Share

บทที่ 1264

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“ตำหนักเซียวเหยา คำเล่าขานที่กล่าวต่อกันมาล้วนเป็นสตรีของตำหนักเซียวเหยางั้นรึ?”

“ถูกต้อง”

“นายท่าน ท่านอยากให้ข้าไปค้นหาตำหนักเซียวเหยาใช่หรือไม่? ท่านพูดออกมาตรง ๆก็ได้ ไฉนต้องพูดถึงชายชราชาติชั่วผู้นั้นด้วย” หวงหวั่นเอ๋อร์พูดอย่างมิสบอารมณ์อย่างมาก ตั้งแต่ที่นางจำความได้ แม่มักจะก่นด่าพ่ออย่างรุนแรงเสมอ นางซึมซับเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก หวงหวั่นเอ๋อร์จึงเกลียดชังเจี้ยนหวงเป็นธรรมดา

เฉินฝาน: “ตำหนักเซียวเหยาพิศวงคาดเดาได้ยาก มิมีที่อยู่ตายตัว หากเจ้าให้พ่อเจ้าช่วย โอกาสในการหาตำหนักเซียวเหยาเจอก็จะสูงขึ้น”

“เพราะเหตุใดจึงกล่าวว่าหากหาชายชราชาติชั่วผู้นั้นเจอก็ทำให้โอกาสหาตำหนักเซียวเหยาพบมีสูงขึ้น”

มิรอให้เฉินฝานตอบกลับ หวงหวั่นเอ๋อร์ก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “ข้ารู้แล้ว นายท่าน ท่านรอฟังข่าวจากข้าแล้วกัน”

รวมเรื่องราวที่เฉินฝานเพิ่งจะพูดว่าพ่อของตนเจ้าชู้จนเป็นนิสัยแล้ว หวงหวั่นเอ๋อร์ก็เข้าใจได้ในทันที พ่อของตนและสตรีในตำหนักเซียวเหยาจะต้องมีเรื่องชู้สาวกันอย่างแน่นอน เช่นนั้นเขาอาจจะรู้ก็ได้ว่าตอนนี้องค์หญิงของตำหนักเซียวเหยาอยู่ที่ใด

พูดจบ หวงหวั่นเอ๋อร์ก็เปิดผ้าม่าน ทะยานตัวพุ่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1265

    ตอนที่รถม้าของเฉินฝานห่างจากประตูทางเข้าวังหลวงยี่สิบกว่าเมตร ไป่เผยหรานและเหอจื่อหลินก็รุดหน้าขึ้นต้อนรับทันที“ส่งคนไปกราบทูลฝ่าบาทแล้วใช่หรือไม่?”เฉินฝานลงรถม้าพลางกล่าวถามไป่เผยหรานและเหอจื่อหลินยังมิทันได้ตอบกลับคำพูดของเฉินฝาน ก็มีขันทีคนหนึ่งก็วิ่งออกมาจากด้านในวังหลวงด้วยความรีบร้อนหลังจากที่ขันทีคนนั้นคารวะเฉินฝานแล้วจึงรีบกล่าว “ใต้เท้าเฉิน ฝ่าบาทกำลังรอท่านอยู่ขอรับ”กล่าวจบ ขันทีจึงรีบนำทางให้เฉินฝานทันที-ณ พระตำหนักไท่เหอ“ฝ่าบาท ท่านอัครเสนาบดีขอเข้าพบขอรับ!”“รีบให้เขาเข้ามา !”ฉินเย่ว์เหมยที่กำลังอ่านสานส์กราบทูล โยนสานส์กราบทูลทิ้งไปรีบลุกขึ้นเดินไปต้อนรับทันทีหงอิงเดินขนาบข้างตามไปเงียบ ๆ นางพบว่าฉินเย่ว์เหมยแตกต่างไปอย่างเดิมอย่างมาก มิเพียงแต่สาวเท้าด้วยความรวดเร็วเท่านั้น สีหน้าก็มีความลิงโลดและกังวลเช่นกันเหมือนกับ...หงอิงเอียงศีรษะคิดใคร่ครวญเหมือนกับสามีออกเดินทางไกล ภรรยาที่รอคอยอยู่บ้านด้วยความระทมทุกข์อย่างยาวนาน ในที่สุดสามีก็กลับมาแล้วตอนที่หงอิงกำลังลอบขำฉินเย่ว์เหมย จู่ ๆ ฉินเย่ว์เหมยก็หยุดฝีเท้าเสียอย่างนั้นฉินเย่ว์เหมยรู้ตัวว่า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1266

    “ลงโทษเจ้างั้นรึ เจ้าเห็นข้าเป็นคนแบบนั้นงั้นรึ?”“อะไรนะขอรับ?” เฉินฝานที่ถูกถามรู้สึกงงงวยทันที “ฝ่าบาทท่านเป็นคนแบบใดขอรับ?”“อุ๊บ!”ไป่เผยหรานและเหอจื่อหลินกลั้นขำไว้ได้ ทว่าหงอิงกลับกลั้นขำไว้มิอยู่“ฝ่าบาท วันนี้ข้าน้อยกินกระเทียมมากเกินไป มักจะชอบผายลมออกมาเสมอ ข้าน้อยขอตัวไปรอด้านนอกนะเจ้าคะ”หงอิงรีบหาข้ออ้างหนีไปทันทีไป่เผยหรานและเหอจื่อหลินลอบอิจฉาหงอิงในใจสุดขีด พวกเขาก็อยากออกไปเช่นกัน ทว่าพวกเขาหาข้ออ้างมิได้ และมิกล้าหาข้ออ้างเช่นกัน เพราะเฉินฝานเป็นคนให้พวกเขาเข้ามาในวังฉินเย่ว์เหมยก็สังเกตได้ว่าตนเองขาดสติ จึงปรับอารมณ์ของตนเองเล็กน้อย “ขุนนางเฉินที่รักเพิ่งจะได้ภรรยาใหม่มินาน หยุดพักไปสองสามเดือนก็เป็นเรื่องปกติ เมื่อครู่หลี่เต๋อฉวนมารายงานว่าพวกเจ้ามีเรื่องจะกราบทูลข้า”“พวกเจ้า จงจัดที่นั่ง!”ขันทีสองสามคนยกเก้าอี้สามตัวมาจากด้านนอก หลังจากที่วางไว้แล้วก็รีบออกไปทันทีเฉินฝาน: “ฝ่าบาท เรื่องที่กระหม่อมต้องการกราบทูลวันนี้ ค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่อย่างมาก”ฉินเย่ว์เหมยโบกมือไล่สาวใช้ขันทีในพระตำหนักออกไปทั้งหมดอย่างรู้ใจไป่เผยหรานเป็นเลขาธิการกรมยุติธ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1267

    “เฮ้อ!”ฉินเย่ว์เหมยถอนหายใจออกมา “ข้าก็มิได้อยากกระวนกระวายใจหรอก หลังจากที่รู้ว่าเย่ว์ฉินอยู่ที่ตำหนักเซียวเหยาแล้ว ข้าก็พยายามให้คนป่าวประกาศชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้ากับน้องสาวสามคนอย่างสุดความสามารถ และปล่อยข่าวไปอีกว่า ขอเพียงตำหนักเซียวเหยาปล่อยวางความแค้นที่มีต่อบุรุษได้ จะมิเอาผิดเรื่องที่เคยทำก่อนหน้านี้ เพื่อรอให้เย่ว์ฉินหนีเอาตัวรอดออกมาจากตำหนักเซียวเหยา ทว่ารอมาเนิ่นนานแล้ว ก็ยังมิเห็นวี่แววของนางอยู่ดี”เฉินฝานพูดด้วยสีหน้าเหยเก “นางอาจจะมิอยากปักใจเชื่อ อย่างไรเสียเมื่อก่อนกระหม่อมเป็นคนสารเลวปานนั้น ข่าวลือที่ฝ่าบาทปล่อยออกไป นางอาจจะคิดว่าเป็นสิ่งที่ฝ่าบาททำให้นางหลงกล ล่อให้นางออกมา จากนั้นก็จะถอนรากถอนโคนตำหนักเซียวเหยาให้สิ้นซาก”ฉินเย่ว์เหมยส่ายหน้า “เมื่อก่อนข้ายังมิได้ครองตำแหน่งปกครองโดยสมบูรณ์ นางจะมิเชื่อข้าก็เข้าใจได้ ทว่าตอนนี้ข้าเป็นจักพรรดินีเต็มตัวแล้ว เย่ว์เจียวเย่ว์โหรวเย่ว์ฉู่น้องสาวทั้งสามคนล้วนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นองค์หยิง คำสั่งที่เลื่อนขั้นน้องสาวเป็นองค์หญิง ข้าก็ป่าวประกาศไปทั่วแคว้น เป็นไปมิได้ที่เย่ว์ฉินจะมิรู้ ขอเพียงนางกลับมา ข้าจะมอบตำแห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1268

    หลังจากที่ออกจากวังมาแล้ว เฉินฝานก็รีบมุ่งหน้ากลับบ้านทันทีเฉินฝานออกจากบ้านในเมืองหลวงไปแคว้นเหลียง ต่อมาไปช่วยโอวหยางน่าหลันจัดการเหตุไฟไหม้ทำให้แผ่นดินกลับมาเป็นปึกแผ่น จากนั้นก็ไปแก้ไขวิกฤตประหารพ่อลูกตระกูลเสิ่นที่เมืองลู่ตู ท้ายที่สุดคือไปสำรวจทั่วต้าชิ่งเป็นเพื่อนหวงหวั่นเอ๋อร์การออกจากบ้านครั้งนี้เป็นเวลาเกือบหนึ่งปีเขารีบกลับบ้านด้วยความคิดถึงใจจะขาดเขากลับเมืองหลวงมาแล้วก็ให้เลขาธิการกรมยุติธรรมไป่เผยหราน และแม่ทัพใหญ่ผู้คุ้มกันแคว้นเหอจื่อหลินที่ตำแหน่งเป็นรองเพ่ยจี้เท่านั้นเข้าเฝ้าฝ่าบาทพร้อมกับเขา ขบวนทัพค่อนข้างยิ่งใหญ่ ดังนั้นคงจะทราบเรื่องที่เขากลับมามืองหลวงโดยทั่วกันแล้วหลังจากที่ออกจากประตูวังมาแล้ว เจอราษฎรที่อยู่ตามท้องถนนจำนวนมากเห็นสายตาของราษฎรทั้งสองฝั่งถนนที่มองตนเองด้วยความแค้นเคือง และสีหน้าลักษณะหน้าชื่นอกตรม เฉินฝานก็เข้าใจได้ทันทีว่ายังมีคำเล่าลือที่มิดีของราษฎรเหล่านั้นเกี่ยวกับเขาอีกมากมายที่ไป่เผยหรานมิยอมบอกจวนพำนักของเฉินฝานอยู่ห่างจากวังหลวงมิไกลนัก เดินข้ามถนนสามสายก็ถึงแล้วระหว่างทางกลับ คนที่ต้อนรับเฉินฝานอย่างแท้จริงก็เพียงแค่เห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1269

    “นายท่าน ท่านนี่จริง ๆ เลย ต่อให้เป็นเรื่องใหญ่เพียงใด ก็ควรให้น้องหวั่นเอ๋อร์กลับบ้านมาเสียก่อนสิ”ฉินเย่ว์โหรวเริ่มต่อว่าเฉินฝานเหมือนแต่ก่อนอีกแล้วทว่า แม้กำลังต่อว่าอยู่ ท่าทีของฉินเย่ว์โหรวก็ยังคงสง่างามดังเดิม นี่ก็เป็นสาเหตุที่เฉินฝานวางใจมอบอำนาจให้นางจัดการเรื่องในบ้าน“พี่ผิดไปแล้ว ต่อจากนี้จะมิทำแล้ว”เฉินฝานรีบยอมรับผิด ฉินเย่ว์โหรวก็มิได้ซักไซ้อีก“นายท่าน เหน็ดเหนื่อยจากด้านนอกมามากแล้ว กลับเข้ามาพักผ่อนก่อนเถอะ”เฉินฝานตามฉินเย่ว์โหรวไปที่โถงหลัก เพิ่งจะนั่งได้มินาน เขาก็พบว่าในครอบครัวมีเด็กทารกเพิ่มมาอีกสองคนเด็กทารกสองคนนี้ดูแล้วคงจะมีอายุประมาณห้าหกเดือนเด็กทารกคนหนึ่งคงจะเป็นของคนใดคนหนึ่งระหว่างท่านหญิงสองคนนั้น เฉินฝานมิได้รู้สึกประหลาดใจ เพราะตอนที่เขาออกจากเมืองหลวง ก็มีท่านหญิงคนหนึ่งที่ตั้งครรภ์ได้สองสามเดือนแล้วอีกคนหนึ่ง...“เหอเสียนเฟยงั้นรึ?”การปรากฏตัวของเหอวอวี่ถง ทำให้เฉินฝานตื่นตกใจอย่างมาก ทว่าหลังจากที่ฉินเย่ว์โหรวอธิบายแล้วเฉินฝานก็เข้าใจได้ในทันทีฉินเย่ว์เหมยขึ้นเป็นจักรพรรดินีแล้ว วังหลังต้องถูกยุบอย่างแน่นอนโชคดีที่ตอนเหออว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1270

    ยังมิทันถึงเวลาเข้าท้องพระโรงยามเช้าในวันถัดมา วังหลวงก็ส่งคนมาเรียกตัวเฉินฝานเข้าไปแม้ว่าจะนำเหล่าบุรุษมารวมตัวกันแล้ว แม้ว่าจะมีการคุ้มครองของเหล่าทหาร นักฆ่าหญิงเหล่านั้นก็ยังสามารถลงมือได้อยู่ดีเมื่อคืนมีจุดรวมพลแห่งหนึ่งในเมืองเซียนตูที่ใกล้เมืองหลวงมากที่สุด มีชายสิบห้าคนที่ถูกสังหารและทั้งหมดล้วนเป็นทหารคุ้มกันโชคดีที่มือปืนอยู่ มิเช่นนั้นคงจะทหารถูกสังหารไปมากกว่านี้สังหารเพียงทหาร มิสังหารชายธรรมดา นี่เป็นการยั่วยุราชสำนักอย่างเห็นได้ชัดหลังจากที่คำกล่าวรายงานจบ ฉินเย่ว์เหมยโมโหเดือดดาลทันที“ทหารของพวกเราต้าชิ่งเป็นพวกไร้น้ำยากันหมดหรือกระไร ถึงปล่อยให้สตรีสังหารได้อย่างง่ายดายปานนั้น?”เลขาธิการกรมกลาโหมฟางซินฮุ่ยเหงื่อท่วมทั้งตัว มิกล้าหายใจดัง“ทำไมล่ะ ข้ามิเรียกชื่อ ก็แกล้งเป็นใบ้ไปแล้วหรือกระไร?” สายตาเดือดดาลเย็นยะเยือกของฉินเย่ว์เหมยจ้องปีที่ฟางซินฮุ่ย“ฝ่าบาท!” ฟางซินฮุ่ยคุกเข่าด้วยความรีบร้อน “กระหม่อมส่งหัวหน้าแม่ทัพไปตรวจสอบกองกำลังแต่ละเมืองทุกเดือน ให้กองกำลังแต่ละที่เพิ่มความเข้มงวดในการฝึกซ้อม กระหม่อมไปตระเวนตรวจทั่วแคว้นเดือนเว้นเดือน นายกองทุกเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1271

    เมื่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจุดรวมพลเห็นเฉินฝานและไป่เผยหราน เขาก็รีบวิ่งมาทันที“คารวะใต้เท้า!”“ไม่ต้องมากพิธี!” เฉินฝานเดินผ่านเจ้าหน้าที่คนนั้น แล้วเดินตรงไปหาทหารคนนั้นทันที“เล่าทุกอย่างที่เจ้าเห็นมาให้ละเอียด”“เขาคือท่านอัครเสนาบดี เจ้ารีบเล่าสิ”เมื่อเห็นทหารไม่ยอมตอบเฉินฝาน ยังคงพูดถึงอสรพิษหญิงงามไม่หยุด ไป่เผยหรานก็ออกคำสั่งทันทีที่จุดรวมพลโดยมากล้วนเป็นขุนนางและทหารชั้นผู้น้อย พวกเขาไม่เคยเจอเฉินฝานมาก่อน เมื่อได้ยินไป่เผยหรานบอกว่าเฉินฝานคืออัครเสนาบดี ทุกคนโดยรอบก็คุกเข่าลงทันที แม้กระทั่งทหารที่ได้รับบาดเจ็บก็ยังพยายามลุกขึ้นเฉินฝานรีบปรามทหารคนนั้น เขาพยุงทหารที่กำลังคุกเข่าให้ลุกขึ้น “รีบบอกข้ามา เจ้าเห็นสิ่งใดบ้าง? เหตุใดจึงบอกว่านักฆ่าคนนั้นคืออสรพิษหญิงงาม”“พวกนางคืออสรพิษหญิงงามขอรับ!” แววตาของทหารเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัว“ใต้เท้า พวกนางงดงามยิ่งนัก งดงามหญิงกว่าหญิงงามอันดับหนึ่งในหอนางโลมเสียอีก”ทหารเริ่มอธิบาย ตอนเขาพูดถึงความงามของนักฆ่าหญิงเหล่านั้น แม้กำลังบาดเจ็บ แต่ทหารคนนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายเมื่อเห็นสีหน้าและอาการของทหาร เฉินฝานพอจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1272

    บนตัวของทหารทุกคนล้วนมีงูทองเงินตัวโตเต็มที่เลื้อยอยู่สามถึงสี่ตัว แม้ทหารพวกนั้นจะตายด้วยพิษไปแล้ว แต่พวกงูกลับไม่ยอมปล่อยพวกเขาไป พวกงูงัดร่างของพวกเขา กินและฉีกศพของพวกเขาไม่หยุด“อยากตายหรือไง ย้ำแล้วย้ำอีกว่าห้ามเข้าใกล้ไม่ใช่หรือ!”เฉินฝานและไป่เผยหรานอยากเข้าใกล้เล็กน้อย แต่ถูกคนตะโกนห้ามเสียงดังคนที่ตะคอกใส่เฉินฝานและไป่เผยหรานคือชายวัยกลางคนอายุประมาณสามสิบปี ผิวพรรณของเขาค่อนข้างดำคล้ำ หนวดเขลาเต็มใบหน้า หน้าตาดูดุร้ายอย่างมากเริ่นฉุนไห่เจ้าหน้าที่ของจุดรวมพลตำหนิชายวัยกลางคนทันที “หูซาน พวกเขาคือท่านอัครเสนาบดีและท่านเลขาธิการกรมยุติธรรม ไม่อาจเสียมารยาทได้ ยังไม่รีบคุกเข่าลงอีก?”หูซานรีบคุกเข่าลงทันที แต่เขายังคงไม่หยุดพูด “ใต้เท้าทั้งสองยิ่งไม่อาจเข้าใกล้ งูเหล่านี้ มีพิษร้ายแรง ทั้งยังไม่กลัวมนุษย์ หากอยู่ใกล้มนุษย์คนใดไม่กัดจนเหลือกระดูกก็ไม่มีทางปล่อย ยากำจัดอสรพิษไม่อาจใช้กับพวกเขาได้”“หูซานคือหมองูที่มีชื่อเสียงของละแวกนี้ คำพูดของเขาไม่อาจไม่เชื่อฟัง เพื่อความปลอดภัยของใต้เท้าทั้งสองคน ใต้เท้าทั้งสองคนโปรดอย่าเข้าใกล้เลยขอรับ” เริ่นฉุนไห่อธิบาย“ใต้เท้า ท่

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1302

    หวนนึกถึงภาพเพื่อนสนิทที่ถูกเสือฉีกร่างทั้งเป็น ฉินเย่วฉินดวงตาแดงก่ำ แววตาแน่วแน่“ได้!” เฉินฝานขานรับน้ำเสียงเด็ดขาดอย่างมากในขณะเดียวกันที่เฉินฝานออกเดินทาง โจวอวี่ก็พามือปืนหนึ่งพันคนของเขาปลอมตัวเป็นชาวบ้าน เดินทางจากอีกฝั่งของเมืองเช่นกันวันนี้คนบนท้องถนนมีจำนวนมากเป็นพิเศษ รถม้าของเฉินฝานต้องหยุดหลายครั้งเมื่อรถม้าหยุดอีกครั้ง ฉินเย่ว์ฉินกล่าวด้วยความหงุดหงิด “เจ้าเป็นท่านอัครเสนาบดีที่ตำแหน่งอำนาจสูงส่งมิใช่หรือ? ไฉนคนเดินเท้าบนท้องถนนจึงกล้าขวางทางรถม้าเจ้า”“ขวางทางอันใดกัน? พวกเราใต้เท้ามิใช่ขุนนางกังฉินที่วางอำนาจตามอำเภอใจไปทั่ว ใต้เท้าต้องรักและดูแลราษฎร วันนี้คนที่ออกจากเมืองค่อนข้างเยอะ พวกเราเพียงหยุดเพื่อหลีกทางให้ฝูงชนเท่านั้น อีกอย่างบัดนี้พวกเรามิได้นั่งรถม้าของอัครเสนาบดีเสียหน่อย”หลี่จู้นายพลประจำกายคนใหม่ของเฉินฝานที่ติดตามอยู่ด้านนอกรถม้าเริ่มปริปากตำหนิฉินเย่ว์ฉิน ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องที่โรงมหรสพจวบจนบัดนี้ เขาคิดมาตลอดว่าเป็นความผิดของฉินเย่ว์ฉิน หากมิใช่เพราะนาง เฉินฝานก็คงจะมิตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายบัดนี้เฉินฝานยังเป็นอัครเสนาบดีที่ ‘ตายไปแล้ว’

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1301

    “ถูกต้อง คนของตำหนักเซียวเหยาส่วนใหญ่ล้วนมีวรยุทธ์ติดตัวและวางยาพิษเป็น และมีคนที่สามารถควบคุมงูได้เช่นกัน ทว่าสตรีที่ทำอันใดมิเป็นสักอย่างมีเยอะกว่าเสียอีก ทุกคนล้วนหน้าตาค่อนข้างดี พวกนางจะแยกย้ายกันไปแต่ละแคว้นในแผ่นดินใหญ่ ใช้ประโยชน์จากความงามของตนดึงดูดบุรุษ หลังจากที่ตั้งท้องได้สำเร็จแล้วก็จะตีตัวออกห่างหายไปอย่างเงียบ ๆ”“เดิมทีสตรีก็มีฐานะต่ำต้อยอยู่แล้ว ผนวกกับการที่พื้นที่ส่วนใหญ่ทั้งแคว้นหญิงเยอะชายจำนวนน้อย การจากไปของพวกนางมิเพียงแต่มิได้ทำให้ชายเหล่านั้นเสียใจเท่านั้น ชายส่วนใหญ่กลับรู้สึกยินดี อย่างไรเสียก็คงมิมีชายใดที่อยากให้สตรีที่ตนเองได้ร่วมอภิรมย์แล้วจากไปโดยมิบอกกล่าว”ตอนที่ฉินเย่ว์ฉินพูด ใช้สายตาถมึงทึงมองไปที่เฉินฝานเฉินฝานรู้ว่าฉินเย่ว์ฉินก็มีความสงสัยเช่นนี้กับเขาเช่นกัน เขามิได้แก้ตัว แก้ตัวไปก็ไร้ประโยชน์ เรื่องเช่นนี้มีเพียงเวลาเท่านั้นที่จะสามารถพิสูจน์ได้และที่นางพูดก็เป็นเรื่องจริงชายที่ถูกดึงดูดได้อย่างง่ายดายปานนั้น ย่อมมิยอมรับผิดชอบเป็นแน่“จากนั้นล่ะ หลังจากนั้นพวกนางอุ้มท้องแล้วก็กลับไปที่ตำหนักเซียวเหยาเช่นนี้รึ?”“ถูกต้อง” ฉินเย่ว์ฉิน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1300

    เฉินฝานรู้ว่าฉินเย่ว์ฉินหวาดระแวง “มิต้องสงสัยหรอก ข้าเชื่อเจ้าจริง ๆ”“ทำไมล่ะ?”“เพราะเจ้าเป็นพี่สาวของเย่ว์เจียว”อีกหนึ่งเหตุผลหนึ่งคือ ฉินเย่ว์ฉินออกมาเสี่ยงชีวิตช่วยเขาและฉินเย่ว์เจียวโดยมิห่วงความปลอดภัยตนเองแม้แต่น้อย“เพียงแค่นี้งั้นรึ?” ฉินเย่ว์ฉินสีหน้ามิเชื่อ“และเพราะว่าเจ้าเป็นภรรยาของข้า” เฉินฝานมิได้พูดเล่นหนังสือทางการที่เขาครอบครองอยู่ ตราบใดที่เขามิเขียนใบหย่า ฉินเย่ว์ฉินย่อมเป็นคนของเขาตลอดไป“แต่ข้ามิชอบเจ้า”“แล้วอย่างไรต่อ? ชีวิตของเจ้าเป็นข้า ตายไปแล้ววิญญาณก็เป็นของข้า” มิว่าจะเป็นน้ำเสียงหรือท่าทางของเฉินฝานล้วนแน่วแน่และเอาแต่ใจอย่างมากวินาทีที่ฉินเย่ว์ฉินกลับมา เฉินฝานก็มิได้คิดจะปล่อยให้นางจากไปตามกฎหมายของต้าชิ่ง ในฐานะที่เป็นสามี เขามีหน้าที่ดูแลนาง นางทำความผิด เขาก็มีหน้าที่อบรมสั่งสอนนางเช่นกันฉินเย่ว์ฉินใจเต้นจากคำพูดจี้ใจดำของเฉินฝานมิใช่รู้สึกหวั่นไหวเฉินฝานตอนที่อยู่หมู่บ้านซานเหอช่วงแรกมักพูดเสียงดังน้ำเสียงดุร้ายเสมอ ทว่าตอนนั้นฉินเย่ว์ฉินมิได้รู้สึกหวาดกลัวอย่างแน่นอน ถึงขั้นรู้สึกรำคาญอย่างมาก เฉินฝานในตอนนี้มิได้พูดเสียงดัง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1299

    ฉินเย่ว์ฉินเช็ดน้ำตาด้วยความรีบร้อน “อย่ามาพูดจาเหลวไหล ข้ามิได้ร้องไห้เสียหน่อย เพียงแค่เศษดินทรายเข้าตาเท่านั้น”“อ๋อ ๆ พี่รองมิได้ร้องไห้ เพียงแค่เศษดินทรายเข้าตา”ระหว่างที่พูด ฉินเย่ว์เจียวก็จูงมือเฉินฝานและฉินเย่ว์ฉิน “พวกพี่มิเป็นไรก็ดีแล้ว ในที่สุดพวกเราเหล่าพี่น้องก็พร้อมหน้าพร้อมตากันได้เสียที พวกเราจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ข้าจะไปกว้านซื้อประทัดมาเยอะ ๆ เสียงประทัดต้องดังทั้งวันทั้งคืน”“ไม่!”เฉินฝานและฉินเย่ว์ฉินพูดออกมาพร้อมกัน“ข้าจะมิกลับไปกับพวกเจ้า” น้ำเสียงฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา นางยังคงมิยอมรับในตัวเฉินฝาน“จะจุดประทัดมิได้ บัดนี้ข้ามิสามารถกลับไปได้ชั่วคราว กลับไปเช่นนี้มิได้” เฉินฝานกล่าว“พี่รอง ข้ารู้ว่าพี่คิดอันใดอยู่ พี่มิอยากกลับไป ข้าก็คิดไว้อยู่แล้ว แต่...” ฉินเย่ว์เจียวถามเฉินฝานด้วยความสงสัย “นายท่าน ไฉนท่านจึงมิกลับ?”“พี่มิเพียงแต่กลับไปมิได้เท่านั้น และยังมิสามารถ ‘มีชีวิตอยู่’ ได้”“ใต้เท้าพูดถูก บัดนี้ใต้เท้ามิสามารถมีชีวิตอยู่ได้” ไป่เผยหรานที่อยู่ด้านข้างเข้าใจความหมายแฝงในประโยคที่เฉินฝานพูดทันทีขอเพียงเฉินฝานและฉินเย่ว์ฉิน‘เสียชีวิต’ ผู้ชักใยอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1298

    เหอจื่อหลินและไป่เผยหรานพากองกำลังขยายอาณาเขตในการขุดค้น ทว่าหาอยู่นานก็ยังมิพบอยู่ดีมิรู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร“นายท่าน พี่รอง!”ฉินเย่ว์เจียวที่โดยปกติแล้วมีนิสัยดุดันตรงไปตรงมา บัดนี้ร้องไห้จนแทบจะหมดสติเหอจื่อหลินและไป่เผยหรานกำลังจะจัดแจงคนให้พานางกลับไป ปรากฏว่าเพิ่งจะปริปาก ฉินเย่ว์เจียวก็ถูกสิ่งของกระทบใส่อย่างรุนแรง“ตุ้บ!”ฉินเย่ว์เจียวถูกขว้างก้อนหินใส่“เจ้าคนหน้าไหนรนหาที่ตาย บังอาจขว้างหินใส่ข้า”“เจ้าเอะอะโวยวายปานนี้ และยังทุบตีคนที่ช่วยข้าอย่างรุนแรง เจ้ากลัวว่าพี่จะตายช้าไปหรือกระไร?”......!!!!ทุกคนล้วนตกตะลึงไปครู่ใหญ่ จึงได้สติกลับมาคือเฉินฝาน นี่คือเสียงของเฉินฝาน“นายท่าน ๆ”“ใต้เท้า ๆ”ฉินเย่ว์เจียวพุ่งตัวเข้าหาคนแรก ทว่ามินานนางก็รู้สึกงุนงง ได้ยินเสียงเฉินฝานแล้ว แล้วตัวเขาอยู่ที่ใด“นายท่าน ๆ ท่านอยู่ที่ใด?” ฉินเย่ว์เจียวร้อนรนใจจนกระทืบเท้า“เจ้าหยุดกระทืบเท้าได้แล้ว ถ้ายังกระทืบเท้าข้าคงได้ตายจริง ๆ แล้ว!”ได้ยินเช่นนี้ ฝูงชนมองใต้เท้าฉินเย่ว์เจียวตามสัญชาตญาณเฉินฝานอยู่ใต้เท้าฉินเย่ว์เจียวจริง เขาถูกโต๊ะตัวหนึ่งทับร่างไว้ เพราะโต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1297

    “ข้ารู้ว่าเจ้ามีข้อสงสัยมากมาย แต่อย่าเพิ่งมาถามตอนนี้ รีบตามข้ามา !”ฉินเย่ว์ฉินลากฉินเย่ว์เจียวไปทันที ดูจากท่าทางของนางแล้ว คงจะเป็นสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานจริง ๆฉินเย่ว์ฉินมุ่งหน้ากลับไปเรือนที่นางออกมาเมื่อครู่“ไปทางนั้นมิได้!” เฉินฝานตะโกนดังลั่นจู่ ๆ เขาก็ได้กลิ่นดินปืนจำนวนมาก จากประสบการณ์ในยุคปัจจุบันของเขา ดินปืนนี้จวนจะระเบิด“เย่ว์เจียวเย่ว์ฉิน อ๋องตวน อีกมินานที่แห่งนี้จะระเบิดแล้ว จงล่าถอยไปด้านนอก!”สองสามปีมานี้ฉินเย่ว์เจียวและอ๋องตวนมักจะติดตามอยู่ข้างกายเฉินฝานเสมอ เฉินฝานมักจะทำการทดลองระเบิดอยู่บ่อยครั้ง พวกเขาเข้าใจสิ่งที่เฉินฝานพูด และเข้าใจผลที่ตามมาของการระเบิดดินปืนในยุคนี้เป็นสินค้าหายาก เพราะดินปืนมีอานุภาพทำลายที่รุนแรง ดังนั้นดินปืนจึงเป็นสินค้าที่ทางการควบคุมอย่างเข้มงวด โดยปกติแล้วราษฎรมิสามารถครอบครองได้ แม้ฉินเย่ว์ฉินจะอยู่ในกลุ่มตำหนักเซียวเหยาที่แข็งแกร่งปานนั้นก็มิแน่เสมอไปว่าจะเคยสัมผัสกับดินปืนมากก่อน ผนวกกับการที่นางรู้สึกมิดีกับเฉินฝาน นางจึงมิฟังคำพูดของเขา นางมิได้ล่าถอยตามฉินเย่ว์เจียวไปด้านนอก ยังคงยืนกรานจะไปที่เรือนหลังนั้น“ไปม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1296

    “พี่รอง!” ฉินเย่ว์เจียวพุ่งตัวไปกอดฉินเย่ว์ฉินไว้แน่น ทั้งร่ำไห้และตะโกน “สองสามปีที่ผ่านมานี้พี่ไปอยู่ที่ใดมา ไฉนพี่มิกลับมาเยี่ยมพวกเราบ้าง พี่ใหญ่และนายท่านส่งไปคนมากมายไปตามหาพี่ ก็ยังมิเจอพี่อยู่ดี พี่รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงพี่เพียงใด?”ฉินเย่วเจียวร้องไห้ไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มบ่นฉินเย่ว์ฉิน “ไฉนพี่จึงใจดำเช่นนี้ ยังมีชีวิตอยู่แท้ ๆ ไฉนจึงมิยอมกลับมา ไฉนมิยอมมาเจอหน้าพวกเรา? จำพวกเรามิได้แล้วงั้นรึ? และยังมีเรื่องของนายท่านอีก บัดนี้เขามิใช่นายท่านแบบเมื่อก่อนแล้ว ข้ามิเชื่อหรอกว่าพี่จะมิเคยได้ยินเรื่องที่เขาเปลี่ยนตัวเอง พี่จะต้องเคยได้ยินมาอย่างแน่นอน และพี่ก็รู้ด้วยว่าพวกเราเป็นห่วงเพียงใด แต่ก็ยังมิยอมกลับมาอยู่ดี พี่ช่างเป็นคนที่ใจดำอำมหิตเสียจริง”รู้สึกว่าบ่นไปก็มิได้ผล ฉินเย่ว์เจียวก็เริ่มชกต่อยฉินเย่ว์ฉิน นางนำความถวิลหา ความกังวลใจ ความคับแค้นใจที่มีต่อฉินเย่ว์ฉินทั้งหมดรวมเข้ามาไว้ในกำปั้นตนเองฉินเย่ว์ฉินมิได้ต่อต้าน มิได้เถียงกลับ ทำเพียงยืนอยู่ตรงนั้นให้ฉินเย่ว์เจียวระบายอารมณ์ ตอนที่ฉินเย่ว์เจียวกล่าวถึงเฉินฝาน ฉินเย่ว์ฉินหันไปมองเฉินฝาน ทว่าเป็นชำเลืองมองเพียงครู่เ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1295

    มิถึงเวลาหนึ่งถ้วยชา ผู้ฟังทั่วบริเวณล้มลงไปนอนกับพื้นทั้งหมด คนส่วนใหญ่ล้วนถูกงูฉกตาย ส่วนคนที่ถูกฉกแต่ยังมิสิ้นลม ใบหน้าดำคล้ำสติเลือนรางเพราะพิษงูมีผู้ฟังที่ล้มลงกับพื้นตรงประตูทางออกมากที่สุด เพราะคนส่วนใหญ่คิดที่จะหนีออกไป ทว่าประตูทางออกใหญ่ปิดล็อกไปตั้งแต่ตอนที่พวกเฉินฝานเข้ามาแล้ว“ให้ตายสิ!” อ๋องตวนตะโกนลั่น “แม้ทั้งชีวิตข้าจะทำเรื่องเลวทรามมาเยอะ เคยคิดไว้อยู่แล้วว่าอาจจะต้องตายอย่างน่าสังเวช ทว่าต่อจะให้น่าสังเวชเพียงใด ข้าก็มิอยากถูกงูฉกตายเช่นนี้!”อ๋องตวนที่ปกติมิเกรงกลัวสิ่งใด บัดนี้กลับเกิดความหวาดกลัวอย่างแท้จริง เขาหวาดกลัวงูที่สุด ตัวลื่น ๆ เนื้อสัมผัสเย็น ๆรูปลักษณ์ภายนอกน่าขยะแขยงเพียงแค่คิดก็รู้สึกขนพองสยองเกล้าแล้ว นับประสาอันใดกับการเห็นและถูกฉกด้วยตาตนเอง“ท่านอ๋อง ท่านมายืนด้านหลังข้า” ฉินเย่ว์เจียวกล่าวจบ ก็มองไปทางเฉินฝาน เฉินฝานพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อเฉินฝานอนุญาต ฉินเย่ว์เจียวยื่นมือไปที่เอวทันทีฉินเย่ว์เจียวยังมิทันได้หยิบขลุ่ยไม้ไผ่ตรงเอวขึ้นมา ด้านนอกก็เสียงดนตรีที่เนิบนาบดังขึ้นเมื่อเสียงดนตรีนั้นดังขึ้น งูที่แต่เดิมโจมตีคนอย่างบ้าคลั่ง จู่ ๆก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1294

    วินาทีที่เห็นสตรีนางนั้น หลี่อวี้ไห่ตาเบิกกว้าง องครักษ์หญิงด้านหลังเขาเหล่านั้นก็มีสีหน้าเช่นเดียวกัน ตกตะลึงเหลือเชื่อ และหวาดกลัว!สตรีผู้นั้นหยุดฝีเท้าตรงหน้าหลี่อวี้ไห่ กะพริบตาเล็กน้อย น้ำเสียงเนิบนาบ “พวกเราโรงมหรสพเซียนยินทำการค้า ขอเพียงมิฝ่าฝืนกฎหมายต้าชิ่ง ก็ต้องเติมเต็มความต้องการของแขกเป็นธรรมดาอยู่แล้ว”หลี่อวี้ไห่ยังคงยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ทั้ง ๆ ที่เป็นคนวัยกลางคนผ่านโลกมามากมายแล้ว บัดนี้กลับทำอันใดมิถูก“หืม?” สตรีนางนั้นเลิกคิ้วขึ้นเลิกเล็กน้อย น้ำเสียงยังคงเนิบนาบ ทว่ากลับแฝงด้วยรังสีเย็นยะเยือกที่ทำให้คนอกสั่นขวัญผวา นางยกมือเรียวยาวของนางขึ้น ปัดไรผมบนหน้าผากตนเองเบา ๆ กำไลข้อมือรูปงูสีทองเปล่งประกายสะท้อนแสง “หูใช้การมิได้แล้วงั้นรึ?”เหงื่อเย็นหลายเม็ดผุดขึ้นหน้าผากหลี่อวี้ไห่ทันที “เร็วเข้าสิ รีบนำสุรามาให้ท่านอ๋อง”ตอนที่หลี่อวี้ไห่เหงื่อเย็นไหลออกมา อ๋องตวนก็เริ่มสงบสติอารมณ์มิได้ นับตั้งแต่วินาทีที่สตรีนางนั้นออกมา เขาก็เริ่มสงบสติอารมณ์มิอยู่แล้ว ทว่าเฉินฝานห้ามเขาไว้ตอนที่สาวใช้ยกสุราผ่านหน้าสตรีไป สตรีนางนั้นก็ยื่นมือเรียวยาวออกมาอีกครั้ง “เอาม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status