรงในการกันประต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 843

    ฉินเย่ว์เจียวง้างมือขึ้นทันที เดิมทีต้องการจะตบหน้าเมี่ยวอวี่เป็นครั้งที่สองพลันยั้งมือกะทันหันกลั้นหายใจ รอฟังคำตอบของเมี่ยวอวี่ด้วยความกังวลเฉินฝานก็อดมิได้ที่จะเงี่ยหูฟังจะรู้ร่องรอยของเย่ว์ฉินแล้ว รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย“หยกห้อยเอวชิ้นนี้...”“ตุ้บ!”อยู่ ๆ ก็มีก้อนหิมะลอยก้อนหนึ่งลอยทะลุหน้าต่างเข้ามา“โอ๊ย!”เมี่ยวอวี่อยู่ใกล้หน้าต่างอย่างมาก ก้อนหิมะขว้างโดนหัวหน้า ทำให้นางตกใจจึงร้องออกมาทันที“ตุ้บ”ครั้งนี้สิ่งที่ขว้างมาคือก้อนหิน“ระวัง!”เมี่ยวอวี่รู้สึกเพียงว่าร่างกายทรงตัวมิอยู่ ตัวไปชนกับอ้อมอกที่ล่ำสันหัวสมองว่างเปล่าราวกับถูกจี้จุด เมี่ยวอวี่มองเฉินฝานด้วยความมึนงงดวงตากลมโตที่เปล่งประกายแวววับดังดวงดารา สภาพอารมณ์แปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็วหาคำตอบมิได้ มิเชื่อ มิเข้าใจ“เจ้า...” เมี่ยวอวี่กลอกตาไปมา “ไยเจ้าจึงช่วยข้า?”หากมิใช่เฉินฝานดึงนางหลบได้ทัน ตอนนี้นางก็คงหัวแตกเลือดไหลนองไปนานแล้วเฉินฝานผลักเมี่ยวอวี่ในอ้อมอกออก เขาที่พลังภายในยังฟื้นฟูมิสมบูรณ์เอนตัวล้มพิงเรือนร่างของฉินเย่ว์เจียว น้ำเสียงเยือกเย็น “อย่าคิดเข้าตัวเอง ข้าทำไปตามสัญชาตญาณเท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 842

    ถึงแม้ในทุกวันนางมักจะรับคำเยินยอจากบุรุษเพศอยู่แล้ว ทว่าท่าทางที่รักใคร่หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งราวภาพวาดนี้ นางมิเคยพบเห็นมาก่อนเมี่ยวอวี่ที่สงสัยว่าตัวเองมองผิดไป จึงตั้งใจหันกลับไปดูอีกครั้งภาพที่เฉินฝานช่วยปัดไรผมบนหน้าผากของฉินเย่ว์เจียวออก และฉินเย่ว์เจียวยิ้มตอบกลับให้เฉินฝานอย่างหวานหยาดเยิ้ม เมี่ยวอวี่เหลือบไปเห็นพอดีไม่จริงหรอก!เมี่ยวอวี่รีบหันหน้ากลับไปด้วยความรวดเร็ว ตีหน้าอกตนเองเบา ๆสองสามทีคาดมิถึงว่าจะเป็นเรื่องจริงใต้หล้านี้มีสามีภรรยาที่รักใคร่กันเช่นนี้จริงหรือ ? เป็นเรื่องจริงหรือว่าผู้ชายจะอ่อนโยนกับภรรยาตนเองได้เพียงนั้น?เฉินฝานเป็นชายที่เลวทรามต่ำช้ามิใช่หรือ?เย่ว์หนูชะเง้อมองมาจากทางเข้าเห็นว่าเฉินฝานตื่นแล้ว รีบวิ่งกลับไปที่ในห้อง ยกโจ๊กครึ่งชามที่วางไว้ในห้องไปอุ่นที่ห้องครัว หลังจากที่อุ่นจนร้อนแล้วก็วิ่งกลับมา“โจ๊กมาแล้วเจ้าค่ะ”“เอามาให้ข้า!” ฉินเย่ว์เจียวรับโจ๊กในมือเย่ว์หนูมาทันที“ลำบากเจ้าแล้ว” เฉินฝานหันไปพยักหน้ากับเย่ว์หนู“บ่าวมิลำบากเลยเจ้าค่ะ ขอเพียงนายท่านหายดีก็เพียงพอแล้ว” เย่ว์หนูหน้าแดง ส่ายหน้าอย่างแรงกล่าวว่าตนเองมิลำ

DMCA.com Protection Status