Share

บทที่ 1072

Penulis: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
โจวหยางชิงลอบชูนิ้วโป้งให้เหมียวเหลียงจื้อ “ใต้เท้าเหมียว ผู้คนมากมายถึงเพียงนี้ จัดการเรื่องนี้ได้สวยจริง ๆ”

เหมียวเหลียงจื้อพยักหน้าเล็กน้อย “ขอบคุณใต้เท้าที่ชื่นชม นี่ไม่ใช่ความดีความชอบของข้า เป็นความโกรธแค้นของราษฎรเท่านั้น”

เหมียวเหลียงจื้อปีติยินดี ขณะเดียวกันก็รู้สึกพิศวงด้วย

เนื่องจากคนของเขาบอกเขาว่า ได้จัดเตรียมประชาชนราวห้าหมื่นคนให้มาประท้วง แต่ตอนนี้ดูน่าจะมากกว่าห้าหมื่นแล้ว ฝูงชนเนื่องแน่นสุดลูกหูลูกตา อย่างน้อยก็มีสองสามแสนคน

“เขานี่แหละ!”

มีคนด้านนอกวังชี้มาที่เฉินฝาน

“เขาก็คือเฉินฝาน”

เสียงของคนผู้นั้นยังไม่ทันสิ้นสุดลง ชาวบ้านที่อัดแน่นตรงหน้าประตูพระราชวังก็พุ่งมาหาเฉินฝานราวกับน้ำทะเลที่โหมกระหน่ำ

“คุ้มกันใต้เท้า คุ้มกันใต้เท้า!”

อวิ๋นเต๋อที่เป็นห่วงความปลอดภัยของเฉินฝาน ตะโกนเสียงดังพลางวิ่งมาหาเฉินฝาน

ทหารรักษาพระองค์กว่าพันนายล้อมรอบเฉินฝานไว้ คุ้มกันด้านในสามชั้น ด้านนอกสามชั้น

ภายนอกเป็นราษฎร ภายในเป็นทหารรักษาพระองค์ ทางเข้าพระราชวังที่เดิมทีกว้างขวางมากเปลี่ยนเป็นแออัดในพริบตา

แม้ว่ามีทหารรักษาพระองค์กว่าพันนาย แต่ราษฎรด้านนอกมีมากเกินไปจริง
Bab Terkunci
Lanjutkan Membaca di GoodNovel
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1073

    ฝูงชนที่เนืองแน่นเบื้องหน้าเฉินฝานต่างคุกเข่าลงบนพื้นกันหมด“อวิ๋นเต๋อสั่งให้ยิงธนูแล้วหรือ?” โอวหยางน่าหลันหันหน้าไปถามนางกำนัลข้างกาย “องค์หญิง แม่ทัพอวิ๋นเต๋อไม่ได้ออกคำสั่งให้ยิงธนูเพคะ หลังจากที่คนพวกนั้นพุ่งไปหาท่านอัครเสนาบดีเมื่อครู่นี้ จู่ ๆ ก็พากันคุกเข่าลงเพคะ” นางกำนัลตอบกลับทันที“ไม่ได้ยิงธนู คนพวกนั้นก็คุกเข่าเอง?”โอวหยางน่าหลันทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อโอวหยางน่าหลันเบิกตาโต มองอยู่หลายนาทีเต็ม ๆ ถึงค่อยกล้าเชื่อคำพูดของนางกำนัลแต่นางไม่เข้าใจ คนเหล่านี้บุกประตูวังโดยไม่คำนึงว่าต้องแลกด้วยอะไร บุกเข้ามาในวังโดยที่ไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่าง หลังจากนั้นกลับไม่ได้มาหาเรื่องเฉินฝาน แต่มาคุกเข่าแทน หรือว่าคนพวกนี้จะเปลี่ยนแผนการ ไม่กล่าวประณาม แต่มาขอร้องอ้อนวอนแทน?ขอให้เฉินฟานสละตำแหน่งอัครเสนาบดีหรือ?โอวหยางน่าหลันพลันอารมณ์ดิ่งลงอย่างถึงที่สุดนางรู้จักเฉินฝานดี เฉินฝานเป็นคนใจดีมีเมตตา รักและใส่ใจชาวประชา หากผู้คนต่อต้านเขาอย่างรุนแรง เขาไม่เพียงจะไม่ยอมทำตาม แต่ยังจะจับตัวผู้บงการออกมาด้วยแต่ถ้าคุกเข่าอ้อนวอน มีความเป็นไปได้สูงว่าเฉินฝานจะใจอ่อน สละตำแห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1074

    เมื่อคนเหล่านั้นคุกเข่าลง พวกเขาก็คุกเข่าตามเช่นกัน พวกเขายังนึกว่าเหมียวเหลียงจื้อเปลี่ยนวิธีการแล้ว“คนเหล่านี้ไม่ใช่คนที่มากับพวกเจ้าหรือ?” เหมียวเหลียงจื้อกระวนกระวายใจขึ้นเรื่อย ๆ คนผู้นั้นส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ขอรับ!” เหมียวเหลียงจื้อยิ่งร้อนรน “เช่นนั้นพวกเขามาจากที่ใด?”คนผู้นั้นส่ายศีรษะอีกครั้ง“ส่ายหัว ส่ายหัว นอกจากส่ายหัวแล้ว เจ้ายังทำอะไรเป็นอีกบ้าง?”ใบหน้าของเหมียวเหลียงจื้อเต็มไปด้วยความเดือดดาล เขาแทบอยากจะฉีกคนทิ้ง ทว่าตอนนี้ผู้คนจ้องมองอยู่ เขาไม่กล้าระเบิดโทสะออกมาตรง ๆ “ท่านเทพเซียน ท่านเทพเซียน!”หลังจากผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วยาม เสียงคุกเข่ากราบไหว้ขอบคุณของชาวบ้านไม่เพียงไม่ลดลง ตรงกันข้ามกลับดังขึ้นเรื่อย ๆ“ไม่ใช่เทพเซียนอันใด ข้าเป็นคนธรรมดามีเลือดมีเนื้อเช่นเดียวกับพวกท่าน รีบลุกขึ้นเถิด รีบลุกขึ้นเถิด!” ขณะที่เฉินฝานเอ่ย เขายังโน้มตัวไปพวกประคองพวกชาวบ้านที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมา อย่างไรก็ตามคนเหล่านั้นไม่ยอมเชื่อฟังเลย พอถูกประคองให้ลุกขึ้นก็รีบคุกเข่าลงมาอีกครั้งเฉินฝานบอกว่าครรภ์ขององค์หญิงใหญ่แล้ว ร่างกายไม่สะดวก เขาต้องประคององค์หญิงกลับไปก่อน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1075

    “องค์หญิง!”เลขาธิการกรมพิธีการเซี่ยซวินชางชูหยกสมปรารถนาขึ้นพลางเดินออกมาจากในหมู่ขุนนางที่เรียงราย ก่อนจะยืนอยู่กลางท้องพระโรง “ฎีกาของแม่ทัพอวิ๋นจะต้องเขียนเรื่องที่เอื้อประโยชน์ต่อแคว้นหลู่ของเราอย่างแน่นอน องค์หญิง โปรดทรงอ่านเสียงดังออกมาได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเองก็อยากสัมผัสความปีติยินดีนั้นด้วย!”ยามที่เซี่ยซวินชางเอ่ยคำพูดนี้ ร่างกายก็สั่นเล็กน้อย หากพิจารณาคำพูดนี้ของเขาให้ลึกลงไป มันก็คือการที่ขุนนางร้องขอให้ฮ่องเต้ทำตาม นั่นเป็นเรื่องที่ทำให้หัวหลุดจากบ่าได้เลยแต่เขามีจุดอ่อนสำคัญที่ถูกโจวหยางชิงกุมไว้ในมือ ตอนที่พวกขุนนางกลับมายังท้องพระโรง โจวหยางชิงกับเมี่ยวเหลียงจื้อก็ถูกคุมตัวกลับมาที่ท้องพระโรงด้วย ขณะที่โอวหยางน่าหลันกำลังอ่านฎีกาของอวิ๋นเต๋อ โจวหยางชิงส่งสายตาเป็นนัยให้เซี่ยซวินชาง ทำให้เซี่ยซวินชางจำต้องออกมาถาม โอวหยางน่าหลันช้อนเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย สายตาเย็นชาทิ่มแทงไปบนร่างของเซี่ยซวินชางเซี่ยซวินชางตัวสั่นแรงมากขึ้น“มีอันใดต้องห้าม!” โอวหยางน่าหลันโบกมือทีหนึ่ง “อ่านออกเสียง!”หัวหน้าขันทีที่อยู่ไม่ไกลจากโอวหยางน่าหลันวิ่งเหยาะ ๆ เข้าม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1076

    “ตึง!”เสียงดังทุ้มมาจากในท้องพระโรง เหมียวเหลียงจื้อคุกเข่าลงกับพื้นอย่างหนักหน่วง หันหน้าไปทางเฉินฝาน“ท่านอัครเสนาบดี ข้าน้อยผิดไปแล้ว ข้าน้อยไม่ควรหลงเชื่อคำพูดปรักปรำ!”ใบหน้าของเหมียวเหลียงจื้อเต็มไปด้วยความเสียใจ สำนึกแค้นใจตัวเองว่าเพราะเหตุใดถึงไม่เชื่อฟังคำสั่งเสียของบิดาก่อนที่เหมียวปิงจะสิ้นใจได้ดึงมือของเขาไว้แล้วกำชับเขาสองเรื่องเรื่องแรกก็คือสนับสนุนโอวหยางน่าหลัน หากโอวหยางน่าหลันต้องการแต่งงานกับเฉินฝาน ให้เขาเป็นอัครเสนาบดีของแคว้นหลู่ ห้ามคัดค้าน อีกทั้งยังต้องให้การสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง หากเฉินฝานยอมตกลงเป็นอัครเสนาบดีของแคว้นหลู่ นั่นคือโชคอันใหญ่หลวงของแคว้นหลู่เรื่องที่สองก็คือให้เขาอยู่ให้ห่างจากโจวหยางชิงสองเรื่องที่เหมียวปิงกำชับ เขาทำทั้งหมด เพียงแต่ว่าทำตรงกันข้ามเท่านั้นโจวหยางชิงบอกกับเขาว่าเฉินฝานเป็นคนแคว้นต้าชิ่ง ไม่มีทางทุ่มเทใจทั้งหมดให้แคว้นหลู่ เขาจะต้องคิดหาวิธีปอกลอกแคว้นหลู่เพื่อไปช่วยเหลือต้าชิ่งอย่างแน่นอนแรกเริ่ม เหมียวเหลียงจื้อไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำพูดของโจวหยางชิง บอกว่าตอนที่บิดาของเขายังมีชีวิตอยู่เคยบอกว่าเฉินฝานจะไม่ทำร้าย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1077

    โอวหยางน่าหลันเข้าใจความหมายของเฉินฝานทันที“ทหาร จงลากตัวโจวหยางชิงออกไปประหารเสีย!”ทหารรักษาพระองค์ที่ได้ยินคำสั่งก็เข้ามาในท้องพระโรง แต่ยังไม่ทันได้แตะต้องโจวหยางชิง โจวหยางชิงก็ตะโกนเสียงดังลั่น“ใครกล้าแตะต้องข้า!”“ข้าเป็นมหาราชครูของฮ่องเต้ มีเพียงฮ่องเต้เท่านั้นที่ประหารข้าได้!”ในกฎหมายของแคว้นหลู่มีกฎข้อนี้จริง ๆมหาราชครูส่วนใหญ่ล้วนเริ่มติดตามฮ่องเต้ตั้งแต่ตอนที่พระองค์ไม่กี่ชันษา อยู่ร่วมกันมาเป็นเวลานาน เป็นทั้งอาจารย์และบิดา ฮ่องเต้จึงค่อนข้างมีความผูกพันลึกซึ้งกับมหาราชครู ฮ่องเต้องค์ที่สองของแคว้นหลู่ เดิมทีพระองค์มีพรสวรรค์ในระดับทั่วไป แต่เป็นเพราะมีมหาราชครูที่โดดเด่นอยู่ข้างกาย พระองค์จึงปกครองแคว้นหลู่ได้อย่างยอดเยี่ยมภายใต้การช่วยเหลือของมหาราชครูผู้นั้นทางด้านการทหาร เศรษฐกิจและวัฒนธรรมล้วนเจริญก้าวหน้าขึ้นมาก ทำให้แคว้นหลู่ที่ยังเล็กและอ่อนแอมากในตอนนั้นมั่งคั่งแข็งแกร่งขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ ฮ่องเต้องค์ที่สองของแคว้นหลู่จึงประกาศว่ามีเพียงฮ่องเต้เท่านั้นที่สามารถตัดสินโทษตามกฎหมายกับมหาราชครูได้ เพราะว่ากฎหมายข้อนี้เอง โจวหยางชิงถึงได้กล้ายุยงเหมีย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1078

    โอวหยางกว่างเซวียนมองโจวหยางชิง แล้วหันหน้ากลับไปมองโอวหยางน่าหลัน สีหน้าดูลำบากใจ“เซวียนเอ๋อร์ เจ้ายังลังเลอะไรอีก? สังหารขุนนางชั่วที่นำภัยมาสู่บ้านเมืองและราษฎรผู้นี้เสีย!”โอวหยางน่าหลันเร่งเร้า โจวหยางชิงก็เร่งเร้าเช่นกัน“ฝ่าบาท พระองค์รีบลงมือเถิดพ่ะย่ะค่ะ”“แต่ว่า...” โอวหยางกว่างเซวียนทำหน้านิ่ว ดูลำบากใจมากยิ่งขึ้นเสด็จพ่อเคยบอกเขาว่าเขาต้องเชื่อฟังคำพูดของพี่หญิงเขาเองก็ต้องเชื่อฟังคำพูดของท่านอาจารย์ด้วยแต่เพราะเหตุใดพี่หญิงถึงอยากฆ่าท่านอาจารย์ท่านอาจารย์ก็จะให้เขาฆ่าท่านอาจารย์ด้วยเขาไม่กลัวเจ็บเลยหรือไร?หลายวันมานี้ท่านอาจารย์เอาแต่พูดเรื่องความตายกับเขา ท่านอาจารย์บอกว่าตายแล้วก็จะไม่ได้พบคนผู้นั้นอีกตลอดกาลหากท่านอาจารย์ตายแล้ว เช่นนั้นเขาก็จะไม่ได้พบท่านอาจารย์ตลอดไปไม่ใช่หรือ?เขาไม่อยากไม่ได้เจอท่านอาจารย์ตลอดไป“....ขะ ข้ากลัวดาบ!”ในขณะที่โอวหยางน่าหลันกับโจวหยางชิงเร่งเร้าครั้งแล้วครั้งเล่า โอวหยางกว่างเซวียนก็เค้นคำพูดนี้ออกมาด้วยความร้อนรน“เจ้าเป็นฮ่องเต้ ฆ่าคนไยต้องให้เจ้าลงมือเองด้วยเล่า หลีกังหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็อยู่ที่นี่ เจ้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1

    “ฝ่าบาท ในรัชสมัยนี้ขาดแคลนชายหนุ่มอย่างหนักพ่ะย่ะค่ะ!”“ร้ายแรงถึงขั้นไหน”“ในหนึ่งร้อยคน มีชายหนุ่มไม่ถึงยี่สิบคน หลายปีมานี้ มีหญิงสาววัยเหมาะสมจำนวนมากจบชีวิตตนเองเพราะไม่มีใครแต่งงานด้วย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่ารากฐานของแผ่นดินอาจสั่นคลอนได้พ่ะย่ะค่ะ”“จงประกาศราชโองการลงไป ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกเขตการปกครอง เมืองที่อยู่ภายใต้การปกครองให้ดำเนินการจัดสรรการแต่งงาน ผู้ใดยินดีรับมากกว่าสามคน มอบรางวัล!”“ผู้ใดให้กำเนิดบุตรชาย มอบรางวัลใหญ่!”“ภายในสามปี ต้องพลิกปรากฏการณ์หญิงมากชายน้อยของแผ่นดินให้จงได้!”-เฉินฝานตื่นขึ้นด้วยเสียงร้องไห้รบกวนเมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่าตนเองอยู่ในห้องที่ตนไม่รู้จักมีหญิงสาวนั่งปิดหน้าร้องไห้เสียงเบานั่งอยู่ข้างกาย“หยุดร้องได้แล้ว ข้ารำคาญ!”เมื่อได้ยินเสียงของเฉินฝาน หญิงสาวปาดน้ำตาและมองเขาทันที “นายท่าน ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ!”เฉินฝากเงยหน้ามองหญิงสาว……ผมเผ้าดำเงาวับ ผิวขาวนวลผุดผ่องดังหยก ดวงตาคู่งามแลมองหมุนรอบเป็นพันครั้ง ทุกการขมวดคิ้วคือการตีความคำว่าสง่างามน่าประทับใจผ้าดิบหยาบกระด้าง ก็ไม่อาจปกปิดรูปร่างน่าเอ็นดูของนางเฮ้ย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 2

    “นายท่าน ข้าน้อยผิดไปแล้ว!”“……” เฉินฝานทำหน้ามึนงง นางมีความผิดอะไร!เขาโน้มตัวจะพยุงฉินเย่ว์โหรวให้ลุกขึ้น ปรากฏว่านางโขกศีรษะกับพื้นโป๊ก ๆ ทันทีที่มือของเขาสัมผัสถึงตัว“ข้าน้อยรู้ว่านายท่านรังเกียจฝีมือของข้าน้อยเสมอมา ข้าน้อยจะไปร่ำเรียนกับกลุ่มสตรีในชุมชนเจ้าค่ะ”“ก่อนหน้านี้ ท่านลงโทษจนขาขวาของข้าน้อยหักแล้ว หากท่านลงโทษจนขาซ้ายของข้าหักอีก ข้าน้อยก็จะปรนนิบัติท่านไม่ได้แล้วนะเจ้าคะ”!!!แท้จริงแล้วเจ้าของร่างเดิมเป็นคนตีขานางหัก!!เมื่อมองขาขวาที่หักของฉินเย่ว์โหรว พลางมีเสียงหวีดดังขึ้นในหัวของเฉินฝานคนสวยขนาดนี้ทั้งคน ยังนอบน้อมอ่อนโยนเช่นนี้อีก มีแต่อยากเอ็นดู เจ้าของร่างเดิมคิดอะไรอยู่กันแน่ เหตุใดถึงกล้าลงมือเช่นนี้!“เมื่อขาเจ้าไม่สะดวก งั้นก็ลุกขึ้นเถิด!”ฉินเย่ว์โหรวตัวสั่นและกลัวเฉินฝานมาก นางแทบไม่ได้รู้ว่าเฉินฝานพูดอะไร “ได้โปรดนายท่าน อย่าทุบตีข้าเลย อย่าทุบข้าเลย”ร่างกายที่สั่นจนควบคุมไม่ได้และสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวั่นกลัวเห็นได้ว่าเมื่อก่อนเจ้าของร่างเดิมทุบตีนางเป็นประจำจนนางกลัวเฉินฝานพูดสามครั้งติดต่อกันว่าจะไม่ทุบตี จากนั้นฉินเย่ว์โหรวก็หยุ

Bab terbaru

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1078

    โอวหยางกว่างเซวียนมองโจวหยางชิง แล้วหันหน้ากลับไปมองโอวหยางน่าหลัน สีหน้าดูลำบากใจ“เซวียนเอ๋อร์ เจ้ายังลังเลอะไรอีก? สังหารขุนนางชั่วที่นำภัยมาสู่บ้านเมืองและราษฎรผู้นี้เสีย!”โอวหยางน่าหลันเร่งเร้า โจวหยางชิงก็เร่งเร้าเช่นกัน“ฝ่าบาท พระองค์รีบลงมือเถิดพ่ะย่ะค่ะ”“แต่ว่า...” โอวหยางกว่างเซวียนทำหน้านิ่ว ดูลำบากใจมากยิ่งขึ้นเสด็จพ่อเคยบอกเขาว่าเขาต้องเชื่อฟังคำพูดของพี่หญิงเขาเองก็ต้องเชื่อฟังคำพูดของท่านอาจารย์ด้วยแต่เพราะเหตุใดพี่หญิงถึงอยากฆ่าท่านอาจารย์ท่านอาจารย์ก็จะให้เขาฆ่าท่านอาจารย์ด้วยเขาไม่กลัวเจ็บเลยหรือไร?หลายวันมานี้ท่านอาจารย์เอาแต่พูดเรื่องความตายกับเขา ท่านอาจารย์บอกว่าตายแล้วก็จะไม่ได้พบคนผู้นั้นอีกตลอดกาลหากท่านอาจารย์ตายแล้ว เช่นนั้นเขาก็จะไม่ได้พบท่านอาจารย์ตลอดไปไม่ใช่หรือ?เขาไม่อยากไม่ได้เจอท่านอาจารย์ตลอดไป“....ขะ ข้ากลัวดาบ!”ในขณะที่โอวหยางน่าหลันกับโจวหยางชิงเร่งเร้าครั้งแล้วครั้งเล่า โอวหยางกว่างเซวียนก็เค้นคำพูดนี้ออกมาด้วยความร้อนรน“เจ้าเป็นฮ่องเต้ ฆ่าคนไยต้องให้เจ้าลงมือเองด้วยเล่า หลีกังหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็อยู่ที่นี่ เจ้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1077

    โอวหยางน่าหลันเข้าใจความหมายของเฉินฝานทันที“ทหาร จงลากตัวโจวหยางชิงออกไปประหารเสีย!”ทหารรักษาพระองค์ที่ได้ยินคำสั่งก็เข้ามาในท้องพระโรง แต่ยังไม่ทันได้แตะต้องโจวหยางชิง โจวหยางชิงก็ตะโกนเสียงดังลั่น“ใครกล้าแตะต้องข้า!”“ข้าเป็นมหาราชครูของฮ่องเต้ มีเพียงฮ่องเต้เท่านั้นที่ประหารข้าได้!”ในกฎหมายของแคว้นหลู่มีกฎข้อนี้จริง ๆมหาราชครูส่วนใหญ่ล้วนเริ่มติดตามฮ่องเต้ตั้งแต่ตอนที่พระองค์ไม่กี่ชันษา อยู่ร่วมกันมาเป็นเวลานาน เป็นทั้งอาจารย์และบิดา ฮ่องเต้จึงค่อนข้างมีความผูกพันลึกซึ้งกับมหาราชครู ฮ่องเต้องค์ที่สองของแคว้นหลู่ เดิมทีพระองค์มีพรสวรรค์ในระดับทั่วไป แต่เป็นเพราะมีมหาราชครูที่โดดเด่นอยู่ข้างกาย พระองค์จึงปกครองแคว้นหลู่ได้อย่างยอดเยี่ยมภายใต้การช่วยเหลือของมหาราชครูผู้นั้นทางด้านการทหาร เศรษฐกิจและวัฒนธรรมล้วนเจริญก้าวหน้าขึ้นมาก ทำให้แคว้นหลู่ที่ยังเล็กและอ่อนแอมากในตอนนั้นมั่งคั่งแข็งแกร่งขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ ฮ่องเต้องค์ที่สองของแคว้นหลู่จึงประกาศว่ามีเพียงฮ่องเต้เท่านั้นที่สามารถตัดสินโทษตามกฎหมายกับมหาราชครูได้ เพราะว่ากฎหมายข้อนี้เอง โจวหยางชิงถึงได้กล้ายุยงเหมีย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1076

    “ตึง!”เสียงดังทุ้มมาจากในท้องพระโรง เหมียวเหลียงจื้อคุกเข่าลงกับพื้นอย่างหนักหน่วง หันหน้าไปทางเฉินฝาน“ท่านอัครเสนาบดี ข้าน้อยผิดไปแล้ว ข้าน้อยไม่ควรหลงเชื่อคำพูดปรักปรำ!”ใบหน้าของเหมียวเหลียงจื้อเต็มไปด้วยความเสียใจ สำนึกแค้นใจตัวเองว่าเพราะเหตุใดถึงไม่เชื่อฟังคำสั่งเสียของบิดาก่อนที่เหมียวปิงจะสิ้นใจได้ดึงมือของเขาไว้แล้วกำชับเขาสองเรื่องเรื่องแรกก็คือสนับสนุนโอวหยางน่าหลัน หากโอวหยางน่าหลันต้องการแต่งงานกับเฉินฝาน ให้เขาเป็นอัครเสนาบดีของแคว้นหลู่ ห้ามคัดค้าน อีกทั้งยังต้องให้การสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง หากเฉินฝานยอมตกลงเป็นอัครเสนาบดีของแคว้นหลู่ นั่นคือโชคอันใหญ่หลวงของแคว้นหลู่เรื่องที่สองก็คือให้เขาอยู่ให้ห่างจากโจวหยางชิงสองเรื่องที่เหมียวปิงกำชับ เขาทำทั้งหมด เพียงแต่ว่าทำตรงกันข้ามเท่านั้นโจวหยางชิงบอกกับเขาว่าเฉินฝานเป็นคนแคว้นต้าชิ่ง ไม่มีทางทุ่มเทใจทั้งหมดให้แคว้นหลู่ เขาจะต้องคิดหาวิธีปอกลอกแคว้นหลู่เพื่อไปช่วยเหลือต้าชิ่งอย่างแน่นอนแรกเริ่ม เหมียวเหลียงจื้อไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำพูดของโจวหยางชิง บอกว่าตอนที่บิดาของเขายังมีชีวิตอยู่เคยบอกว่าเฉินฝานจะไม่ทำร้าย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1075

    “องค์หญิง!”เลขาธิการกรมพิธีการเซี่ยซวินชางชูหยกสมปรารถนาขึ้นพลางเดินออกมาจากในหมู่ขุนนางที่เรียงราย ก่อนจะยืนอยู่กลางท้องพระโรง “ฎีกาของแม่ทัพอวิ๋นจะต้องเขียนเรื่องที่เอื้อประโยชน์ต่อแคว้นหลู่ของเราอย่างแน่นอน องค์หญิง โปรดทรงอ่านเสียงดังออกมาได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเองก็อยากสัมผัสความปีติยินดีนั้นด้วย!”ยามที่เซี่ยซวินชางเอ่ยคำพูดนี้ ร่างกายก็สั่นเล็กน้อย หากพิจารณาคำพูดนี้ของเขาให้ลึกลงไป มันก็คือการที่ขุนนางร้องขอให้ฮ่องเต้ทำตาม นั่นเป็นเรื่องที่ทำให้หัวหลุดจากบ่าได้เลยแต่เขามีจุดอ่อนสำคัญที่ถูกโจวหยางชิงกุมไว้ในมือ ตอนที่พวกขุนนางกลับมายังท้องพระโรง โจวหยางชิงกับเมี่ยวเหลียงจื้อก็ถูกคุมตัวกลับมาที่ท้องพระโรงด้วย ขณะที่โอวหยางน่าหลันกำลังอ่านฎีกาของอวิ๋นเต๋อ โจวหยางชิงส่งสายตาเป็นนัยให้เซี่ยซวินชาง ทำให้เซี่ยซวินชางจำต้องออกมาถาม โอวหยางน่าหลันช้อนเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย สายตาเย็นชาทิ่มแทงไปบนร่างของเซี่ยซวินชางเซี่ยซวินชางตัวสั่นแรงมากขึ้น“มีอันใดต้องห้าม!” โอวหยางน่าหลันโบกมือทีหนึ่ง “อ่านออกเสียง!”หัวหน้าขันทีที่อยู่ไม่ไกลจากโอวหยางน่าหลันวิ่งเหยาะ ๆ เข้าม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1074

    เมื่อคนเหล่านั้นคุกเข่าลง พวกเขาก็คุกเข่าตามเช่นกัน พวกเขายังนึกว่าเหมียวเหลียงจื้อเปลี่ยนวิธีการแล้ว“คนเหล่านี้ไม่ใช่คนที่มากับพวกเจ้าหรือ?” เหมียวเหลียงจื้อกระวนกระวายใจขึ้นเรื่อย ๆ คนผู้นั้นส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ขอรับ!” เหมียวเหลียงจื้อยิ่งร้อนรน “เช่นนั้นพวกเขามาจากที่ใด?”คนผู้นั้นส่ายศีรษะอีกครั้ง“ส่ายหัว ส่ายหัว นอกจากส่ายหัวแล้ว เจ้ายังทำอะไรเป็นอีกบ้าง?”ใบหน้าของเหมียวเหลียงจื้อเต็มไปด้วยความเดือดดาล เขาแทบอยากจะฉีกคนทิ้ง ทว่าตอนนี้ผู้คนจ้องมองอยู่ เขาไม่กล้าระเบิดโทสะออกมาตรง ๆ “ท่านเทพเซียน ท่านเทพเซียน!”หลังจากผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วยาม เสียงคุกเข่ากราบไหว้ขอบคุณของชาวบ้านไม่เพียงไม่ลดลง ตรงกันข้ามกลับดังขึ้นเรื่อย ๆ“ไม่ใช่เทพเซียนอันใด ข้าเป็นคนธรรมดามีเลือดมีเนื้อเช่นเดียวกับพวกท่าน รีบลุกขึ้นเถิด รีบลุกขึ้นเถิด!” ขณะที่เฉินฝานเอ่ย เขายังโน้มตัวไปพวกประคองพวกชาวบ้านที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมา อย่างไรก็ตามคนเหล่านั้นไม่ยอมเชื่อฟังเลย พอถูกประคองให้ลุกขึ้นก็รีบคุกเข่าลงมาอีกครั้งเฉินฝานบอกว่าครรภ์ขององค์หญิงใหญ่แล้ว ร่างกายไม่สะดวก เขาต้องประคององค์หญิงกลับไปก่อน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1073

    ฝูงชนที่เนืองแน่นเบื้องหน้าเฉินฝานต่างคุกเข่าลงบนพื้นกันหมด“อวิ๋นเต๋อสั่งให้ยิงธนูแล้วหรือ?” โอวหยางน่าหลันหันหน้าไปถามนางกำนัลข้างกาย “องค์หญิง แม่ทัพอวิ๋นเต๋อไม่ได้ออกคำสั่งให้ยิงธนูเพคะ หลังจากที่คนพวกนั้นพุ่งไปหาท่านอัครเสนาบดีเมื่อครู่นี้ จู่ ๆ ก็พากันคุกเข่าลงเพคะ” นางกำนัลตอบกลับทันที“ไม่ได้ยิงธนู คนพวกนั้นก็คุกเข่าเอง?”โอวหยางน่าหลันทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อโอวหยางน่าหลันเบิกตาโต มองอยู่หลายนาทีเต็ม ๆ ถึงค่อยกล้าเชื่อคำพูดของนางกำนัลแต่นางไม่เข้าใจ คนเหล่านี้บุกประตูวังโดยไม่คำนึงว่าต้องแลกด้วยอะไร บุกเข้ามาในวังโดยที่ไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่าง หลังจากนั้นกลับไม่ได้มาหาเรื่องเฉินฝาน แต่มาคุกเข่าแทน หรือว่าคนพวกนี้จะเปลี่ยนแผนการ ไม่กล่าวประณาม แต่มาขอร้องอ้อนวอนแทน?ขอให้เฉินฟานสละตำแหน่งอัครเสนาบดีหรือ?โอวหยางน่าหลันพลันอารมณ์ดิ่งลงอย่างถึงที่สุดนางรู้จักเฉินฝานดี เฉินฝานเป็นคนใจดีมีเมตตา รักและใส่ใจชาวประชา หากผู้คนต่อต้านเขาอย่างรุนแรง เขาไม่เพียงจะไม่ยอมทำตาม แต่ยังจะจับตัวผู้บงการออกมาด้วยแต่ถ้าคุกเข่าอ้อนวอน มีความเป็นไปได้สูงว่าเฉินฝานจะใจอ่อน สละตำแห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1072

    โจวหยางชิงลอบชูนิ้วโป้งให้เหมียวเหลียงจื้อ “ใต้เท้าเหมียว ผู้คนมากมายถึงเพียงนี้ จัดการเรื่องนี้ได้สวยจริง ๆ”เหมียวเหลียงจื้อพยักหน้าเล็กน้อย “ขอบคุณใต้เท้าที่ชื่นชม นี่ไม่ใช่ความดีความชอบของข้า เป็นความโกรธแค้นของราษฎรเท่านั้น” เหมียวเหลียงจื้อปีติยินดี ขณะเดียวกันก็รู้สึกพิศวงด้วยเนื่องจากคนของเขาบอกเขาว่า ได้จัดเตรียมประชาชนราวห้าหมื่นคนให้มาประท้วง แต่ตอนนี้ดูน่าจะมากกว่าห้าหมื่นแล้ว ฝูงชนเนื่องแน่นสุดลูกหูลูกตา อย่างน้อยก็มีสองสามแสนคน“เขานี่แหละ!” มีคนด้านนอกวังชี้มาที่เฉินฝาน“เขาก็คือเฉินฝาน”เสียงของคนผู้นั้นยังไม่ทันสิ้นสุดลง ชาวบ้านที่อัดแน่นตรงหน้าประตูพระราชวังก็พุ่งมาหาเฉินฝานราวกับน้ำทะเลที่โหมกระหน่ำ“คุ้มกันใต้เท้า คุ้มกันใต้เท้า!”อวิ๋นเต๋อที่เป็นห่วงความปลอดภัยของเฉินฝาน ตะโกนเสียงดังพลางวิ่งมาหาเฉินฝานทหารรักษาพระองค์กว่าพันนายล้อมรอบเฉินฝานไว้ คุ้มกันด้านในสามชั้น ด้านนอกสามชั้นภายนอกเป็นราษฎร ภายในเป็นทหารรักษาพระองค์ ทางเข้าพระราชวังที่เดิมทีกว้างขวางมากเปลี่ยนเป็นแออัดในพริบตา แม้ว่ามีทหารรักษาพระองค์กว่าพันนาย แต่ราษฎรด้านนอกมีมากเกินไปจริง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1071

    เมื่อเฉินฝานออกคำสั่ง เหมียวเหลียงจื้อกับโจวหยางชิงก็ได้รับการปล่อยตัวออกมาพอดีเหล่าขุนนางที่ตามหลังพวกเฉินฝานต่างก้มหน้าพูดคุยแสดงความเห็นกันเบา ๆ “เปิดประตูเมืองโดยตรง เขากล้าดีอย่างไร ไม่กลัวชาวบ้านด้านนอกจะพุ่งเข้ามาทำร้ายเขาหรือไร?”“ท่านอัครเสนาบดีมีความมั่นใจกระมัง”“มั่นใจเกินไปก็จะเป็นความทะนงตน”“ข้าเองก็คิดว่าเขาทระนงตนแล้ว ภายใต้สถานการณ์ที่พวกราษฎรอารมณ์อ่อนไหวถึงเพียงนั้น ขึ้นไปที่หอด้านบนประตูเมืองคงจะดีกว่า” “เอาไว้รอให้เปิดประตูแล้ว พวกเรายืนห่าง ๆ เสียหน่อยจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องพลอยรับเคราะห์ไปด้วย” “ท่านกล่าวได้ถูกต้อง”เมื่อฟังคำวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาขุนนางโดยรอบ นัยน์ตาโจวหยางชิงก็ฉายแววทะมึน เขาหันหน้าไปถามเหมียวเหลียงจื้อเสียงต่ำว่า “เตรียมการเสร็จหมดแล้วหรือยัง?”เหมียวเหลียงจื้อพยักหน้า “เตรียมการเสร็จหมดแล้ว ส่วนมากผู้ที่มาล้วนเป็นช่างตีเหล็กและกรรมกรป่าไม้”“อืม” โจวหยางชิงพยักหน้า สายตาของเขาทอดมองไปที่เฉินฝานอีกครั้ง แววตาดูโหดเหี้ยมชั่วร้ายเฉินฝาน เจ้าอย่าโทษที่ข้าอำมหิตเลย หากจะโทษก็ได้แต่โทษที่เจ้าละโมบมากเกินไป อภิเษกกับองค์หญิงยังไม่พ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1070

    “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหตุใดจึงกระวนกระวายเช่นนี้?”เมื่อเห็นคนคนนั้น อวิ๋นเต๋อรีบเดินไปถามทันที คนที่มาคือหัวหน้าทหารเวรรักษาพระองค์ในวันนี้“ผู้นำอวิ๋น จู่ๆ นอกวังหลวงก็มีชาวบ้านมากมายมา พวกเขาต้องการเข้าพบท่านอัครเสนาบดีขอรับ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น โอวหยางน่าหลันที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรโมโหเล็กน้อย “เรื่องเล็กแค่นี้ กลับกระวนกระวายขั้นนี้ อวิ๋นเต๋อ เอาตัวเขาออกไป!”เมื่อครั้นโอวหยางน่าหลันเพิ่งครอบครองอำนาจ มักจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นบ่อยครั้ง ดังนั้นโอวหยางน่าหลันจึงเคยชินแล้ว สำหรับนางนี่เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ“องค์หญิง!”หัวหน้าทหารเวรคุกเข่าลง สีหน้าลำบากใจ“ครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้งพ่ะย่ะค่ะ ไม่ว่ากระหม่อมจะใช้วิธีการใด พวกชาวบ้านก็ไม่ยอมไป ยิ่งไล่พวกเขาก็ยิ่งบุกเข้ามา กล่าวว่าแม้พวกเขาต้องตาย พวกเขาก็ต้องขอพบท่านอัครเสนาบดีให้ได้!”โอวหยางน่าหลันโบกมือด้วยความรำคาญ “เช่นนั้นก็ไล่ด้วยวิธีที่รุนแรงขึ้นอีก หากมีคนตาย เช่นนั้นก็ส่งอาหารสำหรับสามปีไปให้ครอบครัวเขา เจ้าไปจัดการด้วยตนเอง!”นี่คือวิธีการที่โอวหยางน่าหลันใช้เป็นประจำ เมื่อก่อนให้เงิน ตอนนี้ข้าวสารล้ำค่ากว่าเงิน เช

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status