Share

บทที่ 20 : ส่วนหนึ่งของความจริง

Penulis: MIN-G
last update Terakhir Diperbarui: 2024-04-23 14:05:43

“หรือว่าคุณ.. คนที่ 13 สินะครับ?”

“ใช่แล้วล่ะ”

การช่วยเหลือที่อาคุมุได้รับในครั้งนี้ไม่ใช่การช่วยเหลือจากคนแปลกหน้าอย่างที่เขาคิด เพราะชายคนนี้เขาได้เคยเจอแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือผู้ใช้พลังปีศาจคนที่ 13

“แล้วทำไมถึงได้...” อาคุมุพูดยังไม่ทันจบประโยค ชายคนนั้นก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

“ยังไม่ต้องพูดอะไร รอถึงป่าใหญ่โน้นก่อน” เขาชี้ไปทางข้างหน้า อาคุมุจึงหันตาม

ป่าใหญ่ที่เขาบอกก็คือป่าเดียวกันกับที่เรย์ได้บอกอาคุมุเมื่อตอนอยู่บนรถม้า เป็นป่าที่ใหญ่พอสมควรโดยอยู่ทางริมสุดของเมืองไดอิกิ ติดกับเมืองข้าง ๆ กันซึ่งนั่นก็คือเมือง "คานะ" ป่านี้คือป่าใหญ่แห่งที่สองของจักรวรรดิที่อาคุมุได้พบเจอ

ไม่นานนักก็มาจนถึง เขาจึงพาอาคุมุวิ่งเข้าไปต่อ สิ่งที่อาคุมุตกใจมากที่สุดแน่นอนว่ามันก็คือความเร็วในการเคลื่อนที่ เพราะมันเร็วยิ่งกว่าการเคลื่อนที่ของนักเวท ทั้งที่ดูยังไงก็แทบไม่ต่างจากการวิ่งธรรมดาเลยแม้แต่น้อย ความเร็วกลับมีมากเกินกว่าจะพรรณนาได้

สิ่งที่อาคุมุตกใจไม่แพ้กันก็คือตอนที่เขาถูกช่วยไว้และกำลังออกมา ชายคนนี้ได้ใช้การพันธนาการอย่างหนึ่งซึ่งก็คือ "พันธนาการทางจิตแบบหมู่" นั่นคือการพันธนาก
Bab Terkunci
Lanjutkan Membaca di GoodNovel
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 21 : ทักษะระดับสูง

    การปรากฏตัวของโทชิในครั้งนี้ทำให้อาคุมุรู้อะไรหลาย ๆ อย่างในสิ่งที่เขาไม่รู้ แทบจะทุกเรื่องที่กล่าวมาก็เป็นได้การควบคุมออร่าพลังเวทนั้นทำได้ยากกว่าการควบคุมพลังเวทในร่างกายหลายเท่า เนื่องจากคนส่วนใหญ่คิดแค่ว่ามันมีไว้ใช้ในการบ่งบอกระดับพลังเพียงเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วมันสามารถนำมาใช้ได้ไม่ต่างจากพลังเวทเลยแม้แต่น้อย มากไปกว่านั้นคือผลกระทบจากการใช้ก็ไม่มี ออร่าพลังเวทจึงเป็นสิ่งที่ใช้งานได้ดีเป็นอย่างยิ่ง“ออร่าพลังเวทมันสามารถซ่อนได้ รวบรวมไว้ตรงไหนก็ได้ มันอยู่รอบตัวเราก็ไม่ได้แปลว่าจะใช้ไม่ได้สักหน่อย” โทชิพูดพร้อมกับเผยออร่าพลังเวทรอบตัวเขาให้อาคุมุได้เห็น ทั้งยังถ่ายเทไปยังจุดต่าง ๆ รอบตัวแต่ที่อาคุมุตกใจก็คือออร่าพลังเวทของโทชินั้นเป็นสีขาว?“ทำไมถึงเป็นสีขาวล่ะครับ? คนระดับคุณน่าจะสีส้มหรือสีแดงได้เลยนี่?”“นี่แหละคืออีกอย่างที่สามารถทำได้ มันเปลี่ยนสีได้ไงล่ะ” โทชิตอบกลับมา นั่นเป็นอีกอย่างหนึ่งที่อาคุมุคาดไม่ถึง และแน่นอนว่าคนที่ไม่รู้ก็คงคิดว่าออร่าพลังเวทของคนคนหนึ่งตามที่ตาเห็นคือสีนั้น ทั้งที่มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยการฝึกใช้ทักษะในตัวของมันเอง“อีกอย่างหนึ่งที่ฉันจะ

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-23
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 22 : ควบคุมวงแหวนเวท

    หลังจากที่อาคุมุสามารถใช้ทักษะบาทาไร้เงาได้แล้วนั้น ทักษะอีกอย่างที่ควรมีก็คือการสร้างวงแหวนเวท ซึ่งเป็นการสร้างวงแหวนเวทไว้ใช้ในการโจมตีโดยตรง ต่างจากการสร้างวงแหวนเวทธรรมดาเพื่อใช้ในการเคลื่อนที่ เพราะมันทั้งควบคุมยากกว่าและสารพัดประโยชน์ยิ่งกว่า“ตอนนี้เราวิ่งเข้ามาลึกกว่าเดิม ถ้าพวกนั้นจะออกตามหาก็คงต้องใช้เวลาหน่อย แต่ว่าถ้าเป็นตำแหน่งนี้สิ่งที่ควรระวังมากที่สุดมันไม่ใช่พวกนักเวทน่ะสิ” โทชิพูดขึ้นมา“หรือว่าจะหมายถึง.. ปีศาจเวทมนตร์เหรอครับ?”“ใช่แล้วล่ะ เราอยู่ในจุดที่ใกล้กลางป่ามากเท่าไร โอกาสที่จะเจอกับปีศาจเวทมนตร์ก็มากขึ้นเท่านั้น ที่เราต้องระวังรองลงมาก็คือนักเวท.. แต่ก็นะ ในจักรวรรดินี้ถึงจะมีก็มีได้ไม่เยอะหรอก เพราะอะไรฉันก็ไม่รู้เหมือนกันแต่จักรวรรดิไดจิเป็นจักรวรรดิที่มีปีศาจเวทมนตร์น้อยที่สุดในโลกนี้น่ะ”“ต้องมีเบื้องหลังสินะครับ”“ถึงเวลาเดี๋ยวนายก็จะรู้เอง”ป่าใหญ่แห่งนี้นั้นเป็นป่าที่อยู่ในเมืองไดอิกิ เรียกได้ว่ามันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของเมืองหลวง ซึ่งเดิมทีป่าก็เป็นตำแหน่งออกล่าของปีศาจเวทมนตร์อยู่แล้ว แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ทำให้จักรวรรดิแห่งนี้มีปีศาจเวทมนตร์ออกเพ

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-25
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 23 : ร้อนวิชา

    ในตอนนี้อาคุมุได้ผ่านการฝึกกับโทชิทั้งทักษะบาทาไร้เงาและการสร้างวงแหวนเวทเพื่อใช้โจมตีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เท่านี้ก็นับว่าเขาแข็งแกร่งขึ้นมามากพอสมควรถ้าฟังจากที่โทชิได้บอกไว้ และหลังจากนี้ก็จะขึ้นอยู่กับการฝึกฝนของตัวเขาเอง ความชำนาญในการใช้ทักษะต่าง ๆ จะทำให้เขาได้เปรียบในการต่อสู้.. แม้กระทั่งการวิ่งหนีอาคุมุนั่งลงและฝึกการสร้างวงแหวนเวทอีกครั้ง โดยเขาจะสร้างมันขึ้นมาสองอัน ตามเทคนิคที่เขาเข้าใจคาดว่าคงจะไม่ยากนัก“เอาล่ะ สร้างวงแหวนเวท!” เขาพูดขึ้นมาพร้อมกับยกแขนขวาขึ้นในระดับเอว หันฝ่ามือขึ้นและแยกนิ้วทั้งห้าออกจากกัน ซึ่งอาคุมุยังไม่ทันได้บีบอัดออร่าและพลังเวทไว้ตรงจุดเดียวแต่อย่างใด วงแหวนเวทสีฟ้าก็ปรากฏขึ้นเหนือฝ่ามือของเขาในทันที“เอ๋? ทำแบบนี้ได้แล้วหรอกเหรอ? ถ้างั้น..” ว่าแล้วอาคุมุก็ยกแขนซ้ายขึ้นมาในระดับเดียวกันและทำแบบเดียวกัน โดยเขาแค่เกร็งแขนและยังไม่ทันได้พูดว่าสร้างวงแหวนเวทเลยด้วยซ้ำ มันก็ปรากฏขึ้นมาเหนือฝ่ามือเขาเสียแล้ว“เยี่ยมเลย! ทำได้เร็วกว่าที่คิดแฮะ” การที่เขาฝึกฝนต่อหลังจากเรียนรู้เทคนิควิธีใช้ ทำให้เขามีความเข้าใจและสามารถควบคุมพลังได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังทำ

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-25
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 24 : ความประมาท

    การโจมตีในครั้งนี้อาคุมุไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์อะไรมากนัก แค่ได้นำสิ่งที่ฝึกฝนมาประยุกต์แล้วทดลองใช้ก็ถือว่าเป็นกำไรสำหรับเขาแล้ว อีกอย่างคือเขาสามารถหนีไปได้อย่างแน่นอนด้วยการใช้บาทาไร้เงา สังเกตได้จากการที่เขาออกมาจากการปิดล้อมนั้นได้โดยง่าย เพียงแต่ว่า.. เขายังไม่ได้ฝึกทักษะที่ใช้ป้องกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว ‘ไม่เป็นไร ยังไงเราก็พอหนีได้ล่ะนะ’ เมื่อควันเริ่มเบาบางลง เผยให้เห็นคนนับสิบนอนล้มอยู่ที่พื้นดิน โดยพื้นที่บริเวณรอบนั้นเป็นหลุมเป็นบ่อใหญ่พอสมควร “เอ๋? ทำไมถึงไม่ใช้เวทป้องกันล่ะเนี่ย?” อาคุมุเกิดความตกใจพอสมควรที่ไม่มีใครใช้เวทป้องกันเลยแม้แต่คนเดียว ซึ่งแท้จริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น “อึ่ก!... ไม่ใช่หรอก ใช้แล้วแต่ไม่ไหวต่างหาก” ชายหนุ่มผู้ที่เป็นหัวหน้าค่อย ๆ ยืนขึ้นและใช้ดาบที่อยู่ในมือประคองไว้ ซึ่งดาบของเขาติดตัวไว้ตำแหน่งไหนอาคุมุก็ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ที่น่าตกใจไปมากกว่านั้นคือการป้องกันกลับต้านพลังโจมตีของอาคุมุไม่ได้ ‘เดี๋ยวนะ เขาระดับสูงกว่าฉันมากเลยนี่ ทำไมถึงไม่ไหวได้ล่ะเนี่ย?’ “ฉันล่ะยอมใจนายจริง ๆ มิน่าล่ะองค์จักรพรรดิถึงต้องการตัว เอาล่ะฉันชื่อ "มิกาซูกิ คาซูโอ

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-25
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 25 : อยากพบ?

    ความประมาทของอาคุมุทำให้ตัวเขาเองได้รับบาดเจ็บมากที่สุดเท่าที่เคยเจอมา เสื้อขาดตามแนวของการโจมตีจนเผยให้เห็นรอยแผลเป็นปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน นี่คือบาดแผลขนาดใหญ่แผลแรกของเขา “จะเป็นยังไงล่ะครับ... ถ้าผมเก็บกวาดตรงนี้ซะหมด? แต้ม B ของผมคงจะมีเยอะมากและแข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดดเลยล่ะ มันคงจะดีต่อตัวผมมากเลยนะครับ” อาคุมุพูดพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก สายตาของเขานั้นดูน่ากลัวราวกับปีศาจอย่างไม่ต้องสงสัย “ม.. ไม่เอาน่า มันคงไม่ดีต่อตัวนายนักหรอก” คาซูโอะพูดด้วยน้ำเสียงและร่างกายที่มีอาการสั่นกลัวเล็กน้อย “ที่ไม่ดี.. เพราะกลัวตายหรือเปล่าครับ? ถ้าอย่างนั้น...” อาคุมุพูดยังไม่ทันจบก็ได้มีชายคนหนึ่งพูดแทรกขึ้นมา “นายควรพอได้แล้วนะน้องชาย คนพวกนี้ทำอะไรนายไม่ได้หรอก” “เอ๋? องค์ชาย?” ซึ่งชายคนนั้นก็คือองค์ชายชูยะนั่นเอง เขาปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับอากิระที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ในขณะที่อาคุมุไม่ทันได้สังเกตเห็น “องค์ชาย... ทั้งหมดเป็นฝีมือของเขาครับ!” คาซูโอะพูดขึ้นมาพร้อมกับชี้นิ้วไปยังอาคุมุ “คาซูโอะ... นายพามาแทบทั้งหน่วยเพื่อจัดการกับเด็กคนเดียวเนี่ยนะ? แต่ฉันจะบอกอะไรให้อย่าง.. เด็กคนนี้คือเพื่อน

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-25
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 26 : ทรยศ

    หลังจากที่อาคุมุได้พูดคุยกับองค์ชายชูยะเล็กน้อย องค์ชายชูยะก็บอกให้อากิระนั้นนำทางและพาอาคุมุไปยังที่พัก ซึ่งสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือองค์ชายนั้นจัดการเตรียมที่พักให้เป็นอย่างดี ซึ่งที่พักนั้นอยู่ในตึกใหญ่ที่อยู่นอกพระราชวัง แต่แค่นี้ก็ดีเกินกว่าที่อาคุมุนั้นต้องการแล้ว ทั้งยังมีสถานที่สำหรับใช้ในการฝึกที่อากิระจะแนะนำหลังต่อจากนี้ เริ่มจากการที่อากิระนั้นผลักประตูบานยักษ์ หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปตามโถงทางเดิน จนกระทั่งมาถึงห้องพักห้องหนึ่ง “นี่แหละห้องของนาย ลองเข้าไปดูสิ” อากิระกล่าวหลังจากที่เดินมาแล้วหยุดอยู่หน้าห้อง 06 นั่นคือหมายเลขห้องของเขา เมื่อได้ยินอย่างนั้นอาคุมุจึงเดินเข้าไป ในที่สุดก็มาถึงห้องของอาคุมุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งห้องนอนนั้นเป็นเพียงห้องสี่เหลี่ยมที่มีกำแพงเป็นสีขาวล้วนรอบด้าน มีเตียงนอนและของใช้ต่าง ๆ ครบครัน ทั้งโต๊ะทำงาน ตู้หนังสือ โคมไฟ หรือแม้กระทั่งดาบเล่มหนึ่งที่วางอยู่ แน่นอนว่าห้องนี้นั้นมีขนาดความกว้างมากกว่าห้องของเขาที่บ้าน ทั้งยังมีความสะดวกสบายมากเป็นพิเศษ ซึ่งเขาไม่แปลกใจเท่าไรเพราะนี่เป็นที่ที่องค์ชายชูยะเตรียมไว้ให้ “ห้องกว้างมากเลยล่ะครั

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-25
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 27 : การต่อสู้ในสถานที่ฝึกฝน

    “ฆ่ามันซะ!!!” อิชิโร่ตะโกนสั่งการนักเวทที่อยู่ข้างหลังเขา ซึ่งจำนวนที่มีนั้นไม่ได้น้อยเลย ทั้งยังมีมาสมทบเพิ่มอีกหลายคน โดยนักเวททุกคนนั้นใส่ชุดคลุมที่มีหมวกสีขาว ปิดหน้าด้วยผ้าสีดำ ไม่สามารถคาดเดาพลังเวทของคนพวกนี้ได้เลยแม้แต่น้อย“คิดจะลงมือแล้วก็เตรียมตัวรับแรงกระแทกไว้เลย!” อากิระตะโกนโต้ตอบพร้อมกับเตรียมที่จะต่อสู้ ซึ่งขณะนี้อาคุมุนั้นกำลังหลับตาและทำการบางอย่างอยู่ ทันใดนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นแล้วหันไปถามอากิระ“ลงมือได้ไหมครับ?”“แน่นอน! นี่น่ะมันคือการเปิดศึกแล้วไงล่ะ”เมื่อได้ยินอย่างนั้น อาคุมุก็ชี้นิ้วขึ้นไปข้างบนในทันที“มองดูข้างบนสิครับลุง”“ทำอะไรของแกน่ะเจ้าหนู? จะให้ฉันมองวิวที่มันเหมือนกับท้องฟ้า...” อิชิโร่พูดยังไม่ทันจบประโยค เขาก็ต้องตกตะลึงในทันที เพราะเหนือศีรษะของทุกคนขึ้นไปนั้น มีวงแหวนเวทขนาดเล็กอยู่เต็มไปหมด“แสงอัสนีบาต!!” เมื่อสิ้นเสียงของอาคุมุ วงแหวนเวทสีฟ้าได้ปรากฏขึ้นรอบข้อมือของเขา พร้อมกับการโจมตีด้วยสายฟ้าที่ลงมาจากข้างบนตู้มมม!!!“อ่อก! โธ่เว้ย” นักเวทจำนวนหนึ่งที่กำลังพุ่งเข้ามาหาอากิระนั้นโดนการโจมตีที่รุนแรงของอาคุมุเป็นพิเศษ เนื่องจากว่าจำนวนวงแหวน

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-25
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 28 : บาดแผล

    “ชิ! เพราะไอ้โง่คนเดียวเลยทำให้นักเวทชุดขาวอย่างเราถูกเด็กตัวแค่นี้หยามได้ ผู้ใหญ่หัวอ่อนน่ะมันมีแค่ไม่กี่คนหรอกนะเฟ้ย!!” หนึ่งในนักเวทพูดจบก็กระโดดขึ้นไปลอยค้างอยู่ในอากาศ“ปีกแห่งลม!” เขาใช้ทักษะพลังเวท ได้มีปีกซึ่งเป็นปีกแห่งลมปรากฏขึ้นมาที่ร่างกายของเขา จึงทำให้นักเวทคนนั้นสามารถบินได้“ไม่ธรรมดาเลยนะครับ”“ทักษะแบบนี้น่ะ มีน้อยคนที่จะสามารถใช้ได้ เพราะฉะนั้นแล้วก็เตรียมรับการโจมตีแบบที่นายไม่เคยเจอมาก่อนได้เลย!” ว่าแล้วนักเวทคนนั้นก็บินพุ่งตรงเข้ามาหาอาคุมุด้วยความเร็ว“กรงเล็บแห่งลม!!” ที่มือทั้งสองของนักเวทนั้นได้มีพลังเวทมาห่อหุ้ม จนก่อตัวเป็นกรงเล็บที่พร้อมสำหรับการโจมตี“บาทาไร้เงา... ผมไม่ยืนอยู่นิ่ง ๆ เพื่อให้โดนการโจมตีหรอกนะครับ” อาคุมุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบและแผ่วเบาขณะที่หลบการโจมตี ทั้งยังพูดในตอนที่เห็นการเคลื่อนที่ของนักเวทนั้นช้าลง จนกระทั่งเขาไปยืนอยู่ข้างหลังนักเวทคนนั้น“แสงอัสนีบาต!!” เมื่อสิ้นเสียงของอาคุมุ วงแหวนเวทสีฟ้าปรากฏขึ้นรอบข้อมือของเขา ตามด้วยการโจมตีจากแสงอัสนีบาตที่ออกมาจากวงแหวนเวทสีฟ้าเข้ม ซึ่งปรากฏให้เห็นอยู่หน้าฝ่ามือของอาคุมุ“อ่อก! ธ.. โธ่เว

    Terakhir Diperbarui : 2024-04-25

Bab terbaru

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 60 : มอบรางวัลด้วยเลือด [จบเล่ม 2]

    บทที่ 60 : มอบรางวัลด้วยเลือด [จบเล่ม 2]การต่อสู้จบลง สนามประลองแบบจำลองก็ได้หายไป อาคุมุลืมตาขึ้นมาก็พบว่าเขาอยู่ที่สนามประลองของจักรวรรดิไดจิเสียแล้ว เขามองไปรอบ ๆ ขณะเดียวกันกับเสียงตอบรับที่ดังมาจากผู้ชมทั่วทั้งสนามประลองอย่างครึกครื้น“อาคุมุชนะจริง ๆ ด้วย?!!”“เขาสู้แบบนั้นได้ยังไงกันนะ? โดนรุมนั่นน่ะ”“เจ้าเด็กคนนี้ต้องแข็งแกร่งขนาดไหนกันเนี่ย?! แน่ใจนะว่าไม่ใช่นักเวทของจักรวรรดิ?”“ตามดูเจ้าหนูนี่มาตั้งแต่วันแรก ไม่ทำให้ผิดหวังเลย!”…“ในรอบนี้เราสามารถหาผู้ชนะเลิศได้เลยล่ะครับทุกท่าน! ผู้ชนะการประลองของจักรวรรดิไดจิในครั้งนี้คือ… คาอิคะ อาคุมุ!!!” ผู้คุมสนามประกาศออกไปอย่างเป็นทางการด้วยผลการต่อสู้ที่เป็นเอกฉันท์กลางสนามประลองที่มีผู้ชมเป็นจำนวนมาก คู่ต่อสู้ทั้งหกคนของอาคุมุนั้นนอนบาดเจ็บอยู่ที่พื้น โดยมีอาคุมุยืนอยู่ท่ามกลางคนเหล่านั้น แม้การบาดเจ็บจะไม่ได้สาหัสมากนัก แต่ร่องรอยบาดแผลตามที่เห็นคงต้องใช้เวลาพอสมควร‘ไม่มีใครตายเพราะเมื่อพลังชีวิตแบบจำลองหมดไปก็จะถูกส่งออกมาทันทีสินะ’ อาคุมุที่ไม่ได้เข้าใจเกี่ยวกับทักษะสร้างภาพลวงตาของราชันจอมเวทอาวุโสนี้มากนัก ทำได้เพียงวิเ

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 59 : หนึ่งรุมหก

    บทที่ 59 : หนึ่งรุมหกการโจมตีที่รุนแรงและรวดเร็วของรินนั้นทำให้ฮิบาริไม่สามารถหลบหลีกหรือป้องกันได้ทั้งหมด ทำให้เขาต้องรับการโจมตีไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งพลังชีวิตแบบจำลองเป็นศูนย์ในตอนนี้ฮิบาริได้ถูกคัดออกจากการประลองแบบกลุ่มแล้ว ซึ่งทำให้กลุ่มของอาคุมุนั้นเหลือเพียงสามคน และภายในทักษะหมอกเพลิงสีชาดของรินนี้… เหลือเพียงอาคุมุและรินเท่านั้น“นายจะทำยังไงดีล่ะเจ้าหนูอาคุมุ? สู้กับฉันตัวต่อตัวไหวไหมนะ? อืม… ฉันมีสมาชิกอยู่ข้างล่างทั้งหมด 5 คนเนี่ยสิ คงจะเอาชนะฉันได้ไม่ง่ายหรอกมั้ง” รินพูดขึ้นมา ซึ่งนั่นทำให้อาคุมุแปลกใจในทันที“ว่าไงนะ? ทั้งหมดห้าคนนี่หมายความว่าอะไร?” อาคุมุถามกลับไป“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! นายนี่น่าขำจริง ๆ เลย คิดว่าเจ้าพวกที่เหลืออยู่จะมั่นใจในตัวนายแล้วไม่สนผลประโยชน์หรือไงกัน?” รินตอบกลับมา“หรือว่านั่นคือ…”“ใช่แล้วล่ะ! ฉันแค่เสนอให้พวกมันมาร่วมมือกับฉัน ข้อแลกเปลี่ยนคือการเข้าร่วมกลุ่มจันทราแดง ถึงจะถูกคัดออกและไม่ชนะเลิศในการประลอง แต่มีเงินใช้ง่าย ๆ ต่อจากนี้… ใครจะไม่ชอบกันล่ะ ลองดูนั่นสิ” รินพูดจนจบและชี้ลงไปยังข้างล่าง ซึ่งสิ่งที่เห็นนั้นคือสมาชิกกลุ่มของอาคุมุที

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 58 : ผู้ที่ถูกคัดออกคนแรก

    บทที่ 58 : ผู้ที่ถูกคัดออกคนแรกในตอนนี้ สถานการณ์ของอาคุมุและฮิบารินั้นไม่สู้ดีนัก พวกเขาถูกปิดล้อมไปด้วยทักษะหมอกเพลิงสีชาดของริน อีกทั้งยังถูกล้อมไปด้วยสมาชิกคนอื่น ๆ ในกลุ่มของรินจากภายนอก ซึ่งสามารถโจมตีเข้ามาได้โดยตรง เรียกได้ว่าถูกบีบให้จนมุมทั้งอย่างนั้น‘ซวยจริง ๆ แล้วไง’“ออกไปเฉย ๆ ไม่ได้เลย!” ฮิบาริกำลังพยายามจะดันตัวเองออกไปจากทักษะของริน‘ไอ้บ้านี่มันแกล้งทำเป็นไม่รู้เหรอ?’“ถ้าออกไปได้ง่าย ๆ เขาจะสร้างขึ้นมาทำไมล่ะครับคุณฮิบาริ?” อาคุมุถามกลับไป“พวกนายฟังฉันนะ! ทักษะหมอกเพลิงสีชาดนี้จะสามารถใช้ได้ 30 นาที หลังจากนั้นจะสามารถใช้ทักษะนี้ได้อีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไปอีก 30 นาที” รินพูดขึ้นมา“แล้ว... บอกทำไมเหรอครับ?” อาคุมุที่ได้ยินอย่างนั้นจึงถามกลับไป“เพราะว่า... ฉันสามารถเอาชนะพวกนายได้ใน 30 นาทีนี้ไงล่ะ!! กระสุนเพลิงสีชาด!!!” รินตอบกลับมาพร้อมกับยิงกระสุนเพลิงเข้าใส่อาคุมุและฮิบาริด้วยความเร็ว“ตาข่ายอัสนี!”ตู้มมมม!!!“อึ่ก! บ้าจริง”ถึงแม้อาคุมุจะใช้ทักษะป้องกันไว้ได้ทัน แต่ความเสียเปรียบนั้นปรากฏขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจน เพราะตาข่ายอัสนีของอาคุมุนั้นถูกทำลายได้โดยการ

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 57 : ความได้เปรียบเป็นศูนย์

    บทที่ 57 : ความได้เปรียบเป็นศูนย์รินและสมาชิกอีกสามคนได้มาถึงที่ตำแหน่งของอาคุมุ ซึ่งรินนั้นปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับอาวุธคู่กายอย่างปืนพกเช่นเดิม ส่วนอีกสามคนนั้นก็คือนักเวทชุดขาวเป็นผู้ชายสองคนและผู้หญิงอีกหนึ่งคน โดยทุกคนนั้นมีกระเป๋าสะพายอยู่ข้างหลัง“อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิดเลยล่ะครับ... ทุกอย่างเลย” สิ่งที่อาคุมุคิดไว้นั้นเป็นจริงทุกอย่าง ซึ่งก็คือการที่นักเวทชุดขาวทั้งสามนั้นเปลี่ยนชุดก่อนจะเข้ามายังสนามประลองแบบจำลองนี้“แต่ว่า... จะทำไปเพื่ออะไรเหรอครับ? เตรียมชุดมาเปลี่ยนตอนเข้ามาในนี้แล้วเนี่ย?” อาคุมุถามออกไป“ก็ถ้าพวกฉันอยู่ในบทบาทของนักเวทชุดขาวตั้งแต่ตอนที่อยู่ข้างนอกล่ะก็... คงจะโดนประท้วงพอดีน่ะสิ” หนึ่งในนักเวทชุดขาวตอบกลับมา“ฉันควรจะแนะนำตัวอีกครั้งไหมนะ? ฉันคือ อากาเนะ ริน เป็นเพียงคนที่กำลังจะได้เป็นจอมเวทระดับ 3 แล้วล่ะนะ!!” รินพูดขึ้นมาพร้อมกับจับปืนพกทั้งสองกระบอกไว้แน่น ลมจากแรงของพลังเวทปะทะเข้ากับร่างของอาคุมุโดยตรง‘กำลังจะได้เป็นจอมเวทระดับ 3 งั้นเหรอ? สีของออร่าพลังเวทกำลังจะเป็นสีแดงแล้วสินะ แข็งแกร่งขึ้นมากจริง ๆ ด้วย’“สุดยอดไปเลยนะครับ สมแล้วกับตำแหน่งรอ

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 56 : เริ่มการประลองแบบกลุ่ม

    บทที่ 56 : เริ่มการประลองแบบกลุ่มในตอนนี้ ผู้คุมสนามได้ทำการสร้างสนามประลองแบบจำลองเสร็จสิ้นแล้ว เป็นทักษะที่มีความเหมือนจริงเป็นอย่างมาก ถึงได้ชื่อว่าเป็นภาพลวงตา และด้วยความแข็งแกร่งระดับราชันจอมเวทอาวุโส การที่สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ก็คงจะไม่เกินจริงนัก...ที่สนามประลอง ภายนอกทักษะภาพลวงตา“สิ่งที่ทุกคนเห็นอยู่ตรงหน้านี้... คือสิ่งที่เกิดขึ้นภายในนั้นครับ” เสียงของผู้คุมสนามได้ดังกึกก้องไปทั่วทั้งสนามประลองด้วยทักษะพลังเวทของพิธีกร เสียงตอบรับจากคนดูก็เกิดขึ้นในทันที“น... นี่เหมือนฉันดูการประลองผ่านจอเลยนะ”“ข้างในนั้นจะไม่เป็นอะไรแน่เหรอ?”“ดูนั่นสิ! อาคุมุอยู่นั่นล่ะ!!”“ที่นั่นมันคือจำลองเมืองไหนหรือเปล่า? ที่ไหนในจักรวรรดิหรือเปล่านะ?”...สิ่งที่ทุกคนเห็นอยู่ตรงหน้านั้น คือลูกบาศก์ขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยออร่าของพลังเวทสีม่วง ลอยอยู่ในอากาศตรงกลางสนามประลอง ทั้งสี่ด้านนั้นเผยให้เห็นภาพจากมุมมองของแต่ละคนและมุมมองภาพรวมภายในนั้น ราวกับว่ากำลังดูผ่านจอขนาดยักษ์“สถานที่ภายในนั้นคือเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในจักรวรรดิ มีชื่อว่าเมืองชิโตเสะครับ... ขอให้ทุกคนเพลิดเพลินไปกับการประลองในครั้ง

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 55 : ราชันจอมเวทอาวุโส?

    บทที่ 55 : ราชันจอมเวทอาวุโส?กฎและกติกาการแข่งขันในรอบ 8 คนสุดท้ายนั้น ได้ถูกเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันโดยไม่ได้มีการประกาศล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เข้ารอบหรือผู้ชมทั่วทั้งสนามประลอง ไม่เคยมีใครคิดไว้ว่าจะถูกเปลี่ยนเป็นการประลองแบบกลุ่ม“เริ่มจากการจัดกลุ่ม กลุ่มที่ 1 จะมีผู้ชนะจากสายการต่อสู้เดิมก็คือสาย A, B, C และ D ส่วนกลุ่มที่ 2 ก็จะมีผู้ชนะจากสายการต่อสู้เดิมคือสาย E, F, G และ H ครับ”พิธีกรได้ประกาศวิธีการแบ่งกลุ่มให้กับทั้ง 8 คน‘ฉันพอเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงแบ่งกลุ่มง่าย ๆ แบบนี้...’‘...เพราะรินอยู่ในกลุ่มที่ 2 สินะ? การคาดเดาของฉันถูกต้องอย่างแน่นอน!’สิ่งที่อาคุมุคิดไว้นั้นมีเพียงความได้เปรียบของฝั่งตรงข้าม ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด และในสถานการณ์ตรงหน้านี้ ความได้เปรียบที่ว่าก็คงจะหนีไม่พ้นการที่กลุ่มนั้นมีคนอย่างรินอยู่ด้วยนั่นเอง“ก่อนที่จะเข้าสู่ลำดับถัดไป...” พิธีกรพูดยังไม่ทันจบประโยค เสียงจากแท่นด้านบนก็ดังขึ้นมาในทันทีตึ้ง!!ซึ่งเป็นเสียงขององค์จักรพรรดิที่ใส่พลังเวทเข้าไปในแท่นข้าง ๆ ตัว สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ทำให้ทุกคนต่างก็ตกใจกันไปตาม ๆ กัน“องค์จักร

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 54 : รอบ 8 คนสุดท้าย

    บทที่ 54 : รอบ 8 คนสุดท้ายอาคุมุนั้นเก็บชัยชนะไปได้อีกครั้ง ทุกรอบของการลงสนาม อาคุมุได้สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน แต่จากการที่สามารถเอาชนะผู้ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ ทำให้ทั่วทั้งเมืองหลวงแห่งนี้ได้รับรู้และได้สัมผัสแล้ว... ...ว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นเป็นเช่นไรโดยไร้ข้อกังขาวันต่อมาในเวลาเดิม อาคุมุและคาเอเกะก็เดินไปยังสนามประลอง วันนี้เขาได้สะพายกระเป๋าและเตรียมเสื้อคลุมยาวใส่ไว้ในกระเป๋าด้วย แน่นอนว่าของสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือดาบแห่งราชันสิ่งที่เกิดขึ้นก็ยังคงเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งก็คือเหล่าผู้คนที่เข้าหาล้อมหน้าล้อมหลัง‘เฮ้อ! ฉันล่ะเหนื่อยจริง ๆ เลย ในช่วงอาคุมุพบปะประชาชนเนี่ย’“ยินดีต้อนรับท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย!! ไม่ว่าจะเป็นผู้เข้าแข่งขัน หรือผู้ที่ชื่นชอบในการประลอง วันนี้... เราเดินทางมาถึงวันสุดท้ายในการประลองของจักรวรรดิไดจิแล้วครับ!!!”ผู้เป็นพิธีกรกล่าวขึ้นมาเพียงเท่านั้น กระแสตอบรับของผู้คนต่างก็แตกออกเป็นสองเสียง ทั้งคนที่ดีใจกับการจะได้เห็นรอบชิงชนะเลิศ และคนที่เสียใจกับการจบลงของการประลองอันแสนดุเดือดนี้“ใกล้จะได้ดูรอบชิงแล้วโ

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 53 : คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด

    บทที่ 53 : คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดการโจมตีของอาคุมุในครั้งนี้นั้นรุนแรงยิ่งกว่าการโจมตีของดาอิเสียอีก ทั้งยังทำให้ดาอิต้องถอยร่นออกไปเพื่อรับมือกับการโจมตีนี้‘ถึงจะบอกว่าลบล้างสิ่งชั่วร้าย แต่ไอ้หมอนี่ดูจะไม่ใช่คนชั่วร้ายแบบนั้นเลยนะ หมายความว่ายังไงกันแน่เนี่ย? ฉันล่ะไม่เข้าใจกับดาบเล่มนี้เลยจริง ๆ แฮะ’อาคุมุยังคงครุ่นคิดกับสิ่งที่มังกรผู้เป็นเจ้าของดาบแห่งราชันได้บอกไว้“แต่... ดาบฉัน? มันไม่ได้อยู่ในมือนี่?!” นั่นคือสิ่งที่อาคุมุเพิ่งจะรู้สึกตัวได้“ความรู้สึกนายนี่มันช้าจริง ๆ เลยนะ” ดาอิพูดและเดินเข้ามาหาอาคุมุอย่างช้า ๆ พร้อมกับดาบแห่งราชันที่อยู่ในมือดาอินั้นสามารถหลบการโจมตีที่รุนแรงของอาคุมุได้เพียงบางส่วน ซึ่งเขาได้รับบาดเจ็บมากพอสมควร“แล้วมันไปอยู่ที่คุณได้ยังไงกัน? แล้วก็สภาพแบบนั้น...”“การโจมตีของนายมันรุนแรงจนดาบนายหลุดมือมาทางนี้เลยล่ะ ฉันแค่โดนเฉียด ๆ ยังเละขนาดนี้ ถ้าฉันรู้สึกตัวช้าอีกหน่อยคงละเอียดจนเป็นผงไปแล้ว” ดาอิตอบกลับมาพร้อมกับโยนดาบแห่งราชันของอาคุมุไปยังทางด้านหลังของตัวเขาเอง จุดที่ดาบตกอยู่นั้นคือขอบของสนามประลองพอดี“ปล่อยมันไว้แบบนั้นก่อนก็แล้ว

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 52 : พลังที่แท้จริง?

    บทที่ 52 : พลังที่แท้จริง?“ลุกขึ้นมาซะ!! ผมบอกแล้วไง... ว่าผมกำลังต้องการคู่ซ้อมน่ะ” อาคุมุพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ใครเห็นต่างก็คงต้องขนลุกไปตาม ๆ กัน“นี่แก... เป็นบ้าไปแล้วรึไง?! ชนะขาดลอยขนาดนี้แล้วยังจะเอาอะไรอีกห๊ะ?!!” ดาอิตอบกลับมา“ขาดลอย?”ดาอิที่ได้ยินอย่างนั้นก็แปลกใจ“อะไรของแก?”“ผมถามอะไรคุณหน่อยสิ คุณผู้ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์... หากได้ชัยชนะมาแบบนี้นี่คุณภูมิใจเหรอครับ? ทั้งที่อีกฝ่ายยังไม่ได้ใช้พลังเลยเนี่ยนะ? ผมไม่เอาด้วยหรอกนะครับ” อาคุมุถามกลับไปดาอิที่ได้ยินอย่างนั้นก็ชะงักไปในทันที“อึ่ก... แต่ตอนนี้เราแค่ประลองกันนี่! จะเล่นเอาตายเลยหรือไง?!! แกคิดจะรบเร้าฉันไปถึงไหน?”“ถ้าผมตายขึ้นมาจริง ๆ ล่ะก็... คนที่ได้ผลประโยชน์คือคุณไม่ใช่เหรอครับ? แข็งแกร่งขึ้นมาทันตาเห็นเลยนะ เป็นจอมเวทระดับ 3 เลยสิเนี่ย? ระดับพลังเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเลยแฮะ...” อาคุมุพูดแล้วจึงหยุดไป“ฮ่า! แก... ไม่สิ นายนี่ทำให้ฉันนึกถึงสิ่งที่ลืมคิดไปได้ยังไงกันนะ? หาแรงจูงใจมาให้ฉันจนได้!!” ดาอิพูดพร้อมกับใช้หอกดันตัวขึ้น ออร่าพลังเวทได้ถูกแผ่ออกมาจากรอบ ๆ ตัวเขา “ไม่ธรรมดาจริง ๆ เลย ต้องแบบนี้สิครั

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status