สีหน้าของสวี่เนี่ยนชูเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างเห็นได้ชัดมือของเธอสั่นเพราะความลนลาน จึงพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว“……ไม่ใช่ซะหน่อย”ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงเดาได้แม่นขนาดนี้?เธอยังไม่ได้ไปซื้อด้ายขนสัตว์เลย"ฮ่าฮ่า"หลินโจวยิ้ม หยิบถุงถักทอที่สวยงามถุงหนึ่งออกมาจากในโต๊ะ และยัดมันไว้ในอ้อมแขนของเธอ:“อ่ะให้ เตรียมไว้ให้เธอหมดแล้ว ถักดีๆล่ะ”บริเวณรอบมีผู้คนสัญจรไปมา ด้ายขนสัตว์ที่อยู่ข้างในแทบจะทะลักออกมาแล้วสวี่เนี่ยนชูรีบเอาหนังสือบังถุงเอาไว้:“รู้ รู้แล้ว”หลิวซื่อหมิงที่อยู่ข้างๆมีใบหน้าที่งุนงง:“เกิดอะไรขึ้น? ทั้งสองคนคุยอะไรกันอยู่เหรอ?ทำไมฉันถึงไม่เข้าใจเลยสักนิด”ในเวลานี้ เฉียนกั๋วกั่วก็รีบวิ่งมาจากด้านหน้า และขัดจังหวะการสงสัยของหลิวซื่อหมิง“พวกนายยังไม่ไปกันอีกเหรอ?ดีเหลือเกิน!”เธอรีบหยิบถุงขนมขนาดใหญ่ถุงหนึ่งออกมาจากกระเป๋า และแจกถุงใบเล็กให้แต่ละคน"การสอบในครั้งนี้ก้าวหน้ามาก แม่ของฉันให้ฉันมาขอบคุณพวกนาย รับเอาไป ไม่ต้องเกรงใจ "ตอนที่ส่งมันไปให้สวี่เนี่ยนชู เธอก็พบว่าสวี่เนี่ยนชูมองดูเธออย่างงุนงง และไม่ได้รับเอาไว้เฉียนกั๋วกั่วรู้สึกร้อนใจเล็กน้อย เธอหันศีรษะ
"....."เงินของผมถูกพี่ปล้นไปหมดแล้ว...ไม่ใช่สิ ถูกพี่ยืมไปแล้ว?แม้ว่าจะพร่ำบ่นแบบนี้ แต่หลิวซื่อหมิงก็ไม่ปฏิเสธและยอมรับเงื่อนไขของหลินโจวจอมเผด็จการอย่างมีความสุขหลินโจวเดินไปร้านโฆษณาที่อยู่ด้านข้าง และปรินต์ป้ายโฆษณาอันหนึ่งออกมาอย่างรวดเร็ว"ผลไม้ตักตระกูลหลิน ซื้อหนึ่งแถมลูกโป่งหนึ่งลูก ซื้อมากแถมมาก"เมื่อจัดเก็บทุกอย่างเสร็จแล้ว หลิวซื่อหมิงก็เป่าลูกโป่งไปแล้วยี่สิบกว่าลูกหลินโจวมัดลูกโป่งเอาไว้ด้วยกันอย่างพึงพอใจ แขวนไว้หน้าร้านแผงลอยของตนเอง และปรบมือ:“อืม ดูไปแล้วไม่เลวเลย งั้นก็เริ่มขายกันเถอะ!”ราคาผลไม้ ปี 2004 ไม่แพงนักแอปเปิ้ลและส้มเหล่านี้ห้าร้อยกรัมราคาเพียงห้าบาทเท่านั้นกล้วยและแก้วมังกรจะมีราคาแพงกว่าเล็กน้อยหลินโจวตั้งราคาผลไม้ตักไว้ที่สามสิบห้าบาทต่อห้าร้อยกรัม ต้นทุนของลูกโป่งหนึ่งลูกก็แค่ไม่กี่สตางค์เท่านั้น ดังนั้นจึงมั่นใจว่าจะได้กำไรและไม่ขาดทุนอย่างแน่นอนเมืองเจียงมีสถานที่เที่ยวเล่นไม่มากนักไทม์สแควร์เป็นอีกที่หนึ่ง ที่รายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ตรงไทม์สแควร์ยังมีเครื่องเล่นเล็กๆที่เด็กๆชื่นชอบมากมาย เช่น ม้าหมุน รถบั๊มเป็น
หลินโจวกลอกตาใส่หลิวซื่อหมิง“นายคิดว่าว่าฉันมีเวลาไปไหม?”“……ดูเหมือนว่าจะไม่มีเวลาจริงๆ”เรื่องนี้ หลิวซื่อหมิงไม่ได้ปฏิเสธ“นายไปเองเถอะ ฉันขายเสร็จแล้วจะต้องไปหาเพื่อนร่วมโต๊ะตัวน้อย”รับปากไว้แล้วว่าจะออกไปเที่ยวกับเธอ ก็จะต้องทำให้ได้หลังจากที่ยุ่งมาทั้งอาทิตย์ ตอนบ่ายก็ควรจะให้ตนเองได้ผักผ่อนบ้าง!“ก็ได้ พี่โจวงั้นผมไปแล้วนะ ถ้าพี่มีเรื่องอะไรเรียกผมได้เลย ตอนบ่ายพอร้องเพลงเสร็จแล้วผมจะมาช่วยพี่”ท้ายที่สุดแล้วหลิวซื่อหมิงก็ยังเป็นเด็กอยู่ จึงรักความสนุกสนานมากกว่าการหาเงิน"อืม"หลังจากที่หลิวซื่อหมิงจากไป หลินโจวก็มองไปรอบๆก็พบว่าเถ้าแก่ยังคงป้วนเปี้ยนอยู่ข้างๆตนเองหลินโจวมองไปที่เธอ:“เถ้าแก่ใช่ไหม?”“เอ่อใช่ใช่ใช่ พ่อหนุ่ม ฉันชื่อหลิวลี่”ปีนี้หลิวลี่อายุสามสิบปีแล้ว และมีลูกสองคนเมื่อมองไปที่หลินโจว ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รู้สึกเขินอายเล็กน้อย“อืม พี่หลิว ผมเห็นว่าพี่กำลังมองมาที่นี่ตลอด พี่สนใจในสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่หรือ?”พอถูกเดาความคิดได้อย่างทะลุปรุโปร่ง หลิวลี่ก็รู้สึกเคอะเขินมากยิ่งขึ้นบรรดาผู้ที่ประกอบธุรกิจขนาดเล็กเหล่านี้ มักจะกลัวคนอื่นที่รู้ส
"ได้เลย!"“คณะกรรมการการศึกษา มีนายอยู่ สุดยอดมาก!”“อีกสักพักจะต้องตั้งใจสนทนากับดาวโรงเรียนให้ดีๆ”พอฟ่านอวิ๋นเจ๋อถูกชมก็ดีใจเป็นอย่างมาก“นี่เป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ดีมาก ทุกคนจะต้องคว้ามันเอาไว้ให้ได้!”หวังจื่อเฉินที่อยู่ข้างๆก็สามารถเข้าใจได้ในทันที:"ใช่แล้ว พวกเราจะเลียนแบบหลินโจวไม่ได้นะ สอบได้คะแนนดีขึ้นมาหน่อยก็หลงตัวเองแล้ว ออกไปค้าขายทุกวัน ครั้งที่แล้วยังบอกว่าตนเองหาเงินได้วันละห้าพันบาท?เหอะ ถ้าเขาสามารถหาเงินได้ห้าพันบาท ฉันจะยืนกลับหัวกินอึเลย! "แม้ว่าครั้งที่แล้วพวกเขาจะเห็นคนมาเรียกหลินโจว แต่พวกเขายังไม่เคยเห็นธุรกิจของหลินโจวเลยพอมานึกได้ในภายหลัง ก็มักจะรู้สึกว่าหลินโจวไปหาคนมาแสดงให้พวกเขาดู“ใช่แล้วใช่แล้ว แค่นักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่งทำธุรกิจอะไรกัน!”“จะต้องพูดไปเรื่อยเปื่อยแน่ๆ! ฟ่านอวิ๋นเจ๋อ นายไม่ต้องกังวล พวกเราจะตั้งใจเรียนอย่างแน่นอน”ฟ่านอวิ๋นเจ๋อพอใจกับสถานการณ์แบบนี้มากเขาหันกลับมา แล้วมองไปที่อวิ๋นรั่วซีอย่างดีใจ:“รั่วซี”สายตาของอวิ๋นรั่วซีกลับมองไปที่ประตูอยู่ตลอดเวลาเธออยากจะไปหาหลินโจวเหตุผลที่รับปากฟ่านอวิ๋นเจ๋อว่
“หาใครนะ?หลินโจว?”โจวซานซานตะลึงงันหวังจื่อเฉินที่อยู่ด้านหลังก็หัวเราะขึ้นมา:“พวกเราจะกินผลไม้ตัก จะไปหาหลินโจวทำไม?”“นายไม่ได้ยินที่พวกเขาพูดว่าคนเยอะมากเหรอ?พวกเรายังซื้อไม่ได้เลย เรียกเขามาแล้วจะซื้อได้เหรอ?”“ทำไมหลินโจวมีตาเพิ่มขึ้นมาอีกดวงเหรอ? ผู้คนถึงได้ให้ความสำคัญเขาขนาดนี้?”โจวซานซานก็หัวเราะ:“แม้ว่าหลินโจวจะหล่อ แต่หลิวซื่อหมิง นายก็อย่าโอเวอร์ให้มันมากเกินไป”? ? ? ?พวกนายนั่นแหละอย่าโอเวอร์เกินไป?“ผลไม้ตักนั่น พี่โจวของฉันเป็นคนขาย!”"อะไรนะ?""จะเป็นไปได้อย่างไร?"“หลินโจวเป็นคนขายเหรอ?”“หลินโจวทำอันนี้เป็นด้วยเหรอ?ขี้โม้มากกว่า?”“เอาอีกละเอาอีกละ หลิวซื่อหมิงนายไม่อวดเก่งไม่ได้เลยเหรอ?”ฟ่านอวิ๋นเจ๋อและคนอื่นๆต่างก็พากันหัวเราะเห็นได้ชัดว่าอวิ๋นรั่วซีไม่เชื่อเช่นกัน“หลิวซื่อหมิง นั่นเป็นธุรกิจที่มีรายได้หนึ่งหมื่นบาทขึ้นไปต่อวัน หลินโจวจะเปิดร้านได้อย่างไร? หลินโจวสามารถทำธุรกิจเล็กๆได้ก็ไม่เลวแล้ว”“เฮ้อ? พวกนายเนี่ยนะ พูดความจริงกับพวกนายแล้วพวกนายก็ไม่เชื่อ พี่โจวของฉันพูดถูก งานเลี้ยงนี้ไม่ข้าวร่วมก็ไม่เป็นไร”หลิวซื่อหมิงพูดจบแล้ว ก็โ
เพื่อนร่วมชั้นเหล่านี้ไม่ได้กำลังกินข้าวกันอยู่เหรอ? ทำไมถึงได้มากินอยู่ที่นี่แล้วล่ะ?ขณะที่กำลังคิดอยู่ เขาก็เห็นหลิวซื่อหมิงกำลังอธิบายให้เพื่อนๆฟังอย่างหน้าดำคร่ำเครียด:“ฉันบอกว่าเป็นของหลินโจวก็ต้องเป็นของหลินโจวสิ บางทีเขาอาจจะออกไปทำธุระก็ได้ พวกนายมาเห่าอะไรอยู่ที่นี่?”ฟ่านอวิ๋นเจ๋อและหวังจื่อเฉินต่างก็พากันส่ายหัว และกำลังจะพาคนที่อยู่ข้างหลังพวกเขาจากไปแล้วก็เรียกอวิ๋นรั่วซีไปด้วยอวิ๋นรั่วซีมีสีหน้าที่ผิดหวัง จึงทำได้แค่หันหลังกลับ“เฮ้อ? อย่าเพิ่งไปสิ สามารถกินผลไม้ตักได้จริงๆนะ พวกนายเชื่อฉันสิ!”เยี่ยมมากท่าทางอย่างนี้!หลิวซื่อหมิงไปคุยโวโอ้อวดอีกแล้วแน่เลย?ดูเหมือนจะมีความเสี่ยงที่จะคุยโวโอ้อวดล้มเหลวหลินโจวส่ายหัวอย่างจนใจ รีบเดินอ้อมไปที่ข้างหลังพวกเขา แล้วเดินไปที่ร้านแผงลอยแม้ว่าเขาจะไม่ชอบอวดเก่ง แต่ก็ทนไม่ได้ที่จะเห็นน้องชายคู่หูของตนอวดเก่งล้มเหลวไม่อย่างนั้นก็เท่ากับว่าโดนรังแก?มีคนในฝูงชนเห็นเขา“เอ๊ะ?นั่นไม่ใช่หลินโจวเหรอ?”“หลินโจวจริงๆด้วย!”หลินโจวไม่ได้สนใจพวกเขาเลยหลังจากที่เดินไปที่หน้าร้านแผงลอย เขาก็หยิบองุ่นลุกหนึ่งขึ้นมาแล
หลินโจวยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร หันหลังแล้วจากไปแต่ความหมายของเธอชัดเจนมาก หลิวลี่หัวเราะเหอะๆอย่างร่าเริง:“ตอนนี้สาวๆ ต่างก็ชอบกินสิ่งนี้ เถ้าแก่ ฉันว่าการเดทของเถ้าแก่ในครั้งนี้จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน”เพื่อนนักเรียนในห้องต่างก็มีสีหน้าที่งุนงง“หลินโจวมีความรักแล้วเหรอ?”"กับใคร?"“ให้ตายเถอะ มันจะไปเก๋อะไรขนาดนั้น?”“กินผลไม้ตักของนายไป มีของอร่อยเยอะขนาดนี้ยังอุดปากนายไม่ได้เลย!”หลิวซื่อหมิงยื่นผลไม้ตักชุดหนึ่งให้อย่างดุร้าย เพื่อหยุดการซุบซิบนินทาอวิ๋นรั่วซีที่ยืนอยู่ด้านหลังฝูงชน กำมือทั้งสองข้าเอาไว้แน่นหลินโจว……มีความรักแล้ว?เป็นไปได้ยังไง?ไม่!เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!หลินโจวชอบเธอมากขนาดนั้น เขาจะไปหลงรักคนอื่นได้อย่างไร?……โรงเรียนมัธยมปลายหมายเลขหนึ่ง หอพักหญิงหวังเสี่ยวฉิงที่อยู่หอพัก202พบว่า วันนี้สวี่เนี่ยนชูไม่ได้ออกไปไหนทั้งวัน แถมยังไม่ได้นอนกลางวันอีกนั่งอยู่บนเตียงตลอดเวลา มือเหมือนทำอะไรบางอย่างอยู่เนื่องจากหวังเสี่ยวฉิงง่วงจนเกินไป เธอคิดที่จะดูอยู่หลายครั้ง แต่ก็พ่ายแพ้ต่อความง่วงแล้วผล็อยหลับไปอีกครั้งจอนถึงตอนบ่าย เธอตื่นขึ้นมา
หลังจากกัดเบาๆแล้ว สวี่เนี่ยนชูก็มองไปที่หวังเสี่ยวฉิง“เสี่ยวฉิง”"ห๊า?"“เธอชอบกินอะไร?”"ฉันเหรอ?ว้าว สวี่เนี่ยนชู นึกไม่ถึงว่าเธอจะเริ่มคุยกับฉันก่อน น่าอัศจรรย์จริงๆ!"ตั้งแต่สวี่เนี่ยนชูย้ายเข้ามาในหอ เธอพูดน้อยมากปกติแล้วจะเป็นพวกเธอที่ถาม และเธอก็จะเป็นคนตอบแต่ทุกครั้งที่ตอบก็จะได้รับคำตอบแบบดิบๆนี่เป็นครั้งแรกที่เธอถามตนเองหวังเสี่ยวฉิงนั่ง และมองไปที่สวี่เนี่ยนชู:“ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันชอบกินอะไร ฉันน่าจะชอบกินทุกอย่าง”กินทุกอย่าง?นี่เท่ากับว่าไม่ได้พูดอะไรเลย?“อ่อ งั้น……ช่วงนี้มีอะไรที่อยากจะกินไหม?”สวี่เนี่ยนชูตัดสินใจเปลี่ยนคำถามหลินโจวบอกว่า ระหว่างเพื่อนถ้ากินของคนอื่นก็จะต้องรู้จักตอบแทนเธอไม่อยากหาของคืนแบบมั่วๆ“ช่วงนี้?ฉันขอคิดดูก่อนนะ……”หวังเสี่ยวฉิงนอนบนเตียงอีกครั้ง หลังจากคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็พูดด้วยความประหลาดใจว่า:“อ๋อ ฉันนึกออกแล้ว เมื่อกี้เพิ่งได้ยินเพื่อนนักเรียนพูดกันว่า ที่ไทม์สแคว์มีร้านขายผลไม้ตักเปิดใหม่อยู่ร้านหนึ่ง อร่อยมากเลย และก็แปลกใหม่ด้วย”“ผลไม้ตัก?คืออะไรเหรอ?”"ฉัรก็ไม่รู้เหมือนกัน"หวังเสี่ยวฉิงส่ายหัว: "เดิมที
คนทั้งคนตกตะลึง“พี่ พี่โจว?”หลิวซื่อหมิงตบไปที่บนไหล่ของเขา:“ทำบื้ออะไรอยู่?นี่คือน้ำที่พี่โจวซื้อให้นาย ดูนายสิ โง่แล้วยังทำเป็นอวดฉลาดซื้อมาแค่สี่ขวด ทำให้พี่โจวของฉันไม่ได้ดื่มน้ำเลย!”เซี่ยตงชิง:???เขาพบว่า ทุกอย่างในวันนี้ดูเหมือนว่าจะผิดปกติไปเล็กน้อย“แต่ แต่ว่า พวกนายไม่ได้บอกให้ฉันซื้อห้าขวด…”“นายนับหัวคนไม่เป็นเหรอ?ถ้าอย่างนั้นทำไมพี่โจวถึงไม่ให้นายไปห้าสิบบาท แต่ให้นายไปหนึ่งร้อยบาท?”“เป็นอย่างนี้เหรอ?”เซี่ยตงชิงกลืนน้ำลาย และมองหลินโจวอย่างงุนงงหลินโจว……เป็นอะไรไป?“เอาล่ะ อย่ามัวพูดมากอยู่เลย หลิวซื่อหมิงรีบมากวาดพื้นสิ!”“มาแล้ว!”หลิวซื่อหมิงรีบวิ่งไปแถวสุดท้าย หยิบไม้กวาดขึ้นมาและเริ่มกวาดเฉียนกั๋วกั่วก็กล่าวว่า:“ฉันก็จะช่วยด้วย ไม่ต้องเกรงใจ!”สวี่เนี่ยนชูไม่ได้พูดอะไร แต่เดินไปที่แถวสุดท้ายอย่างเงียบๆทั้งสามต่างก็ถือไม้กวาดกัยคนละด้ามเดิมทีหลิวซื่อหมิงตั้งใจจะกวาดแถวที่สอง แต่ถูกเฉียนกั๋วกั่วรั้งเอาไว้“หลิวซื่อหมิง พวกเราจะไปกวาดสองแถวข้างใน!”“ทำไมเหรอ?”หลิวซื่อหมิงรู้สึกไม่ยินยอมเล็กน้อยเฉียนกั๋วกั่วกลอกตาใส่ และชี้ไปทางหลินโจว ห
สามนาทีต่อมาเซี่ยตงชิงเช็ดปาก เคี้ยวข้าวคำสุดท้ายแบบลวกๆ และลุกขึ้นยืน:“ฉันกินเสร็จแล้ว”คนอื่นๆที่ยังกินได้ไม่ถึงครึ่ง :?หลินโจวเงยหน้าขึ้น: “ทำไมนายต้องกินเร็วขนาดนี้ด้วย?”“เดิม เดิมทีฉันเป็นคนกินข้าวเร็วอยู่แล้ว ฉันกลับห้องเรียนก่อนนะ”"เดี๋ยวก่อน"หลินโจวคว้าแขนเสื้อของเขาเอาไว้อีกครั้ง:“จู่ๆก็รู้สึกกระหายน้ำนิดหน่อย ในเมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว ไปซื้อเครื่องดื่มมาให้ทุกคน คนละขวดก็แล้วกัน”ขณะที่พูด หลินโจวก็ควักเงินออกมาจากในกระเป๋า ท่ามกลางสายตาที่ประหลาดใจของเซี่ยตงชิง เขาก็เก็บเงินห้าสิบบาท เอาเงินแบงก์ร้อยออกมา แล้วยัดมันเข้าไปในมือของเซี่ยตงชิง"......"เซี่ยตงชิงมองดูการกระทำของหลินโจวด้วยความสับสน และพูดอย่างร้อนใจว่า:“ฉัน...รอให้พวกนายกินเสร็จก่อนแล้วค่อยไปซื้อเองดีไหม?”“ไม่ได้ จะสำลักตายแล้ว ขอร้องล่ะเพื่อนร่วมชั้นเซี่ย นายช่างเป็นคนดีจริงๆ”คำว่าคนดีทำให้เซี่ยตงชิงยินยอมเขารับเงินพร้อมอุ้มกล่องอาหารแล้ววิ่งไปที่ร้านสะดวกซื้อเล็กๆหลินโจวกล่าวอย่างขบขันว่า:“เอาล่ะ ทุกคนกินต่อเถอะ”คณะกรรมการแรงงานจางจิ่นหงตักข้าวกลับมาเผอิญเห็นภาพเหตุการณ์นี้เข้าเ
มาถึงโรงเรียนตอนหกโมงเช้าของวันรุ่งขึ้นอย่างตรงเวลาหลังจากอ่านหนังสือในตอนเช้าแล้ว หลินโจวก็หยิบกล่องข้าวออกมา และเตรียมจะไปทานข้าวกับเพื่อนร่วมโต๊ะตัวน้อย เฉียนกั๋วกั่ว และหลิวซื่อหมิงแต่กลับถูกจางจิ่นหงสมาชิกคณะกรรมการแรงงานห้ามเอาไว้:“หลินโจว วันนี้กลุ่มนายจะต้องปฏิบัติหน้าที่ นายอย่ามาเล่นลูกไม้นะ หลังจากที่ทานข้าวเสร็จแล้วให้ตั้งใจทำความสะอาดให้ดีๆ อ้อใช่แล้วหวังลี่หยวนที่อยู่ในกลุ่มของพวกนายย้ายไปอยู่กลุ่มอื่นแล้วนะ ส่วนสวี่เนี่ยนชูให้มาอยู่กลุ่มพวกนาย อีกสักพักนายบอกเธอว่าจะต้องทำอะไรบ้าง”ระบบการทำความสะอาดของห้องสองปกติแล้วจะมีกลุ่มละสี่คนคนในกลุ่มของหลินโจว ได้แก่หลิวซื่อหมิง เพื่อนร่วมโต๊ะของหลิวซื่อหมิงเซี่ยตงชิง หวังลี่หยวนและหลินโจวหลินโจวในอดีต พอถึงเวรปฏิบัติหน้าก็จะเลือกที่จะลืม ดีแต่พูดงานไม่ทำหลิวซื่อหมิงก็มักจะเลียนแบบเขาเช่นกันส่งผลให้ มีเพียงแต่หวังลี่หยวนและเซี่ยตงชิงเท่านั้นที่ทำงานในกลุ่มนี้ทั้งสองคนมักจะพร่ำบ่นอยู่เสมอ และขอร้องจางจิ่นหงย้ายตนไปกลุ่มอื่น จางจิ่นหงไม่มีทางเลือก จึงทำได้แค่มาเร่งเร้าเขาด้วยตนเองทุกครั้งถ้าเร่งเร้าไม่ได้จริงๆ ต
ฉินซู่หลานที่กำลังขึ้นไปชั้นบนมองไปที่ฉินอวี่เถียนด้วยความประหลาดใจ“เมื่อก่อนแม่ทำอะไรลูกก็จะกินอันนั้นไม่ใช่เหรอ?”“นั่นมันเมื่อก่อน แต่วันนี้ หนูอยากกินข้าว หนูหิวแล้ว”น้ำเสียงของฉินอวี่เถียนแฝงด้วยความออดอ้อนเล็กน้อย และอดไม่ได้ที่จะแตะท้องของตนเองหิวจริงๆแม้แต่เธอเองก็ยังไม่ทันได้สังเกตว่า ดูเหมือนว่าเธอจะทำตามที่หลินโจวพูด ทีละขั้นตอนเมื่อฉินซู่หลานได้ได้ยินดังนี้ก็รู้สึกเบิกบานใจลูกสาวรู้จักติดแม่แล้ว ดีจริงๆ!“ได้ได้ได้ หนูอยากกินอะไรแม่ก็จะทำอันนั้นให้ ลูกกลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อน ทำเสร็จแล้วเดี๋ยวแม่เรียก”"ค่ะ"เปิดประตูห้องพอฉินอวี่เถียนเข้าไปในห้อง ก็เห็นกระต่ายมาร์ชเมลโลว์บนโซฟาเธออยากจะเอื้อมมือไปสัมผัสมันโดยไม่รู้ตัว แต่พอเอื้อมมือไปได้ครึ่งหนึ่ง ก็หยุดอย่างรวดเร็ว แล้วเดินเข้าไปในห้องฉินอวี่เถียนถอดเสื้อผ้าผู้ชายออก แล้วหยิบเสื้อกล้ามกีฬาขึ้นมา เพื่อใช้เป็นชุดนอนแต่หลังจากที่ครุ่นคิดดูแล้ว จับพลัดจับผลูไม่รู้ยังไง เธอก็มาที่หน้าตู้เสื้อผ้าเปิดประตูตู้เล็กๆที่ถูกล็อคไว้ และหยิบชุดนอนหมีของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆชุดหนึ่งออกมาจากข้างในหลังจากทำท่าต่า
“แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่ทีแรก? ครั้งหน้าถ้ากลับมาดึกให้โทรบอกแม่รู้ไหม หนูกลับบ้านดึกขนาดนี้ แม่เป็นห่วงแทบแย่”น้ำเสียงของฉินซู่หลานอ่อนโยนขึ้น บางครั้งก็ปนกับเสียงสะอื้นไห้เธอยกมือขึ้น แล้วลูบหัวของฉินอวี่เถียนเบา ๆท่าทางที่ใกล้ชิดนี้ ทำให้ฉินอวี่เถียนแสบจมูกเธอพยายามที่จะเติบโตขึ้น พยายามที่แข็งแกร่งขึ้น และใช้วิธีการของตนเองปกป้องแม่อยู่ตลอดเวลาจู่ๆตอนนี้ก็รู้สึกว่า แม่ดูเหมือนว่ากำลังปกป้องตนเองมากกว่า?เธอลูบจมูก:“หนูรู้แล้วค่ะแม่ ครั้งหน้าหนูจะกลับมาให้เร็วกว่านี้”"อืม ดีมาก"หลังจากคุยกับฉินอวี่เถียนแล้ว ฉินซู่หลานก็มองไปที่หลินโจว“เสี่ยวโจว ขอบใจหลานมากนะที่ส่งเสี่ยวเถียนกลับมา คืนนี้หลานพักอยู่ที่นี่ไหม? ป้าจะทำอาหารมื้อดึกให้”“ไม่ต้องครับคุณป้า เห็นท่าทางของป้าแล้วผมก็รู้เลยว่า เฒ่าหลินก็จะต้องรอผมอยู่ที่ประตูบ้านแน่นอน ถ้าผมไม่กลับไป กลัวโดนทุบตีเหมือนกันครับ”ฉินซู่หลานครุ่นคิดดูแล้วมันก็ใช่ลูกคือแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ตลอดไป ไม่ว่าพวกเขาจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม“เอาล่ะ หลานอยากกินอะไรบอกป้ามาได้เลย ป้าทำเสร็จแล้วจะให้เสี่ยวเถียนเอาไปให้”“งั้นก็ ทำลูกชิ้นทอด
“ฉันรู้จักเธอแน่นอน แต่เธอกลายเป็นเทพแห่งการเรียนรู้ได้อย่างไร?”"อันดับที่หนึ่งของทั้งเมืองยังไม่ใช่เทพแห่งการเรียนรู้อีกเหรอ? เธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ในสายวิทยาศาสตร์ ได้อันดับที่หนึ่งของทั้งเมือง เอาชนะผู้ชายได้ตั้งมากมาย ยอดเยี่ยมมากเลย ตอนนี้เธอเป็นไอดอลของฉัน! และจะเป็นแบบอย่างในการเรียนของฉันด้วย!"พอฉินอวี่เถียนพูดถึงสวี่เนี่ยนชู ก็รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากหลินโจวกลืนน้ำลายอย่างเงียบๆ พูดอย่างขบขันว่า:“เถียนเถียน เธอยังไม่รู้จักสวี่เนี่ยนชูใช่ไหม?”ไม่เช่นนั้นเมื่อวานนี้ สวี่เนี่ยนชูคงจะยืนข้างตนเองแล้วแถมยังถูกเธอเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแฟนของตนอีก ทำไมสาวน้อยคนนี้ถึงไม่ปฎิกิริยาอะไรเลยสักนิด“ใช่แล้ว ฉันไม่รู้จัก ทำไมเหรอ! คงจะมีโอกาสได้รู้จักเองแหละ”“ถ้าไม่เป็นอย่างนัั้นแล้วจะยังไง? ฉันจะแนะนำเธอให้รู้จักเอาไหม? ฉันค่อนข้างจะคุ้นเคยกับเธอดี”“พอเหอะ เทพแห่งการเรียนรู้ของฉันจะมารู้จักมักจี่กับนักเรียนเรียนแย่อย่างนายได้อย่างไร? เธอไม่ได้ตาบอกซะหน่อย! นายไม่ต้องใช้เธอมาเพื่อมาตีสนิทกับฉันหรอก”"......"“อีกอย่าง ตอนนี้ผลการเรียนของฉันยังไม่ดีพอ ไม่คู่ควรที่จะยืนอยู่ก
อยากจะหันกลับไปมอง แต่ก็ไม่กล้าฉินอวี่เถียนจึงทำได้แค่เพียงหดคอ และเดินไปข้างหน้าต่อไปใกล้แล้ว ใกล้จะถึงแล้วใกล้จะเดินออกไปแล้วในเวลานี้ ทันใดนั้นฉินอวี่เถียนก็รู้สึกว่าเสื้อผ้าตรงคอของตนเองถูกคนคว้าเอาไว้เค้าโครงเรื่องในหนังผีมาสู่ความเป็นจริงฉินอวี่เถียนแทบจะเป็นบ้า!“อร๊าย~”เธออดไม่ได้ที่จะกรีดร้องขึ้นมาจากนั้นไม่นาน เธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ดังมาจากเหนือศีรษะ"เถียนเถียน"เอิ่ม?นี่คือ……เสียงของหลินโจว?ฉินอวี่เถียนลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นจริงอย่างที่คาดไว้เธอเห็นหลินโจวขี่จักรยาน มองดูเธออย่างขบขัน“ร้องอะไรน่ะ? นั่นก็แค่หนูตัวหนึ่งก็เท่านั้น และมันก็วิ่งหนีไปแล้ว”ฉินอวี่เถียน:“……”“นายนายนาย ทำไมนายถึงอยู่ที่นี่?”“ก็มาส่งเธอไง พี่พูดคำไหนคำนั้น!”“แต่ว่าเมื่อกี้นาย...”“เมื่อกี้กลับไปยืมจักรยานที่โรงเรียนไง แบบนี้มันจะเร็วกว่า เธอก็คงจะไม่อยากให้ป้าฉินกังวลใช่ไหม?”"......"ฉินอวี่เถียนไม่มีอะไรจะพูดเมื่อนึกถึงการกระทำที่ขี้ขลาดเมื่อครู่นี้ เธอแทบอยากจะหารอยแตกบนพื้นแล้วมุดเข้าไปฉินอวี่เถียนถอยหลังไปหนึ่งก้าว แล้วอธิบายอย่างข้างๆคูๆว่า:
สิ่งที่ทำให้ฉินอวี่เถียนประหลาดใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ดูเหมือนว่าหลินโจวกำลังช่วยเรื่องการเรียนของเพื่อนร่วมชั้นด้วย?แม้ว่าเพื่อนร่วมชั้นคนนั้นจะน่ารำคาญนิดหน่อยแต่……หลินโจวเป็นคนจิตใจดีขนาดนี้จริงๆเหรอ?ฉินอวี่เถียนไม่อยากจะเชื่อเลย“ฉันเป็นพี่ชายของเธอ ฉันไม่สนใจเธอแล้วใครจะสนใจเธอ!”ฉินอวี่เถียนส่งเสียงเชอะ หันหลังกลับแล้วเดินไป“ฉันยอมรับตั้งแต่เมื่อไหร่?”“เฮ้อ? สาวน้อยคนนี้ รอก่อน เดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอเอง”ตอนนี้ก็สี่ทุ่มครึ่งแล้ว ผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียว เดินทางตอนกลางคืนไม่ปลอดภัย“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องยุ่ง ฉันรู้ทางกลับบ้าน”ฉินอวี่เถียนหันกลับมาอย่างดื้อรั้น แล้วเดินกลับบ้าน“น้องสาวจริงๆเหรอ?”หลิวซื่อหมิงชะโงกศีรษะ ด้วยสีหน้าที่งุนงง"ก็จริงน่ะสิ!"“แต่ว่า พ่อของพี่มีพี่เป็นลูกคนเดียวไม่ใช่เหรอ?”“ฉันจะมีแม่เลี้ยงไม่ได้เลยเหรอ?”"......"หลิวซื่อหมิงสำลักเขามองไปที่หลินโจวด้วยความประหลาดใจ: “พ่อของพี่หาแม่เลี้ยงให้พี่เหรอ? แถมยังพาน้องเลี้ยงมาอีกคนด้วย?”“นายเข้าใจถูกแล้ว”หลิวซื่อหมิงกลืนน้ำลาย หลังจากที่ทำความเข้าใจเรื่องนี้อย่างผิวเผินแล้ว ก็เริ่มกังวลข
“ได้ครับ ขอบคุณครับครูจาง”ทันทีที่หลินโจวพูดจบ เขาก็ได้ยินฟ่านอวิ๋นเจ๋อพูดด้วยความโกรธ:“หลินโจว แม้ว่าจะเอาคลังโจทย์ข้อสอบเหล่านั้นให้นาย นายจะอ่านเข้าใจเหรอ?”พูดจบ ฟ่านอวิ๋นเจ๋อก็เห็นสวี่เนี่ยนชูที่ยืนอยู่ด้านหลังหลินโจวยืนอยู่ตรงหน้าจางซูฉี:“ครูจางคะ หนูก็ขอชุดหนึ่งค่ะ”“เธอจะเอาไปทำอะไร? เธอไม่จำเป็นต้องฝึกทำโจทย์ แค่รักษามาตรฐานในปัจจุบันของเธอเอาไว้ก็พอแล้ว”"หนูอยากจะช่วยหลินโจวค่ะ"“อืม?”จู่ๆจางซูฉีก็นึกได้ว่าความก้าวหน้าของหลินโจวในช่วงนี้ สวี่เนี่ยนชูก็มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นอย่างมากให้เธอช่วยก็ดีเหมือนกัน"ได้ ครูจะเตรียมให้เธอด้วยหนึ่ง""ขอบคุณค่ะครู"สวี่เนี่ยนชูติดตามหลินโจวไปอย่างอารมณ์ดีสุดขีดฟ่านอวิ๋นเจ๋อ: ......เขาหันศีรษะด้วยความโกรธแ ละพูดกับอวิ๋นรั่วซีว่า:"รั่วซี เธอดูสองคนนั้นสิโง่หรือเปล่า เห็นได้ชัดว่าครูจางให้มาเพียงพอแล้ว แต่ยังยืนกรานที่จะขอเพิ่ม กลยุทธ์ฝึกฝนทำโจทย์ใช่ว่าจะใช้ได้ผลกับทุกคน พวกเราแค่มุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญ .. "ยังไม่ทันได้พูดจบฟ่านอวิ๋นเจ๋อก็เห็นอวิ๋นรั่วซีลุกยืนขึ้นเช่นกันสายตาของเธอจับจ้องไปที่หลินโจวผู้ชายคนนี้