Share

บทที่ 19

Penulis: เฉียวเหมย
เมื่อวานเธอทั้งต่อสู้ทั้งหลีกเลี่ยงจนเหนื่อยล้าเกินไป ทั้งวันเฉินมู่จึงไม่ได้ออกไปไหนเลย

กระทั่งฟ้ามืด ร่างบางจึงเก็บของอย่างลวก ๆ แล้วลงบันไดไปเพื่อหามื้อดึกทาน

ทว่าตอนที่เดินผ่านห้องของเฉินชิงเสวี่ย เธอกลับได้ยินเสียงหัวเราะของชายหญิงดังมาจากข้างใน…

บังเอิญว่าประตูห้องปิดไม่สนิท คำพูดทุกประโยคจึงดังเข้าไปในหูของเฉินมู่อย่างชัดเจน

“เสวี่ยเอ๋อ ผมได้ยินว่ามีบริษัทนายหน้าอยู่ในนามของเฉินมู่ มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”

“มันเป็นเรื่องจริง แต่ว่าพี่เขาไม่เข้าใจการดำเนินการของบริษัท พ่อเลยบอกว่าจะขายบริษัททิ้งแล้วล่ะ!”

เฉินมู่ขมวดคิ้ว มีเพียงแค่บริษัทนั่นที่เป็นมรดกชิ้นเดียวของคุณแม่ที่ทิ้งเอาไว้ให้เธอ มันเป็นสินสอดที่เตรียมไว้ให้เฉินมู่ตอนหมั้นกับตระกูลลู่ เฉินลี้ซานยังไม่ทันจะถามความเห็นเธอ ก็จะขายบริษัทเสียแล้ว?

“ซีเจ๋อ ถ้าว่ากันตามจริงแล้ว คนที่ต้องหมั้นกับคุณเป็นพี่เขานะ ถ้าพวกเราสองคนพูดเรื่องพวกนี้ออกไปก็คงดูไม่ดีนักหรอก...”

“เสวี่ยเอ๋อ ห้ามพูดแบบนี้นะ! คนที่ผมรักมีแค่คุณคนเดียว!”

“คุณวางใจเถอะ การลงทุนที่คุณแลกเปลี่ยนกับประธานจางในครั้งนี้ มันได้ช่วยแก้ไขปัญหาของผมแล้ว อีกนิดเดียวผมก็จะสามารถยกเลิกการหมั้นได้แล้ว! พอถึงตอนนั้นก็จะจัดงานแต่งให้คุณเข้าตระกูลอย่างใหญ่โต!”

“แน่นอนอยู่แล้ว ฉันต้องไปทานข้าวกับประธานจางเลยนะ! คุณไม่รู้หรอกว่าเขาพยายามจะลวนลามฉันตลอดเวลา ฉันเกือบจะเสียท่าแล้วด้วยซ้ำ!”

“ลำบากแย่เลยนะ เสวี่ยเอ๋อ....”

ไม่นานก็มีเสียงบางอย่างดังแว่วออกมาจากภายในห้อง เป็นเสียงน่าอายที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้คนฟังอยู่หน้าแดงและหัวใจเต้นรัว

เยี่ยมจริง ๆ เฉินชิงเสวี่ยขายเธอให้กับประธานจางเพื่อแลกเปลี่ยนการลงทุน ในที่สุดเฉินมู่ก็เข้าใจแล้ว

ทว่าพอเธอกำลังจะก้าวขาเดินออกไป คนรับใช้ที่เดินผ่านมาก็ตะโกนทักเสียงดัง “คุณหนูใหญ่ คุณมาทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ?”

เฉินมู่ใจเต้นแรง และเป็นไปตามที่คาดไว้ วินาทีถัดมาประตูห้องก็เปิดออก เฉินชิงเสวี่ยเดินออกมาโดยที่มือกำลังจัดชุดนอน ใบหน้าของอีกฝ่ายแดงระเรื่อ เส้นผมยุ่งเหยิงกระจายอยู่บนหัวไหล่

เธอกวาดตามองครู่หนึ่ง คนใช้จึงรีบเดินออกไป จากนั้นก็ตะโกนถามอย่างเขินอาย “พี่คะ ทำไมพี่ถึงได้มายืนฟังคนอื่นคุยกันได้ล่ะคะเนี่ย...”

หัวใจขอบเฉินมู่มันบีบรัดจนเจ็บปวด เธอคิดว่า เฉินมู่คนก่อนจะต้องชอบลู่ซีเจ๋อมากแน่ ๆ ชอบจนถึงขั้นทำตามทุกอย่างดั่งคนว่านอนสอนง่าย เพียงเพื่อให้ได้อยู่ในสายตาเขาแค่ครู่หนึ่งก็ยอม

เฉินมู่ระงับอาการใจหวิวแล้วถามเรื่องเมื่อสักครู่ “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับบริษัทนายหน้า?”

เฉินชิงเสวี่ยปิดปากหัวเราะเบา ๆ “พี่พูดถึงบริษัทเล็ก ๆ ใกล้เจ๊งที่แม่ของพี่ทิ้งไว้ให้งั้นเหรอ? จะเกิดอะไรขึ้นได้อีกล่ะคะ? นอกจากบริษัทเฉินกรุ๊ปมีเงินทุนไม่พอเลยต้องเอาไปขายน่ะสิ!”

เฉินมู่ขมวดคิ้ว เฉินชิงเสวี่ยจึงพูดต่อ “พี่ตัดใจไม่ได้ใช่ไหมล่ะ? ที่จริงแม่ของพี่ที่ตายไปก็ไม่ได้ทิ้งของดี ๆ ไว้ให้เลยนี่ ถ้าหากพี่คุกเข่าขอร้องฉัน ฉันจะไปพูดกับคุณพ่อให้ก็ได้นะ ว่าให้คืนบริษัทนี้ให้กับพี่ เอาไหมล่ะ?”

เฉินมู่เอื้อมมือไปดึงชุดนอนของเฉินชิงเสวี่ยพลางยิ้มเยาะ “ขอร้องเธอ? เธอมีค่าขนาดนั้นเลยเหรอ?”

เฉินชิงเสวี่ยที่มีลู่ซีเจ๋ออยู่ด้วยกันที่นี่ ก็ชูคอเชิงกล้าหาญขึ้นมามากกว่าเดิม เธอคว้ามือของเฉินมู่ไว้แล้วกดลงไปที่แผลด้วยสีหน้าแววตาที่เต็มไปด้วยความสาแก่ใจ!

“พี่คะ นี่มันเป็นความผิดของพี่นะ ฉันปรารถนาดีอยากจะช่วยแท้ ๆ ทำไมพี่ถึงไม่ยอมรับน้ำใจไปล่ะ? ไม่ใช่ทุกคนที่จะใจดียินยอมมอบความเมตตาให้กับพี่เหมือนฉันหรอกนะ!”

“พี่ดูสภาพตัวเองสิ แม่ก็ตายไปก่อนวัยอันควร พ่อก็ไม่รัก คู่หมั้นก็กลายมาเป็นของฉัน แค่ของที่แม่ทิ้งไว้ให้ก่อนตายก็ยังรักษาเอาไว้ไม่ได้ น่าเวทนาจริง ๆ!”

เฉินมู่ตีสีหน้าเย็นชาทันควัน “ปล่อยมือ”

เฉินชิงเสวี่ยกลับพูดอย่างลำพองใจ “ฉันไม่ปล่อย! แกจะทำไม? รสชาติของการที่โดนแย่งผู้ชายที่รักไปมันเป็นยังไงเหรอ? เฉินมู่ แกทำให้ฉันเห็นอย่างชัดเจน! ว่าฉันน่ะเป็นถึงคุณหนูตระกูลเฉินผู้ร่ำรวย ส่วนแกน่ะ แค่สุนัขข้างทางตัวเดียวยังเทียบไม่ติด!”

“เพี๊ยะ!” เฉินมู่ยกมืออีกข้างหนึ่งขึ้นแล้วฟาดลงไปที่ใบหน้าอีกคนอย่างแรง!

“อ๊ะ!” เฉินชิงเสวี่ยร้องเสียงแหลมวิ่งกลับเข้าไปในห้อง พลันรีบซุกเข้าไปในอ้อมกอดของลู่ซีเจ๋อแล้วทำหน้าซื่อเหมือนดอกบัวขาวที่บริสุทธิ์ เธอหดตัวพูดเชิงหวาดกลัว “ซีเจ๋อช่วยฉันด้วย!”

ลู่ซีเจ๋อกอดเฉินชิงเสวี่ยอย่างเจ็บปวดใจ ชายหนุ่มมองไปยังเฉินมู่ที่เดิมตามหลังเข้ามาพร้อมพูดด้วยความโกรธว่า “เฉินมู่! เธอทำอะไรลงไป? บ้าไปแล้วใช่ไหม?!”

เฉินมู่หยิบโทรศัพท์ออกมา ถ่ายรูปทั้งคู่เสียงดังแชะอยู่หลายรูป พลางพูดอย่างไม่ใส่ใจ “เดี๋ยวจะเขียนเรื่องจริงของพวกเธอสองคน และกระจายข่าวให้คนทั้งเมืองปินไห่ได้เห็นว่าพวกเธอทั้งสองรักกันมากแค่ไหน”

“เฉินมู่! คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?” ลู่ซีเจ๋อรีบดึงผ้าห่มมาขึ้นมาปิดร่างของทั้งคู่พลันด่าทอ “นี่คุณเป็นพวกชอบเปิดโปงหรือไง? มีใครที่ไหนเขาถ่ายเรื่องแบบนี้เก็บไว้บ้าง!”

เฉินมู่เลิกคิ้วมองเฉินชิงเสวี่ย “ฉันเป็นพวกเปิดโปงหรือเปล่า ชิงเสวี่ยรู้ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นฉันคงจะไม่ถูกส่งไปอยู่ในกรงหรอก!”

“กรง? กรงอะไร?” ลู่ซีเจ๋อขมวดคิ้วถาม

เฉินมู่ยังไม่ทันได้ตอบกลับ เฉินชิงเสวี่ยก็รีบพูดตัดบททันที “พี่คะ ฉันผิดไปแล้ว! ฉันไม่สมควรที่จะอยู่กับลู่ซีเจ๋อ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ!”

พูดไปก็ปาดน้ำตาไป เธอทำทีลุกจากเตียงไปสวมรองเท้า ทว่าลู่ซีเจ๋อกลับดึงรั้งเธอไว้ด้วยความเจ็บปวด ร่างสูงถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย “เฉินมู่! มีเรื่องอะไรก็มาลงกับผม! หยุดทรมานเสวี่ยเอ๋อได้แล้ว เป็นผมเองที่ยืนกรานจะอยู่กับเธอ เธอไม่เกี่ยวอะไรด้วย!”

เฉินมู่ไม่ได้โต้แย้ง เธออมยิ้มน้อย ๆ ก่อนเอ่ย “ฉันเคยพูดไปแล้ว เรื่องที่พวกเธอจะอยู่ด้วยกัน มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน เพียงแต่ครั้งต่อไปช่วยปิดประตูให้มันดี ๆ ก่อนแล้วค่อยขึ้นเตียง ไม่อย่างนั้นคนทั้งตระกูลเฉินคงได้ยินเสียงครางของพวกเธอทั้งคู่ พวกเธอไม่อายเหรอ ฉันละวุ่นวายใจจริง ๆ”

หลังจากนั้น เฉินมู่ก็หมุนกายสามเท้าออกไปจากห้องแล้วปิดประตูดัง “ปัง”

ลู่ซีเจ๋อชะงักไปนานมาก เสียงทุ้มถามเบา ๆ “เมื่อกี้ไม่ได้ปิดประตูเหรอ?”

เฉินชิงเสวี่ยเริ่มรู้สึกน้อยใจขึ้นมา “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะ! ซีเจ๋อ นี่คุณไม่เชื่อฉันเหรอ? เธอจงใจเปิดประตูเข้ามาหาเรื่องชัด ๆ!”

พอเฉินชิงเสวี่ยร้องไห้ ลู่ซีเจ๋อก็หายโกรธแล้วปลอบคนในอ้อมกอดอยู่นานกว่าจะสงบลง เขาไม่ติดใจอะไรอีก ได้แต่รีบแต่งตัวให้เรียบร้อยเพื่อออกจากตระกูลเฉินในเวลาต่อมา

เฉินมู่เดินตรงไปยังห้องทำงานของเฉินลี้ซาน สมบัติของแม่ จะให้ขายไปไม่ได้เด็ดขาด!

ภายในห้องทำงาน เฉินลี้ซานกำลังมองรายงานบนโต๊ะ ซู่หรูหลานยืนอยู่ที่ด้านหลังพร้อมบีบนวดไหล่ของเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “บริษัทนั่นขายไปจะไม่เป็นอะไรจริง ๆ เหรอคะ? เสี่ยวมู่อาจจะเสียใจได้นะคะ?”

เฉินลี้ซานขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ “เธอมีสิทธ์อะไรมาต้องเสียใจ? นี่ไม่ใช่บริษัทของแม่เธอคนเดียวสักหน่อย! หากไม่มีฉันคอยลำบากประคับประคองมาหลายปี บริษัทนี่ก็ล้มละลายไปตั้งนานแล้ว!”

“จะว่าไปมันก็ใช่ เสี่ยวมู่เป็นลูกสาวคนโตตระกูลเฉิน ควรจะตอบแทนตระกูลเฉินให้มันมาก ๆหน่อย!”

ทันใดนั้น เฉินมู่ก็เปิดประตูเข้าไปพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ตอบแทนอะไร? ชีวิตของแม่ มรดกทั้งหมด แล้วก็ยังชีวิตของหนู พวกคุณต้องการจะเอามันไปทั้งหมดเลยใช่ไหม?”

เฉินลี้ซานเอนหลังพิงเก้าอี้ เขามองเธออย่างรำคาญแวบหนึ่ง “เรื่องของผู้ใหญ่เกี่ยวอะไรกับลูกด้วย! ออกไปซะ!”

เฉินมู่หยิบรายงานหลายใบบนโต๊ะขึ้นมากวาดตามอง พลันยิ้มเยาะ “สามสิบล้าน...แม้แต่การประเมินมูลค่าตลาดก็ทำเรียบร้อยแล้ว? สินสอดที่แม่ทิ้งเอาไว้ให้ พ่อก็จะแอบเอาไปขายแบบนี้น่ะเหรอ?”

ซู่หรูหลานรีบพูดเสียงอ่อนออกมา “เสี่ยวมู่ ทำไมลูกถึงพูดกับคุณพ่อถึงแบบนี้ล่ะลูก...”

“ฉันกำลังคุยกับพ่อของฉัน ดังนั้น ช่วยหุบปากด้วย!” เฉินมู่มองเธอด้วยสายตาเย็นเยียบ “คุณหญิงซู่ เก็บความคิดของคุณไปเถอะ! ฉันไม่อยากเห็นคุณแสดงบทแม่ศรีเรือนตอนนี้หรอกนะ!”

ซู่หรูหลานแทบจะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตา “เด็กคนนี้นี่...ยังจะทำเหมือนฉันเป็นคนนอกอีก!”

“เฉินมู่!” เฉินลี้ซานตบโต๊ะหนึ่งครั้งแล้วพูดด้วยความโกรธ “ขอโทษแม่แกเดี๋ยวนี้!”

เฉินมู่หัวเราะอย่างเย็นชา “แม่ของหนูตายไปตั้งสิบเก้าปีที่แล้ว จะไปขอโทษได้ยังไงกันคะ?”

ซู่หรูหลานดึงแขนของเฉินลี้ซานเอาไว้ ก่อนเอ่ยเสียงเบา “ที่รัก ช่างมันเถอะค่ะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอต่อต้านฉัน ฉันเป็นผู้ใหญ่นะคะ จะไปถือสาอะไรเธอ...”

พอเฉินลี้ซานเห็นท่าทางน้อยอกน้อยใจของภรรยาก็ยิ่งโกรธมากยิ่งขึ้น “เฉินมู่! ฉันจะบอกอะไรให้นะ ฉันเป็นคนที่ตัดสินใจทุกเรื่องในบ้านหลังนี้! แค่บริษัทพัง ๆ นี่ ฉันพูดแล้วว่าจะขายทิ้งก็คือต้องขายทิ้ง! อีกสามวันให้หลังจะเป็นวันทำการซื้อขาย! แม้ว่าแกจะก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นมามันก็ไร้ประโยชน์!”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 20

    “ฉึก” เฉินมู่ฉีกกระดาษหลายแผ่นในมือออกเป็นชิ้น ๆ พร้อมใช้สายตาแข็งกระด้างดุจเหล็กเหลือบมองคนเป็นพ่อ “เชื่อเถอะค่ะ ของของหนู ใครก็คว้ามันไปไม่ได้!”พูดจบก็หมุนตัวออกจากห้องทำงาน ร่างบางสูดลมหายใจเข้าลึก ๆสามสิบล้าน!กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เธอต้องหาเงินสามสิบล้านให้ได้ภายในสามวัน ถึงจะสามารถเอาสมบัติที่แม่ทิ้งไว้ให้กลับมาได้!“เสี่ยวมู่!” ซู่หรูหลานตามออกมาแล้วปิดประตูห้องทำงานอย่างเบามือเฉินมู่หันหน้ามองไปที่เธอซู่หรูหลานไม่ได้ดูอ่อนโยนอีกต่อไป สีหน้าท่าทางของเธอเต็มไปด้วยความสะใจ เธอยิ้มจนตาหยี “ได้ยินพ่อของเธอพูดแล้วนะ? บ้านหลังนี้ เขาเป็นคนตัดสินใจทุกอย่าง!”“พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ทุกอย่างในบ้านหลังนี้ล้วนเป็นของชิงเสวี่ย รวมทั้งสมบัติที่แม่แกทิ้งไว้ด้วย! แต่จู่ ๆ แกก็อยากจะเรียกร้องขึ้นมา? เพ้อเจ้อ!”ดวงตาที่สุกใสคู่นั้นของเฉินมู่สบเข้ากับสายตาเหยียดหยามของหล่อน ริมฝีปากบางยกโค้งขึ้น “จริงเหรอ? ฉันจะคอยดูก็แล้วกัน!”ตอนนี้เธอไม่มีกะจิตกะใจจะกินมื้อดึกอีกต่อไปแล้ว ขาเรียวจึงตรงกลับไปที่ห้องนอนทันควันการเผชิญหน้ากับความว่างเปล่าทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้า อีกทั้งครอบครัวที่ไม่แ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 21

    โอวจินตกตะลึงอยู่นาน แม้ว่าทักษะของเฉินมู่จะเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ แต่ก็ยังเป็นคนที่ฮั่วหยุนเซียวชื่นชอบอยู่ดี แต่เธอก็ไม่ควรถูกคนที่นี่กลั่นแกล้งหรือเปล่าล่ะ?ก่อนที่เขาจะมีเวลาคิดหาทางแก้ไข ก็มีเสียงโห่ร้องมากมายบนฟลอร์เต้นรำดังขึ้นแทรก พร้อมคำพูดเย๊าะเย้ยของหญิงสาวในอ้อมกอดที่ดังเข้าหู “ลู่ซีเจ๋อและเฉินชิงเสวี่ยมีความสัมพันธ์ที่ดีมากนะคะ ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ แล้ว ต้องจูบให้ดูแล้วแหละ”กลุ่มคนผลักเฉินชิงเสวี่ยกับลู่ซีเจ๋อไปให้เขยิบไปใกล้กัน แถมยังตะโกนโห่ร้อง “แต่งเลย! แต่งเลย! แต่งเลย!”เฉินชิงเสวี่ยกอดแขนของลู่ซีเจ๋อด้วยท่าทางเขินอาย แล้วตอบกลับ “พวกเธออย่าพูดซี้ซั้วสิ เสียงดังน่ารำคาญจะตาย…”ลู่ซีเจ๋อมองดูท่าทางเขินอายของเฉินชิงเสวี่ยโดยไม่ตา จากนั้นก็จูบหล่อนที่บนใบหน้า ก่อนที่จะตะโกนตอบ “พอแล้ว พอแล้ว! เดี๋ยวจะประกาศให้รู้อย่างเป็นทางการเอง!”ในห้องจัดเลี้ยง ซู่หรูหลานก้าวขึ้นไปบนเวที หล่อนกระแอมเป็นเชิงขอพูดเปิดงาน “วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของชิงเสวี่ย ดิฉันจึงขอใช้โอกาสนี้แบ่งปันความสุขให้กับทุกคนค่ะ! เราทั้งสองตระกูลได้ตัดสินใจกันแล้ว ชิงเสวี่ยและลู่ซีเจ๋อลูกชายคนเดียวของต

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 22

    เฉินมู่ที่เติบโตขึ้นมาในรูปลักษณ์นี้ ยังจะสามารถคบหาผู้ชายอื่นได้อีกหรือ?ทันใดนั้น ไฟของห้องจัดเลี้ยงก็ดับลง ภาพของเฉินชิงเสวี่ยบนหน้าจอขนาดใหญ่ก็หายไปแล้วกลายเป็นวิดีโอของเฉินมู่แทน!ภาพที่เห็นคือร่างของเฉินมู่ที่ถูกขังอยู่ในกรงเหล็ก เธอหลับอย่างสนิทเพราะพิษของสารที่สูดเข้าไป และข้าง ๆ กันก็มีสุนัขล่าเนื้อยืนวนอยู่เธอเสียงหัวเราะของใครบางคนดังขึ้น จากนั้นภาพก็ตัดกลับมาให้เห็นใบหน้าของประธานจางที่กำลังขยี้มือตัวเองอย่างอารมณ์ดี แล้วเขาก็เดินไปหาเฉินมู่!เฉินชิงเสวี่ยรีบตะโกนด้วยความตกใจ “นี่มันอะไร ใครทำ ใครทำ! รีบปิดเร็วเข้า! ปิดสิปิด!”เธอวิ่งเข้าไปถอดปลั๊กหน้าจอขนาดใหญ่ แต่กลับไม่ระวังไปคลิกโดนรูปภาพที่ไม่น่าดูจำนวนมากในคอมพิวเตอร์ภาพถ่ายที่ล้นหลามปรากฏขึ้นมาบนจออย่างบ้าคลั่ง รูปเหล่านั้นครอบคลุมหน้าจอขนาดใหญ่ไปทั่ว ซึ่งเจ้าของใบหน้าในภาพถ่ายล้วนเป็นของเฉินมู่ทั้งหมด รอยแผลเป็นบนใบหน้าของเธอก็ถูกถ่ายออกมาเห็นได้ชัดเจนเฉินชิงเสวี่ยร้องเสียงหลง “ซีเจ๋อ จะทำยังไงดี! ดูเหมือนคอมพิวเตอร์จะติดไวรัส! ฉันปิดมันไม่ได้!”ท่ามกลุ่มผู้คน ใบหน้าของโอวจินดเริ่มตึงเครียดจนน่ากลัว เขาร

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 23

    ทันใดนั้น ผู้คนในงานเลี้ยงต่างก็ตกอยู่ในความโกลาหล“โอ้พระเจ้า! ความลับแตกใช่ไหมเนี่ย เฉินมู่ถูกน้องสาวของตัวเองทำร้ายงั้นเหรอ”“ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าเฉินชิงเสวี่ยที่ดูเหมือนจะเป็นคนใจดี จะทำเรื่องแบบนี้ได้...”“เฮอะ เกรงว่าจะแกล้งเป็นคนใจดีนะสิ จริง ๆ ตอนที่ภาพปรากฏขึ้นเมื่อกี้นี้ ทำไมหล่อนถึงไม่ถอดปลั๊กไฟออกล่ะ”“...”“ว่าไงล่ะ ชิงเสวี่ย?” เฉินมู่ที่อยู่บนเวที เอ่ยเรียกเฉินชิงเสวี่ยอย่างเหยียดหยาม ไม่เหมือนเด็กกำพร้าแม่ผู้โดดเดี่ยวในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมาเลยสักนิด!คิ้วเรียวตรงที่เย็นชาไร้ความรู้สึก เริ่มเลิกขึ้นเมื่อถูกกระตุ้น เฉินมู่ย้ำสิ่งที่พูดเมื่อครู่อีกครั้ง “ฉันทำให้ใครขุ่นเคืองนะ? ลับหลังฉัน แกทำร้ายฉันแบบนี้เหรอ?”ลู่ซีเจ๋อยังมองไปที่หญิงสาวแสนสวยในอ้อมแขนของตนด้วยท่าทางตกใจ เฉินชิงเสวี่ยเป็นคนวางแผนอย่างรอบคอบ เธอไม่เคยทำอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์เลยสักครั้ง?โอวจินตกตะลึงขณะมือก็ยังถือโทรศัพท์อยู่ เขาเพิ่งพบแหล่งที่มาของข่าว แต่จะเทียบกับความเร็วของแฮ็กเกอร์คอมพิวเตอร์อย่างเฉินมู่ได้อย่างไร?ใบหน้าที่น่าสงสารของเฉินชิงเสวี่ยซีดราวกับกระดาษ หล่อนส่ายหน้าจนเกือบจะล้มล

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 24

    แต่เฉินมู่ไม่ใช่คนแบบนั้น เธอตัดวิดีโอตอนท้ายออก แม้แต่รองเท้าหนังของผู้ชายที่เข้ามาในกล้องโดยไม่ได้ตั้งใจก็ถูกเข้ารหัสไว้ไม่ให้เข้าถึงวิดีโอตัวเต็มได้ง่าย ๆ เธอขีดเส้นไว้ชัดเจน ไม่ว่าวันนี้เธอจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว เธอจะไม่มีวันดึงคนอื่นให้ต่ำลงไปพร้อมกับตัวเองเด็ดขาดเฉินมู่ปิดวิดีโอ พลางมองไปที่คุณนายจาง “คุณนายจาง คุณกำลังมองหาประธานจางอยู่ใช่ไหมคะ? ตอนนี้เขากำลังอยู่ที่สถานีตำรวจ เพื่อนของฉันช่วยฉันไว้ แล้วเรียกตำรวจมา คุณสามารถไปหาเขาที่นั่นได้”คุณนายจางตกตะลึง เธอทรมานมาเป็นเวลานานเพราะเรื่องของสามี เฉินมู่จะตกเป็นผู้เคราะห์ร้ายได้ที่ไหนกัน? เธอคนนี้ไม่มีสิ่งที่บอกว่ายั่วยวนสามีเธอเลยแม้แต่น้อย!เธอจึงรีบโทรศัพท์หาที่บ้าน แล้วพรวดพราดออกจากงานเลี้ยงไปในพริบตาเฉินชิงเสวี่ย ปาดน้ำตาสะอื้นไห้“พี่คะ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ฉันคิดมาเสมอว่าพี่ทำ…และนั่นคือเหตุผลที่ฉันพยายามปกปิดมัน ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ฉันกับซีเจ๋อจะช่วยกันฟ้องร้องห้องทำงานนั่นให้พี่เอง! แล้วก็ประธานจางด้วย!”เฉินชิงเสวี่ยกำลังร้องไห้เพื่อให้คนอื่นรู้สึกสงสาร อีกฝ่ายแสร้งทุกข์ใจเรื่องพี่สาวและหวาดกลัว อย่างก

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 25

    “ถอนหมั้น?” เซินมู่เลิกคิ้วขึ้นถาม “มีเพียงของที่คุณภาพดีเท่านั้นที่ฉันอยากได้คืน จะบอกให้เอาบุญนะ สำหรับเราสองคน ฉันเปรียบเสมือนหัวหน้า และเขาคือผู้ลูกน้องที่ไม่มีประโยนช์ เธอคิดว่าเขามีคุณสมบัติอะไรเหรอที่จะถอนหมั้นฉันได้?”เฉินมู่หันไปมองคุณปู่พลันเหยียดหลังให้ตรง ร่างบางยื่นนิ่งไม่ถ่อมตัวหากไม่ได้เอาแต่ใจเช่นกัน “คุณปู่คะ ไหนไหนท่านก็มาแล้ว ได้โปรดให้หนูตัดสินใจเรื่องที่ถอนหมั้นด้วยค่ะ แล้วหนูจะไม่ค้านความคิดเห็นอื่นเลย!”“ขอแค่ไม่ใช่ตระกูลลู่ที่จะถอนหมั้น แต่เป็นตระกูลเฉินของเราต่างหากที่กำลังจะถอนหมั้น วันนี้ฉันเฉินมู่ จะประกาศให้รู้อย่างเป็นทางการว่า ฉันขอถอนหมั้นกับลู่ซีเจ๋อ!”“คุณกำลังพูดเรื่องอะไรเนี่ย?” ยังไม่ทันที่ลู่ซีเจ๋อจะได้จัดแจงเรื่องของเฉินชิงเสวี่ยเมื่อครู่ ชายหนุ่มกลับต้องชะงักเมื่อได้ยินสิ่งที่เฉินมู่พูดออกมา!ดวงตาของเขาเบิกกว้าง “จะถอนหมั้นงั้นเหรอ? แล้วคุณมีหลักฐานฟ้องร้องหรือไง?”เฉินมู่ไม่ได้มองที่ลู่ซีเจ๋อด้วยซ้ำ เธอแค่มองไปที่คุณปู่ แล้วพูดว่า “ลู่ซีเจ๋อตัดสินผู้คนจากรูปลักษณ์ภายนอกของพวกเขา หนำซ้ำยังเป็นฝ่ายไม่รักษาสัญญาการแต่งงานในครั้งนี้ อีกอย่างตอ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 26

    ท่าทางของเฉินมู่ในปัจจุบันไม่ได้ด้อยกว่าแม่ของเธอที่เสียชีวิตไปตั้งแต่ยังเด็กเลย บางทีเฉินมู่อาจเป็นลูกที่ดีที่สุดของตระกูลเฉินก็ได้ เขาจะเธอรีบออกจากบ้านไปได้ยังไงกันล่ะ?เฉินมู่ยิ้ม “คุณปู่เป็นคนตัดสินใจเองเถอะค่ะ”“เสี่ยวมู่ มานี่ กลับบ้านกับปู่ ปล่อยให้ทั้งคู่จัดการเรื่องเลอะเทอะนี่ไปเถอะ!” คุณปู่พูดอย่างหงุดหงิดเฉินมู่ไม่ได้ปฏิเสธ เธอเดินไปหาคุณปู่ แต่ทันทีที่ผ่านหน้าเฉินชิงเสวี่ย เฉินมู่ก็ยิ้มเยาะเล็กน้อย “จะประกาศสงครามไม่ใช่เหรอ? วันเกิดนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น! แกพอใจกับมันไหม?”เฉินชิงเสวี่ยตัวสั่นจนควบคุมไม่ได้ ขาของหล่อนอ่อนแรงลง และเกือบจะล้มลงกับพื้นคืนนี้คนที่ต้องถูกทำลายควรจะเป็นเฉินมู่ แต่ตอนนี้ทุกคนกำลังชี้เป้าไปที่เฉินชิงเสวี่ยเธอแพ้ และแพ้อย่างไม่น่าให้อภัยด้วย!ลู่ซีเจ๋อมองไปที่แผ่นหลังของเฉินมู่ที่มีผมยาวสยายถึงเอว อีกทั้งยังมีรูปร่างผอมเพรียว แต่เธอได้แสดงออร่าที่กล้าหาญและเฉียบขาดออกมาให้พวกเขาได้เห็นแล้วตั้งแต่เมื่อไรกัน เฉินมู่ไม่ใช่เด็กกำพร้าแม่ที่แสนโด่ดเดี่ยวอีกต่อไป เธอทั้งมีความภูมิใจ มีอำนาจ และยังมีเสน่ห์จนน่าอิจฉามีเสน่ห์เหรอ? ลู่ซีเ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 27

    ทันทีที่เฉินมู่พูดจบ ไม้เท้าของคุณปู่ก็กระแทกกับพื้นอย่างแรง“เธอกำลังจะหมั้นอยู่แล้ว! ยังจะใช้ความอายุน้อยของเธอเป็นข้ออ้างอีก เพราะความประพฤติผิดของเธอ ยังคิดเพ้อเจ้อที่จะแต่งงานกับตระกูลลู่อีก! แล้วยังคิดที่จะเข้าวงการบันเทิงตามชิงโหรวงั้นเหรอ! หน้าฉันคงไม่เหลือที่ว่างให้อับอายแล้ว!”“พ่อครับ ชิงเสวี่ยเธอ…” เฉินลี้ซานคงต้องการพูดอะไรบางอย่างกับลูกสาวตัวน้อยของเขา“หุบปาก!” คุณปู่ดุ “ถ้าเธอไม่เอาแต่ใจจนเคยตัว เธอจะคิดแผนที่ชั่วร้ายแบบนี้ออกมาได้ไหม?”“ระหว่างพี่น้อง แค่มีปัญหาเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มันก็พอฟัง แต่นี่เธอต้องการทำลายความบริสุทธิ์ของพี่สาวตัวเองจริง ๆ! หักเงินค่าขนมของเธอซะ เธอจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกในช่วงวันหยุดนี้ จงพิจารณาตัวเองอยู่ที่บ้าน! ถ้าสร้างปัญหาอีก ก็ให้ส่งเธอไปเรียนต่อต่างประเทศเลย แล้วคืนนี้ก็ไปคุกเข่าสำนึกผิดที่ห้องโถงบรรพบุรุษด้วย!”เฉินชิงเสวี่ยร้องไห้โฮ เมื่อปู่พูดออกมาแบบนี้ เธอจึงต้องไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษและคุกเข่าสำนึกผิด ซู่หรูหลานรู้สึกเสียใจต่อลูกสาวของเธอ ดังนั้นเธอจึงไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษด้วยเฉินลี้ซานนั่งบนโซฟา พลางถามอย่างไม่พอใจ

Bab terbaru

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 255

    ฮั่วหยุนเซียวไม่รู้ว่าควรจะสงสารสาวน้อยตรงหน้าดี หรือควรจะภูมิใจในความหนักแน่นในสถานการณ์ที่อันตรายของเธอดีเขายกมือพร้อมขมวดคิ้ว “ฮานเฉิง จัดการให้เรียบร้อย”“ครับ บอส”ฮานเฉิงยกโทรศัพย์อยู่หลายสาย และแล้วนักข่าวที่สมควรจะอยู่ที่นี่ต่อ กลับแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเฉิงหยวนกระพริบตา “ทำไมพวกเขาไปกันหมดแล้วล่ะ?”เมื่อฝูงชนสลายตัว สายตาเฉินมู่ก็สะดุดเข้ากับรถเบนท์ลีย์หรูที่จอดอยู่ข้างทาง“ปีศาจร้ายปรากฎตัวแล้ว” เธอกล่าวเฉิงหยวนถือถุงขนมของตัวเองตามไปและถามต่อ “อะไรนะ?”เฉินมู่ช่วยถือของในมือเธอ แล้วพูดว่า “ฉันจะไปส่งเธอที่บ้านก่อนแล้วกัน”ใต้แสงแดดอบอุ่นในฤดูหนาว สองสาวพูดคุยถึงเรื่องในอนาคต และรถหรูระดับโลกอย่างเบนท์ลีย์คันนั้นก็ขับตามหลังมาอย่างช้า ๆฮานเฉิงถามอย่างสุขุม “บอสครับ พวกเราจะขับช้าขนาดนี้จริงเหรอครับ?”ฮั่วหยุนเซียวมองแผ่นหลังหญิงสาวตรงหน้าอย่างสนใจ แล้วพยักหน้า “ขับช้ากว่านี้”ฮานเฉิง “...”เมื่อเดินมาถึงใต้อาคาร เฉินมู่ก็พูดว่า “คุณไปเก็บของให้เรียบร้อยแล้วเราไปโรงพยาบาลกัน”เฉิงหยวนปัดมือไปมา “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน พวกเขาแค่ขว้างปาผักมาขู่ฉัน

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 254

    เธอลงจากรถแล้วเห็นเฉิงหยวนที่ถูกฝูงชนล้อมเอาไว้ เหมือนแมวที่กำลังตื่นตระหนกตกใจ และไม่มีที่ซ่อนตัวเธอวิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไป แล้วดึงเฉิงหยวนเข้ามายังอ้อมอก พร้อมถามอย่างกังวลว่า “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”เมื่อเฉิงหยวนเห็นเฉินมู่ ก็ถึงกลับปล่อยโฮออกมาเธอยื่นมือไปปัดเศษผักบนตัวของเฉินมู่ออกให้ พร้อมส่ายหัว “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”เฉินมู่ประคองเธอให้ลุกขึ้น และแล้วไข่ไก่ฟองหนึ่งก็ลอยมา แต่เฉินมู่ยกมือขึ้นรับไว้ได้อย่างแม่นยํา“แกร๊ก” ไข่ไก่ในมือถูกบดขยี้จนแหลก และไข่ไก่เหลว ๆ ก็ไหลลงมาตามข้อมือของเธอ แววตาอันโหดเหี้ยมของเฉินมู่ทำให้ฝูงชนและนักข่าวต่างค่อย ๆ สงบลงเธอพูดกับหน้ากล้องที่ใกล้ที่สุด ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “จรรยาบรรณของนักข่าวคือการนำเสนอความเป็นจริง หวังว่าสื่อมวลชนทุกคนจะตระหนักข้อนี้ไว้หน่อย”พลันมีเสียงดังมาจากด้านหลัง “ความจริงก็คือเฉิงหยวนเป็นมือที่สาม! คนทั้งโลกต่างก็รู้เรื่องนี้!”“ใช่ ๆ คุณเป็นใคร! ทำไมถึงได้แก้ตัวแทนเฉิงหยวน!”เฉินมู่ตอบอย่างเยือกเย็น “เธอไม่ใช่มือที่สาม หวังว่าหลังจากวันที่ความจริงกระจ่างแล้ว ทุกคนในที่นี้ต้องขอโทษต่อการกระทำที่ทำต่อเฉิงหยวน”จ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 253

    เฉินมู่ซบอยู่ในอ้อมกอดลู่ซีเจ๋อพร้อมเช็ดน้ำตาด้วยท่าทีน้อยใจ “พี่คะ พี่เชื่อฉันสักครั้งเถอะ…”ลู่ซีเจ๋อหมดความอดทนกับเฉินมู่อย่างสิ้นเชิง เขาตะโกนอย่างเหลืออดว่า “ออกไป! ไสหัวออกไป!”เฉินมู่มองท่าทีที่ปวดใจของลู่ซีเจ๋อ แล้วถอนหายใจ “ลู่ซีเจ๋อ คุณ…”ลู่ซีเจ๋อมองหน้าเธอด้วยความโกรธเคืองเฉินมู่จึงได้เงียบลง พลางคิดว่าทำไมต้องปริปากพูดคำนี้ทั้ง ๆ ที่่ก่อนหน้านี้เธองัดหลักฐานเป็นร้อย ๆ อย่างเพื่อให้เห็นถึงจิตใจอันโหดเหี้ยมของเฉินชิงเสวี่ย แต่ลู่ซีเจ๋อก็มองไม่เห็นเธอจะเกลี้ยกล่อมเขาอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ แถมยังต้องถูกเฉินชิงเสวี่ยตอกกลับว่าเธออิจฉา“คุณคิดจะพูดอะไรอีก?” ลู่ซีเจ๋อมองเธอด้วยโกรธเคืองเฉินมู่ส่ายหัว “ไม่มีอะไรแล้ว แต่มีอะไรอยากจะบอกคู่หมั้นสุดที่รักของคุณหน่อย”เฉินชิงเสวี่ยมองเฉินมู่ด้วยสายตาที่หวาดกลัว “พี่มีอะไรอยากให้ฉันช่วยคะ...”เฉินมู่หัวเราะ แล้วพูดว่า “รบกวนเธอฝากบอกซุยซินยี่กับเฉินชิงโหรวด้วยนะ ว่าเฉิงหยวนจะกลับเข้าสู่วงการบันเทิงเร็ว ๆ นี้”เฉินชิงเสวี่ยจ้องมองเฉินมู่อย่างปวดใจ พลันเอ่ย “พี่คะ เฉิงหยวนเป็นมือที่สาม ทำไมพี่ยังจะคบหากับคนแบบนั้นอยู่อีก?”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 252

    แผลเป็นที่หน้าเกลียดน่ากลัวเหมือนตัวหนอนเกาะอยู่บนใบหน้า แถมยังมีรอยแดง ๆ อยู่รอบ ๆ เฉินชิงเสวี่ยถอนหายใจอย่างโล่งใจ แผลเป็นยังอยู่!ตอนที่กำลังลองชุดคราวก่อน เธอได้ข่าวว่าเฉินมู่กำลังรักษารอยแผลพวกนี้ มันทำเธอทุรนทุรายไปหลายวันเธอกลัวว่าเฉินมู่จะรักษาร่อยรอยแผลบนใบหน้าจนหายดี เพราะหากใบหน้านี้หายดีแล้ว มันจะกลับมาทำให้ชาวเมืองปินไห่ตกตะลึงอีกครั้ง เฉินชิงเสวี่ยหัวเราะอย่างโล่งใจ แถมยังเย้ยหยันเฉินมู่ต่อว่า “ได้ยินว่าเธอไปรักษาใบหน้า ทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่ล่ะ?”เธอชี้ไปยังใบหน้าของเฉินมู่ พร้อมหัวเราะเยาะเย้ย “เธอดูไม่ออกเหรอว่ามันอาการหนักกว่าเมื่อก่อนอีกน่ะ?”“เฉินมู่ อย่าพยายามต่อไปเลย หน้าของเธอยังไงก็รักษาไม่หายหรอก เธอต้องแบกหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลแบบนี้ไปตลอดชีวิต เธอจะถูกผู้คนหัวเราะเยาะตลอดเวลา และถูกทอดทิ้งตลอดไป”เฉินมู่ง้างมือขึ้นแล้วกระแทกไปที่ใบหน้าของคนเจ็บอย่างแรง ใบหน้าของเฉินชิงเสวี่ยหันไปตามเสียงดัง “เพี๊ยะ”เฉินชิงเสวี่ยโดนตบจนโกรธมาก เธอจ้องมองเฉินมู่ด้วยความเคียดแค้น “สมควร ใครให้เธออยู่เป็นหนามยอกอกในตระกูลเฉิน เธอควรตายไปพร้อมกับแม่ของเธอตั้งนานแล้ว!”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 251

    “นี่คุณ!” ลู่ซีเจ๋อถูกเฉินมู่ปั่นหัวจนออกอาการโกรธอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่เคยเจอผู้หญิงที่ทั้งป่าเถื่อนและชั่วร้ายอย่างเธอมาก่อนเฉินชิงเสวี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอีกครั้ง “ไม่เป็นไรหรอก พี่สาวก็แค่ล้อเล่น คุณไปเถอะ”เฉินชิงเสวี่ยออดอ้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอยากจะทานของหวานหน้าโรงพยาบาล ลู่ซีเจ๋อจึงได้แต่ทำตามคู่หมั้น แต่ก่อนเดินออกจากห้องก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่เฉินมู่อีกหนึ่งทีทันทีที่เขาเดินออกไป เฉินมู่ก็ขมวดคิ้วมองไปทางร่างบนเตียงอย่างเร็ว “เหลือเราแค่สองคนแล้ว มีอะไรอยากพูดไม่ใช่เหรอ?”ครั้งแรกเฉินลี่ซานสั่งให้เธอมาที่นี่ ครั้งที่สองลู่ซีเจ๋อก็พาเธอมาด้วยตัวเองอีกหนึ่งครั้ง เฉินชิงเสวี่ยเป็นคนวางแผนทั้งหมดให้เฉินมู่มาที่นี่ ไม่รู้ว่าเธอจะมีแผนการอะไรอีกเฉินชิงเสวี่ยเปลี่ยนสีหน้าในทันที ใบหน้าอ่อนหวานเมื่อสักครู่หายไปอย่างไร้ร่องรอยเธอมองหน้าเฉินมู่อย่างหงุดหงิด พร้อมพูดว่า “เธออย่ายุ่งเรื่องของตระกูลซุย!”เฉินมู่หัวเราะ ก่อนถามว่า “ทำไมเหรอ? ตระกูลซุยทำไมเหรอ?”เฉินชิงเสวี่ยพูดตรง ๆ ว่า “ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดี ตระกูลซุยกับตระกูลเราทำธุรกิจร่วมกันมา ถ้าเธอทำงานแต่งซินยี่

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 250

    เฉินมู่ยักไหล่เล็กน้อย “ถึงฉันจะทำร้ายเธอจนตาย ฉันก็จะไม่รู้สึกผิด”ลู่ซีเจ๋อขมวดคิ้ว “เฉินมู่ คุณทำร้ายเสวี่ยเอ๋อถึงขั้นนั้น เธอยังไม่ถือโทษโกรธ แค่บอกให้คุณอย่าเข้าไปยุ่งกับตระกูลซุย แค่คุณไปเยี่ยมเธอบ้าง มันยากนักหรือไง?”เธอหัวเราะเยาะเล็กน้อย “แค่เธอบอกว่าไม่ถือโทษโกรธฉัน คุณก็เชื่อเหรอ? ลู่ซีเจ๋อ ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าในสมองคุณมันมีรอยหยักบ้างไหม”ลู่ซีเจ๋ออึ้งไปสักพัก เขาไม่ใช่คนที่ทะเลาะวิวาทกับใครบ่อย ๆ ร่างสูงลากเฉินมู่ไปเรื่อย ๆ แล้วพูดว่า “ไปโรงพยาบาลกับผม!”ช่วงเวลาเลิกเรียนนักศึกษาทุกคนเดินลงจากอาคาร ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาตรงนั้น และแล้วทั้งสองก็เริ่มตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนเฉินมู่ไม่อยากตกเป็นประเด็นของคนทั้งมหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้ จึงสะบัดมือออกอย่างจำใจและตอบว่า “ปล่อย ฉันเดินเองได้”ลู่ซีเจ๋อปล่อยมือเธอ เฉินหยวนจึงรีบวิ่งมาดึงแขนเฉินมู่ไว้ “ฉันไปเป็นเพื่อนนะ”เฉินมู่แตะมือเธอเบา ๆ “ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรหรอก เธอกลับหอพักไปก่อนเถอะ”เฉินหยวนพูดด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง “งั้นเธอต้องระวังตัวนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต้องรีบโทรหาฉันนะ หรือไม่ก็… โทรหาตัวรวจเลย!”เฉินหยวนหัวเ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 249

    เช้าวันถัดมา เฉินมู่ไปมหาวิทยาลัยตามปกติเรื่องของเฉิงหยวนยังเป็นที่กล่าวถึงบนโลกโซเชียล ซุยซินยี่ยอมจ่ายให้กับคอมเมนท์พวกนี้ไม่น้อยเลยจริง ๆแต่เฉินมู่ยังต้องกลับไปเรียน ถึงแม้ว่าชาวเน็ตจะยังพากันด่าทอดาราในสังกัดของเธอก็ตามทันทีที่เดินเข้าห้องเรียน เฉินหยวนก็โบกมือเรียก “เฉินมู่ ฉันจองที่ตรงนี้ไว้ให้เธอ”เฉินมู่สาวเท้าเข้าไปพร้อมกระเป๋านักเรียน พลางเผยยิ้มกว้าง “ขอบคุณนะ”จางหยางที่นั่งโต๊ะด้านหน้าก็ยื่นกาแฟกับพร้อมแซนด์วิชให้ “อาหารเช้าของเธอ”เฉินมู่พูดด้วยความปลาบปลื้มใจ “ทำไมพวกเธอดีกับฉันจังเลย?”จางหยางส่ายหัวอย่างเคอะเขิน แล้วตอบว่า “แต่ก่อนฉันไม่ค่อยเป็นมิตรกับเธอ เพราะฉะนั้นตอนนี้ฉันจะแก้ตัว” ตั้งแต่ที่เธอทำให้ผู้คนเกิดความประทับใจในคืนงานเลี้ยงปีใหม่ ทุกคนในชั้นเรียนก็หันมาดีกับเธอเฉินหยวนรีบวิ่งเข้ามาซุบซิบ “เธอเห็นหรือยังว่าข่าวเฉิงหยวนในเน็ตกลับมาฉาวอีกแล้วนะ?”เฉินมู่รับอาหารเข้ากัดไปหนึ่งคำ ก่อนพยักหน้าตอบ “เห็นแล้ว”เฉินหยวนรีบโต้ตอบทันที “เฉินมู่ ฉันเห็นเธอสนิทกับหล่อน หล่อนไม่ใช่คนดีนะ!”เฉินมู่หัวเราะ ก่อนตอบว่า “หล่อนเป็นคนดีมาก แล้วต่อไปเธอจะรู้เอง

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 248

    แค่คําเดียว ทำให้มุมปากของฮั่วหยุนเซียวกระตุกยกโค้งราวไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มไว้ได้เขาแตะมือไปที่ใบหน้าของเฉินมู่ พลางเรียกอย่างอ่อนโยนว่า “มู่มู่”เฉินมู่ลุกขึ้นนั่งอย่างสะลึมสะลือ แล้วถาม “คุณกลับมาแล้วเหรอคะ ตอนนี้กี่โมงแล้ว แล้วคุณทานข้าวหรือยัง?”แม้ว่าเธอไม่ได้งดงามเหมือนเหล่าคนมีชื่อเสียง แต่ก็แฝงด้วยความอ่อนหวานอยู่บ้างฮั่วหยุนเซียวไม่เคยรู้สึกว่า คําว่าเฉินมู่คํานี้จะอบอุ่นและน่าหลงใหลเช่นนี้มาก่อนหญิงสาวที่เขาสนใจนอนอยู่บนโซฟาด้วยท่าทีกำลังงัวเงียผมเผ้ายุ่งเหยิงสามคำถามต่อเนื่องนั้นดึงเขาออกจากภวังค์และเข้าสู่ความเป็นจริง แต่เขาไม่มีทางเลือก และทำตามอย่างเต็มใจเฉินมู่อยู่ในอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น ดวงตาค่อย ๆ ปิดลงอีกครั้ง ช่วงนี้เธอพักผ่อนไม่เพียงพอ ถ้าอยู่ในความสงบเมื่อไหร่เธอพร้อมจะหลับทันที“อืม…” จู่ ๆ ความเย็นก็เข้ามากระทบริมฝีปาก สมองเฉินมู่รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันทีสมองของเธอเริ่มประมวลผล พลันฝืนลืมตาขึ้น และเลียริมฝีปากตามสัญชาตญาณเธอมองเข้าไปในสายตาลึกลับของชายตรงหน้า ก่อนถามอย่างงุนงงว่า “อะไรเหรอ?”ปลายลิ้นของฮั่วหยุนเซียวไล่เลียตรงริมฝีปากล่างของตน รา

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 247

    เมื่อทุกคนออกไป เฉิงหยวนก็ยังคงเกาะแขนของเฉินมู่ด้วยร่างกายอันสั่นอยู่อย่างนั้นเฉินมู่แตะมือเธอ พร้อมปลอบใจว่า “ไม่เป็นไรนะ ฉันจะคอยปกป้องคุณเอง”เฉิงหยวนพยักหน้า “ฉันเชื่อคุณ แต่ฉันไม่เข้าใจ ทำไมคนร้ายแบบพวกนั้น ถึงได้กล้ากล่าวหาเหยื่อแบบนี้”ผู้อำนวยการหยางวิ่งเข้ามาถามอย่างรีบร้อน “ผู้อำนวยการเฉินบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ? ผมพยายามห้ามคุณหนูซุยแล้ว แต่…”เฉินมู่ปัดมือไปมา พลางบอก “ไม่เป็นไรค่ะ ผู้อำนวยการหยางไม่ต้องกังวล นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเรา”เธอมองร่องรอยความเสียหายของข้าวของบนพื้น แล้วพูดต่อ “พวกเธอทำอะไรเสียหายบ้าง ลิสต์ให้ฉันด้วยนะ”ผู้อำนวยการหยางรีบยกปัดไม้ปัดมือปฎิเสธอย่างเร็ว “ไม่ได้ ๆ จะให้ผู้อำนวยการเฉินชดใช้ได้อย่างไร?” เฉินมู่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ใครบอกว่าฉันจะเป็นคนชดใช้ค่าเสียหาย? คุณหยางจัดการลิสต์รายการของที่เสียหายมาก็พอค่ะ”ผู้อำนวยการหยางก็ไม่รู้ว่าเฉินมู่คิดจะมาไม้ไหน จึงทำได้เพียงทำตามคำสั่งเท่านั้นเฉิงหยวนกระแอมเล็กน้อย แล้วถามด้วยความระมัดระวังว่า “คงไม่ใช่ให้ฉันชดใช้ค่าเสียหายหรอกนะ?”“หึหึ” เฉินมู่ยิ้ม “ไม่ใช่ คนที่ลงมือทำลายข้าวของต่าง

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status