Share

บทที่ 102

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
หญิงสาวทั้งสามแถว ยืนเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ มีจำนวนไม่ต่ำกว่ายี่สิบคน

มองออกไป แม้จะซูบผอม สวมผ้าหยาบ แต่มีดีที่ความอ่อนเยาว์ พวกนางแต่ละคนล้วนสะสวย

แม้แคว้นต้าชิ่งจะยากจน แต่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าหญิงสาวที่นี่งดงามยิ่งนัก

ตั้งแต่ทะลุมิติมากระทั่งทุกวันนี้ เฉินฝานยังไม่เคยพบเจอหญิงสาวคนใดอัปลักษณ์มาก่อน

เผชิญหน้ากับดวงหน้างดงามอ่อนเยาว์ บวกกับดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง เฉินฝานเคร่งเครียด จะให้เขาเลือกอย่างไร

เฮ้อ ช่างเถอะ

เฉินฝานตั้งใจว่าจะเลือกส่งๆ สักสองสามคน จะได้จบๆ

ขอเพียงเฉินฝานเดินผ่านหญิงสาวคนใดไปแล้วไม่เลือก หญิงสาวคนนั้นก็จะร้องไห้

เฉินฝานสงสาร ตอนที่กำลังจะหันกลับไปเลือก หญิงสาวตรงหน้าก็ร้องไห้อีก

แรกเริ่มเพียงสะอื้นเสียงเบา ตอนหลังร้องไห้กันหลายคน พวกนางจึงฟูมฟายเสียงดัง

ชั่วขณะหนึ่ง ลานหน้าบ้านของเฉินฝาน ก็มีเสียงร้องไห้ดังระงม

เฉินฝานเครียดหนักมาก เขาไม่รู้ว่าจะเลือกอย่างไรจริงๆ

สถานการณ์เช่นนี้ นอกจากเฉินฝานและหญิงสาวที่กำลังร้องไห้เหล่านั้น คนอื่นๆ ต่างชินชาแล้ว เพราะในทุก ๆ ปี ยามที่ทางการจัดสรรคู่ ล้วนมีหญิงสาวมากมายที่ไม่ผ่านการคัดเลือกและจัดสรรออก
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 103

    “ป้า ข้าไม่รับนางเป็นอนุภรรยา ข้า...”เมื่อได้ยินเฉินฝานบอกว่าไม่รับ นางจะทนฟังต่อไปได้อย่างไร“แม้ปานิวของข้าจะดูซูบผอม แต่สะโพกนางผาย มีลูกชายให้ได้แน่นอน” ขณะพูด หญิงวัยกลางคนเริ่มถอดเสื้อผ้าลูกสาวอีกทั้งไม่เพียงถอดเสื้อผ้าตัวนอก เสื้อตัวในก็เตรียมที่จะถอดด้วยฐานะทางบ้านของนาง เมื่อเฉินฝานไม่เลือก เข้าฤดูวสันต์ปีหน้าแม้จะโชคดีเป็นคนที่ถูกเลือก แต่เมื่อไปถึงบ้านสามี ต้องถูกครอบครัวสามีอ้างเหตุผลต่างๆ เพื่อหย่ากับนางแน่นอน“เฮ้อ ป้าอย่าทำเช่นนี้เลย” เฉินฝานรีบปรามหญิงวัยกลางคน หญิงสาวที่ยังไม่ออกเรือน ถอดเสื้อตัวในในที่สาธารณะ ชีวิตนางจบสิ้นแล้ว“เช่นนั้นน้องฝาน เจ้ายอมรับปานิวเป็นอนุภรรยาแล้วหรือ?” พวงแก้มแดงก่ำเพราะอากาศหนาวเย็นของหญิงวัยกลางคน เปี่ยมไปด้วยความหวัง“...ก็ได้ ข้ารับไว้...”เฉินฝานยังพูดไม่จบ หญิงวัยกลางคนอีกหลายคนรีบลากลูกสาวของตนมาใกล้ บอกว่าลูกสาวของตนก็มีลูกชายให้เขาได้ พร้อมกับเริ่มถอดเสื้อผ้าลูกสาวของตน“เฮ้อ พวกป้าๆ พวกท่านทำอะไรเนี่ย หยุดเดี๋ยวนี้ หยุดเดี๋ยวนี้”ความจริง การห้ามปรามของเฉินฝานนั้นไร้ประโยชน์ เพราะพวกเขาเห็นสิ่งที่หญิงวัยกลางคนทำได้ผ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 104

    ไม่มีคนเชื่อคำพูดของเฉินฝานแม้เขาจะหาเงินได้มาก แต่การบอกว่าจะเลี้ยงดูคนห้าสิบกว่าคน เหลือเชื่อเกินไปแล้วเมื่อครู่เฉินฝานพูดปากเปียกปากแฉะ คนในครอบครัวของหญิงสาวเหล่านี้ไม่ยอมให้พวกนางสวมเสื้อผ้าเวลานี้ เฉินฝานไม่จำเป็นต้องพูด ต่างกุลีกุจอใส่เสื้อตัวนอกให้ลูกสาว พาพวกนางเดินออกไปข้างนอกตั้งแต่ผู้ใหญ่ไปจนถึงพวกหญิงสาว ทุกคนต่างเศร้าสลดผู้คนกลุ่มหนึ่งซึ่งนำโดยจูต้าอัน พูดจาเหน็บแนมหน้าบ้านของเฉินฝานบ้างก็บอกว่าเฉินฝานตระหนี่บ้างก็บอกว่าเฉินฝานทำเป็นหน้าใหญ่ใจโต แท้จริงแล้วไม่มีเงินถึงขั้นมีคนบอกว่า เฉินฝานไม่เก่งเรื่องบนเตียง ดังนั้นจึงไม่กล้ามีภรรยาหลายคนคำพูดเหน็บแนมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังไม่ชวนฟังขึ้นเรื่อยๆหลังจากพูดจาเสียดสีเฉินฝานจบ พวกเขาก็เริ่มหัวเราะเยาะคนที่พาหญิงสาวเหล่านั้นมา“เฮ้อ พวกเจ้าโง่หรือเปล่า? เป็นสาวเป็นนาง พามาถอดเสื้อผ้าให้คนอื่นดูฟรีๆ”ในธรรมเนียมของต้าชิ่ง หญิงสาวคนหนึ่งที่ยังไม่ออกเรือน สวมใส่เสื้อผ้ากับไม่สวมใส่เสื้อผ้า ไม่มีอะไรแตกต่างกัน“โง่จริงๆ หลังเข้าฤดูวสันต์ปีหน้า แม้พวกนางจะถูกคัดสรร แต่เมื่อฝ่ายชายได้ยินว่าเฉินฝานเห็นเรือนร่างแ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 105

    หญิงวัยกลางคนวิ่งไปตรงหน้าเฉินฝาน คุกเข่าลง“น้องฝาน เมื่อครู่เจ้าบอกว่า เจ้าจะรับหญิงสาวทั้งห้าสิบกว่าคนเอาไว้ เจ้าอย่าคืนคำนะ”“ข้าไม่ได้คืนคำ ห้าสิบกว่าคน ขอเพียงยินดีที่จะอยู่ ข้ารับทั้งหมด” เฉินฝานพูด พร้อมกับส่งสายตาให้ฉินเย่ว์เจียวพยุงหญิงวัยกลางคนขึ้นหญิงวัยกลางคนไม่ยอมลุก “น้องฝาน ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนดี แต่ว่า คำพูดไร้หลักฐาน”เฉินฝานหันไปพูดกับฉินเย่ว์โหรว “เย่ว์โหรว เจ้าหยิบกระดาษกับพู่กันออกมา”แม้จะไม่เข้าใจว่าเฉินฝานทำเช่นนี้มีจุดประสงค์อะไร แต่ฉินเย่ว์โหรวไม่ลังเลแม้แต่น้อย ขานรับ แล้วทำตามที่เฉินฝานสั่งทันที“ท่านป้า” เฉินฝานชี้ไปยังฉินเย่ว์โหรวที่หยิบกระดาษและพู่กันออกมาแล้ว “นี่คือภรรยาของข้า ข้าให้นางเขียนหนังสือรับรอง ประเดี๋ยวนางจะจดชื่อลูกสาวของท่าน แบ่งเป็นสองฉบับ ท่านหนึ่งฉบับ ข้าหนึ่งฉบับ เช่นนี้ท่านวางใจแล้วกระมัง”“เขยฝาน!” หญิงวัยกลางคนรีบเปลี่ยนสรรพนามร้องเรียกทันที ดึงลูกสาวของตน คำนับขอบคุณเฉินฝานไม่หยุด “เจ้าเป็นคนดีจริงๆ ขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยลูกสาวข้า”“ท่านป้า!” จูต้าอันที่ยืนมองด้านนอกร้องตะโกนเสียงดัง “ท่านอย่าเพิ่งรีบร้อนคำนับขอบคุณ หากหนังสื

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 106

    คนพวกนั้นพาพวกสาวๆ ไปตัดฟาง“อย่าๆๆ!” เฉินฝานที่เพิ่งดึงสติกลับมารีบร้องปราม “พวกนางไม่ได้พักที่นี่”“จริงอยู่ว่าที่นี่ไม่กว้างพอ เขยฝาน บ้านของเจ้ามีที่ดินผืนใดกว้างกว่านี้ พวกเราตัดฟางแล้วสร้างกระท่อมที่นั่นกัน”“ไม่ใช่!” เฉินฝานอธิบาย “เมื่อครู่ข้าบอกแล้วว่า ข้าจะให้พวกนางมีชีวิตรอด แต่พวกนางไม่ต้องแต่งงานกับข้า ไม่ต้องอยู่กับข้า”“???” บรรดาพ่อแม่ของพวกหญิงสาวมองหน้ากัน ไม่รู้ว่าเฉินฝานหมายความว่าอย่างไร“เจ้าพูดจาไร้สาระอะไรเนี่ย? เจ้าแต่งงานกับพวกนาง แต่ไม่ให้พวกนางอยู่ด้วยเนี่ยนะ?” จูต้าอันฉวยโอกาสนี้พูดเสียงดังพ่อแม่ของพวกหญิงสาวงงงวย “เขยฝาน? เจ้าไม่ให้พวกนางอยู่ที่หมู่บ้านซานเหอ แล้วจะให้พวกนางอยู่ที่ใด?”“ทุกท่านพาลูกสาวของตนกลับไปก่อน” เฉินฝานยกมือขึ้น “ทุกท่านโปรดให้เวลาข้าห้าวัน อีกห้าวันข้าจะหาที่พักให้พวกหญิงสาวแน่นอน”“ระยะเวลาห้าวันหาที่พักสำหรับห้าสิบกว่าคนเนี่ยนะ? พวกท่านอย่าเชื่อเขา!” จูต้าอันที่อยากเห็นเฉินฝานขายหน้ารีบพูดสีหน้าของเฉินฝานไม่สบอารมณ์เล็กน้อย “หมาบ้าจากไหนเนี่ย เห่าหอนไปทั่ว!”“น้องฝาน ข้าจะรีบจัดการเดี๋ยวนี้” เฉียนลิ่วพาคนสี่ห้าคนล้อมจู

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 107

    การแต่งกายของหญิงสาวด้านหลังเหล่านี้ แม้จะดีกว่าปานิวเล็กน้อย แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เท้าและมือของพวกเขา เต็มไปด้วยแผลเปื่อยตอนออกไปจากเรือนของเฉินฝาน พ่อแม่ของพวกนางเหมือนกับหญิงวัยกลางคน ต่างหารือว่าอีกห้าวันจะนำสินเดิมใดมาบ้างก็นำข้าวสาร บ้างก็นำเป็ด บ้างก็นำเนื้อ บ้างก็นำผ้าห่มมาคนที่บอกว่าจะนำผ้าห่มมานั้น ถูกมองด้วยสายตาอิจฉาจากผู้คนมากมายหลายปีมานี้ฝ้ายเก็บเกี่ยวได้น้อยมาก ดอกฝ้ายจึงค่อนข้างแผง เอาผ้าห่มมาเป็นสินเดิมได้นั้น สำหรับชาวบ้านทั่วไป ถือเป็นเรื่องที่ดีมากมองใบหน้าบริสุทธิ์ของผู้คนที่สวมเสื้อผ้าเรียบง่าย แต่พูดคุยเรื่องสินเดิมอย่างมีความสุข เฉินฝานประทับใจเล็กน้อย“ทุกท่าน ช้าก่อน”เฉินฝานหยิบถุงเงินในมือฉินเย่ว์โหรวขึ้นมา“ข้ามีเงินให้นิดหน่อย คนละสิบเหวิน ถือว่าเป็นค่าครองชีพห้าวันของพวกนาง“เท่าใดนะ?”นอกจากเฉียนลิ่วที่ช่วยเฉินฝานจับปลาแล้ว คนอื่นๆ มองเฉินฝานด้วยความตกตะลึงห้าวันให้ค่าครองชีพสิบเหวินเนี่ยนะ?หมู่บ้านแถบนี้ ไม่อาจเทียบกับในอำเภอได้ ชาวบ้านที่นี่ โดยส่วนมากหนึ่งครอบครัวหาเงินได้เดือนหนึ่งไม่ถึงสิบเหวิน“เขยฝาน เจ้าไม่ได้ล้อเล่นกระ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 108

    “เจ้าทำอย่างไรต่างหาก ไม่ใช่เรา เจ้าเกลียดเฉินฝาน มีความแค้นกับเขา ข้าไม่มี”เฉินเจียงพูดอย่างชัดเจนว่าตนไม่เกี่ยวข้องกับเรืองนี้ เขาเล่นงานเฉินฝาน แต่ไม่มีวันเอาตัวเข้าไปยุ่งเด็ดขาดจูต้าอันชะงัก ก่นด่าในใจเฉินเจียงเอ๊ย เจ้าเป็นคนมาหาข้าและเป็นต้นคิด แต่ตอนนี้กลับบอกว่าตนไม่ได้อยากเล่นงานเฉินฝาน เจ้าเล่ห์จริงๆแต่ว่าช่างเถอะ ขอเพียงทำให้เฉินฝานล้มได้ เขาไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร“คือข้าคนเดียว ข้าคนเดียว”เวลานี้เฉินเจียงค่อยรู้สึกพอใจ เขาเงยหน้าขึ้นมองกำแพงที่กั้นกลางเรือนของตนและเฉินฝาน พูดขึ้นช้าๆ “หลังจากนี้ทุกอย่างง่ายมาก จับตาดูเขาไว้ อย่าปล่อยให้เขามีโอกาสหนีไปเด็ดขาด”“อีกเรื่องนี้ หากเจ้าเห็นเขาทำอะไรผิดปกติ ไม่ว่าทำอะไร เจ้าและสหายคิดหาวิธีทำลายซะ”“เรื่องนี้ไม่ต้องกังวล” จูต้าอันโบกมือ สีหน้าไม่ยี่หระ “เวลาห้าวัน เขาจะเสกเรือนหลังใหญ่ออกมาได้หรืออย่างไร”“เจ้าระมัดระวังหน่อย” เฉินเจียงไม่วางใจเล็กน้อย หลังจากเฉินฝานตกหน้าผา ก็ยากจะคาดเดานักยกตัวอย่างเช่นปลาย่าง ก็คาดเดายากยิ่งนัก เมื่อก่อนแค่ทำอาหารเขาก็ยังทำไม่เป็น แต่จู่ๆ กลับทำปลารสชาติอร่อยเช่นนั้นได้“ได้ ข้าจะ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 109

    “ข้าไม่ได้ฝืน ข้ามีที่ให้พวกนางอยู่จริงๆ”“มีจริงหรือ อยู่ที่ใด?” เห็นเฉินฝานมั่นใจเช่นนั้น เฉินผิงเริ่มงุนงง หรือว่าช่วงนี้เฉินฝานปลูกเรือนเงียบๆ?“เรื่องนี้...” เฉินฝานเกาศีรษะ ยิ้มแห้ง “ตอนนี้ข้าเองก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะให้พวกนางอยู่ที่ใด”“…น้องฝาน เวลาไหนแล้ว เจ้ายังล้อเล่นอีกหรือ?” เฉินผิงโมโหเล็กน้อยสีหน้าของเฉียนลิ่วก็ไม่สบอารมณ์เท่าใดนักเรื่องใหญ่เช่นนี้ เขาตอบด้วยท่าทีผ่อนคลายเช่นนี้ได้อย่างไรแม้สุดท้าย เขาไม่อาจรับหญิงสาวเหล่านั้นมาอยู่ด้วย ทางการก็ไม่มีทางลงโทษรุนแรง แต่จะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียของเขาเป็นอย่างมาก ชื่อเสียงไม่อาจใช้เงินทองมาวัดได้ทุกคนเคร่งเครียด เฉินฝานจึงจริงจังด้วย “ข้าไม่ได้ล้อเล่น ไปกันเถอะ ไปขายปลากัน”เช้าวันนี้ ระหว่างทางจากหมู่บ้านซานเหอไปอำเภอ คนเยอะเป็นพิเศษเฉินฝานเข้าใจ คนพวกนี้โดยส่วนมากล้วนมาจับตาดูเขา กลัวเขาจะหนี…หลังจากฟังจูต้าอันพูด เฉินเจียงยกมุมปากขึ้น “การไม่ได้ร่ำเรียนช่างน่ากลัวยิ่งนัก ไม่รู้ว่าหลานชายของข้าเคยได้ยินคำพูดนี้หรือไม่ เชื่อมั่นในตนเองเกินไปถือเป็นการทำร้ายตนเอง”จูต้าอันไม่เข้าใจคำพูดนี้ของเฉินเจียง แต่เขารู

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 110

    “ข้าเคยบอกแล้วไม่ใช่หรือ พวกนางไม่ใช่ภรรยาใหม่ของข้า ข้าไม่แต่งงานกับพวกนาง? เฮ้อ ไว้ค่อยอธิบายให้พวกเจ้าฟังก็แล้วกัน”เฉินฝานสวมรองเท้าเดินออกจากเรือน“นายท่าน อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะ ขอให้นายท่านสุขสงบร่างกายแข็งแรง!”เพิ่งเปิดประตู หญิงสาวห้าสิบกว่าคนด้านนอก ย่อตัวลงคารวะเ​ฉินฝานอย่างพร้อมเพรียงเฉินฝานที่เกิดเป็นมนุษย์มาสองชาติภพ ถือว่าเปิดหูเปิดตามามาก แต่กลับตกตะลึงกับเหตุการณ์ตรงหน้าเยี่ยม หญิงสาวห้าสิบกว่าคนคารวะพร้อมกัน ไม่ต่างอะไรกับฉากในละคร ตอนที่ชายาคารวะฮ่องเต้การแต่งกายของหญิงสาว แตกต่างจากห้าวันก่อน ส่วนใหญ่สวมเสื้อกันหนาวสีแดงในแคว้นต้าชิ่ง ชุดเจ้าสาวของชาวบ้านทั่วไปคือเสื้อผ้าสีแดง ออกเรือนฤดูคิมหันต์ สวมเสื้อผ้าสีแดง ออกเรือนฤดูเหมันต์ สวมเสื้อกันหนาวสีแดงเพียงแต่เสื้อกันหนาวสีแดงที่หญิงสาวตรงหน้าเฉินฝานสวมใส่นั้นสีซีดมาก พวกนางน่าจะใส่เสื้อกันหนาวของมารดาเมื่อครั้นออกเรือนกระมังตอนหลังฉินเย่ว์โหรวบอกเขาว่า ไม่ใช่แค่มารดา คนส่วนมากสวมใส่ของยายหรือย่า เสื้อกันหนาวสีแดงหนึ่งตัวอย่าน้อยก็ใส่ถึงสามรุ่น บ้างก็ใส่สี่ถึงห้ารุ่น“ด้านนอกลมแรง พวกเจ้าเข้ามาก่อน”“ข

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1270

    ยังมิทันถึงเวลาเข้าท้องพระโรงยามเช้าในวันถัดมา วังหลวงก็ส่งคนมาเรียกตัวเฉินฝานเข้าไปแม้ว่าจะนำเหล่าบุรุษมารวมตัวกันแล้ว แม้ว่าจะมีการคุ้มครองของเหล่าทหาร นักฆ่าหญิงเหล่านั้นก็ยังสามารถลงมือได้อยู่ดีเมื่อคืนมีจุดรวมพลแห่งหนึ่งในเมืองเซียนตูที่ใกล้เมืองหลวงมากที่สุด มีชายสิบห้าคนที่ถูกสังหารและทั้งหมดล้วนเป็นทหารคุ้มกันโชคดีที่มือปืนอยู่ มิเช่นนั้นคงจะทหารถูกสังหารไปมากกว่านี้สังหารเพียงทหาร มิสังหารชายธรรมดา นี่เป็นการยั่วยุราชสำนักอย่างเห็นได้ชัดหลังจากที่คำกล่าวรายงานจบ ฉินเย่ว์เหมยโมโหเดือดดาลทันที“ทหารของพวกเราต้าชิ่งเป็นพวกไร้น้ำยากันหมดหรือกระไร ถึงปล่อยให้สตรีสังหารได้อย่างง่ายดายปานนั้น?”เลขาธิการกรมกลาโหมฟางซินฮุ่ยเหงื่อท่วมทั้งตัว มิกล้าหายใจดัง“ทำไมล่ะ ข้ามิเรียกชื่อ ก็แกล้งเป็นใบ้ไปแล้วหรือกระไร?” สายตาเดือดดาลเย็นยะเยือกของฉินเย่ว์เหมยจ้องปีที่ฟางซินฮุ่ย“ฝ่าบาท!” ฟางซินฮุ่ยคุกเข่าด้วยความรีบร้อน “กระหม่อมส่งหัวหน้าแม่ทัพไปตรวจสอบกองกำลังแต่ละเมืองทุกเดือน ให้กองกำลังแต่ละที่เพิ่มความเข้มงวดในการฝึกซ้อม กระหม่อมไปตระเวนตรวจทั่วแคว้นเดือนเว้นเดือน นายกองทุกเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1269

    “นายท่าน ท่านนี่จริง ๆ เลย ต่อให้เป็นเรื่องใหญ่เพียงใด ก็ควรให้น้องหวั่นเอ๋อร์กลับบ้านมาเสียก่อนสิ”ฉินเย่ว์โหรวเริ่มต่อว่าเฉินฝานเหมือนแต่ก่อนอีกแล้วทว่า แม้กำลังต่อว่าอยู่ ท่าทีของฉินเย่ว์โหรวก็ยังคงสง่างามดังเดิม นี่ก็เป็นสาเหตุที่เฉินฝานวางใจมอบอำนาจให้นางจัดการเรื่องในบ้าน“พี่ผิดไปแล้ว ต่อจากนี้จะมิทำแล้ว”เฉินฝานรีบยอมรับผิด ฉินเย่ว์โหรวก็มิได้ซักไซ้อีก“นายท่าน เหน็ดเหนื่อยจากด้านนอกมามากแล้ว กลับเข้ามาพักผ่อนก่อนเถอะ”เฉินฝานตามฉินเย่ว์โหรวไปที่โถงหลัก เพิ่งจะนั่งได้มินาน เขาก็พบว่าในครอบครัวมีเด็กทารกเพิ่มมาอีกสองคนเด็กทารกสองคนนี้ดูแล้วคงจะมีอายุประมาณห้าหกเดือนเด็กทารกคนหนึ่งคงจะเป็นของคนใดคนหนึ่งระหว่างท่านหญิงสองคนนั้น เฉินฝานมิได้รู้สึกประหลาดใจ เพราะตอนที่เขาออกจากเมืองหลวง ก็มีท่านหญิงคนหนึ่งที่ตั้งครรภ์ได้สองสามเดือนแล้วอีกคนหนึ่ง...“เหอเสียนเฟยงั้นรึ?”การปรากฏตัวของเหอวอวี่ถง ทำให้เฉินฝานตื่นตกใจอย่างมาก ทว่าหลังจากที่ฉินเย่ว์โหรวอธิบายแล้วเฉินฝานก็เข้าใจได้ในทันทีฉินเย่ว์เหมยขึ้นเป็นจักรพรรดินีแล้ว วังหลังต้องถูกยุบอย่างแน่นอนโชคดีที่ตอนเหออว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1268

    หลังจากที่ออกจากวังมาแล้ว เฉินฝานก็รีบมุ่งหน้ากลับบ้านทันทีเฉินฝานออกจากบ้านในเมืองหลวงไปแคว้นเหลียง ต่อมาไปช่วยโอวหยางน่าหลันจัดการเหตุไฟไหม้ทำให้แผ่นดินกลับมาเป็นปึกแผ่น จากนั้นก็ไปแก้ไขวิกฤตประหารพ่อลูกตระกูลเสิ่นที่เมืองลู่ตู ท้ายที่สุดคือไปสำรวจทั่วต้าชิ่งเป็นเพื่อนหวงหวั่นเอ๋อร์การออกจากบ้านครั้งนี้เป็นเวลาเกือบหนึ่งปีเขารีบกลับบ้านด้วยความคิดถึงใจจะขาดเขากลับเมืองหลวงมาแล้วก็ให้เลขาธิการกรมยุติธรรมไป่เผยหราน และแม่ทัพใหญ่ผู้คุ้มกันแคว้นเหอจื่อหลินที่ตำแหน่งเป็นรองเพ่ยจี้เท่านั้นเข้าเฝ้าฝ่าบาทพร้อมกับเขา ขบวนทัพค่อนข้างยิ่งใหญ่ ดังนั้นคงจะทราบเรื่องที่เขากลับมามืองหลวงโดยทั่วกันแล้วหลังจากที่ออกจากประตูวังมาแล้ว เจอราษฎรที่อยู่ตามท้องถนนจำนวนมากเห็นสายตาของราษฎรทั้งสองฝั่งถนนที่มองตนเองด้วยความแค้นเคือง และสีหน้าลักษณะหน้าชื่นอกตรม เฉินฝานก็เข้าใจได้ทันทีว่ายังมีคำเล่าลือที่มิดีของราษฎรเหล่านั้นเกี่ยวกับเขาอีกมากมายที่ไป่เผยหรานมิยอมบอกจวนพำนักของเฉินฝานอยู่ห่างจากวังหลวงมิไกลนัก เดินข้ามถนนสามสายก็ถึงแล้วระหว่างทางกลับ คนที่ต้อนรับเฉินฝานอย่างแท้จริงก็เพียงแค่เห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1267

    “เฮ้อ!”ฉินเย่ว์เหมยถอนหายใจออกมา “ข้าก็มิได้อยากกระวนกระวายใจหรอก หลังจากที่รู้ว่าเย่ว์ฉินอยู่ที่ตำหนักเซียวเหยาแล้ว ข้าก็พยายามให้คนป่าวประกาศชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้ากับน้องสาวสามคนอย่างสุดความสามารถ และปล่อยข่าวไปอีกว่า ขอเพียงตำหนักเซียวเหยาปล่อยวางความแค้นที่มีต่อบุรุษได้ จะมิเอาผิดเรื่องที่เคยทำก่อนหน้านี้ เพื่อรอให้เย่ว์ฉินหนีเอาตัวรอดออกมาจากตำหนักเซียวเหยา ทว่ารอมาเนิ่นนานแล้ว ก็ยังมิเห็นวี่แววของนางอยู่ดี”เฉินฝานพูดด้วยสีหน้าเหยเก “นางอาจจะมิอยากปักใจเชื่อ อย่างไรเสียเมื่อก่อนกระหม่อมเป็นคนสารเลวปานนั้น ข่าวลือที่ฝ่าบาทปล่อยออกไป นางอาจจะคิดว่าเป็นสิ่งที่ฝ่าบาททำให้นางหลงกล ล่อให้นางออกมา จากนั้นก็จะถอนรากถอนโคนตำหนักเซียวเหยาให้สิ้นซาก”ฉินเย่ว์เหมยส่ายหน้า “เมื่อก่อนข้ายังมิได้ครองตำแหน่งปกครองโดยสมบูรณ์ นางจะมิเชื่อข้าก็เข้าใจได้ ทว่าตอนนี้ข้าเป็นจักพรรดินีเต็มตัวแล้ว เย่ว์เจียวเย่ว์โหรวเย่ว์ฉู่น้องสาวทั้งสามคนล้วนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นองค์หยิง คำสั่งที่เลื่อนขั้นน้องสาวเป็นองค์หญิง ข้าก็ป่าวประกาศไปทั่วแคว้น เป็นไปมิได้ที่เย่ว์ฉินจะมิรู้ ขอเพียงนางกลับมา ข้าจะมอบตำแห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1266

    “ลงโทษเจ้างั้นรึ เจ้าเห็นข้าเป็นคนแบบนั้นงั้นรึ?”“อะไรนะขอรับ?” เฉินฝานที่ถูกถามรู้สึกงงงวยทันที “ฝ่าบาทท่านเป็นคนแบบใดขอรับ?”“อุ๊บ!”ไป่เผยหรานและเหอจื่อหลินกลั้นขำไว้ได้ ทว่าหงอิงกลับกลั้นขำไว้มิอยู่“ฝ่าบาท วันนี้ข้าน้อยกินกระเทียมมากเกินไป มักจะชอบผายลมออกมาเสมอ ข้าน้อยขอตัวไปรอด้านนอกนะเจ้าคะ”หงอิงรีบหาข้ออ้างหนีไปทันทีไป่เผยหรานและเหอจื่อหลินลอบอิจฉาหงอิงในใจสุดขีด พวกเขาก็อยากออกไปเช่นกัน ทว่าพวกเขาหาข้ออ้างมิได้ และมิกล้าหาข้ออ้างเช่นกัน เพราะเฉินฝานเป็นคนให้พวกเขาเข้ามาในวังฉินเย่ว์เหมยก็สังเกตได้ว่าตนเองขาดสติ จึงปรับอารมณ์ของตนเองเล็กน้อย “ขุนนางเฉินที่รักเพิ่งจะได้ภรรยาใหม่มินาน หยุดพักไปสองสามเดือนก็เป็นเรื่องปกติ เมื่อครู่หลี่เต๋อฉวนมารายงานว่าพวกเจ้ามีเรื่องจะกราบทูลข้า”“พวกเจ้า จงจัดที่นั่ง!”ขันทีสองสามคนยกเก้าอี้สามตัวมาจากด้านนอก หลังจากที่วางไว้แล้วก็รีบออกไปทันทีเฉินฝาน: “ฝ่าบาท เรื่องที่กระหม่อมต้องการกราบทูลวันนี้ ค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่อย่างมาก”ฉินเย่ว์เหมยโบกมือไล่สาวใช้ขันทีในพระตำหนักออกไปทั้งหมดอย่างรู้ใจไป่เผยหรานเป็นเลขาธิการกรมยุติธ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1265

    ตอนที่รถม้าของเฉินฝานห่างจากประตูทางเข้าวังหลวงยี่สิบกว่าเมตร ไป่เผยหรานและเหอจื่อหลินก็รุดหน้าขึ้นต้อนรับทันที“ส่งคนไปกราบทูลฝ่าบาทแล้วใช่หรือไม่?”เฉินฝานลงรถม้าพลางกล่าวถามไป่เผยหรานและเหอจื่อหลินยังมิทันได้ตอบกลับคำพูดของเฉินฝาน ก็มีขันทีคนหนึ่งก็วิ่งออกมาจากด้านในวังหลวงด้วยความรีบร้อนหลังจากที่ขันทีคนนั้นคารวะเฉินฝานแล้วจึงรีบกล่าว “ใต้เท้าเฉิน ฝ่าบาทกำลังรอท่านอยู่ขอรับ”กล่าวจบ ขันทีจึงรีบนำทางให้เฉินฝานทันที-ณ พระตำหนักไท่เหอ“ฝ่าบาท ท่านอัครเสนาบดีขอเข้าพบขอรับ!”“รีบให้เขาเข้ามา !”ฉินเย่ว์เหมยที่กำลังอ่านสานส์กราบทูล โยนสานส์กราบทูลทิ้งไปรีบลุกขึ้นเดินไปต้อนรับทันทีหงอิงเดินขนาบข้างตามไปเงียบ ๆ นางพบว่าฉินเย่ว์เหมยแตกต่างไปอย่างเดิมอย่างมาก มิเพียงแต่สาวเท้าด้วยความรวดเร็วเท่านั้น สีหน้าก็มีความลิงโลดและกังวลเช่นกันเหมือนกับ...หงอิงเอียงศีรษะคิดใคร่ครวญเหมือนกับสามีออกเดินทางไกล ภรรยาที่รอคอยอยู่บ้านด้วยความระทมทุกข์อย่างยาวนาน ในที่สุดสามีก็กลับมาแล้วตอนที่หงอิงกำลังลอบขำฉินเย่ว์เหมย จู่ ๆ ฉินเย่ว์เหมยก็หยุดฝีเท้าเสียอย่างนั้นฉินเย่ว์เหมยรู้ตัวว่า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1264

    “ตำหนักเซียวเหยา คำเล่าขานที่กล่าวต่อกันมาล้วนเป็นสตรีของตำหนักเซียวเหยางั้นรึ?”“ถูกต้อง”“นายท่าน ท่านอยากให้ข้าไปค้นหาตำหนักเซียวเหยาใช่หรือไม่? ท่านพูดออกมาตรง ๆก็ได้ ไฉนต้องพูดถึงชายชราชาติชั่วผู้นั้นด้วย” หวงหวั่นเอ๋อร์พูดอย่างมิสบอารมณ์อย่างมาก ตั้งแต่ที่นางจำความได้ แม่มักจะก่นด่าพ่ออย่างรุนแรงเสมอ นางซึมซับเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก หวงหวั่นเอ๋อร์จึงเกลียดชังเจี้ยนหวงเป็นธรรมดาเฉินฝาน: “ตำหนักเซียวเหยาพิศวงคาดเดาได้ยาก มิมีที่อยู่ตายตัว หากเจ้าให้พ่อเจ้าช่วย โอกาสในการหาตำหนักเซียวเหยาเจอก็จะสูงขึ้น”“เพราะเหตุใดจึงกล่าวว่าหากหาชายชราชาติชั่วผู้นั้นเจอก็ทำให้โอกาสหาตำหนักเซียวเหยาพบมีสูงขึ้น”มิรอให้เฉินฝานตอบกลับ หวงหวั่นเอ๋อร์ก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “ข้ารู้แล้ว นายท่าน ท่านรอฟังข่าวจากข้าแล้วกัน”รวมเรื่องราวที่เฉินฝานเพิ่งจะพูดว่าพ่อของตนเจ้าชู้จนเป็นนิสัยแล้ว หวงหวั่นเอ๋อร์ก็เข้าใจได้ในทันที พ่อของตนและสตรีในตำหนักเซียวเหยาจะต้องมีเรื่องชู้สาวกันอย่างแน่นอน เช่นนั้นเขาอาจจะรู้ก็ได้ว่าตอนนี้องค์หญิงของตำหนักเซียวเหยาอยู่ที่ใดพูดจบ หวงหวั่นเอ๋อร์ก็เปิดผ้าม่าน ทะยานตัวพุ่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1263

    ทว่าก็มิสมเหตุสมผลอย่างมากเคลื่อนไหวเอิกเกริกปานนั้น และสร้างข่าวลือส่งผลกระทบตำแหน่งปกครองฉินเย่ว์เหมย นางย่อมพยายามที่จะล้อมปราบอย่างสุดกำลังเป็นแน่ต่อให้เป็นกลุ่มที่ลึกลับเพียงใด ก็ต้องมีสถานที่ให้พำนัก มิว่าอย่างไรก็สามารถหาเจอได้ เพียงแต่ต้องใช้เวลามากกว่าปกติเท่านั้นเฉินฝานคิดมาถึงตรงนี้ ส่ายหน้าปฏิเสธอย่างต่อเนื่องวิธีการสู้สุดตัวเช่นนี้ ช่างไร้เหตุผลยิ่งนัก คงจะมิใช่กลุ่มที่เขาคิดไว้ในใจทว่า ก็เกิดคำถามขึ้นมาอีกหากมิใช่กลุ่มนั้น ในต้าชิ่งจะมีกลุ่มใดที่สามารถมีนักฆ่าหญิงจำนวนมหาศาลปานนั้นได้อีกมีแคว้นอื่นเข้ามาเกี่ยวพันงั้นรึ?ฉวยโอกาสตอนที่ฉินเย่ว์เหมยเพิ่งขึ้นปกครองได้มินาน อำนาจรากฐานยังมิมั่งคง แคว้นอื่นใช้ประโยชน์จากแนวคิดที่ต้าชิ่งให้ความสำคัญบุรุษด้อยค่าสตรีทำให้ต้าชิ่งตกอยู่ในความโกลาหลงั้นรึ?ตอนนี้ปัญหาชายน้อยหญิงเยอะยังมิทันได้รับการแก้ไข จักรพรรดินีเพิ่งขึ้นปกครองมินาน พิธีราชาภิเษกก็ยังมิได้จัดเสียด้วยซ้ำ มิว่าจะเป็นในราชสำนักหรือในกลุ่มราษฎร ล้วนมีชายจำนวนมากที่ยังมิยอมรับบัดนี้ ให้นักฆ่าหญิงไล่ล่าสังหารบุรุษจำนวนมหาศาล สามารถสร้างความโกลาหลภาย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1262

    กลุ่มนักฆ่าหญิงเหล่านี้ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน พวกนางทุกคนล้วนมีวรยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม ไล่ล่าสังหารบุรุษเพียงอย่างเดียวตั้งเมืองลู่ตูจนมาถึงเมืองหลวง “กลุ่มหนึ่งงั้นรึ?” เฉินฝานรู้สึกตกใจเล็กน้อย เดิมทีเขาหลงคิดไปมีเพียงสองสามคนที่ต่อสู้กับหวงหวั่นเอ๋อร์เท่านั้น “ใช่ขอรับ ใต้เท้า”“สามารถประมาณออกได้หรือไม่ว่ามีกี่คน?”“ใต้เท้า ข้าน้อยวิเคราะห์เบื้องต้นแล้วอาจจะมีประมาณหนึ่งร้อยถึงหนึ่งพันคนขอรับ”“เท่าใดนะ?” เฉินฝานมองไป่เผยหรานด้วยสายตามิสู้ดีอย่างมากระหว่างหนึ่งร้อยถึงหนึ่งพัน ระยะห่างตัวเลขสองจำนวนห่างปานนั้น นี่เรียกว่าประมาณการ? เรียกว่าการวิเคราะห์งั้นรึ?“ใต้เท้า!” ไป่เผยหรานรีบโค้งตัวก้มหน้า สีหน้าเต็มไปด้วยความลำบากใจและโทษตนเอง “เสื้อผ้าและท่าทางของนักฆ่าหญิงเหล่านั้นแปลกประหลาดยิ่งนัก และมักเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง ไร้หนทางที่จะนับจำนวนได้อย่างแม่นยำจริง ๆ ขอรับ”จำนวนหนึ่งร้อยถึงหนึ่งพัน เป็นจำนวนคนที่ลูกน้องเก่งกาจที่สุดภายใต้การบัญชากรมยุติธรรมของไป่เผยหราน วิเคราะห์ยาวนานมาหนึ่งเดือน จึงได้ตัวเลขนี้ออกมาอย่างยากลำบาก“ตกลงแล้วเป็นอย่างไรกันแน่?”ตอนที่พูดอีกรอบ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status