Share

บทที่ 1070

Penulis: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหตุใดจึงกระวนกระวายเช่นนี้?”

เมื่อเห็นคนคนนั้น อวิ๋นเต๋อรีบเดินไปถามทันที คนที่มาคือหัวหน้าทหารเวรรักษาพระองค์ในวันนี้

“ผู้นำอวิ๋น จู่ๆ นอกวังหลวงก็มีชาวบ้านมากมายมา พวกเขาต้องการเข้าพบท่านอัครเสนาบดีขอรับ!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น โอวหยางน่าหลันที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรโมโหเล็กน้อย “เรื่องเล็กแค่นี้ กลับกระวนกระวายขั้นนี้ อวิ๋นเต๋อ เอาตัวเขาออกไป!”

เมื่อครั้นโอวหยางน่าหลันเพิ่งครอบครองอำนาจ มักจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นบ่อยครั้ง ดังนั้นโอวหยางน่าหลันจึงเคยชินแล้ว สำหรับนางนี่เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ

“องค์หญิง!”

หัวหน้าทหารเวรคุกเข่าลง สีหน้าลำบากใจ

“ครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้งพ่ะย่ะค่ะ ไม่ว่ากระหม่อมจะใช้วิธีการใด พวกชาวบ้านก็ไม่ยอมไป ยิ่งไล่พวกเขาก็ยิ่งบุกเข้ามา กล่าวว่าแม้พวกเขาต้องตาย พวกเขาก็ต้องขอพบท่านอัครเสนาบดีให้ได้!”

โอวหยางน่าหลันโบกมือด้วยความรำคาญ “เช่นนั้นก็ไล่ด้วยวิธีที่รุนแรงขึ้นอีก หากมีคนตาย เช่นนั้นก็ส่งอาหารสำหรับสามปีไปให้ครอบครัวเขา เจ้าไปจัดการด้วยตนเอง!”

นี่คือวิธีการที่โอวหยางน่าหลันใช้เป็นประจำ เมื่อก่อนให้เงิน ตอนนี้ข้าวสารล้ำค่ากว่าเงิน เช
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1071

    เมื่อเฉินฝานออกคำสั่ง เหมียวเหลียงจื้อกับโจวหยางชิงก็ได้รับการปล่อยตัวออกมาพอดีเหล่าขุนนางที่ตามหลังพวกเฉินฝานต่างก้มหน้าพูดคุยแสดงความเห็นกันเบา ๆ “เปิดประตูเมืองโดยตรง เขากล้าดีอย่างไร ไม่กลัวชาวบ้านด้านนอกจะพุ่งเข้ามาทำร้ายเขาหรือไร?”“ท่านอัครเสนาบดีมีความมั่นใจกระมัง”“มั่นใจเกินไปก็จะเป็นความทะนงตน”“ข้าเองก็คิดว่าเขาทระนงตนแล้ว ภายใต้สถานการณ์ที่พวกราษฎรอารมณ์อ่อนไหวถึงเพียงนั้น ขึ้นไปที่หอด้านบนประตูเมืองคงจะดีกว่า” “เอาไว้รอให้เปิดประตูแล้ว พวกเรายืนห่าง ๆ เสียหน่อยจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องพลอยรับเคราะห์ไปด้วย” “ท่านกล่าวได้ถูกต้อง”เมื่อฟังคำวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาขุนนางโดยรอบ นัยน์ตาโจวหยางชิงก็ฉายแววทะมึน เขาหันหน้าไปถามเหมียวเหลียงจื้อเสียงต่ำว่า “เตรียมการเสร็จหมดแล้วหรือยัง?”เหมียวเหลียงจื้อพยักหน้า “เตรียมการเสร็จหมดแล้ว ส่วนมากผู้ที่มาล้วนเป็นช่างตีเหล็กและกรรมกรป่าไม้”“อืม” โจวหยางชิงพยักหน้า สายตาของเขาทอดมองไปที่เฉินฝานอีกครั้ง แววตาดูโหดเหี้ยมชั่วร้ายเฉินฝาน เจ้าอย่าโทษที่ข้าอำมหิตเลย หากจะโทษก็ได้แต่โทษที่เจ้าละโมบมากเกินไป อภิเษกกับองค์หญิงยังไม่พ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1072

    โจวหยางชิงลอบชูนิ้วโป้งให้เหมียวเหลียงจื้อ “ใต้เท้าเหมียว ผู้คนมากมายถึงเพียงนี้ จัดการเรื่องนี้ได้สวยจริง ๆ”เหมียวเหลียงจื้อพยักหน้าเล็กน้อย “ขอบคุณใต้เท้าที่ชื่นชม นี่ไม่ใช่ความดีความชอบของข้า เป็นความโกรธแค้นของราษฎรเท่านั้น” เหมียวเหลียงจื้อปีติยินดี ขณะเดียวกันก็รู้สึกพิศวงด้วยเนื่องจากคนของเขาบอกเขาว่า ได้จัดเตรียมประชาชนราวห้าหมื่นคนให้มาประท้วง แต่ตอนนี้ดูน่าจะมากกว่าห้าหมื่นแล้ว ฝูงชนเนื่องแน่นสุดลูกหูลูกตา อย่างน้อยก็มีสองสามแสนคน“เขานี่แหละ!” มีคนด้านนอกวังชี้มาที่เฉินฝาน“เขาก็คือเฉินฝาน”เสียงของคนผู้นั้นยังไม่ทันสิ้นสุดลง ชาวบ้านที่อัดแน่นตรงหน้าประตูพระราชวังก็พุ่งมาหาเฉินฝานราวกับน้ำทะเลที่โหมกระหน่ำ“คุ้มกันใต้เท้า คุ้มกันใต้เท้า!”อวิ๋นเต๋อที่เป็นห่วงความปลอดภัยของเฉินฝาน ตะโกนเสียงดังพลางวิ่งมาหาเฉินฝานทหารรักษาพระองค์กว่าพันนายล้อมรอบเฉินฝานไว้ คุ้มกันด้านในสามชั้น ด้านนอกสามชั้นภายนอกเป็นราษฎร ภายในเป็นทหารรักษาพระองค์ ทางเข้าพระราชวังที่เดิมทีกว้างขวางมากเปลี่ยนเป็นแออัดในพริบตา แม้ว่ามีทหารรักษาพระองค์กว่าพันนาย แต่ราษฎรด้านนอกมีมากเกินไปจริง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1073

    ฝูงชนที่เนืองแน่นเบื้องหน้าเฉินฝานต่างคุกเข่าลงบนพื้นกันหมด“อวิ๋นเต๋อสั่งให้ยิงธนูแล้วหรือ?” โอวหยางน่าหลันหันหน้าไปถามนางกำนัลข้างกาย “องค์หญิง แม่ทัพอวิ๋นเต๋อไม่ได้ออกคำสั่งให้ยิงธนูเพคะ หลังจากที่คนพวกนั้นพุ่งไปหาท่านอัครเสนาบดีเมื่อครู่นี้ จู่ ๆ ก็พากันคุกเข่าลงเพคะ” นางกำนัลตอบกลับทันที“ไม่ได้ยิงธนู คนพวกนั้นก็คุกเข่าเอง?”โอวหยางน่าหลันทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อโอวหยางน่าหลันเบิกตาโต มองอยู่หลายนาทีเต็ม ๆ ถึงค่อยกล้าเชื่อคำพูดของนางกำนัลแต่นางไม่เข้าใจ คนเหล่านี้บุกประตูวังโดยไม่คำนึงว่าต้องแลกด้วยอะไร บุกเข้ามาในวังโดยที่ไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่าง หลังจากนั้นกลับไม่ได้มาหาเรื่องเฉินฝาน แต่มาคุกเข่าแทน หรือว่าคนพวกนี้จะเปลี่ยนแผนการ ไม่กล่าวประณาม แต่มาขอร้องอ้อนวอนแทน?ขอให้เฉินฟานสละตำแหน่งอัครเสนาบดีหรือ?โอวหยางน่าหลันพลันอารมณ์ดิ่งลงอย่างถึงที่สุดนางรู้จักเฉินฝานดี เฉินฝานเป็นคนใจดีมีเมตตา รักและใส่ใจชาวประชา หากผู้คนต่อต้านเขาอย่างรุนแรง เขาไม่เพียงจะไม่ยอมทำตาม แต่ยังจะจับตัวผู้บงการออกมาด้วยแต่ถ้าคุกเข่าอ้อนวอน มีความเป็นไปได้สูงว่าเฉินฝานจะใจอ่อน สละตำแห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1074

    เมื่อคนเหล่านั้นคุกเข่าลง พวกเขาก็คุกเข่าตามเช่นกัน พวกเขายังนึกว่าเหมียวเหลียงจื้อเปลี่ยนวิธีการแล้ว“คนเหล่านี้ไม่ใช่คนที่มากับพวกเจ้าหรือ?” เหมียวเหลียงจื้อกระวนกระวายใจขึ้นเรื่อย ๆ คนผู้นั้นส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ขอรับ!” เหมียวเหลียงจื้อยิ่งร้อนรน “เช่นนั้นพวกเขามาจากที่ใด?”คนผู้นั้นส่ายศีรษะอีกครั้ง“ส่ายหัว ส่ายหัว นอกจากส่ายหัวแล้ว เจ้ายังทำอะไรเป็นอีกบ้าง?”ใบหน้าของเหมียวเหลียงจื้อเต็มไปด้วยความเดือดดาล เขาแทบอยากจะฉีกคนทิ้ง ทว่าตอนนี้ผู้คนจ้องมองอยู่ เขาไม่กล้าระเบิดโทสะออกมาตรง ๆ “ท่านเทพเซียน ท่านเทพเซียน!”หลังจากผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วยาม เสียงคุกเข่ากราบไหว้ขอบคุณของชาวบ้านไม่เพียงไม่ลดลง ตรงกันข้ามกลับดังขึ้นเรื่อย ๆ“ไม่ใช่เทพเซียนอันใด ข้าเป็นคนธรรมดามีเลือดมีเนื้อเช่นเดียวกับพวกท่าน รีบลุกขึ้นเถิด รีบลุกขึ้นเถิด!” ขณะที่เฉินฝานเอ่ย เขายังโน้มตัวไปพวกประคองพวกชาวบ้านที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมา อย่างไรก็ตามคนเหล่านั้นไม่ยอมเชื่อฟังเลย พอถูกประคองให้ลุกขึ้นก็รีบคุกเข่าลงมาอีกครั้งเฉินฝานบอกว่าครรภ์ขององค์หญิงใหญ่แล้ว ร่างกายไม่สะดวก เขาต้องประคององค์หญิงกลับไปก่อน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1075

    “องค์หญิง!”เลขาธิการกรมพิธีการเซี่ยซวินชางชูหยกสมปรารถนาขึ้นพลางเดินออกมาจากในหมู่ขุนนางที่เรียงราย ก่อนจะยืนอยู่กลางท้องพระโรง “ฎีกาของแม่ทัพอวิ๋นจะต้องเขียนเรื่องที่เอื้อประโยชน์ต่อแคว้นหลู่ของเราอย่างแน่นอน องค์หญิง โปรดทรงอ่านเสียงดังออกมาได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเองก็อยากสัมผัสความปีติยินดีนั้นด้วย!”ยามที่เซี่ยซวินชางเอ่ยคำพูดนี้ ร่างกายก็สั่นเล็กน้อย หากพิจารณาคำพูดนี้ของเขาให้ลึกลงไป มันก็คือการที่ขุนนางร้องขอให้ฮ่องเต้ทำตาม นั่นเป็นเรื่องที่ทำให้หัวหลุดจากบ่าได้เลยแต่เขามีจุดอ่อนสำคัญที่ถูกโจวหยางชิงกุมไว้ในมือ ตอนที่พวกขุนนางกลับมายังท้องพระโรง โจวหยางชิงกับเมี่ยวเหลียงจื้อก็ถูกคุมตัวกลับมาที่ท้องพระโรงด้วย ขณะที่โอวหยางน่าหลันกำลังอ่านฎีกาของอวิ๋นเต๋อ โจวหยางชิงส่งสายตาเป็นนัยให้เซี่ยซวินชาง ทำให้เซี่ยซวินชางจำต้องออกมาถาม โอวหยางน่าหลันช้อนเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย สายตาเย็นชาทิ่มแทงไปบนร่างของเซี่ยซวินชางเซี่ยซวินชางตัวสั่นแรงมากขึ้น“มีอันใดต้องห้าม!” โอวหยางน่าหลันโบกมือทีหนึ่ง “อ่านออกเสียง!”หัวหน้าขันทีที่อยู่ไม่ไกลจากโอวหยางน่าหลันวิ่งเหยาะ ๆ เข้าม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1076

    “ตึง!”เสียงดังทุ้มมาจากในท้องพระโรง เหมียวเหลียงจื้อคุกเข่าลงกับพื้นอย่างหนักหน่วง หันหน้าไปทางเฉินฝาน“ท่านอัครเสนาบดี ข้าน้อยผิดไปแล้ว ข้าน้อยไม่ควรหลงเชื่อคำพูดปรักปรำ!”ใบหน้าของเหมียวเหลียงจื้อเต็มไปด้วยความเสียใจ สำนึกแค้นใจตัวเองว่าเพราะเหตุใดถึงไม่เชื่อฟังคำสั่งเสียของบิดาก่อนที่เหมียวปิงจะสิ้นใจได้ดึงมือของเขาไว้แล้วกำชับเขาสองเรื่องเรื่องแรกก็คือสนับสนุนโอวหยางน่าหลัน หากโอวหยางน่าหลันต้องการแต่งงานกับเฉินฝาน ให้เขาเป็นอัครเสนาบดีของแคว้นหลู่ ห้ามคัดค้าน อีกทั้งยังต้องให้การสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง หากเฉินฝานยอมตกลงเป็นอัครเสนาบดีของแคว้นหลู่ นั่นคือโชคอันใหญ่หลวงของแคว้นหลู่เรื่องที่สองก็คือให้เขาอยู่ให้ห่างจากโจวหยางชิงสองเรื่องที่เหมียวปิงกำชับ เขาทำทั้งหมด เพียงแต่ว่าทำตรงกันข้ามเท่านั้นโจวหยางชิงบอกกับเขาว่าเฉินฝานเป็นคนแคว้นต้าชิ่ง ไม่มีทางทุ่มเทใจทั้งหมดให้แคว้นหลู่ เขาจะต้องคิดหาวิธีปอกลอกแคว้นหลู่เพื่อไปช่วยเหลือต้าชิ่งอย่างแน่นอนแรกเริ่ม เหมียวเหลียงจื้อไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำพูดของโจวหยางชิง บอกว่าตอนที่บิดาของเขายังมีชีวิตอยู่เคยบอกว่าเฉินฝานจะไม่ทำร้าย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1077

    โอวหยางน่าหลันเข้าใจความหมายของเฉินฝานทันที“ทหาร จงลากตัวโจวหยางชิงออกไปประหารเสีย!”ทหารรักษาพระองค์ที่ได้ยินคำสั่งก็เข้ามาในท้องพระโรง แต่ยังไม่ทันได้แตะต้องโจวหยางชิง โจวหยางชิงก็ตะโกนเสียงดังลั่น“ใครกล้าแตะต้องข้า!”“ข้าเป็นมหาราชครูของฮ่องเต้ มีเพียงฮ่องเต้เท่านั้นที่ประหารข้าได้!”ในกฎหมายของแคว้นหลู่มีกฎข้อนี้จริง ๆมหาราชครูส่วนใหญ่ล้วนเริ่มติดตามฮ่องเต้ตั้งแต่ตอนที่พระองค์ไม่กี่ชันษา อยู่ร่วมกันมาเป็นเวลานาน เป็นทั้งอาจารย์และบิดา ฮ่องเต้จึงค่อนข้างมีความผูกพันลึกซึ้งกับมหาราชครู ฮ่องเต้องค์ที่สองของแคว้นหลู่ เดิมทีพระองค์มีพรสวรรค์ในระดับทั่วไป แต่เป็นเพราะมีมหาราชครูที่โดดเด่นอยู่ข้างกาย พระองค์จึงปกครองแคว้นหลู่ได้อย่างยอดเยี่ยมภายใต้การช่วยเหลือของมหาราชครูผู้นั้นทางด้านการทหาร เศรษฐกิจและวัฒนธรรมล้วนเจริญก้าวหน้าขึ้นมาก ทำให้แคว้นหลู่ที่ยังเล็กและอ่อนแอมากในตอนนั้นมั่งคั่งแข็งแกร่งขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ ฮ่องเต้องค์ที่สองของแคว้นหลู่จึงประกาศว่ามีเพียงฮ่องเต้เท่านั้นที่สามารถตัดสินโทษตามกฎหมายกับมหาราชครูได้ เพราะว่ากฎหมายข้อนี้เอง โจวหยางชิงถึงได้กล้ายุยงเหมีย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1078

    โอวหยางกว่างเซวียนมองโจวหยางชิง แล้วหันหน้ากลับไปมองโอวหยางน่าหลัน สีหน้าดูลำบากใจ“เซวียนเอ๋อร์ เจ้ายังลังเลอะไรอีก? สังหารขุนนางชั่วที่นำภัยมาสู่บ้านเมืองและราษฎรผู้นี้เสีย!”โอวหยางน่าหลันเร่งเร้า โจวหยางชิงก็เร่งเร้าเช่นกัน“ฝ่าบาท พระองค์รีบลงมือเถิดพ่ะย่ะค่ะ”“แต่ว่า...” โอวหยางกว่างเซวียนทำหน้านิ่ว ดูลำบากใจมากยิ่งขึ้นเสด็จพ่อเคยบอกเขาว่าเขาต้องเชื่อฟังคำพูดของพี่หญิงเขาเองก็ต้องเชื่อฟังคำพูดของท่านอาจารย์ด้วยแต่เพราะเหตุใดพี่หญิงถึงอยากฆ่าท่านอาจารย์ท่านอาจารย์ก็จะให้เขาฆ่าท่านอาจารย์ด้วยเขาไม่กลัวเจ็บเลยหรือไร?หลายวันมานี้ท่านอาจารย์เอาแต่พูดเรื่องความตายกับเขา ท่านอาจารย์บอกว่าตายแล้วก็จะไม่ได้พบคนผู้นั้นอีกตลอดกาลหากท่านอาจารย์ตายแล้ว เช่นนั้นเขาก็จะไม่ได้พบท่านอาจารย์ตลอดไปไม่ใช่หรือ?เขาไม่อยากไม่ได้เจอท่านอาจารย์ตลอดไป“....ขะ ข้ากลัวดาบ!”ในขณะที่โอวหยางน่าหลันกับโจวหยางชิงเร่งเร้าครั้งแล้วครั้งเล่า โอวหยางกว่างเซวียนก็เค้นคำพูดนี้ออกมาด้วยความร้อนรน“เจ้าเป็นฮ่องเต้ ฆ่าคนไยต้องให้เจ้าลงมือเองด้วยเล่า หลีกังหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็อยู่ที่นี่ เจ้า

Bab terbaru

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status