หากแต่... ชั่วขณะหนึ่งที่นายเหล็กคิดดูหมิ่น ดวงตาคมกริบเหลือบมองตรงมาที่เขาในทันที และจ้องมองอยู่เนิ่นนานเป็นนาทีก่อนที่มุมปากจะยกสูงเพียงเล็กน้อยอยู่ในถิ่นกู จงหัดเจียมตนเสียบ้างเถิดสุรเสียงท้าทายดังกึกก้องในภวังค์จิต ราวกับต้องการให้ล่วงรู้ความคิดของอีกฝ่าย นายเหล็กมองไปยังชายวัยกลางคนที่ยืนกอดอกอยู่ริมบานหน้าต่าง ดวงตาสีทมิฬกำลังตีหน้านิ่วคิ้วขมวด หากแต่เสียงที่กังวานชัดอยู่นั้น คือเสียงของชายข้างบานหน้าต่างที่ใช้อาคมคุยผ่านจิตส่งมาให้เขามันมิวิชาด้วยหรือ?ดวงตาคมปลาบของนายเหล็กแอบซ่อนความหงุดหงิดฉุนเฉียวเอาไว้ พร้อมๆ กับร่างใหญ่ที่ยืนริมหน้าต่างชักม่านปิดลงและบดบังภาพภายในหอนอน จากต้นโพธิ์ที่แผ่กิ่งก้านสาขาตรงนี้นั้นไม่สามารถมองเห็นเงาเลือนรางภายในได้ชัดถนัดนัก นายเหล็กรู้สึกระคายใจ เขารอจังหวะที่บ่าวนายหนึ่งเดินมาใกล้ต้นโพธิ์ ก่อนที่จะกระโดดตะครุบคอของมันและหักคอของบ่าวคนนั้นจนบิดผิดรูปไปอีกข้าง ทุกกระบวนการที่ทำนั้นเงียบสงัดไร้สุ้มเสียงร่างกำยำคล้ำแดดของนายบ่าวล้มลงไป นายเหล็กลากเขาไปซ่อนหลังต้นโพธิ์ และสวดคาถาจนสามารถแปลงกายเป็นบ่าวคนนั้นได้ทุกกระเบียดนิ้ว พร้อมกับชักคบเพล
“ให้ตายเถิด คิดว่าจักมิพิษสงมากกว่านี้ แต่เนื้อแท้ก็แค่ตาแก่ตัณหากลับเท่านั้น หลงอีนี่จนโงหัวไม่ขึ้น รู้หรือไม่ว่านางกระทำชั่วสิ่งใดลับหลังผัวเก่...!!”ปัง!!“กรี๊ด!”เสียงปืนคาบศิลาดังกึกก้องไปทั่วหอนอนทันทีที่ยังไม่สิ้นคำครหา ส่งผลให้มีเสียงนกกาแตกตื่นรอบบริเวณต้นไม้รอบเรือน บ่าวชายร่างใหญ่ล้มลงหงายท้องตึงสู่พื้นไม้โดยพลัน พร้อมกับเลือดมากมายที่เจิ่งนองออกมาจากศีรษะดวงตาของนางบัวงามเบิกกว้างสุดขีด รีบผลุนผลันถลาลงจาดเตียงนอนเพื่อมองสภาพศพ หากแต่กลับโดนเรียวแขนแกร่งขวางทางเอาไว้“พี่ทำอะไรลงไปเนี่ย!” ร่างเล็กรีบหันไปปรามาสสามีของตนเอง หากแต่สีหน้าของพระยาสิงขรยังคงความเรียบเฉยค่อนไปทางเย็นยะเยือกจนน่าขนลุก ราวกับว่าเขาเพิ่งกำจัดสิ่งที่แสนโสโครกออกไปก็ไม่ปาน“ถ้ายังดูมิออก ก็ตายตามมันไปเสีย” วาจาช่างไร้ความเห็นใจ นางสาวบีกลอกตามองบน อาจจะเพราะชินชากับนิสัยและปากหมาๆ ของขุนแสนคำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่กว่าจะรู้ตัวร่างกายใหญ่โตที่ล้มหงายท้องลงไปนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นนั้นก็หยัดกายขึ้นมายืนเต็มความสูงอีกครั้ง พร้อมๆ กับหน้าผากที่ควรจะเป็นรูโหว่และเลือดทะลั่กกลับมีแค่รอยเขม่าดินปืนเเละแผ
ถ้าในฐานะกายหยาบของพระยาสิงขร นางบัวงามไม่ต่างอะไรกับคนแปลกหน้าก็จริง แต่สำหรับวิญญาณขุนแสนคำ หล่อนคือไส้ศึกของเขารวมทั้งเป็นเมียของเขาด้วย“กูขอปฏิเสธที่จะยกบัวงามให้ ขอโทษที พอดีผู้หญิงที่ชั่วช้าคนนี้เป็นเมียที่กูหลงจนคลั่งมากเสียจนกู่ไม่กลับแล้ว”นางสาวบีไม่ได้ใจสั่นระรัวให้กับประโยคนั้น เธอไม่ใช่คนโง่งมที่บูชาและจมปลักกับความรัก จริงๆ ก็พอจะเดาได้ว่าขุนแสนคำอาจจะพูดแบบนี้เพื่อแสดงละครตบตาอีกฝ่าย เลยเตรียมสติสตังมาอย่างดี“งั้นรึ งั้นกูจักขอใช้กำลังแย่งมาจากมึงก็แล้วกัน!!”ดวงตาคมคร้ามของนายเหล็กวาวโรจน์พร้อมกับพุ่งตรงเข้าหาพระยาสิงขรในเนื้อที่อันจำกัด แต่มือของชายวัยกลางคนนั้นว่องไวราวกับคาดเดาเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว เขาลั่นไกปืนทันที เฉียดไหล่เปลือยของร่างนายจ้อยไปจนเกิดบาดแผลถลอกเพียงเท่านั้น แต่นั่นส่งผลให้นายเหล็กมาถึงตัวของชายหนุ่มได้จนประชิดตัว เขาก้มหลบด้ามปืนเหล็กที่อีกฝ่ายตวัดจะฟาดแสกหน้า พยายามเข้าประชิดนางบัวงามที่ก้มหมอบอยู่แทบเท้าของพระยาสิงขร แต่ก็โดนขวางทางด้วยร่างกำยำ ชายวัยกลางคนเหวี่ยงหมัดกระแทกครึ่งปากครึ่งจมูกของนายเหล็ก ในขณะที่อีกฝ่ายบิดมือชักด้ามพร้าเข้าฟันแขนแก
แต่มันก็สายเกินกว่าจะร้องขอชีวิตจากขุนแสนคำได้แล้วเช่นกันนายพลตูระเซยะรู้สึกได้ถึงความเย็นวาบที่ซึมซาบมาตามผิวหนัง พอก้มลงมองตรงช่วงอกก็เห็นโลหิตสีแดงฉานค่อยๆ ขยายไปตามบาดแผล สัมผัสได้ถึงกระสุนที่ฝังเฉียดก้อนเนื้อที่เต้นตุบๆ อยู่ภายในร่างกายไปเพียงนิ้วเดียวทาบ วินาทีแรกเขาตกใจสุดขีด เพราะตนเองนั้นเป็นนักรบผู้ไร้พ่าย ไม่เคยมีกระสุนไฟหรือดาบพร้าใดที่สามารถเฉียดเนื้อหนังของตนได้มาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่กระสุนเฉียดขั้วหัวใจของเขาไปได้เพียงเสี้ยวเดียวกว่าจะรู้สึกตัวทั้งร่างกายก็ชาหนึบไปทั้งตัว กายาใหญ่ค่อยๆ หงายหลังลงไป ร่วงหล่นกระแทกกับพื้นไม้ เลือดมากมายทะลักออกปาก โลหิตเจิ่งนองทั่วบริเวณ ดวงตาที่เหลือกขึ้นบนสบตาเข้ากับร่างใหญ่กำยำของพระยาสิงขรที่ยืนค้ำอยู่เหนือหัว ดวงตาสีหม่นที่หลุบมองลงมานั้นเย็นยะเยือกราวกับกำลังมองสัตว์ร้ายที่ตนเองเพิ่งกำจัดไป“อั่ก... ไอ้” ไม่มีรูปประโยคใดๆ ออกมาจากริมฝีปากที่ซีดเซียวนอกจากเลือดที่ทะลักทะล้นออกมาเต็มอุ้งปากที่เริ่มออกสีคล้ำนางสาวบีเพิ่งเห็นท่าทางของคนที่กำลังอยู่ในอาการโคม่าจากการโดนยิงเป็นครั้งแรก หล่อนค่อยๆ คลานออกมาจากใต้เตียงหลังเกิดเสียงร
“เดี๋ยวก่อนสิคะ... คุณพี่ แหม”เสียงที่ดังเล็ดลอดออกมาจากภายในหอนอนที่ราวกับเป็นเรือนหอของพระยาสิงขรและเมียคนที่สามอย่างออกหน้าออกตานั้นทำให้แม่เอื้องน้อยที่ยืนเงี่ยหูฟังร่วมกับพี่เลี้ยงประจำตัวด้านนอกบานประตูด้วยอารามถือวิสาสะถึงกับเจ็บแปลบปลาบที่อกอิ่มอย่างไม่มีสาเหตุ ดวงหน้าสาวลูกครึ่งซีดเผือดลงถนัดตา เนื่องจากก่อนที่คุณพี่เลือกที่จะหมั้นหมายกับผู้หญิงคนนี้ เขาให้เหตุผลว่าแค่เพียงต้องการดูแลหนึ่งในสิ่งที่อดีตลูกศิษย์นั้นให้ความสำคัญมาก พระยาสิงขรอ้างว่าขุนหลวงที่ตายไปในสงครามคนนั้นมาเข้าฝันว่ายังมีห่วงต่อผู้หญิงคนนี้แต่มันก็ไม่ชอบมาพากลตั้งแต่แรกแล้ว เธอรู้ว่าคุณพี่มีรสนิยมเรื่องกามเพศนั้นรุนแรงจนแม้กระทั่งคุณผู้หญิงยังรับไม่ไหว และเธอเองก็ไม่ใช่คนที่เขาต้องการ เขาจึงมักไปหาเศษหาเลยจากโสเภณีเหล่านั้นนอกบ้านนอกเรือนเสมอ แต่ไม่คิดว่าเขาจะอยากครอบครองแม้กระทั้งเมียของลูกศิษย์ตนเองผู้หญิงคนนี้เอง... ก็อาจพ่ายแพ้ต่อยศถาบรรดาศักดิ์ จนเลือกเข้ามาเป็นอนุภริยาพระยาคราวพ่อก็ได้น่ารังเกียจสิ้นดี สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกกินแม้กระทั่งผู้หญิงของคนที่ปากบอกว่าเอ็นดูมาแต่เด็กหนักหนาจะแก้ตัวว่าลูก
หญิงนางหนึ่งงดงามเหลือจักกล่าว มีข่าวคราวถึงนางให้โศกศัลย์ด้วยท่านพ่อต้องการเมียมากอนันต์ รับหญิงหม้ายขันหมากมาสู่ขอท่านพี่เป็นเช่นไรในเเดนสรวง คงเย็นยวงมิได้กันเเล้วหนาถ้าได้กลอนนี้เมื่อไรจงตอบมา เเลข้าจักส่งคนไปในเร็ววันลงชื่อลายมือยิ่งยง ผู้เป็นน้องรักของเจ้าคุณพี่เสมอมาไอ้ยิ่งยงมันช่างเจ้าบทเจ้ากลอนมิเคยเปลี่ยนเลยสิหนา คงอยากให้ข้ารู้จนตัวสั่นว่าตนเองนั้นเล่าเรียนได้ระดับสูงถึงเพียงไหนริมฝีปากหยักลึกฉีกยิ้มพลางสอดกระดาษนั้นเผาลงกับไฟตะเกียง กลิ่นกำยานหอมผสมปนเปกับกลิ่นยาสูบจนเกิดกลุ่มควันลอยฟุ้ง ร่างกายเปลือยเปล่าของหญิงสาวนางหนึ่งซุกไซร้อยู่เบื้องบนร่างกายกำยำใหญ่โตของ ‘ยอดหล้า’ พี่ชายคนโต ที่ตอนนี้เพิ่งได้รับตำแหน่งขุนหลวงมาเมื่อไม่นานนัก“จดหมายนั้น... ท่านเผามันทำไมกันหรือเจ้าคะ” หญิงสาวโฉมสะคราญถามถึงแผ่นกระดาษที่เห็นลายมืองดงามที่ค่อยๆ เผาไหม้ไปเป็นเถ้าถ่าน ยอดหล้าหันกลับมาสบหน้าหล่อน พลางส่ายหน้า“กระผมได้รับข่าวเรื่องการหมั้นหมายของคุณแม่คนใหม่ เลยวุ่นวายใจเล็กน้อยขอรับ”“แต่ข่าวลือเรื่องการหมั้นหมายกับเมียหม้ายของขุนหลวงที่ตายในสนามรบคนนั้นกับพ่อของท่านก็เลื่องลืออ
ติ๊ด ติ๊ดติ๊ด ติ๊ดติ๊ดดดดดดชีพจรที่เคยดังเป็นจังหวะ ส่งสัญญาณยาวพรืดบ่งบอกชัดเจนว่าการเต้นของหัวใจของคนที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้นั้นได้หยุดลงอย่างกะทันหัน พยาบาลและหมอเถื่อนที่สัมผัสได้ว่าหายนะกำลังจะมาถึง เมื่อหนึ่งในคนไข้ที่มาผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกกับหมอกระเป๋าโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ บัดนี้การผ่าตัดผิดพลาดจนเสียเลือดมากเกินไปร่างเล็กของ ‘นางสาวบี’ กระตุกช็อกจากอาการเสียเลือดขั้นรุนแรงและเข้าสู่อาการโคม่าในสภาพกึ่งเปลือยคาห้องผ่าตัด เปิดเปลือยอกไข่ดาวสู่สาธารณะชน ซิลิโคนปลอมในมือหมอยังชุ่มเลือด ทั้งพยาบาลและหมอเถื่อนต่างรีบหาทางหนีทีไล่เมื่อเผลอทำให้คนไข้ที่มาศัลยกรรมด้วยเจอพิษมีดหมอกระเป๋าดับอนาถสิ้นใจคาห้องผ่าตัดเล็กๆ แห่งนี้ ด้วยศพนี้อาจจะทำให้ตำรวจรวบตัวเองและจบสิ้นอนาคตหมอศัลยกรรมหน้าใหม่ผู้ร่ำรวย‘ว่าแล้วไง! อีนังผึ้งนี่มันต้องเป็นหมอเถื่อนชัวร์ป้าบ’ กว่าจะรู้สึกตัวว่าวิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้ว นางสาวบีที่นั่งขัดสมาธิล่องลอยอยู่เหนือร่างกายอเนจอนาถที่นอนไร้ลมหายใจอยู่เบื้องล่างตบเข่าฉาด ‘ต้องไปเข้าฝันบอกแม่ไหมเนี่ย แต่ก่อนอื่นต้องไปตามหลอกหลอนอีหมอผึ้งนี่ก่อนเลย’เป็นวิญญาณอาฆาตตั
“บัวงาม นี่เอ็งจำแม่มิได้รึ!”คุณหญิงจันทร์งามทำท่าลมจะจับอีกรอบเมื่อเห็นว่าหลังจากที่บุตรสาวนามว่า ‘บัวงาม’ ล้มป่วยหลังจากข่าวการตายของชายอันเป็นที่รัก นางก็นอนซมไม่ได้สติมาสามวัน จนวันนี้ที่ลูกฟื้นขึ้นมา ดันเกิดอาการความจำเลอะเลือน จนจำแม้กระทั่งมารดาที่เป็นคนเบ่งนางออกมามิได้“ใครคือบัวงามอ่ะป้า ฉันเหรอ?” ว่าพลางชี้ไปที่ตนเอง คุณหญิงจันทร์งามถึงกับรับไม่ได้เดินหนีไปทางอื่นจนเด็กสาวที่นั่งอยู่รั้งไว้ไม่ทัน นางสาวบีขมวดคิ้วยุ่ง ไม่เข้าใจคุณป้าการละคร แต่กลับสากคอ หิวน้ำเหลือเกิน “นี่ พวกพี่ๆ น่ะ มีน้ำไหม ถ้ามีเอามาให้ฉันที”“จะ... เจ้าค่ะคุณบัวงาม” ผู้หญิงผมสั้นนุ่งผ้ารัดอกเหล่านั้นมีท่าทางกล้าๆ กลัวๆ แต่ก็ยอมเอาน้ำใส่ขันมาให้หญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียงไม้สักแต่โดยดี แม้ว่านางสาวบีจะสงสัยในชื่อบัวงามที่หลุดออกมาจนนับคำได้ของทั้งสาวใช้และป้าคนเมื่อกี้ เลยได้แต่มองไปรอบๆ ห้องที่ตนอยู่ เครื่องตบแต่งดูไท๊ยไทย โบราณเสียจนต้องพลั้งปากถามออกไป“นี่ ฉันอยู่ที่ไหนเหรอ”“นะ... นี่คุณบัวงามจำกระไรมิได้จริงๆ หรือเจ้าคะ?” นั่นเป็นคำถามที่ดูจะตื่นตระหนกของพวกหล่อน แต่เธอก็พยักหน้ารับตามตรง“อื้ม จำอ
หญิงนางหนึ่งงดงามเหลือจักกล่าว มีข่าวคราวถึงนางให้โศกศัลย์ด้วยท่านพ่อต้องการเมียมากอนันต์ รับหญิงหม้ายขันหมากมาสู่ขอท่านพี่เป็นเช่นไรในเเดนสรวง คงเย็นยวงมิได้กันเเล้วหนาถ้าได้กลอนนี้เมื่อไรจงตอบมา เเลข้าจักส่งคนไปในเร็ววันลงชื่อลายมือยิ่งยง ผู้เป็นน้องรักของเจ้าคุณพี่เสมอมาไอ้ยิ่งยงมันช่างเจ้าบทเจ้ากลอนมิเคยเปลี่ยนเลยสิหนา คงอยากให้ข้ารู้จนตัวสั่นว่าตนเองนั้นเล่าเรียนได้ระดับสูงถึงเพียงไหนริมฝีปากหยักลึกฉีกยิ้มพลางสอดกระดาษนั้นเผาลงกับไฟตะเกียง กลิ่นกำยานหอมผสมปนเปกับกลิ่นยาสูบจนเกิดกลุ่มควันลอยฟุ้ง ร่างกายเปลือยเปล่าของหญิงสาวนางหนึ่งซุกไซร้อยู่เบื้องบนร่างกายกำยำใหญ่โตของ ‘ยอดหล้า’ พี่ชายคนโต ที่ตอนนี้เพิ่งได้รับตำแหน่งขุนหลวงมาเมื่อไม่นานนัก“จดหมายนั้น... ท่านเผามันทำไมกันหรือเจ้าคะ” หญิงสาวโฉมสะคราญถามถึงแผ่นกระดาษที่เห็นลายมืองดงามที่ค่อยๆ เผาไหม้ไปเป็นเถ้าถ่าน ยอดหล้าหันกลับมาสบหน้าหล่อน พลางส่ายหน้า“กระผมได้รับข่าวเรื่องการหมั้นหมายของคุณแม่คนใหม่ เลยวุ่นวายใจเล็กน้อยขอรับ”“แต่ข่าวลือเรื่องการหมั้นหมายกับเมียหม้ายของขุนหลวงที่ตายในสนามรบคนนั้นกับพ่อของท่านก็เลื่องลืออ
“เดี๋ยวก่อนสิคะ... คุณพี่ แหม”เสียงที่ดังเล็ดลอดออกมาจากภายในหอนอนที่ราวกับเป็นเรือนหอของพระยาสิงขรและเมียคนที่สามอย่างออกหน้าออกตานั้นทำให้แม่เอื้องน้อยที่ยืนเงี่ยหูฟังร่วมกับพี่เลี้ยงประจำตัวด้านนอกบานประตูด้วยอารามถือวิสาสะถึงกับเจ็บแปลบปลาบที่อกอิ่มอย่างไม่มีสาเหตุ ดวงหน้าสาวลูกครึ่งซีดเผือดลงถนัดตา เนื่องจากก่อนที่คุณพี่เลือกที่จะหมั้นหมายกับผู้หญิงคนนี้ เขาให้เหตุผลว่าแค่เพียงต้องการดูแลหนึ่งในสิ่งที่อดีตลูกศิษย์นั้นให้ความสำคัญมาก พระยาสิงขรอ้างว่าขุนหลวงที่ตายไปในสงครามคนนั้นมาเข้าฝันว่ายังมีห่วงต่อผู้หญิงคนนี้แต่มันก็ไม่ชอบมาพากลตั้งแต่แรกแล้ว เธอรู้ว่าคุณพี่มีรสนิยมเรื่องกามเพศนั้นรุนแรงจนแม้กระทั่งคุณผู้หญิงยังรับไม่ไหว และเธอเองก็ไม่ใช่คนที่เขาต้องการ เขาจึงมักไปหาเศษหาเลยจากโสเภณีเหล่านั้นนอกบ้านนอกเรือนเสมอ แต่ไม่คิดว่าเขาจะอยากครอบครองแม้กระทั้งเมียของลูกศิษย์ตนเองผู้หญิงคนนี้เอง... ก็อาจพ่ายแพ้ต่อยศถาบรรดาศักดิ์ จนเลือกเข้ามาเป็นอนุภริยาพระยาคราวพ่อก็ได้น่ารังเกียจสิ้นดี สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกกินแม้กระทั่งผู้หญิงของคนที่ปากบอกว่าเอ็นดูมาแต่เด็กหนักหนาจะแก้ตัวว่าลูก
แต่มันก็สายเกินกว่าจะร้องขอชีวิตจากขุนแสนคำได้แล้วเช่นกันนายพลตูระเซยะรู้สึกได้ถึงความเย็นวาบที่ซึมซาบมาตามผิวหนัง พอก้มลงมองตรงช่วงอกก็เห็นโลหิตสีแดงฉานค่อยๆ ขยายไปตามบาดแผล สัมผัสได้ถึงกระสุนที่ฝังเฉียดก้อนเนื้อที่เต้นตุบๆ อยู่ภายในร่างกายไปเพียงนิ้วเดียวทาบ วินาทีแรกเขาตกใจสุดขีด เพราะตนเองนั้นเป็นนักรบผู้ไร้พ่าย ไม่เคยมีกระสุนไฟหรือดาบพร้าใดที่สามารถเฉียดเนื้อหนังของตนได้มาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่กระสุนเฉียดขั้วหัวใจของเขาไปได้เพียงเสี้ยวเดียวกว่าจะรู้สึกตัวทั้งร่างกายก็ชาหนึบไปทั้งตัว กายาใหญ่ค่อยๆ หงายหลังลงไป ร่วงหล่นกระแทกกับพื้นไม้ เลือดมากมายทะลักออกปาก โลหิตเจิ่งนองทั่วบริเวณ ดวงตาที่เหลือกขึ้นบนสบตาเข้ากับร่างใหญ่กำยำของพระยาสิงขรที่ยืนค้ำอยู่เหนือหัว ดวงตาสีหม่นที่หลุบมองลงมานั้นเย็นยะเยือกราวกับกำลังมองสัตว์ร้ายที่ตนเองเพิ่งกำจัดไป“อั่ก... ไอ้” ไม่มีรูปประโยคใดๆ ออกมาจากริมฝีปากที่ซีดเซียวนอกจากเลือดที่ทะลักทะล้นออกมาเต็มอุ้งปากที่เริ่มออกสีคล้ำนางสาวบีเพิ่งเห็นท่าทางของคนที่กำลังอยู่ในอาการโคม่าจากการโดนยิงเป็นครั้งแรก หล่อนค่อยๆ คลานออกมาจากใต้เตียงหลังเกิดเสียงร
ถ้าในฐานะกายหยาบของพระยาสิงขร นางบัวงามไม่ต่างอะไรกับคนแปลกหน้าก็จริง แต่สำหรับวิญญาณขุนแสนคำ หล่อนคือไส้ศึกของเขารวมทั้งเป็นเมียของเขาด้วย“กูขอปฏิเสธที่จะยกบัวงามให้ ขอโทษที พอดีผู้หญิงที่ชั่วช้าคนนี้เป็นเมียที่กูหลงจนคลั่งมากเสียจนกู่ไม่กลับแล้ว”นางสาวบีไม่ได้ใจสั่นระรัวให้กับประโยคนั้น เธอไม่ใช่คนโง่งมที่บูชาและจมปลักกับความรัก จริงๆ ก็พอจะเดาได้ว่าขุนแสนคำอาจจะพูดแบบนี้เพื่อแสดงละครตบตาอีกฝ่าย เลยเตรียมสติสตังมาอย่างดี“งั้นรึ งั้นกูจักขอใช้กำลังแย่งมาจากมึงก็แล้วกัน!!”ดวงตาคมคร้ามของนายเหล็กวาวโรจน์พร้อมกับพุ่งตรงเข้าหาพระยาสิงขรในเนื้อที่อันจำกัด แต่มือของชายวัยกลางคนนั้นว่องไวราวกับคาดเดาเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว เขาลั่นไกปืนทันที เฉียดไหล่เปลือยของร่างนายจ้อยไปจนเกิดบาดแผลถลอกเพียงเท่านั้น แต่นั่นส่งผลให้นายเหล็กมาถึงตัวของชายหนุ่มได้จนประชิดตัว เขาก้มหลบด้ามปืนเหล็กที่อีกฝ่ายตวัดจะฟาดแสกหน้า พยายามเข้าประชิดนางบัวงามที่ก้มหมอบอยู่แทบเท้าของพระยาสิงขร แต่ก็โดนขวางทางด้วยร่างกำยำ ชายวัยกลางคนเหวี่ยงหมัดกระแทกครึ่งปากครึ่งจมูกของนายเหล็ก ในขณะที่อีกฝ่ายบิดมือชักด้ามพร้าเข้าฟันแขนแก
“ให้ตายเถิด คิดว่าจักมิพิษสงมากกว่านี้ แต่เนื้อแท้ก็แค่ตาแก่ตัณหากลับเท่านั้น หลงอีนี่จนโงหัวไม่ขึ้น รู้หรือไม่ว่านางกระทำชั่วสิ่งใดลับหลังผัวเก่...!!”ปัง!!“กรี๊ด!”เสียงปืนคาบศิลาดังกึกก้องไปทั่วหอนอนทันทีที่ยังไม่สิ้นคำครหา ส่งผลให้มีเสียงนกกาแตกตื่นรอบบริเวณต้นไม้รอบเรือน บ่าวชายร่างใหญ่ล้มลงหงายท้องตึงสู่พื้นไม้โดยพลัน พร้อมกับเลือดมากมายที่เจิ่งนองออกมาจากศีรษะดวงตาของนางบัวงามเบิกกว้างสุดขีด รีบผลุนผลันถลาลงจาดเตียงนอนเพื่อมองสภาพศพ หากแต่กลับโดนเรียวแขนแกร่งขวางทางเอาไว้“พี่ทำอะไรลงไปเนี่ย!” ร่างเล็กรีบหันไปปรามาสสามีของตนเอง หากแต่สีหน้าของพระยาสิงขรยังคงความเรียบเฉยค่อนไปทางเย็นยะเยือกจนน่าขนลุก ราวกับว่าเขาเพิ่งกำจัดสิ่งที่แสนโสโครกออกไปก็ไม่ปาน“ถ้ายังดูมิออก ก็ตายตามมันไปเสีย” วาจาช่างไร้ความเห็นใจ นางสาวบีกลอกตามองบน อาจจะเพราะชินชากับนิสัยและปากหมาๆ ของขุนแสนคำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่กว่าจะรู้ตัวร่างกายใหญ่โตที่ล้มหงายท้องลงไปนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นนั้นก็หยัดกายขึ้นมายืนเต็มความสูงอีกครั้ง พร้อมๆ กับหน้าผากที่ควรจะเป็นรูโหว่และเลือดทะลั่กกลับมีแค่รอยเขม่าดินปืนเเละแผ
หากแต่... ชั่วขณะหนึ่งที่นายเหล็กคิดดูหมิ่น ดวงตาคมกริบเหลือบมองตรงมาที่เขาในทันที และจ้องมองอยู่เนิ่นนานเป็นนาทีก่อนที่มุมปากจะยกสูงเพียงเล็กน้อยอยู่ในถิ่นกู จงหัดเจียมตนเสียบ้างเถิดสุรเสียงท้าทายดังกึกก้องในภวังค์จิต ราวกับต้องการให้ล่วงรู้ความคิดของอีกฝ่าย นายเหล็กมองไปยังชายวัยกลางคนที่ยืนกอดอกอยู่ริมบานหน้าต่าง ดวงตาสีทมิฬกำลังตีหน้านิ่วคิ้วขมวด หากแต่เสียงที่กังวานชัดอยู่นั้น คือเสียงของชายข้างบานหน้าต่างที่ใช้อาคมคุยผ่านจิตส่งมาให้เขามันมิวิชาด้วยหรือ?ดวงตาคมปลาบของนายเหล็กแอบซ่อนความหงุดหงิดฉุนเฉียวเอาไว้ พร้อมๆ กับร่างใหญ่ที่ยืนริมหน้าต่างชักม่านปิดลงและบดบังภาพภายในหอนอน จากต้นโพธิ์ที่แผ่กิ่งก้านสาขาตรงนี้นั้นไม่สามารถมองเห็นเงาเลือนรางภายในได้ชัดถนัดนัก นายเหล็กรู้สึกระคายใจ เขารอจังหวะที่บ่าวนายหนึ่งเดินมาใกล้ต้นโพธิ์ ก่อนที่จะกระโดดตะครุบคอของมันและหักคอของบ่าวคนนั้นจนบิดผิดรูปไปอีกข้าง ทุกกระบวนการที่ทำนั้นเงียบสงัดไร้สุ้มเสียงร่างกำยำคล้ำแดดของนายบ่าวล้มลงไป นายเหล็กลากเขาไปซ่อนหลังต้นโพธิ์ และสวดคาถาจนสามารถแปลงกายเป็นบ่าวคนนั้นได้ทุกกระเบียดนิ้ว พร้อมกับชักคบเพล
“สุดท้ายอีนังนั่นก็เป็นแค่นางนกต่อของพวกโยดะยา”ร่างกายกำยำใหญ่ปักหลั่นราวกับยักษ์มารนั้นหลบอยู่บนต้นไม้ที่กิ่งใหญ่โน้มลงจนเห็นภาพบานหน้าต่างที่ส่องสว่างจากแสงตะเกียงในยามค่ำคืน บ่าวไพร่กำยำต่างยืนล้อมรอบเรือนใหญ่หลังนั้น ชายหนุ่มในผ้าถกเขมรขมวดขึ้นจนเห็นรอยสักที่ต้นขาแกร่ง ผมยาวหยกศกปรกดวงหน้าคมคาย ฝ่ามือที่กำแน่นกับกิ่งไม้นั้นกำแน่นจนสั่นอย่างน้อยการเอาเถ้ากระดูกไปให้พระองค์... อาจจักใช้เวทย์เขมรเสกให้ชายผู้นั้นกลับมามีชีวิตและเป็นพรรคพวกของเราได้ พระองค์หวังอยากได้มันมาเป็นเชลยตัวเป็นๆ แต่ในสนามรบนั้นมันเก่งกาจจนสุดท้ายเขาจึงจำเป็นต้องฆ่าเพื่อดับลมหายใจ ไม่เช่นนั้นทหารไพล่พลที่รวบรวมมา ได้ตายห่ากันไปไม่เหลือซากแน่ๆสุดท้ายแล้วเมื่อแผนการไม่เป็นดั่งใจพระองค์ จึงมีรับสั่งให้เขามาแฝงตัวเป็นเชลยเพื่อตามหาเถ้ากระดูกผีตายโหงเช่นไอ้แสนคำ เพื่อนำกลับมาฝั่งพม่ารามัญเพื่อประกอบพิธีกรรมต่อไปแต่ที่ฝังเถ้ากระดูกนั้นเป็นปริศนา ไม่ว่าจะพยายามสืบสาวราวเรื่องมากเท่าใด กลับคว้าแต่น้ำเหลว ข่าวลือความเฮี้ยนของขุนแสนคำดังเข้าหูเป็นระยะๆ หากแต่ไม่ได้พบเจอด้วยตนเองสักคราจนได้ข่าวมาจากใครสักคนที่ใกล้ชิ
ในช่วงพลบค่ำ ถึงจะทำเป็นไม่สนใจกัน แต่พระยาสิงขรก็กลับมานอนที่หอนอนของนางบัวงามตามประสาผัวเมียโดยที่หล่อนเองก็ไม่ได้ต้องการตอนมื้อกลางวันก็พยายามกลั่นแกล้งกัน แล้วคราวนี้อะไรอีกเนี่ย?เขายืนไพล่หลังอยู่หน้าบานหน้าต่าง มองก้อนเมฆที่แทบบดบังดวงจันทร์จนหมด พร้อมกับเหลือบมองไปยังแผ่นหลังงามที่กำลังใช้หวีสางผมตนเอง การทำเหมือนกิจวัตรประจำวันทั่วไป แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดกลับมีเสน่ห์เย้ายวนตาจนน่าเหลือเชื่อ ตั้งแต่ที่ได้รู้ใจตนเองว่าสุดท้ายก็เป็นทาสความรักให้เธอไม่คลาย เขาไม่ได้ล้มเลิกความตั้งใจที่จะตามหาชู้ทุกคนของนางบัวงาม หรือแม้กระทั่งตามหาพ่อที่แท้จริงของก้อนเนื้อในท้องเธอเลยแม้แต่นิดเขายังคงคาดโทษเธอเอาไว้เทียบเท่ากับสิ่งที่ทำเอาไว้ หากแต่ความย้อนแย้งในใจก็ทำให้เผลอต้องเหลียวมองอยู่เรื่อยไปแต่เมื่อได้เข้าสู่ร่างมนุษย์ที่จิตใจเปราะบาง บิดเบี้ยวและคาดเดาได้ยากนัก ทำให้เขาก่อเกิดความรู้สึกมากมายที่ไม่เคยคิดเอาไว้ในตอนที่เป็นผีที่ใครๆ ในอยุธยาต่างก็เกรงกลัวในด้านของนางสาวบีเองก็รู้สึกว่าถูกแอบมองจากคนร่างใหญ่ตรงนั้นอยู่สักพักเหมือนกัน แต่พอหันกลับไปสบตากลับเขาก็หันหนีไปมองท้องฟ้าภายนอกเห
คำเชิญชวนนั้นดูอันตรายราวกับแม่แมงมุมที่ชักใยรอให้เหยื่อไปติดกับ แต่คิดว่าในฐานะของแม่เอื้องน้อยในตอนนี้จะสามารถต่อกรกับผู้หญิงที่ไม่ว่าจะดูจากมุมไหนก็ไม่มีทางเข้ามาในรูปแบบที่เป็นมิตรเช่นนางบัวงามได้อย่างนั้นน่ะหรือ? หลังจากที่ถูกผู้หญิงคนนี้จับได้ว่าเธอเข้ามาในหอนอนฝั่งของเธอเพื่อที่จะลอบค้นข้าวของส่วนตัวน่ะนะ เป็นใครจะให้ไว้ใจได้ลงถ้าเป็นเมียรองบ้านอื่นน่าจะพอมีอำน่าจไปต่อกรกับอนุภรรยาที่อ่อนกว่าได้ แต่เอื้องน้อยไม่ได้อยู่ในสถานะที่เป็นต่อใครแบบนั้น“... ค่ะ”มีแต่ต้องยอมรับการเชื้อเชิญที่ดูยังไงก็คงจะลวงเข้าไปลงโทษกันได้โดยไม่มีข้อแม้เท่านั้นเองหากแต่เมื่อเดินเข้ามาด้านในหอนอนที่น่าจะเป็นฝั่งของคุณพี่แล้ว ดูเหมือนว่าผู้หญิงตรงหน้าจะต้อนรับขับสู้เธออย่างดี จากการส่งบ่าวให้เอาน้ำรองดอกมะลิมาให้ดื่มแก้กระหาย ไหนจะการชวนคุยอย่างเป็นธรรมชาติยกตัวอย่างเช่น...“จริงหรือเปล่าเจ้าคะที่คุณเอื้องเป็นแม่ของเจ้ามิ่งขวัญ?”“แค่กๆ” แม่เอื้องน้อยสำลักน้ำออกมา อีกฝ่ายทำเหมือนว่าไม่รู้อย่างนั้นล่ะ หรือจงใจจักค่อนขอดกันว่ามิ่งขวัญดูเหมือนลูกชายของคุณหญิงทองพินมากกว่า? “ใช่ค่ะ แต่ก็ไม่ได้ดูแลเลี้ย