Share

บทที่ 15

Penulis: เฉียวเหมย
เวลาหนึ่งทุ่มตรง เฉินมู่เปลี่ยนเสื้อผ้า มัดผมหางม้าโดยไร้ความลังเลหรือเขินอายแม้แต่น้อย

เมื่อไม่มีเส้นผมมาปิดบังแล้ว รอยแผลเป็นบนใบหน้าก็ปรากฎให้เห็นในสายตาอย่างชัดเจน

เฉินมู่ไม่สนใจถ้าลู่ซีเจ๋อจะเห็นมัน กลับกันเธอน่ะเป็นคนที่สะอิดสะเอียนเขาด้วยซ้ำ พอได้ของแล้วเธอก็จะกลับ

เมื่อมาถึงร้านอาหารที่ลู่ซีเจ๋อจองเอาไว้ พนักงานพาเธอเข้ามาในห้องรับรองส่วนตัว เฉินมู่ไม่ได้มารอลู่ซีเจ๋อ แต่กลับเป็นการมารอเฉินชิงเสวี่ยที่กำลังสวมรองเท้าส้นสูงอยู่

เฉินชิงเสวี่ยยิ้มตาหยีให้เฉินมู่ เอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำมะนาวและส่งให้กับเฉินมู่ “พี่คะ รอสักครู่นะ ซีเจ๋อยังอยู่ระหว่างทางอยู่เลย”

เฉินชิงเสวี่ยมองเฉินมู่ที่กำลังจะดื่มน้ำเข้าปาก พริบตาเธอกลับเทน้ำลงบนโต๊ะจนไม่เหลือสักหยด

เธอมองเฉินชิงเสวี่ยอย่างเย้ยหยัน “เฉินชิงเสวี่ย ให้ฉันเดา ในน้ำนี่ต้องใส่อะไรไว้ใช่ไหม? เธอจงใจให้ฉันดื่มมัน ทำไมเหรอ อยากให้ฉันอับอายขายขี้หน้าล่ะสิใช่ไหม?”

พอละครถูกเปิดโปง กิริยาของเฉินชิงเสวี่ยจึงเริ่มบิดเบี้ยวขึ้น เธอฉีกยิ้มที่ใบหน้าและกัดฟันพูดว่า “พี่พูดเรื่องอะไรกันคะ ฉันจะไปทำเรื่องพรรค์นั้นได้อย่างไรกัน?”

เฉินมู่หยิบน้ำมะนาวขึ้นมา แล้ววางแก้วลงที่ด้านหน้าของเฉินชิงเสวี่ยเสียงดัง “ปึก” ก่อนจะพูด “ไม่มีอย่างนั้นเหรอ? ถ้างั้นเธอลองดื่มให้ฉันดูสักอึกสิ!”

ก่อนหน้านี้เธอเคยโดนเฉินชิงเสวี่ยใช้แผนแบบนี้เล่นงานมาก่อน จากนั้นจึงถูกเกลี้ยกล่อมให้ไปที่โรงแรม ทำร้ายเธอจนฆ่าตัวตาย

แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่เฉินมู่คนก่อนอีกต่อไป เฉินชิงเสวี่ยยังคิดที่จะลอบกัดเธออีกอย่างนั้นเหรอ?

เฉินมู่หยิบผ้าเช็ดมือมาเช็ดน้ำบนมือออก ร่างโปร่งลุกขึ้นยืนช้า ๆ “เฉินชิงเสวี่ย ฝากบอกลู่ซีเจ๋อด้วย ฉันไม่ได้ว่างจะมาเล่นกับพวกเธอแบบ....”

ยังไม่ทันพูดจบ เฉินมู่ก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะขึ้นมาทันที ร่ายกายเธอโยกไหวไปมาจนต้องวาดมือไปคว้าขอบโต๊ะไว้ ทำไมถึงเป็นแบบนี้? เธอยังไม่ได้ดื่มเข้าไปแม้แต่หยดเดียวด้วยซ้ำ!

เฉินชิงเสวี่ยรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดรูจมูก อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “นังแพศยา! น้ำหอมในห้องรับรองที่นี่น่ะ มันเป็นแบบน้ำมันหอมระเหย แม้แต่เครื่องระบายอากาศฉันก็สั่งให้คนจัดการไว้แล้ว แกคิดว่าจะสามารถป้องกันตัวได้จริง ๆ น่ะเหรอ?”

เธอเดินไปด้านหน้า เล็บที่ถูกตกแต่งอย่างประณีตจิกเข้าที่แก้มของเฉินมู่อย่างไร้ความปราณี ความเจ็บปวดที่คมชัดแล่นผ่านรอยแผลเป็น เจ็บถึงขนาดที่ทำให้ใบหน้าของเฉินมู่บิดเบี้ยวขึ้นมาเล็กน้อย

เธอประมาทมากเกินไป ไม่คิดเลยว่าเฉินชิงเสวี่ยคุณหนูผู้สูงศักดิ์ที่มีชีวิตอยู่บนความสุขสบายไม่เคยต้องทำอะไรด้วยตัวเองจะสามารถคิดแผนการที่มันแยบยลได้ถึงขนาดนี้!

ราวกับว่าเสียงของเฉินชิงเสวี่ยนั้นเคลือบไปด้วยยาพิษ มันทั้งเย็นชาและโหดเหี้ยม “เฉินมู่ นี่แกไม่ได้ดูหนังหน้าของตัวเองที่ทำให้ผู้คนตกใจหน่อยเหรอ! ถ้าแกกล้ามาสู้กับฉัน ฉันนี่แหละจะทำให้แกต้องตายอย่างทุกข์ทรมานเอง!”

เฉินชิงเสวี่ยออกแรงเหวี่ยงทำให้เฉินมู่ล้มลงบนเก้าอี้ จากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ออกมา “ท่านประธานจางคะ ทางนี้ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องพอใจเป็นอย่างมาก! วางใจเถอะค่ะ จะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังอย่างแน่นอน...”

ในขณะที่เฉินชิงเสวี่ยพูดพล่ามกับโทรศัพท์ไม่ยอมหยุด เฉินมู่ใช้แรงทั้งหมดของเธอกดโทรออกไปยังเบอร์ที่เคยคุยด้วยล่าสุดพร้อมตะโกนด้วยแรงทั้งหมดที่มีออกไป “ช่วยด้วย!”

“เฉินมู่?”เสียงของฮั่วหยุนเซียวดังออกมาจากโทรศัพท์

เฉินชิงเสวี่ยรีบปัดโทรศัพท์ในมือของเฉินมู่ทิ้งแล้วใช้รองเท้าส้นสูงบดขยี้มันจนแตกละเอียด จากนั้นเธอจึงตบเข้าที่ใบหน้าของเฉินมู่อย่างแรงหนึ่งครั้งพร้อมด่าเธอ “นังสารเลว! ครั้งนี้ฉันจะดูสิว่าใครยังจะสามารถช่วยแกได้อีก!”

เฉินมู่โดนตบจนในหัวก้องไปด้วยเสียงวิ้ง ๆ ไม่นานก็หมดสติไปแล้ว

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว เฉินมู่รู้สึกถึงความเปียกชุ่มไปทั้งใบหน้า เธอยกมือขึ้นถูไถใบหน้าจนฝ่ามือเหนียวเหนอะไปหมด

หญิงสาวลืมตาขึ้นเผชิญหน้ากับดวงตาสีเหลืองขมิ้นคู่นั้น เธอจ้องมันอย่างตาไม่กระพริบ ในใจของเธอสั่นสะท้าน ร่างกายของไม่กล้าขยับเขยื้อนเลยสักนิด

ที่อยู่ต่อหน้าเธอ มันเป็นสุนัขล่าเนื้อที่ตัวสูงเกือบเท่าคน!

จมูกของสุนัขล่าเนื้อตัวนี้กำลังสูดดมเฉินมู่ดังฟุตฟิต ๆ มันยื่นลิ้นออกมา น้ำลายหยดแล้วหยดเล่าค่อย ๆ หยดลงบนใบหน้าซีดขาวของเฉินมู่

เฉินมู่ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งถึงได้รู้สึกตัวว่าถูกขังเอาไว้ คล้ายว่าเธอเป็นเพื่อนเล่นของเจ้าสุนัขล่าเนื้อตัวนี้

เพื่อนเล่น...หรือเป็นเหยื่อกันแน่!

เฉินชิงเสวี่ยโหดเหี้ยมอำมหิตกว่าที่เธอคาดเอาไว้มากทีเดียว! การอยู่ในตระกูลเฉินที่ไม่สามารถไว้ใจคนในครอบครัวได้ ทุกที่ล้วนมีแต่คนคิดที่จะฆ่ากันทั้งนั้น!

ประตูห้องถูกเปิดออก มีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาคนหนึ่ง ร่างกายท่อนบนนั้นเปลือยเปล่า เผยให้เห็นรอยแผลเป็นที่ท้องอย่างชัดเจน เขายิ้มตาหยีให้เธอ “สาวน้อยคนสวย เธอฟื้นแล้ว? ชอบของขวัญที่ฉันให้เธอหรือเปล่า?”

เฉินมู่ลอบถอนหายใจ “คุณตาบอดหรือไง? สภาพฉันเป็นแบบนี้ ยังจะเรียกคนสวยอีกเหรอ?”

ชายคนนั้นถูมือไปมา “แน่นอนสิ คนอื่นอาจเข้าไม่ถึง แต่ฉันชื่นชอบความงามที่ไม่สมบูรณ์แบบที่สุด! รอให้สุดที่รักของฉันขย้ำบนร่างของเธอสักคำก่อนเถอะ เธอก็จะงดงามมากยิ่งขึ้นไปอีก!”

เฉินมู่ขมวดคิ้วเข้าหากัน หากโดนสุนัขล่าเนื้อแบบนี้กัดหนึ่งคำ ผิวหนังกับเนื้อของเธอคงจะโดนถลกและฉีกออกมากกว่า!

เฉินมู่พยายามระงับความสะอิดสะเอียนที่มีอยู่ในใจ เธอปาดตามองอีกฝ่ายพลันเอ่ย “คุณมานี่สิ ฉันจะให้ดูรอยแผลเป็นบนร่างกายของฉัน”

ชายคนนั้นรีบเข้ามาใกล้ทันที ทว่าตอนที่เฉินมู่ยื่นมือออกมาอีกฝ่ายกลับหลบได้อย่างเฉียบคมหมอนี้พูดยิ้ม ๆ “สาวน้อยคนสวย ฉันไม่หลงกลหรอก เธอค่อย ๆ เสพสุขกับมันไปเถอะ!”

เพียงแค่ได้ยินเสียงนกหวีดของชายคนนั้น สุนัขล่าเนื้อก็กระโจนเข้ามา เฉินมู่ทำได้แค่เตรียมใจรับมือกับเจ้าสุนัขล่าเนื้อตัวนี้เพียงเท่านั้น!

เธอถีบเจ้าสุนัขล่าเนื้อตัวนั้นออกไป แขนเสื้อของเธอถูกฉีกออกไปครึ่งหนึ่ง เลือดไหลออกมาจากแขนเธอทันที สุนัขล่าเนื้อกระโจนเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง…

เฉินมู่พยายามจับมันอย่างสุดความสามารถ เธอกดมันเข้ากับขอบกรงแล้วปล่อยหมัดใส่อย่างเต็มแรง

สุนัขล่าเนื้อลดแรงต่อต้านลงทันที เฉินมู่ทุบลงไปหมัดแล้วหมัดเล่า จนกระทั่งสัตว์ร้ายที่อยู่ใต้เข่าคร่ำครวญออกมาสองครั้งและไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ อีก เฉินมู่จึงล้มตัวลงไปนั่งอีกฝั่ง

ถึงแม้ว่าร่างกายเธอจะเปลี่ยนไปแล้ว แต่ทักษะการต่อสู้นั้นมันก็เหมือนกับการรับประทานอาหารและดื่มน้ำที่อยู่ในสมอง พละกำลังของเธอไม่มีใครสามารถเทียบเคียงได้!

ประธานจางที่อยู่ด้านนอกตกใจจนมึนงงไปหมด เขาชอบที่จะเล่นกับของเล่นสุดพิเศษเหล่านี้ แต่ว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ เธอเป็นหมาป่าชัด ๆ! คาดไม่ถึงว่าจะใช้มือเปล่าฆ่าสุนัขล่าเนื้อที่เขาเลี้ยงจนตาย!

“นี่เธอ...เธอ...”ประธานจางริมฝีปากสั่นระริก

เฉินมู่เช็ดถูคราบเลือดบนใบหน้าแล้วลุกขึ้นยืนอย่างโซซัดโซเซ สองมือเปื้อนเลือดจับกับราวกั้นแล้วพูดขึ้นว่า “คุณควรจะขังฉันไว้ให้ตลอด ไม่อย่างนั้นไม่ช้าก็เร็วฉันนี่แหละจะเป็นคนส่งคุณไปเฝ้ายมบาลเอง!”

คราบเลือดกลบรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเธอ เหลือเพียงแค่ดวงตาที่สวยงามจนจับใจผู้คน เดิมที เฉินมู่น่ะเป็นผู้หญิงที่งดงามอันดับต้น ๆ เชียวนะ

ประธานจางอึ้งไปอยู่นาน เขาเดินไปเดินมาในห้อง สุดท้ายไม่รู้ว่าเขาไปหาแส้เจอมาจากตรงไหน มือหนาจับแส้ฟาดไปที่กรงพร้อมก่นด่าออกเสียงดังลั่น “นังสารเลว! แกฆ่าสุดที่รักของฉัน!”

เฉินมู่ไม่ทันได้หลบ เสื้อผ้าที่ด้านหลังจึงถูกฟาดจนขาด เพียงพริบตาเดียวเลือดสีสดก็ได้ไหลออกมา

เธอขบกรามไปมา ตอนที่เธออยู่เกาะเคโจว เธอมีอำนาจยิ่งใหญ่เกินใครใครทั้งสิ้น ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของคุณหนูฉิน ถ้าหากทุกวันนี้ไม่ได้ถูกสับเปลี่ยนร่างกาย คิดว่าเธอจะยอมให้คนอื่นมากดขี่อยู่แบบนี้หรือ ?

ในตอนที่แส้ถูกฟาดลงมาอีกครั้ง เฉินมู่จับมันเอาไว้ ฝ่ามือของเธอเจ็บราวกับจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ เธอใช้แรงมหาศาลดึงตัวคนเข้ามา เธอรัดคอของชายหนุ่มเอาไว้และกัดฟันพูดว่า “แกมันก็แค่ของชิ้นหนึ่ง กล้าดียังไงถึงได้มาแหกปากใส่ฉัน?”

“แก...แก...” ประธานจางตกใจจนพูดไม่ออก เขาเล่นกับผู้หญิงมาก็มาก แต่ว่าไม่เคยเจอผู้หญิงที่แรงเยอะหรือเก่งจนน่ากลัวขนาดนี้มาก่อน ยิ่งไม่เคยเห็นสายตาแบบนี้ของผู้หญิง สายตาที่ดูเหมือนกับสามารถฆ่าเขาได้!

“แกกล้าแตะตัวฉัน...ก็อย่าคิดว่าจะได้ออกไป!” ประธานจางพูดขู่ออกมาอย่างไม่ชัดถ้อยชัดคำ

เฉินมู่ถ่มน้ำลายออกมา “อย่างนั้นก็ไม่ต้องออกไป ฉันจะคอยดูสิว่าคอของแกจะทนให้ฉันรัดได้จนถึงเมื่อไหร่!”

มือของเฉินมู่กระชับแน่นขึ้นเล็กน้อยจนเสียงกระดูกลั่นออกมา ใบหน้าของประธานจางเปลี่ยนเป็นสีเขียวอมม่วง…

ในหัวสมองปรากฏภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมาเป็นฉาก ๆ มันเกือบจะกลืนกินสติสัมปชัญญะของเธอ

เธอขจัดอุปสรรคและสิ่งที่กีดขวางที่อยู่ด้านนอกเพื่อแลกกับการเป็นคนทรยศ!

เธอเห็นเพื่อนร่วมทีมของเธอล้มลงทีละคนด้วยตาของตัวเอง แต่เธอกลับต้องนั่งอยู่บนเก้าอี้ช็อตไฟฟ้าในความผิดฐานที่เป็นคนทรยศ

เฉินมู่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ถ้าเธอฆ่าคน นั่นก็หมายความว่ามือของหญิงสาวคนนี้ที่เคยใสสะอาดก็จะต้องถูกย้อมไปด้วยเลือด

แต่ว่า ถ้าไหน ๆ โลกนี้มันก็โสมมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำไมเธอต้องใส่ใจด้วยว่ามือคู่นี้จะสะอาดหรือไม่?

ทันใดนั้น ประตูห้องถูกถีบออกอย่างแรง น้ำเสียงที่คุ้นเคยได้ดังขึ้นดึงเธอกลับออกมาจากจิตสังหาร “เฉินมู่!”

เฉินมู่เงยหน้าขึ้น น้ำเสียงของฮั่วหยุนเซียวเหมือนแสงสว่างที่ส่องไปถึงขุมนรก มันได้ทำลายความมืดในหัวใจของเธอจนหมดสิ้น

มือที่สกปรกถูกมือใหญ่ของชายคนนั้นกอบกุมไว้ ตามมาด้วยน้ำเสียงที่ปลอบประโลมจิตใจ “เฉินมู่ ปล่อยมือ แล้วฟังผม”

เฉินมู่กระพริบตา คลายมือออก ประธานจางล้มลงบนพื้นแล้วไอโขลกออกมาชุดใหญ่

กรงถูกเปิดออก เฉินมู่ปล่อยกายล้มลงในอ้อมกอดของฮั่วหยุนเซียว เธอยกมุมปากขึ้นยิ้มพร้อมเอ่ยเสียงแผ่วเบา “คุณชายฮั่ว คุณมาอีกแล้วเหรอคะ...”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 16

    ฮั่วหยุนเซียวกระชับวงแขนกอดเฉินมู่แน่นขึ้นอีกนิด และพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแบบที่โอวจินไม่เคยได้ยินมาก่อน “ผมมาช้าไป”เฉินมู่จุดรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก พลางเอนศีรษะเข้าหาอีกฝ่ายเล็กน้อย ก่อนจะสลบไสลไปในอ้อมแขนของฮั่วหยุนเซียว“โอวจิน!” ฮั่วหยุนเซียวตะโกนเรียกโอวจินรีบวิ่งเข้ามาตรวจสอบทันควัน “แค่หมดสติไปน่ะ ไม่ต้องเป็นห่วง”ฮานเฉิงลากประธานจางที่หน้าซีดเผือดให้เดินเข้ามาใกล้ พร้อมถามเสียงนิ่ง “บอสครับ จะจัดการยังไงต่อดี?”ฮั่วหยุนเซียวหันไปมองประธานจางแวบหนึ่ง แววตาของเขาดำมืดเหมือนคลื่นใต้น้ำ มันลึกจนไม่อาจเห็นก้นบึ้งของความคิดเพียงมองแค่ครั้งเดียวก็ทำให้ประธานจางตกใจกลัวจนตัวสั่น เจ้าตัวหมอบลงกับพื้นแล้วเอาศีรษะโขกอย่างเอาเป็นเอาตาย “บอสฮั่ว! บอสฮั่ว! ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นคนของท่านนะครับ! ผม...”ฮั่วหยุนเซียวกล่าวเสียงเย็น “ตัดแขน ตัดขาแล้วเอาไปขังคุกซะ”“บอสฮั่ว! บอสฮั่ว!” ประธานจางร้องไห้ฟูมฟาย แต่ฮั่วหยุนเซียวกลับไม่แม้แต่จะชายตามองเมื่อถึงโรงพยาบาล โอวจินตรวจสอบร่างกายของเฉินมู่อย่างละเอียด พอฉีดยาและพันผ้าพันแผลเสร็จอีกครั้งถึงได้เดินกลับไปที่ห้องทำงานฮั่วหยุนเซียวเบนสายต

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 17

    พอเฉินมู่ตื่นขึ้นมาอีกที ก็เป็นเช้าของวันที่สองไปเสียแล้ว เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาพร้อมกดตรวจสอบโปรแกรมของระบบเครื่องติดตาม ที่จริงแล้วมันเป็นของที่เธอทำขึ้นมาลวก ๆ ขณะเกิดเหตุ นัยย์ตาเรียวมองมือถืออยู่ครู่หนึ่ง โดยภาพรวมก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลยสักนิดเธอทิ้งโทรศัพท์ไว้อีกด้านของเตียง ก่อนจะเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำแล้วค่อยพาตัวเองก้าวฉับ ๆ เข้ามาในห้องผู้ป่วย ทว่าในห้องกลับมีโอวจินที่สวมเสื้อกาวน์นั่งอยู่เฉินมู่ยกมือขึ้นทัก “คุณหมอโอว อรุณสวัสดิ์ค่ะ”โอวจินสาวเท้าเข้ามาใกล้ ๆ อย่างมีลับลมคมนัย “เฉินมู่ เมื่อวานหยุนเซียวสารภาพรักกับเธอแล้วใช่ไหม?”เฉินมู่ผงะไป เธอดันโทรศัพท์เข้าไปใต้หมอนด้วนสีหน้าเรียบเฉยพลันส่ายหัว “เปล่านี่คะ”โอวจินทุบต้นขาตัวเองอย่างแรงด้วยความโมโห “เปล่าเหรอ? นี่เธอเป็นคนจริง ๆ หรือท่อนไม้กันแน่ห๊ะ!”เฉินมู่กระพริบตาปริบ ก่อนถาม “ทำไมเหรอคะ? ท่อนไม้อะไร?”โอวจินดึงเฉินมู่ให้นั่งลงและพูดว่า “เฉินมู่ นี่เธอไม่รู้เลยหรือไง เมื่อวานตอนได้รับสายจากเธอ หยุนเซียวก็คลั่งจนแทบเป็นบ้า!”“เขาสั่งให้แฮ็กเกอร์เจาะระบบกล้องวงจรปิดทั้งหมดที่อยู่ใกล้ร้านอาหาร ให้คนปิดถนน

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 18

    “คุณชายฮั่ว ฉันต้องการคลิปในห้องด้วย” น้ำเสียงของเฉินมู่นั้นเรียบเฉยและสงบนิ่งพลันมีเสียงถอนหายใจแผ่วดังออกมาจากโทรศัพท์ ฮั่วหยุนเซียวเอ่ยถาม “คุณเคยเรียนกังฟูมาก่อนหรือเปล่า?”เฉินมู่ชะงักไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าตอบ “เคยเรียนค่ะ”“เรียนกับใคร?” เสียงเข้มถามขึ้นอีกครั้งเฉินมู่ขมวดคิ้ว เรียนกับใครอย่างนั้นเหรอ?เธอฝึกซ้อมอยู่ในค่ายที่แข็งแกร่งที่สุดของเคโจว ทั้งล้มลุกคลุกคลานมาแล้วกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง และพัฒนามาเรื่อย ๆ จนได้มายืนอยู่บนจุดสูงสุด“เฉินมู่ คุณ...”“ไม่มีใครหรอกค่ะ ฉันเรียนด้วยตัวเองจนชำนาญ” เฉินมู่บอกตัดบทเขา “คุณชายฮั่ว นี่คุณกำลังตรวจสอบฉันอยู่เหรอคะ?”ฮั่วหยุนเซียวเงียบไปครู่หนึ่ง “ผมกำลังทดลองทำความเข้าใจคุณอยู่”ครั้งนี้ ฮั่วหยุนเซียวไม่ได้รอให้เฉินมู่ตอบกลับมา มือหนากดวางสายเสียงดัง “ตู้ด” ทันทีทัศนคติของเธอมันชัดเจนมาก เฉินมู่แสดงให้เขารู้อย่างแจ่มแจ้งว่าไม่อยากโดนสืบข้อมูลใบหน้าหล่อบึ้งตึงพลางวางโทรศัพท์ลงตั้งแต่ที่ได้รู้จักกันมา เขาดูแลปกป้องเธอทุกอย่าง แต่สิ่งที่ได้กลับมาดันกลายเป็นว่า เฉินมู่ไม่ยอมบอกอะไรสักเลยคำกระทั่งถึงตอนนี้ คำที่เฉินมู่ใช้

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 19

    เมื่อวานเธอทั้งต่อสู้ทั้งหลีกเลี่ยงจนเหนื่อยล้าเกินไป ทั้งวันเฉินมู่จึงไม่ได้ออกไปไหนเลยกระทั่งฟ้ามืด ร่างบางจึงเก็บของอย่างลวก ๆ แล้วลงบันไดไปเพื่อหามื้อดึกทาน ทว่าตอนที่เดินผ่านห้องของเฉินชิงเสวี่ย เธอกลับได้ยินเสียงหัวเราะของชายหญิงดังมาจากข้างใน…บังเอิญว่าประตูห้องปิดไม่สนิท คำพูดทุกประโยคจึงดังเข้าไปในหูของเฉินมู่อย่างชัดเจน“เสวี่ยเอ๋อ ผมได้ยินว่ามีบริษัทนายหน้าอยู่ในนามของเฉินมู่ มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”“มันเป็นเรื่องจริง แต่ว่าพี่เขาไม่เข้าใจการดำเนินการของบริษัท พ่อเลยบอกว่าจะขายบริษัททิ้งแล้วล่ะ!”เฉินมู่ขมวดคิ้ว มีเพียงแค่บริษัทนั่นที่เป็นมรดกชิ้นเดียวของคุณแม่ที่ทิ้งเอาไว้ให้เธอ มันเป็นสินสอดที่เตรียมไว้ให้เฉินมู่ตอนหมั้นกับตระกูลลู่ เฉินลี้ซานยังไม่ทันจะถามความเห็นเธอ ก็จะขายบริษัทเสียแล้ว?“ซีเจ๋อ ถ้าว่ากันตามจริงแล้ว คนที่ต้องหมั้นกับคุณเป็นพี่เขานะ ถ้าพวกเราสองคนพูดเรื่องพวกนี้ออกไปก็คงดูไม่ดีนักหรอก...”“เสวี่ยเอ๋อ ห้ามพูดแบบนี้นะ! คนที่ผมรักมีแค่คุณคนเดียว!”“คุณวางใจเถอะ การลงทุนที่คุณแลกเปลี่ยนกับประธานจางในครั้งนี้ มันได้ช่วยแก้ไขปัญหาของผมแล้ว อี

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 20

    “ฉึก” เฉินมู่ฉีกกระดาษหลายแผ่นในมือออกเป็นชิ้น ๆ พร้อมใช้สายตาแข็งกระด้างดุจเหล็กเหลือบมองคนเป็นพ่อ “เชื่อเถอะค่ะ ของของหนู ใครก็คว้ามันไปไม่ได้!”พูดจบก็หมุนตัวออกจากห้องทำงาน ร่างบางสูดลมหายใจเข้าลึก ๆสามสิบล้าน!กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เธอต้องหาเงินสามสิบล้านให้ได้ภายในสามวัน ถึงจะสามารถเอาสมบัติที่แม่ทิ้งไว้ให้กลับมาได้!“เสี่ยวมู่!” ซู่หรูหลานตามออกมาแล้วปิดประตูห้องทำงานอย่างเบามือเฉินมู่หันหน้ามองไปที่เธอซู่หรูหลานไม่ได้ดูอ่อนโยนอีกต่อไป สีหน้าท่าทางของเธอเต็มไปด้วยความสะใจ เธอยิ้มจนตาหยี “ได้ยินพ่อของเธอพูดแล้วนะ? บ้านหลังนี้ เขาเป็นคนตัดสินใจทุกอย่าง!”“พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ทุกอย่างในบ้านหลังนี้ล้วนเป็นของชิงเสวี่ย รวมทั้งสมบัติที่แม่แกทิ้งไว้ด้วย! แต่จู่ ๆ แกก็อยากจะเรียกร้องขึ้นมา? เพ้อเจ้อ!”ดวงตาที่สุกใสคู่นั้นของเฉินมู่สบเข้ากับสายตาเหยียดหยามของหล่อน ริมฝีปากบางยกโค้งขึ้น “จริงเหรอ? ฉันจะคอยดูก็แล้วกัน!”ตอนนี้เธอไม่มีกะจิตกะใจจะกินมื้อดึกอีกต่อไปแล้ว ขาเรียวจึงตรงกลับไปที่ห้องนอนทันควันการเผชิญหน้ากับความว่างเปล่าทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้า อีกทั้งครอบครัวที่ไม่แ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 21

    โอวจินตกตะลึงอยู่นาน แม้ว่าทักษะของเฉินมู่จะเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ แต่ก็ยังเป็นคนที่ฮั่วหยุนเซียวชื่นชอบอยู่ดี แต่เธอก็ไม่ควรถูกคนที่นี่กลั่นแกล้งหรือเปล่าล่ะ?ก่อนที่เขาจะมีเวลาคิดหาทางแก้ไข ก็มีเสียงโห่ร้องมากมายบนฟลอร์เต้นรำดังขึ้นแทรก พร้อมคำพูดเย๊าะเย้ยของหญิงสาวในอ้อมกอดที่ดังเข้าหู “ลู่ซีเจ๋อและเฉินชิงเสวี่ยมีความสัมพันธ์ที่ดีมากนะคะ ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ แล้ว ต้องจูบให้ดูแล้วแหละ”กลุ่มคนผลักเฉินชิงเสวี่ยกับลู่ซีเจ๋อไปให้เขยิบไปใกล้กัน แถมยังตะโกนโห่ร้อง “แต่งเลย! แต่งเลย! แต่งเลย!”เฉินชิงเสวี่ยกอดแขนของลู่ซีเจ๋อด้วยท่าทางเขินอาย แล้วตอบกลับ “พวกเธออย่าพูดซี้ซั้วสิ เสียงดังน่ารำคาญจะตาย…”ลู่ซีเจ๋อมองดูท่าทางเขินอายของเฉินชิงเสวี่ยโดยไม่ตา จากนั้นก็จูบหล่อนที่บนใบหน้า ก่อนที่จะตะโกนตอบ “พอแล้ว พอแล้ว! เดี๋ยวจะประกาศให้รู้อย่างเป็นทางการเอง!”ในห้องจัดเลี้ยง ซู่หรูหลานก้าวขึ้นไปบนเวที หล่อนกระแอมเป็นเชิงขอพูดเปิดงาน “วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของชิงเสวี่ย ดิฉันจึงขอใช้โอกาสนี้แบ่งปันความสุขให้กับทุกคนค่ะ! เราทั้งสองตระกูลได้ตัดสินใจกันแล้ว ชิงเสวี่ยและลู่ซีเจ๋อลูกชายคนเดียวของต

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 22

    เฉินมู่ที่เติบโตขึ้นมาในรูปลักษณ์นี้ ยังจะสามารถคบหาผู้ชายอื่นได้อีกหรือ?ทันใดนั้น ไฟของห้องจัดเลี้ยงก็ดับลง ภาพของเฉินชิงเสวี่ยบนหน้าจอขนาดใหญ่ก็หายไปแล้วกลายเป็นวิดีโอของเฉินมู่แทน!ภาพที่เห็นคือร่างของเฉินมู่ที่ถูกขังอยู่ในกรงเหล็ก เธอหลับอย่างสนิทเพราะพิษของสารที่สูดเข้าไป และข้าง ๆ กันก็มีสุนัขล่าเนื้อยืนวนอยู่เธอเสียงหัวเราะของใครบางคนดังขึ้น จากนั้นภาพก็ตัดกลับมาให้เห็นใบหน้าของประธานจางที่กำลังขยี้มือตัวเองอย่างอารมณ์ดี แล้วเขาก็เดินไปหาเฉินมู่!เฉินชิงเสวี่ยรีบตะโกนด้วยความตกใจ “นี่มันอะไร ใครทำ ใครทำ! รีบปิดเร็วเข้า! ปิดสิปิด!”เธอวิ่งเข้าไปถอดปลั๊กหน้าจอขนาดใหญ่ แต่กลับไม่ระวังไปคลิกโดนรูปภาพที่ไม่น่าดูจำนวนมากในคอมพิวเตอร์ภาพถ่ายที่ล้นหลามปรากฏขึ้นมาบนจออย่างบ้าคลั่ง รูปเหล่านั้นครอบคลุมหน้าจอขนาดใหญ่ไปทั่ว ซึ่งเจ้าของใบหน้าในภาพถ่ายล้วนเป็นของเฉินมู่ทั้งหมด รอยแผลเป็นบนใบหน้าของเธอก็ถูกถ่ายออกมาเห็นได้ชัดเจนเฉินชิงเสวี่ยร้องเสียงหลง “ซีเจ๋อ จะทำยังไงดี! ดูเหมือนคอมพิวเตอร์จะติดไวรัส! ฉันปิดมันไม่ได้!”ท่ามกลุ่มผู้คน ใบหน้าของโอวจินดเริ่มตึงเครียดจนน่ากลัว เขาร

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 23

    ทันใดนั้น ผู้คนในงานเลี้ยงต่างก็ตกอยู่ในความโกลาหล“โอ้พระเจ้า! ความลับแตกใช่ไหมเนี่ย เฉินมู่ถูกน้องสาวของตัวเองทำร้ายงั้นเหรอ”“ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าเฉินชิงเสวี่ยที่ดูเหมือนจะเป็นคนใจดี จะทำเรื่องแบบนี้ได้...”“เฮอะ เกรงว่าจะแกล้งเป็นคนใจดีนะสิ จริง ๆ ตอนที่ภาพปรากฏขึ้นเมื่อกี้นี้ ทำไมหล่อนถึงไม่ถอดปลั๊กไฟออกล่ะ”“...”“ว่าไงล่ะ ชิงเสวี่ย?” เฉินมู่ที่อยู่บนเวที เอ่ยเรียกเฉินชิงเสวี่ยอย่างเหยียดหยาม ไม่เหมือนเด็กกำพร้าแม่ผู้โดดเดี่ยวในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมาเลยสักนิด!คิ้วเรียวตรงที่เย็นชาไร้ความรู้สึก เริ่มเลิกขึ้นเมื่อถูกกระตุ้น เฉินมู่ย้ำสิ่งที่พูดเมื่อครู่อีกครั้ง “ฉันทำให้ใครขุ่นเคืองนะ? ลับหลังฉัน แกทำร้ายฉันแบบนี้เหรอ?”ลู่ซีเจ๋อยังมองไปที่หญิงสาวแสนสวยในอ้อมแขนของตนด้วยท่าทางตกใจ เฉินชิงเสวี่ยเป็นคนวางแผนอย่างรอบคอบ เธอไม่เคยทำอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์เลยสักครั้ง?โอวจินตกตะลึงขณะมือก็ยังถือโทรศัพท์อยู่ เขาเพิ่งพบแหล่งที่มาของข่าว แต่จะเทียบกับความเร็วของแฮ็กเกอร์คอมพิวเตอร์อย่างเฉินมู่ได้อย่างไร?ใบหน้าที่น่าสงสารของเฉินชิงเสวี่ยซีดราวกับกระดาษ หล่อนส่ายหน้าจนเกือบจะล้มล

Bab terbaru

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 255

    ฮั่วหยุนเซียวไม่รู้ว่าควรจะสงสารสาวน้อยตรงหน้าดี หรือควรจะภูมิใจในความหนักแน่นในสถานการณ์ที่อันตรายของเธอดีเขายกมือพร้อมขมวดคิ้ว “ฮานเฉิง จัดการให้เรียบร้อย”“ครับ บอส”ฮานเฉิงยกโทรศัพย์อยู่หลายสาย และแล้วนักข่าวที่สมควรจะอยู่ที่นี่ต่อ กลับแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเฉิงหยวนกระพริบตา “ทำไมพวกเขาไปกันหมดแล้วล่ะ?”เมื่อฝูงชนสลายตัว สายตาเฉินมู่ก็สะดุดเข้ากับรถเบนท์ลีย์หรูที่จอดอยู่ข้างทาง“ปีศาจร้ายปรากฎตัวแล้ว” เธอกล่าวเฉิงหยวนถือถุงขนมของตัวเองตามไปและถามต่อ “อะไรนะ?”เฉินมู่ช่วยถือของในมือเธอ แล้วพูดว่า “ฉันจะไปส่งเธอที่บ้านก่อนแล้วกัน”ใต้แสงแดดอบอุ่นในฤดูหนาว สองสาวพูดคุยถึงเรื่องในอนาคต และรถหรูระดับโลกอย่างเบนท์ลีย์คันนั้นก็ขับตามหลังมาอย่างช้า ๆฮานเฉิงถามอย่างสุขุม “บอสครับ พวกเราจะขับช้าขนาดนี้จริงเหรอครับ?”ฮั่วหยุนเซียวมองแผ่นหลังหญิงสาวตรงหน้าอย่างสนใจ แล้วพยักหน้า “ขับช้ากว่านี้”ฮานเฉิง “...”เมื่อเดินมาถึงใต้อาคาร เฉินมู่ก็พูดว่า “คุณไปเก็บของให้เรียบร้อยแล้วเราไปโรงพยาบาลกัน”เฉิงหยวนปัดมือไปมา “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน พวกเขาแค่ขว้างปาผักมาขู่ฉัน

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 254

    เธอลงจากรถแล้วเห็นเฉิงหยวนที่ถูกฝูงชนล้อมเอาไว้ เหมือนแมวที่กำลังตื่นตระหนกตกใจ และไม่มีที่ซ่อนตัวเธอวิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไป แล้วดึงเฉิงหยวนเข้ามายังอ้อมอก พร้อมถามอย่างกังวลว่า “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”เมื่อเฉิงหยวนเห็นเฉินมู่ ก็ถึงกลับปล่อยโฮออกมาเธอยื่นมือไปปัดเศษผักบนตัวของเฉินมู่ออกให้ พร้อมส่ายหัว “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”เฉินมู่ประคองเธอให้ลุกขึ้น และแล้วไข่ไก่ฟองหนึ่งก็ลอยมา แต่เฉินมู่ยกมือขึ้นรับไว้ได้อย่างแม่นยํา“แกร๊ก” ไข่ไก่ในมือถูกบดขยี้จนแหลก และไข่ไก่เหลว ๆ ก็ไหลลงมาตามข้อมือของเธอ แววตาอันโหดเหี้ยมของเฉินมู่ทำให้ฝูงชนและนักข่าวต่างค่อย ๆ สงบลงเธอพูดกับหน้ากล้องที่ใกล้ที่สุด ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “จรรยาบรรณของนักข่าวคือการนำเสนอความเป็นจริง หวังว่าสื่อมวลชนทุกคนจะตระหนักข้อนี้ไว้หน่อย”พลันมีเสียงดังมาจากด้านหลัง “ความจริงก็คือเฉิงหยวนเป็นมือที่สาม! คนทั้งโลกต่างก็รู้เรื่องนี้!”“ใช่ ๆ คุณเป็นใคร! ทำไมถึงได้แก้ตัวแทนเฉิงหยวน!”เฉินมู่ตอบอย่างเยือกเย็น “เธอไม่ใช่มือที่สาม หวังว่าหลังจากวันที่ความจริงกระจ่างแล้ว ทุกคนในที่นี้ต้องขอโทษต่อการกระทำที่ทำต่อเฉิงหยวน”จ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 253

    เฉินมู่ซบอยู่ในอ้อมกอดลู่ซีเจ๋อพร้อมเช็ดน้ำตาด้วยท่าทีน้อยใจ “พี่คะ พี่เชื่อฉันสักครั้งเถอะ…”ลู่ซีเจ๋อหมดความอดทนกับเฉินมู่อย่างสิ้นเชิง เขาตะโกนอย่างเหลืออดว่า “ออกไป! ไสหัวออกไป!”เฉินมู่มองท่าทีที่ปวดใจของลู่ซีเจ๋อ แล้วถอนหายใจ “ลู่ซีเจ๋อ คุณ…”ลู่ซีเจ๋อมองหน้าเธอด้วยความโกรธเคืองเฉินมู่จึงได้เงียบลง พลางคิดว่าทำไมต้องปริปากพูดคำนี้ทั้ง ๆ ที่่ก่อนหน้านี้เธองัดหลักฐานเป็นร้อย ๆ อย่างเพื่อให้เห็นถึงจิตใจอันโหดเหี้ยมของเฉินชิงเสวี่ย แต่ลู่ซีเจ๋อก็มองไม่เห็นเธอจะเกลี้ยกล่อมเขาอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ แถมยังต้องถูกเฉินชิงเสวี่ยตอกกลับว่าเธออิจฉา“คุณคิดจะพูดอะไรอีก?” ลู่ซีเจ๋อมองเธอด้วยโกรธเคืองเฉินมู่ส่ายหัว “ไม่มีอะไรแล้ว แต่มีอะไรอยากจะบอกคู่หมั้นสุดที่รักของคุณหน่อย”เฉินชิงเสวี่ยมองเฉินมู่ด้วยสายตาที่หวาดกลัว “พี่มีอะไรอยากให้ฉันช่วยคะ...”เฉินมู่หัวเราะ แล้วพูดว่า “รบกวนเธอฝากบอกซุยซินยี่กับเฉินชิงโหรวด้วยนะ ว่าเฉิงหยวนจะกลับเข้าสู่วงการบันเทิงเร็ว ๆ นี้”เฉินชิงเสวี่ยจ้องมองเฉินมู่อย่างปวดใจ พลันเอ่ย “พี่คะ เฉิงหยวนเป็นมือที่สาม ทำไมพี่ยังจะคบหากับคนแบบนั้นอยู่อีก?”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 252

    แผลเป็นที่หน้าเกลียดน่ากลัวเหมือนตัวหนอนเกาะอยู่บนใบหน้า แถมยังมีรอยแดง ๆ อยู่รอบ ๆ เฉินชิงเสวี่ยถอนหายใจอย่างโล่งใจ แผลเป็นยังอยู่!ตอนที่กำลังลองชุดคราวก่อน เธอได้ข่าวว่าเฉินมู่กำลังรักษารอยแผลพวกนี้ มันทำเธอทุรนทุรายไปหลายวันเธอกลัวว่าเฉินมู่จะรักษาร่อยรอยแผลบนใบหน้าจนหายดี เพราะหากใบหน้านี้หายดีแล้ว มันจะกลับมาทำให้ชาวเมืองปินไห่ตกตะลึงอีกครั้ง เฉินชิงเสวี่ยหัวเราะอย่างโล่งใจ แถมยังเย้ยหยันเฉินมู่ต่อว่า “ได้ยินว่าเธอไปรักษาใบหน้า ทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่ล่ะ?”เธอชี้ไปยังใบหน้าของเฉินมู่ พร้อมหัวเราะเยาะเย้ย “เธอดูไม่ออกเหรอว่ามันอาการหนักกว่าเมื่อก่อนอีกน่ะ?”“เฉินมู่ อย่าพยายามต่อไปเลย หน้าของเธอยังไงก็รักษาไม่หายหรอก เธอต้องแบกหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลแบบนี้ไปตลอดชีวิต เธอจะถูกผู้คนหัวเราะเยาะตลอดเวลา และถูกทอดทิ้งตลอดไป”เฉินมู่ง้างมือขึ้นแล้วกระแทกไปที่ใบหน้าของคนเจ็บอย่างแรง ใบหน้าของเฉินชิงเสวี่ยหันไปตามเสียงดัง “เพี๊ยะ”เฉินชิงเสวี่ยโดนตบจนโกรธมาก เธอจ้องมองเฉินมู่ด้วยความเคียดแค้น “สมควร ใครให้เธออยู่เป็นหนามยอกอกในตระกูลเฉิน เธอควรตายไปพร้อมกับแม่ของเธอตั้งนานแล้ว!”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 251

    “นี่คุณ!” ลู่ซีเจ๋อถูกเฉินมู่ปั่นหัวจนออกอาการโกรธอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่เคยเจอผู้หญิงที่ทั้งป่าเถื่อนและชั่วร้ายอย่างเธอมาก่อนเฉินชิงเสวี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอีกครั้ง “ไม่เป็นไรหรอก พี่สาวก็แค่ล้อเล่น คุณไปเถอะ”เฉินชิงเสวี่ยออดอ้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอยากจะทานของหวานหน้าโรงพยาบาล ลู่ซีเจ๋อจึงได้แต่ทำตามคู่หมั้น แต่ก่อนเดินออกจากห้องก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่เฉินมู่อีกหนึ่งทีทันทีที่เขาเดินออกไป เฉินมู่ก็ขมวดคิ้วมองไปทางร่างบนเตียงอย่างเร็ว “เหลือเราแค่สองคนแล้ว มีอะไรอยากพูดไม่ใช่เหรอ?”ครั้งแรกเฉินลี่ซานสั่งให้เธอมาที่นี่ ครั้งที่สองลู่ซีเจ๋อก็พาเธอมาด้วยตัวเองอีกหนึ่งครั้ง เฉินชิงเสวี่ยเป็นคนวางแผนทั้งหมดให้เฉินมู่มาที่นี่ ไม่รู้ว่าเธอจะมีแผนการอะไรอีกเฉินชิงเสวี่ยเปลี่ยนสีหน้าในทันที ใบหน้าอ่อนหวานเมื่อสักครู่หายไปอย่างไร้ร่องรอยเธอมองหน้าเฉินมู่อย่างหงุดหงิด พร้อมพูดว่า “เธออย่ายุ่งเรื่องของตระกูลซุย!”เฉินมู่หัวเราะ ก่อนถามว่า “ทำไมเหรอ? ตระกูลซุยทำไมเหรอ?”เฉินชิงเสวี่ยพูดตรง ๆ ว่า “ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดี ตระกูลซุยกับตระกูลเราทำธุรกิจร่วมกันมา ถ้าเธอทำงานแต่งซินยี่

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 250

    เฉินมู่ยักไหล่เล็กน้อย “ถึงฉันจะทำร้ายเธอจนตาย ฉันก็จะไม่รู้สึกผิด”ลู่ซีเจ๋อขมวดคิ้ว “เฉินมู่ คุณทำร้ายเสวี่ยเอ๋อถึงขั้นนั้น เธอยังไม่ถือโทษโกรธ แค่บอกให้คุณอย่าเข้าไปยุ่งกับตระกูลซุย แค่คุณไปเยี่ยมเธอบ้าง มันยากนักหรือไง?”เธอหัวเราะเยาะเล็กน้อย “แค่เธอบอกว่าไม่ถือโทษโกรธฉัน คุณก็เชื่อเหรอ? ลู่ซีเจ๋อ ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าในสมองคุณมันมีรอยหยักบ้างไหม”ลู่ซีเจ๋ออึ้งไปสักพัก เขาไม่ใช่คนที่ทะเลาะวิวาทกับใครบ่อย ๆ ร่างสูงลากเฉินมู่ไปเรื่อย ๆ แล้วพูดว่า “ไปโรงพยาบาลกับผม!”ช่วงเวลาเลิกเรียนนักศึกษาทุกคนเดินลงจากอาคาร ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาตรงนั้น และแล้วทั้งสองก็เริ่มตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนเฉินมู่ไม่อยากตกเป็นประเด็นของคนทั้งมหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้ จึงสะบัดมือออกอย่างจำใจและตอบว่า “ปล่อย ฉันเดินเองได้”ลู่ซีเจ๋อปล่อยมือเธอ เฉินหยวนจึงรีบวิ่งมาดึงแขนเฉินมู่ไว้ “ฉันไปเป็นเพื่อนนะ”เฉินมู่แตะมือเธอเบา ๆ “ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรหรอก เธอกลับหอพักไปก่อนเถอะ”เฉินหยวนพูดด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง “งั้นเธอต้องระวังตัวนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต้องรีบโทรหาฉันนะ หรือไม่ก็… โทรหาตัวรวจเลย!”เฉินหยวนหัวเ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 249

    เช้าวันถัดมา เฉินมู่ไปมหาวิทยาลัยตามปกติเรื่องของเฉิงหยวนยังเป็นที่กล่าวถึงบนโลกโซเชียล ซุยซินยี่ยอมจ่ายให้กับคอมเมนท์พวกนี้ไม่น้อยเลยจริง ๆแต่เฉินมู่ยังต้องกลับไปเรียน ถึงแม้ว่าชาวเน็ตจะยังพากันด่าทอดาราในสังกัดของเธอก็ตามทันทีที่เดินเข้าห้องเรียน เฉินหยวนก็โบกมือเรียก “เฉินมู่ ฉันจองที่ตรงนี้ไว้ให้เธอ”เฉินมู่สาวเท้าเข้าไปพร้อมกระเป๋านักเรียน พลางเผยยิ้มกว้าง “ขอบคุณนะ”จางหยางที่นั่งโต๊ะด้านหน้าก็ยื่นกาแฟกับพร้อมแซนด์วิชให้ “อาหารเช้าของเธอ”เฉินมู่พูดด้วยความปลาบปลื้มใจ “ทำไมพวกเธอดีกับฉันจังเลย?”จางหยางส่ายหัวอย่างเคอะเขิน แล้วตอบว่า “แต่ก่อนฉันไม่ค่อยเป็นมิตรกับเธอ เพราะฉะนั้นตอนนี้ฉันจะแก้ตัว” ตั้งแต่ที่เธอทำให้ผู้คนเกิดความประทับใจในคืนงานเลี้ยงปีใหม่ ทุกคนในชั้นเรียนก็หันมาดีกับเธอเฉินหยวนรีบวิ่งเข้ามาซุบซิบ “เธอเห็นหรือยังว่าข่าวเฉิงหยวนในเน็ตกลับมาฉาวอีกแล้วนะ?”เฉินมู่รับอาหารเข้ากัดไปหนึ่งคำ ก่อนพยักหน้าตอบ “เห็นแล้ว”เฉินหยวนรีบโต้ตอบทันที “เฉินมู่ ฉันเห็นเธอสนิทกับหล่อน หล่อนไม่ใช่คนดีนะ!”เฉินมู่หัวเราะ ก่อนตอบว่า “หล่อนเป็นคนดีมาก แล้วต่อไปเธอจะรู้เอง

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 248

    แค่คําเดียว ทำให้มุมปากของฮั่วหยุนเซียวกระตุกยกโค้งราวไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มไว้ได้เขาแตะมือไปที่ใบหน้าของเฉินมู่ พลางเรียกอย่างอ่อนโยนว่า “มู่มู่”เฉินมู่ลุกขึ้นนั่งอย่างสะลึมสะลือ แล้วถาม “คุณกลับมาแล้วเหรอคะ ตอนนี้กี่โมงแล้ว แล้วคุณทานข้าวหรือยัง?”แม้ว่าเธอไม่ได้งดงามเหมือนเหล่าคนมีชื่อเสียง แต่ก็แฝงด้วยความอ่อนหวานอยู่บ้างฮั่วหยุนเซียวไม่เคยรู้สึกว่า คําว่าเฉินมู่คํานี้จะอบอุ่นและน่าหลงใหลเช่นนี้มาก่อนหญิงสาวที่เขาสนใจนอนอยู่บนโซฟาด้วยท่าทีกำลังงัวเงียผมเผ้ายุ่งเหยิงสามคำถามต่อเนื่องนั้นดึงเขาออกจากภวังค์และเข้าสู่ความเป็นจริง แต่เขาไม่มีทางเลือก และทำตามอย่างเต็มใจเฉินมู่อยู่ในอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น ดวงตาค่อย ๆ ปิดลงอีกครั้ง ช่วงนี้เธอพักผ่อนไม่เพียงพอ ถ้าอยู่ในความสงบเมื่อไหร่เธอพร้อมจะหลับทันที“อืม…” จู่ ๆ ความเย็นก็เข้ามากระทบริมฝีปาก สมองเฉินมู่รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันทีสมองของเธอเริ่มประมวลผล พลันฝืนลืมตาขึ้น และเลียริมฝีปากตามสัญชาตญาณเธอมองเข้าไปในสายตาลึกลับของชายตรงหน้า ก่อนถามอย่างงุนงงว่า “อะไรเหรอ?”ปลายลิ้นของฮั่วหยุนเซียวไล่เลียตรงริมฝีปากล่างของตน รา

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 247

    เมื่อทุกคนออกไป เฉิงหยวนก็ยังคงเกาะแขนของเฉินมู่ด้วยร่างกายอันสั่นอยู่อย่างนั้นเฉินมู่แตะมือเธอ พร้อมปลอบใจว่า “ไม่เป็นไรนะ ฉันจะคอยปกป้องคุณเอง”เฉิงหยวนพยักหน้า “ฉันเชื่อคุณ แต่ฉันไม่เข้าใจ ทำไมคนร้ายแบบพวกนั้น ถึงได้กล้ากล่าวหาเหยื่อแบบนี้”ผู้อำนวยการหยางวิ่งเข้ามาถามอย่างรีบร้อน “ผู้อำนวยการเฉินบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ? ผมพยายามห้ามคุณหนูซุยแล้ว แต่…”เฉินมู่ปัดมือไปมา พลางบอก “ไม่เป็นไรค่ะ ผู้อำนวยการหยางไม่ต้องกังวล นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเรา”เธอมองร่องรอยความเสียหายของข้าวของบนพื้น แล้วพูดต่อ “พวกเธอทำอะไรเสียหายบ้าง ลิสต์ให้ฉันด้วยนะ”ผู้อำนวยการหยางรีบยกปัดไม้ปัดมือปฎิเสธอย่างเร็ว “ไม่ได้ ๆ จะให้ผู้อำนวยการเฉินชดใช้ได้อย่างไร?” เฉินมู่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ใครบอกว่าฉันจะเป็นคนชดใช้ค่าเสียหาย? คุณหยางจัดการลิสต์รายการของที่เสียหายมาก็พอค่ะ”ผู้อำนวยการหยางก็ไม่รู้ว่าเฉินมู่คิดจะมาไม้ไหน จึงทำได้เพียงทำตามคำสั่งเท่านั้นเฉิงหยวนกระแอมเล็กน้อย แล้วถามด้วยความระมัดระวังว่า “คงไม่ใช่ให้ฉันชดใช้ค่าเสียหายหรอกนะ?”“หึหึ” เฉินมู่ยิ้ม “ไม่ใช่ คนที่ลงมือทำลายข้าวของต่าง

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status