Share

บทที่ 15 : ผิดแผน

Author: MIN-G
last update Last Updated: 2024-04-03 22:00:56

“เหลวไหลชะมัด! พลังเวทของแกมันจะไม่ใช่มังกรไฟได้ไงกัน?!” หนึ่งในสามคนนั้นพูดขึ้นมา

“ก็พลังเวทของผม... มันคือมังกรสายฟ้าไงล่ะครับ” อาคุมุตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่แสดงให้เห็นว่าตนคือผู้ชนะ

“สายฟ้า? อย่ามาอำพวกฉันเล่นนะโว้ย! ตระกูลของแกมันเป็นตระกูลมังกรไฟ ตระกูลมังกรสายฟ้าน่ะได้หายสาบสูญไปราว ๆ 50 ปีแล้ว และตระกูลมังกรสายฟ้าน่ะมีมาก่อนตระกูลของแกด้วย อีกทั้งเด็กเวรอย่างแกเนี่ยนะจะไปเทียบกับตระกูลที่สูงส่งอย่างตระกูลมังกรสายฟ้า เหอะ! ไปอ่านประวัติความเป็นมาของตระกูลให้เข้าใจก่อนค่อยมาพูดอะไรบ้า ๆ แบบนี้”

‘มีมาก่อนตระกูลคาอิดะก็หมายความว่ามันยาวนานกว่านั้น... ลึกซึ้งชะมัด แล้วตัวฉันถูกโยงไปตระกูลมังกรสายฟ้าได้ไงล่ะนั่น? ฉันเป็นคนจากตระกูลมังกรไฟหรือมังกรสายฟ้ากันแน่เนี่ยเริ่มไม่เข้าใจแล้วนะไอ้บ้าเอ๊ย!!’

ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสามต่างก็ไม่เชื่อในสิ่งที่ตนได้ยิน มันคงไม่มีทางเป็นไปได้

เพราะตระกูลคาอิดะนั้นเป็นตระกูลที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน เคยได้รับขนานนามว่าเป็นตระกูลแห่ง "ราชามังกรอัคคี" เด่นในเรื่องของการโจมตีด้วยเพลิงที่แข็งแกร่ง บุตรหลานของตระกูลนี้ที่ได้สืบทอดมาก็มีพลังเวทเป็นเวทแห่งมังกรไฟทุกคน

และที่ทำให้ทั้งสามยิ่งไม่เชื่อก็เพราะว่าตระกูลมังกรสายฟ้านั้นมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนานกว่าตระกูลมังกรไฟ ทั้งยังไม่มีผู้สืบทอดตระกูลต่อไปตั้งแต่เมื่อ 50 ปีที่แล้ว สำหรับสามพี่น้องนักเวท ถ้าจะเป็นแบบนั้นได้ก็คงมีแต่ในนิทานหลอกเด็ก

“พวกคุณคงไม่เชื่อผมอยู่แล้วล่ะ แต่ว่า... ผมน่ะมีพลังเวทเป็นมังกรสายฟ้าจริง ๆ นะ ผมจะโกหกทำไม?” อาคุมุพูดพร้อมกับแสดงให้เห็นถึงเส้นสายฟ้าที่กำลังกระจายออกมาจากฝ่ามือของเขา ซึ่งนั่นทำให้นักเวททั้งสามต่างก็ตกใจกันไปตาม ๆ กัน เพราะสิ่งที่อาคุมุพูดคือเรื่องจริง

“ส.. สายฟ้าจริง ๆ ด้วย?”

มากไปกว่านั้นคือเรย์และเหล่าทหารที่อยู่ในรถม้า ซึ่งฟังการสนทนาระหว่างอาคุมุกับนักเวทมาโดยตลอด แน่นอนว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่ได้เจออาคุมุจนมาถึงตอนนี้นั้นทำให้หน่วย 7 ครึกครื้นเป็นอย่างมาก ทั้งตัวตนของเด็ก 6 ขวบที่มีเบื้องหลังอันยิ่งใหญ่ มีพลังเวทและยังเป็นพลังเวทที่แข็งแกร่ง

“ไอ้เจ้าหนูนี่... มันเป็นใครกันแน่เนี่ย?” เรย์พูดออกมา ซึ่งทหารที่อยู่กับเรย์ต่างก็แปลกใจไปตาม ๆ กันเกี่ยวกับตัวตนของอาคุมุ

“แล้วแกรู้ได้ไงว่าการแพ้ทางของธาตุนั้นไม่มีผลในการต่อสู้ด้วยพลังเวทมนตร์? นี่น่ะมันเป็นความลับที่มีแค่นักเวทเท่านั้นนะที่รู้” หนึ่งในนักเวทกล่าว เขาดูเหมือนจะเป็นพี่ใหญ่ของทั้งสามคน

ซึ่งคำพูดของเขาก็ทำให้อาคุมุตกใจเช่นกัน เพราะสิ่งที่อาคุมุพูดไปนั้นเขาแค่รู้สึกว่ามันอาจจะเหมือนอย่างที่เขาคิดไว้ก็เป็นได้ ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ

“ผมพูดไปตามจินตนาการน่ะครับ เพราะพลังเวทมนตร์มันคงจะไม่มีแค่พลังที่เกี่ยวกับธาตุใช่ไหมล่ะ? สรุปว่ามันไม่มีความสำคัญจริง ๆ เหรอเนี่ย? ผมดวงดีสินะ” อาคุมุตอบกลับไป

ตามที่อาคุมุเข้าใจคือพลังเวทที่แต่ละคนนั้นมี ย่อมไม่ได้มีแค่จำพวกธาตุทั้งหลายเป็นแน่ โดยสิ่งที่ทำให้เขาคิดแบบนี้ก็คือเมื่อตอนเจอกับผู้ใช้พลังปีศาจคนที่ 13 ตอนนั้นดูเหมือนว่าอาคุมุจะตกเป็นเป้าในพลังเวทของชายคนนั้นราวกับว่าถูกหยุดการเคลื่อนไหว ซึ่งยังไม่สามารถรู้ได้แน่ชัดว่าคือพลังเวทที่เกี่ยวกับอะไรและความสามารถจริง ๆ ของมันคืออะไร แต่เขามั่นใจเป็นอย่างมากว่านั่นคือพลังเวทอย่างแน่นอน

“จินตนาการ? น่าตลกเป็นบ้าเลยนะคนอย่างนายเนี่ย... ใช่แล้ว! การแพ้ทางธาตุมันไม่ได้มีความหมายเลยในการต่อสู้จริง มันไม่ได้มีความสำคัญเลยสักนิด แล้วก็ใช่แล้ว! พลังเวทมนตร์น่ะไม่ได้มีแค่พลังที่เกี่ยวกับธาตุหรอก มันมีรอบด้านแทบจะนับไม่ถ้วนเลย...”

“แต่ก็ช่างเถอะ พลังของแกมันคือสายฟ้าแล้วจะทำไมล่ะวะ! แต้ม B แกมีหรือไง? น้องรองน้องเล็กเอาแต้ม B ของพวกนายให้ไอ้เด็กนี่ดูซะ!” ผู้ที่เป็นพี่คนโตกล่าว น้องทั้งสองของเขาจึงเปิดเผยแต้ม B ให้อาคุมุได้เห็น

คนหนึ่งเปิดผมที่ปรกหน้าผากด้านขวา เผยให้เห็นแต้ม B ของเขา ซึ่งก็คือ 1k(1,000) ส่วนอีกคนหันฝ่ามือให้อาคุมุได้เห็น ซึ่งก็คือ 1.2k(1,200)

“นี่แค่น้อง ๆ ของฉันนะ ส่วนของฉัน... ถ้าแกได้เห็นแกคงจะตกใจจนร้องไห้หาพ่อ ฉันให้เวลาแกเปลี่ยนความคิด คนที่มีพลังเวทหายากอย่างแกคงจะเป็นที่ต้องการตัวแน่นอน มากับพวกฉันแล้วไปเป็นนักเวทใต้บังคับบัญชาของฉัน ก่อนอื่นถ้าพวกฉันเอาตัวแกไปให้องค์จักรพรรดิพวกฉันคงจะได้รับการตอบแทนและผลประโยชน์ที่มากเป็นพิเศษแน่นอน เช่นตำแหน่งที่สูงขึ้นในจักรวรรดิอะไรแบบนี้ มันคงจะดีเลยล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า แล้วก็...” ดูเหมือนว่าเขาจะยังพูดไม่จบ อาคุมุก็พูดแทรกขึ้นมาในทันทีด้วยความหงุดหงิด

“แกจะพล่ามอะไรมากมายวะเนี่ย?! แค่จะข่มฉันด้วยแต้ม B ก็ร่ายยาวเป็นบทสวด ฉันเริ่มไม่อยากจะพูดดี ๆ กับพวกแกแล้วนะ!”

“อ่า... ไอ้เด็กเปรต!!! กล้าเรียกฉันด้วยคำว่า 'แก' อย่างงั้นเหรอ? ดี! พูดแบบนั้นก็หมายความว่าแกจะตายตรงนี้สินะ งั้นดูไว้เป็นขวัญตาก่อนที่จะตายซะ!” ว่าแล้วเขาก็ดึงแขนเสื้อด้านขวาขึ้น ซึ่งแต้ม B ของเขานั้นอยู่ที่ตำแหน่งเดียวกันกับอาคุมุ ก็คือบริเวณไหล่ และแต้ม B ที่ปรากฏให้เห็นก็คือ 2k(2,000)

อาคุมุที่ได้เห็นอย่างนั้นก็ถอนหายใจออกมาในทันที

“เฮ้อ! พูดพล่ามมาซะมากมาย สรุปว่ามีแค่นี้เนี่ยนะ? ตลกชะมัด”

“ฉันว่ามันจะมากเกินไปแล้วนะเว้ย! แกมีอะไรถึงกล้าพูดแบบนั้นได้ห๊ะ? ฉันถามจริง ๆ เถอะ แล้วก็หัดเจียมตัวซะบ้าง” ผู้ที่เป็นน้องเล็กได้พูดออกมา เขาทนฟังอยู่นานมากแล้วแต่สุดท้ายก็ยังเห็นความอวดดีของอาคุมุ จึงอดที่จะพูดออกมาไม่ได้

“ฉันว่าพวกแกมากกว่าที่ควรจะเจียมตัวได้แล้วนะ ฉันเสวนากับพวกแกก็นานมากแล้ว” ว่าแล้วอาคุมุก็ดึงแขนเสื้อด้านขวาขึ้น เผยให้เห็นแต้ม B ของเขา

“3k(3,000)... 3k?!!” นั่นคือสิ่งที่ทำให้ทั้งสามคนตกใจอีกครั้ง จากที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมเกินกว่าจะพรรณนา ตอนนี้เริ่มลดน้อยถอยลงทีละนิด

 “โธ่เว้ย... ถึงจะไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นแต่เราต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ เรามีกัน 3 คน พวกทหารบ้านั่นก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วถ้ารุมมันซะก็จบเรื่อง มังกรสายฟ้าของแก มันจะเป็นมังกรหรือจิ้งเหลนกันล่ะวะ!!” ผู้เป็นพี่พูดขึ้นมาและเตรียมการโจมตี น้องทั้งสองที่ได้ยินอย่างนั้นก็เตรียมที่จะโจมตีเช่นกัน แต่แล้วอาคุมุก็พูดขึ้นมา

“รู้ทั้งรู้ว่าสู้ฉันไม่ได้... แล้วที่แกบอกว่าถ้าจับตัวฉันส่งองค์จักรพรรดิแล้วเขาจะให้อะไรต่าง ๆ นา ๆ นั่นน่ะ แกคิดว่าแกจะได้ตามที่อยากหรือไง?! แกคงไม่ได้อะไรเลยด้วยซ้ำ ดีไม่ดีพวกแกหมดประโยชน์ก็โดนฆ่าทิ้งอีก ฉันมีทางเลือกให้อยู่นะ... สำหรับพวกแก 3 คนที่โดนกดขี่จากอำนาจของจักรพรรดิแล้วเป็นเหมือนลูกหมาน่ะ”

อาคุมุยื่นข้อเสนอให้ ซึ่งดูเหมือนว่าผู้ที่เป็นพี่คนโตนั้นเริ่มเกิดความลังเลใจและสงสัยในเวลาเดียวกัน แต่สุดท้ายคำตอบที่ได้กลับมาก็ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของเขาได้

“โดนกดขี่จนเหมือนลูกหมาอะไรของแก? ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นแล้ว! ฆ่ามัน!!” ได้ยินอย่างนั้น พี่คนโตและคนรองก็พุ่งเข้ามาหาอาคุมุในทันที โดยมีน้องเล็กที่ยืนเตรียมใช้เวทระยะไกลจากทางด้านหลัง

‘บ้าจริง ฉันยังไม่ได้ฝึกอย่างอื่นเพิ่มเลย เกือบจะมีพันธมิตรเพิ่มอยู่แล้วเชียวผิดแผนจนได้’

Related chapters

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 16 : สิ้นสุดข้อเสนอ

    ทั้งที่อาคุมุเป็นต่อทุกอย่างไม่ว่าจะพลังเวทหรือแต้ม B แต่สาเหตุที่เขาไม่อยากจะต่อสู้ในตอนนี้ ก็เพราะว่าเขาไม่ได้ฝึกอะไรเพิ่มเลยหลังจากมีแต้ม B ที่มากขึ้น ทักษะการโจมตีก็มีเพียงแสงอัสนีบาตเพียงอย่างเดียว ถ้าไม่นับมีดในกระเป๋าและก็ยังไปไม่ถึงเมืองหลวงเสียที ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยแม้แต่น้อย“กระสุนวารี!!” นักเวทผู้เป็นน้องได้พูดพร้อมกับหันฝ่ามือทั้งสองมาทางอาคุมุ วงแหวนเวทสีฟ้าได้ปรากฏขึ้นรอบข้อมือของเขา พลังเวทกระสุนน้ำได้พุ่งออกมาจากฝ่ามือทั้งสอง ผ่านข้างลำตัวของพี่ใหญ่และพี่รองของเขา ตรงไปยังอาคุมุที่ยืนอยู่“หอกวารี!!” ผู้เป็นพี่คนโตและคนรองกล่าวออกมาพร้อมกัน วงแหวนสีฟ้าปรากฏขึ้นข้าง ๆ ลำตัว ได้มีอาวุธหอกซึ่งเป็นอาวุธที่สร้างจากพลังเวทแห่งน้ำค่อย ๆ ออกมาจากวงแหวนเวท แล้วทั้งสองก็ดึงมันออกมา‘ฉันไม่ได้ฝึกอะไรเพิ่มเลยเนี่ยสิ โธ่เว้ย!’“แสงอัสนีบาต!” อาคุมุพูดพร้อมกับหันฝ่ามือไปทางศัตรู วงแหวนเวทสีฟ้าปรากฏขึ้นรอบข้อมือของเขาพร้อมกับสายฟ้าที่มีความรุนแรงได้พุ่งออกจากฝ่ามือและตรงไปหาทั้งคู่ แต่แท้จริงแล้วอาคุมุตั้งใจโจมตีใส่กระสุนวารีของผู้ที่เป็นน้อง เพราะตำแหน่งที่เขายืนในตอนนี้คือด้า

    Last Updated : 2024-04-03
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 17 : สู่เมืองหลวง

    “เราไปกันเถอะครับ” อาคุมุกล่าว เรย์และเหล่าทหารจึงเอามือลงและหันกลับมา“เรียบร้อยแล้วสินะ งั้นเราก็เริ่มเดินทางได้” ว่าแล้วก็หันกลับไปหาทหารในหน่วยของเขา“อาสา 3 คน มาขับรถม้า!!”“รับทราบครับ!” ทหารหนุ่ม 3 นายได้เดินออกมาจากแถว และขึ้นไปนั่งข้างหน้าเตรียมควบคุมรถม้า อาคุมุและคนอื่น ๆ ก็เดินขึ้นไปบริเวณตัวรถในทันที“ไปได้!”รถม้าเคลื่อนแล้ว ซึ่งเส้นทางที่ใช้นั้นจะเป็นเส้นทางไหนก็ไม่อาจทราบได้ เนื่องจากตอนนี้อาคุมุไม่รู้อะไรเลยแม้แต่น้อย เขารู้แค่จากการดูแผนที่โดยใช้เวลาเพียงไม่นานว่าเมืองใหญ่นั้นอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเมืองใหญ่นั้นคงจะเป็นเมืองหลวงอย่างแน่นอน“ว่าแต่นายเป็นใครกันแน่เนี่ยเจ้าหนู?” เรย์เอ่ยปากถามกับอาคุมุ นี่คงจะเป็นสิ่งที่ทั้งเรย์และทหารอยากจะรู้มากที่สุด“ก็.. ผมเป็นคนที่มีพลังเวทครับ” นั่นคือประโยคแรกที่อาคุมุตอบกลับแล้วหยุดไป หลังจากนั้นจึงพูดต่อ“พลังเวทของผมเป็นประเภทที่หายากมากซึ่งก็คือพลังมังกรสายฟ้า” อาคุมุยังไม่ทันได้พูดต่อ เรย์ก็พูดขึ้นมาในทันที“สรุปว่านายมาจากตระกูลคาอิดะจริง ๆ ใช่ไหม?”“ใช่ครับ”ทันทีที่อาคุมุตอบกลับไป แต่ละคนต่างก็ตกใจกันไปตาม ๆ

    Last Updated : 2024-04-03
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 18 : พันธมิตรชั่วคราว?

    “กำลังจะถึงเมืองไดอิกิแล้วครับ” นายทหารที่อาสาเป็นคนขับรถม้าได้พูดประกาศบอกกับคนข้างหลัง“สร้างวงแหวนเวท” อาคุมุพูดขึ้นมา วงแหวนของเขาค่อย ๆ ขยายวงกว้างออกไป‘ตอนนี้สร้างได้ยังไม่แปลก’“เอ๋? ทำอะไรน่ะเจ้าหนู...” ทันทีที่เรย์ถาม อาคุมุก็หายไปจากตรงหน้าเขาทันทีอาคุมุนั้นใช้การเคลื่อนที่ด้วยวงแหวนเวทแล้วออกไปนั่งข้าง ๆ คนขับรถม้า ซึ่งอยู่ ๆ มีคนโผล่มาด้วยความรวดเร็วแบบนี้แน่นอนว่าต้องตกใจเป็นธรรมดา“เย้ย?! มาได้ไงกันเนี่ย?”“ขอดูอะไรสักครู่นะครับ” ตามที่อาคุมุคิดไว้ ที่ในตอนนี้ยังสามารถสร้างวงแหวนเวทได้อยู่เพราะว่ายังไม่ได้เข้าไปในตัวเมือง แต่ถึงแม้จะสร้างได้มันก็คงไม่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดวงแหวนเวทของเขาที่ขยายออกไป ได้ไปถึงเขตของเมืองหลวงแล้ว“เป็นแบบนี้จริง ๆ ด้วยแฮะ”“หืม? คืออะไรเหรอ?” ไม่แปลกที่ทหารคนนั้นจะไม่เข้าใจสิ่งที่อาคุมุกำลังคิดและทำ เพราะดูเหมือนว่าผู้ที่เป็นทหารจะไม่สามารถใช้พลังเวทได้ ถึงแม้อาคุมุจะยังไม่รู้อย่างแน่ชัดก็ตาม“คนที่ใช้พลังเวทได้จะมีวงแหวนเวทครับ ซึ่งวงแหวนเวทจะไม่สามารถใช้งานได้เมื่อมีพลังสักอย่างที่ดูเหมือนว่าจะใช้ในการลบล้างวงแหวนเวทนั้น เป็นเหมือนพลังที่

    Last Updated : 2024-04-05
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 19 : การช่วยเหลือ

    ไม่สามารถทราบได้ว่าถูกหลอกตั้งแต่ตอนไหน ไม่สามารถทราบได้ว่าเรื่องไหนบ้างจากปากของเรย์ที่เป็นเรื่องจริง แล้วเรื่องไหนที่เป็นเรื่องเท็จ สิ่งที่อาคุมุลงมือทำไปทั้งหมดคืออะไร? สิ่งที่อาคุมุคิดจะเป็นจริงหรือไม่? ก็ไม่อาจทราบได้ในตอนนี้สถานการณ์ของอาคุมุนั้นค่อนข้างที่จะจนตรอกอยู่พอสมควร เพราะเขาได้ก้าวเข้าสู่เขตของเมืองหลวงอย่างเมืองไดอิกิแล้ว เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือทำอะไรง่าย ๆ ได้อีกแล้ว‘บ้าจริง’ไม่ว่าจะใช้วงแหวนเวทในการเคลื่อนที่ก็ไม่สามารถทำได้ จะวิ่ง? แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว‘หรือจะฆ่ามันซะตรงนี้.. ไม่ได้ ๆ ไม่มีทางทำได้เลย’ อาคุมุก็ไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ เพราะในตอนนี้ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ต้องรอบคอบและไม่ผลีผลาม เนื่องจากเป็นตัวเขาเองที่ติดกับดักของศัตรู จะออกไปจากกับดักนี้ก็ค่อนข้างที่จะยากพอสมควร“แล้วเมืองหลวงนี่มีป่าไหมครับลุงเรย์?” อยู่ ๆ อาคุมุก็ถามออกไปอย่างนั้น“หืม? ฮ่า ฮ่า มีสิ แต่เป็นป่าที่อยู่ริมสุดของเมืองหลวง อยู่ใกล้เมืองข้าง ๆ เหมือนเดิม ถามไปเพื่ออะไรเนี่ย?” เรย์หัวเราะและตอบกลับไป ซึ่งเขาตอบกลับไปโดยที่ไม่ได้คิดอะไรเลยแม้แต่น้อย เพราะไม่ว่าจะวิธีไหนเด็กคนน

    Last Updated : 2024-04-13
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 20 : ส่วนหนึ่งของความจริง

    “หรือว่าคุณ.. คนที่ 13 สินะครับ?”“ใช่แล้วล่ะ”การช่วยเหลือที่อาคุมุได้รับในครั้งนี้ไม่ใช่การช่วยเหลือจากคนแปลกหน้าอย่างที่เขาคิด เพราะชายคนนี้เขาได้เคยเจอแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือผู้ใช้พลังปีศาจคนที่ 13“แล้วทำไมถึงได้...” อาคุมุพูดยังไม่ทันจบประโยค ชายคนนั้นก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว“ยังไม่ต้องพูดอะไร รอถึงป่าใหญ่โน้นก่อน” เขาชี้ไปทางข้างหน้า อาคุมุจึงหันตามป่าใหญ่ที่เขาบอกก็คือป่าเดียวกันกับที่เรย์ได้บอกอาคุมุเมื่อตอนอยู่บนรถม้า เป็นป่าที่ใหญ่พอสมควรโดยอยู่ทางริมสุดของเมืองไดอิกิ ติดกับเมืองข้าง ๆ กันซึ่งนั่นก็คือเมือง "คานะ" ป่านี้คือป่าใหญ่แห่งที่สองของจักรวรรดิที่อาคุมุได้พบเจอไม่นานนักก็มาจนถึง เขาจึงพาอาคุมุวิ่งเข้าไปต่อ สิ่งที่อาคุมุตกใจมากที่สุดแน่นอนว่ามันก็คือความเร็วในการเคลื่อนที่ เพราะมันเร็วยิ่งกว่าการเคลื่อนที่ของนักเวท ทั้งที่ดูยังไงก็แทบไม่ต่างจากการวิ่งธรรมดาเลยแม้แต่น้อย ความเร็วกลับมีมากเกินกว่าจะพรรณนาได้สิ่งที่อาคุมุตกใจไม่แพ้กันก็คือตอนที่เขาถูกช่วยไว้และกำลังออกมา ชายคนนี้ได้ใช้การพันธนาการอย่างหนึ่งซึ่งก็คือ "พันธนาการทางจิตแบบหมู่" นั่นคือการพันธนาก

    Last Updated : 2024-04-23
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 21 : ทักษะระดับสูง

    การปรากฏตัวของโทชิในครั้งนี้ทำให้อาคุมุรู้อะไรหลาย ๆ อย่างในสิ่งที่เขาไม่รู้ แทบจะทุกเรื่องที่กล่าวมาก็เป็นได้การควบคุมออร่าพลังเวทนั้นทำได้ยากกว่าการควบคุมพลังเวทในร่างกายหลายเท่า เนื่องจากคนส่วนใหญ่คิดแค่ว่ามันมีไว้ใช้ในการบ่งบอกระดับพลังเพียงเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วมันสามารถนำมาใช้ได้ไม่ต่างจากพลังเวทเลยแม้แต่น้อย มากไปกว่านั้นคือผลกระทบจากการใช้ก็ไม่มี ออร่าพลังเวทจึงเป็นสิ่งที่ใช้งานได้ดีเป็นอย่างยิ่ง“ออร่าพลังเวทมันสามารถซ่อนได้ รวบรวมไว้ตรงไหนก็ได้ มันอยู่รอบตัวเราก็ไม่ได้แปลว่าจะใช้ไม่ได้สักหน่อย” โทชิพูดพร้อมกับเผยออร่าพลังเวทรอบตัวเขาให้อาคุมุได้เห็น ทั้งยังถ่ายเทไปยังจุดต่าง ๆ รอบตัวแต่ที่อาคุมุตกใจก็คือออร่าพลังเวทของโทชินั้นเป็นสีขาว?“ทำไมถึงเป็นสีขาวล่ะครับ? คนระดับคุณน่าจะสีส้มหรือสีแดงได้เลยนี่?”“นี่แหละคืออีกอย่างที่สามารถทำได้ มันเปลี่ยนสีได้ไงล่ะ” โทชิตอบกลับมา นั่นเป็นอีกอย่างหนึ่งที่อาคุมุคาดไม่ถึง และแน่นอนว่าคนที่ไม่รู้ก็คงคิดว่าออร่าพลังเวทของคนคนหนึ่งตามที่ตาเห็นคือสีนั้น ทั้งที่มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยการฝึกใช้ทักษะในตัวของมันเอง“อีกอย่างหนึ่งที่ฉันจะ

    Last Updated : 2024-04-23
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 22 : ควบคุมวงแหวนเวท

    หลังจากที่อาคุมุสามารถใช้ทักษะบาทาไร้เงาได้แล้วนั้น ทักษะอีกอย่างที่ควรมีก็คือการสร้างวงแหวนเวท ซึ่งเป็นการสร้างวงแหวนเวทไว้ใช้ในการโจมตีโดยตรง ต่างจากการสร้างวงแหวนเวทธรรมดาเพื่อใช้ในการเคลื่อนที่ เพราะมันทั้งควบคุมยากกว่าและสารพัดประโยชน์ยิ่งกว่า“ตอนนี้เราวิ่งเข้ามาลึกกว่าเดิม ถ้าพวกนั้นจะออกตามหาก็คงต้องใช้เวลาหน่อย แต่ว่าถ้าเป็นตำแหน่งนี้สิ่งที่ควรระวังมากที่สุดมันไม่ใช่พวกนักเวทน่ะสิ” โทชิพูดขึ้นมา“หรือว่าจะหมายถึง.. ปีศาจเวทมนตร์เหรอครับ?”“ใช่แล้วล่ะ เราอยู่ในจุดที่ใกล้กลางป่ามากเท่าไร โอกาสที่จะเจอกับปีศาจเวทมนตร์ก็มากขึ้นเท่านั้น ที่เราต้องระวังรองลงมาก็คือนักเวท.. แต่ก็นะ ในจักรวรรดินี้ถึงจะมีก็มีได้ไม่เยอะหรอก เพราะอะไรฉันก็ไม่รู้เหมือนกันแต่จักรวรรดิไดจิเป็นจักรวรรดิที่มีปีศาจเวทมนตร์น้อยที่สุดในโลกนี้น่ะ”“ต้องมีเบื้องหลังสินะครับ”“ถึงเวลาเดี๋ยวนายก็จะรู้เอง”ป่าใหญ่แห่งนี้นั้นเป็นป่าที่อยู่ในเมืองไดอิกิ เรียกได้ว่ามันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของเมืองหลวง ซึ่งเดิมทีป่าก็เป็นตำแหน่งออกล่าของปีศาจเวทมนตร์อยู่แล้ว แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ทำให้จักรวรรดิแห่งนี้มีปีศาจเวทมนตร์ออกเพ

    Last Updated : 2024-04-25
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 23 : ร้อนวิชา

    ในตอนนี้อาคุมุได้ผ่านการฝึกกับโทชิทั้งทักษะบาทาไร้เงาและการสร้างวงแหวนเวทเพื่อใช้โจมตีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เท่านี้ก็นับว่าเขาแข็งแกร่งขึ้นมามากพอสมควรถ้าฟังจากที่โทชิได้บอกไว้ และหลังจากนี้ก็จะขึ้นอยู่กับการฝึกฝนของตัวเขาเอง ความชำนาญในการใช้ทักษะต่าง ๆ จะทำให้เขาได้เปรียบในการต่อสู้.. แม้กระทั่งการวิ่งหนีอาคุมุนั่งลงและฝึกการสร้างวงแหวนเวทอีกครั้ง โดยเขาจะสร้างมันขึ้นมาสองอัน ตามเทคนิคที่เขาเข้าใจคาดว่าคงจะไม่ยากนัก“เอาล่ะ สร้างวงแหวนเวท!” เขาพูดขึ้นมาพร้อมกับยกแขนขวาขึ้นในระดับเอว หันฝ่ามือขึ้นและแยกนิ้วทั้งห้าออกจากกัน ซึ่งอาคุมุยังไม่ทันได้บีบอัดออร่าและพลังเวทไว้ตรงจุดเดียวแต่อย่างใด วงแหวนเวทสีฟ้าก็ปรากฏขึ้นเหนือฝ่ามือของเขาในทันที“เอ๋? ทำแบบนี้ได้แล้วหรอกเหรอ? ถ้างั้น..” ว่าแล้วอาคุมุก็ยกแขนซ้ายขึ้นมาในระดับเดียวกันและทำแบบเดียวกัน โดยเขาแค่เกร็งแขนและยังไม่ทันได้พูดว่าสร้างวงแหวนเวทเลยด้วยซ้ำ มันก็ปรากฏขึ้นมาเหนือฝ่ามือเขาเสียแล้ว“เยี่ยมเลย! ทำได้เร็วกว่าที่คิดแฮะ” การที่เขาฝึกฝนต่อหลังจากเรียนรู้เทคนิควิธีใช้ ทำให้เขามีความเข้าใจและสามารถควบคุมพลังได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังทำ

    Last Updated : 2024-04-25

Latest chapter

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 30 : เขตแดนพลังเวท?

    นักเวทที่เหลือนั้นหายไปพร้อมกันด้วยความเร็วอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งแน่นอนว่านั่นคงเป็นเวทที่ใช้ในการเคลื่อนที่“หายไปหมดเลย เวทเคลื่อนที่สินะครับ” พูดจบอาคุมุก็หันไปทางองค์ชายชูยะ ซึ่งองค์ชายนั้นเดินออกมาหลังจากทำการรักษาให้กับอากิระแล้ว“อืม การต่อสู้ทุกครั้งต้องมีนักเวทที่เชี่ยวชาญในการใช้เวทเคลื่อนที่อย่างน้อยสักหนึ่งคน ถึงจะเป็นนักเวทชุดขาวก็เถอะนะ แต่ถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้แล้วไม่มีเวทเคลื่อนที่ก็คงตายยกกลุ่ม”“แล้วก็สีหน้าท่าทางของพวกเขามัน...” อาคุมุยังไม่ทันได้พูดจนจบแต่อย่างใด องค์ชายชูยะก็ตอบกลับในทันที“ก็เพื่อทำให้ไม่ผิดสังเกตนั่นแหละ และมันเป็นกลอุบายอย่างหนึ่งที่มีโอกาสทำให้ศัตรูใจอ่อน หรือดึงเวลาเอาไว้เพราะหนึ่งในนั้นต้องมีสักคนกำลังร่ายเวทขนาดใหญ่อยู่ และอาจเป็นคนที่อยู่แนวหลังซึ่งนายยังเดินไปไม่ถึง อีกทั้งยังไม่ได้อยู่ในระยะสายตาของนาย จึงทำให้ร่ายเวทได้ไม่ยากนัก” องค์ชายชูยะอธิบาย“แต่ว่าปล่อยไว้แบบนี้จะเป็นอะไรไหมครับ? เหมือนว่าพวกเขาจะได้ข้อมูลกลับไปรายงานองค์จักรพรรดิแล้ว”“ก็ค่อนข้างเสียเปรียบอยู่พอสมควร การฝึกก็จะลำบากยิ่งขึ้นเพราะสถานที่แห่งนี้เป็นที่เดียวที่ฉันใช้ เ

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 29 : สถานที่แห่งเลือด

    นักเวททุกคนถูกพันธนาการไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งทักษะนี้นั้นราวกับว่ามันคือทักษะขั้นสูง เพราะในการควบคุมให้ตรงกับตำแหน่งที่ต้องการนั้นคงมีความยากเป็นแน่ อีกทั้งองค์ชายชูยะก็ใช้มันได้ด้วยความชำนาญ อาคุมุจึงมั่นใจได้อีกอย่างหนึ่งว่าองค์ชายชูยะอาจจะเป็นชายปริศนาคนนั้นที่เคยได้ช่วยเขาไว้แท่งน้ำแข็งจำนวนมากออกมาจากวงแหวนเวทสีส้มด้วยความรวดเร็ว ทั้งหมดนั่นล้อมรอบตัวของนักเวทเอาไว้และเป็นคุกน้ำแข็งในที่สุด‘ทักษะพันธนาการนี้แข็งแกร่งมากเลยนะเนี่ย’ นี่เป็นอีกครั้งที่อาคุมุได้เห็นการใช้ทักษะพันธนาการแบบหมู่ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่อาคุมุจะต้องกลับไปฝึกฝนและนำออกมาใช้ให้ได้ โดยเริ่มจากทักษะพันธนาการทั่วไปที่เขาจะต้องทำให้ชำนาญและคล่องแคล่วที่สุด“ลุงอากิระน่ะยังไม่ตายหรอก แต่คนที่จะตายก็คงหนีไม่พ้นลุงอิชิโร่... ใช่ไหม?” องค์ชายชูยะพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ แต่แววตาทั้งสองกลับไม่ใช่แบบนั้นอาคุมุที่ได้ยินอย่างนั้นก็พยายามจะลุกขึ้นไปดูอาการของอากิระ แต่เขาก็ต้องแปลกใจที่ทักษะพันธนาการด้วยด้ายของนักเวทคนนั้นยังคงอยู่ ถึงแม้จะถูกพันธนาการด้วยคุกน้ำแข็งขององค์ชายชูยะ“เลิกเรียกฉันว่าลุงสักทีสิองค์ชาย!

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 28 : บาดแผล

    “ชิ! เพราะไอ้โง่คนเดียวเลยทำให้นักเวทชุดขาวอย่างเราถูกเด็กตัวแค่นี้หยามได้ ผู้ใหญ่หัวอ่อนน่ะมันมีแค่ไม่กี่คนหรอกนะเฟ้ย!!” หนึ่งในนักเวทพูดจบก็กระโดดขึ้นไปลอยค้างอยู่ในอากาศ“ปีกแห่งลม!” เขาใช้ทักษะพลังเวท ได้มีปีกซึ่งเป็นปีกแห่งลมปรากฏขึ้นมาที่ร่างกายของเขา จึงทำให้นักเวทคนนั้นสามารถบินได้“ไม่ธรรมดาเลยนะครับ”“ทักษะแบบนี้น่ะ มีน้อยคนที่จะสามารถใช้ได้ เพราะฉะนั้นแล้วก็เตรียมรับการโจมตีแบบที่นายไม่เคยเจอมาก่อนได้เลย!” ว่าแล้วนักเวทคนนั้นก็บินพุ่งตรงเข้ามาหาอาคุมุด้วยความเร็ว“กรงเล็บแห่งลม!!” ที่มือทั้งสองของนักเวทนั้นได้มีพลังเวทมาห่อหุ้ม จนก่อตัวเป็นกรงเล็บที่พร้อมสำหรับการโจมตี“บาทาไร้เงา... ผมไม่ยืนอยู่นิ่ง ๆ เพื่อให้โดนการโจมตีหรอกนะครับ” อาคุมุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบและแผ่วเบาขณะที่หลบการโจมตี ทั้งยังพูดในตอนที่เห็นการเคลื่อนที่ของนักเวทนั้นช้าลง จนกระทั่งเขาไปยืนอยู่ข้างหลังนักเวทคนนั้น“แสงอัสนีบาต!!” เมื่อสิ้นเสียงของอาคุมุ วงแหวนเวทสีฟ้าปรากฏขึ้นรอบข้อมือของเขา ตามด้วยการโจมตีจากแสงอัสนีบาตที่ออกมาจากวงแหวนเวทสีฟ้าเข้ม ซึ่งปรากฏให้เห็นอยู่หน้าฝ่ามือของอาคุมุ“อ่อก! ธ.. โธ่เว

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 27 : การต่อสู้ในสถานที่ฝึกฝน

    “ฆ่ามันซะ!!!” อิชิโร่ตะโกนสั่งการนักเวทที่อยู่ข้างหลังเขา ซึ่งจำนวนที่มีนั้นไม่ได้น้อยเลย ทั้งยังมีมาสมทบเพิ่มอีกหลายคน โดยนักเวททุกคนนั้นใส่ชุดคลุมที่มีหมวกสีขาว ปิดหน้าด้วยผ้าสีดำ ไม่สามารถคาดเดาพลังเวทของคนพวกนี้ได้เลยแม้แต่น้อย“คิดจะลงมือแล้วก็เตรียมตัวรับแรงกระแทกไว้เลย!” อากิระตะโกนโต้ตอบพร้อมกับเตรียมที่จะต่อสู้ ซึ่งขณะนี้อาคุมุนั้นกำลังหลับตาและทำการบางอย่างอยู่ ทันใดนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นแล้วหันไปถามอากิระ“ลงมือได้ไหมครับ?”“แน่นอน! นี่น่ะมันคือการเปิดศึกแล้วไงล่ะ”เมื่อได้ยินอย่างนั้น อาคุมุก็ชี้นิ้วขึ้นไปข้างบนในทันที“มองดูข้างบนสิครับลุง”“ทำอะไรของแกน่ะเจ้าหนู? จะให้ฉันมองวิวที่มันเหมือนกับท้องฟ้า...” อิชิโร่พูดยังไม่ทันจบประโยค เขาก็ต้องตกตะลึงในทันที เพราะเหนือศีรษะของทุกคนขึ้นไปนั้น มีวงแหวนเวทขนาดเล็กอยู่เต็มไปหมด“แสงอัสนีบาต!!” เมื่อสิ้นเสียงของอาคุมุ วงแหวนเวทสีฟ้าได้ปรากฏขึ้นรอบข้อมือของเขา พร้อมกับการโจมตีด้วยสายฟ้าที่ลงมาจากข้างบนตู้มมม!!!“อ่อก! โธ่เว้ย” นักเวทจำนวนหนึ่งที่กำลังพุ่งเข้ามาหาอากิระนั้นโดนการโจมตีที่รุนแรงของอาคุมุเป็นพิเศษ เนื่องจากว่าจำนวนวงแหวน

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 26 : ทรยศ

    หลังจากที่อาคุมุได้พูดคุยกับองค์ชายชูยะเล็กน้อย องค์ชายชูยะก็บอกให้อากิระนั้นนำทางและพาอาคุมุไปยังที่พัก ซึ่งสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือองค์ชายนั้นจัดการเตรียมที่พักให้เป็นอย่างดี ซึ่งที่พักนั้นอยู่ในตึกใหญ่ที่อยู่นอกพระราชวัง แต่แค่นี้ก็ดีเกินกว่าที่อาคุมุนั้นต้องการแล้ว ทั้งยังมีสถานที่สำหรับใช้ในการฝึกที่อากิระจะแนะนำหลังต่อจากนี้ เริ่มจากการที่อากิระนั้นผลักประตูบานยักษ์ หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปตามโถงทางเดิน จนกระทั่งมาถึงห้องพักห้องหนึ่ง “นี่แหละห้องของนาย ลองเข้าไปดูสิ” อากิระกล่าวหลังจากที่เดินมาแล้วหยุดอยู่หน้าห้อง 06 นั่นคือหมายเลขห้องของเขา เมื่อได้ยินอย่างนั้นอาคุมุจึงเดินเข้าไป ในที่สุดก็มาถึงห้องของอาคุมุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งห้องนอนนั้นเป็นเพียงห้องสี่เหลี่ยมที่มีกำแพงเป็นสีขาวล้วนรอบด้าน มีเตียงนอนและของใช้ต่าง ๆ ครบครัน ทั้งโต๊ะทำงาน ตู้หนังสือ โคมไฟ หรือแม้กระทั่งดาบเล่มหนึ่งที่วางอยู่ แน่นอนว่าห้องนี้นั้นมีขนาดความกว้างมากกว่าห้องของเขาที่บ้าน ทั้งยังมีความสะดวกสบายมากเป็นพิเศษ ซึ่งเขาไม่แปลกใจเท่าไรเพราะนี่เป็นที่ที่องค์ชายชูยะเตรียมไว้ให้ “ห้องกว้างมากเลยล่ะครั

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 25 : อยากพบ?

    ความประมาทของอาคุมุทำให้ตัวเขาเองได้รับบาดเจ็บมากที่สุดเท่าที่เคยเจอมา เสื้อขาดตามแนวของการโจมตีจนเผยให้เห็นรอยแผลเป็นปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน นี่คือบาดแผลขนาดใหญ่แผลแรกของเขา “จะเป็นยังไงล่ะครับ... ถ้าผมเก็บกวาดตรงนี้ซะหมด? แต้ม B ของผมคงจะมีเยอะมากและแข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดดเลยล่ะ มันคงจะดีต่อตัวผมมากเลยนะครับ” อาคุมุพูดพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก สายตาของเขานั้นดูน่ากลัวราวกับปีศาจอย่างไม่ต้องสงสัย “ม.. ไม่เอาน่า มันคงไม่ดีต่อตัวนายนักหรอก” คาซูโอะพูดด้วยน้ำเสียงและร่างกายที่มีอาการสั่นกลัวเล็กน้อย “ที่ไม่ดี.. เพราะกลัวตายหรือเปล่าครับ? ถ้าอย่างนั้น...” อาคุมุพูดยังไม่ทันจบก็ได้มีชายคนหนึ่งพูดแทรกขึ้นมา “นายควรพอได้แล้วนะน้องชาย คนพวกนี้ทำอะไรนายไม่ได้หรอก” “เอ๋? องค์ชาย?” ซึ่งชายคนนั้นก็คือองค์ชายชูยะนั่นเอง เขาปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับอากิระที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ในขณะที่อาคุมุไม่ทันได้สังเกตเห็น “องค์ชาย... ทั้งหมดเป็นฝีมือของเขาครับ!” คาซูโอะพูดขึ้นมาพร้อมกับชี้นิ้วไปยังอาคุมุ “คาซูโอะ... นายพามาแทบทั้งหน่วยเพื่อจัดการกับเด็กคนเดียวเนี่ยนะ? แต่ฉันจะบอกอะไรให้อย่าง.. เด็กคนนี้คือเพื่อน

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 24 : ความประมาท

    การโจมตีในครั้งนี้อาคุมุไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์อะไรมากนัก แค่ได้นำสิ่งที่ฝึกฝนมาประยุกต์แล้วทดลองใช้ก็ถือว่าเป็นกำไรสำหรับเขาแล้ว อีกอย่างคือเขาสามารถหนีไปได้อย่างแน่นอนด้วยการใช้บาทาไร้เงา สังเกตได้จากการที่เขาออกมาจากการปิดล้อมนั้นได้โดยง่าย เพียงแต่ว่า.. เขายังไม่ได้ฝึกทักษะที่ใช้ป้องกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว ‘ไม่เป็นไร ยังไงเราก็พอหนีได้ล่ะนะ’ เมื่อควันเริ่มเบาบางลง เผยให้เห็นคนนับสิบนอนล้มอยู่ที่พื้นดิน โดยพื้นที่บริเวณรอบนั้นเป็นหลุมเป็นบ่อใหญ่พอสมควร “เอ๋? ทำไมถึงไม่ใช้เวทป้องกันล่ะเนี่ย?” อาคุมุเกิดความตกใจพอสมควรที่ไม่มีใครใช้เวทป้องกันเลยแม้แต่คนเดียว ซึ่งแท้จริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น “อึ่ก!... ไม่ใช่หรอก ใช้แล้วแต่ไม่ไหวต่างหาก” ชายหนุ่มผู้ที่เป็นหัวหน้าค่อย ๆ ยืนขึ้นและใช้ดาบที่อยู่ในมือประคองไว้ ซึ่งดาบของเขาติดตัวไว้ตำแหน่งไหนอาคุมุก็ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ที่น่าตกใจไปมากกว่านั้นคือการป้องกันกลับต้านพลังโจมตีของอาคุมุไม่ได้ ‘เดี๋ยวนะ เขาระดับสูงกว่าฉันมากเลยนี่ ทำไมถึงไม่ไหวได้ล่ะเนี่ย?’ “ฉันล่ะยอมใจนายจริง ๆ มิน่าล่ะองค์จักรพรรดิถึงต้องการตัว เอาล่ะฉันชื่อ "มิกาซูกิ คาซูโอ

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 23 : ร้อนวิชา

    ในตอนนี้อาคุมุได้ผ่านการฝึกกับโทชิทั้งทักษะบาทาไร้เงาและการสร้างวงแหวนเวทเพื่อใช้โจมตีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เท่านี้ก็นับว่าเขาแข็งแกร่งขึ้นมามากพอสมควรถ้าฟังจากที่โทชิได้บอกไว้ และหลังจากนี้ก็จะขึ้นอยู่กับการฝึกฝนของตัวเขาเอง ความชำนาญในการใช้ทักษะต่าง ๆ จะทำให้เขาได้เปรียบในการต่อสู้.. แม้กระทั่งการวิ่งหนีอาคุมุนั่งลงและฝึกการสร้างวงแหวนเวทอีกครั้ง โดยเขาจะสร้างมันขึ้นมาสองอัน ตามเทคนิคที่เขาเข้าใจคาดว่าคงจะไม่ยากนัก“เอาล่ะ สร้างวงแหวนเวท!” เขาพูดขึ้นมาพร้อมกับยกแขนขวาขึ้นในระดับเอว หันฝ่ามือขึ้นและแยกนิ้วทั้งห้าออกจากกัน ซึ่งอาคุมุยังไม่ทันได้บีบอัดออร่าและพลังเวทไว้ตรงจุดเดียวแต่อย่างใด วงแหวนเวทสีฟ้าก็ปรากฏขึ้นเหนือฝ่ามือของเขาในทันที“เอ๋? ทำแบบนี้ได้แล้วหรอกเหรอ? ถ้างั้น..” ว่าแล้วอาคุมุก็ยกแขนซ้ายขึ้นมาในระดับเดียวกันและทำแบบเดียวกัน โดยเขาแค่เกร็งแขนและยังไม่ทันได้พูดว่าสร้างวงแหวนเวทเลยด้วยซ้ำ มันก็ปรากฏขึ้นมาเหนือฝ่ามือเขาเสียแล้ว“เยี่ยมเลย! ทำได้เร็วกว่าที่คิดแฮะ” การที่เขาฝึกฝนต่อหลังจากเรียนรู้เทคนิควิธีใช้ ทำให้เขามีความเข้าใจและสามารถควบคุมพลังได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังทำ

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 22 : ควบคุมวงแหวนเวท

    หลังจากที่อาคุมุสามารถใช้ทักษะบาทาไร้เงาได้แล้วนั้น ทักษะอีกอย่างที่ควรมีก็คือการสร้างวงแหวนเวท ซึ่งเป็นการสร้างวงแหวนเวทไว้ใช้ในการโจมตีโดยตรง ต่างจากการสร้างวงแหวนเวทธรรมดาเพื่อใช้ในการเคลื่อนที่ เพราะมันทั้งควบคุมยากกว่าและสารพัดประโยชน์ยิ่งกว่า“ตอนนี้เราวิ่งเข้ามาลึกกว่าเดิม ถ้าพวกนั้นจะออกตามหาก็คงต้องใช้เวลาหน่อย แต่ว่าถ้าเป็นตำแหน่งนี้สิ่งที่ควรระวังมากที่สุดมันไม่ใช่พวกนักเวทน่ะสิ” โทชิพูดขึ้นมา“หรือว่าจะหมายถึง.. ปีศาจเวทมนตร์เหรอครับ?”“ใช่แล้วล่ะ เราอยู่ในจุดที่ใกล้กลางป่ามากเท่าไร โอกาสที่จะเจอกับปีศาจเวทมนตร์ก็มากขึ้นเท่านั้น ที่เราต้องระวังรองลงมาก็คือนักเวท.. แต่ก็นะ ในจักรวรรดินี้ถึงจะมีก็มีได้ไม่เยอะหรอก เพราะอะไรฉันก็ไม่รู้เหมือนกันแต่จักรวรรดิไดจิเป็นจักรวรรดิที่มีปีศาจเวทมนตร์น้อยที่สุดในโลกนี้น่ะ”“ต้องมีเบื้องหลังสินะครับ”“ถึงเวลาเดี๋ยวนายก็จะรู้เอง”ป่าใหญ่แห่งนี้นั้นเป็นป่าที่อยู่ในเมืองไดอิกิ เรียกได้ว่ามันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของเมืองหลวง ซึ่งเดิมทีป่าก็เป็นตำแหน่งออกล่าของปีศาจเวทมนตร์อยู่แล้ว แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ทำให้จักรวรรดิแห่งนี้มีปีศาจเวทมนตร์ออกเพ

DMCA.com Protection Status